ความคิดเห็นที่ 1 10.30 น.ไปถึงวัดเล่งเน่ยยี่ พิธีเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังพอมีภาพอธิบายความเป็นมาของพิธีนี้ให้ทราบพอสังเขป "ชุกฮวยฮึ้ง" คือพิธีกรรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านวัย จากวัยเด็กสู่วัยรุ่น(Coming of Age) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการกระตุ้นจิตสำนึก ให้เด็กที่เริ่มย่างเข้าสู่วัยรุ่น ตระหนักถึงความสำคัญของตน รับรู้ที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม เพื่อเตรียมตัวเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่มีคุณภาพในอนาคต คำว่า"ชุกฮวยฮึ่ง"เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว แปลว่าออกจากสวนดอกไม้ ในอดีต บ้านคนมีฐานะจะมีสวนดอกไม้ให้ลูกหลานไว้วิ่งเล่น เมื่อถึงอายุ 15 ปี จึงถึงเวลาออกจากเคหะสถานไปสู่โลกภายนอก ไม่มีเวลามาวิ่งเล่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:00:35

ความคิดเห็นที่ 2 ประเพณีนี้นิยมจัดในวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งตรงกับเทศกาล"ชีซี"  (七夕)  ซึ่งเป็นเทศกาลไหว้เทพธิดา"จื้อหนี่" (织女) ผู้ที่มีชื่อเสียงทางด้านเย็บปักถักร้อยของจีน วันนี้ยังมีอีกชื่อว่า"คึกคาโจ่ย"  (乞巧节)  หมายถึงการขอพรจากเทพธิดาจื้อหนี่ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 19:13:49 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 19:13:25 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:01:18

ความคิดเห็นที่ 3 พิธีกรรมนี้ จะจัดขึ้นเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 15 ปี นับไทย 14 ปี เพราะคนจีนถือว่าเมื่อคลอดมีอายุ 1 ปีทันที โดยนับช่วงที่อยู่ในครรภ์มารดาด้วย ช่วงวัยที่จัดพิธีนี้ เป็นช่วงที่เด็กเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง ทั้งทางสรีระร้างกายและความคิด เป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่นหรือวันทีนเอจ ตามคติความเชื่อของคนแต้จิ๋ว เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง จาก"กงผั่วซิ้ง" (花公花妈 ) หรือ"แม่ซื้อ" ซึ่งหลังพิธีชุกฮวยฮึ้งแล้ว จะไม่มีการไหว้กงผั่วม่าอีก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:01:49

ความคิดเห็นที่ 4 ในการจัดเตรียมพิธีนี้ มีส่วนสำคัญอยู่สองส่วนคือ 1 ผู้ปกครองจะจัดเตรียมเครื่องไหว้สำหรับไหว้กงผั่วม่า เพื่อให้เด็กได้ไหว้ขอบคุณร่ำลา ที่กงผั่วม่าได้คุ้มครองตน ตั้งแต่ยังเล็กจนถึงปัจจุบัน ที่ตนก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ และพร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกและสังคมภายนอกต่อไป จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:02:18

ความคิดเห็นที่ 5 ของไหว้ในพิธีกรรมนี้ ประกอบด้วยซาแซ โหงวก้วย หรือเครื่องไหว้เทพเจ้าจีนโดยทั่วไป ผลไม้ ขนมต่างๆ โดยเฉพาะ"เสียะหลิ่วก้วย" หรือขนมทับทิมแทนเด็กผู้ชาย และ"ซากั๊กเหล่าก้วย" หรือขนมสามเหลี่ยมแทนเด็กผู้หญิง จัดรวมกันไว้ในกระด้งไม้ไผ่สาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:02:56

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นอัญเชิญกระถางธูปและรูปของแม่ซื้อ วางบนเตียงนอนของเด็กคนนั้นพร้อมเครื่องไหว้ แล้วให้เด็กคุกเข่าไหว้ขอบคุณแม่ซื้อที่ช่วยคุ้มครองตลอดมา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:03:18

ความคิดเห็นที่ 7 2 การจัดเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้าน ประกอบด้วยเนื้อหมู ไข่ และผัดผัก 12 อย่าง (แสดงถึง 1 ปี มี 12 เดือนแห่งความสุขและวาสนา) ซึ่งผัดผักต่างๆนี้ มักมีชื่อเป็นมงคล เช่น ขึ้นฉ่าย"(芹)  พ้องเสียงกับคำว่า"คึ่ง”(勤)หมายถึงให้มีความขยัน มุ่งมั่น ต้นกระเทียม(蒜) พ้องเสียงกับคำว่า"สึ่ง”(算)  หมายถึงรู้จัก คิด ต้นหอม(葱)  พ้องเสียงกับคำว่า"ชง" (聪) หมายถึงให้มีความฉลาดหลักแหลม เป็นต้น ทั้งหมดนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล ให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่รู้จักการทำงานร่วมกับคนในสังคม มีความคิดความอ่านและสติปัญญาความสามารถ ในมื้อพิเศษนี้ เด็กจะได้รับสิทธิ์นั่งเป็นประะานในบ้าน โดยนั่งหันหน้าไปทางทิศใต้ ผู้เป็นแม่จะกล่าวคำอวยพรแก่ลูกว่า"ลูกเอ๋ย วันนี้เจ้าได้นั่งทิศเป็นมงคล ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว" หลังจากนั้นญาติพี่น้องจะเข้ามาอวยพรและกล่าวคำมงคลให้กับเด็ก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:04:24

ความคิดเห็นที่ 8 เด็กที่เข้าพิธีในวันนี้ จะแต่งกายด้วยเสื้อไหมสีแดงและเกี๊ยะสีแดง เด็กที่เข้าพิธีที่วัดเล่งเน่ยยี่ในวันนี้ จะได้รับถุงแดงคนละหนึ่งถุง "ขออนุญาตถ่ายภาพของในถุงหน่อยนะครับ" "ได้ค่ะ" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:04:45

ความคิดเห็นที่ 9 ในถุงแดงประกอบด้วยกล่องใส่"เสียะหลิ่วก้วย" หรือขนมทับทิม(ขวา)แทนเด็กผู้ชาย และ"ซากั๊กเหล่าก้วย" หรือขนมสามเหลี่ยม(ซ้าย)แทนเด็กผู้หญิง อย่างละหนึ่งชิ้น ส้ม(ไต้กิก)สองลูก ไข่ไก่ต้มหนึ่งฟอง และน้ำมนต์หนึ่งขวด ที่มา : จากข้อความบนบอร์ดของหอศิลป์กรุงไทย เยาวราช สำหรับผู้ที่สนใจในประเพณีนี้ แนะนำให้อ่านเพิ่มเติมจากกระทู้ ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับที่เขียนไว้บนบอร์ดของหอศิลป์กรุงไทย "...รักลูกหลาน กับ ชุกฮวยฮึ้ง..." http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10855739/K10855739.html และ "ครั้งแรก "ชุกฮวยฮึ้ง" แห่งสยามประเทศ" http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10917524/K10917524.html#105 แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 54 16:22:23 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:05:21

ความคิดเห็นที่ 10 10.40 น.พระเณรเดินแถว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:05:46

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อไปฉันเพลที่หอฉัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:06:06

ความคิดเห็นที่ 12 10.50 น.ออกจากวัดเล่งเน่ยยี่ ตรงข้ามวัดคือร้านจำหน่ายซอสและเครื่องปรุงจีน รวมถึงหม้อดินเผาเคลือบทนความร้อน หน้าร้านมีน้ำขมและน้ำเก๊กฮวยขาย เดิมร้านนี้ชื่อว่าร้าน"หยั่นหว่อหยุ่น" แต่ปัจจุบันตัด"ห"ออก ยังไม่ได้ถามสาเหตุ ร้านนี้มีซ้อสและน้ำพริกของลี้กุมกี่ครบทุกชนิด รวมถึงซอสพริกเสฉวน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:06:34

ความคิดเห็นที่ 13 ออกจากวัดเล่งเน่ยยี่เลี้ยวขวา ทางเท้ามีแผงขายของไหว้ รวมถึงของไหว้แก้ชงกับไท้ส้วยเอี๊ย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:07:00

ความคิดเห็นที่ 14 "อั่งก้วย" "เสียะหลิ่วก้วย" หรือขนมทับทิม(ขวาบน)แทนเด็กผู้ชาย และ"ซากั๊กเหล่าก้วย" หรือขนมสามเหลี่ยม(ซ้ายบน)แทนเด็กผู้หญิง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:07:21

ความคิดเห็นที่ 15 ข้ามถนนเข้าถนนมังกรฝั่งถนนเจริญกรุง ข้ามถนนเยาวราชไปถอนเงินที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำเพ็ง ช่วงนี้ Angry Bird กำลังฮิต จึงมีกระเป๋า มีตุ๊กตาออกมาขายมากมาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:07:46

ความคิดเห็นที่ 16 เดินย้อนกลับเลี้ยวซ้ายที่ซอยซุนยัดเซ็นออกถนนราชวงศ์ แทนการเดินทะลุสำเพ็งไปออกถนนราชวงศ์เพราะคนแน่น วัดโลกานุเคราะห์ขึ้นป้ายประกาศว่า จะมีงานทิ้งกระจาดวันที่ 19-21 เดือนนี้ อาจมาเก็บภาพอีก หลังจากที่เคยมาเก้บภาพพิธีกวนข้าวเหนียวเมื่อสองปีก่อน เพื่อความสมบูรณ์ สำหรับ"เที่ยวไปกินไป @ ถนนราชวงศ์" แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 03:17:29 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:08:04

ความคิดเห็นที่ 17 ข้ามถนนเลี้ยวซ้ายเดินไปโรงเจบุญสมาคม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:08:26

ความคิดเห็นที่ 18 เดินชมป้ายไม่เอาสะพาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:08:48

ความคิดเห็นที่ 20 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:10:07

ความคิดเห็นที่ 22 11.03 น.ถึงซอยโรงเจบุญสมาคม เริ่มมีคนมารอรับอาหารและสิ่งของของในงานทิ้งกระจาด สมัยเป็นเด็ก จำได้ว่าเรียกกันว่า"งานเทกระจาด" แต่คงถูกนำไปใช้ในความหมายอัปมงคล ที่หมายถึงอุบัติเหตุรถยนต์ ที่มีคนกระเด็นกระดอนตายกระจัดกระจายเต็มถนน จึงกลายเป็น"ทิ้งกระจาด"แทน ดร.อุเทน  เตชะไพบูลย์ อดีตประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเคยพูดไว้ว่า เนื้อแท้ของการทำบุญในเทศกาลทิ้งกระจาด มีความสำคัญอยู่  2  ประการ กล่าวคือ “ ทิ้งกระจาดมีความหมายสำคัญ 2 อย่างที่เราเรียกว่า อิ๋มซี และเอี่ยงซี อิ๋ม (音) คือวิญญาณ เอี๋ยง (陽) คือชีวิต ซี (施) คือการแจก พิธีทิ้งกระจาด คือการทำบุญอุทิศให้ดวงวิญญาณ ร่วมไปกับการแจกทานให้ผู้มีชีวิตที่ยากไร้  งานทิ้งกระจาดจึงต้องทำทั้ง  2  ส่วน   ทำบุญกันในศาลเจ้าก่อน แล้วจึงมาแจกของ ..” จึงสอดคล้องกับจริยวัตรขององค์หลวงปู่ไต้ฮงโจวซือ ผู้ซึ่งช่วยทั้งผู้ที่เสียชีวิตโดยไร้ญาติขาดมิตร และช่วยสงเคราะห์ผู้ยากไร้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้     เทศกาลทิ้งกระจาด จึงเป็นเทศกาลที่ครบถ้วนทั้ง“ ทำบุญและให้ทาน ” จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:16:05

ความคิดเห็นที่ 23 ประเพณีทิ้งกระจาดเป็นความเชื่อของพุทธบริษัทจีนฝ่ายมหายาน ที่ถือปฏิบัติมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยพุทธกาลสองพันกว่าปีล่วงมาแล้ว ในสมัยนั้นเล่ากันว่าพระอานนท์ เป็นเถระผู้เริ่มทำเป็นองค์แรก โดยพระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระอานนท์ทำการสะเดาะเคราะห์   เพื่อให้รอดพ้นจากบ่วงกรรม ให้พระอานนท์ทำพิธีกรรมอุทิศส่วนกุศลแก่เปรต และดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว   โดยการนิมนต์พระภิกษุสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แล้วแจกจ่ายสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เป็นไทยทานแก่สัตว์โลกผู้ยากไร้ทั้งหลาย และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณที่กำลังทนทุกข์อยู่ในนรกภูมิ หรือ ที่ล่องลอยเที่ยวขอส่วนบุญ  ด้วยไร้ญาติ  หาที่จุติมิได้ ความมีอยู่ว่า พระอานนท์ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาถึงตำบลนิโครธาราม กรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อตั้งกรดปักธุดงค์นอกเมืองแล้ว       พระอานนท์ได้ปลีกวิเวกออกไปบำเพ็ญเพียรห่างไกลจากสาวกทั้งหลาย   ปรากฏว่ามีเจ้าแม่กวนอิมได้แปลงกาย       เป็นผีเปรตอสูรกายมาปรากฏตัว และแจ้งให้ทราบว่า พระอานนท์จะถึงแก่ความตายในอีก  3  วันข้างหน้า   หากไม่อยากตายแล้วไปอยู่กับพวกตน  พระอานนท์ต้องทำบุญทำทานให้บรรดาผู้ยากไร้ และผีเปรตอสูรกายทั้งหลาย   พระอานนท์เป็นพหูสูต ได้ฟังดังนั้นก็รู้แจ้งเห็นจริงตามที่ผีเปรตมาบอก  พระอานนท์มีความกังวลจึงเข้าเฝ้าสัมมาสัมพุทธเจ้า และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระพุทธองค์จึงได้สอนให้พระอานนท์ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ แต่เนื่องจากการจะโปรดอสูรกาย   วิญญาณที่ล่องลอยอยู่นั้น ไม่อาจทำได้ด้วยวิธีการให้ทานธรรมดา  ต้องอาศัยส่งส่วนบุญด้วยพุทธนุภาพ   ดังนั้นจึงต้องประกอบพิธีสันนิบาตพุทธจัก  นั่นก็คือต้องถึงพร้อมด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีทิ้งกระจาด ที่พุทธบริษัททั้งหลายอนุโมทนา เลื่อมใส ถือปฏิบัติต่อกันมานับพันปี เพราะภายหลังจากประกอบพิธีให้ทานในคราวนั้น ทำให้พระอานนท์มีชีวิตยืนยาวต่อมาอีกหลายปี     ทั้งนี้เนื่องมาจากกุศลผลบุญที่ได้กระทำในครั้งนั้น กาลเวลาได้ปรับเปลี่ยนให้การดำเนินพิธีกรรม แตกต่างออกไปจากดั้งเดิม ตามสภาพของแต่ละท้องถิ่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:16:27

ความคิดเห็นที่ 24 ในสมัยก่อน เมื่อใกล้ถึงวันเปิดประตูผี คือวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 7 ตามปฏิทินจีน บรรดาโรงเจ หรือสถานสาธารณกุศล       จะมีการบอกบุญให้ชาวบ้านร้านถิ่นร่วมงานบุญประเพณีทิ้งกระจาด โดยการนำตะกร้าสานด้วยไม้ไผ่ตาห่างบ้างถี่บ้างเป็นรูปวงกลม     ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 นิ้วคล้ายเข่งปลาทู เพียงแต่ไม่มีขอบสูงที่ก้นตะกร้ามีกระดาษสีแดงหรือสีเหลือง     แจ้งกำหนดของงานทิ้งกระจาด ของสำนักโรงเจที่เอาตะกร้ามาวาง กำหนดวันมาเก็บตะกร้าจากนั้นเมื่อถึงกำหนดวันนัดหมาย   เจ้าหน้าที่โรงเจก็จะมาเก็บ  ผู้ที่ได้รับก็จะนำสิ่งของ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้งใส่ไว้ หรือเป็นเงินจำนวนที่ตนพอใจจะทำบุญ   โรงเจนั้น ๆก็จะนำสิ่งของ หรือ ปัจจัย ไปดำเนินการต่อไป ภายหลังจากผ่านพิธีการทางศาสนา ก็มีการโปรยทานทิ้งกระจาด   ช่วงเช้าเป็นพิธีสงฆ์ ช่วงบ่ายมีการโปรยทาน สถานที่โปรยทานส่วนใหญ่จะใช้บริเวณที่หน้าศาลเจ้า หากเป็นศาลเจ้าใหญ่โต มีพื้นที่กว้างขวางก็จะมีหอสูงเป็นที่โปรย หรือโยนสิ่งของ เริ่มด้วยพระสงฆ์หยิบสิ่งของที่ชาวบ้านมาทำบุญ เช่น ผลไม้ หรือ ขนมปัง   หมั่นโถว เงิน ทอง โยนไปที่ฝูงชนเบียดเสียดยัดเยียด คอยรับแจกสิ่งของ ของแต่ละชิ้นที่แย่งชิงมาได้ก็แทบจะแหลกเหลว   เพราะถูกตะปบจากมือเป็นสิบ จนทะเลาะเบาะแว้งกันเนืองๆ  ต่อมาก็มีการพัฒนาด้วยการโยนติ้ว ติ้วเป็นแท่งไม้ไผ่ที่เหลาบางๆ   ยาวประมาณ 10 นิ้ว กว้างขนาดครึ่งเซ็นต์บ้าง ใหญ่ หรือ เล็กกว่าก็มี แต่ที่เหมือนกันก็คือมีตัวเลข หรือ ตัวอักษรเขียนไว้ที่ไม้ติ้วนั้น   เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการทิ้งกระจาดแล้ว ผู้ที่ได้ไม้ติ้วก็จะนำไปแลกสิ่งของกับคณะกรรมการจัดงาน วิธีนี้ผู้คนก็จะได้สิ่งของเป็นชิ้นเป็นอัน ที่สมบูรณ์ แต่ยังมีการกระทบกระทั่งจากการแย่งชิงอยู่อีก   ต่อมา ได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการรับแจกสิ่งของกันตรงๆ โดยวิธีการให้ผู้คนมารอคอยที่หน้าศาลเจ้า หรือ มูลนิธิ เมื่อถึงกำหนดเวลา ที่คณะกรรมการกำหนดไว้ ก็จะเปิดประตูให้เข้าไปในพื้นที่ที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นได้มีการพัฒนารูปแบบเป็นการเข้าแถว   มีการแจกบัตร มีวิธีการเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่มารับของไม่ต้องเบียดเสียดกัน อย่างที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งดำเนินการอยู่จนถึงปัจจุบัน ที่มา :  http://pohtecktung.org/index.php?option=com_content&view=article&id=130&Itemid=150 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:17:01

ความคิดเห็นที่ 25 ผ่านประตูโรงเจบุญสมาคมเข้าไป มีโต๊ะตั้งอาหารแจกตั้งแต่หลังประตูทางเข้า โต๊ะทางขวามือเป็นกับราดข้าว นอกจากนี้ยังมีบ๊ะจ่างอีก 700 ลูก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:17:22

ความคิดเห็นที่ 26 ซ้ายมือเป็นโต๊ะข้าวมันไก่ ทั้งไก่ต้มและไก่ทอดของเจ๊ฮวง เจ้าของร้านข้าวมันไก่ขี้เกียจหรือร้านข้าวมันไก่หยุดบ่อย ที่ขายอยู่ในโรงเจแห่งนี้ และเก็บภาพไว้แล้ว สำหรับ"เที่ยวไปกินไป @ ถนนราชวงศ์" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:17:44

ความคิดเห็นที่ 27 หลังเจ๊ฮวง เป็นร้านก๋วยเตี่ยวจากร้าน"จิตรก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:18:02

ความคิดเห็นที่ 28 เดินดูร้านอาหารที่นำอาหารมาแจก จากเจ้าภาพทั้งหมด 28 ร้าน เริ่มจากกระเพาะปลาน้ำแดง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:18:20

ความคิดเห็นที่ 29 ข้าวขาหมู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:18:39

ความคิดเห็นที่ 30 ก๋วยจั๊บจากร้านเล็กอ้วน 200 ชาม ปัจจุบันมีสี่สาขา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:19:33

ความคิดเห็นที่ 31 หมี่ผัดผักกระเฉด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:19:54

ความคิดเห็นที่ 32 ผัดไท ผัดหมี่และไข่พะโล้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:20:14

ความคิดเห็นที่ 33 หมูสะเต๊ะ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:20:34

ความคิดเห็นที่ 34 ร้านอาหารที่มาแจกทาน ตั้งอยู่สองข้างของลานจอดรถฌรงเจบุญสมาคม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:21:00

ความคิดเห็นที่ 35 ขึ้นไปชั้นสองของศาลเจ้าโรงเจ เพราะกำลังจะมีการถวายปัจจัยไทนทาน แด่พระสงฆ์ที่มาสวดตอนเช้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:21:26

ความคิดเห็นที่ 36 ตามด้วยการนำอาหารใส่ถาดขึ้นมาถวายเพลพระ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:21:50

ความคิดเห็นที่ 37 ซึ่งตั้งโต๊ะอยู่ในห้องของผู้จัดการโรงเจซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:22:12

ความคิดเห็นที่ 38 แม้ว่าอาหารถวายเพลจะเต็มโต๊ะแล้ว แต่ก็ยังมีการทยอยนำขึ้นมาอีก เพราะทุกร้านต่างก็ต้องการถวายเพลพระ อาหารที่นำขึ้นมาถวายเพลเพิ่ม มีทั้งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา กระเพาะปลา ผัดไท ก๋วยเตี๋ยวเป็ด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:22:36

ความคิดเห็นที่ 39 ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:22:58

ความคิดเห็นที่ 40 และหอยทอด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:23:19

ความคิดเห็นที่ 41 เดินเข้าไปดูในศาลเจ้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:23:42

ความคิดเห็นที่ 42 หน้าทางเข้าศาลเจ้ามีกรงนกสำหรับปล่อย ข้างกรงมีถาดใส่ข้าวสารและเงิน ข้าวสารไว้โรยให้นกกิน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:24:06

ความคิดเห็นที่ 43 ภายในศาลมีของไหว้ประธานของศาล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:24:27

ความคิดเห็นที่ 44 และเทพรองประธานของศาล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:25:12

ความคิดเห็นที่ 45 ที่ลานจอดรถหน้าศาลเจ้า ปูเสื่อวางของเซ่นไหว้อุทิศให้วิญญานไร้ญาติ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:25:39

ความคิดเห็นที่ 46 เดินไปดูร้านอาหารอื่นๆบ้าง ร้านขนมหวานแบบต้ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:41:51

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีค่ะอาสาม อาหารน่าทานมากมาย ขออนุญาตปาดเบาๆ^^ จากคุณ : โบอิ้ง (Oshiri) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:41:52

ความคิดเห็นที่ 48 โบอิ้ง (Oshiri)...อนุญาตคร้าบ ................................................................... ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตักใส่ชามโฟม รอราดน้ำแกงพะโล้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:42:49

ความคิดเห็นที่ 49 ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าหมู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:43:12

ความคิดเห็นที่ 50 หอยทอด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:43:34

ความคิดเห็นที่ 51 ขนมจีนน้ำยาและแกงเผ็ดหน่อไม้ใส่เนื้อไก่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:43:58

ความคิดเห็นที่ 52 ข้าวต้มมัดและเค้กกล้วยหอม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:44:21

ความคิดเห็นที่ 53 ผัดหมี่โคราช จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:44:42

ความคิดเห็นที่ 54 ข้าวต้มปลาใส่บ๊ะเต็ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:45:05

ความคิดเห็นที่ 55 ใกล้เที่ยงใกล้เวลาแจกอาหารเป็นทานสำหรับคนเป็น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:45:32

ความคิดเห็นที่ 58 กรรมการในโรงเจ ประกาศให้ผู้ที่มาช่วยงาน รีบทานอาหารให้เรียบร้อย เดินไปรับข้าวมันไก่เจ๊ฮวงหนึ่งถาด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:50:03

ความคิดเห็นที่ 59 เอกลักษณ์ของข้าวมันไก่เจ๊ฮวงก็คือ ราดข้าวมันไก่ด้วยซีอิ๊วดำ ซึ่งหาทานยาก นอกจากนี้ยังมีน้ำแกงให้เลือกสองแบบ และน้ำแกงต้มยำอร่อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:50:36

ความคิดเห็นที่ 60 แวะรับก๋วยจั๊บนายเล็กอ้วน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:51:04

ความคิดเห็นที่ 61 ยังคงเผ็ดพริกไทยเกินควรเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้เหมือนเดิม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:51:57

ความคิดเห็นที่ 62 เที่ยงตรงเริ่มทยอยปล่อยคนเข้ามาทีละสามสิบคนเพื่อรับอาหารแจก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:52:26

ความคิดเห็นที่ 63 ต่างคนต่างกรูรับอาหารจากโต๊ะแรกๆที่เห็น จนต้องประกาศว่าด้านในก็ยังมีอีกหลายร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:54:04

ความคิดเห็นที่ 64 บางคนหยิบทีละหลายจานหลายชาม คิดในแง่ดีก็คือเผื่ออีกมื้อ เพราะต้องรอถึงบ่ายสามโมง กว่าจะเริ่มแจกทาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:54:26

ความคิดเห็นที่ 65 หมูสะเต๊ะถุงละห้าไม้ ราดน้ำจิ้มเรียบร้อย แต่ไม่มีอาจาด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:54:48

ความคิดเห็นที่ 66 ขนมจีนราดแกงคนแน่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:55:12

ความคิดเห็นที่ 67 น้ำแดงและขนมไข่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:55:46

ความคิดเห็นที่ 68 รับอาหารเสร็จแล้วต้องออกไปทานนอกโรงเจ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:56:09

ความคิดเห็นที่ 69 ข้าวขาหมู 200 จานแจกหมดก่อนทุกร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:56:30

ความคิดเห็นที่ 70 เจ้าหน้าที่ทยอยปล่อยคนเข้ามาทีละชุดไม่ให้ข้างในแน่นเกินไป จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:56:54

ความคิดเห็นที่ 71 ฝ่ายแจกแจกไป ฝ่ายพับกระดาษก็พับไป จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:57:17

ความคิดเห็นที่ 72 ขนมหวานทยอยตักใส่ถ้วยโฟมแจก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:57:43

ความคิดเห็นที่ 73 ชักหิว รับข้าวเหนียวเปียกลำใย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:58:04

ความคิดเห็นที่ 74 และต้มถั่วแดงเม็ดใหญ่มาอย่างละหนึ่งถ้วย ทั้งสองถ้วยหวานน้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:59:30

ความคิดเห็นที่ 75 ไก่แจ้โรงเจเดินตรวจความเรียบร้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 01:59:56

ความคิดเห็นที่ 76 ยังมีคนทยอยนำอาหารมาไหว้อุทิศให้แก่วิญญานไร้ญาติ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:00:22

ความคิดเห็นที่ 77 ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ เมืองไทยนี่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารจริงๆ อิจฉาคนที่เมืองไทยจัง ได้ทานอาหารอร่อยๆ24/7เลย จากคุณ : โบอิ้ง (Oshiri) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:00:42

ความคิดเห็นที่ 78 ข้าวมันไก่เจ๊ฮวงเกือบยี่สิบตัวแจกใกล้หมดแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:00:49

ความคิดเห็นที่ 79 โบอิ้ง (Oshiri)...ต้องขอโทษที่ทำให้คิดถึงเมืองไทยครับ .................................................................................... ส่วนร้านข้าวราดกับเก็บของหมดแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:02:14

ความคิดเห็นที่ 80 ร้านก๋วยเตี๋ยวคงเตรียมของมามาก เพราะแจกหมดเป็นร้านสุดท้าย และมีห่อกลับให้เจ้าหน้าที่ด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:02:45

ความคิดเห็นที่ 81 รายนามคนใจบุญที่บริจาคอาหารแจกทานทั้ง 28 ราย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:03:10

ความคิดเห็นที่ 82 เฮียลัก กรรมการของโรงเจบุญสมาคมที่ดูแลความเรียบร้อยในการแจกอาหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:03:43

ความคิดเห็นที่ 83 ออกจากโรงเจบุญสมาคมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆไปออกสำเพ็งช่วงขายผ้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:04:13

ความคิดเห็นที่ 84 ที่ปัจจุบันเริ่มมีร้านกิฟท์ชอปรุกเข้ามาเปิดมากขึ้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:04:36

ความคิดเห็นที่ 85 เดินทะลุสำเพ็งไปออกถนนเยาราช เพื่อไปหอศิลป์ธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:04:59

ความคิดเห็นที่ 86 การสอนพับกระดาษสอนเสร็จไปแล้ว ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสามห้องสัมนาปิด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:05:33

ความคิดเห็นที่ 87 หน้าลิฟท์มีประติมากรรมขนาดเท่าคนจริง ศิลปิน นายกิตติพงษ์ สุริยทองชื่น ชื่อผลงาน ความอบอุ่นแห่งชีวิตหมายเลข 2 เทคนิค พลาสเตอร์ แนวความคิด ความรักของมารดา ที่แสดงถึงคุณค่าและความหมายของชีวิต ความรัก ความหวัง ในการเอาใจใส่ในเลือดเนื้อเชื้อไข ซึ่งเป็นความรักเอื้ออาทร เต็มเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:05:59

ความคิดเห็นที่ 88 ข้างธนาคารกรุงไทย สาขาเยาราช ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอศิลป์กรุงไทย คือซอยเยาวราช 23 หรือถนนเสริมสินค้า ปากซอยข้างธนาคาร คือร้านข้าวหมูแดงนายโอว ได้ยินว่าซื้อสูตรมาจากร้านที่วรจักร จริงเท็จประการใดรอพิสูจน์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:06:44

ความคิดเห็นที่ 89 ตรงข้ามซอยเยาวราช 23 คือซอยบำรุงรัฐ ซอยที่มีของรอ่อยสามร้าน คือข้าวต้มปลาเซี่ยงกี่ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาแปะเตียง และร้านอาหารจีนแคะ แหลมทองโภชนา ปากซอยเป็นย่านขายส่งแว่นตา และอุปกรณ์บีบีกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:07:08

ความคิดเห็นที่ 90 ถัดไปทางซ้ายคือถนนมหาจักร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:07:33

ความคิดเห็นที่ 91 แม้ว่าจะเพิ่งมีการจับกุมร้านค้า ที่ขายยาเพิ่มพลังทางเพศปลอม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็มีวางขายให้เลือกซื้ออีกแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:08:04

ความคิดเห็นที่ 92 ผ่านร้านตัดผมริมถนนเยาวราชเพียงร้านเดียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:08:39

ความคิดเห็นที่ 93 ข้ามแยกวัดตึก เพื่อไปเก็บภาพของสิ่งหนึ่ง ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ในเวิ้งนาครเขษม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:09:08

ความคิดเห็นที่ 94 เป็นธงเหล็กสามเหลี่ยมสีแดง มีดาวห้าแฉกสีขาวสีขาวตรงกลาง ไม่ใช่ธงของสถานทูตของประเทศสังคมนิยมแต่อย่างใด แต่มันคือป้ายจอดรถราง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 02:09:33