ความคิดเห็นที่ 1 ผมยื่นข้อเสนอไปดังนี้ครับ 1. ทางผมเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล รวมทั้ง ค่าเสียเวลาทำมาหากิน ค่าทำขวัญ รวมทั้งอาการเจ็บป่วยอันจะเกิดทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เป็นเงิน 50,000 บาท ทางบริษัทไม่ให้ตามที่ขอครับ...บอกแต่เพียงว่าแก้วที่กินเข้าไปไม่มีอันตราย...แต่จะขอขวดที่มีปัญหาเอากลับไปตรวจสอบ ผมไม่ให้ครับ ไม่งั้นผมก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลยซิครับ ผมก็เลยยื่นข้อเสนอไปใหม่ว่า ถ้าขวดของเครื่องดื่มยี่ห้อชีวิตเกินร้อยของคุณ ที่คุณบอกว่าขายได้เดือนละเป็นร้อยล้านขวดของคุณ ที่ทำมาขายให้ควายอย่างผมกิน...ผมขอยื่นข้อเสนอใหม่ 2. ให้เจ้าของบริษัท เจ้านาย  บอสส์ หรือผู้มีอำนาจ ในบริษัทของคุณลองกินขวดแตกผสมน้ำยี่ห้อเกินร้อย ให้ดูหน่อยได้ไหม..ถ้ากินได้ผมจะไม่ขอรับเงิน 50,000 บาทของคุณเลย นี่คือข้อเสนอจากผู้บริโภคควายๆอย่างผมครับ พรุ่งนี้ผมจะมาอัปเดต ความคืบหน้าครับ พอดีลูกสาวตื่นมาอ้อนพอดี  ( ลูกสาวพึ่งออกมาได้ 14 วัน ครับ ) จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง)   เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 22:38:04 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:37:43

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นที่ 6     ขออนุญาตเล่าต่อนะครับ... ความตั้งใจของผมและน้องชายตอนแรกเราจะแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้มีหลักฐานในกรณีที่เราไปรักษาตัวในอนาคต บริษัทมันจะได้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล.. แต่เราก็มีทั้งขวดที่มีปัญหา มีรูปถ่าย พยานที่เห็นเหตุการณ์ หลายคน ( มันเกิดกลางตลาดคลองถม กรุงเทพฯ ) เพราะเราหยุดขายของ พาน้องไปโรงพยาบาล บริษัทมันจ่ายให้เพียง 1,200 บาท เราพาน้องไปเอ็กซเรย์ หาหมอ ที่ รพ.ยันฮี เอกชนนะนั้น หมอก็ไม่กล้ายืนยันว่าจะไม่มีอันตรายจากเศษแก้ว เราก็ไม่อาจทราบได้ เพรามันเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่มันอยู่ในกระเพาะ ในท้อง ลำไส้ ฯ มีแต่ไอ้บริษัทชีวิตเกินร้อย นี่แหละ ที่บอกว่ากินเข้าไปแล้วไม่มีอันตราย มันเยอะมากครับ ขนาดกินเข้าไปแล้ว ( ประมาณ 1ช้อนชาได้ครับ น้องมันเข้าใจว่าเป็นเกร็ดน้ำแข็ง ) ยังมีเหลืออยู่ในขวดอีกเลยครับ ผมถามกับคุณวีรพลบริษัทชีวิตเกินร้อย ของคุณมีความจริงใจในการเยียวยาผู้บริโภคหรือปล่าว คุณตั้งใจจะมาเอาแต่ขวดที่มีปัญหากลับไปไล่บี้เอาผิด กับบริษัทที่ผลิตขวดให้คุณ ซึ่งบริษัทชีวิตเกินร้อยของคุณ คงไม่เรียกค่าปรับจากบริษัทผลิตขวดให้คุณเพียง50,000 บาท อย่างแน่นอน เราเรียกค่ารักษาพยาบาลให้น้อง ค่าเยียวยาต่อร่างกายในปัจจุบันและอนาคต เราไม่อยากรับเศษเงินของมันแล้ว เราไม่อยากทำตามคำขอที่ไม่อยากให้เราแจ้งความ ให้บอกใครๆ แจ้ง อ.ย. ส.ค.บ. บอกพี่ๆน้องๆ ตามความรู้สึกเรามีความรู้สึกว่า บริษัทชีวิตเกินร้อยเอาเปรียบต่อผู้บริโภคควายๆอย่างน้องผมและตัวผมมาก แฟนผมด่าทุกวันกินทำไมว่ะ! ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย ตอนนี้ผมเลยตัดสินใจกันว่า.. 1.ถ้าเจ้าของบริษัทชีวิตเกินร้อยของคุณ ผู้จัดการ บอสส์เล็กบอสส์ใหญ่ของคุณ กินเศษแก้วเศษขวดบรรจุน้ำเกินร้อยได้ เพราะทางบริษัทบอกว่า เศษแก้วที่กินเข้าไปไม่มีอันตราย กินเข้าไปแล้วร่างกายไม่เป็นอะไร 2.ถ้ากินได้ให้ผมกับน้องชายดูผมไม่เรียกร้อง ไม่แจ้งความ ไม่มีปากมีเสียง ไม่มีสิทธิ์โวยวาย นอกจากจะตายไปอย่างสงบ เพราะความเป็นควายโง่กินกันอยู่ได้อย่างที่แฟนผมด่าทุกวัน วันนี้ผมจะรอคำตอบจากคุณวีรพลจากบริษัทเครื่องดื่มชีวิตเกินร้อย ว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของเรากับน้องได้หรือปล่าว... เพราะแค่กินแก้วเข้าไปในท้องเอง มีอะไรผมจะมาอัปเดตเล่าให้ฟังทุกวันเลยครับ ผมมีรูปเศษแก้วในขวด รูปขวดที่ปากขวดด้านในมันแตกจากการฉีดขวดมา ไม่ได้มาตรฐาน ขวดทั้งสามใบอยู่ที่ผม ขอปรึกษากับตำรวจหรือพี่ๆในห้องนี้ว่าผมจะดำเนินการอย่างไรได้บ้างครับ ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง)   เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 08:38:41 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:38:20

ความคิดเห็นที่ 3 ความคิดเห็นที่ 25     สวัสดีครับ...ผมขออนุญาตเล่าต่อนะครับ ตอนแรกทางบริษัทคิดว่าทางผมกลั่นแกล้งเอาเศษแก้วใส่แล้วมา เรียกร้อง..ผมโมโหนะ เราบอกว่าเรากับน้องขายของตามตลาดนัด ข้างถนน ไม่โง่ แต่พอมีกิน ไม่ปัญญาอ่อนคิดอะไรชั่วๆขนาดนั้น ทางบริษัทคิดแต่ชื่อเสียงของแบรนด์สินค้า ไม่คิดเลยว่าเขาผลิต ของมาให้ผู้บริโภคกินเข้าไปในท้อง พอเกิดเรื่องก็ถือว่าตัวเอง ใหญ่กว่า จะเอาอย่างนั้น จะให้ทำอย่างนี้ คิดว่าผู้บริโภคควายๆอย่างผมกับน้องชาย คงไม่กล้าโวยวาย เศษเงินของบริษัท ที่หยิบยื่นให้เรากับน้อง 1,200 บาท( หนึ่งพันสองร้อยบาทถ้วน ) ค่าเอ็กซเรย์ ค่าพาน้องไปโรงพยาบาล ค่าหยุดขายของ ค่ากิน บริษัทให้ได้แค่นี้...เพราะบริษัทไม่มีนโยบาย เยียวยาให้กับผู้บริโภคควายๆอย่างพวกผม ไม่เคยคิดเลยว่า..การกินเศษแก้วเข้าไปในท้องไม่เป็นไร พอบอกว่าให้เจ้าของลองกินดูกลับเงียบ บริษัทคิดว่า เรากับน้องชายคงไม่มีปัญญาโวยวาย กับใครได้ คงลืมไปว่าผู้บริโภคอย่างเราก็มีพวกพ้องน้องพี่ ในพันทิพ ทุกทีผมจะอยู่ห้องชานเรือน กล้อง มาบุญครอง ชอบอ่านบ้างครั้งก็ตั้งกระทู้เรื่องลูกสาว ผมดีใจมากที่เข้ามาในห้องนี้ มีพวกพ้องน้องพี่ ที่ไม่อยากให้พวกผู้บริโภคอย่างเราต้องตกเป็นเบี้ยล่าง ของพวกนายทุนหน้าเลือด ไม่ยอมเสียเอาแต่ได้ ผมกับน้องชายตั้งใจจะสู้ให้ถึงที่สุด สู้ไม่ได้ก็จะสู้ ผมขายของข้างถนนมีมูลค่าทรัพย์สิน หลักสิบหลักร้อย บริษัท ชีวิตเกินร้อย มูลค่าทรัพย์สิน หลักหมื่นล้านบาท แต่เราไม่ยอมให้มาดูถูกคนจน ผู้บริโภคควายๆอย่างเราสองพี่น้องแน่นอน พรุ่งนี้คุณวีรพลผู้จัดการฝ่ายการตลาดจะมาพบผมกับน้อง แล้วผมจะมาอัปเดตให้ทุกคนรับรู้ทุกวันครับ ขอบคุณพี่ๆน้องๆในห้องศาลาประชาคม จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง)   เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 19:03:01 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:39:13

ความคิดเห็นที่ 4 ความคิดเห็นที่ 32     สวัสดีครับ...ขออนุญาตมาเล่าความคืบหน้าครับ วันนี้ตอนเช้า คุณวีรพลฝ่ายการตลาดเอาขวดที่ยืมไปตรวจสอบ ล๊อตการผลิตสินค้า ( มันมีทั้งหมด 3 ขวดครับ ผมให้ไปเป็นขวด ที่ไม่มีปัญหา แต่ซื้อมาพร้อมกัน ) ประโยคที่ได้ยินคือแบบเดิม คือ บริษัท ชีวิตเกินร้อย ไม่มีนโยบายในการเยียวยาผู้บริโภค ที่:-)โง่ กินเศษแก้ว ( ที่เกิดจากการผลิต โดยไม่มีการตรวจสอบให้ดีก่อน ) เข้าไป ถ้าเป็นอะไรแล้วจะพาไปหาหมอเอง เขาบอกว่าเขาช่วยได้แค่นี้จริงๆ ผมกับน้องชายเลยบอกว่าไม่เป็นไร หรอกครับ ในเมื่อเรื่องนี้ทางบริษัทคุณไม่มีนโยบาย ในการเยียวยา ผู้บริโภค หรือลูกค้าของคุณ ผมก็จะดำเนินการตามวิธีการของผม แล้วเขาก็เดินจากไป เหมือนกับว่า การที่สินค้าเขามีปัญหา มีอันตรายกับผู้บริโภค เป็นเรื่องเล็กน้อย ในสายตาของบริษัท คิดแต่เพียงว่า การกินแก้วเข้าไปในท้องไม่เป็นอะไรหรอก เพราะบริษัทถามหมอมาแล้ว แต่พอเราบอกให้เจ้าของลองกินบ้าง หรือให้หมอที่บอกกล้ายืนยันไหมว่าไม่เป็นอันตราย? ..เงียบ ไม่มีคำตอบ บอกแต่เพียงว่าเคยมีเคสแบบนี้ เกิดขึ้นในต่างจังหวัด แต่เป็นการกินผสมกับทินเนอร์ บริษัทพาไปหาหมอ มอบกระเช้า เรื่องก็จบ... ผมก็แย้งว่ามันคนละกรณีกันครับ อันน้ันมันเป็นการกลั่น แกล้งหรือปล่าวอย่างที่คุณบอกผม ผมไม่รู้ แต่ในเคสของผม... มันเกิดจากขั้นตอนการผลิต เกิดจากบริษัทที่ผลิตขวดบรรจุให้คุณ เกิดจากโรงงานของคุณ ที่ไม่มีการคิวซีให้รอบคอบ ซึ่งไม่รู้ว่ามันเล็ดลอด หลุดการตรวจสอบไปอยู่ในท้องตลาดเท่าไหร่แล้ว และมีคนที่ไม่ได้ดูให้ดีก่อนกินเข้าไปอีกเท่าไหร่ เพราะเดือนๆหนึ่ง คุณบอกขายได้เป็นหลักหลายร้อยล้านขวด แล้วคนกินที่ไหนจะมาส่องดูกับแสงแดด ส่องไฟดูว่ามีเศษแก้ว อยู่ในนั้นหรือปล่าว ยิ่งถ้าเป็นคนสูงอายุ คนต่างจังหวัด คนใช้แรง งาน ฯ ใครหน้าไหนจะมาคอยสังเกตุ ( ถ้าเป็นคนกินเหล้ายิ่งแล้วใหญ่ ) แทนที่จะรีบแก้ไข เยียวยาผู้บริโภค กลับแก้ตัวว่ากินแก้วเข้าไปในท้องแล้วไม่เป็นไร หรือรอให้ผู้บริโภคควายๆอย่างน้องผม หรือคนที่ดวงซวย กินเข้าไปแล้วมีปัญหา ไปฟ้องร้องเอา เพราะบริษัทเราใหญ่ มีทนายเก่งๆเยอะ ไว้คอยแก้ต่าง ผิดเป็นถูกได้ มีเงินซะอย่าง ผมคิดว่าในกรณีนี้ถ้าเป็นต่างประเทศ บริษัทพวกนี้จะมีความรับผิดชอบกับลูกค้าหรือผู้บริโภคมากกว่านี้ แน่นอน บางทีโดนฟ้องร้องกันบาน...เลย คุณวีรพลเขาบอกว่าที่น้องชายผมกับผมเรียกค่าเยียวยา ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียเวลาทำมาหากิน ค่ารักษาตัวอันที่จะเกิดในปัจจุบันและอนาคต..ฯ รวมกัน 50,000 บาท ( ห้าหมื่นบาทถ้วน ) มันไม่สมเหตุสมผล บริษัทไม่สามารถจ่ายให้ได้ (คือไม่มีนโบายของบริษัทจะเยียวยาให้กับผู้เสียหายหรือผู้บริโภค) ไม่เป็นไร...ไม่รับผิดชอบก็ไม่เป็นไร เราก็ไม่อยากรับเศษเงินของ บริษัท ชีวิตเกินร้อย อีกแล้ว เราเอาเรื่องนี้มาเผยแพร่ให้คนระมัดระวังตัวดีกว่า บางท่านเป็นห่วงผมกลัวจะโดนฟ้องกลับ ขอบคุณมากๆจากใจเลยครับ แต่การพูดเรื่องจริง การปกป้องน้องชายผม ( ผมเป็นคนซื้อให้มันกินครับ..) การโดนดูถูกเหยียดหยามว่า การกินเศษแก้ว..ในขวด ไม่เป็นไร ทุกคนที่อยู่ในประเทศนี้ ยอมรับกันได้ ผมก็ยอมครับ แต่ผมเสียเงินซื้อมานะครับ ไม่ได้ขอมากินฟรี ผมย่อมได้รับการคุ้มครองบ้าง มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้ผู้บริโภคคนอื่นได้รับรู้ จะได้เกิดความระมัดระวังกัน ไม่ใช่อะไรก็ต้องเงียบ...อย่างที่บริษัทบอกผมกับน้องชาย พรุ่งนี้ผมจะพาน้องชาย ไปแจ้งความ เพราะต้องไปขายของกัน เพราะเหตุเกิดที่คลองถม กรุงเทพฯ แล้วผมจะมาอัปเดตทุกวันเลยครับ ใจจริงอยากให้ห้องอื่นๆในพันทิพ ทราบด้วย จะได้ระมัดระวังกัน แต่ทำไม่เป็นนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจครับ จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง)   เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 16:14:26 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:39:50

ความคิดเห็นที่ 5 ความคิดเห็นที่ 51     มาอัปเดตเรื่องราวต่อนะครับ วันนี้ได้แจ้งเรื่องราวให้กับทาง อย.ทราบแล้วครับ เจ้าหน้าที่ได้รับทราบในข้อมูลเบื้องต้นแล้ว และได้ให้คำแนะนำ ในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับทางบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง โดยทางหน่วยงาน สคบ. จะแต่งตั้งทนายในการดำเนินการฟ้องร้องให้ โดยไม่ต้องให้เรา เป่็นผู้ฟ้องเอง ทางหน่วยงานของรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดครับ ในวันพฤหัสบดีนี้ ทางผมจะไปที่ สคบ. เพื่อให้รายละเอียดใน เรื่องราวทั้งหมด อีกทีหนึ่งครับ... ผมขอบคุณทุกๆความเห็น และคำแนะนำครับ ผมยังเชื่อมั่นในความยุติธรรม ไม่มีเจตนาจะไปกลั่นแกล้งบริษัท เครื่องดื่มชูกำลัง แต่ก็รับไม่ได้ที่ทางบริษัท บอกว่าเศษแก้วในขวด นั้นกินได้ แต่พอให้กินก็เงียบ...รับไม่ได้ที่คิดว่าตัวเองบริษัทใหญ่โต จะมาสั่งให้เรากับน้องต้องทำตาม เรากับน้องยินดีให้ตรวจสอบ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ครับ ว่าเศษแก้วนั้นมาจากการผลิต ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการกลั่นแกล้งเอาเศษแก้วใส่ในขวดเอง อย่างที่ทางบริษัทคิด แต่ถ้าใครได้เห็นหลักฐานขวดที่ผมเก็บไว้ แม้แต่เด็กประถมก็น่าจะทราบว่า เศษแก้วนั้นมันมาจากปากขวด ด้านใน ( ดูตามรูปนะครับ จะเห็นชัดมาก ) การเรียกร้องการเยียวยาจากบริษัท ก็ไม่ได้เกินเลยจากการต้อง ไปหาหมอเอ็กซเรย์ กลืนแป้ง อัลตร้าซาวร์บริเวณช่องท้อง ไหนจะต้องหยุดขายของไปหาหมอ ไม่มีรายได้ และผลกระทบกับร่างกายในอนาคตอีกครับ เมื่อบริษัทไม่มีนโยบายในการเยียวยาผู้บริโภค ก็แล้วแต่ครับ..ไม่เป็นไรครับ ผมกับน้องก็ขอต่อสู้แบบปกป้องสิทธิ์ ของผู้บริโภคแบบนี้เหละครับ ความคืบหน้าพรุ่งนี้จะมาอัปเดตต่อนะครับ จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง)   เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:06:59 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:41:33

ความคิดเห็นที่ 6 m 150 นี่บ.เดียวกับ m sport ใช่ป่ะคะ เมื่อก่อนเคยซื้อ m sport ยกลังแล้วเจอเศษแก้วชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปหมดเหมือนกันค่ะ  แต่เราเจอแบบเศษแก้วอยู่ในลังโดยที่ไม่มีขวดไหนแตกนะคะ  ส่วนข้างในขวดจะมีเศษแก้วปนหรือปล่าวก็ไม่ทราบได้เพราะไม่ได้ชิมค่ะ  แย่มากๆ จากคุณ : เอม (เอกนคร) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:05:43

ความคิดเห็นที่ 7 คิดถูกแล้วค่ะที่ไปหาอย.  สคบ เป็นเราๆไปตั้งแต่แรกที่บริษัทดูจะไม่รับผิดชอบแล้วววว คุณวีรพลนี่ก็ทำงานได้กากจริงๆ เสียชื่อเสียงหน้าตาองค์กร    แค่เยียวยาผู้บริโภคบอกไม่มีนโยบาย?? คุณขี้เกียจหรือโง่หรือดูถุกคนที่ได้รับคำตอบหรืออย่างไร ถึงกล้าตอบแบบนี้ โถ พ่อคุณ -*- จากคุณ : เจ็บแล้วจำคือคน !!! เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 19:29:01

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเกิดขึ้นที่ต่างประเทศนี่ไม่อยากจะคิดเลยค่ะ ว่าน้องชายคุณจะได้รับค่าเสียหายเท่าไหร่ แต่บังเอิญมันเกิดขึ้นที่เมืองไทยกับบริษัท ที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ ขอเอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : windystate เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 21:07:20

ความคิดเห็นที่ 9 สงสัยกลัวโดนไล่ออกไง (พวกที่รับผิดชอบสายการผลิต พวกตรวจสอบ)จะอุบอิบปัดๆไป ผู้บริหารไม่รู้ จากคุณ : *แอ๊ปเปิ้ล รสพีช* เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 21:50:25

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ ขอให้ได้รับความยุติธรรมด้วยคะ จากคุณ : Aromdee Jang เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:34:24

ความคิดเห็นที่ 11 อยู่เมกา ฟ้องร้องได้เป็นร้อยล้านบาท จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:57:23

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องออกสื่อถึงจะรับผิดชอบ จากคุณ : แม่พีทคุง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 23:10:28

ความคิดเห็นที่ 13 ฟ้องได้เป็นหลายล้านบาทเลยค่ะ บริษัท ที่เรารู้จักโดนมาแล้ว  เก็บขวดเป็นหลักฐานดี ๆ แล้วกันค่ะ ของอย่างนี้กลั่นแกล้งกันยากมาก  ยิ่งถ้าขึ้นศาลพิสูจน์  เวลาผ่าขวดออกมา  จะเห็นเกล็ดแก้วข้างในเต็มเลย จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 23:11:49

ความคิดเห็นที่ 14 เล่นมันเลย ! จากคุณ : kiknaka เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 23:57:07

ความคิดเห็นที่ 15 นี่แหละคะมุมมองของคนผลิต กับคนบริโภค มุมมองคนผลิตคือ แค่ 1 ในล้านขวด แต่มุมมองผู้บริโภคคือ 1 ขวดคืออันตรายต่อชีวิต ไม่ได้เข้าข้างทางผู้ผลิตนะคะ เพราะเข้าใจว่าถ้าเจอกรณีแบบนี้กับตัวเองก็คงเดือดเหมือนกัน สิ่งที่ดีที่สุดคือบริษัทควรขอโทษและออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นกำลังใจให้ต่อไปคะ จากคุณ : RxtacTop เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 00:22:38

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเป็นที่เมืองนอก อย่างนี้ไม่เหลือแน่ ๆ ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : triyapa เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:19:36

ความคิดเห็นที่ 17 อย่า ลืมค่าเสียเวลา ค่าศาล ก็ฟ้องมันหนักๆ เลย เสียเวลาเป็นเดือนๆ อาจจะมากกว่า ห้าหมื่นอีก เป็๋นเมืองนอก เสียเป็นล้าน จากคุณ : แก้วคุง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:18:18

ความคิดเห็นที่ 18 ห้าหมื่นน้อยไปป่าวครับ สัก5ล้านกำลังดี ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : BuKeZneB เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:30:28

ความคิดเห็นที่ 19 ดีที่ไม่ได้ให้ขวดไปนะคะ ฟ้องเลยค่ะ จะได้เป็นบทเรียนให้ผู้ผลิตบ้าง แล้วก็ผู้บริโภคคนอื่นๆ จะได้ระวังมากขึ้นด้วย จากคุณ : buaroll เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:33:27

ความคิดเห็นที่ 20 โห.. อุบาดชาดชั่วมากครับ เพียงแค่ 50,000.- ไม่จ่าย จะจ่ายแค่ 1200 เป็นเมืองนอกคุณและน้องชายคงได้เลิกขายของตลอดชีวิตแน่นอนครับ เมืองไทยเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป .. ผู้บริโภคฉลาดขึ้นเยอะครับ .. อย่ามาหลอกกันง่ายๆครับ จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:38:59

ความคิดเห็นที่ 21 เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย จากคุณ : สมควรโดน (ความเหงาล้อมเราไว้หมดแล้ว) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:55:58

ความคิดเห็นที่ 22 คงนึกว่าผู้บริโภค คือผู้ก่อการร้าย บริษัทไม่มีนโยบาย ในการเจรจากับผู้ก่อการร้าย จากคุณ : A.R.T. เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 11:08:46

ความคิดเห็นที่ 23 แย่มากบริษัทความรับผิดชอบต่ำ มีเงินจ้าง presentor มาหลอกลวงประชาชนแต่ไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ผมชอบ idea คุณนะ ให้ผู้บริหารมากดื่มจากขวดที่แตกให้ดู แล้วเป็นอันจบความ ไอเดียเลิศมากครับ จากคุณ : To die for เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 11:37:08

ความคิดเห็นที่ 24 น่ากลัวมากค่ะ พ่อเราก็ชอบซื้อกินจังเหมือนกัน ต้องเอาไปบอกให้ระวังบ้างแล้ว เราก็คิดเหมือนคห.อื่นๆนะ 50000 นี่่น้อยไป จากคุณ : นางมารร้ายสีชมพู เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 11:50:54

ความคิดเห็นที่ 25 ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ และเสียใจกับอาการบาดเจ็บของน้องชายด้วยนะครับ จากคุณ : tonnanie เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 12:03:54

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเคยได้ยินพ่อแม่ผมเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนที่ น้ำดื่มตราเชลซี(คงรู้นะว่า น้ำดื่มตราไหน) ครองตลาดอยู่นั้น  (ก่อนที่สัตว์ในตำนานของไทยอีกชนิดจะมาเปิดตลาดสู้ด้วย) ยี่ปั๊วที่ จังหวัดที่ผมอยู่  ต้องช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของ บ. น้ำดื่มนี้มาก  เวลาเจอสิ่งแปลกปลอมในขวดให้รีบทำลายทันที ไม่นั้น โควต้าคุณในงวดถัดไปตะลดลงทันที แล้วก็เจอหลายอย่างนะครับ เศษแก้ว  ผง  หรืออะไรต่างๆนานา  จะคืนก็ไม่ได้ ให้ ไอ้พวกที่มาส่งเห้นก็ไม่ได้นะครับ จะหาว่าคุณไม่รักษาผลประโยชนืของ บ. มัน จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 12:24:12

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยกับหลากหลายความเห็นค่ะว่า 50,000 น้อยไปจริงๆ เอาใจช่วยทุกท่านนะคะ จากคุณ : pinkynu เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 12:47:38

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่า ส่วนใหญ่ เค้าจะส่งไปรักษาตามอาการที่โรงพยาบาล และจ่ายในส่วนของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้บริโภค ตามที่แพทย์ได้แจ้ง ถ้าในกรณีนี้  ทางผู้เสียหาย ยื่นเรียกร้องค่าเสียหาย  ผมว่า  ท่าจะยากมาก ไม่งั้น คงมีพวกมามั่วนิ่ม (ซึ่งอาจจะเจ็บป่วยไม่จริง) เรียกร้องกันเป็นร้อย ๆ คน แต่ทางที่ดีที่สุด  คือ แจ้ง อย  และ สคบ ครับ  จัดการตาม กม. ต่อไป ถ้าทางโน้น ไม่คิดแต่เพียงแค่ จ่ายค่ารักษาเยียวยาผู้บริโภค จากคุณ : ... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:12:43

ความคิดเห็นที่ 29 สมควร บริษัทนี้ ทางที่ดี ควร เห็นใจผู้เสียหาย บริษัท ขายได้ ไม่รู้กี่ล้าน ทำได้ แค่นี้ เจ๊งๆ ไปเถอะ ถ้าเรื่องดัง คิดดูละกัน คนใช้แรงงาน ไม่กินของมัน เอาสัก เดือนเดี่ยวมันก็ เจ๊งแล้ว จากคุณ : pebaggio เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:15:13

ความคิดเห็นที่ 30 จะช่วยจายข่าวให้นะคะ พวกนายทุนนี่คุยแต่เรื่องผลประโยชน์จริง ๆ ความรับผิดชอบไม่มี สู้ ๆ นะคะ อย่างน้อยเพื่อเป็นตัวแทนของผู้บริโภคควาย ๆ อย่างเรา ต้องไปบอกคนงานที่ทำบ้านละ ว่าก่อนดื่มดูด้วยน่ากลัวมาก จากคุณ : NN2704 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:07:14

ความคิดเห็นที่ 31 ปกติก็กินยี่ห้อนี้นะ สงสัยเปลี่ยนยี่ห้อดีกว่า จากคุณ : [Sakura] เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:50:31

ความคิดเห็นที่ 32 น่าจะออกสื่ออื่น ๆ บ้าง เช่นทีวี หนังสือพิมพ์ บริษัทเหล่านี้เขากลัวเสียชื่อเสียงมากกว่าเงิน จากคุณ : อ.กรร เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:15:25

ความคิดเห็นที่ 33 ฟ้องได้จริง ๆ  ยังไม่ต้องถึงขั้นขึ้นศาลด้วย  เพราะ กม. product liability บ้านเรา อิงจากกม. ต่างประเทศ คำตัดสินจะออกมาในทำนองเดียวกัน รับรองว่า กระบวนการผลิตมีขั้นตอนที่สามารถคัดแยก defect แบบนี้ออกได้แน่นอน ยกเว้นแต่ชุ่ย ไม่ได้ฟ้องเพราะอยากได้เงิน  แต่ฟ้องให้รับผิดชอบมากกว่านี้  กำไรที่ได้มา ควรจะเพิ่มขั้นตอนมากขึ้น  ไม่ใช่ทำแบบสุกเอาเผากิน จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:28:27

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องฟ้อง เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ค่าเสียหายซักล้านหนึ่งกำลังสวย เพราะอันตรายมาก ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : somsaktee เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:49:15

ความคิดเห็นที่ 36 "บริษัท ชีวิตเกินร้อย ไม่มีนโยบายในการเยียวยาผู้บริโภค"  ว๊าวววว จากคุณ : nawinh เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 19:39:43

ความคิดเห็นที่ 37 แทนที่จะจ่าย5หมื่นแล้วทำหนังสือยอมความ แล้วทุกอย่างก็จบ ไม่เอา อยากเสียเงินเป็นล้านๆแทน อืมอยากรู้จังว่าผู้ใหญ่ในบริษัทคิดอะไรอยู่นะ เอาเลยค่ะฟ้องโลด ไหนๆทางนั้นเค้าไม่มีนโยบายเยียวยาผู้บริโภคแล้ว จัดหนักไปเลยค่ะ จากคุณ : ปูน้อยก้ามโต เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 20:33:17

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าทำเพื่อเอาเงินจริงๆ คงไม่เรียกแค่ 5 หมื่นหรอก คนที่มาดูแลเรื่องก็ชุ่ยจริงๆ จากคุณ : คุลาล่า เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 21:14:21

ความคิดเห็นที่ 39 ล้านนึงยังไม่คุ้มเลยค่ะ บริษัทแบบนี้ เก็บหลักฐานไว้ดีๆนะคะ บริษัทจะได้รู้ว่าการทำของสำหรับบริโภคแต่ไม่มียโยบายเยียวยาผู้บริโภคมันสาหัสขนาดไหน บริษัทอื่นจะได้ดูไว้เป็นเยี่ยงอย่าง จากคุณ : ฉันมันเป็นแค่ไส้ติ่ง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 23:18:15

ความคิดเห็นที่ 40 ดีนะที่เรากิน กระทิงดง กระป๋อง  55 จากคุณ : ผ่านมาอ่าน (doraemon_x) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 00:23:06

ความคิดเห็นที่ 41 เราแค่โดนผงแก้วเล็กๆตำนิ้วก็อักเสบแล้วปวดสุดๆละ นี่กินผงแก้วเข้าไปขนาดนั้น สุดสยองเลยอ่ะค่ะ คงไม่มีคนบ้าที่ไหนมาแกล้งบริษัทโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันหรอกค่ะ สนับสนุนให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมากกว่านี้ค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าผงแก้วที่ทานเข้าไปมันจะไปฝังตัวในอวัยวะส่วนไหน แล้วถ้ามันอักเสบ เกิดการติดเชื้อขึ้นมา อาจจะต้องผ่าตัดและรักษาอีกเยอะ อันตรายมากๆเลยนะ จากคุณ : ยัยใบเตย เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:25:22

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณที่มาแจ้งเตือนกันนะคะ ยี่ห้อนี้ญาติเราซื้อกินประจำเลยค่ะ       แต่ไม่เคยได้ระวังกันเลย จากคุณ : fuji_fancy เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:07:39

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาตแชร์เรื่องนี้นะคะ จากคุณ : ตะแบกน้อย เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:58:05

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากๆเลยครับ พอดีออกไปขายของมาครับ พอกลับมาบ้าน ก็เข้ามามาดู...รู้สึกอบอุ่นในความมีน้ำใจ ห่วงใย จากพี่น้องชาวพันทิพ มากๆเลยครับ ตอนแรกๆก็รู้สึก...ถอดใจ ไม่อยากจะไปสู้รบตบมือ กับบริษัท ชีวิตเกินร้อย หรอกครับ แต่เห็นความไม่แยแส ไม่กระตือรือล้น ไม่สนในอันตรายที่จะเกิดกับผู้บริโภค ไม่มีการไปตรวจสอบว่าในล๊อตที่ผลิตออกมา ยังมีขวดที่มันไม่ได้มาตรฐานหลงเหลือในท้องตลาด บ้างหรือปล่าว มีการตรวจสอบบริเวณที่จำหน่าย สถานที่หรือตัวแทนจำหน่ายที่ไปรับมาขายโดยการ ตรวจสอบย้อนกลับไปยังขั้นตอนการผลิตว่ามี ข้อบกพร่องในการผลิตอย่างไร จะได้รีบทำการแก้ไข ปรับปรุง ไม่เคยจะถามเราเลยว่าซื้อมาจากร้านไหน เวลา...วันที่เท่าไหร่  คิดได้อย่างเดียวว่าบริษัทกูโดนแกล้งจากบริษัทคู่แข่ง โดนแบล็คเมล์...จากสองพี่น้องหน้าตาโง่ๆ จากผู้ก่อการร้าย จากผู้ที่ไม่หวังดี ฯ ล ฯ บริษัท ชีวิตเกินร้อยของเรา ดีที่สุด อุตส่าห์ผลิตมาให้กินกัน ยังมาเรื่องมากอีก  ขายให้กินกันก็ราคาถูกจะตาย แค่ขวดละ 10 บาทเอง กำไรก็ได้นิดเดียวแค่ขวดละ 9.50 เราไม่เข้าใจในการแก้ไขปัญหา ของคุณวีรพล แห่งบริษัท ชีวิตเกินร้อย เลยครับคุณดูถูกผู้บริโภคมากเกินไป จิตใจของบริษัทคุณมันไม่เห็นเกินร้อยเลย จ้องแต่รักษาชื่อเสียง ของบริษัท ผู้บริโภคที่กินเข้าไป ร่างกายจิตใจจะเป็นอย่างไรช่างหัวมัน คิดได้เพียงอย่างเดียว ว่าเราเงียบๆไว้ บริษัทเงียบๆไว้ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก เดียวเรื่องก็เงียบไปเอง แล้วเขาก็ทำอย่างงั้นจริงๆครับ บอกจะให้หัวหน้าโทรมาก็เงียบ... คุณวีรพล ผู้ที่ไม่มีลิมิตร ชีวิตเกินร้อย ก็เงียบ... ไม่มีแม้แต่..จะโทรมาถามว่า ตอนนี้ผู้บริโภคควายๆตาย หรือยัง ติดเชื้อจากเศษแก้วในท้องบ้างไหม? ถ้าตาย...บริษัทจะมอบเงินให้อีก 1,200 บาท พร้อมเครื่องดื่มชูกำลัง อีก 3 ลัง  เงียบเลยครับ... แต่ไม่เป็นไร... ช่างหัวมัน  เรามีพลังของผู้บริโภคกลุ่มเล็กๆ ชาวพันทิพ ผมคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางเงียบๆแน่นอน ผมเชื่อมั่นและศรัทธาในพลังของความถูกต้อง ไม่เอาเปรียบกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา  เห็นอกเห็นใจกัน ของพี่น้องชาวพันทิพ ผมกับน้องจะสู้ต่อไปครับ แล้วมีความคืบหน้าอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบตลอดเวลานะครับ..ขอบคุณในความห่วงใยมากๆของทุกๆท่านครับ จากคุณ : นาโนลูกแม่รุ่ง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:14:55

ความคิดเห็นที่ 45 bookmark ไว้อ่านความคืบหน้าครับ อยากรู้ว่าจะจบยังไง? สคบ.จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน? หรือว่าทนายของผลิตภัณฑ์นั้นจะเก่งกว่า? จากคุณ : klabkk เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:44:06

ความคิดเห็นที่ 46 เตือนก่อนนะครับ ขึ้นศาล ค่าเสียหาย ได้แค่ตามความเป็นจริงนะครับ (อดีต+ปัจจุบัน+อนาคต) ที่ต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นได้ว่า ตามสมควร ตามฐานานุรูปและสุจริต เช่น ต้องไปหาหมออีก3ครั้ง จากที่ไปมาแล้2ครั้ง ครั้งละ1หมื่น มีหลักฐาน และหมอเจ้าของก็มาให้การในศาล ก็ได้5หมื่น ไม่มีค่าเสียหายเชิงลงโทษแบบ ตปท.นะครับ ส่วนค่าเสียหายทางจิตใจก็เหมือนจะไม่มีเช่นเดียวกัน เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (darkness2) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:58:17

ความคิดเห็นที่ 47 อย่ายอมความแล้วก็อย่าเงียบหายนะคะ ไม่งั้นบ.แย่ๆแบบนี้มันก็จะยิ่งได้ใจ ไม่เห็นหัวผู้บริโภคอย่างเราๆ ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าถ้าคุณกินมันเข้าไปแล้วจะเป็นยังไง แย่มาก จากคุณ : ran.takarai เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:15:27

ความคิดเห็นที่ 48 บริษัทก็ใหญ่มีชื่อเสียง ไมทำตัวแบบนี้ กากจริงๆ จากคุณ : เย็นตาโฟใส่ไข่พะโล้ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:26:46

ความคิดเห็นที่ 49 จัดหนัก ๆ เต็ม ๆ เลยครับ งานนี้ อย่ายอมครับ จากคุณ : paingrille เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:56:35

ความคิดเห็นที่ 50 น้อยไปครับ เรียกไปอีก ชีวิตเราทั้งชีวิตนะครับ จากคุณ : BurgerHugger เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 16:40:25

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีครับ... ผมเข้าใจครับ และขอบคุณในความหวังดี ของคุณเขียนบนไอโฟน ผมกับน้องไม่ได้เอาตัวเงินเป็นตัวตั้งหรอกครับ เพราะรู้ว่าเราคิดอย่างไร...เรารู้สึกรับไม่ได้กับคำพูดกับการกระทำของตัวแทนบริษัทมากกว่าครับ ไม่งั้นผมคงเรียกร้องจะเอานั้นเอานี่มากกว่า เราเพียงรู้สึกน้อยใจหรือคิดว่าเราไม่ได้รับการเห็นอกเห็นใจจาก บริษัทเท่าที่ควรครับ เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ พอดีน้องผมมีบัตร 30 บาท รักษาทุกโรคครับ จากคุณ : นาโนลูกแม่รุ่ง (นาโนลูกแม่รุ่ง) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 16:40:30

ความคิดเห็นที่ 52 มาอัพเดทความคบหน้าด้วยนะคะ แต่ก่อนพ่อก็ชอบกินยี่ห้อนี้ แต่เปลี่ยนยี่้ห้อละ ไปกินยี่ห้อที่ผสม วิตามินบี 12 เอา 5 หมื่น บริษัท ไม่ยอมจ่าย ทุเรศอะ ฟ้องเอาแรงๆเลย ๆๆ จากคุณ : Margaret เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 17:38:39

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุญาตมาอัปเดตนิดหนึ่งนะครับ พอดีแฟนผมพึ่งออกลูก..เลยไปหาของมาบำรุงแฟนครับ คืออย่างนี้ครับ...ตอนเย็นวันนี้มีคนโทรมาจาก บริษัทชีวิตเกินร้อย จะขอมาพบผมกับน้องที่บ้าน ในวันพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมง บอกว่าวันนี้ไปหาผมที่ ที่คลองถมแต่หาไม่เจอ  ( ท่าจะบ้า...เราบอกว่าขายของตลาดนัดวันอาทิตย์ แต่ไปหาเราวันธรรมดา เบอร์โทรเราก็มี...ก็ไม่โทรมา แต่พอเราเอาเรื่องมาลงพันทิพ รีบติดต่อมาเลยครับ ) แต่เปลี่ยนคนมาครับ ผมกับน้องตั้งใจไว้ว่าไม่อยากเจอหน้าพวกนี้เลย เพราะดูไใค่อยจริงใจ แต่ก็อยากจะดูว่าจะมาไม้ไหนกันอีก แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาอัปเดต ความคืบหน้านะครับ จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 21:35:51

ความคิดเห็นที่ 54  น่ากลัวจังค่ะ ถ้าเรากิน คงตายอยู่ในห้องละ เพราะกินตอนดึกๆ นั่งทำงานคนเดียวอะค่ะ แต่กินยี่ห้ออื่น ยี่ห้อนี้ไม่หร่อย งุงิ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 22:59:26

ความคิดเห็นที่ 55 ปูเสื่อรอฟังข่าวความคืบหน้า เป็นกำลังใจให้ครับ เมื่อได้ยินเรื่องราวอย่างนี้พร้อมทั้งหลักฐานชัดๆแล้วต่อจากนี้เลิกดื่มเครื่องดื่มเกินร้อยและสินค้าในเครือของเขาล่ะ ไม่ไหวๆ ไม่อยากเป็นหนึ่งในล้านอย่างนี้ จากคุณ : Mr. อนารยชน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 23:06:08

ความคิดเห็นที่ 56 เป็นกำลังใจให้นะคะ เราเป็นคนนึงที่มีเรื่องในศาล ทั้งที่เราถูก เอาเปรียบจากรีสอร์ท อยู่รังสิต ต้องไปรายงานตัว รับทราบว่า ยังอยู่ในขั้นสืบพยาน ทุกเดือนที่ ฝั่งธน เสียเวลา เสียงาน เสียค่าน้ำมัน ทุกเดือนมา สองปีแล้ว เราก็ยอม เพราะเราไม่ผิด  อย่าได้ยอมถูกเอาเปรียบ ปล่อยให้เรื่องมันเงียบหายไป ติดตามข่าว และขอให้จบลงด้วยความถูกต้องค่ะ จากคุณ : aoh-light เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 23:59:30

ความคิดเห็นที่ 57 ฟ้อง สคบ. หรือพวกสภาทนาย เรียกร้อง ได้หลักล้านคับ 5 หมื่นน้อยไป บริษัทำแบบนี้ ดูถูกคนจน ยอมไม่ได้  ฟ้องเลยครับ โหวตให้ด้วย จากคุณ : Gamemer เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 00:16:30

ความคิดเห็นที่ 58 จริง ๆ ห้าหมื่นนี่ไม่เยอะนะคะ  ถ้าเทียบกับหน้าตาและชื่อเสียงของบริษัท  เพราะบริษัทมีรายได้มหาศาล  ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ  ขอให้ชนะ จากคุณ : ArpatAnthakan เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 01:45:24

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านกระทู้จบดูชื่อ จขกท ตกใจทำไมใช้ ครับ จากกระต่ายกลายเป็นเครื่องดื่มชูกำลังไปแล้ว อิอิ ลืมอ่านบรรทัดแรก จากคุณ : treeland เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 10:43:08

ความคิดเห็นที่ 60 5 หมื่นน้อยไปนะ ผมว่าไหนก็ฟ้อง เอาสัก 7 หลัก อย่างต่ำ ไม่ได้ยุให้หวังเงินนะครับ แต่อยากให้เป็นตัวอย่างแก่สังคมไทย ที่เมืองนอกแค่โดนทำกาแฟหกใส่ที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดัง ยังฟ้องเรียกกันตั้ง 3 ล้านดอลลาร์ แถมยังชนะด้วย ของคุณหลักฐานครบ อย่าไปกลัว เล่นหนักๆให้ออกสื่อด้วยยิ่งดี จากคุณ : xhai เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 13:04:57

ความคิดเห็นที่ 61 อย่าไปเชื่อคห 46 รับรองได้มีค่าเสียหายที่เรียกร้องได้แน่นอนค่ะ   บริษัทที่เรารู้จักจ่ายมาแล้ว เป็นหลายแสน  อันนั้นแค่ท้องเสียเล็ก ๆ เองนะ จะบอกว่า เราก็ทำงานโรงงาน รับผิดชอบด้านรับคำร้องเรียนผู้บริโภคโดยตรงด้วย  วันนึง ๆ เจรจาบ่อยมาก โชคดีที่บริษัท มีประกัน product liability อยู่  เลยทำให้บริษัท รับผิดชอบต่อผู้บริโภคได้เต็มที่ ได้ใจผู้บริโภคไปหลายคน  ทั้งที่สคบ ยังบอกว่า เคสนั้น บริษัทเราไม่ต้องรับผิดชอบหรอก  แต่ที่บริษัทจ่ายให้  และ ทางผู้ผลิตวัตถุดิบที่เมืองนอก ก็จ่ายให้ด้วย  เนื่องจากเข้าใจความรู้สึกที่ผู้บริโภคที่กินเข้าไป แล้วไม่ได้รับความพอใจ ถ้าทางบริษัทแถวรามคำแหง  เขาไม่รับผิดชอบและเยียวยาให้เหมาะสม  คุณฟ้องได้เลย   เคสอาจารย์เจิมศักดิ์  ทั้งที่ยังไม่เกิดความเสียหายอะไรเลย  ยังได้มากกว่าเลย   แล้วบริษัทเขาก็ไม่ต้องจ่ายเองด้วย  ประกันจ่าย  ทุกบริษัทมีประกันหมดแหละค่ะ สำหรับเรื่องกม. ตัวนี้ จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 13:32:32

ความคิดเห็นที่ 62 อย่าไปเชื่อคห 46 รับรองได้มีค่าเสียหายที่เรียกร้องได้แน่นอนค่ะ   บริษัทที่เรารู้จักจ่ายมาแล้ว เป็นหลายแสน  อันนั้นแค่ท้องเสียเล็ก ๆ เองนะ จะบอกว่า เราก็ทำงานโรงงาน รับผิดชอบด้านรับคำร้องเรียนผู้บริโภคโดยตรงด้วย  วันนึง ๆ เจรจาบ่อยมาก โชคดีที่บริษัท มีประกัน product liability อยู่  เลยทำให้บริษัท รับผิดชอบต่อผู้บริโภคได้เต็มที่ ได้ใจผู้บริโภคไปหลายคน  ทั้งที่สคบ ยังบอกว่า เคสนั้น บริษัทเราไม่ต้องรับผิดชอบหรอก  แต่ที่บริษัทจ่ายให้  และ ทางผู้ผลิตวัตถุดิบที่เมืองนอก ก็จ่ายให้ด้วย  เนื่องจากเข้าใจความรู้สึกที่ผู้บริโภคที่กินเข้าไป แล้วไม่ได้รับความพอใจ ถ้าทางบริษัทแถวรามคำแหง  เขาไม่รับผิดชอบและเยียวยาให้เหมาะสม  คุณฟ้องได้เลย   เคสอาจารย์เจิมศักดิ์  ทั้งที่ยังไม่เกิดความเสียหายอะไรเลย  ยังได้มากกว่าเลย   แล้วบริษัทเขาก็ไม่ต้องจ่ายเองด้วย  ประกันจ่าย  ทุกบริษัทมีประกันหมดแหละค่ะ สำหรับเรื่องกม. ตัวนี้ จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 13:33:24

ความคิดเห็นที่ 63 เพิ่มเติม กม. ตัวนี้ กำหนดให้บริษัท เป็นคนพิสูจน์ด้วยนะ  ไม่ใช่ตัวผู้เสียหาย คุณไม่ต้องไปเสียค่าดำเนินการอะไรเลย   ถ้าบริษัทบอกว่า เขาไม่ผิด  ไม่เคยมีขวดแบบนี้  เขาก็ต้องพิสูจน์ว่า เขามีการตรวจรับยังไง   แต่เราบอกได้ว่า  รับรองว่า เขาแก้ตัวไม่ได้หรอก  ระบบการตรวจคุณภาพในกระบวนการผลิต ของที่นี่ เข้าขั้นทันสมัยเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว (หรือพูดง่าย ๆ ว่า ล้าสมัยไปแล้ว) ถ้าจะเมคข้อมูลก็ทำยากมาก  เพราะต้องย้อนหลังอย่างน้อยก็เท่ากับอายุผลิตภัณฑ์น่ะ จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 13:38:09

ความคิดเห็นที่ 64 เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้จขกท คะ สู้ๆเพื่อสิทธิของเราที่พึงจะได้นะคะ จากคุณ : me_or_we? (me_or_we?) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 20:00:34

ความคิดเห็นที่ 65 คงเลิกกินยี่ห้อนี้อีกต่อไปแล้วหลังจากกินทุกเช้าเพราะกินกาแฟไม่ได้กินแล้วใจสั่น แต่กินเครื่องดื่มชูกำลังแล้วชื่นใจ ต่อไปคงกินแต่กระทิงแดงแล้วแหละเพราะกินแต่สองยี่ห้อนี้มาตลอด จากคุณ : teen1982 เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 22:30:32

ความคิดเห็นที่ 66 ตาม #63 เลยค่ะ ไทยเพิ่งแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ส่วนมากบริษัทต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ ไม่ใช่โจทก์เหมือนคดีแพ่งทั่วๆไปแล้วค่ะ จากคุณ : MooNymph เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 23:13:59

ความคิดเห็นที่ 67 ตามอ่านจากทู้โน่น จากคุณ : Octobie เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:20:24

ความคิดเห็นที่ 68 เค้าถือว่าสโลแกน บ. คือชีวิตเกินร้อย ล่ะมั้ง ถึงคิดว่าคนกินเศษแก้วแล้วต้องไม่เป็นอะไร ขายของนี่โฆษณาว่าเกินร้อย  แต่เรื่องไกล่เกลี่ยเจรจานี่ติดลบนะ =_=" จากคุณ : Speak เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:36:11

ความคิดเห็นที่ 69 เอาใจช่วยครับ สู้ๆ จากคุณ : piranha เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 03:37:15

ความคิดเห็นที่ 70 บริษัทนี้ไม่มีนโยบายดูแลลูกค้า  ตั้งแต่ตัวสินค้าแล้ว ไปดื่มบาวแดง ต่อดีกว่า มี B12 ขอให้เอาเรื่องถึงที่สุดครับ จากคุณ : MASTERSMITH เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 07:34:06

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านถึงนี่ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 10:18:05

ความคิดเห็นที่ 72 รอฟังข่าวครับ แย่จริง ๆ บริษัทอย่างนี้ น่าจะล้มละลายไปเลย จากคุณ : หน้าที่ของคนรอ (LeoGeMiNi) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 11:42:53

ความคิดเห็นที่ 73 ความจริงเรียกแค่ 50000 บาทนี่น้อยมากๆเลยนะคะ ถ้าเทียบกับผลในอนาคตที่เรายังไม่รู้ว่าเศษแก้วเล็กๆตกค้างในท้องหรือลำใส้บ้างหรือเปล่า แถมน้องชายคุณยังหนุ่ม(อยุ่ใช่ใหมคะ )ตรงนี้ถ้าฟ้องร้องจริงๆสามารถบวกอายุการทำงานของน้องชายคุณ เข้าไปได้อีกค่ะ แน่ะนำให้ติดต่อสื่อวิทยุโทรทัศน์ หลายๆสื่อค่ะ หากคุณโชคดีได้ออกสื่อ ระดับผู้บริหารต้องรีบลุกจากเก้าอี้ รีบติดต่อมายังคุณและน้องชายแน่นอนค่ะ เพราะผลการเสียหายทางชื่อเสียง หากประชาชนรับทราบกันทั้่วประเทศ คงจะมากเป็นหลายล้าน แน่ๆค่ะ มากพอที่จะทำให้ยอดขายตกได้แน่นอนค่ะ ขอเชียร์และให้กำลังใจและแนะนำให้ออกสื่อ ขอให้ทำสำเร็จนะคะ จากคุณ : แม่บ้านครอว์ฟอร์ด เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 12:16:08

ความคิดเห็นที่ 74 ที่แน่ๆ ผมไม่กล้าดื่มแล้วครับ ชูกำลังยี่ห้อนี้ รวมถึงยี่ห้ออื่นๆ ด้วย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อยู่ในขวดแก้วด้วย เสียหายกันไปทั้งระบบเลยครับ ขอบคุณครับที่นำมาเล่าให้ฟัง ขอให้น้องชายคุณหายไวๆ นะครับ ขอให้ปลอดภัย อย่าได้มีผลข้างเคียงใดๆ เลย จากคุณ : ตุ๊กไก่ (ตุ๊กไก่) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 13:21:33

ความคิดเห็นที่ 75 ให้กำลังใจค่ะ อย่าให้บริษัทที่ละเลยเรื่องความปลอดภัยได้ใจค่ะ  ต้องรับผิดชอบกับสังคมมากกว่านี้ค่ะ จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 13:57:47

ความคิดเห็นที่ 76 ต้องเอาให้หนักไว้เป็นกรณีตัวอย่างบ้างครับ จากคุณ : กุ้งบก เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 18:36:47

ความคิดเห็นที่ 77 ขอผมเอาใจช่วยด้วยอีกคน ผมก็เป็นคนนึงที่บริโภคเครื่องดื่มชูกำลัง (เวลาทำงานโต้รุ่ง) แต่แค่ นานๆ ครั้งเอง แต่คิดดูว่าคนที่ดื่มทุกวัน อย่างผู้ที่ทำงานใช้แรงงานล่ะ? เสี่ยงเป็นบ้าเลยครับ ขอให้ชนะคดี ขอให้น้อยชายปลอดภัยครับ จากคุณ : คนไทยใจเกินร้อย (แต่ไม่เอา150) (lovekit) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 21:29:09

ความคิดเห็นที่ 78 วันจันทร์นี้จะมารายงานผลการเจรจาให้ทราบ นะครับ...พอดีนัดกับทางตัวแทน บริษัทชีวิตเกินร้อยไว้ตอน 10 โมงเช้าวันจันทร์นี้ครับ เบื้องต้นทางบริษัท โดยทางตัวแทน ได้มาขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้สึกเสียใจ...อันเกิดจากการที่ตัวแทนบริษัท คนแรกอาจสื่อสารกับทางผู้บริโภคไม่ดี และยินดีเยียวยาน้องชายของผมตามที่เราเรียกร้องคือ 50,000 บาทและทางบริษัทยินดีพาน้อง ไปตรวจภายในที่ รพ. ครับ วันจันทร์นี้จะมาอัปเดตความคืบหน้าครับ ขอบคุณทุกๆกำลังใจ และคำแนะนำนะครับ จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 21:43:15

ความคิดเห็นที่ 79 ฟ้องเผื่อต่อ 30 ล้านไม่น่าเกลียดครับเราชนะชัวร์อย่าลืมเข้าหาสื่อมวลชนด้วยจะใด้เป็นอีกแรงช่วยกดดันครับ จากคุณ : julong เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 22:35:07

ความคิดเห็นที่ 80 คห.46 แน่ใจแล้วเหรอครับว่าไม่มี ค่าเสียหายเชิงลงโทษ กลับไปดู PL Law ให้ดีๆนะครับ อีกอย่างสามารถฟ้องแพ่งได้ด้วยครับ จากคุณ : Boysicky เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 01:23:43

ความคิดเห็นที่ 81 ดูแล้วบริษัทกลัวเรื่องถึงสื่อสินะ เลยรีบมาขอเจรจา ความจริงใจมันอยู่ที่ไหนเนี่ย? ตัวแทนคนแรกมาในนามของบริษัทไม่ใช่รึ แบบนี้ก็ปัดสวะให้ตัวแทนคนแรกสิ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 02:58:54

ความคิดเห็นที่ 82 สงสัยว่าบริษัทเครื่องดื่มเห็นกระทู้แล้วมังคะ รีบเข้ามาเจรจาใหญ่เลย ถ้าเป็นผู้บริโภคที่ไม่รู้จักอินเตอร์เน็ต เจอกรณีแบบนี้คงหัวเดียวกระเทียมลีบ เบี้ยตัวเล็กๆ ที่บริษัทไม่สนใจว่าจะเป็นอย่างไร ปล่อยไว้ให้เรื่องมันเงียบหายไปแน่เลย เราก็ยังรู้สึกว่าบริษัทไม่แฟร์นะ ใส่ใจจริงควรจะจบตั้งแต่แรกแล้ว แต่ต้องรอให้เป็นเรื่องก่อนเลยต้องแก้ไข ปล. แต่จขกท. ได้ใจเรามากๆ ที่ตอกบริษัทกลับไปว่า ถ้าไม่อันตรายก็กินเอง แล้วจะไม่เอาเรื่อง ได้ใจมากๆ อ่ะ   เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : CuteBaby เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 10:43:58

ความคิดเห็นที่ 83 คนแรกที่มาคุยนั่นคงไม่รู้เรื่อง  คุณเรียกห้าหมื่น  บอกไม่ให้  แล้วทีนี้พอพนักงานคนอื่นรู้เรื่องด้วย ก็เลยบอก เฮ้ย เขาเรียกห้าหมื่น ทำไมไม่ให้เขาไป  เอาค่าเสียหายน้อย ๆ แบบนี้  มา ข้าจัดการเอง จากคุณ : Sakuder เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:06:34

ความคิดเห็นที่ 84 น่ากลัวมากคะ...บริษัทไม่คิดจะแสดงอะไรเลยเหรอคะ ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์แบบนี้ออกมาได้อย่างไร สำหรับคุณดิฉันว่า 50,000 ยังน้อยไปคะ อย่างน้อยก็หลักแสน ไม่ก็หลักล้าน แก้วนะคะ ไม่ใช่วุ้น... จากคุณ : a dear เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:35:41

ความคิดเห็นที่ 85 มาลงชื่อว่าเข้ามาอ่านและให้กำลังใจผู้บริโภคอย่างจขกท.ที่มีความกล้าหัวใจเกินร้อยตัวจริง เหตุการณ์นี้ทำให้แบรนด์ของเค้าในอินเทอเนต เริ่มมีกลิ่นบูดแล้วครับ เพราะหัวใจเค้าพร่องร้อย ตอนนี้ผมยังหยุดซื้อของเค้าเลย ไปซื้อแบรนด์อื่นแล้ว เพราะผู้ผลิตคิดว่าทำอะไรช้าๆได้พร้าเล่มงาม? ระวังจะกลายเป็น...ช้าๆถูกพร้าเล่นงาน...นะครับท่าน จากคุณ : Coach The Lead เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 22:56:30

ความคิดเห็นที่ 86 คุณเจอทั้งเศษแก้วไม่พอ ยังมาเจอเศษเงินแค่50,000บาทจากเค้าอีก ผมว่ามันน้อยมากเลยนะครับ น้อยจริงๆ จากคุณ : เหมง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 01:01:56

ความคิดเห็นที่ 87 เคยไปทัศนศึกษาโรงงานโอสถสภา ที่อยุธยาครับ เขาผลิตแก้วเองครับ แล้วส่งสายพานต่อเข้าเครื่องบรรจุเลย ขั้นตอนผลิดจะมีเซนเซอร์จัดการขวดที่ไม่สมประกอบอยู่หลาย และขั้นสุดท้ายจะเป็นคนคอย QC ซึ่งอาจจะมีหลุดบ้าง แต่ทางบริษัทไม่รับผิดชอบอะไรแบบนี้ น่าเกลียดครับ บริษัทก็ใหญ่ แต่ทำแบบนี้ไม่ได้ใจลูกค้านะครับ จากคุณ : sacrarina เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 03:40:16

ความคิดเห็นที่ 88 ถือว่าเป็นโชคดีของโอสถสภาค่ะ หวังว่าคงจะปรับปรุงการควบคุมคุณภาพได้ดีกว่านี้ จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 08:28:01

ความคิดเห็นที่ 89 ขออนุญาตมาแจ้งความคืบหน้านะครับ วันจันทร์...เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัท โอสถสภา มาพาน้องชายไปหาหมอ..ที่ รพ.เจ้าพระยา แต่เนื่องจาก มันเกิดเหตุการณ์ มาหลายวันมากแล้ว และเศษแก้วมันไม่สามารถเอ็กซเรย์หาพบได้ และทางครอบครัวของผมกับน้องชายได้รับการขอโทษ และการแสดงความเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และข้อเสนอของเราและน้องชายที่ขอให้บริษัทเยียวยา ค่ารักษาพยาบาล ค่ารักษาตัวที่เราและน้องเสนอไปนั้น ( 50,000 บาท ) ทางบริษัทโอสถสภา ยินดีตามนั้น และได้ขอโทษและแสดงความเสียใจกับทางน้องผม ( นี่คือ...สิ่งที่ทางเราอยากจะได้เห็น  อยากจะได้ฟัง จากทางบริษัท ส่วนเงินนั้นเป็นสิ่งที่เราจ่ายไปในการรักษาตัว..มากกว่า ) แต่ผมกับน้องคือคนไทยครับ...การให้อภัยกันในสิ่งที่ผิดพลาด การให้โอกาสในการแก้ไขปรับปรุง ในกระบวนการผลิต และการตรวจสอบมิให้เกิดปัญหาขึ้นได้อีก เมื่อเกิดปัญหา ต้องรีบแก้ไข...มิใช่แก้ตัว นี่คือสิ่งที่ผมกับน้องบอกกับ เจ้าหน้าที่บริษัท และทางบริษัทก็รับปากจะควบคุมดูแลการ ผลิต การบรรจุให้รอบคอบมากๆยิ่งขึ้น ส่วนค่ารักษาพยาบาล และเยียวยานั้น ทางน้องชายและผม ก็เรียกร้องแค่ 50,000 บาท ตั้งแต่แรก ไม่เคยคิดจะเรียกร้องเพิ่มทั้งที่มีโอกาส.. เป็นเพราะเราอยากได้ยินแค่คำขอโทษ... การเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า เมื่อบริษัทส่งเจ้าหน้าที่คนใหม่มา และดูแลน้องชายเรา ขอโทษทางเรา..เราก็ไม่ติดใจเอาความกับทางบริษัท แต่ขอให้ปรับปรุงการผลิตโดยด่วน...ซึ่งทางบริษัทก็รับปาก ทั้งนี้ทางผมกับน้อง...ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องชาวพันทิพ ทุกท่าน ที่ได้แสดงความห่วงใย ความคิดเห็นอันมีประโยชน์ ต่อข้าพเจ้าและน้อง ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : พ่อนาโน (นาโนลูกแม่รุ่ง) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 01:52:33

ความคิดเห็นที่ 90 ตามข่าวมาตลอด ยินดีที่เรื่องนี้จบลงได้ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะไปเกิดแบบนี้กับใครอีกหรือไม่ แต่ละล้อตที่ผลิตไม่ใช่น้อย ๆ นะคะ เค้ามีการติดตามหรือเปล่า ?? จากคุณ : คุณหญิงกระแตแต้แว้ด เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:38:48

ความคิดเห็นที่ 91 อืมมมม จบด้วยดี แม้บริษัทฯ จะแก้ปัญหาล่าช้าไปหน่อย จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:59:38

ความคิดเห็นที่ 92 ยินดีด้วยครับ ที่เรื่องจบด้วยดี แต่ผมว่า เค้าแสดงความรับผิดชอบ ต่อผู้บริโภคน้อยไป มากเลย ไม่ได้จะยุแยง อะไรนะครับ ผมเองก็ทำงานโรงงานแปรรูปอาหาร (ไส้กรอก ส่งออกเท่านั้น) เข้มงวดกับเรื่องอย่างนี้มาก และหากเกิดข้อผิดพลาด ทำให้ลูกค้าไม่พอใจ เนื่องจากการผลิตของเราเอง(ไม่เกี่ยวกับอายุ และการเก็บรักษา) ทางเรา ชดใช้ให้ตามที่ลูกค้าร้องเรียนตลอด ทำมา 15 ปี โดนไป 2  หน แย่เอามากๆ จากคุณ : tonnanie เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 10:34:29

ความคิดเห็นที่ 93 ยินดีด้วยค่ะ หวังว่าทางบริษัทจะจำไว้เป็นบทเรียนนะคะ ว่าอย่าชุ่ยกับผู้บริโภค จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 12:18:50