ความคิดเห็นที่ 1 ก็จ่ายไปปกติแหละค่ะ แต่คงไม่ไปใช้บริการอีก อาจติให้ทางบริษัทรับทราบเท่านั้นเอง จากคุณ : taoratty เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 12:07:14

ความคิดเห็นที่ 2 Service charge ไม่ใช่ทิปที่จะจ่ายหรือไม่ตามความพอใจค่ะ มันคือค่าบริการที่ร้านอาหารส่วนใหญ่แยกจากค่าอาหาร เหมือนกับในบางประเทศที่ราคาอาหารซื้อออกไปกินข้างนอกกับราคากินในร้านต่างกัน โดยราคากินในร้านจะแพงกว่า เห็นถามเรื่องนี้กันบ่อยจริงๆ ถ้าคุณไม่อยากจ่ายตรงส่วนนี้แนะนำว่าให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านไม่ต้องนั่งกินในร้าน ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าService charge จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 12:34:51

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าร้านระบุไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วก่อนเราสั่งอาหาร เช่น ในสมุดรายการอาหาร ข้างผนัง ฯลฯ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้าและบริการที่เราซื้อ เพราะฉะนั้นอาจจะปฏิเสธได้ก็ต่อเมื่อสินค้าและบริการที่เราซื้อไม่ได้รับการชำระหนี้โดยไม่ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ เช่น สั่งข้าวผัดหมู แล้วได้ข้าวผัดกุ้ง ฯลฯ แบบนี้เรามีสิทธิบอกให้เค้าทำการชำระหนี้ใหม่ให้ตามที่ตกลงกัน(ตามที่เราสั่ง) ถ้าเค้าไม่ทำการชำระหนี้ให้เรา(ไม่ทำข้าวผัดหมูมาเปลี่ยนให้)ในเวลาอันควร เราก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญา(บอกเลิกไม่กิน) ผลที่ตามมาก็คือ ทุกคนกลับสู่สภาพเดิม... ถ้าเรายังไม่ได้กิน ก็คืนไป เงินก็ไม่ต้องจ่าย เค้าก็ไม่ต้องทำอะไรให้เราใหม่ แต่ถ้าเรากินอะไรของเค้าไปแล้ว ก็ต้องจ่ายเงินไปตามที่กิน เพราะไม่อาจจะเอาไปคืนเค้าได้แล้ว ส่วนเรื่อง "บริการ" อันนี้ดูยากกว่าหน่อย เพราะมันไม่ชัดเหมือนอาหารว่าสั่งอะไร...แต่วิธีคิดใช้หลักเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าควรจะดูลักษณะของแต่ละร้านด้วย ว่าปกติแล้วร้านระดับนั้นๆทั่วๆไป บริการในระดับไหน คนปกติทั่วไปผู้มีเหตุผล(วิญญูชน)คาดหมายได้รับการบริการระดับไหน เช่น ไปกินข้าวแกงข้างถนนคงจะให้โค้งคำนับตลอดแบบร้านในโรงแรมไม่ได้ เป็นต้น (เข้าใจนะว่าร้านข้าวแกงไม่มีคิดค่าบริการ แต่แค่จะยกตัวอย่างชัดๆให้ดู) ถ้าทำได้ไม่ถึงระดับนั้น เราก็มีสิทธิที่จะเรียกให้เค้าบริการเราให้ได้ตามความประสงค์อันแท้จริงของมูลหนี้... ถ้าเขาไม่ทำ เราก็บอกเลิกสัญญาได้ แต่คงได้เฉพาะในส่วนบริการ ไม่เกี่ยวกับอาหาร เว้นแต่งานบริการของร้านนั้นๆมีลักษณะเป็นส่วนสำคัญมากในการซื้ออาหารกินครั้งนั้นๆ แบบนี้อาจบอกเลิกสัญญาได้เลยทั้งหมด แต่ถ้าเขาได้บริการอะไรไปแล้ว ก็ต้องจ่ายเขาไปส่วนหนึ่งตามควร (อันนี้ยากหน่อยว่าอะไรคือตามควร) รวมถึงเรื่องของอาหารที่กินไปแล้ว หรือเขาทำมาถูกต้องตามสั่งแล้วด้วย ถ้าเลิกสัญญาทั้งหมดจะไม่กินเลย ก็ต้องจ่ายตามควรตามสัดส่วนกันไป แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 16:09:59 จากคุณ : dragonite เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 13:17:19

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ กระจ่างครับผม  ขอบคุณคุณ dragonite มากๆครับX) จากคุณ : Armenhotep เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 15:29:28

ความคิดเห็นที่ 5 ร้านที่มี Service Charge สั่งกลับบ้าน ก็โดน Service Charge ไม่ใช่เหรอครับ? หรือว่าผมเข้าใจผิดไปเอง? จากคุณ : Thai_Ozzy เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 16:16:10

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ในเมื่อชำระหนี้ไม่ต้องตรงตามประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้คือเราย่อมมีสิทธิปฏิเสธการชำระหนี้ แต่ถ้าเราไม่ปฏิเสธ คือยังกินอาหารร้านเขา เราก็ยังเป็นลูกหนี้ในค่าอาหารและค่าบริการตามที่กำหนดจะปฏิเสธมิได้ แต่เราก็ยังมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากการบริการแย่ๆนั้น Q: ถ้าเราไม่ชำระค่าบริการ ทางร้านทำอะไรเราได้มั่ง ?? A: 1. ไม่สามารถฟ้องทางอาญาได้ เนื่องจากการไม่ชำระหนี้ค่าบริการเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง 2. ทางร้านอยากได้เงินค่าบริการไปฟ้องเอาเอง 3. ทางร้านไม่สามารถกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือข่มขู่ให้เราชำระค่าบริการได้ หากทางร้านกระทำการลงมือ เช่นยึดสัมภาระไว้ อาจเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ถ้ามีการลงมืออาจเป็นชิงทรัพย์ ทั้งหมดนี้ อ่านเจอมาจากในเวปนะคะ จากคุณ : prye เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 17:06:01

ความคิดเห็นที่ 7 เล่นกฎหมายกันเลยทีเดียว มันใช้ได้จริงรึเปล่าไม่รู้ ใครใช้แล้วรอดกลับมามาเล่าประสบการณ์หน่อยนะครับ มันน่าจะอารมณ์เดียวกับรถชนอ่ะ "อยากได้ไปฟ้องเอา" ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ จากคุณ : darkness2 เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 20:21:07

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไม่เห็นด้วยกับที่คุณ #6 ยกมาบางส่วนครับ "ก็ในเมื่อชำระหนี้ไม่ต้องตรงตามประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้คือเราย่อมมีสิทธิปฏิเสธการชำระหนี้ แต่ถ้าเราไม่ปฏิเสธ คือยังกินอาหารร้านเขา เราก็ยังเป็นลูกหนี้ในค่าอาหารและค่าบริการตามที่กำหนดจะปฏิเสธมิได้ แต่เราก็ยังมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากการบริการแย่ๆนั้น" ผมเห็นว่า ในกรณีเขาทำอาหารมาผิดก็ตาม บริการผิดไปจากที่ควรได้รับตามปกติของร้านระดับนั้นๆก็ตาม.... ถ้าเรายอมรับอาหารนั้นมากิน ยอมรับบริการของเขา โดยไม่อิดเอื้อน ดังนี้แล้ว เป็นการยอมรับการขำระหนี้เป็นอย่างอื่น ตาม ป.พ.พ. ม.321 ..เมื่อเรายอมรับการชำระหนี้เช่นนี้แล้ว หนี้ในส่วนของร้านค้าก็เสร็จสิ้นไป ซึ่งเราก็ต้องชำระหนี้ในส่วนของเราที่เราสัญญาไว้กับเขาเต็มจำนวน ไม่น่าที่เราจะเรียกค่าเสียหายได้ครับ เพราะถือว่าสัญญามีการชำระหนี้กันเสร็จสิ้นแล้วในส่วนของร้านต่อเรา ในส่วนที่ถ้าเราไม่ชำระหนี้ต่างตอบแทนเป็นเงินให้แก่เขา ถูกต้องแล้วว่าเป็นเพียงคดีแพ่งเท่านั้น ร้านไม่อาจบีบบังคับด้วยกำลังกับเราได้ ไม่อาจกักขังได้ ถ้าว่ากันตามกฎหมาย (จะผิดอาญาก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าเราไม่มีเงินแล้วยังไปกิน แบบนี้จะผิด ป.อ. มาตรา345) ตอบคุณ #7 ึคุณจกขท.ถามเรื่องกฎหมายครับ (อ่านได้จากคำถามคุณจขกท.ที่ถามไว้ด้านบนโน้น) ก็คงตอบไปตามกฎหมาย (แต่พยายามทำให้อ่านง่ายเข้าไว้และไม่ซับซ้อนเกินไป) จะเอาไสยศาสตร์มาตอบก็คงกระไรอยู่ ในทางปฏิบัตินั้น... กฎหมายใช้ได้เสมอครับ เพียงแต่ว่า ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เช่น ข่มขู่ กักขัง ทำร้ายร่างกาย หรืออื่นๆ อันนี้วิญญูชนก็ย่อมต้องใช้วิจารณญาณว่าจะทำเช่นไร จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงภัยเช่นนั้นหรือไม่ คุ้มกับสิ่งที่จะเสียหรือไม่ แน่นอนว่า ถ้าโดนกระทำเช่นนั้น ก็ฟ้องร้องเอาได้ทีหลังอีกเช่นกัน ถ้าคนนั้นๆชั่งน้ำหนักส่วนได้เสียแล้วคิดว่าคุ้ม ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนครับว่าจะเลือกเช่นไร จากคุณ : dragonite เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 21:46:29

ความคิดเห็นที่ 9 เคยซื้อฟูจิกลับบ้าน ไม่มี service charge เคยทานอาหารในร้านและซื้อกลับบ้านของ S&P ส่วนที่ซื้อกลับบ้านไม่มี service charge จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 22:16:13

ความคิดเห็นที่ 10 ขอตอบในมุมมองของคนทำงานร้านอาหารนะครับ ร้านอาหารส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้เค้าคิดแบบนี้ครับ ค่าอาหารคือ ค่าพืชผักผลไม้ เนื้อสัตว์ และบรรดาวัตถุดิบต่างๆในจานที่คุณนั้นทาน รวมถึงค่าแก็ส ค่าน้ำมัน ค่าเครื่องปรุงต่างๆ บวกกับกำไรที่เจ้าร้านจะได้ไปเต็มๆ ส่วนค่าเซอร์วิสชาร์ต คือค่าใช้จ่ายต่างๆในร้าน รวมถึงค่าพนักงานด้วย ทั้งพนักงานในครัวที่ต้องออกแรง ทนร้อน ยืนทำอาหารให้คุณ ค่าพนักงานบริการที่ให้บริการตั้งแต่การยกมือไหว้เมื่อคุณเดินเข้ามาในร้าน จดออเดอร์อาหารของคุณ ยกอาหารมาให้ ทำความสะอาด เก็บจาน รวมถึงล้างจานและแก้วน้ำที่คุณทาน และอีกหลายๆอย่าง ดังนั้น ถ้าคุณไปร้านไหนแล้วไม่ต้องการจ่ายเซอร์วิสชาร์ต ได้ครับ แต่คุณต้องทำเองทั้งหมดนะ ทั้งสั่งอาหาร หยิบจานเอง ตักอาหารเอง เติมน้ำเอง เก็บจานเอง ฯลฯ ถ้าคุณทำเองได้ทั้งหมด ไม่ต้องใช้พนักงาน หรือให้เจ้าของร้านมาทำเองทั้งหมดคนเดียว นั่นแหละครับถึงไม่ควรมี "เซอร์วิสชาร์ต" จากคุณ : เขียนบน iPad (GeeGy AnGie) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 02:54:36

ความคิดเห็นที่ 11 เวลาผมเข้าร้านโออิชิ ผมก็หยิบจานเอง ตักอาหารเอง เติมน้ำเอง ยกเว้นเก็บจานอย่างเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะเก็บดีเด่อะไร บางครั้งวางกองพะเนินเทินทึกก็ยังไม่เห็นมีใครมาเก็บ จะเรียกพนักงานทีก็ไม่ค่อยจะเจอ บางสาขาพนักงานหน้าตาก็ไม่ค่อยจะรับแขก จากคุณ : KenshiroJr. เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:39:55

ความคิดเห็นที่ 12 . แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 20:18:45 จากคุณ : หนูปุ๊ก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 20:41:21