ความคิดเห็นที่ 1 ของคาว....แกงเขียวหวานขาดไม่ได้ ของหวาน.... ขนมชั้น ขนมตระกูลทองทั้งหลาย จากคุณ : sakulna เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:10:37

ความคิดเห็นที่ 2 ของคาว - ขนมจีนน้ำยา,ขนมจีนน้ำพริก เพราะขนมจีนเป็นเส้น มีความหมายให้ชีวิตยืนยาว ของหวาน - ประเภททองทั้งหลายค่ะ ผลไม้ - ขนุน แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 16:20:47 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 16:19:36 จากคุณ : ถนนสายเดียว เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:19:11

ความคิดเห็นที่ 3 แกงเขียวหวาน/ เป็ดย่าง/ ต้มจืดลูกรอก+หมูเด้ง/ ผัดผักรวมมิตรกุ้ง/ ทอดมัน/ ยำปลาดุกฟู ของหวานก็พวกขนมทองต่างๆ ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง จากคุณ : Ployrity เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:22:12

ความคิดเห็นที่ 4 น้ำพริกผัก+ปลาทู หรือปลาดุกย่างค่ะ ของหวานเค้กเลยค่ะ จากคุณ : pandorako เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:24:13

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกคนนะค่ะ.. เมนูที่เราคงจะขาดไม่ได้จากที่ดูๆมา น่าจะเป็นแกงเขียวหวาน น้ำยา ลาบด้วยดีไหม... จากคุณ : cherry82 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:29:19

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องมีลาบด้วยค่ะ หมายถึงโชคลาภ น้ำพริก ผักต้องเยอะๆ , ขนมจีน น้ำยา จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:31:36

ความคิดเห็นที่ 7 อาหารที่พระฉันได้ง่ายๆ ไม่ยากนัก....แต่ต้องเลือกอาหารถวายสักหน่อย เพราะว่าเป็นพระ มิได้เป็นฆารวาส จึงจะต้องรักษาท่าที การฉันตามสมควร เพราะว่าคุณโยมชอบจ้องดูพระเวลาฉันอยู่ บางทีก็ฉันไม่ลง เพราะสายตาที่จับจ้องมองว่าพระฉันของคุณโยมรึยัง ... บางทีอิ่มแปล้ คุณโยมผู้่เป็นยายถามว่า อ้าว พระ ของโยมยายพระไม่ฉันรึ ..... โอวววววว จะอ้วกอยู่แล้วโยมยาย นึกตอนที่บวชอยู่วัดบวรฯครับ โยมพ่อแม่ โยมญาติมากมายเอาอาหารเพลมาถวายที่คณะ โอ้โห... ฉันไม่หมด ปกติเป็นคนทานน้อย เลยเคยแซวว่า อาตมาฉันไม่หมดเป็นแน่ ต้องรอไปจนชาติหน้ากว่าจะฉันได้หมดนะโยม ... แล้วอาหารแต่ละอย่าง ก๋วยเตี๋ยวบ้าง สเต็กบ้าง แล้วจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการฉันบนโต๊ะ .. เช่น ก๋วยเตี๋ยว ก็ต้องตะเกียบ แต่ที่วัดนี้ จะต้องไม่เอาเส้นเข้าปากแล้วสูดเข้าซู้ดๆ จะโดนท่านเจ้าคุณดุ เอา ก็จะต้องใช้ช้อมส้อม ตัดเส้น แล้วก็เข้าปากทีละคำ อย่างเรียบร้อย หรือจะเป็นสเต็ก ก็ต้องให้โยมตัดมาเป็นชิ้นๆ พอดีคำ โดยเวลาฉันบนโต๊ะจะต้องไม่มีการหั่นแบบฝรั่งอังกฤษ หรืออเมริกันครับ ทั้งพระและลูกวัดอิ่ม อ้วนท้วนสมบูรณ์กันถ้วนหน้า....อยู่ดีกินดี น้ำหนักขึ้นมากกว่าเดิมหลังจากลาสิกขาบถครบพรรษาแล้ว... โอยยยย อาตมาลุกไม่ขึ้น.... แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 16:33:52 จากคุณ : sundancer เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:33:11

ความคิดเห็นที่ 8 ของคาว ขนมจีน แกงเขียวหวาน ลาบหมู ผัดผักรวมมิตร (เพิ่มวิตามิน) แม่เรามีเพิ่ม ปอเปี๊ยทอด และก็ กุ้งแช่น้ำปลา ให้ด้วย ของหวาน ผลไม้ ขนมทองหยอด ทองหยิบ ขนมชั้น ทุเรียน เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย เล็งไว้เลยค่ะ ทุเรียน พระฉันเรียบร้อย เสร็จเราทุกครั้ง ^___^ จากคุณ : หลงทางยังหาเจอ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:42:50

ความคิดเห็นที่ 9 อาหารที่ท่านฉันง่ายๆ และไม่มีขายตามแผงขายอาหารให้เราๆซื้อใส่บาตรครับ  ถ้าเป็นพระชาวอิสาน อาหารอิสานครับ แกงกะทิมันๆควรงด มาเป็นแกงเลียงแกงส้ม กับไช่เจียวร้อนๆหอมๆ ของหวานพวกทองๆๆๆงดเถอะครับ ถ้าถวายแล้วรวยทอง ก็คงดีและสุขภาพสังขารท่านคงแย่ๆๆๆๆๆ ขอยืนยันตามความเห็นที่๗ อีกเสียงครับ จากคุณ : ลุงทอม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:43:22

ความคิดเห็นที่ 10 เรานึกถึงอาหารที่คนส่วนมากไม่ค่อยมีใครทำถวายพระค่ะ ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ+เครื่องเคียง+น้ำซุป ข้าวผัดน้ำพริกเผา+เครื่องเคียง+น้ำซุป ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ทอฟฟี่เค้ก ไอติม+ท็อปปิ้ง มะม่วงน้ำปลาหวาน จากคุณ : 2tuk_ja เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:44:29

ความคิดเห็นที่ 11 อืม.......... อาหารไทยชื่อมงคล..... ๑.ลาบ ออกเสียงตรงกับ ลาภ กินแล้วมีโชคลาภ ๒.ถุงทอง ๓.กระทงทอง ฯลฯ ขนมไทยชื่อมงคล..... ๑.ทองหยิบ หยิบเงิน หยิบทอง ทำให้นึกถึงความร่ำรวย เพราะไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เป็นเงิน เป็นทองไปหมด ๒.ทองหยอด แทนคำอวยพรให้ร่ำรวย มีเงิน มีทองใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น ๓.ฝอยทอง ต้องเป็นเส้นยาวๆ นะคะ เพราะจะได้เป็นตัวแทนคำอวยพรให้รัก และครองคู่กัน ยืนยาวตลอดไป ๔.ขนมชั้น ต้องให้ได้ 9 ชั้น เพราะเลข 9 เป็นเลขมงคล และจะหมายถึงความก้าวหน้า ได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ๕.ทองเอก แสดงถึงความเป็นหนึ่ง และเป็นที่สุด ๖.เม็ดขนุน แทนคำอวยพรว่า จะทำอะไรก็มีแต่คนคอยสนับสนุน ค้ำจุน ให้เจริญก้าวหน้า ๗.จ่ามงกุฏ ให้เจริญก้าวหน้า เพียบพร้อมด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ ๘.ถ้วยฟู ความหมายตรงตัวค่ะ คือ มีแต่ความเจริญ เฟื่องฟู ๙.เสน่ห์จันทน์ ทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ มีแต่คนรักใคร่ ฯลฯ คหสต....."กับข้าวทำบุญเลี้ยงพระ คุณนึกถึงอะไร..." ผมจะนึกถึงกับข้าวหรืออาหารพื้นๆที่พระไม่ค่อยจะได้ฉัน เพราะคนไม่ค่อยถวายหรือใส่บาตร ด้วยนึกว่ามันธรรมดาเกินไป เช่น ก๋วยเตี๋ยว , อาหารอิสาน ฯลฯ ของหวานก็ไอศครีม เป็นต้นครับ จากคุณ : กุ๊กอ้วน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:48:03

ความคิดเห็นที่ 12 @ sundancer , ลุงทอม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ อาหารที่จะทำถวายจะเน้นสุขภาพของพระด้วยค่ะ ไม่ให้มันมากเพราะบ้านเราทำกับข้าวเองไม่ไปซื้อมาให้ท่านฉันค่ะ ^^ จากคุณ : cherry82 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:53:57

ความคิดเห็นที่ 13 จากกระทู้หากับข้าวเลี้ยงพระ... คงจะต้องทำกับข้าวเลี้ยงตัวเองก่อนแล้ว T___T เพื่อนๆทุกคนทำให้หิวมากๆเลย ขอบคุณทุกคำแนะนำนะค่ะ จากคุณ : cherry82 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:58:04

ความคิดเห็นที่ 14 คาว น้ำพริกปลาทูทอดชะอม  - แกงจืดเต้าหู้หมูสับสาหร่ายเห็ดเข็มทอง - ปลาทับทิมทอด3รส - ผัดผักรวมน้ำมันหอย น้ำพริกปลาร้าหลน/ทรงเครื่อง - เต้าเจี้ยวหลน -  ผักสด ผักลวก - ไข่ต้มยางมะตูม - ต้มจืดกระดูกหมูอ่อนเห็ดหอม - ผัดเปรี้ยวหวาน แกงส้มชะอมกุ้งสด - ไข่เจียว - ปลานิลทอด - คะน้าฮ่องกงผัดน้ำมันหอย หวาน น้ำแข็งไสใส่เครื่องครบ (ดับร้อน) - ผลไม้ตามฤดูกาล กาแฟเย็น ชาเขียวเย็น ชานมเย็น  ชามะนาว จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 18:10:47

ความคิดเห็นที่ 15 นึกถึงพวกอาหารที่ไม่ได้มีซื้อใส่บาตรทั่วไปอ่ะค่ะ จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 19:29:45

ความคิดเห็นที่ 16 ผมแนะนำผัดไทย + หอยทอดคับ เพราะเป็นเมนูที่พระได้ฉันน้อยมากบางวัดแทบไม่เคยได้ฉัน เพราะเป็นอาหารขายเย็นๆค่ำๆ พระคงเบื่ออะคับแกงส้ม,พะโล้,แกงเขียวหวานฯลฯ หรือเป็นกับข้าวธรรมดาแล้วมีเมนูพวกนี้ใส่จานไว้บนโต๊ะพระจะได้เลือกฉันได้ จากคุณ : ลุงพุงโต (LungPungTo) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 21:40:50

ความคิดเห็นที่ 17 ปกติ เลี้ยงพระจะไม่เน้นความหมายของอาหารค่ะ เพราะที่เคยทำ แกงเขียวหวาน ลาบ ประมาณนี้ พระเบื่อค่ะ ฉันน้อย แต่พอทำอะไรที่ไม่ค่อยมีคนถวายพระ พระฉันเยอะค่ะ เพิ่งไปเลี้ยงพระทั้งวัดมาค่ะ วัดไกลเมือง มีแกงส้มชะอมกุ้ง หมูแดง ปลาสลิดทอด ผัดผักรวมมิตร ชมพู่ ฝรั่ง ทุเรียน ผัดผัก ชมพู่ ฝรั่ง เหลือมากกว่าอย่างอื่นค่ะ แกงส้มหมด ^O^ ไม่รู้ว่าความเห็นจะเป็นประโยชน์ป่าวเนอะ เห็นแม่บอกว่า เดี๋ยวหลังเข้าพรรษา แม่จะไปเลี้ยงส้มตำพระอยู่ ไม่รู้แปลกป่าวเนอะ จากคุณ : tataay เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 21:42:13

ความคิดเห็นที่ 18 อย่านำเสนออาหาร ไขมันสูง  และ  อาหารหวาน    เพราะจะทำให้พระสุขภาพไม่ดี ควรนำเสนอ  อาหารเพื่อสุขภาพ   รสชาดอาจไม่ถูกปากนัก     แต่พระไม่ได้อยู่เพื่อกิน    คนถวายก็ได้บุญมากเพราะคิดข้ามช๊อทไปถึงอาหารที่ฉันนั้นดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพพระ จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 22:08:21

ความคิดเห็นที่ 19 มาสนับสนุนว่าเมนูสารพัดแกงกะทินี่ พระท่านฉันบ่อยแล้ว แต่ถ้าเป็นพวกน้ำพริกผักทอดนี่น่าจะได้ทานไม่บ่อย จากคุณ : LazBue เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 22:41:26

ความคิดเห็นที่ 20 ที่บ้านเคยทำง่าย ๆ เลยไข่เจียวเสริฟ์ร้อน ๆ อร่อย ผัดผักบุ้งไฟแดง ร้อน ๆ รับรองออกไม่ทัน เพราะตอนทำบุญให้แม่ แล้วไข่เจียวกับผัดผักบุ้งนี่ต้องเติมรอบสองรอบสามเลย  อาหารอย่างอื่นเหลือเพียบ ส้มตำ ไก่ย่าง น้ำตก ข้าวเหนียว อันนี้พระจะไม่ค่อยได้ฉัน  รับรองคนถวายปลื้มแน่ ๆ บะหมี่เกี้ยว เสริฟ์ร้อน ๆ ตั้งหม้อใหญ่ ๆ เลย เสริมด้วยข้าวมันไก่หรือข้าวหมูแดงหมูกรอบ ก็ดี บรรดาแกงกะทิ พระท่านคงเบื่อ(ขนาดเรายังเบื่อ) เลี้ยงอาหารจานเดียว(แต่มีสองสามอย่าง) รับรองพระฉันได้มากแน่นอน ตอนทำบุญงานศพพ่อแฟน  หลวงพ่อที่วัดคุ้นเคยกับญาติของแฟน  ท่านบอกเลย   "โยมอาหารเลี้ยงพระเช้าไม่ต้องจัดอะไรมากหรอก  เอาแค่กะเพราะไก่ ไข่ดาว ก็พอ" (เพราะหลวงพ่อได้ยินที่ปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำเลี้ยงพระกันดี) ท่านฉันแบบ สองจานรวดเลย เสริฟพร้อมแกงจืดแก้เผ็ดให้ท่านพร้อม จากคุณ : ชมพรกร เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:33:42

ความคิดเห็นที่ 21 เสริมให้อีกหน่อย ต้องดูด้วยว่าพระที่นิมนต์มาฉัน เป็นคนมาจากภาคไหน.. ให้จัดถวายตามวัดนั้น อย่างวัดราชาฯ นี่มาจากทางใต้เยอะ...  จริงอยู่ พระไม่ได้อยู่เพื่อฉัน แต่ต้องเห็นใจพระด้วยว่า มีวิธีการฉันอย่างไร ในเมื่อไม่เคยฉัน และไม่ถูกปากเอาเสียเลย สมมติว่าถ้าอยากถวายเป็นข้าวแช่ ก็ต้องวัดบวรฯ วัดมกุฏกษัตริยาราม วัดราชบพิตร วัดเบญจมบพิตร เป็นต้น อย่าลืมนะว่า การจ้องดูพระฉัน พระก็เขินเป็นเหมือนกันนะจ๊ะ ....ให้ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชายคอยปรนนิบัติ คุยเป็นเพื่อนพระผู้ใหญ่ คนสองคนพอแล้ว ส่วนคุณโยมท่านอื่นๆ ก็ถอยห่างออกไปก่อนรอฉันเสร็จจึงค่อยเข้ามารับศีลรับพร....และที่สำคัญ คุณโยมสีกา อย่านุ่งกระโปรงสั้นๆ เข้ามาในเขตวัดอย่างเด็ดขาด นอกจากดูไม่ดีแล้ว ยังทำให้พระนั้นจิตใจสั่นไหวอีกด้วย ยิ่งพระบวชใหม่แล้วเนี่ยะ อยากสึกวันนี้พรุ่งนี้เลย ... ขำๆนะครับ แต่ก็ไม่ควรนะครับ จากคุณ : sundancer เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:36:57

ความคิดเห็นที่ 22 ไข่เจียวร้อน ผัดผักร้อน น้ำพริกอร่อยๆซักถ้วย ที่เหลือยังไม่รู้ครับ แต่ที่แน่ๆไม่ทำแกงเผ็ดทุกชนิดเพราะปกติใส่บาตรก็ใส่แต่แกงกันอยู่แล้ว จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 17:58:24

ความคิดเห็นที่ 23 แนะนำน้ำพริก  กับผักค่ะ  ผักสด  ผักลวก   ก็ควรจัดทำผักให้พอดีคำท่าจะได้ฉันสะดวก ปลาย่าง  รึ  ปลาสลิดทอด  แกะ  ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ แกงจืด  ไข่เจียว  ผัดผัก และผลไม้  ตามฤดูกาล เมนูง่ายๆ  แต่ว่าเพื่อสุขภาพ สบายใจคนถวาย  ดีต่อสุขภาพพระสงฆ์จริงๆนะคะ จากคุณ : หมอเมืองเหนือ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 19:57:06

ความคิดเห็นที่ 24 ปกติแล้วผมจะเลือกถวายแต่ของที่กินง่าย ตักง่าย เพราะนึกถึงตอนที่พี่ชายตัวเองบวชครับ กลับมาเล่าให้ฟังเยอะแยะมากมาย พวกขาหมู แกงกะทิ กินแล้วไขมันพุ่งพรวด ผมไม่เลือกเลยครับ เห็นใจพระ คนธรรมดากินบ่อยๆยังแย่ แล้วเป็นเมนูยอดนิยมต้องกินแทบทุกวัน ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วย ส่วน ปู กุ้งที่ต้องแกะ ต้องแงะ นี่ก็ไม่เอาเหมือนกันครับ เพราะพี่ชายเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนบวชไปกิจนิมนต์แล้วโต๊ะจีนเอาเมนูปูตัวใหญ่มาเสริฟ แต่พระทั้งโต๊ะไม่ฉันครับ มันแกะยากเลยเหลือไว้ ทั้งๆที่เมนูอื่นเหลือน้อย ฟังแล้วเสียดายของครับ ส่วนประสบการณ์ล่าสุด ไปถวายเพลที่วัดเทพศิรินทร์ มีมังคุดเป็นของหวาน แต่ลืมแกะไปครับ มีดก็ไม่ได้พกไป เลยต้องหิ้วกลับ เพราะไม่สามารถถวายทั้งเปลือกได้ครับทางวัดไม่ยอม นึกภาพพระมานั่งแกะมังคุดแล้วซู๊ดเข้าปากมันก็ไม่งามจริงๆน่ะ >_<" แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 20:26:12 จากคุณ : หมูทำไรก็อร่อยยกเว้นข้าวมันไก่ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 20:21:28

ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่งทำอาหารใส่ปิ่นโตไปถวายเพลพระ 1 รูป มี 1.  หมูผัดกะปิ 2.  มะระผัดไข่ 3.  ยำหอยนางรม 4.  ข้าวแดง 5.  ชมพู่ 6.  ลิ้นจี่ 7.  สละ จากคุณ : ท้ายวัง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 15:01:08

ความคิดเห็นที่ 26 ต้มเลือดหมูร้อนๆครับ พระไม่ค่อยได้ฉัน จากคุณ : นกกระยางขาว เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 13:51:38

ความคิดเห็นที่ 27 อาหารที่ดีต่อสุขภาพค่ะ เพราะพระเลือกไม่ได้ จะฉันได้ก็เลือกจากที่ญาติโยมถวายนั่นแหละค่ะ อีกทั้งที่ รพ.สงฆ์ มีพระป่วยเพราะอาหารจำนวนมาก จากคุณ : เจ้าหนูจริงจัง เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 00:19:57

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านไม่หมดทุกคห.นะคะ แต่เพิ่งดูผอ.รพ.สงฆ์ในรายการอะไรซักรายการนึง บอกว่า พระสงฆ์ เลือกไม่ได้ อาหารถวายพระ อย่าเลือกแต่ของอร่อย ให้มีเมนูเพื่อสุขภาพด้วย ระวังของหวานจัด เค็มจัดด้วยนะคะ จากคุณ : nang เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 22:18:04