ความคิดเห็นที่ 1 แต่เราชอบกิน แกงเขียวหวานสามเกลอ(มะเขือพวง,เปราะ,ยาว) มากกว่า ป,ล แก้ไขหัวกระทู้อย่างไรใครทราบบ้างค่ะ ตัว ห  อยู่ผิดที่อิอิ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:26:46

ความคิดเห็นที่ 2 แต่.. เพื่อไม่ใ้ห้พระและสาธุชนที่ไปวัด จำได้ว่าเราเคยทำไปถวายแล้วต้องเปลี่ยนส่วนผสม  และให้สะดวกในการฉัน และการกินของชาวบ้านที่จะมาช่วยงาน ก็เปลี่ยนจากซี่โครงกระดูกอ่อน มาใช้หมูเด้ง-นุ่ม และ ลูกชิ้นปลากราย แทน  555555 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 16:37:25 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:32:53

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวรูปแรกผิด ต้องรูปนี้ค่ะ กระดูกซี่โครง หมูอ่อน จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:36:35

ความคิดเห็นที่ 4 เพื่อนบอกทำไม ใช้หมูธรรมดาไม่ได้หรือ ต้องเด้ง และ้ ต้องนุ่มเป็นไง อิอิ เราเลยบอก ถ้าใช้หมูธรรมดา ก็ไม่ใช่คนห้องก้นครัวสิ  55555 วิธีทำหมูให้เด้ง ....ก็  เอาเนื้อหมูส่วนขาหน้า เป็นส่วนของเนื้อหมูที่นุ่มและมีมันนิดๆทำให้หอมอร่อย  วันนี้เราใช้ 4 กิโล ปกติกะทิหนึ่งกิโลใช้ หมู 5-7 ขีด เพราะมีลูกชิ้น อีก  หั่นหมูเป็นชิ้นขนาดพอกิน บางๆแล้วหมักน้ำปลา (ถ้าใครกินผงชูรส ก็ใส่นิดหน่อย )ไม่กินก็ไม่้ต้องใส่  แล้วก็ใส่โซดาไบคาร์บอเนต นิดหน่อย ขยำๆให้เข้ากัน แล้วเข้าตู้เย็น สักครึ่งวัน ให้ความเค็มของน้ำปลาเข้าเนื้อ (สมัยก่อนแม่สอนให้ หมักแค่น้ำปลา  แม่บอกทำให้ความเค็มเข้าเนื้อหมู และหอม อร่อย )พอมาห้องก้นครัว ก็ได้เคล็ดการใ่ส่ผงโซดาฯ   วิธีทำให้หมูนุ่ม......ก่อนจะเอาหมูมาใช้สักหนึ่งชั่วโมง ใส่หัวกะทิลงไปในหมูนิดหน่อย ขยำๆให้เข้ากัน ไม่ใส่ก่อนนานมากเดี๋ยวหมูจะนุ่มมากไป ไม่อร่อย เอาแค่พอเด้งๆ นุ่มๆ คราวนี้ หมูเราก็อร่อย เพราะทั้งเด้ง ทั้งนุ่ม  vbvb แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 19:39:23 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:47:40

ความคิดเห็นที่ 5 น่ากินมากเรยค่ะ จากคุณ : PatchaJangko เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:53:05

ความคิดเห็นที่ 6 แค่นั้นยังไม่พอค่ะ  กลัวอร่อยไม่พออิอิ ใส่ สามเกลอ ลงไปหมักในหมูด้วยนิดหน่อย ห้ามใส่เยอะเด็ดขาด เอาพอหอม กลมกล่อม ใส่มากเดี๋ยวจะกลบกลิ่นหมูหมด เราเคยใส่มาก แล้วแบบมีเยอะ เลยประโคมลงไปกลายเป็นหมูหมักแบบใช้ย่าง ผิดรสชาดแกงเขียวหวานหมด อิอิ ชามนี้เราปั่นเยอะ เพราะ ทำแกงหม้อใหญ่   ปกติแม่สอนให้ เอาสามเกลอมาตำ หรือปั่น ใส่เพิ่มในเครื่องแกง  เพราะกะเทียมแพง คนขายเครื่องแกงเขาใส่มาน้อยทำให้ไม่หอม พอเราใส่เพิ่มหอมอร่อยแกงเข้มข้นขึ้นจริงๆค่ะ อีกอย่างที่ต้องเติมในเครืองแกง คือกะปิ   สามเกลอประกอบด้วย ...พริกไทยขาว ป่น (อันนี้เพื่อนสนิทที่จันทร์ ทำเองแบบไม่ใส่สารฟอกหอมมากๆ เขาส่งมาให้เราทั้งแบบขาวแบบดำที 5 กิโล เรากินเป็นปี  อิอิ แบบนี้ แกงเราไม่อร่อยให้รู้ไป 55555~) .... กระเทียม ..... รากผักชี (ส่วนมากจะหายากและมีน้อย เราเลยใส่ทั้งต้น ก็หอม และสีสวย) จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:56:43

ความคิดเห็นที่ 7 ปั่นออกมาเป็นแบบนี้น่ะค่ะ ใส่น้ำน้อยๆ  จริงๆใช้ตำจะดีกว่า แต่เรากำลังเจ็บข้อมือ ทำไม่ไหว  ถ้าใครขยันก็ตำน่ะค่ะ จะให้รสชาดที่ดีกว่า เพราะเราต้องเอาไปผัดกับเครื่องแกงให้หอมค่ะ PatchaJangko....ขอบคุณค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:59:02

ความคิดเห็นที่ 8 มารอดูเหมือนเคย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:04:37

ความคิดเห็นที่ 9 หิวข้าวแล้วครับ T w  T จากคุณ : ปิ่นโตน้อยตัวกลม เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:12:58

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนผสมที่สำคัญอีกอย่าง  ปกติเราใช้ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลาธรรมดา แต่วันนี้ ต้องพิเศษให้สมกับเป็นคนห้องก้นครัว 555555 วันก่อนเจอเพื่อนเรียน สมัยเด็กๆ ที่ตลาดก็ทักเขา เขาบอกเราดีนะไม่หยิ่งไม่ถือตัว ยังทักทายเขาที่เป็นแม่ค้าธรรมดาๆ เราบอกคิดอะไรมาก เคยเป็นเพื่อนเรียนกัน  ถ้าจำได้ก็ต้องทักอยู่แล้ว  เขาบอก มาเปิดร้านขายปลา มีเนื้อปลาขูด มีปลากราย อินทรีย์ ปลาอะไรมากมาย ขูดให้คนเอาไปทำลูกชิ้นหรือทอดมัน ว่าแล้วเขาก็พาเราไปรู้จักร้าน แล้วเอาปลาขูด บอกให้เราเอาไปทำกินฟรี เขาบอกอร่อยมากๆเราปฏิเสธ บอกตอนนี้อยู่คนเีดียว ไม่ค่อยทำกิน ถ้าแม่อยู่น่ะจะให้แม่ทำให้กิน เพราะแม่ทำ ทอดมันปลากราย ลูกชิ้นปลากราย และห่อหมกอร่อยมากๆ วันนี้นึกถึงเขาเลยไปซื้อเนื้อปลากรายมาหนึ่งกิโล มาลองทำครั้งแรก แต่จำวิธีการทำของแม่ได้  เขาไม่เอาเงินเลยบอกไม่ได้ จะเอาไปทำบุญ สุดท้ายเขาคิดมากิโลละ 80 บาท วิํธีการทำ ...ถ้าเป็นปลากรายเป็นตัวๆทำความสะอาดเสร็จ ให้เอามีดคมๆผ่าจากหาง ขึ้นมาตามลำตัว แบบเอาแต่เนื้อติดหนัง ทั้งสองด้าน เหลือส่วนก้างตรงกลาง แล้วหงายเอาเนื้อขึ้นใช้ช้อนคมๆ(ช้อนสังกะสี)ขูดเอาแต่เนื้อ ปลา ระวังก้างถ้ามีเอาออกให้หมด  ถ้าส่วนของเนื้อปลาตรงไหนสีแดงๆมีเลือด ไม่เอา เอาไปทำให้หมาแมวกิน เพราะส่วนที่มีเลือดนี้จะทำให้เนื้อปลาขูดคาว หนังเอาไปทอดกรอบๆกินได้   แต่วันนี้เราซื้อที่เขาขูดสำเร็จมาแล้ว ก็เอามา แช่เย็นให้จัดๆ(โยนเข้าช่องฟรีส สักครึ่งชั่วโมงหรือกว่าก็ได้ ) เพราะอาหารทะเล แค่ครึ่งชั่วโมง ถ้า ไม่เย็นก็มีกลิ่นคาวหรือเสียแล้ว จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:13:26

ความคิดเห็นที่ 11 วันนี้เราเจ็บข้อมือเลยใช้เคร ื่องตี เพื่อผ่อนแรง ใส่โถ แล้วหัวตะขอ  จริงๆ เราเคยเห็นคนขายหมูเด้งใช้เครื่องตีสองแขน ตีหมูให้เด้ง ...ว่างๆจะไปถามสูตร มาบอก เขาขายดีๆมากๆ ป,ล ใครไม่มีเครื่องก็ใช้มือฟาด หรือครกตำเอาน่ะค่ะ แม่เราใช้มือฟาด ไม่เคยใช้เครื่องก็ออกมาอร่อยมากๆ   ตอนเราใช้เครื่อง ลองเอาไปต้มแล้วก็ยังไม่เหนียวพอ อาจเพราะเราตีเครื่องไม่นานเท่าไหร่.... เราต้อง เอามาฟาดอีก ประมาณ 20 ครั้ง ก็ช่วยได้เยอะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:17:59

ความคิดเห็นที่ 12 ระหว่างตี เราก็เอาเกลือผสมน้ำเย็นจัดๆ (เราใช้น้ำแข็งเลย  เพราะเราเคยเห็นเพื่อนรุ่นน้องตีลูกชิ้น ใส่น้ำแข็งลงไปในเครื่องด้วย  เราคนเพื่อนเยอะ มีทั้งครอบครัวขายหมูเด้งชื่อดังในจังหวัด  ครอบครัวขายลูกชิ้นถนอมศรี 3สาขา ชื่อดังในหาดใหญ่  ว่างๆจะไปเรียนวิชาให้หมด 55555  >>รุ่นแม่เราใช้น้ำธรรมดา เราชอบทำอะไร ไม่เหมือนใคร 55555) เพื่อรักษาความเย็นของปลาให้สด ด้วยความเย็น และทำให้ปลาเหนียว นุ่ม ....ใส่เกลือน้อยๆก่อน เอาไปทดลองต้มแล้วชิมดูไม่เค็มค่อยเติมได้ ถ้าเค็มเกินจะแก้ลำบาก จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:23:09

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อนๆตี เนื้อปลาไปพลางๆก่อนน่ะค่ะ ไปออกกำลังกาย(เต้นแอโรบิค กับเดินรอบสนามบอลก่อน เดี๋ยวกลับมาต่อ ) อิอิ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:23:58

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท.หนีไปออกกำลังกายซะแล้ว รอชมอยู่นะคะ จากคุณ : verdandi เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 18:28:32

ความคิดเห็นที่ 15 มาแล้วจ้า..... ภาพนี้ตอนใส่กาละมังใหญ่ๆ เตรียมฟาด   เอามือควักเนื้อปลาขึ้นมา แล้วยกขึ้นมาแล้วฟาด ควักแล้วฟาด ลงไปให้กระแทกกาละมังแรงๆเลยน่ะค่ะ  แบบว่าโกรธใครมา ลงไปให้เต็มแรงเลย  คิดถึงหน้า คนที่มัีนสวยกว่าเราไว้ แล้วฟาดดดดดดดดๆๆๆๆๆๆ ให้สมมุติว่า หน้าคนสวยคนนั้นเป็นกาละมัง  แต่ว่าระวังเนื้อปลากระเด็นออกนอกกาละมังหมดด้วยน่ะ เดี๋ยวจะอดกิน  พอสังเกตุว่าเริ่มเหนียวๆควักไ่ม่ค่อยขึ้น  หรือหมดแรง ใกล้จะหน้ามืดเป็นลม ก็ ใช้ได้แล้ว อิอิ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 18:53:10

ความคิดเห็นที่ 16 ระหว่างฟาด  ใช้มือชุบน้ำผสมเกลือ คอยแตะมือ จะได้ไม่ค่อยติดมือ และช่วยให้เนื้อปลามีรสชาติ แต่ระวัง อย่าให้เค็ม ต้องลดความเค็มจากเกลือลงจากปกติครึ่งหนึ่ง เพราะขี้มือเราก็เค็มแล้ว  รวมความเค็มจากเกลือกับขี้มือเราจะรสชาิติกลมกล่อมกำลังดี 55555 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 18:56:37

ความคิดเห็นที่ 17 ดูว่าเหนียวพอใช้ได้ ก็ เอาน้ำใส่หม้อต้มให้เดือด แล้ว เอาช้อนกินข้าวแบบสั้น ชุบน้ำเกลือ แล้ว... สับ(ตัก)ลงไปในเนื้อปลาด้วยปลายช้อน แล้วหย่อนลงไปในน้ำเดือดๆ (ช้อนชุบน้ำเกลือจะทำให้เนื้อปลาไม่ติดช้อน) เนื้อปลาก็จะ มีลักษณะเหมือน นกกำลังบิน เขาเลยเรียกว่า ....สับนก..... อันนี้ เราคิดเอาเองน่ะ 555555 พอถึงขั้นตอนนี้ถ้าใคร อยากกินทอดมัน ก็เอาเครื่องแกง กับ ถั่วฝักยาวหั่นฝอย หรือ ถั่วพูหั่นฝอย ลงไปคลุกเคล้า  โรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย แล้ว เอาไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ได้เลยค่ะ เทคนิค...การทอด  ทอดมันให้หอมอร่อย ก่อนทอด เอาใบกระเพราแดง ลงไปทอดในน้ำมันก่อนจะทำให้น้ำมันหอม ทำให้ทอดมันเรามีกลิ่นหอมใบกะเพรา ด้วยจ้า  ทุกครั้งก่อนที่จะปั้นทอดมัน ให้เอามือชุบน้ำเกลือ จะทำให้ไม่ติดมือ อย่าปั้นให้บางเกิน หนาสักนิด แต่อย่าหนาเกิน เอาแบบ ชิ้นขนาดพอดีกำลังกินต่อคำ แล้วทำอาจาดอร่อยๆ น่ะ อร่อยอย่าให้เซ่ดดด   พูดแล้วอยากกิน ฝีมือแม่ คืนนี้เรียกแม่มาทำให้กินในฝันดีกว่า อิอิ  .....(เอาไว้ว่างๆ ถ้ามือหายเจ็บและอยากทำไปถวายวัดจะมาสาธิตให้ดูน่ะค่ะ สูตรแม่ทำอร่อยมาก แต่สูตรเราทำไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าจะกินได้ป่าว..... ) ในภาพ เราใช้มือไม่ถนัดและไม่ได้คิดจะสาธิตการทำสับนก เพราะวันนี้เราทำลูกชิ้นปลากราย.....ภาพ เลยดูเหมือนเป็นนกสองตัว คู่แฝด...ตัวติดกัน ....น่ะฮ้าาาาา แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 19:47:42 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:07:56

ความคิดเห็นที่ 18 วันนี้เราใช้มือ ชุบน้ำเกลือ แล้วหยิบเนื้อปลาโยนๆลงไปในน้ำเดือด มันเร็วดี เพราะมือข้างถนัดทำงานไม่ได้  เนื้อปลาไม่มีติดมือเลยค่ะ เพราะเหนียวและน้ำเกลือช่วย  พอลูกชิ้นปลากรายเราลอย ขึ้นมาบนน้ำก็ใช้ได้ค่ะ  เอาตะแกรงตักขึ้น จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:10:42

ความคิดเห็นที่ 19 เสร็จแล้ว ตักลูกชิ้น ใส่ลงไปในน้ำที่มีน้ำแข็งลอย...สมัยแม่เราทำใช้น้ำธรรมดา แต่เราใช้น้ำแข็ง เพื่อให้น้ำเย็นจัดๆ ทำให้ลูกชิ้นเมื่อโดนความเย็นทันทีจะกรอบ เนื้อแน่น  เหมือนการลวกผักคะน้า ที่ น้ำแข็ง ยังคงความกรอบ อร่อยของคะน้า....อันนี้เราคิดเอาเองน่ะ เป็นความเชื่อที่ยังไม่ได้พิสูจน์ ลองเอาไปทำการทดลองกันเองน่ะ ว่า ระหว่างตักใส่น้ำธรรมดา กับ ตักใส่น้ำเย็นจัดๆ อย่างไหนดีกว่า 555555   ครั้งนี้เราต้องใช้ทุกเทคนิค มาใช้ในการปรุงอาหาร เพื่อให้อาหารเราออกมาอร่อย ป้องกันการหน้าแตก ต่อหน้า ประชาชี ทั้งวัด vbvb ปกติ ที่ผ่านมา เวลาทำแกงเขียวหวาน เราแค่ซื้อลูกชิ้น เนื้อหมู  เนื้อปลา เจ้าดัง มาใส่ในแกงเขียวหวานก็แสนจะอร่อยแล้ว   เพื่อนเราบอก แกนี้หาเร ื่องทำอะไรให้ยุ่งยาก ทำออกมา ไม่อร่อยน่ะ จะหัวเราะให้ฟันหัก 55555555 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:17:56

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากโดนเพื่อน ดูถูก เราก็คิดในใจว่า ไม่เห็นจะยากเลย ถ้าทำออกมาไม่อร่อย ก็โยนทิ้ง แล้ววิ่่งไปซื้อลูกชิ้น เจ้าดังมาใส่แทน 55555555 ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ .....ขนาดไม่ใส่แป้ง ปลา 1 กิโลออกมาเยอะมากๆค่ะ ชิมไปหลายลูกแล้ว ระหว่างขั้นตอนการทำ  555555 คนทำลูกชิ้นขายเราว่า กำไรเยอะมากๆ ที่ คนนิยม ใช้เนื้อปลามาทำสับนก เราว่า คงประหยัดต้นทุน เพราะปลา ราคาถูกกว่าหมู  แถมตีออกมาเนื้อฟู ได้ปริมาณเยอะมากๆค่ะ กาละมังใบใหญ่ยักษ์ เต็มกาละมังเลยค่ะ ลูกชิ้นเราลูกใหญ่ จัมโบ้ กินแบบเต็มปากเต็มคำ เลยน่ะค่ะ เรากลัวคนกินหาลูกชิ้นไม่เจอ เราทำแบบ ไม่ต้องควานหา เอาแบบเห็นกันจะจะ เลยว่ามีเนื้อหมู มีลูกชิ้น เดี๋ยวจะหาว่า เราใส่แต่วิญญาณหมู วิญญานลูกชิ้น  (แต่จริงๆ ตอนควักเนื้อปลาลงไปต้มน่ะ ขี้เกียจ อยากให้มันเสร็จเร็วๆ  เหตุผลข้ออ้างเยอะ 55555) จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:25:13

ความคิดเห็นที่ 21 การตักใส่น้ำเย็นผสมน้ำแข็ง ข้อดีคือ ลูกชิ้นเราเย็นเร็ว เราชิมแล้วกรอบเด้งเลย ไม่มีการใส่สารบอแร็กซ์ ใส่ผงชูรสใดๆทั้งสิ้น อร่อยเพราะขี้มือเราล้วนๆ vbvb   (คราวหน้า เราว่าจะลองใส่ปลาหมึกแห้งสับกับกุ้งสด เพราะที่เบตง มีคนทำลูกชิ้นปลาหมึกอร่อยมากๆ แต่เขาจะทำเฉพาะ มีคนจ้างงานแต่งงาน ราคา แพงโคตรๆด้วย โลละ 300-400 บาท ต้องสั่งครั้งละ 10 กิโลถึงจะทำ... แต่คงเพราะส่วนผสมที่เขาใช้แพง  ) เราต้มแค่พอสุก ไม่ต้มนานมาก เพราะเดี๋ยวต้องใส่ลงไปต้มในน้ำแกงอีก  พอเย็นยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำ เก็บใส่ถุงแช่เย็นได้เลยค่ะ เสร็จขั้นตอนนี้ จะเอาไป ทำเป็นเมนู ผัดเผ็ด แกงจืด หรืออะไรต่ออะไรได้เลยค่ะ ถ้าทำเป็นรูปสับนก เห็นเขานิยมเอาไป ทำสับนกผัดเผ็ดถั่วฝักยาว  แต่แม่เราชอบเอามาใส่ในกะทิ ทำขนมจีนซาวน้ำให้กิน อร่อยมากๆ เฮ้อ ...แม่เราทำอะไรก็อร่อย ยิ่งการตำพวกเครื่องแกงน่ะ อร้อย อร่อย ....รู้อย่างนี้ ฝึกวิชา มาบ้างก็ดี ใครที่ยังมีพ่อกับแม่อยู่ รีบๆเรียนวิชากับท่านน่ะค่ะ ... ดีน่ะ ที่ยังได้เห็นขั้นตอนการทำ แล้วเอามามั่วๆเองได้  ตอนนี้กำลัง พยายามเรียนวิชาการทำอาหารจีน จากพ่อ  แต่ตอนนี้แกก็ทำไม่ค่อยไหวแล้ว เสียดายวิชา พ่อเราทำอาหารจีนเก่งมากๆ  เป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลย แม่เราทำอาหารไทยเก่ง แต่ลูกๆแต่ละคน ไม่ได้เรื่องสักคน(มีเรากับพี่สาวคนโต ที่พอทำกับข้าวเป็นบ้างนอกนั้น นั่งเป็นคุณหนู รอกินอย่างเดียว 555555) จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:36:55

ความคิดเห็นที่ 22 อาสาม .....สวัสดีค่ะ คุณปิ่นน้อยตัวกลม..... เสียใจด้วยน่ะค่ะ เมนูนี้ คนทำ กับเพื่อนๆก็อดกิน ได้ชิมระหว่างทำแ่ค่นั้นเองค่ะ ไปถึงวัด ไม่ถึงชั่วโมง หมดเรียบ เหลือแต่น้ำแกงติดก้นหม้อ555555  เอาไว้ทำให้กินใหม่คราวหน้าน่ะค่ะ หลักการคำนวณแบบง่ายๆในการทำแกงปริมาณมากๆ เราใช้วิธีเอาหม้อที่เราเคยแกง ครั้งละหนึ่งกิโล ตวงน้ำแล้วเทลงในหม้อใหญ่ ค่ะ จะได้คำนวณถูกว่าควรใช้สัดส่วนกะทิและเครื่องปรุงเท่าไหร่ ครั้งนี้เราคำนวณแล้วใช้ กะทิ  5 กิโล เราเลยเอาสูตรทุกอย่างที่เคยทำ คูณ 5 แล้วเืผื่อขาดเผ ื่อเหลือ ส่วนผสมทุกๆอย่างค่ะ  เพราะทำไปชิมไป ถ้ารสชาดอ่อนเราเติมได้ vbvb สูตรค่ะ กะทิ     1     กิโล     ครั้งนี้ ใช้   5  กิโล หมู       5-7   ขีด     ครั้งนี้ใช้    4  กิโล ลูกชิ้น   2      ขีด      ทำจากเนื้อปลาเอง 1 กิโล ได้เป็นลูกชิ้นน่าจะ 1.5-2  กิโล(ไม่ได้ชั่งน้ำหนัก แต่เยอะมากๆ) เครื่องแกง 1.5 ขีด     ครั้งนี้ใช้   7 ขีด ส่วนผสมอื่นๆ สามเกลือ เครื่องเทศ กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ใบมะกรูด ฉีกฝอย พริกไทยอ่อน พริกชี้ฟ้า เขียว และแดง ใบโหระพา จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:00:37

ความคิดเห็นที่ 23 เราเคยไปกินแกงเขียวหวานบ้านน้าเราคนหนึ่งทำออกมาอร่อยมากกกก เราเลถามวิธีการทำ ปรากฏว่าก็ทำธรรมดา แต่ส่วนที่แตกต่างคือ น้าเอา เครื่องเทศ คือ เม็ดผักชี ยี่หร่า แล้วอะไรอีกอย่าง เรียกไม่ถูก แต่จำได้ เอามาคั่วด้วยไฟอ่อนๆ แล้วเอามาตำด้วยครกใส่ลงไปด้วย โอ้โห....เชื่อปล่าว แกงอร่อยขึ้นอีกเยอะเลย   ถ้าไม่เชื่อลองไปทำดูน่ะค่ะ แต่อย่าดูในรูปเราน่ะ อิอิ   วันนี้เรา ไม่มี เครื่องเทศไทยที่ว่า เรามีแต่ อริกาโน่ ใบทาม แล้วก็ยี่หร่า แล้วก็ไอ้เม็ดกลมๆ นึกชื่อไม่ออก สรุปว่าเรามีอะไรเราก็ใส่ลงไป เราก็คั่วแล้วใส่ลงไป ให้หอมๆ ( เราเป็นคนทำกับข้าวแบบนี้แหละ ในครัวมีอะไร เราก็ประยุกต์ ใส่ๆลงไป มั่วไปเรื่อย แล้วทำแต่ละครั้งไม่เคยเหมือนเดิม ดังนั้นอย่าเลียนแบบ แต่ว่า ออกมาอร่อยทุกครั้งน่ะ 5555  เราเลยได้ฉายาจากคนในครอบครัวว่า " แม่ครัวจอมมั่ว แต่อร่อย "   เพราะฉายานี้มาจาก เราทำหมูย่างเกาหลี กับสุกี้อร่อย (มั้ง)ทุกครั้งที่ทำ ก็จะเรียก ญาติพี่น้อง เืพื่อนฝูงมากิน ของฟรี ใครๆก็ชอบ มากันตรึม (เลยแกล้งชมว่าอร่อย คงกลัวไม่ได้กินฟรี 5555) และทำบ่อยมาก เพราะเราทำอร่อยไม่กี่อย่าง vbvb  หลังๆ น้องชายบอกจะส่งน้องสะใภ้มาเรียนวิชาการทำ เพราะชอบน้ำจิ้ม ส่วนผสมอื่นๆไม่ยาก เราเลยถามว่า จะเอาสูตรน้ำจิ้มครั้งไหน  สูตรไหน เพราะแต่ละครั้งที่ทำให้กิน ไม่เคย มีส่วนผสมซ้ำกันเลยสักครั้ง ในครัวมีอะไร เราก็ประยุกต์ไปเรื่อย 555555555 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:11:55

ความคิดเห็นที่ 24 พริกไทสด เป็นอะไรที่เราชอบมาก แต่แพง กำเล็กๆ สามสี่ช่อ 10 บาท เคยซื้อต้นมาปลูก แต่อยู่ในสวน ไม่รู้ตายไปหรือยัง อิอิ วันนี้ซื้อมาครึ่งกิโล ใบมะกรูดอ่อนๆ กับพริกชี้ฟ้า สีเขียว(เลือกสีอ่อนๆจะอร่อย) กับสีแดง   ร้านนี้แม่ค้าก็จะไม่ยอมเอาเงิน เพราะเป็น เหยื่อที่เวลาเราทำขนมหรือกับข้าวอะไร เอาไปแจกให้เป็นหนูทดลองกินบ่อยๆ  เราบอกไม่ได้ ถ้าไม่คิดเงินไม่ซื้อ  เลย คิดมาทั้งหมด 50 บาท ..เขาบอกจะได้แบ่งบุญมาให้เขาบ้าง จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:17:45

ความคิดเห็นที่ 25 ใบโหระพา วันนี้ เจอชาวบ้าน ที่เก็บมาจากสวน มานั่งขายเอง ขายถูกมากๆ กำใหญ่ๆที่เคยซื้อกำละ 5 บาท ขายแค่ 1 บาท เลยเอามา 5 กำ เด็ดได้เต็มกาละมังยักษ์เลย  พอจะไปทำบุญ ได้แต่ของถูก อิอิ ใบกระเพรา เขาสดและกำใหญ่มากๆ  แต่ทำไม่ไหวแล้วเลยไม่ได้เอา จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:21:48

ความคิดเห็นที่ 26 พริกไทยสด เอามาตัดขั้วและส่วนที่ดำๆออก แล้วตัดให้สั้นขนาดพอกิน ก้านหนึ่งตัดเป็นสองหรือสามส่วน จะได้ไม่ยาวเกินไป เวลาซื้อดูที่สีอ่อนๆ สีเข้มๆจะแก่เกิน ไม่อร่อย เวลากินแล้ว กรุบๆ หอมอร่อย จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:24:16

ความคิดเห็นที่ 27 เครื่องแกงเราซื้อเจ้าอร่อย คนขายแนะนำ กะทิ 5 กิโล เครื่องแกง 5 ขีด แต่เรา กลัวไม่เข้มข้น เลยเอามาอีก 2 ขีด  สรุปใช้หมด อิอิ  ตอนจ่ายตลาดซื้อของเยอะเลยทำตก หน้าบ้าน ดังโป๊ะ เครื่องแกงถุงใหญ่แตก ดีที่ ไม่กระจาย แล้วยังอยุ่ในก็อปแก็ป  5555 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:27:39

ความคิดเห็นที่ 28 ใบมะกรูดเลือกอ่อน ฉีดเส้นกลางใบที่แข็งๆออก จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:28:52

ความคิดเห็นที่ 29 เครื่องเทศลูกกลมๆ นั้น ถ้าดูไม่ผิดคือลูกกระวานค่ะ จากคุณ : j-moo เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:12:35

ความคิดเห็นที่ 30 ต้ายยยย เกือบลืมส่วนประกอบสำคัญ พระเอก ของเราคือฟัก ปกติ เวลาแกงเราชอบใช้ฟักแก่ๆ และต้องไส้ตันด้วย เพราะฟักแก่ ไส้ตัน เนื้อจะแน่นหวานอร่อย   เรามีร้านประจำที่เขาเอาพันธ์มาจากเมืองจีนมาปลูก   เขาขายโลละ 25บาท  ฟักไส้ตันจะเนื้อแน่นทำให้หนักกว่าฟักธรรมดา แต่อร่อย ครั้งนี้เราก็ไปสั่งฟักเขา   เขาบอกตอนนี้มีฟักพันธ์ใหม่ เขาเอาพันธ์มาปลูก ไส้ตัน เหมือนพันธ์เดิมแต่เนื้อหวานกว่า แต่ขึ้นช้าและโตช้ากว่าพันธ์เดิมแนะนำ มาให้กินแต่ต้องรออีกวัน เขาจะไปตัดมาให้จากสวน   นัดเราไปรับ 6 โมงเย็นอีกวัน แต่กว่าจะออกมาจากสวน หนึ่งทุ่ม เรานั่งตบยุงเกือบชั่วโมง ..อิอิ เอาน่ะ เพื่อความอร่อย 555555 ฟัก เขาลูกใหญ่มาก 2 ลูกนี้  10 กิโล กว่า  จากในภาพที่เราเอามาลูกเล็ก ของเขาแล้วน่ะ อิอิ เราเลือกที่ ผิวแก่ๆสีเข้มๆมีแป้ง  น้ำหนักลูกละประมาณ 10 กิโล เอามาสองลูก เขาบอกให้เอามา 3 ลูก เพราะไม่ค่อยมี เก็บไว้ค่อยๆกินได้หลายวัน แต่เรา เอามาไม่ไหว หนักมากกกกกกกกกกกกกก ขนาดเลือก....ลูกเล็กแล้วน่ะขนาดเท่าหัวตะกร้อเครือ่งตี เคนวูด...ความยาวแค่ 90 เซนต์ เกือบๆเมตรเอง เรายกเข้าบ้านนี้ ตัวแอ่นเลย เราทำเครืองแกงกลางคืน จริงๆตอนเช้าเตรียมแผนจะทำคัพเค็กกล้วยหอม กับคัพเค็กส้มหน้านิ่ม สุตรห้องก้นครัว อีกสองอย่าง เจอเอาปอกฟักสองลูกนี้ เราหอมแห่กๆ หายาดม  แทบเลิกทำแกงเลยค่ะ ทั้งหมดที่ทำมาเหนื่อยสุดตอนปอกฟัก ....เปลือกแข็งมากกกก แล้วคนมือเจ็บอีก  แทบ หมดแรง ....ปกติ เราทำกับข้าวมีแม่บ้านเตรียม เครืองให้เสร็จ เคยปอกฟักธรรมดา เวลาแกง ความยาวแค่คืบ ก็พอไหว แต่มาเจอฟักพันธ์นี้แล้วความยาวขนาดนี้ บอกตรงๆ ถอดใจค่ะ vbvb จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:26:06

ความคิดเห็นที่ 31 ปอกได้ครึ่งลูก โยนมีดทิ้งเลยค่ะ เปลือกแข็ง เหนือ่ยมากก  ขนาดมีดเพิ่งให้คนขายหมูลับมาให้น่ะ (ซื้อหมู 4 โล มีข้อแม้ ต้องลับมีดให้ 2 เล่ม 55555) เลิกๆๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว ตีเนื้อปลาว่ายากว่าเหนื่อยแล้ว ปอกฟักทำไม เหนือยแบบนี้ ว่าแล้วเดินไปดมยาดม  5555555 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:28:59

ความคิดเห็นที่ 32 j-moo....ขอบคุณค่ะ เมื่อครู่นึกชื่อไม่ออก อิอิ ปกติเขาไม่ใส่กันน่ะค่ะ เรามั่วเองแหละ พอดีในครัวมีแค่นี้ 555555 ฟักไส้ตัน ไม่มีเมล็ด ไม่มีไส้เลย  ข้อดีคือ เราซื้อมาได้กินเนื้อล้วนๆ ไม่ต้องเสียส่วนที่ต้องทิ้งคือไส้ แต่ฟักแก่ เปลือกแข็งมากๆ ตอนเช้า ไปบ่นให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกเขาต้องใช้มีด อีกแบบปอก คล้ายๆมีดปอกอ้อย สองลูกเราเก็บเมล็ด ได้นิดหน่อย  เดี๋ยวเราจะลองเพาะดูก่อนสักอาทิตย์ ว่างอกไหม  ถ้างอก ใครอยากได้พันธ์ไปปลูก ลงชื่อไว้เลยน่ะค่ะ ถ้างอก เด๋วเราหลังไมค์ที่อยู่ให้ สัก 10 คน (ส่งซองติดแสตมป์จ่าหน้าซองถึงตัวเองด้วยน่ะ ช่วงนี้ เราเขียนหนังสือไม่ถนัด เล่นคอม ก็เล่นมือเดียว ข้อมือยังไม่หาย vbvb) ุ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:35:49

ความคิดเห็นที่ 33 ไส้ฟัก ตันจริงๆ อิอิ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:38:20

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพนี้ตอนปอกได้ครึ่งลูก เหนื่อยมากๆ  เลย เอาช้อนลงไปเทียบถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน ว่าครึ่งลูก กาละมังใหญ่แค่ไหน ได้แค่ครึ่งลูก หมดแรง ดมยาดมแล้ว    อีกตั้งหนึ่งลูกครึ่ง ฉันจะ ทำต่อยังไง ดีนี่ ...เฮ้ออออ กัดฟัน ปอกต่อ มือสั่นเลยค่ะ คิดในใจ เสร็จงานนี้ ต้องไปเข้าเฝือกมือแน่ๆ vbvb หนึ่งลูก ได้หนึ่งกาละมังนี้เต็มๆค่ะ หม้อนี้ใช้ 2 ลูก ได้ 2 กาละมัง ใส่หมดเลย   เราปอก ได้หนึ่งลูก ก็ไปพักเหนื่อยแล้ว  ค่อยมาปอกใหม่ กว่าจะเสร็จโยนมีดทิ้งหลายรอบ คิดแล้วขำตัวเอง  55555 ถ้าไม่ใช่กลัวหน้าแตก  ว่ารับปากเขามาแล้วทำไม่ได้ น่ะเลิกทำไปแล้ว  ขนาดออกกำลังกายทุกวันน่ะ หมดแรงเลย จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:49:03

ความคิดเห็นที่ 35 ต่อไปก็ ขึ้นตอนการทำ แบบธรรมดาๆทั่วไปค่ะ เราใส่น้ำมันลงไปในกะทะ สัก นิดหน่อย เอาเครื่องแกงลงไปผัดให้หอมกับเครื่องเทศ... เครื่องแกผัดกับน้ำมันจะทำให้หอม ผัดสักพักเลยให้มีกลิ่นหอม แล้วใส่ สามเกลอ ลงไปผัดต่อ (สามเกลอถ้าตำใส่ไปพร้อมเครื่องแกงได้เลย แต่เราปั่นมีน้ำ ต้องคั่วเครื่องแกงให้หอมก่อน ถึงจะใ่ส่ไปผัดให้เข้ากันค่ะ) จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:54:33

ความคิดเห็นที่ 36 ผัดให้หอม หรือเครื่องแกงเดือดปุด สักขนาดนี้ น่ะค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:55:46

ความคิดเห็นที่ 37 ใส่หัวกะทิ ลงไปผัด ให้พอขลุกขลิก   ไม่ต้องผัดให้แตกมันน่ะค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:57:20

ความคิดเห็นที่ 38 เอาให้แค่เข้ากันสักขนาดนี้  เพราะกะทิ จะมีน้ำมันจากตอนเราผัดเครื่องแกง ให้ลอยหน้าเวลาแกงเสร็จเพียงเล็กน้อยพอสวยงาม มีสีสรร มันมากจะเลี่ยนค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:59:31

ความคิดเห็นที่ 39 พอเครื่องแกงกับหัวกะทิเดือดปุดๆก็ใส่เนื้อหมูที่เราหมักลงไปเลยค่ะ   ถ้าเป็นกระดูกซี่โครงอ่อน ให้เคี่ยวให้นุ่มสัก 20 ถึง 30 นาที แต่หมูชิ้น เอาแค่ พอกะทิเดือดอีกครั้ง เพราะสุกเร็ว  แล้วตักใส่หม้อ เติ่ม หางกะทิ ที่เราไม่แกงในหม้อตั้งแต่แรก... ใช้ผัดกับกะทะก่อน เพราะหม้อจะไหม้ง่าย และส่วนผสมเวลาผัดเครื่องแกง (กะทะก้นโค้ง)จะดีกว่า จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:05:00

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าให้เร็ว เราอุ่นหางกะทิอีกเตาด้วยไฟอ่อนๆ  เวลาตักใส่หม้อที่เราแกง จะได้เดือดเร็ว   ตักหางกะทิ ใส่ในหม้อที่มีเนื้อหมู เวลาตักให้ตักสักครึ่งหนึ่งก่อน ตักเบาๆ เอาแต่ส่วนหน้า ทีั่มีกะทิลอย ส่วนข้างล่างจะใสเป็นน้ำ และมีกาก พอเดือดก็ใส่หัวกะทิีที่เหลือ ไม่ใส่ก่อน เพราะถ้าให้เดือดกะทิจะแตกมันมาก กวนผสมดู ถ้าข้นเกินก็เติมหางกะทิที่เหลือ ถ้าเราใส่หางหมดตั้งแต่แรก จะทำให้กะทิไม่เข้มข้น (แต่ส่วนมาก ทางร้านจะกะปริมาณหัวหางที่ให้เรามาใกล้เคียงกัน อยุ่ที่เราต้องการความเข้มข้น มากน้อยขนาดไหน ที่จะพอดีกับส่วนผสมของเครื่องแกง) แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 22:09:34 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:08:46

ความคิดเห็นที่ 41 ท่าทางวสนุกนะครับ  ไม่เคยเห็นฟักลูกยักษ์เท่านี้มาก่อนเลยครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:09:13

ความคิดเห็นที่ 42 sakchai splash....นี่คือลูกเล็กของเขาคะ มีลูกใหญ่กว่านี้เกือบเท่า แต่เราเลือกที่ผิวแก่ๆ ดูที่มีเปลือกมีสีเขียวเข้ม และขึ้นแป้งที่ผิว ค่ะ  ที่เราเอามา เราว่า ก็ยังไม่ค่อยแก่เท่าไหร่  จริงต้องให้แก่กว่านี้  พอดีเราต้องการเขาเลยไปเลือกตัดมาให้ก่อนค่ะ  พอดีเขาสนิทกับคุณพ่อ คุณแม่ เขาเลยเกรงใจ พ่อกับแม่เคยช่วยเหลือเขา สมัยเขาทำสวนใหม่ๆ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:13:15

ความคิดเห็นที่ 43 เหยาะน้ำปลาไปนิด น้ำตาลปี๊บลงไปหน่อย โอเคเลยค่ะ เราชิมแล้วรสชาดพอดี ป,ล  อย่างพ่อเราหรือคนทั่วๆไป ก็จะพอดี แต่คนใต้กินเผ็ด คนไปวัดครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นคนพื้นบ้าน เราเลยต้องทำให้เผ็ดขึ้นเล็กน้อยค่ะ  โดยการเติม พริกแห้งคั่วปั่นเองลงไป (พริกแห้งนี้ คนขายแนะนำมา บอกนานๆมาขายที เรียกพริกสนหอม ขีดละ 25 ตอนแรกเรา็ก็ว่าแพง เพราะพริกสนแห้งปกติ ขีดละ 15 เอง แต่ เอามาทำแล้ว หอมอร่อยมากๆเลย นิดเดียวแต่เผ็ดจี้ดดด ) สีแกงสวยขึ้นเลยอิอิ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:19:21

ความคิดเห็นที่ 44 เรารอให้เดือด แล้วก็ เปิดฝาทิ้งไว้ให้เย็นค่ะ ป,ล การแกงหม้อใหญ่ๆ ต้องระวังมากๆ เรื่องการระบายความร้อน เพราะแกงจำนวนมาก ถ้าระบายความร้อนไม่ดี เผลอไปปิดฝา หรือแค่เผยอฝา หลายคน ตายมานักต่อนักแล้ว แกงบูดค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:22:31

ความคิดเห็นที่ 45 ตื่นเช้าค่อยมาเปิดไฟอ่อนๆให้ค่อยๆเดือด อย่าเร่งไฟแรงน่ะค่ะเดี๋ยวกะทิแตกมัน ไม่อร่อย  พอเริ่มเดือดนิดๆ ไม่ต้องเดือดมาก ก็ใส่ ลูกชิ้น (สับนก) ถ้าทำกินปกติ ก็ใส่ส่วนผสมต่อได้ไม่ต้องพักแกง พอดีเราทำจำนวนมากๆ คนเดียวกลัวไม่ทัน ไม่ชอบทำอะไรเร่งๆ  รีบๆ อิอิ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:26:08

ความคิดเห็นที่ 46 พอเดือดอีกครั้งก็ใส่ ฟัก   ัฟักจำนวนมาก ..เราใช้ชามตัก เร็วดี vbvb จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:27:36

ความคิดเห็นที่ 47 น่าทานมากๆค่ะ จากคุณ : The Enjoy! Story เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:41:53

ความคิดเห็นที่ 48 The Enjoy! Story ....ขอบคุณค่ะ  เราก็ทำแบบมั่วๆตามสไตล์เราน่ะค่ะอิอิ ใส่พริกไทยสด จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:45:25

ความคิดเห็นที่ 49 พริกชี้ฟ้า เขียว แดง จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:46:17

ความคิดเห็นที่ 50 ใส่ใบมะกรูด ฉีกเล็กๆ ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยออกมาก จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:47:30

ความคิดเห็นที่ 51 พอเดือดอีกครั้งก็  ฟักจะสุกพอดี ใส่ใบโหระพา ยกขึ้นได้เลยค่ะ เก็บภาพตอนใส่โหระพาไม่ทัน เพราะพอใส่โหระพา ลูกน้องปิดฝาแล้วยกไปเลย 555555 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:50:09

ความคิดเห็นที่ 52 จะรอดูวิธีทำหมูเด้ง ด้วยค่ะ เห็นกรรมวิธี ปลาแล้ว ว่าแต่ อยู่ต่างประเทศ หาปลากรายไม่ได้ พอจะใช้ปลาอะไรได้บ้างคะ จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:03:31

ความคิดเห็นที่ 53 น่าทานสุดๆ จากคุณ : amkoka เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:25:56

ความคิดเห็นที่ 54 รอชมด้วยคนค่ะ..น่าทานมากเลยค่ะ จากคุณ : mixkey เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:43:51

ความคิดเห็นที่ 55 น่ากินมว๊ากกกกอ่ะคับ จากคุณ : adalimumab เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 00:44:48

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ Panmai ทำคนเดียว เก่งมากๆ เลยอ่ะ... ป.ล มารีวิวบ่อยๆนะคะ เราสมัครเป็น FC ^^ จากคุณ : Pjanet เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 01:02:07

ความคิดเห็นที่ 57 หมู (ตัว) อ้วน..... หลังๆปลากรายสดๆเป็นตัวๆหายาก  (เมื่อก่อนชาวบ้านจับได้จะ เอาตอก ผูกปากปลา แบบใส่หลัง(เพราะตัวใหญ่มากๆ) มาขายที่บ้านประจำ เพราะีรู้สึกว่าเมื่อก่อนคนอิสลามเขาไม่กินปลากราย  แต่เดี๋ยวนี้ ร้านอาหารเห็นจะแย่งซื้อหมด ....) เราเคยเห็นแม่ใช้ ปลาอินทรีย์ แล้วก็ปลาสลาด ตัวแบนๆเล็กๆ พอดีชาวบ้านเขาจับมาขายหน้าบ้าน แบบสดๆ แล้วราคาถูก โลละ 15 บาท นอกนั้น เดี๋ยวไปถามเพื่อนที่ขายปลาให้น่ะค่ะว่า  เอาปลาอะไรมาใช้ได้บ้าง อิอิ หมูเด้ง.....  เดี๋ยวไปขออนุญาต เขาถ่ายทำขั้นตอนมาลงน่ะค่ะ เขาขายวันละ 200 กว่ากิโล จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 01:56:27

ความคิดเห็นที่ 58 แกงหม้อใหญ่ดีจังค่ะ  น่ากินมากเลย "เขียวหวาน" แกงในดวงใจ ไม่ว่าจะมาแบบไหนชอบโหม้ดดด..... จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 08:54:22

ความคิดเห็นที่ 59 ว้าวววว  ขอโปรดเลย คงจะอร่อยน่าดู จากคุณ : CN pagapong เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 09:00:03

ความคิดเห็นที่ 60 ...  แกงหม้อบะเริ่ม ๆ แบบนี้ ผมชอบจังครับ  น่าสนุกดีจังครับ จากคุณ : OverEat เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 10:03:42

ความคิดเห็นที่ 61 น่ากินชะมัด จากคุณ : ทำตามฝัน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:24:57

ความคิดเห็นที่ 62 อื้อหือ เขียวหวานซี่โครงหมู น่ากินมากค่ะ อ้อ ขอถามจขกท.หน่อยค่ะว่า vbvb  เนี่ย เป็นโค้ดย่อของคำหรือว่าอาการอะไรอ่ะคะ เห็นจขกท.พิมพ์บ่อยๆ เลยอยากรู้ จากคุณ : ChocoJosie เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:46:32

ความคิดเห็นที่ 63 ^ ^ ^ อยากรู้ด้วยค่ะ ปล ทำอาหารเก่งมากๆเลยค่ะ จากคุณ : pekei เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 17:11:06

ความคิดเห็นที่ 64 vbvb = อิอิ หรือเปล่าค่ะ จากคุณ : Bloody Riya เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 17:52:16

ความคิดเห็นที่ 65 สวดยอดมากค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 18:17:13 จากคุณ : ลูกสาวเจ้าพ่อ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 18:16:27

ความคิดเห็นที่ 66 vbvb = อิอิ   ในแป้นพิมพ์ ภาษา อังกฤษค่ะ  เป็น คำที่ นิยมใช้ในหมู่วัยรุ่น เหมือน ชิมิ ชิมิ  5555555 ขอบคุณทุกๆคนน่ะค่ะ แล้วจะมารีวิวบ่อยๆค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 20:18:16

ความคิดเห็นที่ 67 เป็นเมนูอันดับหนึ่งเลยครับ ต้องกินเดือนละครั้ง คุณแม่ทำตลอด อร่อยมากก มาแบบ อ๊ะๆ ใหญ่ๆ ไม่กั๊ก ชอบที่สุดเลยลูกชิ้นปลาขูดกับฟักในแกง จากคุณ : Spi_zy เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 21:41:43

ความคิดเห็นที่ 68 พี่คะ  หนูสนใจเมล็ดพันธุ์ของพริกสนหอมค่ะ จากคุณ : กาแฟใส่โอวัลติน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 18:42:00

ความคิดเห็นที่ 69 ไม่น่าเปิดมาดู ทู้นี้ตอนนี้เล้ยยยยย อย่างหิว อย่างน่ากินด้วยค่ะ กลิ่นหอมมาถึงหน้าคอมฯ เลย จากคุณ : ชอบกินลาเต้ เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 17:34:04