ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยค่ะ ว่าที่มีรูปมากมายได้ขนาดนี้ คนเขียนป่าวทำตัวเป็นชูชกนะคะ คืออยู่บอสตันมาเจ็ดปี มีโอกาสนู่นนี่ให้พรรคพวกลากไปลากมากันหลายรอบอยู่เลยเก็บแต้มมาได้เป็นจำนวนที่ดูสยองขนาดนี้ แหมๆ ถ้ากินแบบนี้ทุกบ่อยๆ ก็คงกระเป๋าแห้งอยู่ล่ะค่ะ ตอนปีแรกๆ บ่จี๊ ก็กินร้านแบ๊วๆก่อน ร้านดีๆนานๆที หลังๆนี่ เป็นเด็ก ป เอก ทางโรงเรียนเค้ามี stipend ให้ เริ่มรุ่มรวยขึ้นมา (บ้าง) ที่เอาเงินทองมาลงทุนกับอาหารมากมายขนาดนี้ก็เพราะเด็กเนิร์ดอย่างเราไม่มีเวลาไปใช้เงินอะไรมาก กินกับเที่ยวเมื่อโอกาสอำนวย (เที่ยวนี่บางทีก็ป๊ะป๋าสปอนเซอร์) ที่เหลือก็หมกหัวทำแลปไม่ได้ลืมตาดูโลกกับเค้าเท่าไรค่ะ อย่างส่วนตัวแล้วแทบจะไม่ช็อปปิ้งอะไรทั้งสิ้น รองเท้ามีคู่เดียวคือผ้าใบคู่ชีพ แต่พอมาเรื่องกินนี่เรื่องใหญ่ ไหนๆเก็บตังค์ไว้แล้ว ถ้าจะถลุงก็ขอถลุงกับการกินหน่อยเถอะค่ะ เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ แหะๆ (เหมือนจะออกตัวยาวไปหน่อย แต่เห็นกระแสบุฟเฟต์หัวละหมื่นแล้วแอบสยองน่ะค่ะ คือ Mneme มีเพื่อนซื้อกระเป๋ารองเท้าแพงงงงงๆๆๆๆ ก็ไม่ได้ไปตัดสินอะไรเค้า ส่วนเราก็มีทางคลายเครียดของเราด้วยการกินแทนการช็อป ถือว่าทางเลือกใครทางเลือกมันนะคะ เปิดประเด็นมาแล้วก็ขอรบกวนพี่ๆน้องๆใจดีอย่าใช้เวทีนี้มาถกเรื่องการใช้เงินกันต่อเลยค่ะ หนูรู้ว่ารวมๆแล้วมันกระฉูดมาก แง้ว) ออกทะเลไปแล้วก็กลับมาสู่รายการร้านอาหารกันดีกว่า เลือกย้ากยากว่าจะลงอย่างไรดี ลงทีละร้านก็จะปาไปเจ็ดสิบความเห็น ในที่สุดก็คงต้องยอมแพ้ให้กับความขี้เกียจ แคปจอมาลงเป็นแถบๆเลยละกันนะคะ ห้าร้านแรกเริ่มด้วยแนวอิตาเลียน Gran Gusto  ร้านอิตาเลียนหน้าใหม่ที่มาแรง ร้านนี้ calamari อร่อยที่สุดในสามโลก และ white truffle pizza ก็เป็นพิซซ่าที่หรูสุดที่เคยทาน http://www.grangustocambridge.com/ Giacomo’s นี่เป็นร้านดังเดิมคู่บอสตัน ได้ yelp ถึงสี่ดาวครึ่ง บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง เป็นหนึ่งใน attraction ของบอสตันไปแล้ว ข้อเสียคือไม่รับจอง ไปทีต้องอึดต่อคิวเป็นชมๆถึงจะได้ทาน http://www.giacomosblog-boston.blogspot.com/ Altastrada ร้านนี้อยู่ถึง Wellesley ค่ะ ขับรถออกไปราวครึ่งชม แต่รสชาติเยี่ยม แนะนำโดยเพื่อนชาวอิตาเลียนค่ะ เชฟคือ Michael Schlow เจ้าของ Radius อีกร้านในดวงใจของเรา http://www.altastradarestaurant.com/ Figs นี่เป็นร้านของเชฟ Todd English พิซซ่า ทำสดๆจาก brick oven ราคาย่อมเยา http://www.toddenglish.com/ และ Panificio ร้านนี้ดังเบเกอรี่เพราะคุณเชฟเป็นรุ่นที่สามของครอบครัวช่างทำขนม พาสต้าที่นี่ก็น่าทาน โดยเฉพาะ Lobster Ravioli ค่ะ http://www.panificioboston.com/index.html จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 04:28:35

ความคิดเห็นที่ 2 มาต่อกันด้วยร้านญี่ปุ่นค่ะ ต้นๆอาจมีร้านที่รีวิวแล้วเยอะหน่อย เพราะยังพอ group ได้ หลังๆคงจะคละกันมากขึ้นเพราะหมดแรงแยกค่ะ แหะๆ เอาที่แยกได้ออกให้หมดก่อนแล้วค่อยร่ายยาวนะค้า อย่างแนวญี่ปุ่น เรามีทั้งในและนอกบอสตัน ในบอสตัน ร้าน Toraya เอย ร้าน Oishii ทั้งสองสาขาเอย อีกทั้ง Douzo และ Fish Market เคยนำมายำๆรวมกันแล้วรีวิวไปแล้วหนหนึ่งค่า Boston Restaurant Review Episode 3: Japanese restaurants รวมร้านญี่ปุ่นเด็ดๆทั่วบอสตัน http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2009/09/D8369844/D8369844.html คราวที่แล้วไม่มีรูป ร้าน Toraya คราวนี้มีตรึมค่า ตอนนั้นที่รีวิวยังไม่ได้ไปลองร้าน Uni เลย ตอนนี้เก็บ Uni ไปแล้วแต่ยังเหลือ Oya http://www.oyarestaurantboston.com/ ณ วันนี้มีร้าน Basho มาเพิ่ม มีรูปอีกห้าสิบกว่ารูปเพราะมีช่วงหนึ่งปลื้มมาก ไปกินบ่อยเลย จริงๆแล้วเหมือนจะเป็นเจ้าของเดียวกับ Douzo ล่ะค่ะ แต่ดันมาเปิดใกล้ที่ทำงานกว่าเลยเสร็จเรา http://www.bashosushi.com/ เพิ่งเห็นว่าเวปลงทุนต่างกันมาก  ของ Douzo เวปหรูเชียว http://www.douzosushi.com/ ส่วน Minado แอบอยู่นอกเมืองถึง Natick ต้องขับรถไปเหมือนกันค่ะ แต่มันเป็นซูชิญี่ปุ่นที่คุ้มและอลังที่สุดที่หาได้ในบริเวณใกล้เคียงแล้วค่ะ สนนราคาก็ปาไป Lunch: Monday - Friday: $17.75, Saturday - Sunday: $21.75, Holidays*: $21.75 Dinner: Monday - Thursday: $29.95, Friday - Sunday: $31.95, Holidays*: $31.95 เวปหรูเช่นเคย http://www.minado.com/ ร้านนี้มีไว้ชวนไปเยอะๆกินกันเอามันส์ค่ะ แข่งกันยัดทะนานเอาให้คุ้มว่างั้น ไปทีไรไม่ต้องกินข้าวไปอีกหนึ่งวันเต็มทุกที จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 09:27:16

ความคิดเห็นที่ 3 น่าทานดีจัง อันที่จริง รีวิวไหนก็ได้ค่ะ น่ากินหมดเลย 5 5 5 เลือกไม่ถูกชอบหมดเลย^^ ห่างไกลบ้าน เสียดายจังง ดูจากรูปขอเลือกเป็นร้าน Giacomo's ละกันค่ะต้องต่อแถวห้ามจองจะเด็ดขนาดไหนต้องขอติดจอรอรับชมด้วยละกันค่ะ ^^ จากคุณ : NokJbz เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 09:33:43

ความคิดเห็นที่ 4 อีกสามร้านนี่ต้องเมาท์กันหน่อย เริ่มจาก Sushi Zo ร้านนี้อยู่ไกลถึง Los Angeles แต่เราก็ดั้นด้นกันไป เป็นร้านระดับเมพ ที่ใครดูเดี่ยวของโน้ตอุดมก็จะพอเข้าใจอารมณ์ คือเป็นประเภทร้านเล็กๆ ลุงคนปั้นดูหน้า จ้องตา แล้วเสิร์ฟเดาใจลูกค้า เข้าไปนี่ต้องสั่ง omakase หรือ “ตามใจเชฟ” เท่านั้น เวลาเสิร์ฟจะมาทีละคำ แล้วจะบอกเลยว่า จานนี้ห้ามจิ้มโชยุ จานนี้กินในคำเดียว ฯลฯ พออาหารวางก็จะเจอสายตาพิฆาตมาจากหลังบาร์ จ้องงงงง จ้องงงงงง เป็นอันต้องทำหน้าอร่อยน้ำตาไหลพรากเหมือนในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น เค้าจะส่งของเรียงลำดับมามี progression ของรสอ่อนออกมาก่อนไม่ให้ทำลายลิ้น กลบรสจานต่อไป ข้าวนี่ต้องแตกในปาก ขำมากคือมีแปะป้ายไว้ที่ร้านเลยว่า สงวนสิทธิ์ขอเชิญลูกค้าออกจากร้านได้หากเจ้าของร้านไม่พอใจ เหวอออออ สนนราคามื้อนี้ ร้อยกว่าเหรียญต่อหัว เอิ๊กสสส์ แต่มีคนอร่อยน้ำตาหยดจริงๆไปหนึ่งคน (ไปกันสี่) ร้านถัดไปคือ Sushi Ota นี่อยู่ San Diego จำได้ว่าอร่อยมากทุกอย่างแต่ Uni หรือ หอยเม่นนี่ขึ้นสวรรค์ไปเลย และสุดท้าย ใครไปต่อเครื่องที่ Narita อาจได้เคยแวะไปลิ้มลอง เป็นร้านเล็กๆที่สนามบิน แต่ถือว่าไม่เสียชื่อ แหม ก็อยู่ในประเทศเจ้าตัวทั้งที เราก็ชอบแวะ เพราะถึงไม่มีบุญได้ออกไปกินปลาสดในเมืองก็ขอได้กินปลาญี่ปุ่นแท้ๆก็ยังดี จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 09:41:46

ความคิดเห็นที่ 5 เอารูปหอยเม่นไปดูกันเต็มๆตา... ...ไม่ต้องมีคำบรรยายจริงๆค่ะ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 09:45:19

ความคิดเห็นที่ 6 โม้ไปเสียไกล ร้านที่เหลือจะไปถึงมั้ยนี่ ถัดมาเอาแนวอินเตอร์ๆหน่อยละกันค่ะ เริ่มจาก Blue Ginger ร้านของเชฟดัง Ming Tsai เชฟหมิงแกมีรายการทำอาหารเป็นของตัวเองออกทีวีทุกอาทิตย์เชียวนะ คือรายการ Simply Ming แถมล่าสุดเฮียไปแข่งรายการ Next Iron Chef ด้วยล่ะ http://ming.com/blueginger/overview.htm ต่อด้วย Muqueca ร้านอาหารบราซิลเลียน ท่รสชาติแปลกใหม่มีเอกลักษณ์ http://www.muquecarestaurant.com/ Cuchi Cuchi นี่เป็นจานเล็กๆคล้ายๆ tapas แต่นานาชาติมาก ไม่ใช่แค่อาหารสเปนอย่างเดียว บนเวปร้านเขียนไว้งี้เล้ย "Tomatoes and oregano make it Italian; wine and tarragon make it French; sour cream makes it Russian; lemon and cinnamon make it Greek; soy sauce makes it Chinese; garlic makes it good." - Alice May Brock http://www.cuchicuchi.cc/ อีกอันนี่ฮาๆเป็นไก่ทอดแฟรนไชส์ยอดฮิตจากเกาหลีที่มีชื่อว่า BonChon Chicken ตอนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของร้านชื่อ Privus แต่ตอนนี้ย้ายไปเปิดร้านใหม่แล้วค่ะ อย่าเห็นว่าเป็นเพียงไก่ทอดขำๆราวเคเอฟซี เจ้านี้ทำให้คนติดหนึบจนต้องไปกินทุกอาทิตย์เป็นเวลาสิบเอ็ดอาทิตย์ติดกันมาแล้ว โอ้ว แม่เจ้า ไก่ทอดนี่ทอดสองรอบ กรอบนอกนุ่มใน รสเผ็ดนี่เผ็ดหลุดโลกจนน้ำตาไหลแต่สะใจคนชอบแซ่บๆนักแล ข่าวว่าตอนนี้เพิ่งเปิดสาขาในไทย กรี๊ดกร๊าด จขกทยังไม่ได้กลับไทยไปชิมแต่เพื่อนๆไปจัดการมาแล้วยืนยันว่าได้ใจ http://www.bonchon.com/ ส่วนสุดท้าย Small Plates อันนี้ tapas แท้ๆ เราเคยรีวิวไปพร้อมกับร้าน Toro แต่เห็นแล้วก็ยังชอบใจ วันนั้นถ่ายรูปได้สวยดี อิอิ http://www.smallplatesrestaurant.com/ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 10:11:11

ความคิดเห็นที่ 7 เก็บตกร้านนอกเมืองทีเคยไปลัลล้ามา ซานฟรานยังมี La Folie ร้านนี้ดีกรีมิชเชลลินสตาร์ มี Foie gras ชิ้นใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิต http://www.lafolie.com/ โพรวิเดนซ์ ณ โรดไอร์แลนด์ มีร้าน Mill's Tavern ข่าวว่าดังต้นๆของเมืองแล้วล่ะ http://www.millstavernrestaurant.com/ วอชิงตันดีซีนี่ก็แรงใช่ย่อย เริ่มด้วยร้านญี่ปุ่นที่เด็ดขาดบาดใจ อร่อยทุกจานจริงๆ ร้านตกแต่งทองระยับอีกต่างหาก คือร้าน SEI http://www.seirestaurant.com/ ต่อด้วยร้านอาหารใน Hotel Tabard Inn สี่ดาว yelp เป็นประกัน http://www.tabardinn.com/restaurant และร้านฝรั่งเศสจ๋าอย่างร้าน Bistrot Du Coin ที่รสชาติเหมือนไปทานที่ฝรั่งเศสกับบรรยากาศบ้านๆเป็นกันเอง http://www.bistrotducoin.com/ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 10:25:22

ความคิดเห็นที่ 8 มีนิวยอร์กกระเด็นมาสองร้านคือ CAVA ของ Todd English อีกแล้วครับทั่น วันนั้นแจกทีเด็ดด้วยจานซุปหอยแมงภู่ไร้เทียมทาน http://www.cavatoddenglish.com/ กับร้าน PRINT ที่เดินมั่วๆไปเจอเพราะใกล้กับ Intrepid Sea, Air and Space Museum พอดิบพอดี แต่อร่อยประทับใจ http://printrestaurant.com/ นิวยอร์กนี่มีอีกหลายร้านมากที่ต้องกินให้ได้ก่อนกลับไทย มีคุณเพื่อนซึ่งเป็นนักชิมตัวยงไปชิมร้านเหล่านี้มา แล้วก็มาสาธยายสรรพคุณให้ฟังจนน้ำลายสอ ทั้ง Per se ของเชฟสุดดัง Thomas Keller เชฟเดียวกับ French Laudry พ่วงดีกรีมิชเชลลินสามดาว ที่ราคาแพงหูดับ ต้องเตรียมเก็บเงินตั้งแต่บัดนี้ http://www.perseny.com/ หรือ ร้านซูชิ Masa ที่อร่อยอย่างเทพเจ้ามาเอง (เช่นเดียวกับราคา) เชฟของมาสะนั้นเป็นเจ้าสำนัก เรียกว่าระดับพระอาจารย์ของเชฟร้าน Urasawa ที่ LA อีกที คุณเพื่อนไปกินมาหมดไปหลายร้อยเหรียญ แล้วมาพร่ำเพ้อให้เราอิจฉา http://masanyc.com/ อีกทั้ง wd~50 โดยเชฟ Wylie Dufresne ที่เคยเป็น sous chef ที่ร้านของ Jean Georges http://www.wd-50.com/info.html และ Red Rooster ของพี่ Marcus จากรายการ Top Chef Masters http://redroosterharlem.com/ ไม่ไหวแล้วจริงๆ น้ำลายฟูมปากกกกก จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 10:41:33

ความคิดเห็นที่ 9 แอบแยกกลุ่มขนมมาดีกว่า เริ่มจากร้าน Hot chocolate ชื่อดังที่ Harvard square ร้านนี้ช็อกโกแลตร้อนเค้าข้นคลั่กหอมกรุ่น ซดไปนี่เหมือนเอาช็อกโกแลตแท่งมาหลอมให้ทาน คนรักช็อกโกแลตนี่ถูกใจกันเป็นพรวน เราเคยคิดว่าร้านนี้มากาฮองอร่อย แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เพราะงานนี้มี Paulette ร้านมากาฮองสุดดังของซานฟราน ที่หลังจากซัดกล่องที่เห็นนี่หมดไปคนเดียวแล้ว... ...เราก็ไม่สามารถกล้ำกลืนของร้านอื่นใดแถวๆบอสตันได้อีกเลย (ประมาณว่าลิ้นมันกระแดะไปแล้ว) ตอนนี้ Boston มี  Max Brenner แล้วด้วยค่า กรี๊ด กร๊าด ล่าสุดก็ไปทานกันมาจนสำลักช็อกโกแลตตายกันไปข้าง ร้านนี้ for chocolate lovers only จริงๆ ตามมาด้วย Melting Pot ซึ่งเป็นร้านฟองดู มีฟองดูชีสด้วย น้ำมันด้วย แต่จะจัดเข้ากลุ่มกับของหวานมันซะงั้น แอบรีวิวแล้วค่ะที่ Boston Restaurant Review Episode 2: Fondue @ Melting Pot http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2009/09/D8341850/D8341850.html ต่อด้วย ร้านที่ Harvard square ชื่อ Daedalus จริงๆร้านเค้าออกแนวบาร์ อาหารก็โอเคๆ แต่เราชอบของหวานคือ Fallen Rum Glazed Bananas Caramelized bananas over pound cake with crème anglaise, drunken raisins + coconut ice cream มากเสียจนเห็นร้านนี้เป็นร้านขนมไปอย่างถาวรแล้ว http://ww.daedalusharvardsquare.com/ Temple Bar นี่จริงๆก็เป็นบาร์ เน้นค็อกเทลที่แสนครีเอทีฟ แต่เนื่องด้วยเราไม่ดื่มเน้นไปกินช็อกโกแลตฟองดู เราก็จะโมเมเป็นร้านของหวานอีกเช่นกัน ร้าน Le Craperie นี่เป็นร้านเครปสุดโปรดที่เพิ่งปิดกิจการไป แง้ๆ ส่วนร้านนี้โด่งดังของหวานจริงๆ คือร้าน  Finale ซึ่งมีในบอสตันเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว เรียกว่าเพื่อนบินจากไทยมาบอสตันกี่คนๆเราก็ต้องพาไปกินไม่เคยขาด ทาร์ตน่าทานนี่เป็น signature ของร้าน Café Venille ที่เค้กร้านนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ปิดท้ายเซ็ตด้วยร้านอาหารย่าน Beacon Hill คือ 75 Chestnut ที่ประทับใจกับ Crème Brulee Trio มากจนลากมาเป็นร้านของหวาน อิอิ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 11:11:45

ความคิดเห็นที่ 10 และแล้วก็มาถึงที่มาของชื่อกระทู้จริงๆเสียทีค่ะ หลังๆนี่เน้นไปทางร้านพวกเมนูเปลี่ยนตามวัตถุดิบเด่นในแต่ละวัน เลยมีรูปเยอะหน่อย รูปข้างล่างนอกจากที่หลุดๆกระเด็นผิดเหล่ามาสองสามอัน ทั้งหมดที่เหลือนี้เป็นแนว French กับ New American เป็นหลักค่ะ มีแนว Southern Soul Food ประปรายกับเค้าหน่อย เดี๋ยวนี้ฮิต ลองเลือกดูแล้วส่งเสียงโหวตเข้ามาละกันนะคะ เหอๆๆๆ เห็นลิสท์แล้วคนรีวิวยังสยองเลย เยอะแยะอะไรจะปาน มาดูรายชื่อกันเลยดีกว่า Sandrine's เป็นร้านฝรั่งเศสที่ ฮาร์วาร์ดสแควร์ ฟัวกราส์เทอรรีนสามแบบนี่ใช้ได้เลย Bartley's Burger เป็นเบอร์เกอร์ตามชื่อ แต่ดังกระฉ่อนมาก คิวยาวเหยียดทุกเสาร์อาทิตย์ เมนูจะตั้งชื่อล้อการเมือง มีเบอร์เกอณ์โอบามากับฮิลารี่ด้วย Troquet เป็นร้านฝรั่งเศสที่ดาวน์ทาวน์ หรู เริ่ด แพง แต่จานเล็ก Hungry Mother ร้านนี้เป็น Soul Food จ๋าๆ ทำได้อร่อยทุกจาน (ย้ำว่าทุกจานเพราะครั้งล่าสุดเราสั่งทุกอย่างบนเมนู เหอๆๆ) Henrietta's Table นี่บุฟเฟต์เค้าได้ตำแหน่งสุดยอดบุฟเฟต์วันอาทิตย์ในบอสตันเลยเชียวน้า ล่าสุดเราก็ได้ไปชิมมาล่ะ อิอิ Craigie on Main นี่ก็อีกหนึ่งร้านตัวเต็งอันดับต้นๆ ข่าวว่ามีเสิร์ฟหมูทั้งหัว เป็ดทั้งตัวให้ฝรั่งได้ตื่นตา Lineage นี่เพื่อนฝรั่งเค้าหาว่าเป็นร้านคนแก่เพราะบรรยากาศไม่ฮิป แต่เรากลับชอบเพราะแสนจะคลาสสิกแถมทำออกมาได้อร่อยเลิศ Hamersley’s Bistro นี่ได้ยินว่าเคยดัง แต่ตอนนี้น่าจะอันดับตกไปหน่อย เจอร้านใหม่ๆแซงหน้า Bergamot นี่ร้านใหม่ไฟแรง ไปทานมาสามสี่รอบ รอบล่าสุดนี่ทำออกมาได้เด็ดทุกจานแทบจะเลื่อนเกรดความสุดยอดให้ไปเทียบเท่ากับร้านมิชเชลลินบางร้านซะแระ Russell House Tavern จำได้เลาๆว่าเนื้อเสต็กชิ้นโตชุ่มฉ่ำของที่นี่อร่อยเอาเรื่องอยู่ Oleana ออกแนวอาหรับนิดๆเมดิเตอเรเนียนหน่อยๆ ตุรกีเยอะๆ (เอ๊ะยังไง) นี่ไปกินมาครั้งเดียวแต่ติดใจมากมาย ต้องหาเวลาไปอีก ซีดส์...ปาดน้ำลาย T.W. Food นี่ก็ฝรั่งเศสจ๋า มีทีเด็ดที่ Foie gras crème brulee ทำทำเสียเราละลายคาโต๊ะ Ten Tables นี่ร้านเล็ก โต๊ะน้อย จองยาก อาหารเมนูเปลี่ยนตามวันและความสดใหม่ของวัตถุดิบ EVOO นี่เป็นอีกหนึ่งร้านใหม่ที่ทำออกมาได้ครีเอทีฟ อร่อยสมเป็น fine dining experience แต่ละจานมีลูกเล่นให้ตื่นตา Abe and Louie’s นี่เป็นร้านสเต็กโดยเฉพาะ เนื้อชิ้นจัมโบ้ เวลลิงตันนี่ออกมาเพอร์เฟค สวรรค์คนกินเนื้อ Rialto อันนี้เคยรีวิวไปแล้ว แต่กลับไปหาในคลังกระทู้ไม่เจอเหมือนถูกลบไปด้วยประการใดไม่ทราบ เชฟโจดี้คนดังเค้าสร้างหน้าตาให้บอสตันโดยการไปออกรายการ Top chef masters ให้เป็นที่กล่าวขวัญ Rendezvous นี่ก็ร้านใหม่เอี่ยม วันนั้นไปสั่งปลากระเบนเหนียวงืด พอบอกไปเลยได้เรนโบว์เทราท์มาแทน เป็นเทราท์ที่อร่อยที่สุดในชีวิตเลย แก้มือได้ทันควัน Chez Henri นี่ก็ฝรั่งเศสจ๋าสุดๆ หอยนางรมสดมากกก duck confit นี่มาแบบมีเดียมกับซอสทับทิม เริ่ดๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 54 12:29:48 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 54 12:25:51 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 11:18:55

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อด้วย Upstairs on the square สารภาพว่าไม่มีจานไหนเตะตาจนจำได้ จำได้แต่ว่าโต๊ะสีม่วงมากกก ฮ่าๆๆ Capital Grille ร้านแนวคนชอบทานเนื้ออีกล่ะ สเต็กนี่อุณหภูมิเป๊ะๆ La Voile ร้านเค้าดีไม่ดีไม่รู้แต่วันนั้นสั่ง pate เป็นแอพแล้วซ่าสั่ง Foie gras เป็นจานหลัก...กระอักตับตาย Beacon Hill Hotel and Bistro เหมือนร้านจะรีวิวดี เราไปกินช่วง restaurant week มีรายการพิเศษลดราคา อาหารดีแต่บริกรบริการค่อนข้างแย่เลยแอบเคือง Petit Robert Bistro ร้านฝรั่งเศสอีกร้าน รู้สึกว่าเทียบกับร้านที่เล่ามาข้างยนๆจะด้อยกว่าเยอะอยู่ Great Bay มี pork belly ที่อร่อยที่สุดที่กินมาในชีวิต (แอบกระซิบว่ากินมาเยอะมากกกก) แต่ร้านเจ๊งไปแล้ว แล้วหนูจะหากินได้อีกที่ไหน แง้ๆๆๆ Legal Seafood ร้านเชนที่เน้นไปกินลอบสเตอร์ตัวยักษ์ Sibling Rivalry ชื่อร้านแอบมีนัยยะ แบบว่าพี่น้องสองคนเป็นเชฟ มีเมนูด้านซ้ายกับด้านขวา วัตถุดิบเดียวกันจะมีให้เลือกสองลีลาให้พี่น้องเค้าได้ประชัน butter scotch pudding นี่อร่อยสุดๆ Parker’s ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตามตำนานประวัติศาสตร์เค้าเล่ากันว่า Boston cream pie มีกำเนิดมาจากที่นี่ และแน่นอนเราเลยต้องไปท้าชิมที่แหล่งกำเนิด Bondir ร้านใหม่เอี่ยมอีกเหมือนกัน รีวิวเยลป์ดีกระฉูดมาก ทำเท่โดยการแปะแนวไว้ว่าเป็น Sustainable Modern American Cuisine เดี๋ยวนี้เค้าฮิตกันจัง ร้านนี้อร่อยได้ใจจริงๆ เพิ่งไปกินมาอาทิตย์ที่แล้วสดๆร้อนๆ แอบเอาคำโปรยในเวปมาให้อ่านขำๆ Bondir, located in Cambridge, Massachusetts, is a cozy, farm-house style restaurant with 28 seats and a small fireplace salon. The menus showcase the pastoral and marine bounty of our New England region and offer a finely curated selection of American and European wines and beers. Chef Jason Bond has spent 20 years in restaurants refining his technique and style, and has developed a simple philosophy of quality and care. Our offerings–vegetables picked the same day, fish hours out of the ocean, pasture-raised meats,–will change daily, and will always be tasteful in preparation and presentation. แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 54 12:47:03 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 11:21:23

ความคิดเห็นที่ 12 โฮกมากๆๆๆ จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 00:40:47

ความคิดเห็นที่ 13 ***  ปาด     ***   ปาด ***        ปาด     *** จากคุณ : ปาดศรี เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 10:11:58

ความคิดเห็นที่ 14 และแล้วรีวิวอย่างย่อ (มาก) ก็จบลงด้วยประการละเท่านี้ ใครอยากเห็นร้านไหนทนไม่ไหวก็ออกจากเงามาโหวตกันได้นะคะ อิอิ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 12:47:57

ความคิดเห็นที่ 15 อยากดูPaulette กับ La folie จังครับ ปีหน้าจะไป SF อิอิ จากคุณ : แตงโมน่ากิน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 23:56:29

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่า คุณ NokJbz จะเลื่อนๆ Giacomo ขึ้นมานะค้า homemade pasta กับลอบสเตอร์ตัวโตจะได้อวดโฉม ร้านนี้ถูกใจมวลชนมากค่า ดูคำนิยมได้จาก http://www.yelp.com/biz/giacomos-ristorante-boston คุณ L-Nets แอบกระซิบว่าตั้งกระทู้นี้นี่รอคุณ L-Nets มาเมนท์เลยนะคะ คุณ ปาดศรี ขอบคุณที่เข้ามาปาดค่า คุณ แตงโมน่ากิน ขอบคุณที่เข้ามาเมนท์นะคะ ปีหน้าจะไปซานฟรานเหรอค้า ขอแนะนำ Fleur De Lys กับ Gary Danko ค่า เด็ดกว่า La Folie อีก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mneme&date=07-12-2009&group=4&gblog=12 ถ้างบเยอะต้องนี่ค่ะ สุดยอด (เพื่อนไปทานมา) The French Laundry http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2011/03/D10383138/D10383138.html ว่างๆจะเอา Paulette กับ La folie มาลงนะค้า มันสวยมากๆเลยอ่ะ Paulette เนี่ย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 01:46:28

ความคิดเห็นที่ 17 มะวานซืนเราไปกิน Gran Gusto มาอีกรอบ พาสต้าแจ่มมาก เอาลอบสเตอร์มาแปะโชว์ค่า วันนี้คุยกะคุณเพื่อน คุณเพื่อนเกทับด้วยการไปกิน 14 course tasting menu ที่ Clio มา (เยอะว่าที่เรากิน 10 courses ไปคราวก่อน) ฟังเมนูแล้วน้ำลายฟูมปากอีกล่ะ (ข่าวว่ากินตั้งแต่หกโมงถึงสามทุ่มครึ่งเลยอ่ะ) จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 11:52:34

ความคิดเห็นที่ 18 เสียดายตอนเรียน Grad School ไม่ได้อยู่เมืองใหญ่ๆ T_T จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 12:51:01

ความคิดเห็นที่ 19 มาเงียบๆเลยนะคะคุณ Mneme :) Macaron น่ารักมากกกกกกกกกกก ถ้ามีโอกาสปีหน้าอยากจะบินไปกิน The Cheesecake Factory บ้างอะไรบ้างงง ~ :9 จากคุณ : pfau เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 18:14:55