ความคิดเห็นที่ 1 บุฟเฟ่ต์ถ้าอยู่ในโซนที่คนเดินเยอะตลอดทั้งวันจริงๆก็น่าเปิดครับ แต่ถ้าไม่ใช่แนะนำว่าเปิดแบบร้านทั่วๆำไปดีกว่า จากคุณ : T_Tนัด นัท ณัฐT_T (T_Tนัด นัท ณัฐT_T) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 15:15:44

ความคิดเห็นที่ 2 ผมชอบแบบดั่งเดิมครับ เอาผักมาวางบนโต๊ะ   ขายเป็นจาน มีน้ำยาต่างๆให้เลือก ตักลาดมา ลูกค้าสามารถ สั่งได้ตามที่ต้องการ จานไม่ต้องใหญ่ ขนมจีนให้เลือก หมัก และสด ของหวานขอเฉาก๊วย หรือ ขนมปังเย็นน้ำแดง พอแล้วครับ จากคุณ : ChefBen เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 15:18:53

ความคิดเห็นที่ 3 เราชอบแนวการขายแบบขนมจีนเจ็ดยอดที่เชียงใหม่นะคะ ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปกินอีก บุฟเฟต์หัวละ 59 บาท  มีผักชุบแป้งทอด  และเฉาก๋วยเป็นขนมหวาน ลองหารีวิวดูค่ะ.....แต่จะเปิดแบบไหนขึ้นอยู่กับทำเล  นะคะ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : Love_tonka เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 15:29:32

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องดูลูกค้าก่อนค่ะ ว่าแถวนั้นเยอะไหม ถ้าเยอะ ก็เปิดแบบบุฟเฟ่ท์ ถ้าไม่เยอะก็แบบจานค่ะ จขกท น่ารักจัง มีแถมของหวานด้วย แนะนำเป็นพวก ลอดช่อง เฉาก๊วย แตงไทยน้ำกะทิ แบบนี้อ่ะค่ะ เอ้อ เห็นด้วยกับ คห.ที่ 3 ค่ะ เราอยู่เชียงใหม่ ไปทานบ่อยค่ะ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 17:19:37

ความคิดเห็นที่ 5 จากละแวกที่บอก เราว่าขายเป็นจานๆ สไตล์ดั้งเดิมแบบความเห็น 2 บอกดีกว่าค่ะ คือดูจากกลุ่มลูกค้าแล้ว ขายจานๆน่าจะดีกว่าบุฟเฟต์ แถมคุมง่ายกว่า ตักคนเดียว ส่วนของหวานเราว่าหมุนเวียนไปในแต่ละวัน ผลไม้บ้าง ขนมหวานบ้าง ลูกค้าจะได้ไม่จำเจ และจะได้ลงทุนไม่หนักเกินไป เพราะขนมจะมีต้นทุนมากกว่าผลไม้ ขอให้ขายดีนะจ๊ะ จากคุณ : BLACK CHA-CHOO เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 22:25:55

ความคิดเห็นที่ 6 คือ อย่างนี้ครับ จขกท ต้อง พิจารณา สิ่งสำคัญดังต่อไปนี้ 1. ตั้งใจทำแบบวัตถุดิบดีมากๆไม๊ ถ้าตั้งใจแบบนั้น ตักเป็นจานๆไป เพราะ บุฟเฟ คุณจะเจอพวกตักเอาแต่ของดีไปกิน ตักเหลือ 2. ต่อเนื่องจากข้อแรก ตั้งใจตั้งราคาต่อจาน เท่าไหร่? หรือบุฟเฟห์ ต่อหัว เท่าไหร่? จากนั้นลองพิจารณา จากฐานลูกค้าว่า กำลังซื้อเค้าเยอะไม๊ เพราะแถวนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ พอมีราคาในใจ ก็ลองดูต้นทุน กับจำนวนจานที่คาดว่าจะขายได้ 3. ขนมจีนเป็นอาหารที่กินกันช่วงสายๆไปถึง บ่ายเท่านั้นครับ  เพราะคนเมืองกรุง ไม่ค่อยชอบกินขนมจีนช่วงเย็นๆมากนัก เพราะมันเป็นอาหารที่ไปหมักในท้อง ( ภาษาวิทยาศาสตร์ มันจะเป็นพวก Fermentation ) ถ้าพวกธาตุอ่อน หรือท้องเสาะมาทาน เค้าจะหาว่าอาหารคุณไม่สะอาด 4. เรื่องเส้น เอาเป็นประเด็นรองครับ เอาน้ำเป็นสำคัญครับ น้ำอร่อย เส้นอะไรก็ไม่สำคัญ แต่แนะตรง ถ้าทำบุฟเฟห์ เส้นควรเป็นจับๆ ง่ายต่อการตัก แต่ถ้าพี่จะตักขายเป็นจานๆ เส้นสด หรือ เป็นเข่ง ผมว่าก็ได้หมดนะ แต่ขอหาเส้นอร่อยๆ 5. น้ำขนมจีน แรกเริ่ม ผมขอแนะนำ 4 น้ำพอครับ คือ น้ำยากะทิ น้ำเงี้ยว เขียวหวานไก่ และ สุดท้ายก็เลือก ระหว่างน้ำพริก กะ ไตปลา  เพราะถ้ายิ่งเยอะน้ำ ต้นทุนก็จะบานตามกันไป เกิด Confict of interest ลูกค้าไม่สนใจเลือกน้ำใดน้ำหนึ่ง ร้านที่ดังๆบางร้าน อร่อยแค่น้ำเงี้ยว แต่ขายน้ำอื่นเป็นตัวเสริม ^^ 6. ของหวาน เน้นของหวาน ธาตุเย็นครับ ตามหลัก หยิน-หยาง ทางอาหาร ขนมจีนเป็นอาหารธาตุร้อน ดังนั้นหาจำพวก อาทิ แตงไทย เฉาก๊วย (ลอดช่องไม่แนะนำ เพราะทานแป้งขนมจีน ไปเจอ แป้งลอดช่องอีก หมักในท้อง ร้อนในเอาง่ายๆ) 7. เอาใจช่วยครับ สู้ๆ ให้กำลังใจคนสู้ชีวิตเสมอ ^^ ปล: แอบเอาผลงานตัวเองมาแปะหน่อนะครับ ^^ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2011/04/D10423324/D10423324.html จากคุณ : manggraprun เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 23:55:29

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบเส้นหมัก  ผักเยอะๆ ไม่อ้ัน จากคุณ : มาม่าน้ำข้น เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 09:03:45

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ ถ้าเพื่อนๆท่านใดมีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมก็ได้เลยนะคะ ยินดีรับฟังอย่างเต็มที่ค่ะ จากคุณ : otto&mom เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:55:52

ความคิดเห็นที่ 9 ขายแค็บหมู หนังพอด้วยนะเข้ากันมากๆ เราไปที่พบพระ เค้าขายลูกชิ้นทอดด้วยอะ แรกๆกฌดูเหมือนไม่เข้ากันแต่ เห้รหลายคนชอบนะ เพราะขนมจีนจะหาเครื่องหาเนื้อเป้นชิ้นเป็นอันในจานก็ลำบาก มีลูกชิ้นขายเพิ่มก็ดีนะครับ ทำแบบนี้ก็ได้นิ เป็นจานก็ขายไป แบบบุปเฟ่ก็ขายคือ จ่ายแพงกว่าแต่สั่งไปจ่ายๆได้ตลอด จะได้ลูกค้า2กลุ่มด้วย จากคุณ : vitara เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 08:09:56