ความคิดเห็นที่ 1 วัตถุดิบในส่วนของตัวขนม ประกอบด้วย - แป้งข้าวเจ้า 1 ถุง -น้ำตาลปี๊ปแท้ 1 กิโลกรัม -น้ำต้มสุก (ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนนะครับ) วัตถุดิบในส่วนของหน้า ประกอบด้วย -กะทิคั้นสด -หอมแดงซอย แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 18:21:09 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:20:57

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีทำ -นำแป้งจากถุงใส่หม้อ ตามด้วยน้ำต้มสุก คนให้ละลาย วิธีสังเกตว่า ปริมาณของน้ำกับแป้งพอดีกันหรือไม่นั้น ให้เอาไม้พาย คนในหม้อแป้งที่ละลายเเล้ว หลังจากนั้น ยกพายขึ้น ดูว่าน้ำแป้งเกาะไม้พายพอจางๆหรือไม่ ถ้าติดไม้พายพอจางๆ แปลว่า ใช้ได้ ไม่ใช่หนืดๆแบบกะทินะครับ นั่นแปลว่าแป้งมากไป(ยายบอก) -เอาน้ำตาลปี๊ปแท้ ใส่ลงในหม้อแป้ง คนๆบี้ๆ จนน้ำตาลละลายเข้ากับเเป้ง สำหรับขั้นตอนนี้ ไม่มีรูปประกอบนะครับ ขอข้ามรูปไปที่ขั้นตอนบนเตาไฟเลยแล้วกัน แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 13:38:04 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 13:37:24 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:26:09

ความคิดเห็นที่ 3 -เทแป้งที่ละลายน้ำตาลเสร็จแล้ว ตั้งไฟ คนไปเรื่อยๆ ตามภาพที่ปรากฏ แรกๆใช้ไฟแรงได้นะครับ จากนั้น ค่อยลดไฟลง แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 13:38:29 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:28:15

ความคิดเห็นที่ 4 คนๆกวนๆไปซักพัก แป้งเริ่มเหนียว ปริมาณแป้งในกระทะเริ่มลดลง เคล็ดลับคือ ลองตักชิมซักนิด ดูว่าแป้งหวานหรือไม่ ให้ออกหวานจางๆซักหน่อย อย่าให้หวานมาก เพราะเวลากวนไปนาน พอแป้งเย็นตัวเเล้ว จะหวานขึ้นอีก พอดี แต่ถ้าให้หวานมากในตอนเเรกที่กวน พอแป้งเย็น จะหวานจนแสบคอ พึงระวัง แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 13:52:53 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:30:01

ความคิดเห็นที่ 5 ขั้นตอนการกวนแป้งนี้ ใช้ระยะเวลารวม 1 ชั่วโมงกว่าๆ แป้งก็จะเหนียว กลิ้งบนกระทะ ไม่ติดกระทะเเล้ว เป็นอันใช้ได้ จากนั้น เทใส่ถาดที่ล้างสะอาดแล้ว และไม่มีหยดน้ำเกาะ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:31:54

ความคิดเห็นที่ 6 -ถ้าใครมีผู้ช่วย ระหว่างกวนแป้ง ก็ให้อีกคนนึงทำหน้าขนมได้เลยครับ จัดการเทกะทิสด(ยายไปสอยข้างบ้าน พร้อมกับขูดให้เรียบร้อย ส่วนผมมีหน้าที่คั้นกะทิ) ใส่กระทะ ใช้ไฟแรง ให้กะทิเดือด ตามภาพเลยครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:34:36

ความคิดเห็นที่ 7 -ระวังอย่าให้กะทิล้นออกมา ถ้าเดือดมากนักก็หรี่ไฟเสียหน่อย เคล็ดลับคือ แรกๆอย่าคนมากเพราะจะทำให้ตัวหน้าขมเละ ไม่เกาะกันเป็นก้อน จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:36:14

ความคิดเห็นที่ 8 -เคี่ยวกะทิไปเรื่อยๆ จนแห้งลง ดูๆไปก็คล้ายหมูสับ ไก่สับ ในน้ำมันเลยนะเนี่ย ขั้นตอนนี้ อย่าใช้ไฟแรงนะครับ แล้วก็คนไปมา ขึ้น ลง เท่านั้น อย่าหยุด และห้ามกวน ไม่งั้นมันจะเละ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:41:23

ความคิดเห็นที่ 9 -คนต่อไป จนงวดแห้ง ตามภาพ สีจะออกน้ำตาลๆ แล้วให้โรยเกลือลงไปนิดนึงเพิ่มรสชาติ แล้วยกลง อย่าปล่อยจนเป็นสีน้ำตาลเข้มเกินนะครับ ไม่งั้นจะขม จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:43:40

ความคิดเห็นที่ 10 และแล้วก็ได้ตัวหน้าขนมขี้มัน เห็นมั้ยครับว่า จะเป็นก้อนๆคล้ายหมูสับ เพราะไม่ไปกวนมันมากตอนแรก ตามเคล็ดลับที่บอกไปตอนต้น ผลพลอยได้จากการทำหน้าขนมก็คือ น้ำมันมะพร้าว ที่หอมมากๆ ตามภาพเลยครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:45:29

ความคิดเห็นที่ 11 -จากนั้น เอาหอมแดงเล็กซอย ไปเจียวในน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการเคี่ยวกะทิทำหน้าขนม..........หอมมากๆ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:46:30

ความคิดเห็นที่ 12 -รอจนตัวขนมเย็น แล้วตัดเป็นชิ้นๆ เอาหน้าขนมที่เคี่ยวไว้คลุกรวมกับหอมเจียว นำมาราดบนหน้าขนม............. จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:47:50

ความคิดเห็นที่ 13 ปาดค่า ลูกหลานคนชุมพรเหมือนกัน ;) จากคุณ : ไม่หั่นหัวหอม ไม่หลั่งน้ำตา เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:48:19

ความคิดเห็นที่ 14 อีกซักรูปนะครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:48:25

ความคิดเห็นที่ 15 มาม๊ะ ผมป้อน อ้าปากหน่อยครับ.......... จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:48:52

ความคิดเห็นที่ 16 รสชาติของขนม ตัวแป้งจะออกหวาน มัน ส่วนตัวหน้า จะเค็มๆนิดๆ กรุบๆนิดๆคล้ายหมูสับทอดเลยทีเดียว สรุปคือ หอมมะพร้าว อร่อยมาก จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:50:48

ความคิดเห็นที่ 17 นึกออกแล้ว !!!^_^ จำได้ว่าเคยกินขนมนี้ตอนเด็ก ๆ ที่งานบวชของใครซักคน รสชาติหวานมัน เหนี่ยวนุ่ม หนึบ ๆ   ความทรงจำวัยเด็กค่อย ๆ ชัดขึ้นทีละนิด ๆ แล้วจ้า ^______________^ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 14:24:19 จากคุณ : Kika_ii เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:20:17

ความคิดเห็นที่ 18 คิดถึงตอนเด็กๆเลยค่ะ ที่บ้านก้ทำกินกัน จากคุณ : panmile_ae เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:43:25

ความคิดเห็นที่ 19 แถวบ้านยังมีพวก ป้าๆ ยายๆ ทำขายค่ะ ห่อละ 5บาท แถบ บางสะพาน เรียกว่า ขนมขี้น้ำมัน อร่อยแต่อ้วนจริงๆ จากคุณ : กาหยู เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:51:09

ความคิดเห็นที่ 20 ขนมนี้อร่อยค่ะ ตอนเด็กๆ เคยกิน เพิ่งรู้ว่าหน้าสีน้ำตาลคือกะทินะเนี่ย จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:55:40

ความคิดเห็นที่ 21 อยากทานมาก  คิดถึงบ้าน จากคุณ : Pim_ลภัส เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 15:11:27

ความคิดเห็นที่ 22 อยากทานมาก  คิดถึงบ้าน จากคุณ : Pim_ลภัส เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 15:14:25

ความคิดเห็นที่ 23 นานมาแล้ว  แม่เคยทำแป้งกวนคล้ายๆกันนี้   แต่ที่หน้า ใช้ถั่วมาซอยหยาบๆโรยแทนค่ะ สูตรชุมพรแบบนี้  ยังไม่เคยลองชิมเลยค่ะ   ไปครั้งหน้าต้องถามหาเสียหน่อย จากคุณ : ป้าแจ๋วแหวว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 15:44:20

ความคิดเห็นที่ 24 อยากกินบ้างจัง ที่กรุงเทพมีขายไหม จากคุณ : ถนนสายเดียว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 15:58:53

ความคิดเห็นที่ 25  ยังไม่เคยทานเลยค่ะแต่ดูกรรมวิธีแล้วรสชาติน่าจะหวานมันนะคะ จากคุณ : OKEOKE เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 16:34:06

ความคิดเห็นที่ 26 จำได้ดีทีเดียว แต่สารภาพว่าเป็นขนมที่ไม่ชอบ บ้านผมเรียกขนมขี้มันเหมือนกันครับ จากคุณ : คนตราหมี (RadoN) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 17:07:00

ความคิดเห็นที่ 27 เราชอบอ่ะ กลับไปใต้เมื่อสิงหาที่ผ่านมา ก็ไม่ได้กิน T^T จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 17:37:02

ความคิดเห็นที่ 28 ดูแล้วคิดถึงแม่ทันใด T T ที่บ้านเรียก ขนมหน้าขี้มัน...อ่ะ อยากกินนนนนนนนน จากคุณ : เจ๊แหนมกะน้าพุ้ย เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:03:21

ความคิดเห็นที่ 29 ที่บ้านเรียกขนมขี้มันเหมือนกันค่ะ ... นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นขนมนี้  เกือบลืมเลยสิ ขอบคุณที่มาช่วยเตือนความจำให้นะคะ  ขนมน่ากินค่ะ^^ จากคุณ : Fairy Mary เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:07:57

ความคิดเห็นที่ 30 ที่บ้านเรียกขนมขี้มันเหมือนกันค่ะ ... นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นขนมนี้  เกือบลืมเลยสิ ขอบคุณที่มาช่วยเตือนความจำให้นะคะ  ขนมน่ากินค่ะ^^ จากคุณ : Fairy Mary เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:08:18

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ได้กินนานมากๆแล้ว ตอนเด็กๆกินบ่อยเพราะบ้านยายทำน้ำมันมะพร้าว เลยได้ขี้มันมาทำขนม ขอบคุณที่เอามาให้ดูค่ะ จากคุณ : แมวต่างแดน เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:21:21

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เคยกินเลย อยากลอง ท่าทางจะหอมหวาน มัน จากคุณ : เอ๊กกี่ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:33:44

ความคิดเห็นที่ 33 ของโปรดค่ะ  ซื้อกินทุกครั้งที่กลับเมืองไทย   ตอนเด็กๆ เป็นขนมประจำบ้าน จากคุณ : คุณนายก้อ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:41:22

ความคิดเห็นที่ 34 ปีนี้ไม่ได้กลับค่ะ เราอยู่สุราษฎร์ เมื่อก่อนยายเราทำขายค่ะ อร่อยสุดยอด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ทานแล้ว หาทานยาก ต้องกลับบ้าน แล้วให้ยายทำนั่นแหละ ถึงจะได้ทาน จากคุณ : ยมทูตหน้าใส เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:15:08

ความคิดเห็นที่ 35 พี่ มีขนมหัวล้านมั้ย จากคุณ : toom59 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:34:35

ความคิดเห็นที่ 36 ของโปรดเลยค่ะ แต่เด๋วนี้หาทานยากจัง จากคุณ : kiara เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:43:05

ความคิดเห็นที่ 37 คนชุมพรเหมือนกัน ชอบกินหนมนี้มากกกกกก  ปกติหากินยาก ยกเว้นเวลาไปวัดนี่แหละค่ะ เพียบ 555 จากคุณ : mangporbaba เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 22:42:15

ความคิดเห็นที่ 38 ขนมนี้อร่อยครับของชอบผมเลย แต่บ้านผมที่นครศรีฯเค้าเรียกหนมกวน(ขนมกวน)ส่วนที่โรยด้านบนเรียกขี้มันครับ จากคุณ : ghostpig เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 00:32:41

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่เคยกินอ่ะ น่าทานจัง ท่าทางจะอร่อยหอมมัน จากคุณ : โบอิ้ง (Oshiri) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 04:45:55

ความคิดเห็นที่ 40 คนบ้านเดียวกัน ^ ^ จากคุณ : SakuraMe เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:57:39

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นแล้วคิดถึงบ้าน อยากกินมาก ในกทม. จะหาซิ้อได้ที่ไหนเนี้ย ^^ จากคุณ : คนสุราษฎร์ (แจ๊สขาว) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 16:39:29

ความคิดเห็นที่ 42 แม่เราชอบกินมาก  ที่บ้านเรียกหนมเปียกขี้มัน  เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนทำแล้ว  นาน ๆ เจอที จากคุณ : จาปาตี เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 17:07:51

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าผสมถั่วลิสงคั่วลงไปในขี้มันด้วยจะอร่อยยย มากกกก ขึ้นไปอีก จากคุณ : moddmd เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 00:00:07