ความคิดเห็นที่ 1 เอ ... จะโดนฟ้องมั้ยนี่เรา ... จากคุณ : som1598 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 09:39:07

ความคิดเห็นที่ 2 เคยอ่านเจอเรื่องประมาณนี้เมื่อตอนเด็กๆเหมือนกันค่ะ จำไม่ได้ ว่าอยู่ในหนังสือเรียนรึเปล่า สงสารเหมือนกันถ้าเป็นจริง แต่ปัจจุบัน มีสัมปทานรังนก ทำให้เรื่องเหล่านี้น่าจะถูกควบคุมในระดับหนึ่ง เว้นแต่พวกที่ลักลอบเก็บแหละค่ะ อาจจะมี นกก็เดือดร้อน แต่โดยส่วนตัว ก็ไม่กินทั้งรังนกทั้งหูฉลาม เพราะแพง ไม่มีตังซื้อค่ะ555 และคงไม่โดนฟ้องหรอกค่ะ เราแค่อยากแชร์และแสดงความเห็น ไม่ได้หมิ่นประมาทใคร อิอิ จากคุณ : diyamoto เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 09:54:51

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท.ลองsearch หาข้อมูลเพิ่มดูก็ได้นะครับ รังนกที่สีแดง เกิดจากแร่ที่อยู่บริเวณ ที่นกทำรังซึมเข้ามาผสมกับรังนกจนเกิดสีแดง หรือว่าเกิดจากเลือดที่มาจากพ่อแม่นก เรื่องเก็บรังนก ก็ลองค้นหาดูครับ ว่าเขาเก็บตอนนกทิ้งรังแล้ว หรือว่าเก็บตอนสร้างใหม่ๆ ให้คิดง่ายๆ ถ้านกถูกเก็บรังจนวางไข่ไม่ได้ พ่อแม่นกจะไปทำรังที่บริเวณเดิมหรือครับ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 09:57:01

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ diyamoto ... ผมเคยซื้อให้ญาติผู้ใหญ่กับคนที่นับถือน่ะครับ กินเองก็เฉยๆและรู้สึกแพงเกินไป กินวุ้นมะพร้าวอร่อยกว่า 555 คุณ boychon ... ประเด็นที่ยกมานี่น่าสนใจมากครับ มันก็คงเป็นไปได้ด้วย ผมถึงต้องออกตัวไว้ก่อนว่าไม่รู้เรื่องจริงรึเปล่า ถ้าไม่ได้ไปรังแกนกมากนัก ชาวบ้านมีรายได้ก็อาจเป็นเรื่องดีก็ได้เนอะครับ ไว้ว่างๆจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ จากคุณ : som1598 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 10:06:30

ความคิดเห็นที่ 5 เคยมีคนบอกว่าฟอร์เวิร์ดเมล์นี้ไม่ใช่เรื่องจริงครับ รักนกสีแดงอะไรนั่นก็แร่ธาตุซึมมาทั้งนั้น จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 10:13:21

ความคิดเห็นที่ 6 จากนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก บอกว่ารังนกเลือดไม่ได้เกิดจากเลือด แต่เกิดจากแร่ธาตุตามผนังถ้ำซึมเข้ามา ในทางแพทย์แผนจีน รังนกเลือดจริง ๆ ก็ไม่ใช้เลือดนะ แต่สีมันแปลก เอามาเรียกราคาได้ แล้วก็ไม่ได้มีสรรพคุณมากไปกว่ารังนกธรรมดาเลย คือเหมือน ๆ กัน เนื่องจากขั้นตอนการล้าง...สีมันจะออกไปเกือบหมด ก็จะมีพ่อค้าหัวใสบางราย เอาสีอื่นเติมเข้าไปเพื่อเรียกราคาลูกค้าก็มี จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 10:32:34

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณ Mea Culpa และคุณ saturn_eyes มากครับ ... กลายเป็นกระทู้หว้ากอไปแล้ว 555 จากคุณ : som1598 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 10:41:41

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ที่แน่ ๆ วารสารฉลาดซื้อ หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ วันนี้ รายงานว่า จากวารสารฉลาดซื้อ ทำการวิจัย รังนกบรรจุขวดในท้องตลาด 4 ยี่ห้อ พบว่า 3 ยี่ห้อ มีรังนกแท้ แค่ 1 % อีกยี่ห้อ มีไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ วิจัยคุณค่าทางอาหาร รังนก 1 ขวด มีคุณค่า เทียบเท่า ถั่งลิง 1 เม็ดครับ ถ้าจะให้คุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่า ไข่ไก่ 1 ฟอง ต้องทานรังนกขวด ถึง 25 ขวดครับ พี่น้อง อืมม์ Packaging , Presentation = Propagonda ครับ จากคุณ : สุกรสยาม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:07:43

ความคิดเห็นที่ 9 รังนกเลือด ไม่ใช่เกิดจากเลือดนกนะคะ แต่เป็นแร่ธาตุนี่นา รู้สึกว่าจะมีรังนกแบบนี้ ในกรณีที่นกทำรังในถ้ำอ่ะค่ะ และจากที่เคยศึกษามา รังนกที่เค้าเก็บไปขาย คือรังนกที่นกทิ้งรังแล้ว คือนกจะไม่นอนในรังนะคะ นกจะใช้เล็บจิก แล้วนอนตามมุมต่างๆ ส่วนรัง สร้างเมื่อตอนจะวางไข่ และไว้เป็นที่นอนของลูกเมื่อออกไข่ เมื่อลูกแข็งแรง ก็จะทิ้งรัง ออกบิน และนอนเหมือนพ่อแม่ค่ะ คือไม่ได้นอนในรัง ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ที่อ่านมาได้ข้อมูลมาแบบนี้ค่ะ แต่เชื่อว่ามีพวกนักธุรกิจบางคน ที่ขาดจิตสำนึก ไปเอารังมา ทั้งๆที่ลูกนกยังไม่ทิ้งรัง ซึ่งถือว่าเห็นแก่ตัวมากๆ จากคุณ : apple of one's eye เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:12:39

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องจริงครับ นกตัวนึงจะสร้างรังได้ประมาณ 3 ครั้ง จากคุณ : Holy_Pop เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:22:05

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ apple of one's eye ไม่ใช่พวกนักธุรกิจหรอกครับ ที่จะเสี่ยงตายปีนขึ้นไปสูงๆ เพื่อนเก็บรังนก แต่จะเป็นขโมยมากกว่า ที่จะแอบเข้าไปขโมยรังนกคนอื่นมา พอเข้าไปได้ก็เลยโกยเต็มที่ไม่สนใจว่านกจะทิ้งรังหรือยังครับ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:26:37

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนตัวแล้วคิดว่าแพง และไม่มีประโยชน์ จึงไม่ซื้อมากินค่ะ แต่ถ้ามีคนเอามาให้คนที่บ้าน ก็กินค่ะ (แต่ก็ไม่อร่อยอ่ะ) จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:28:53

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นไปโพสต์ที่ห้องชายคาก็มีค่ะ แต่เค้าว่าลองดูรายการกบนอกกะลาแล้วจะรู้ว่าหนังคนละม้วนค่ะ นี่ก็ว่าจะไปดูย้อนหลังเหมือนกันอยากรู้ ๆ จากคุณ : NN2704 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:29:18

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ผมรู้เลือด ไม่ว่าคนหรือสัตว์ แห้งแล้วเป็นสีคล้ำดำครับ จากคุณ : KillingMoon เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:30:37

ความคิดเห็นที่ 15 คห11 คุณ boychon จริงด้วยค่ะ คนพวกนี้ขาดจิตสำนึกเต็มๆ จากคุณ : apple of one's eye เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:36:52

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วสลดใจจังเลยนะคะ  โดยเฉพาะรังนกที่แลกด้วยเลือด ประกอบกับอ่านที่คุณ ค.ห. 8 แล้ว  รังนก 1 ขวด = ถั่วลิสง 1 เม็ด  โหๆๆๆราคาตั้งเกือบ 100 ถึง ร้อยกว่าบาท เราว่านะ  ทานอาหารครบ 5 หมู่ ที่เป็นข้าวราดแกง+น้ำ+ผลไม้ ยังมีเงินเหลือเลยเนอะ จากคุณ : OKEOKE เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:48:37

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าอยากใ้ช้ชีิวิตแบบเป็นสุข ก็พยายามอย่าอ่าน FWM ปัญญาอ่อน ทั้งหลายเลยครับ ถ้าว่างๆ ก็เชิญห้อง อับดุลหว้ากาม ก็ได้ แฉจนเบื่อกันไปหมดแล้ว แต่ .... ก็ยังมีบางคนขยันเชื่อ fwm ปญอ อยู่ได้ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:52:33

ความคิดเห็นที่ 18 และที่สำคัญ  มีรังนกแท้100%อยู่ในขวดเล็กๆนี่ แค่ 1% เท่านั้น ที่เหลือเป็นน้ำตาล ซะ 80%   จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 12:32:40

ความคิดเห็นที่ 19 มีตังก็กินไป ................ ถ้าคิดว่าฉลาดแล้วที่กิน  เงินใครเงินมัน   ส่วนตัวไม่เคยคิดจะกินทั้งน้ำไก่ดำ ทั้งรังน้ำลาย    เพราะคิดว่า  เอาเงินจำนวนที่เท่ากัน ไปหาไรกินที่ได้ประโยชน์มากกว่านี้ได้หลายเท่านัก    เรื่องแบบนี้  มันแล้วแต่คน  คนกิน  ยังไงก็ต้องแถหรือแก้ตวแทนอยู่แล้ว   คนไม่กินก็ต้องพุดอีกอย่าง   สรุป  ปากใครปากมัน   เงินใครเงินมัน  สมองใครสมองมัน    ทุกอย่างก็ จบ จากคุณ : Dek Chan เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 12:50:40

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ซื้อกินอยู่แล้วครับ (ยกเว้นปีใหม่คนให้มา) รู้สึกมันก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น(ในความรู้สึกผมนะ) กินสลัดน้ำใสยังแลดูมีประโยชน์มากกว่า จากคุณ : ซุปหางเต่า เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 14:17:37

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ แล้วถ้ารักนกนั้นสร้างในตึกล่ะคะ สงสัยว่าตึกปูนมีแร่ธาตุด้วยหรอ???? พอดีบ้านอยู่ข้างตึกนกนางแอ่นค่ะ แถวบ้านเราจะซื้อตึกเพื่อให้นกนางแอ่นมาทำรัง ตกลงว่าสีแดงๆนั่นเป็นแร่ธาตุที่มาจากปูนซีเมนต์หรอค่ะ?? ถ้าในถ้ำอาจเป็นไปได้ว่าแร่ธาตุ แต่ตึกปูนนี่สิ คิดไม่ออกค่ะ อยากได้ข้อเท็จจริงๆ >_<' จากคุณ : JJ_narak เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 15:18:28

ความคิดเห็นที่ 22 มีคนมาให้ความจริงแล้วก็ยังมีบางคห.เชื่อว่ามาจากเลือดอยู่อีก เฮ่อ... จากคุณ : กระต่ายซากุระ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 16:14:56

ความคิดเห็นที่ 23 แฉโฆษณาเวอร์รังนกแท้ 100% แท้จริงมีผสมแค่ 1%!!         มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ ส่วนประกอบของรังนก บนฉลากส่วนใหญ่มีแค่ 1% ชี้ ทางผู้ประกอบการธุรกิจโฆษณา ร้อง อย.ทบทวนการอนุญาต ใช้ข้อความบนฉลากที่ทำให้ผู้บริโภคสับสน             วันนี้ (21 ก.ค.) ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดกาญจนบุรี และศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดสมุทรสงคราม แถลงข่าวผลการดำเนินงานคุ้มครองความปลอดภัยด้านอาหารและเฝ้าระวังโฆษณา ผลิตภัณฑ์สุขภาพบนสื่อวิทยุชุมชุนและเคเบิลทีวี อันเป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลไกการคุ้มครองความ ปลอดภัยด้านอาหารโดยผู้บริโภคภายใต้การสนับสนุนของแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.)       น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้รับการร้องเรียนจากกรรมการผู้จัดการบริษัท โฆษณารายหนึ่ง กรณีนำเสนอส่วนประกอบของรังนกสำเร็จรูปผ่านป้ายโฆษณาของตนว่า รังนกสำเร็จรูปชื่อดัง ใส่รังนกแท้แค่ 1% เศษ แล้วโดนผู้ประกอบการเครื่องดื่มรังนกร้องสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และได้รับคำตัดสินจากสมาคม ว่า เป็นการกระทำผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพโฆษณา แต่ตนไม่เห็นด้วยในคำตัดสิน จึงได้มาร้องมูลนิธิช่วยพิจารณา             “หลังจากการศึกษาข้อมูลโดยเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์รังนกสำเร็จรูปเท่าที่หาได้ ในตลาดจำนวน 4 ตราสินค้า เน้นเรื่องส่วนประกอบของอาหาร พบว่า ประเด็นที่ผู้ร้องนำเสนอนั้นเป็นข้อมูลจริงจากฉลากอาหารของผลิตภัณฑ์ โดยจำนวน 3 จาก 4 ตราสินค้า มีรังนกแห้งเป็นส่วนประกอบ แค่ 1% เศษจริง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเป็นกำลังใจให้กับผู้ร้องในการให้ข้อมูลกับผู้บริโภค ผ่านสื่อโฆษณาของตนต่อไปและพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อสู้คดีในกรณีที่ถูกฟ้อง ร้องจากบริษัทผู้ประกอบการบริษัทผลิตรังนกสำเร็จรูป” น.ส.สารี กล่าว             นายพชร แกล้วกล้า ผู้ประสานงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลไกการคุ้มครองความปลอดภัยด้าน อาหารโดยผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า กรณีรังนกสำเร็จรูปนี้ ในเรื่องของการแสดงส่วนประกอบ พบว่า ในสองตราสินค้า คือ สก็อต และ แบรนด์ ระบุแค่น้ำตาลกรวด 10-12% กับ รังนกแห้งที่ 1.1-1.4% ส่วน เอฟแอนด์เอ็น โกลด์ ระบุว่า มี นมโค 19% รังนกแห้ง 0.16% (เป็นวงเล็บ) นมผงขาดมันเนย 4.8% และส่วนประกอบอื่นๆ อีกเล็กน้อย ทั้ง 3 ตราสินค้านี้เมื่อรวมส่วนประกอบของแต่ละตราสินค้าจะไม่มีตราสินค้าใดครบ 100% ประเด็นคำถาม คือ แล้วส่วนประกอบส่วนใหญ่ที่ขาดหายไปคืออะไร สภาพวุ้นที่มีในสินค้าแต่ละขวดเป็นส่วนประกอบของอะไร มีเพียงตราสินค้าเดียวที่แสดงส่วนประกอบครบ 100% คือ เบซซ์ ที่ระบุว่า มีน้ำ 83.8% น้ำตาลกรวด 15.0% และ รังนก (ก่อนต้ม) 1.2% เป็นส่วนประกอบ นอกจากเรื่องส่วนประกอบที่ได้แจ้งไปแล้ว             “ยังมีประเด็นปัญหาอื่นด้านฉลากที่ก่อให้เกิดความสับสนกับผู้บริโภค เช่น การอนุญาตให้ใช้คำว่า รังนกแท้ ก่อให้เกิดความสับสนกับผู้บริโภคในส่วนประกอบได้ โดยทำให้ผู้บริโภคคาดหวัง สัดส่วนของเนื้อรังนกในปริมาณที่สูงมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยไม่ได้ สนใจเรื่องว่าเป็นรังนกแท้ๆ ที่ไม่ใช่รังนกปลอม (มีใช้คำนี้ใน 2 ตราสินค้า คือ สก็อต และแบรนด์ ขณะที่อีก 2 ตราสินค้าที่เหลือใช้แค่คำว่าเครื่องดื่มรังนก) นอกจากนี้ การอนุญาตให้ใช้ข้อความบนฉลากโดยใช้คำว่า 100% จากถ้ำธรรมชาติ ถือเป็นการอ้างแหล่งที่มาและอาจจะเข้าข่ายการโฆษณาบนฉลากหรือไม่ โดยที่ผู้บริโภคทั่วไป เข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้ได้รับการรับรองจากจากอย. ซึ่งอย.ควรจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า อย.สามารถรับรองตามที่ผู้ประกอบการอ้างได้จริงบนฉลากทุกขวดหรือไม่” นายพชร กล่าว             นายพชร กล่าวด้วยว่า จึงขอแจ้งและเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทบทวนการอนุญาตให้ใช้ข้อความบนฉลากที่อาจก่อให้เกิดความสับสน และยกเลิกการให้โฆษณาบนฉลากอาหารเหล่านี้ พร้อมปรับปรุงฉลากอาหารให้เป็นมิตรกับผู้บริโภคแทน ผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2554 17:24 น. http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9540000090047 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 54 17:07:11 จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 17:06:01

ความคิดเห็นที่ 24 -.- ถ้าเก็บรังไปก่อนที่นกจะได้ใช้รัง แล้วนกมันคงจะกลับมาไข่ที่เดิมหรอกนะ เอาง่ายๆ แค่นกกระจอกแถวบ้าน ท่านไปตัดกิ่งต้นไม้ที่มันทำรังบ่อยๆ มันก็ไม่มาแล้วครับ นกมันไม่ได้โง่ขนาดที่จะมาทำรังซ้ำเรื่อยๆ กับจุดที่คนรื้อรังเรื่อยๆหรอก จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 17:11:28

ความคิดเห็นที่ 25 เจอกระทู้รังนกเยอะแฮะ - พวกที่สร้างตึกให้นกมาอยู่ ก็จะได้รังนกธรรมดา ไม่ใช่รังนกเลือด ถึงจะเป็นรังนกถ้ำก็ใช่ว่าจะเป็นรังนกเลือดเสมอ แล้วตึกที่นกจะเข้าไปอยู่ได้น้อยมากที่จะหลอกนกสำเร็จ ต้องมีปัจจัยหลายๆอย่างด้วย - นกมันกลับมาสร้างรังที่ถ้ำเดิมเสมอ ยกเว้นถ้ำนั้นไม่มีที่ว่างให้ทำรังแล้วหรือมีคนมารบกวนมันมากเกินไป เค้าเก็บรังกันตอนที่นกออกไปหากินแล้วออกจากถ้ำก่อนนกจะกลับ จากคุณ : Star of Bethlehem เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 18:32:11

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องที่โพส น่าจะเป็นแบบเรียนในสมัยเด็กๆครับ (เล่,ใดวิชาใดผมจำไม่ได้) เป็นเรื่องของการเก็บรังนกครับ ในเนื้อหาเท่าที่จำได้ จะเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพเก็บรังนกขาย มีการตัดไม้ไผ่ไปเสริม สร้า้งที่ปีนเก็บ  มีอุปกรณ์ที่ใช้เก็บ มีการพูดถึงคนบาดเจ็บถ้าตกลงมา (อาชีพที่อันตรายมาก) และก็มีการกล่าวถึงการเก็บรังนก  ว่า คนเก็บจะเลือกเก็บแค่รังที่ 1 กับ 2 เพราะพ่อแม่นกจะทำรังที่จุดเดิม  พอถึงรังที่สามเขาจะไม่เก็บแล้วเพราะนกจะทำรังไม่ทัน รังที่นกทำบางครั้งแห้งไม่ทัน แต่แม่นกต้องวางไข่ ทำให้ตัวติดกับรังตายคารังก็มี หรือไม่ก็เป็นรังที่คุณภาพต่ำเพราะมีขนนกปนเปิ้อน ส่วนที่เป็นรังสีแดง ก็มีการกล่าวไว้เช่นกัน ว่าเป็นเลือดจากตัวนกที่ขากน้ำลายมาทำรัง เนื้อหาทั้งหมดในหนังสือก็มาจากปากคำของคนเก็บรังนกละครับ สมัยนั้นคงยังไม่มีใครมานั่งทำวิจัยหรอกว่า ทำไมมันถึงแดง แต่ผมว่ามันเป็นกุศโลบายให้เก็บกันแต่พอเพียงนะครับ ถ้านกตาย ปีหน้าเขาจะเก็บอะไร จริงไหม???? จากคุณ : A.J.100 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:34:21

ความคิดเห็นที่ 27 เดี๋ยวไปถามอาโกข้างบ้านเจ้าของตึกนกแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ จากคุณ : JJ_narak เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 17:41:32