ความคิดเห็นที่ 1 รูปประกอบบทความนั้นค่ะ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 17:49:31

ความคิดเห็นที่ 2 เอิ๊กๆๆๆเข้ามาขำ อิอิ จากคุณ : ลุงพุงโต (LungPungTo) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 17:55:11

ความคิดเห็นที่ 3 กล้าเนอะ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 18:00:04

ความคิดเห็นที่ 4 ผิดหวังกับคนเป็นครูบาอาจารย์น่ะค่ะ... มีสื่ออยู่ในมือ แต่ไม่ได้คิดจะให้วงการทำขนมมันเฟื่องฟูเลย กลัวแต่คนหัดทำขนมใหม่ๆ จะพากันมักง่ายตามแกไปหมดน่ะค่ะ... จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 18:07:47

ความคิดเห็นที่ 5 หน้าตาแย่ยิ่งกว่ามือใหม่แบบเราอีกค่ะ น่าสงสารคนที่เป็นลูกศิษย์แกจริงๆ จากคุณ : ran.takarai เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 18:15:57

ความคิดเห็นที่ 6 เอิ่ม... จะมีใครกล้าทำตามมั๊ยล่ะเนี่ย!!! จากคุณ : เขียนบน iPhone (Hogwarts Girl) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 18:20:26

ความคิดเห็นที่ 7 OMG ช่างกล้าอะ พี่ๆที่หัดทำมากาฮองในนี้ยังทำได้น่าดูกว่าอีกอ่าค่ะO_o จากคุณ : siriket เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 18:24:10

ความคิดเห็นที่ 8 ประทานโทษ แอบงง ขนมมันชื่ออะไรกันแน่อะคะ ....ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ขวัญใจซูโม่ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 19:18:54

ความคิดเห็นที่ 9 ทำเหมือนขนมที่ขายตามตลาด ขีดล่ะ 2.5 ยูโรเลยค่ะ มันเป็น macaron ล่ะค่ะ แต่ไม่มีใส้ ปกติขายอันล่ะ ต่ำสุด .50 เซนต์ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 19:27:59

ความคิดเห็นที่ 10 คห 8 Macaron มาการง ค่ะ บ้างอ่าน มาการ็อง หรือ มาคาร็อง แต่ เอ็ม ออกเสียงตามคนปารีสว่า มาการง (ได้ชื่อมาจากจ่าพิชิตดราม่าว่า แม่ครัว M เลยเอามาใช้ซะเลย) แต่การออกเสียงตัว r ของคนฝรั่งเศสจะเป็นการออกเสียงที่เรียกว่า Uvular Fricative หรือในสำเนียงปารีสเก่าๆหน่อย เรียก uvular trill คือการใช้โคนลิ้นเป็นตัวทำให้เกิดเสียง (นี่เราเป็นแม่ครัวหรือสาวอัษก Phonetic เนี่ย) ซึ่งมันเหมือน ค ควาย กับตัว ร ผสมกัน บ้างก็ได้ยินเป็นเบา บางคนจึงเรียกว่า มากาฮง หรือ มากาฮอง ค่ะ แต่จริงๆ ก็ควรเขียนว่า มาการง หรือ มาคารง น่าจะถูกอักขระที่สุด แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 19:33:50 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 19:29:59 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 19:29:39

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วสวยๆ งามๆ มันเป็นยังไงหรอคะ ไม่รู้จักค่ะ จากคุณ : lilycu เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 19:39:33

ความคิดเห็นที่ 12 นึกว่าขนมครกทาสีประกบกัน จากคุณ : ซาสิ้ว เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 19:55:35

ความคิดเห็นที่ 13 มาการงสวยๆ ค่ะ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/02/D5114800/D5114800.html http://www.google.co.th/search?hl=th&newwindow=1&noj=1&biw=1280&bih=709&q=Macaron&gs_sm=s&gs_upl=1986165l1986165l0l1987206l1l1l0l0l0l0l288l288l2-1l1l0&um=1&ie=UTF-8&tbm=isch&source=og&sa=N&tab=wi จากคุณ : tokei/tookei เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:03:02

ความคิดเห็นที่ 14 รูปสวย แต่ขนมไม่สวยค่ะ ><~ เพลีย จากคุณ : =เด็กเอ๋ยเด็กดี= เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:13:00

ความคิดเห็นที่ 15 เอารูปขนมตัวเองมาลงก็เขินๆ แต่อยากให้เป็นหลักฐานเพื่อแย้งนักเขียนคนนี้ว่า ทำเองที่บ้าน ก็สวยได้ค่ะ อันนี้รส พิสตาชิโอค่ะ เปลือกทำจากสูตร Pierre Herme ไส้นี่ทำเองค่ะ เป็นกานาชช็อกโแลตขาว กับ Pistachio paste แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 20:17:18 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:16:48

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่รู้จะสงสาร หรือ สมเพชความคิดอิป้านี่ดี จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:17:40

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตค่ะเผื่อป้าหรือเจ้าของหนังสือเค้าเข้ามาเห็น จากคุณ : ladynula เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:33:08

ความคิดเห็นที่ 18 มาการองของ "แม่ครัวM"  สวยงามมากค่ะ จากคุณ : ดาวจ๋า (satineesh) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:34:42

ความคิดเห็นที่ 19 อายแทนเลย จากคุณ : dew_monamoji เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:35:38

ความคิดเห็นที่ 20 คนนี้นะ เราเคยชอบเค้า เพราะเค้าทำหนังสือสอนทำขนมเล่มเล็กๆ น่าอ่าน ดูไม่ยาก จนเราไปเจอคุณป้า นี่แหละ  อยู่ที่บูท หนังสือ งานสัปดาห์หนังสือหลายปีแล้ว ตั้งแต่สมัยเค้ามีรวมหนังสือออกมาใหม่ๆ ด้วยความชื่นชอบ ก็เข้าไปจะซื้อหนังสือแล้วให้เค้าเซ็นต์ชื่อให้ เก็บเป็นที่ระลึก  เราคงจะดูเด็กๆนะ  แต่งตัวแสนจะธรรมดา   ก็ไปยืนเลือกหนังสือ พอดีตอนนั้นไม่ค่อยมีคนด้วย เราก็เลยกำลังตัดสินใจ ว่าจะเอาเล่มไหนดี ป้า  ปริสนา นี่นะ .. บอกว่า   อย่าเปิดดูนะ ยับแล้วขายไม่ได้ ..เรา งง มาก เพราะเสียงไม่มีความเป็นมิตรเลยอ่ะ เราก็ยัง ยิ้มนะ บอกว่า อ่านคอลัมม์ คุณน้า ประจำเลยค่ะ  ชอบมาก ป้า" ชอบก็ซื้อสิ" อืมม์.. เลือกได้เล่มนึง บอกว่า รบกวนเซ็นต์ให้ด้วยมั๊ยคะ ป้าเค้าก็รับไปนะ.. กำลังหาปากกามาเซ็นต์ให้เรา เราก็ถามว่า .. " อยากให้เขียนตำรา ทำขนมปัง ด้วยน่ะค่ะ  ตอนนี้อยากหัดทำขนมปัง" ป้า หยุด จ้องหน้าเรา " ไม่เขียน ไม่ชอบ  อยากได้หนังสือขนมปังก็ไปซื้อที่อื่น ชั้นไม่ชอบ ไม่กิน" แล้วก็ โยนปากกาเบาไปบนโต๊ะ ไม่เซ็นต์ให้เรา คือ เรา เสียดายเงินมาก ที่ซื้อไป  เสียความรู้สึกสุดๆ   อดไม่ได้จริงๆ   ก่อนจะเดินไปที่อื่น เราก็มองหน้าป้า บอกว่า .. "  ทำไม คุณน้า เป็นคนที่แห้งแล้งขนาดนี้คะ พูดจาไม่ดีเลย  ขนาดหนูเป็นเด็กกว่าหลายสิบปี  หนูยังไม่เคยพูดจาแบบนี้เลย แล้วก็ ไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนทีทำขนมสวยๆ  จะมีจิตใจกระด้างขนาดนี้ .." พอดีมีคนมาจะซื้อหนังสือป้า เราเลย ยื่นเล่มที่เราเพิ่งซื้อไปนั่นแหละ บอกว่า ไม่ต้องซื้อแล้วนะคะ เล่มนี้ยกให้เลยค่ะ  คนนั้นเค้าก็ทำหน้า งง..ๆ เราก็เลยบอกว่า รับไปเถอะค่ะ  พอดีซื้อแล้ว ไม่อยากได้แล้ว ตำราที่คนเขียนเป็นคนแบบนี้ คงทำขนมออกมาแล้ว ห่วย    เททิ้งหมด แค่นั้นแหละ เราเดินหนีไปเลย กลัวโดนป้ามาตบ   ตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยอ่านหนังสือ ที่ป้าเขียนอีกเลย เกลียดมาก  เล่าสู่กันฟังค่ะ แต่ป้าเค้าคงจำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะท่่าทางจะเป็นพวก ตัวกู ของกู   คนอื่นไม่สน สนแต่ตัวกับเงิน จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:39:41

ความคิดเห็นที่ 21 คห 18 ขอบคุณค่ะ กว่าจะทำได้ดีเหมือนกันทุกครั้ง ก็หัดอยู่เป็นเดือนๆค่ะ บทสนทนากับเตา บทสนทนากับเนื้อแป้งตอนเราตะล่อม ฯลฯ สำคัญมากๆ พอเจอ "ครู" แบบในบทความเลยเพลียน่ะค่ะ คือถ้าเมื่อไหร่ มาคารงขี้เหร่กลายเป็นเรื่องรับได้ มันไม่แฟร์กับคนฝึกแทบตายจนทำออกมาสวยเลยค่ะ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:40:15

ความคิดเห็นที่ 22 คห 20 กรี๊ดดดดดดด ชีแรงส์! ชีแรงส์! ได้ยินกิตติศัพท์มาบ้างค่ะ เรื่องประมาณนี้ แต่คนที่เล่าในสถานการณ์ต่างๆกันออกไป ทั้งคนที่เคยไปเรียนกับชี และคนที่ซื้อตำราชี เฮ้ออออออ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:43:42

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าแม่พิมพ์เป็นแบบนี้ น่าสงสารจริงๆ สำหรับผู้หลงผิดเดินรอยตาม (แบบแย่ๆ) จากคุณ : HelloMuay เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 20:52:54

ความคิดเห็นที่ 24 ให้กีบคุณใบยี่หร่าเป็นการปลอบประโลม  ป้าโหดขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย  ระวังนา  คุณป้าเขามีล็อกอินที่บล็อกแกงค์ด้วยนา จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 21:06:29

ความคิดเห็นที่ 25 ไม๊ล่ะ......นึกว่าเราคิดไปเองกะป้าคนนี้เรื่องมาการองซะอีก เห็นรูปมาการองของป้าแกมาสองสามครั้ง เราคิดว่าป้าแกทำขนมผิงซะอีกนะเนี่ย มาการองบางอันของแกใหญ่เท่าฝาหม้อด้วย มาการองทรงกะทะเลยค่ะ ขอบบางตรงกลางนูน นึกภาพกะทะไว้นะคะ นั่นแหละมาการองของป้าแกค่ะ จากคุณ : จิตแก้ว เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 21:33:10

ความคิดเห็นที่ 26 ก็ถึงว่า.. ความรู้เดี๋ยวนี้มีดาษดื่น สุดแท้แต่ใครจะตาแหลมเลือกหยิบใช้เอา.. นั่นแล.. จากคุณ : เพลียจิต.. (ว่านน้ำ) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 21:33:11

ความคิดเห็นที่ 27 ขอคำเดียวจากบรรดา "ครู" กับ "นักเขียน" ทำตำราสอนคนอื่นทั้งหลาย ขอคำเดียวจริงๆค่ะ จรรยาบรรณ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 21:35:11

ความคิดเห็นที่ 28 อึ้ง จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 21:50:00

ความคิดเห็นที่ 29 ก็สวยดีนะคะ ถ้า จขกท.ไม่บอกว่าเป็นอะไรคงนึกว่าเป็นคุกกี้อ่ะ เห็นของสวยๆที่เพื่อนๆห้องก้นครัวทำแล้วมาเจอแบบนี้มึนเลย จากคุณ : ก้านดอกบัว เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:08:52

ความคิดเห็นที่ 30 อาหารที่ไม่ได้ใช้ใจทำ กินก็ไม่อร่อย ดูก็อุจาดตา จากคุณ : กลับไปกินทองหยิบ5จีบดีกว่า (StarcH) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:12:53

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นอาจารย์ทำแบบนี้มันดูไม่งามนะคะ ขนาดเราฝึกทำเองที่บ้านยังสวยกว่าเลย 555 นี่เป็นการฝึกทำครั้งที่ 2 ค่ะ สูตรคุณแก้ม แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 09:23:10 จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:14:34

ความคิดเห็นที่ 32 เคยทดลองสูตรแกอยู่สองสูตร ไม่สามารถรับทานได้ ฝีมือแย่มาก จากคุณ : ประสบตุ่น (ประสบตุ่น) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:18:15

ความคิดเห็นที่ 33 รูปนี้ไปทานที่ร้าน Le Goute @ Major Ratchayothin มาค่ะ เห็นรูปของคุณป้าแล้ว.....เอิ่มมมมม >_<" จากคุณ : m_banking เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:25:25

ความคิดเห็นที่ 34 บางทีความสวยเหมือนงานดีไซน์นะคะ บางคนว่าสวยบางคนว่าเชย ของท่านอาจจะสวยแบบธรรมชาติๆไรงี้ เห็นแล้วอยากจะักัดทั้งหมดเลย จากคุณ : Louis_v เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:30:51

ความคิดเห็นที่ 35 ใครไม่เคยทานแนะนำไปที่Lenotreเลยครับ ส่วนตัวผมชอบของที่นี้ ปกติไม่ค่อยเสียงเงินซื้อขนมให้ตัวเอง แต่มาการองผมยอมครับ จากคุณ : Iheringi เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:36:52

ความคิดเห็นที่ 36 ดูรูป #1 แล้วเหมือนขนมครก 5555 จากคุณ : เมี๊ยวหง่าว เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:38:38

ความคิดเห็นที่ 37 คห 34 ที่คุณพูดก็ใช่ในบางกรณีนะคะ แต่ในหลายๆกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทำขนมเนี่ย อย่าง macaron มันมีลักษณะเฉพาะตัวบางอย่าง ที่บ่งว่า ผ่านการทำมาอย่างดี หรือไม่ดีค่ะ พูดง่ายๆก็คือ ขนม macaron เป็นตัวบอกความละเอียดละออของคนทำ เพราะ Macaron นั้นพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ (ถั่วอัลมอนด์ของแต่ละที่มาก็มีปริมาณไขมันข้างในไม่เท่ากัน เชฟหลายๆคนถึงใช้ถั่วจากสเปน หรือแคลิฟอร์เนีย เพราะมีน้ำมันน้อย ทำมาคารงที่ชอบความแห้ง (เมอร์แรงก์ไม่ชอบน้ำมัน) ไข่ขาวที่ใช้ เชฟก็จะดูโครงสร้างไข่ เชฟดังๆ มักจะทิ้งไข่แบบเปิดให้ลมเข้าได้บ้างไว้ในตู้เย็น 7 วัน เพื่อให้น้ำในไข่ขาวระเหยไปหมด จึงจะได้เมอร์แร็งก์ที่โครงสร้างแข็งแรงพอ การทำน้ำเชื่อมสำหรับ technique แบบ sucre cuit ก็ต้องมี thermometer วัดอุณหภูมิน้ำเชื่อม ให้ไม่คลาดเคลื่อนแม่แต่องศาเดียว  รินน้ำเชื่อมใส่ไข่ขาวที่ถูกตีให้ฟู เชฟที่ใส่ใจมากๆ ก็ใช้ thermometer แบบ infared อ่านอุณหภูมิเมอร์แร็งก์อีก เพราะแต่ละองศาที่เปลี่ยนไป ทำให้งานเปลี่ยน ของที่ดีที่สุด มันอยู่ที่เสี้ยวองศานั่นเอง การตะล่อมถั่วกับเมอร์แรงก์เข้าด้วยกัน ก็ต้องสังเกตให้ดี ว่าแป้งที่ consistency เท่าไหร่ถึงจะพอดี เหลวไปก็ไม่ขึ้นและ หน้าแตก แข็งไปก็ออกมาแข็งเป็นเมอร์แรงก์ ยอดขนมเป็นจุกไม่ยุบ แถมหน้าหยาบเป็นรูๆ การบีบ ก็ต้องบีบให้เท่าเสมอกัน เพราะเป็นขนมที่ต้องประกบกันสองชิ้น บีบเสร็จก็ต้องพัก ให้ผิวแห้ง อบแล้วจะได้เกิดเท้าขนม ผิวหน้าเนียนแบน พักนานไปอบออกมาก็ผิวหนา ขนมแข็ง ใอดไส้ทิ้งในตู้เย็นสามวันก็ยังแข็ง ไม่ทิ้งเลย ก็อบแล้วแตก ฯลฯ ในขณะที่อบ แต่ละเตาที่ใช้ก็ให้ความร้อนภายในไม่เหมือนกัน ไฟแรงไป ไม่ทันสุก ผิวบางส่วนก็ไหม้ ไฟล่างแรงไป ผิวข้างบนสร้างเกราะไม่ทัน หน้าก็ระเบิดออกมาเป็นผูเขาไฟ ไผบนแรงไป หน้าก็ด้านสีเปลี่ยน เท้าขนมทะลักออกมากองข้างๆขนมหมด อบเสร็จสอดไส้เสร็จก็มีพักให้ เกิด osmosis กันระหว่างเปลือกกับไส้ จะกินก็มีอุณหภูมิที่พอเหมาะที่ไส้เนียนละลายในปากไปพร้อมๆกับเปลือก เอามีดผ่าออกมา เนื้อต้องแน่นเต็ม ไม่มีโพรงอากาศ ฉ่ำแต่ไม่แฉะ ฯลฯ ทำไม เราถึงยอมให้คนที่ ไม่เข้าใจธรรมชาติของขนมชนิดนี้และ ไม่สามารถทำขนมชนิดนี้ได้ตามมาตรฐาน มาสอนเราทำขนมชนิดนี้คะ ดิฉันไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ขนมอย่าง Macaron ไม่มีคำว่า "สวยธรรมชาติ" ในลักษณะ เยินๆ เท้าออกบ้างไม่ออกบ้าง ค่ะ เพราะอย่างนั้นเขาเรียกว่ายังทำได้ไม่ดี แล้วคนที่รักการทำขนมจริงๆ ก็ต้องไม่หยุด ที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่พูดว่า "ทำอยู่บ้าน ให้ไม่แตกไม่ได้หรอก" มันมักง่ายน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 22:52:18 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 22:50:20 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:47:50

ความคิดเห็นที่ 38 สูตรแกไม่ดีเหรอคะ เรามีหนังสือแกหลายเล่มเลยอ่ะ เห็นน่ารักและดูทำง่าย ทำตามไปห้าหกสูตร กินไม่ได้ไปซะส่วนใหญ่ที่กินได้ก็ไม่อร่อย เรานึกว่าเราห่วยเอง มีคนทำแล้วก็ไม่ได้ผลเหมือนกันใช่มั้ยคะ จากคุณ : ฉันบอกเธอว่าไม่เป็นอะไร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:49:52

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วปรี๊ด  ทำไมคนๆ นี้ถึงได้พูดจาเกี่ยวกับ macarons อันแสนจะน่ารักได้หยาบคายมาก รับไม่ได้ค่ะ  แล้วทำไมหนังสือเค้าถึงขายได้??? ไม่เข้าใจค่ะ จากคุณ : Close To Heaven เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:51:42

ความคิดเห็นที่ 40 ลืมบอกค่ะว่า macarons ของแม่ครัว M สวย เริ่ด เดิ้นมากค่ะ อยากจะขอเอาไปวางตรงหน้าอาจารย์คนนี้ (ไม่อยากเรียกอาจารย์เลย) ให้รู้ซะบ้างว่า แบบหน้ามน กลมดิ๊ก หน้าไม่แตกน่ะ มันทำกันด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : Close To Heaven เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:56:45

ความคิดเห็นที่ 41 ว่าแล้วก็ไปหยิบมาทานซะเลย ตอนแรกเราไม่รู้จักเลยว่าขนมชนิดนี้เค้าเรียกว่าอะไร และเป็นขนมของชาติไหน แต่ตอนนี้เข้าใจถ่องแท้เลยค่ะ พอดีมีคนเค้าซื้อมาจากฝากฝรั่งเศสหรือไงเนี่ยแหล่ะค่ะ เค้าไปเที่ยวมา ตอนซื้อมาเราไม่เห็นค่าเลย งงๆๆว่ามันคือขนมไรหว่า และขนมก็หวานเชียววววววว แต่อร่อยดีค่ะ.. ก็เนอะ เราเหมือนไก่ได้พลอย ขนมอร่อยและมีชาติตระกูลซะขนาดนี้ ยังไม่รู้จักเลย ฮาาาาาาาาา ^^ เข้ามาอ่านแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ^^ จากคุณ : คิโนะคุนิยะ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:57:49

ความคิดเห็นที่ 42 เพิ่งเห็น คห 37 ค่ะ ถูกใจมากๆ จากคุณ : Close To Heaven เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 22:58:23

ความคิดเห็นที่ 43 ใครส่งกระทู้นี้ไปที่นิตยสารได้ไหมคะ ประเทศชาติควรเลือกทรัพยากรที่คัดสรรกว่านี้หน่อย ไม่อย่างนั้นคงไปไหนไม่ได้ไกลหากยังใช้คนที่สักแต่ว่าทำและไม่มีความตั้งใจมาสอนหรือสาธิต คนอยากได้ความรู้ก็ไม่ได้ เอาไปต่อยอดก็ไม่ได้ เสียเวลา เสียอารมณ์ ได้ยินบ่อยเกินเรื่องการศึกษาเวียดนามจะแซงไทยแล้ว เห็นอย่างนี้ก็ไม่แปลกใจค่ะ ถ้าปล่อยไปก็แซงแน่ล่ะถ้ามีบุคลากรอย่างนี้เยอะๆ จริงๆ นิตยสารน่าจะรู้อยู่แล้วนะ เรื่องพวกนี้ หรือเป็นพวกเส้นใหญ่ ถึงยังอยู่มาได้นานขนาดนี้ จากคุณ : monkeypim เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:00:04

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยว่าขนมชนิดนี้สำหรับผมคือขนมปราบเซียนอย่างแท้จริง ถ้าจะทำให้สวยต้องใส่ใจมากๆ เตรียมไข่ เตรียมอัลมอนด์ เตรียมสารพัด....และเตรียมใจถ้ามันจะไม่สวยเหมือนในตำรา หนังสือมาการองช่วงนี้ก็ขยันออกกันจริงๆ ก็ซื้อหมด ล่าสุดก็ของ Pierre Herme ปกดำๆ นี่แหละ เล่มนี้ดีมาก เหมือนที่แม่บ้าน M บรรยายมาเป๊ะ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่กล้าทำสักที กลัวออกมาเป็นขนมครกบ้าง ขนมผิงบ้าง ไม่กล้าแจกใคร... มีคุณปุ๊ก dailydelicious ที่เห็นทำออกมาทีไรก็สวยน่ากินจริงๆ ในส่วนของแม่บ้าน M นี่ผมเชียร์นะถ้าจะตั้งกระทู้แบบ step by step เป๊ะๆ จะสูตรฝรั่งเศส หรือ อิตาลี่ ก็ตาม จะกล้าทำการบ้านมาส่งเลย ( ส่งการบ้านบัวลอยน้ำขิงไปกระทู้หนึ่งแล้ว ) เพราะดูแล้วแม่บ้าน M ก็น่าจะทำได้ดี เพราะดูการเขียนแล้วมีหลักการดีครับ ...เชียร์ครับครูเอ็ม ( แอบเรียกครูไว้ก่อน ถ้าไม่รับเป็นลูกศิษย์จะคุกเข่าอยู่ตรงนี่แหละ ...ฝนก็ขยันตกจริง ) จากคุณ : พ่อน้องข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:03:55

ความคิดเห็นที่ 45 "จะให้กลมดิกเท่าเทียมกันทุกชิ้น  และหน้ามนสวย ไม่แตกเลย อย่างที่เขาขายกันน่ะ ยากหน่อย” ผมไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ของท่านผู้เขียนเท่าไหร่นะครับ อย่างจะให้กลมดิ๊กเท่ากันทุกชิ้น ก็แค่ใส่ใจวาดวงเท่าๆกันก่อนจะบีบmixtureลงบนถาดซิลิโคน แล้วใช้ความละเอียดในการบีบ ครั้งแรกบีบอาจเท่าบ้างไม่เท่าบ้าง แต่บีบๆไปมันจะเริ่มคล่อง ของผมทำทานเล่น บีบๆไปหลายๆครั้งไม่ต้องใช้กระดาษไขเขียนเป็นวง ก็แทบจะสั่งได้ว่าจะเอาไซส์ไหน จะให้แถวนี้เท่ากันหมด แถวนี้จะเอาชิ้นใหญ่ มีท่านผู้รีวิวสอนผมในpantipท่านหนึ่งสอนว่า practice make perfect ส่วนหน้ามนสวย ไม่แตก ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่มันมีศาสตร์ของมันอยู่ เช่น ผิวไม่เรียบเพราะป่นอัลมอนไม่ละเอียด คนของแห้งกับเมอแรงยังไม่เข้ากันดี หน้าแตกเพราะตากไม่แห้ง ใช้ไฟแรงไป ของแบบนี้มันไม่ใช่ทำไม่ได้ โดยเฉพาะเท่าที่อ่านของเพื่อนสมาชิกในpantipแต่ละท่านที่กรุณามารีวิว บางท่านก็ไม่ใช่ทำเป็นอาชีพ แต่พอทำสำเร็จ ค้นพบศาสตร์ของมัน ก็นำมาบอกเล่ากันว่า ทำยังไงถึงจะออกมาเพอร์เฟ็ค ผมไม่ใช่คนทำอาหารเป็น เกิดมาไม่เคยทำอาหารทานเองยกเว้นมาม่า และไม่คิดจะทำ จนมาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ แล้วหาmacaronทานไม่ได้ สุดท้ายต้องค้นรีวิวในpantip จากหลายๆท่าน โดยเฉพาะคุณแก้ม ค่อยๆทำตาม ล้มเหลวอยู่สี่ครั้ง จนจับทริกได้ว่าผิดพลาดตรงไหน ต่อมาก็ไปทำอีก หลังจากนั้นก็ออกมาได้ดั่งใจนึกตลอดครับ ประเด็นคือ ท่านผู้เขียนสอนทำขนมและเขียนบทความเรื่องmacaron แต่เผยแพร่การทำที่น่าจะเรียกได้ว่า ชุ่ย ไม่ละเอียดอ่อน เช่นนี้ พออ่านแล้วถึงนึกได้ว่า อือ แบบนี้นี่เอง เด๋วนี้สื่อตามหน้าหนังสือพิมมีบทบาทน้อยลงไป เพราะบางทีคอลัมนิสไม่ได้เก่งไปกว่าผู้อ่านเท่าไหร่เลย เอาง่ายๆ คุณแก้มแห่งpantip และอีกหลายๆท่าน น่าจะมีความรู้และสามารถทำออกมาได้สวยกว่าในคอลัมภ์นี้เยอะเลยครับ มาการองเป็นขนมที่ต้องการความละเอียดอ่อน มีศาสตร์ของมัน ซึ่งผู้ทำจะต้องใช้ความรักความเอาใจใส่ในทุกๆขั้นตอน ตั้งแต่เตรียมไข่ ชั่งตวงน้ำตาล อัลมอน ตีเมอแรงให้พอดี ฯลฯ ไม่ใช่ว่าทำออกมาไม่สวยแล้วเผยแพร่ออกสาธารณะว่า มันไม่ทางออกมาสวย ปล. ในภาพ เป็นมาการองที่ผมทำเอง ที่นิวซีแลนด์ โดยทำตามสูตรที่คุณแก้มรีวิวไว้ในpantip เป็นอาหารชิ้นที่สองที่ทำเป็นต่อจากมาม่า ขอบคุณคุณแก้มและท่านผู้รีวิวในpantipทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ท่านเหล่านี้"ให้" แบบไม่ได้สิ่งใดตอบแทนจริงๆ และผมมั่นใจว่ามีคนทำขนมเหล่านี้เป็นจากการอ่านรีวิวไม่น้อย : )) จากคุณ : bas121 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:12:41

ความคิดเห็นที่ 46 เนื้อต้องแน่นเต็ม ไม่มีโพรงอากาศ ฉ่ำแต่ไม่แฉะ ซวยแล้ว  คุณเชฟคะ  สมัยหัดทำ macaron ใหม่ๆ ก็อาศัยอ่านจากเนท  ไม่เคยกินของจริงก็เลยไม่รู้ว่ารสชาติที่แท้จริงเป็นยังไง จนกระทั่งได้ไป กทม. ซื้อของ lenote มากิน มันคนละเรื่องกับที่ทำได้  เลยไม่แน่ใจว่าทำถูกไหม   ด้านซ้ายรูปแรกซื้อมาค่ะ  เนื้อฟูเชียว  ซื้อมา 2-3 ร้านก็ได้แต่เนื้อฟูๆ แบบนี้ ไม่เคยทำได้แบบนี้เลยหรือเป็น macaron คนละชนิดคะ  หัดทำแต่แบบฝรั่งเศสค่ะ  ไม่มีคนช่วยกินเลยไม่ได้ลองแบบอื่นๆ เลย ส่วน 2 รูปด้านขวาเป็นลักษณะขนมที่ทำได้ จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:29:44

ความคิดเห็นที่ 47 ใครรู้จักคนทำงานในองกรณ์ดังกล่าว เอากระทู้นี้่ไปให้เขาดูทีคะ เบิกเนตรด่วน ก่อนที่จะเข้าใจอะไรผิดๆไปมากกว่านี้เถอะคะ จากคุณ : ploiploi (32keliolp) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:32:16

ความคิดเห็นที่ 48 อ่า เราก็เคยทำพาสต้า สูตรของคุณปริศนานะ เพื่อนชมว่าอร่อย  บอกวิธีทำละเอียด รูปสวย น่ากิน อยากได้หนังสือเค้าหลายเล่มเหมือนกันแต่ว่าราคาแพงเกิน ตัดใจซื้อไม่ได้ซะที อยากไปเรียนกับเค้า ค่าเรียนก็แพงอีก แต่เห็นกระทู้นี้แล้วงงมากค่ะ ขนมที่ทำแล้วไม่ได้มาตรฐาน ทำไมถึงได้กล้าเอามาลงหนังสือนะ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:32:43

ความคิดเห็นที่ 49 คห 46 รูปกลางมีโพรงอากาศใหญ่มากค่ะ ลองใช้ไฟแรงขึ้นสัก 10 องศาดูค่ะ (แต่อาจต้องลดเวลาอบซัก 1 นาที- อันนี้แล้วแต่เตา) ไฟแรงๆ จะดันเนื้อขึ้นได้ดีกว่าค่ะ ส่วนรูป ขวา นอกจากเห็นโพรงอากาศแล้ว แม่ครัวM ว่ามันผิวบางมากเลยค่ะ ตากไม่แห้งรึเปล่าคะ อยู่เมืองไทยเมืองชื้น M ทำแต่ italian meringue เลยค่ะ (แต่มันจะจุกจิกเวลาต้องต้องน้ำเชื่อม) เพราะมันตากแป๊บเดียวแห้ง ค่ะ อ้อ ไม่ทราบว่าเตาอบคุณเจซองมีพัดลมไม๊คะ มาการง อบแบบใช้พัดลมได้ผลดีกว่า (แต่ระวังอุณหภูมินิดนึงนะคะ มันร้อนจัดกว่า deck oven) ถ้าจะเปิดพัดลมก็อย่าลืมหาอะไรกดกระดาษรองอบไม่ให้ปลิวด้วยนะคะ เห็นเชฟที่สิงคโปร์ใช้ที่หนีบกระดาษที่ทำจากโลหะ หนีบกระดาษเข้ากับถาดรองอบค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 23:40:13 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:35:12

ความคิดเห็นที่ 50 ตกลงเรียกแม่ครัวเอ็มตามจ่าเลยนะคะ 55    ขอบคุณค่ะ  ตรงกลางอาจจะเป็นที่สูตรด้วยค่ะ  แต่ไม่ถูกปากคงไม่ทำอีก  แต่เดี๋ยวลองสูตรใหม่จะลองเพิ่มไฟนะคะ  ส่วนรูปขวาพักผิวแห้งแล้วค่ะ  แต่วิธีพิศดารไปหน่อยมันเลยทำให้หน้าเปราะ  แต่ตอนนี้แก้ไขได้แล้วค่ะ จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:41:47

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นรูปคห. ที่1  แล้วขำน้ำตาจะร่วง     หน้าตาแบบนั้น ยังกล้าเอามาใส่ไส้   ถ่ายรูป  พิมพ์ลงหนังสืออีกเหรอคะ    ถ้าเป็นดิฉันมีที่เดียวที่สมควรจะได้ไปคือ "ถังขยะ"  ค่ะ เอาภาพมาการองที่เราทำเอง  ด้วยวิธ๊ต้มน้ำเชื่อม ใส่ในไข่ขาวมาให้เปรียบเทียบ  วันฝนตกซะด้วย นี่เป็นการทำมาการองด้วยวิธีนี้   "เป็นครั้งแรก"      หลังกลับจากไปเรียนที่แม่บ้านคลับ       เจาะจงเลือกเอารูปที่ทำครั้งแรกมาให้ดูว่าขนาดนี้เรายังว่าไม่สวย   สีก็น้ำตาลเกิ๊น...      แต่พอไปเปรียบเทียบกับรูปคห. 1 แล้วขำแทบตายยย   ช่างกล้า... นัก.... แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 02:25:54 จากคุณ : ต้มยำทะเล เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:41:54

ความคิดเห็นที่ 52 คห 48 สูตรเนี่ยนะคะ สำหรับคนเก่งภาษาต่างชาติ และเป็นคนเขียนหนังสือเก่งๆ เนี่ย เอาสมมติแม่ครัว M เองก็ได้ สมมติ M มีตำราฝรั่งดีๆ ซักเล่มนึงใช่ไม๊คะ M ก็แปลสูตรออกมาค่ะ เสริมนู่นนิด ปรับตัวเลขในสูตรหน่อย ก็ได้ออกมาแล้วค่ะ โดยเฉพาะอาหารที่สูตรไม่ได้ตายตัวอย่างขนม ปรับนู่นนิดนี่หน่อย อู๊ย แม่ครัว M มีสูตรที่ตู่ว่าเป็นของ M เองเยอะเชียวค่ะ :) แต่สิ่งที่จะบอกว่า M เก่งหรือไม่ คือตอน M เอาสูตรเหล่านั้น ทำออกมาเป็นชิ้นๆค่ะ ดังที่เห็นในรูป จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:43:38

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นเตาอบแก๊สค่ะ แล้วก็มีเตาไฟฟ้า 23 ลิตร ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ไม่มีพัดลมค่ะ  สงสัยต้องลองแบบอิตาเลี่ยนดู ผิวมันดูสวยดีค่ะ จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:47:26

ความคิดเห็นที่ 54 เอ่อ คือ หัดทำจากสูตรคุณแก้ม ยังได้สวยกว่านี้เลย เสียดายไม่ได้เก็บรูปไว้ จากคุณ : java~ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:57:42

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าเป็นจริงแบบ #20 บอกเราจะจะขว้างด้วยหนังสือนะแหล่ะ อิอิ จากคุณ : gboy เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:25:12

ความคิดเห็นที่ 56 เอามาให้ดูเล่นๆค่ะ ตอนหัดทำใหม่ๆแล้วเริ่มเข้าที่เข้าทาง (แต่กว่าจะได้มาตรฐานที่ตั้งไว้ให้ตัวเองก็ 6 เดือนหลังจากนั้นค่ะ (ทำทุกวัน วันละสองรอบ) ตามแก้ทีละจุดอ่อน) รสวานิลลา ผ่าครึ่ง เนื้อต้องเต็ม ฉ่ำ (ลืมใส่รูป ดูข้างล่างนะคะ) แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 00:29:12 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 00:26:40 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:26:11

ความคิดเห็นที่ 57 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 00:27:31 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:27:13

ความคิดเห็นที่ 58 ทำไมไม่ติดซะที จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:28:00

ความคิดเห็นที่ 59 รูปไม่ติดซะทีอ่ะค่ะ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:28:39

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นมาการงแล้วนึกถึงแกงจืดลูกรอก 55 จากคุณ : หัวหอมบานฉ่ำ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:33:14

ความคิดเห็นที่ 61 นี่จากร้านดัง ปารีสค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:47:53

ความคิดเห็นที่ 62 ทำออกมาไม่สวยเลย ทำไมหนังสือเค้ากล้าให้ลงหง่ะ แบบว่า นี้คงเลือกอันที่ดีที่สุดมาลงแล้วใช่ไหมเนี้ย จากคุณ : บีแชยอง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:48:20

ความคิดเห็นที่ 63 นี่จากซูริค สวิส ฝีมือ สาวๆ ห้องนี้ สู้ได้ทุกเจ้าเลยค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:49:12

ความคิดเห็นที่ 64 แอบตกใจ เพราะเราซื้อตำราขนมของเค้าหลายเล่มเลยค่ะ เคยลองทำตามด้วย และยังคิดว่าจะไปเรียนด้วยเลย จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 01:17:34

ความคิดเห็นที่ 65 อร๊ายยย ขอแปะรูปมั่งนะ ผิดรูป แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 01:19:07 จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 01:18:25

ความคิดเห็นที่ 66 เอาใหม่ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 01:19:38

ความคิดเห็นที่ 67 ไปเจอรูปมาการงของป้ามา...เหมือนขนมผิงจริงๆด้วย!! จากคุณ : กลิ้งโค่โร่ (cartooncake) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 01:37:38

ความคิดเห็นที่ 68 คิดในแง่ดีว่า เค้าจริงใจดี เอาที่ทำเอง แล้วไม่สวยมาลง ไม่ไปซื้ออันสวยๆ มาถ่ายรูปลงหนังสือ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 01:55:35

ความคิดเห็นที่ 69 #68 เป็นแม่บ้านโนเนมยังเลือกลง "ถังขยะ" เป็นถึงอาจารย์ชื่อดัง   กลับกล้าเอามาลง   "หนังสือ"   เพื่อ....??? เพื่อประจานตัวเองหรือคะ เกียรติ?   ศักดิ์ศรี?  ฝีมือ?   ความรู้?   ความชำนาญ?    ท่านอาจารย์มีสิ่งใดอยู่บ้าง อาจารย์ทำได้ง่อยขนาดนี้   แล้วลูกศิษย์ที่ไปเรียนจะทำได้xxxขนาดไหน   ก็ลองคิดดูเอาเองเถอะ จากคุณ : ต้มยำทะเล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 02:17:57

ความคิดเห็นที่ 70 รบกวนถามคุณแม่ครัว M หน่อยนะคะ  ว่าดูอย่างไรว่าอบ macaron ได้ที่แล้ว ให้เอาออกจากเตาอบได้แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : MinnieTheCat เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 02:22:50

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นขนมที่อยากหัดทำมาก เพราะได้ชื่อว่าทำยากพอสมควร ทั้งๆที่ส่วนประกอบมีไม่เยอะมาก แล้วก็ชอบกินเสียด้วยสิครับ ^^ เมื่อไรมีเตาอบจะลองทำดูสักครั้ง เอามาฝากเป็นของเลอนอร์ท อร่อยทุกรสเลยครับ จากคุณ : คนตราหมี (RadoN) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 02:45:04

ความคิดเห็นที่ 72 คห 70 มันดูจากข้างนอกเตาไม่ค่อยได้นะคะ (นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้อบมาคารงยากมาก) เปิดเตาเอาออกมาดูก็ไม่ได้ วิธีดูมีแค่ ส่องกระจกเตา ดูว่าเท้าขนมมันยังมีปฏิกริยากับความร้อนอยู่ไหม (ถ้ามันยังไม่สุกมากๆ มันจะยังระยิบระยับอยู่ในเตาน่ะค่ะ แต่ผ่านช่วงนั้นไป เราก็มองไม่รู้แล้ว ไปรู้อีกทีตอนเอาออกมา รอเย็น แล้วแกะ ถ้าแกะจากกระดาษรองอบแล้วก้นยังติดอยู่กับกระดาษ แปลว่ายังดิบไป ทีนี้ก็ต้องมาดูสีมัน ถ้าดึงแล้วก้นติดกระดาษ แต่สีมันโดนไฟเลียข้างบนไปแล้ว แปลว่า ไปแรงไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องอบให้นานขึ้น อย่างงี้เป็นสัญญาให้ลดไฟค่ะ คือมันต้องหาจุดสมดุลให้ได้ ว่าไฟแค่ไหน และอบนานแค่ไหน จะสุกแล้วสีไม่เปลี่ยน ซึ่งเรื่องนี้ ต้องนั่งคุยกับเตา จดการทดลองเป็นวิทยาศาสตร์เลยค่ะ บางคนต้องคอยเปลี่ยนอุณหภูมิเตา ระหว่างอบ ทั้งไฟล่างไฟบน รองถาดไหม ฯลฯ ปวดหัวมากกกก แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 02:57:06 จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 02:45:11

ความคิดเห็นที่ 73 คหสต.คิดว่าป้าคงทำมาการงให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ถึงได้กล้าเอามาการงแปลงร่างของชีมาลงหนังสือ เพราะการทำขนมชนิดนี้ ต้อง"ใส่ใจ"ในการทำลงไปด้วย แต่ป้าเค้าท่าทางเป็นคนหยาบๆ ทำอะไรถ้าไม่ได้ทำด้วยใจ ผลจะ ออกมาดีได้อย่างไร อีกทั้งความพยายามของคนที่เรียกตัวเองว่า"ครูสอนทำเบเกอรี่" มีแค่นี้ สมควรแล้วหรือที่ไปสอนคนอื่นๆ คนอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่ไม่มี"จรรยาบรรณ"ในอาชีพของตนเอง สงสารคนที่เสียเงินและมีความตั้งใจจะเรียนกับป้า เพราะสิ่งที่จะได้รับมาคงไม่คุ้มกับเงินและความตั้งใจเป็นแน่แท้ จากคุณ : โบอิ้ง (Oshiri) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 02:46:34

ความคิดเห็นที่ 74 นี่ป้าเค้าแกล้งทำไม่ดีออกมาให้เป็นประเด็นคนพูดถึงเค้าป่าวเนี่ย? จากความผยองของเค้า ป้าแกไม่น่าปล่อยไก่ตัวเท่าช้างให้คนมารุมถล่มง่ายขนาดนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 03:00:49

ความคิดเห็นที่ 75 นี่ป้าเค้าแกล้งทำไม่ดีออกมาให้เป็นประเด็นคนพูดถึงเค้าป่าวเนี่ย? จากความผยองของเค้า ป้าแกไม่น่าปล่อยไก่ตัวเท่าช้างให้คนมารุมถล่มง่ายขนาดนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 03:01:10

ความคิดเห็นที่ 76 เคยไปเรียน หลงจองไปสามครั้ง เพราะเต็มตลอด เลยฟังดูน่าจะดี จ่ายตังค์ไปแล้ว ยังไงก็ไปทนดูว่าคนเราจะหลอกลวงได้ขนาดไหน เริ่มต้น เนื่องจากในใบ instruction เขียนว่า ห้าม ห้าม ห้าม หลายอย่างมาก เลยโทรไปถามก่อนว่า ถ่ายรูปได้หรือเปล่า?   ถูกย้อนว่า "คุณจะถ่ายอะไร?" ก็บอกว่าจะถ่ายเวลาครูสอนครูทำ   เขาตอบว่า "ครูที่ไหนทำ ไม่มีนะคะ คุณทำกันเอง" (ทำเสียงห้วนแบบสุดสุด) ว่าแล้วคุณก็ทำกันเองจริงๆ !! คือ ได้สูตรหยาบๆ หยาบกว่าซื้อตำราขนมห่วยๆมาทำเอง แล้วทุกคนก็ก้มหน้าก้มตา ทำ คนสอน พูดน้อยมาก เรียกว่าไม่พูดเลยก็ได้ ไม่ลงมือทำ (วันนึง มีนักเรียนมาสาย เขาให้เด็กช่วยงานที่บ้านมานั่งทำไปพลางๆ ไม่คิดแม้แต่จะทำให้นักเรียนดู) วันนั้น ตีไข่กับน้ำตาล ตามด้วยชอคโกแลต นักเรียนคนนึงทำออกมาสีเข้มมาก เขาถามคนที่เรียกเปิดคอร์สนี้ว่า ทำไมของเขาถึงสีเข้มกว่าคนอื่น (ไม่อยากเรียกว่าครู ไม่เรียกว่าสอน เพราะไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ)     คุณปริสนา ตอบว่า จะรู้มั้ยล่ะ ....ไม่เห็นเรอะว่าก็ทำเหมือนกัน พร้อมๆกัน" (ทั้งที่เธอไม่เคยดูว่าใครตีไข่กับน้ำตาลได้ที่หรือยัง) ใครทำขนมเป็นก็รู้ว่าถ้าตีจนขึ้นขาวเป็นสีครีม พอผสมชอคโกแลต แล้วก็จะสีอ่อน ก็เท่านั้น คุณปริสนาไม่รู้ หรือรู้แล้วไม่คิดจะสอน (เชื่อว่าไม่รุ้มากกว่า) ทำเสร็จ ทุกคนเก็บของกลับ ไม่มีการติชม ไม่มีการชิม ไม่มีการบอกว่าดี ไม่ดี ต่างกันอย่างไร   นักเรียนคนนึงหน้าขนมยุบ เขาตอบอย่างเดียวกัน ว่า "ไม่เห็นหรือว่าทำก็เหมือนกัน" วันนึงเขาแอบเอากลีเซอรีนใส่ในหน้าขนม นักเรียนคนนึงเห็นเข้าถามว่าอะไรหรือคะ เขาตอบว่า ไม่ต้องรู้หรอก ไม่มีในสูตร เพราะมีให้ คุณก็ไม่มีที่บ้าน (ทำเสียงยะโส) อ้าว แล้วแอบใส่ ทำไม อย่างน้อย ใส่แล้วอธิบายสิว่า ใส่ไม่ใส่ต่างกันอย่างไร เขาเริ่มคลาสก่อนเวลา แม้ว่านักเรียนอีกคนยังมาไม่ถึง และ " ไม่ได้มาสาย" คิดจะเริ่มก็เริ่ม เขาโฆษณา ว่า สอนทำหน้าขนมอย่างง่าย คือง่ายจัด เอาทุกอย่างใสโถ เอาเข้าไมโครเวฟ แล้วต่างคนต่างเท ใครจะเทไม่ทั่ว ใครจะเทเหลวไหลเกินขนาด อย่างไร ก็ตัวใครตัว มัน ไม่มีการบอกว่าควรจะเทอย่างไร หรือระวังอะไร หรือเวลาใส่ไมโครเวฟต้องเฝ้าอะไร ระวังอะไร สอนเค้กม้วน แทนที่จะสอนว่าอบอย่างไร ให้เนื้อพอดี แล้่วจึงจะม้วนได้ กลับบอกนักเรียนว่า ให้ใช้ความกล้า ขอโทษค่ะ อบออกมาถ้าแห้งไปนิด กล้าให้ตายยังไง ก็ม้วนแล้วหักนะคะ ยังมีมากกว่านี้อีกเยอะค่ะ แต่เพราะฉันไปอย่างให้เข้าใจว่าเป็นคนทำอะไรไม่เป้น ก็ได้แต่นั่งนิ่ง....ไม่มีใครได้ความรู้อะไรกลับไป ได้ตำราหยาบๆ ที่ไม่ได้อร่อยอย่างไร ซื้อหนังสือที่ไหนก็ได้ ที่สำคัญ ได้ความหดหู่ว่า คนเรา คิดจะเอาเงินเขา ก็ไปเป็นแม่ค้า อย่ามาทำตัวเป็นครู เก็บวิชาโฆษณา การตลาดไปใช้ที่อื่น อย่าทำร้ายนักเรียนตาดำๆที่มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่าทำร้ายวงการอาหารของประเทศที่ตัวเองเกิดมา เพียงเพราะเห็นแก่เงิน หรือเพียงเพราะเกิดมาหยาบเกิน จากคุณ : ปลาฉลามฟันหลอหลังอาน เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 06:14:35

ความคิดเห็นที่ 77 ไร้จรรยาบรรณ พอมีชื่อเสียงหน่อย จะเอาแต่เงิน กรรมตามสนอง ใครจะหลงไปเรียนอีกละทีนี้ จากคุณ : อันดามาเฟีย เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 07:06:44

ความคิดเห็นที่ 78 โอ๊ยยยย....เห็นรูปมาการองใน คห.ที่ 67 แล้วรู้สึกงงค่ะ ว่าเป็นขนมอะไรแน่ .. ดาวจ๋ายังทำขนมชนิดนี้ไม่เป็น   ตอนนี้หัดทำมา 12 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่ได้ดั่งใจเลยยย กระมิดกระเมี้ยนขอลงรูปมาการองที่ขี้เหร่ๆของตัวเองลงให้ชมนะคะ ในรูปนี้เป็นการทำครั้งที่ 9 แล้วพอครั้งที่ 10 11 12  ก็ย่อยยับอีก ไม่ใช่ทำแล้วดีขึ้น .. เอิ้กๆๆ ขนมชนิดนี้เป็นขนมที่ต้องทุ่มเททุกขั้นตอน เป็นขนมปราบเซ๊ยนดั่งคำร่ำลือจริงๆ .. จากคุณ : ดาวจ๋า (satineesh) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 07:23:23

ความคิดเห็นที่ 79 เว็บอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เฉพาะมาการูนเท่านั้น http://www.breakingbread.co.th/cookbyappointment.html จากคุณ : Arlington (uxbridge) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 07:32:03

ความคิดเห็นที่ 80 หัดทำตามอาจารย์ห้องก้นครัว ยังสวยกว่าอีกค่ะ   เคยคิดจะเรียนกับเค้าอยู่เหมือนกัน แต่เห็นรูปขนมเค้กบางอย่างที่ลงไว้ แต่งหน้าแบบขอไปที ดูไม่สวยงาม เลยเปลี่ยนใจ  เพราะของอาจารย์ยังแต่งได้แค่นี้ แล้วของเราทำเองจะเหลือเรอะ?? ว่าแล้วก็ขอโชว์รูปมาการองที่เราทำตามสูตรคุณ Kate Artisan Bakery + คำแนะนำจากคุณปุ๊ก Daily Delicious หน้าตายังสวยกว่ารูปที่เค้าเอามาลงซะอีก ทำครั้งแรก Chocolate au Macarons จากคุณ : CakeLove เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 07:46:23

ความคิดเห็นที่ 81 ทำครั้งที่สอง Lime - Peach Macaron แต่จะว่าไปจำไม่ได้แล้วว่าเนื้อขนมเป็นยังไง มัวแต่ดีใจที่มีกระโปรงขึ้น ^^ คงต้องลองทำดูอีกซักที จากคุณ : CakeLove เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 07:49:14

ความคิดเห็นที่ 82 10 best เป็นชุดหนังสือที่เราซื้อมา ตอนเริ่มหัดทำขนมใหม่ ๆ ด้วยคำพูดที่ว่า "ใช้ภาพประกอบอย่างฟุ่มเฟือย" เขียนชื่นชมผู้แต่งหนังสือนี้ ว่า ได้ทำงานที่รักมาตลอด ทั้งงานโฆษณา งานขนม ได้รางวัลสมัยเรียน... cordon bleu.... bla bla bla เราอ่านหนังสือนี้ อ่านจนขึ้นใจ ... ทำไป ก็งงไป ... ทำไมตรูทำไม่ได้หว่า....หรือสติปัญญาไม่พอ เวลาผ่านไป เราได้ข้อสรุปอย่างค่ะ ผู้รวบรวมสูตร... ใช้ความรุ้ด้านการตลาด การโฆษณา อย่างเต็มที่เลยค่ะ... เนื้อในหนังสือ.... ไม่ต่างอะไร...จากหนังสือรวมสูตร แบบรวมสูตรจริง ๆ วิธีทำ อย่างไม่ละเอียดเลยค่ะ ภาพประกอบที่ว่าฟุ่มเฟือย...... ก็ไม่ต่างจากโฆษณาที่เราเห็นจากในทีวีค่ะ.... ต่างกันลิบลับ จากนั้น... ก็เลิกซื้อแล้วค่ะ จากคุณ : Sara_Less เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 08:25:21

ความคิดเห็นที่ 83 หง่ะ ทำไมmacaron ห้องนี้สวยกว่าทั้งนั้นเลย ทั้งที่บางท่านอ่านเองทำเองยังดูดีกว่าเลย แต่ยังดีที่คุณเขากล้าเอามาลงไม่ไปซื้อเอามาโชว์ คนอ่านจะได้ตัดสินใจได้ถูกค่ะ จากคุณ : ไอฝนในป่าหนาว เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 08:33:42

ความคิดเห็นที่ 84 แวะมาอีกรอบ เพราะเช้านี้่กลายเป็นทู้แนะนำ ไปซะแล้ว โอ...สาวๆห้องนี้ทำขนมสวยชนิดขายได้จริงๆค่ะ หลายท่าน เรามีโอกาสได้ชิมด้วย แทบทุกคนบอกตรงกันว่า หัดเอาจากครูๆใจดี ในก้นครัวนี่แหละ หลายคนได้อาชีพจากการหัดทำ ฝึกทำ ด้วยสูตรก้นครัว     มาอ่านเจอประสบการณ์ เพื่อนก้นครัวที่เคยไปเรียนทำขนมกับเค้า..โหย.. เราว่า เค้าใจร้ายนะ ทำเพื่อเงินจริงๆ  เรื่องของเราที่เล่าใน คหห. 20 เป็นเรื่องจริง แต่มันนานมาก รู้แค่ว่าเป็นช่วงที่ มีหนังสือของเค้าออกมาเยอะๆ เรียกว่าเป็นช่วงมีชื่อเสียงน่ะค่ะ    เราว่า เค้าคงจำเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว และคงไม่ได้จดจำ และคำที่เราพูด ก็ไม่ได้ทำให้เค้าเก็บไปใส่ใจด้วย เพราะตอนที่เราพูดกับเค้า เค้าไม่ยินดียินร้ายอะไรเลย เฉยๆ เหมือนไม่สน แล้วพอตอนที่เราพูดจะจบตอนก่อนที่  เราจะเอาหนังสือที่เพิ่งซื้อ ยกให้คนที่เค้ากำลังจะเข้ามาเลือกซื้อ   ป้าเค้า ก็มีคน2-3 คน ที่เราเดาว่า น่าจะรู้จัก หรือไม่ก็ เป็นพวกที่ ดูรวย หรือ อะไรก็แล้วแต่ เพราะป้า เค้ายิ้มให้สดๆ พวกนั้นก็คุยๆๆกับป้า แบบ อวยตลอดเลยอ่ะ   เค้าไม่สนใจเราด้วยซ้ำว่าเรา ทำอะไร พูดอะไร ไม่แน่ใจว่า ป้าจะได้อ่านกระทู้นี้รึเปล่า ถ้าได้อ่าน เราว่า ป้าคงจะลืม เรื่องนั้นไปแล้วล่ะค่ะ ไม่เป็นไร   เพราะเราว่าเค้าคงรวยอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องแคร์คนที่มาซื้อหนังสือเล่มเดียวแบบเรา เช่นเดียวกับเรา ที่เราเองก็ไม่เคยจำเค้าเหมือนกัน วันนั้น ยอมรับว่า โกรธมาก แต่ก็ผ่านไป ไม่สนใจอีก ลืมเค้าไปจากสารระบบ จนมานึกถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ก็ตอนที่เห็นกระทู้นี้ ของคุณ แม่บ้าน M คนเก่ง นี่แหละค่ะ เรื่องนี้ถึงได้ replayed ในหัวเราอีกหน .แต่ตอนนี้ ขำๆนะคะ หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ของปลอม มันก็จะค่อยเผยเนื้อในมันออกมาเอง ไม่ต้องมีใครไปทำอะไรเลย เพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้นค่ะ จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:26:28

ความคิดเห็นที่ 85 คุณปริสนาเป็นนักโฆษณา และ Copy Writer ค่ะ เธอเรียนทำขนมจาก Tante Marie ไม่ใ่ช่ Cordon Bleu (ณ สิบปีที่แล้วนะคะ หากไปศึกษาเพิ่มเติมก็ขออภัยด้วยค่ะ) สูตรที่เธอว่าเธอใช้คือ สไตล์อังกฤษ ค่ะ จากคุณ : sinistra เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:37:03

ความคิดเห็นที่ 86 เอิ่มมม อิฉันก็ทำขนมชนิดนี้ไม่เป็นค่ะ  คือ ไม่เคยได้กระโปรงบานเลย แต่ก็ไม่เคยหน้าแตกยับเยินมากขนาดที่เอารูปในคห. 1 มาลงให้ดูกันนะคะ แล้วก็ชอบดูรีวิวที่เพื่อนๆ ในห้องก้นครัวทำมาการอง แต่ละคนทำออกมาสวย น่าทานกันทั้งนั้นเลย  เรางี้อิจฉามากๆ แต่พอเห็นรูปนั้น แม่โวยยยย...ไม่เข้าใจว่า  การทำหนังสือมันก็ต้องใช้เวลาไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ถ่ายภาพครั้งเดียวจบอ่ะ  - -" แต่ขนมของคุณป้า เหมือนขนมที่ผ่านศึกสงคราม ถูกกระทำอย่างยับเยินไม่มีชิ้นดี ไม่มีอะไรจะคอมเม้นต์ต่อแล้ว   คุณคือจุดอ่อน  ...เชิญค่ะ!!! จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:47:14

ความคิดเห็นที่ 87 แย่จริงๆนะคะ คนแบบนี้ จขกท.คะ บทความนี้เอามาจากหนังสือเล่มไหนกันคะ ขอพลีชีพเป็นคนนำสารไปส่งให้หนังสือนั้นเองละกัน -*- จากคุณ : Auntie AnT เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:47:44

ความคิดเห็นที่ 88 ป้า พลาดแล้วววววววว จากคุณ : แม่น้องปุญ&นโม (SweetLovE_pupu) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:48:04

ความคิดเห็นที่ 89 ป้า พลาดแล้วววววววว จากคุณ : แม่น้องปุญ&นโม (SweetLovE_pupu) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:48:33

ความคิดเห็นที่ 90 เอิ่มมม อิฉันก็ทำขนมชนิดนี้ไม่เป็นค่ะ  คือ ไม่เคยได้กระโปรงบานเลย แต่ก็ไม่เคยหน้าแตกยับเยินมากขนาดที่เอารูปในคห. 1 มาลงให้ดูกันนะคะ แล้วก็ชอบดูรีวิวที่เพื่อนๆ ในห้องก้นครัวทำมาการอง แต่ละคนทำออกมาสวย น่าทานกันทั้งนั้นเลย  เรางี้อิจฉามากๆ แต่พอเห็นรูปนั้น แม่โวยยยย...ไม่เข้าใจว่า  การทำหนังสือมันก็ต้องใช้เวลาไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ถ่ายภาพครั้งเดียวจบอ่ะ  - -" แต่ขนมของคุณป้า เหมือนขนมที่ผ่านศึกสงคราม ถูกกระทำอย่างยับเยินไม่มีชิ้นดี ไม่มีอะไรจะคอมเม้นต์ต่อแล้ว   คุณคือจุดอ่อน  ...เชิญค่ะ!!! จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:49:59

ความคิดเห็นที่ 91 สีสันขนมมันสวยงามจริงๆเห็นใครทำกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นขนมอร่อยเริศอะไรสำหรับหนูนะมาการองเนี่ยะ แต่เวลาเห็นคนทำออกมาแล้วมันน่ารักจริงๆ จากคุณ : สันต์ตี้ ยอดหญิงแห่งวังดอกไม้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:52:01

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านกระทู้นี้แล้วอยากลองกิน macaron ดูจังเลยครับ แต่ละรูปที่เพื่อนๆเอามาลงดูน่ารักน่ากินจัง จากคุณ : som1598 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 09:57:55

ความคิดเห็นที่ 93 ตอนถ่ายนี่ น่าจะเอาไม้จิ้มฟันเสียบตั้ง ดูไม่่น่าตั้งได้สมดุล บิดๆ เบี้ยวๆ ซะขนาดนั้น --" จากคุณ : น้องหยิก เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:00:38

ความคิดเห็นที่ 94 รูปร่างแบบนั้นก็ยังตั้งซ้อนกันได้เนอะ สามารถมาก จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:21:58

ความคิดเห็นที่ 95 เพิ่งอ่านเจอคอลัมภ์นี้เหมือนกันค่ะ อ่านแล้วก็แปลกๆ แปลกทั้งคอลัมภ์เลย เหมือนตื่นขึ้นมาเขียนวันที่ต้องปิดเล่มยังไงยังงั้น จริงๆหนังสือเล่มที่ว่าออกจะกระเดียดไปทางกระแนะกระแหนทั้งเล่มเลย บรรณาธิการมีปัญหามาก จากคุณ : B.G.G.S. (B.G.G.S.) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:28:38

ความคิดเห็นที่ 96 คุณป้าทำเอาลมจับ !!! จากคุณ : นส.อ้วนล่ำ (gigoahh) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:35:14

ความคิดเห็นที่ 97 ป้าเค้าไปเรียนมาตั้ง 6 เดือนเชียวนะคะ http://www.breakingbread.co.th/about.html Prisna Boonsinsukh - The Chef ปริสนา บุญสินสุข ก่อตั้งบริษัทร่วมโต๊ะขึ้น เพื่อรองรับอาชีพยามเกษียณ หลังจากใช้ชีวิตคร่ำหวอดอยู่ในวงการโฆษณานานถึง 37 ปี ก่อนลาจากอาชีพโฆษณา ได้ลางานเป็นเวลาหกเดือน เมื่อปี 2001 ไปเข้าหลักสูตร Intensive Cordon Bleu Diploma Course ที่โรงเรียน Tante Marie School of Cookery ที่เมือง Woking แคว้น Surrey ประเทศอังกฤษเพื่อยกระดับการทำครัวที่เรียนจากการเปิดตำราลอง ทำมาตลอดชีวิต ให้ถึงขั้นที่จะประกอบอาชีพได้ และได้นำประกาศนียบัตรเกียรตินิยมทั้ง ด้านทฤษฎี และด้านปฏิบัติกลับบ้านอย่างภาคภูมิใจ จากคุณ : ฉันรักและดูแลตัวเอง (ฉันรักและดูแลตัวเอง) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:51:53

ความคิดเห็นที่ 98 อย่างน้อยมากรารองในบทความป้าก็ทำให้มือสมัครเล่นทำมาการองทานเล่นที่บ้านอย่างเราๆได้มีกำลังใจขึ้นเยอะ แหะๆ เมื่อคืนนั่งอ่านกระทู้นี้แล้วคันมือ มีอัลมอน น้ำตาล ไข่อยู่ในตู้เย็นพอดี เลยลองทำมาการองชาเขียวดู ตื่นมาเอาเข้าเตาอบ เออ ถึงไม่สวยเหมือนมืออาชีพแต่น่าจะดูดีกว่าของคุณป้าล่ะ ^^ จริงๆประเด็นกระทู้นี้ผมว่า คือการเผยแพร่ความเข้าใจแบบผิดๆของผู้เขียน ที่บอกว่าทำมาการาองให้เรียบ ให้ไม่แตก ให้เท่ากันนั้นเป็นเรื่องยากแทบเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นจริง ท่านผู้เชี่ยงชาญหลายๆท่านในpantipก็เคยชี้ประเด็นกันไว้หลายรอบแล้วครับว่า ทำยังไงให้ไม่แตก (ตากให้แต้ง ตีเมอแรงให้ถึงยอดอ่อน) ทำยังไงให้ผิวเรียบ(ป่นอัลมอนให้ละเอียด) ให้วงเท่ากัน (วาดวงบนกระดาษไขแล้วหยอดmixtureลงกระดาษไข) จากคุณ : bas121 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:54:53

ความคิดเห็นที่ 99 เกือบหลวมตัวไปเรียนกับที่นี่แล้วค่ะ มองมานาน เพียงแต่มันไกลจากบ้านเลยไม่ได้ไปเรียน พออ่านคห.บนๆแล้วสยองพิกล จากคุณ : -Ki- เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:56:13

ความคิดเห็นที่ 100 ฮือออออออออออๆๆๆไม่นะมาการองของช้านนนน ทำไมป้ากล้าพูดแบบนี้อ่ะ มาการรองเราทำหน้าตาออกมาแบบป้าทำ เราทิ้งอย่างเดียวอ่ะเพราะมันไม่ใช่คุณลักษณะของมาการองที่ดีเลยให้ตายยย กล้าเอามาถ่ายรูปลงหนังสือเนาะ มันไม่ใช่สักแต่บีบๆแล้วอบๆ แค่นั้นแล้วจบ เห็นป้าพูดแบบนี้แล้วเพลียอ่ะ มาการองคือขนมที่เราเรียนรู้กับเค้าไม่มีวันจบอ่ะ กว่าจะรู้ว่าทำไมมาการองหน้าแตก หน้าเหี่ยว ขาไม่บาน เราทำหมดอัลมอนต์ไปเป็นหลายๆโล บางทียังทำไม่ได้เลยแล้วป้ามาพูดแบบนี้ง่ายไปไหมอ่ะ เราทำออกมาหน้าตาแบบของป้าเราไม่กล้าโชว์หรอกให้ตายยยยย 55555++ เราไม่ได้เก่งเลยทุกวันนี้เวลาำทำก็ยังเจ๊งอยู่ แต่ก็ไม่เคยที่จะเลิกทำเจ้ามาการองซะที มันหลงรักและหลงเสน่ห์ไปเต็มๆแล้ว แต่ได้อ่านที่ป้าแกรว่ามาแล้วอยากจะเขวี้ยงใส่หน้าป้าจริงๆ อยากรู้จริงๆว่าป้าแกรกล้าชิมที่ตัวเองทำออกมาไหมอ่ะ ** สีชมพูด้านซ้ายสูตรจากหนังสือ Mad about Macarons By Jill Colonna ** ด้านขวารสกาแฟไส้คาราแมววว สูตรจาก  Laduree พี่เหมียว บล็อค_ชั้นเอง  ส่งสูตรมาให้ลองทำค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 11:18:25 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 11:17:32 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 11:04:06 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 11:02:53 จากคุณ : อ้อมกอดของความเหงา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:01:40

ความคิดเห็นที่ 102 ขอยกคำพูดของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่คอยเคี่ยวเข็ญแม่ครัว M ตอนหัดทำขนมจนทำเป็นอาชีพค่ะ เป็นคำพูดประกอบร้านขนมหน้าตาเยินๆ ที่นิวยอร์ค "เราเป็นคนกิน ถ้าคนกินหยาบ คนขายก็กล้าหยาบ เพราะหยาบอย่างไรก็ขายได้"  จากคุณ : Marquise de Merteuil เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:13:02

ความคิดเห็นที่ 103 ดูของป้าแล้วนึกว่า "ขนมครก" จากคุณ : PanDavinci เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:14:19

ความคิดเห็นที่ 104 อ่านแล้วช็อค คุณปริสนาเธอแรงอย่างนี้เลยหรอคะ หลายปีแล้ว มีคนให้หนังสือ 10 best มา 2 เล่ม ก็ลองทำดู 3 อย่าง มี brownie กับ อีก 2 อย่างจำชื่อไม่ได้ ทำมาก็อร่อยทั้ง 3 อย่างนะคะ ให้เพื่อน ๆ ชิมก็บอกว่าอร่อย ยังคิดอยากไปเรียนเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีเวลา โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ไปเรียน ถ้าไปเรียนแล้วเป็นอย่างที่คห.บน ๆ ว่า เสียดายเงินแย่เลย ปล. เคยทำเค้กส้มในตำนานแจกญาติ ๆ ตอนปีใหม่ คอนเฟิร์มว่าอร่อยมาก บางบ้านขอให้ทำเพิ่มอีก ขอบคุณเจ้าของสูตรมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : Bigscoop Icecream เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:19:37

ความคิดเห็นที่ 105  งานเข้า จากคุณ : korakots14 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:41:25

ความคิดเห็นที่ 106 ครั้งแรกที่อยากหัดทำขนมอย่างจริงจัง ก็เข้ามาดูสูตรจากในพันทิปนี่แหละค่ะ แต่เนื่องจากแรกๆขี้เกียจปริ๊นซ์สูตรออกมา ก็เลยคิดว่าหาดูจากในหนังสือทำอาหารดีกว่า ก็พอดีว่าห้องสมุดของที่ทำงานมีหนังสือทำอาหารอยู่บ้าง โดยมีหนังสือชุด 10 best ของคุณปริศนาฯ อยู่หลายเล่ม ก็เลยเลือกที่จะหุดทำคุ๊กกี้หิมะ (เป็นคุ๊กกี้ปั้นเป็นก้อนกลมๆ คลุกน้ำตาลไอซิ่ง) เป็นอย่างแรก  ผลปรากฏออกมาห่วยแตกมากกกก เพราะในหนังสืออธิบายวิธีทำน้อยมากก ไม่ละเอียดเลย อาจเป็นเพราะเราไม่มี basic ในการทำขนมเลยด้วยแหละ ทำออกมาเพื่อนๆ ที่ทำงานถามว่า ขนมไข่หงส์เหรอ "-_- ถามจริงๆ นะไม่ได้แกล้งแซวเล่น หลังจากนั้นก็เลยลองมาดูสูตรขนมต่างๆ ในเว็บพันทิป ซึ่งบอกวิธีการและเคล็ดลับอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตีแป้งยังไง ตีไข่ยังไง นานแค่ไหน ความแรงระดับไหน เดี๋ยวนี้ฝีมือการทำขนมพัฒนาขึ้นเยอะมากก มีแต่คนถามว่าไปเรียนมาจากไหน ก็บอกเค้าไปว่าเรียนจากเว็ปพันทิปค่ะ ของเพื่อนๆ พี่หลายๆ มารีวิวกันไว้เยอะแยะเลย สูตรไหนเด็ด สูตรไหนดัง ลองทำให้หมด ส่วนมาการงเนี่ยเคยจดสูตรของแม่ปูฯไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือซักที กลัวออกมาเจ๊ง  เดี๋ยวคงต้องไปลองบ้างแล้ว แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 11:46:56 จากคุณ : แป้งข้าวเหนียว เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:41:41

ความคิดเห็นที่ 107 ไว้อาลัย คนหยาบ ทำอาหารยังไงก็หยาบอย่างใจที่ทำนั่นแหละ พึ่งรู้ซึ้งก็ว่าวันนี้ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:55:00

ความคิดเห็นที่ 108 กระทู้นี้ทำให้เราต้องไปหาเจ้า Macaron มาหม่ำซักหน่อยแระ สารภาพ .. ไม่เคยกินค่ะ (แอบเชย) อาจจะ.. ลังเลในรสชาติว่าจะเป็นยังไง รีวิวตามบล็อค ก็ไม่เคยเข้าไปอ่าน แต่มาอ่านกระทู้นี้ เริ่มสนใจขึ้นมาซะงั้น สีสันขนมก็หลากหลาย สวยทุกสี น่ากินมาก ถ้าซื้อมาลองชิม เราคงนั่งชื่นชมซักพัก มันช่างกลมสวย ได้ใจจริงๆ จากคุณ : ท้องฟ้าสีครามยามเย็น เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:56:17

ความคิดเห็นที่ 109 เอ่อ..เราไปอ่านเจอคำถามที่พบบ่อยมาค่ะ แอบตกใจคำตอบนิดหน่อย เหอะๆ ถ้าลงเรียนไม่ทัน เพราะเต็มเร็วมาก จะมีการนำหลักสูตรมาสอนซ้ำไหม? เพราะมีคนสอนเพียงคนเดียว และคนสอนเป็นคนขี้เบื่อ หลักสูตรที่สอนไปแล้วจึงไม่กลับมาซ้ำอีก ผู้ที่เรียนวันเสาร์ได้วันเดียว จึงเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจได้รวดเร็ว เพราะวันเสาร์เป็นวันที่จะเต็มก่อนวันอื่น http://www.breakingbread.co.th/faq.html จากคุณ : bur-bus เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:23:04