ความคิดเห็นที่ 1 แวะรับเพื่อนอีกคนที่หน้าตลาดสี่มุมเมือง ถึงวังน้อยเลี้ยวซ้ายเข้า ทล.32 หรือทางหลวงสายเอเซีย(AH) 1 และ 2 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:02:46

ความคิดเห็นที่ 2 มุ่งหน้าตรงไปจังหวัดสิงห์บุรี ผ่านอยุธยาและอ่างทอง เข้าสู่เขตจังหวัดสิงห์บุรี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:03:08

ความคิดเห็นที่ 3 ผ่านทางเข้าวัดตราชูและร้านกุ้งเผาทองชุบที่อำเภอพรหมบุรี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:03:31

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงหลัก กม.ที่ 77 เริ่มชิดซ้าย ระหว่างหลัก กม.ที่ 78 และ 79 เลี้ยวซ้ายเข้าวัดอัมพวัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:03:52

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าไปประมาณ 1 กม.ลงรถแล้วเดินไปที่กุฏิพระเทพสิงหบุราจารย์ หรือกุฏิหลวงพ่อจรัญ ซึ่งปัจจุบันได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นธรรม โดยได้รับพระราชทินนามเป็น"พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนาปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาส" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:04:14

ความคิดเห็นที่ 6 ไหว้พระและกราบพระราชานุสาวรีย์ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้นเดินไปด้านหน้ากุฏิ หลวงพ่อจะลงมาพบกับญาติโยมวันละสองรอบ รอบเช้า 10.00 น.และรอบบ่าย 14.00 น. โดยจะมีการเทศน์ทุกวันพระ เวลา 14.00 น. 9.14 น. มีญาติโยมมารอกราบนมัสการหลวงพ่อไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:04:35

ความคิดเห็นที่ 7 ระหว่างรอให้ถึงเวลา เดินไปที่โรงทานซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของกุฏิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:05:05

ความคิดเห็นที่ 8 ข้างโรงทานมีของกินขายหลายอย่าง ที่หลายคนบอกว่าอร่อยคือหมูทุบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:05:32

ความคิดเห็นที่ 9 ซึ่งทำกันสดๆใหม่ๆที่หน้าโรงทาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:05:54

ความคิดเห็นที่ 10 กุนเชียงสิงห์บุรี ของขึ้นชื่ออีกอย่างของสิงห์บุรี นอกเหนือไปจากปลาช่อนแดดเดียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:06:17

ความคิดเห็นที่ 11 โรงทานมีอาหารให้ทานหลายอย่าง ขนมครกคงอร่อยเพราะคิวยาวมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:06:41

ความคิดเห็นที่ 12 เส้นหมี่ลูกชิ้นหมู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:07:06

ความคิดเห็นที่ 13 โรงครัวกำลังทำไข่เจียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:07:28

ความคิดเห็นที่ 14 เดินขึ้นไปบนโรงทาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:07:50

ความคิดเห็นที่ 15 มีกับข้าวสี่อย่าง คือต้มจับฉ่าย แกงเผ็ดหน่อไม้หมู แกงส้มและต้มมะระ มีป้ายขอความร่วมมือให้ตักราดข้าว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:08:13

ความคิดเห็นที่ 16 เดินไปรับเส้นหมี่ลูกชิ้นหมู น้ำแกงใช้ได้แต่ลูกชิ้นหมูผสมแป้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:08:49

ความคิดเห็นที่ 17 ตักข้าวราดจับฉ่ายและแกงเผ็ดหน่อไม้อีกหนึ่งจาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:09:26

ความคิดเห็นที่ 18 อิ่มแล้วทำบุญค่าอาหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:09:52

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำดื่มมีบริการด้านนอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:10:14

ความคิดเห็นที่ 20 9.44 น.หลวงพ่อลงมาก่อนเวลา  มีพระนำสวดมนต์และสวดอนุโมทนา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:10:44

ความคิดเห็นที่ 21 จากนั้นเข้าแถวเป็นระเบียบเข้ากราบ ถวายปัจจัย และกระดาษเขียนคำอธิษฐานแด่หลวงพ่อจรัญ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:11:22

ความคิดเห็นที่ 22 ปีนี้หลวงพ่ออายุ 83 ปีแล้ว ยังดูแข็งแรงแต่อ้วนขึ้นจนจำไม่ได้ เคยมากราบนมัสการท่านพร้อมทั้งหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว หลวงพ่อเป็นผู้ค้นพบพระชัยมงคลคาถา พาหุงมหาการุณิโก ตำราเก่าแก่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในเจดีย์ใหญ่ของวัดใหญ่ชัยมงคล ตามนิมิตที่สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว มาบอกให้ทราบว่าบรรจุอยู่ที่เจดีย์ใหญ่ ของวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งเมื่อตามไปวันรุ่งขึ้นก็พบจริงๆ เป็นใบลานทองคำจารึกของ "สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว" ปัจจุบันเรียกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ได้รจนาถวายพระพรชัยมงคลคาถาแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพนรัตน์เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ถวายให้พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้สวดเป็นประจำ เวลาอยู่กับพระบรมราชวัง และในระหว่างศึกสงคราม จึงปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ทรงรบ ณ ที่ใดทรงมีชัยชนะอยู่ตลอดมา มิได้ทรงเพลี่ยงพล้ำเลย แม้จะเพียงลำพังสองพระองค์กับสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า ท่ามกลางกองทัพพม่า ด้วยการกระทำยุทธหัตถี ที่มา - http://www.fungdham.com/pray/pray-jaran.html#no7 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:11:53

ความคิดเห็นที่ 23 ด้านข้างกุฏิหลวงพ่อจรัญ มีร้านจำหน่ายวัตถุมงคล ซีดีและหนังสือของหลวงพ่อจรัญ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:12:33

ความคิดเห็นที่ 24 สาวๆแวะซื้อของที่ตลาดลานจอดรถ วันนี้ไม่มีปลากระดี่แดดเดียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:13:08

ความคิดเห็นที่ 25 10.30 น.ออกจากวัดอัมพวัน กลับรถมุ่งหน้าไปจังหวัดอ่างทอง ถึงแยกเข้าจังหวัดอ่างทองเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอเมืองอ่างทอง ผ่านแยกบ้านรอ วิ่งตรงไปจนถึงวงเวียนน้ำพุเลี้ยวซ้าย ประมาณห้าร้อยเมตรถึงแยกเรือนจำ เลี้ยวขวาเข้า ทล.3064 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:13:32

ความคิดเห็นที่ 26 ถึงแยกป่างิ้วเลี้ยวซ้ายเข้า ทล.3195 ซึ่งผ่านอำเภอวิเศษชัยชาญไปจังหวัดสุพรรณบุรี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:14:04

ความคิดเห็นที่ 27 เลี้ยวซ้ายที่ป้ายวัดม่วงไปตามถนนขนานคลองชลประทาน ประมาณ 500 เมตรเลี้ยวขวาเข้าวัดม่วง รถบัสนักท่องเที่ยวประกาศให้เวลาที่วัดนี้ 40 นาที แต่ของเราไม่กำหนดเวลา ปล่อยให้เดินกันสบายๆ แต่ขอให้เดินตามหัวหน้าทัวร์ เพื่อจะได้พาไปชมจุดต่างๆตามลำดับ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:14:42

ความคิดเห็นที่ 28 จอดรถแล้วพาทุกคนไปที่อุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:15:06

ความคิดเห็นที่ 29 เพื่อกราบพระประธาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:15:47

ความคิดเห็นที่ 30 ได้ยินเสียงแกรกกรากจึงหันไปดู คุณผู้ชายท่านนี้ต้องมีความั่นใจในตัวเองสูง จึงห้อยเครื่องรางเต็มคอ ไม่แยแสสายตาที่จ้องมองและกลั้นรอยยิ้ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:16:09

ความคิดเห็นที่ 31 ออกจากอุโบสถพาทุกคนเดินวนขวาหนึ่งรอบ เพื่อกราบรูปปั้นพระอริยสงฆ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:16:35

ความคิดเห็นที่ 32 ที่เรียงรายรอบกำแพงแก้วที่สร้างเป็นกลีบบัว และเป็นกำแพงแก้วกลีบบัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:16:59

ความคิดเห็นที่ 33 จากนั้นพาไปที่วิหารแก้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:17:27

ความคิดเห็นที่ 34 วันนี้มีเวลาไม่พอ ที่จะพาไปชมวิหารแก้วที่วัดท่าซุง อุทัยธานี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:17:53

ความคิดเห็นที่ 35 แม้วิหารแก้วของวัดม่วงจะไม่วิจิตรเท่าวัดท่าซุง แต่ก็มีตวามสวยงามสำหรับผู้ที่ไม่เคยมา กราบพระประธาน หล่วงปู่ขาว(ซ้าย)และหลวงปู่แดง(ขวา)หน้าพระประธาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:18:19

ความคิดเห็นที่ 36 จากนั้นกราบร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ในโลงแก้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2525 พระคูวิบูลอาจารคุณ( หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้มาปักกลดธุงดงค์ เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดร้าง จึงน่าปฏิบัติธรรม แต่ขณะปฏิบัติธรรม ได้ปรากฏนิมิตเห็นองค์หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดงมาบอกว่า ให้ท่านได้ช่วยก่อสร้างวัดม่วงขึ้นมาใหม่ เพราะท่านพระครูเป็นผู้มีบารมี ที่สามารถจะก่อสร้างบูรณะวัดม่วงขึ้นมาใหม่ได้ และในบริเวณวัดร้างนี้จะมีศิลาขาว และศิลาแดงอยู่ คือ องค์ของหลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง ซึ่งต่อมาท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ ได้มีการปั้นองค์พระครอบศิลาขาว และศิลาแดงไว้ โดยเรียกนามว่า หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง จนถึงปัจจุบันนี้ ในปีพ.ศ. 2526 ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ ได้มีการเริ่มบูรณะและได้สร้างเสนาสนะต่างๆขึ้น โดยได้รับการบริจาค ทั้งเงินทำบุญ และทำบุญด้วยแรงงาน ร่วมกันดำเนินงานในการก่อสร้าง กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2527 ที่มา - http://wat-muang.com/aboutus1.php จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:18:44

ความคิดเห็นที่ 37 ออกจากวิหารแก้วพาไปชมสวนวรรณคดีและนรกภูมิ รายละเอียดและภาพของทั้งสองส่วน สามารถชมได้ที่ "เที่ยวไปกินไป @ นครสวรรค์- ตรุษจีนปากน้ำโพ 2 : โมจิจันทร์สุวรรณ์" http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2011/02/D10265981/D10265981.html จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:19:09

ความคิดเห็นที่ 38 หยุดให้ทุกคนเข้าห้องน้ำสะอาดสักครู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:19:46

ความคิดเห็นที่ 39 จากนั้นพาไปกราบ"พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตักกว้าง 62 ม. สูง 93 ม. ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 16 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 - 2550 เนื่องจากตั้งอยู่กลางแจ้ง มาวันนี้มีการขึ้นนั่งร้านเพื่อซ่อมแซมองค์พระ จุดธูปสักการะแล้ว พาทุกคนขึ้นไปแตะนิ้วกลางพระหัตถ์ด้านซ้ายเพื่อขอพร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:20:08

ความคิดเห็นที่ 40 จากนั้นพาไปไหว้พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ปางพันกร เสร็จแล้วให้เวลาซื้อของกันเล็กน้อยก่อนออกจากวัดม่วง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:20:32

ความคิดเห็นที่ 41 ถึงแยกทางเข้าวัดม่วงเลี้ยวซ้ายเพื่อไปทานข้าวเที่ยง วิ่งตรงไปจนมองเห็นป้ายบอกทางไปตลาดศาลเจ้าโรงทางที่เชิงสะพานข้ามแม่น้ำน้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:21:10

ความคิดเห็นที่ 42 ลงสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัดนางนางใน ซึ่งเป็นทางไปตลาดศาลเจ้าโรงทอง เป็นถนนเดินรถทางเดียว ถึงข้างวัดนางในธัมมิการาม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดนางใน 3 เพื่อไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารชื่อ"นิรมิต" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:21:37

ความคิดเห็นที่ 43 จอดรถที่ลานจอดรถด้านขวา เดินผ่านม่านรากต้นไทรเข้าร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:22:12

ความคิดเห็นที่ 44 ด้านซ้ายมีห้องในบรรยากาศร้านค้าของคนจีนในสมัยก่อน ที่มีเคาน์เตอร์ไม้ขนาดใหญ่ด้านหน้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:22:55

ความคิดเห็นที่ 45 ด้านขวาเป็นร้านขายขนมไทย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:23:19

ความคิดเห็นที่ 46 ตรงไปเป็นส่วนของห้องอาหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:23:44

ความคิดเห็นที่ 47 มีป้ายรายการอาหารแนะนำที่ทางเข้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:24:09

ความคิดเห็นที่ 48 ร้านอยู่ติดแม่น้ำน้อย แบ่งออกเป็นสี่ส่วน คือในร้าน ห้องปรับอากาศ ในสวนและบนแพริมน้ำ ที่นั่งในสวนเต็ม ส่วนบนแพที่คนจองทั้งแพ จึงนั่งโต๊ะกลมในห้องปรับอากาศ ซึ่งก็ดีเพราะอากาศเริ่มร้อน ร้านมีเนื้อที่มาก แต่มีโต๊ะนั่งไม่มาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:24:33

ความคิดเห็นที่ 49 สั่งรายการอาหารทั้ง 9 รายการ ตามรายการอาหารแนะนำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:25:00

ความคิดเห็นที่ 50 โดยเพิ่มผัดไทกุ้งสดจานใหญ่ 100 บาท 1 จาน ผัดไทใช้ได้ แต่เป็นผัดไทแบบใส่น้ำมันมาก เหมือนผัดไทโอเค ที่วัดราชบุรณราชวรวิหารหรือวัดเลียบ พาหุรัด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:25:24

ความคิดเห็นที่ 51 คะน้าปลาเค็ม 120 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:25:47

ความคิดเห็นที่ 52 ปลาเค็มผัดกรอบราดบนคะน้า ปลาไม่เค็มมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:26:10

ความคิดเห็นที่ 53 ไก่ทอดนิรมิต 100 บาท ใช้ปีกไก่ทอดจนหนังกรอบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:26:37

ความคิดเห็นที่ 54 ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนผักบุ้ง 100 บาท หน้าตาเหมือนผัดพริกขิง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:27:07

ความคิดเห็นที่ 55 ทอดมันปลากราย 100 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:27:50

ความคิดเห็นที่ 56 แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย 100 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:28:39

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีค่ะคุณสาม  ตามมาชมและช่วยชิมค่ะ จากคุณ : หมูแดดเดียวกับข้าวเหนียวนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:29:02

ความคิดเห็นที่ 58 ต้มยำกุ้งน้ำข้น 200 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:29:07

ความคิดเห็นที่ 59 หมูแดดเดียวกับข้าวเหนียวนุ่ม ...ตักข้าวสวยรอได้เลยครับ ............................................................................. ผัดฉ่าปลาคัง 120 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:30:13

ความคิดเห็นที่ 60 ปลาม้านึ่งซีอิ๊ว 150 บาท ปลาสด น้ำซีอิ๊วหวานได้อีกนิด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:31:14

ความคิดเห็นที่ 61 ทอดมันกุ้ง 100 บาท ใช้ได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:31:46

ความคิดเห็นที่ 62 ต้มยำกุ้งน้ำข้นเอามาตั้งไว้ข้างโต๊ะเกือบสิบนาที โดยไม่ตักแบ่งให้ทั้งที่เตรียมถ้วยแบ่งมาแล้ว ต้องบอกถึงสองหนจนไฟมอดไปแล้วถึงตักมาให้ มากันสิบคนแต่ให้กุ้งแปดตัว ถ้าเพิ่มกุ้งอีกสองตัวให้ครบคน และคิดราคาเพิ่มก็ไม่ขัดข้อง แต่อีกสองคนต้องมาทานน้ำต้มยำกับเห็ดฟางหนึ่งชิ้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:32:52

ความคิดเห็นที่ 63 กลุ่มห้องก้นครัว 19 คนที่มาบุกร้านสาวทิพย์ มาถึงที่ร้านและนั่งห้องเดียวกัน ครั้งแรกจะนั่งข้างนอกเพราะเกรงใจคนอื่น เนื่องจากแน่ใจว่าเมาท์กันดังกระจาย แต่อากาศร้อนจึงนั่งในห้องปรับอากาศ ที่มีตู้โชว์เครื่องแก้วคริสตัล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:33:33

ความคิดเห็นที่ 64 ยังไม่อิ่มจึงสั่งอาหารเพิ่มอีกสองอย่าง ปลาช่อนชุบน้ำปลาทอด 120 บาท เนื้อปลากรอบนอกอร่อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:33:57

ความคิดเห็นที่ 65 แกงเผ็ดปลาเนื้ออ่อน 120 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:34:19

ความคิดเห็นที่ 66 มีแต่ส่วนหัวปลา 5 ชิ้น ผิดหวังอย่างแรง เพราะชอบส่วนหางมากกว่า ถ้ามาที่ร้านนี้ไม่แนะนำให้สั่งอาหารที่ใส่กะทิ เนื่องจากใช้กะทิกล่อง แถมรสชาติของแกง ทั้งแกงเขียวหวานและแกงเผ็ด พาลให้นึกถึงแกงกะทิบรรจุกล่อง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:34:50

ความคิดเห็นที่ 67 ราคาอาหารนับว่าไม่แพง แต่บริการค่อนข้างบกพร่อง ควรจ้างนักเรียนมาช่วยในวันหยุด บริการน้ำช่วงหลังหายไปเลย สั่งน้ำกระเจี๊ยบตั้งแต่นั่ง  ตามแล้วตามอีก ได้เมื่อทานข้าวเกือบเสร็จแล้ว มื้อนี้รวมกาแฟ น้ำดื่มสมุนไพร น้ำเปล่า น้ำอัดลม โซดา ข้าวหนึ่งโถ และข้าวผัดกุ้งของคนขับรถ 1,710 บาท ถ้าพาลูกค้ามาทานที่ร้านนี้ และต้องการใบกำกับภาษี เพื่อนำไปหักค่าใช้จ่ายเพื่อเสียภาษี ทางร้านไม่มีให้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:35:18

ความคิดเห็นที่ 68 อิ่มแล้วแวะอุดหนุนขนมของทางร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:35:47

ความคิดเห็นที่ 69 ส่วนใหญ่สามห่อร้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:36:13

ความคิดเห็นที่ 70 รายการขนมแนะนำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:36:37

ความคิดเห็นที่ 71 มีแบบจัดเป็นกระเช้าของขวัญด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:37:05

ความคิดเห็นที่ 72 ตามเข็มนาฬิกา สัมปันนี ข้าวตูมะพร้าวอ่อน ถั่วกวนกะทิสดและถั่วกวนมะพร้าว แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 01:28:09 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:37:36

ความคิดเห็นที่ 73 ขนมดอกลำเจียกหรือเกสรลำเจียกและสาลี่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:38:01

ความคิดเห็นที่ 74 มีให้ชิมหกอย่าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:38:28

ความคิดเห็นที่ 75 ขนมโสมนัส ขนมผิง เกลียวทองทองและขนมเปี๊ยะหมูหยอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:39:37

ความคิดเห็นที่ 76 นอกจากขนมแล้ว ยังมีกระเป๋าขายด้วย ราคา 650-700 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:40:12

ความคิดเห็นที่ 77 ชอบร้านขนมไทยแบบนี้มาก  ดูหลากหลายดีค่ะ การจัดระเบียบร้านและแพคเกจก็ดูดีนะคะ อยากให้ของฝากของประเทศไทยพัฒนามากๆค่ะเพราะขนมของไทยเราอร่อยแต่ขาดการจัดการไปนิดนึงค่ะ (แบบว่าแอบบ่น..เพราะของเมืองนอก บางอันไม่อร่อยและแพงแต่เราๆซื้อกันเพราะใจอ่อนกะแพคเกจจิ้งกันค่ะ) จากคุณ : หมูแดดเดียวกับข้าวเหนียวนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:46:00

ความคิดเห็นที่ 78 หมูแดดเดียวกับข้าวเหนียวนุ่ม ...ส่วนใหญ่จะวางบนถาดโฟมแล้วใช้พลาสติกแร็บเอาครับ ................................................................................................ ออกจากลานจอดรถเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปหน้าวัดนางในธัมมิการาม ตรงข้ามวัดคือทางเข้าตลาดศาลเจ้าโรงทอง จอดรถในวัด ค่าจอดรถตามแต่บริจาคใส่กล่องข้างประตูเข้าออกวัด เดิมตลาดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า บ้านไผ่จำศีล แขวงเมืองวิเศษชัยชาญซึ่งเป็นชื่อเดิมของอ่างทอง ช่วงปี 2420 ตรงกับปีฉลู คณะอั้งยี่โดยนายสิ่งอะ แซ่ฉั่ว หัวหน้าคณะและชาวจีนอพยพที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ก่อสร้างศาลเจ้าไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นสถานที่สักการะภายในชุมชน โดยนำต้นรงค์ทองล่องชาด มาสร้างด้วยศิลปะสวยงามต่อมากรมการเมืองได้มาตรวจ เยี่ยมและพบเห็นผู้คนจำนวนมาก สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้า จึงเรียกขานชุมชนแห่งนี้ใหม่ว่า ศาลเจ้าโรงทอง ที่มา - อีดีทีไกด์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:49:45

ความคิดเห็นที่ 79 ขวามือทางเข้าคือร้านขนมนิรมิต จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:50:10

ความคิดเห็นที่ 80 หมูลู่ลมหรือหมูแดดเดียวแบบเป็นแผ่นแบน ส่วนปลาเทวดาเอาไว้ไล่แมลงวัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:50:42

ความคิดเห็นที่ 81 ขนมกล้วยรังผึ้งเจ๊รุ่ง ดีที่เพื่อนสั่งไว้สองชิ้นๆละ 10 บาท เพราะขากลับหมด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:51:05

ความคิดเห็นที่ 82 ถึงสามแยกคือร้านทรงนิมิต เลี้ยวขวา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:51:34

ความคิดเห็นที่ 83 ข้าวเกรียบว่าว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:52:28

ความคิดเห็นที่ 84 ตลาดแห่งนี้แบ่งเป็นตลาดเหนือ กลางและใต้ ไม่ทราบว่าพวกเราเข้ามาทางตลาดไหน ได้แต่เดินไปตามทางบังคับ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:52:53

ความคิดเห็นที่ 85 รัตติยาหมูแดดเดียวโบราณ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:53:19

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาตามไปเที่ยวด้วยครับอาสาม จากคุณ : 311025 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:53:25

ความคิดเห็นที่ 87 311025 ...ยังเหลืออีกหนึ่งจังหวัดครับ .......................................................... เดินมาถึงแขวงเมืองวิเศษ 1/2 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:54:40

ความคิดเห็นที่ 88 พรพรรณขนมไทย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:55:08

ความคิดเห็นที่ 89 ขนมไข่ปลา หลายคนบอกว่าไม่เหมือนไข่ปลา แต่คนที่เคยซื้อไข่ปลาสลิดสด จะรู้ว่าเหมือนมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:55:36

ความคิดเห็นที่ 90 แดดร้อนไม่เดินไปถึงศาลเจ้ากวนอูจึงเดินย้อนกลับ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:56:03

ความคิดเห็นที่ 91 แวะแผงขายปลาย่างที่เล็งไว้ ไม่ได้ซื้อปลาแขยงย่าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:56:30