Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
****เค้กกล้วยหอมใส่ชีส ..สสสสสสส***** ติดต่อทีมงาน

สวัสดีคะ..ทุกวันนี้เวลาทำเค้กกล้วยหอม สูตรในดวงใจคือ สูตรชุ่มฉ่ำ ของ คุณ Beebie ตอนนี้ ได้เจอสูตรในดวงใจ อีกสูตรแล้วคะ...สูตรนี้มาจากหนังสือ "ครัวหวานบ้านป้าเจี๊ยบ" ถ่ายทอดโดย คุณปุ๊ก dailydelicious ลองคุณปุ๊กได้ทำแล้วเก็บไว้ใน blog เมื่อไหร่ การันตีได้เลย คะว่า ต้องเป็นสูตรที่ อร่อย อย่างแน่นอน..^^

หน่อยขอ ลอกส่วนผสมและวิธีทำมาไว้ตรงนี้นะคะ ส่วนวิธีทำในแบบของคุณปุ๊ก เพื่อนๆ ตามเข้าไปที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dailydelicious&month=02-2008&date=15&group=2&gblog=3    ได้เลยคะ
ส่วนผสม
แป้งอเนกประสงค์ 2 1/3 ถ้วย
ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
นมข้นจืด 2/3 ถ้วย
กล้วยหอมยีจนเละ 2/3 ถ้วย ประมาณ 170 กรัมค่ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำมันข้าวโพด 2/3 ถ้วย
เนยแข็งเชดดาร์ ขูด ½ ถ้วย

พิมพ์ขนาด 10 นิ้วนะคะ รองด้วยกระดาษนะคะ กันชีสติดพิมพ์

**แป้งเอนกประสงค์ ขอเปลี่ยนเป็น แป้ง สาลีเอนกประสงค์ 140 g และแป้งเค้ก 90 g ดัดแปลงตาม คุณเกด คนสวย และเก่ง นะคะ
นะคะ..

**น้ำตาล ในสูตร 1 ถ้วย ส่วนตัว ขอลด นะคะ เพราะไม่ชอบทานหวาน ก็เลยใส่ไป 160 กรัม ออกมา กำลังดีนะคะ ..ไม่หวานเกิน เพราะกล้วยงอมมากๆๆ เดี๋ยวจะเห็นคะว่า..งอมยังไง ..อิอิ

**เนยแข็งเชดดาร์ขูด 1/2 ถ้วย ตรงนี้ หน่อยกะน้ำหนักไม่ถูกเลย คะ..เลยมั่วเอา ชั่งได้ 40 กรัม ลองใส่ในถ้วยตวงก็ ใกล้เคียง 1/2 ถ้วยนะคะ..แต่แหม๋ ขูดเพลินๆ ยังมีเหลืออีก ก็เสียดาย กลัวจะ แห้งเสีย เลยใส่เบิ้ล เข้าไปเท่าตัวคะ เพราะคิดว่าต้องหอมแน่ๆ แต่ผลคือ ชีสมีความเค็มประแล่ม ประแล่ม...ดังนั้น ถ้าใส่ชีสเยอะ น่าจะต้องอ่อนเกลือในสูตรลงมาอีกหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าเค็มเกินนะคะ ใครชอบเค็มๆ ก็คงจะพอดีกัน...

** ตามสุตรวิธีทำ คุณปุ๊กเธอตีไข่กับน้ำตาลแค่พอข้นแต่หน่อยดัดแปลง เอาให้ฟู ข้นๆ แบบคุณ Beebie ทำ ผลที่ได้ หรอคะ.. เริ่ดดดด คะ เนื้อฟู นุ่มนิ่ม ไม่หนักแน่น...แต่ยังไง คราวหน้าก็ จะลองทำ แบบต้นฉบับ เป๊ะ ดู บ้าง นะคะ

**ไฟ ในการอบ หน่อยใช้ 200 บน ล่าง เพราะ อยากให้หน้านูน แตกเหมือนคุณBeebie แต่ผลการอบ ออกมา ไม่นูนมาก ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเพราะในสุตร ต่างกันตรงมีนมข้นจืดซึ่งเป็นไขมัน แล้ว มันหนัก รึเปล่า...อิอิ มั่วเอาคะ..ใครทราบ ช่วยเฉลย ให้ด้วยนะคะ..

** น้ำมันข้าวโพด...ในครัว ไม่มีเลยคะ เลยใช้น้ำมันดอกทานตะวัน

วิธีทำ (คุณปุ๊ก)
1.ผสมของแห้งเข้าด้วยกัน
2.ยีกล้วยหอมให้เละ
3.ผสมกล้วยนมข้นจืดและน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน
4.ตีไข่กับน้ำตาลและน้ำมันรวมกัน
5.จนเป็นสีครีมแบบนี้เลยตีจนเนียนเชียวละ
ุุ6.ใส่ส่วนผสมของแป้งลงไปตีให้เข้ากัน
7.ใส่ชีส เทใส่ถาด
8.เข้าอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮต์ นาน 35นาที

ทีนี้ มาลองดูวิธีทำแบบหน่อยบ้างนะคะ

( ...ขออนุญาต ดัดแปลง แบบมั่วๆ นะคะ..)

1.บดกล้วย
เอาให้เละๆ ไปเลยนะคะ..ตอนบีบ พยายามนึกถึงหน้าคนที่เรา แค้น..ไว้ด้วยคะ กล้วยจะได้เละๆคะ..แล้วก็บีบมะนาว เก็บเข้าตู้เย็นไว้ก่อน

2.ชั่งนม ใส่ถ้วย
ตั้ง ไว้ใกล้ๆ มือ จะได้ไม่ลืม.หน่อย เคยลืม ส่วนผสม เพราะดันวาง ไกลมือไปหน่อย แบบว่า ชอบ คิดเรื่องอื่น ตอนทำ่ขนม รู้ตัวอีกที ฮี่ๆๆ ลืมใส่ซ่ะแล้ว..

3.ชั่งแป้ง สองชนิด และเบกกิ้ง ผงฟู รวมกัน
ไม่ได้ร่อนคะ..มีผลไม๊ ไม่รู้เหมือนกันคะ..อ่านตามตำราบ้างก็ว่ามี บ้างก็ว่าไม่มี เอาเป็นว่า แล้วแต่ อารมณ์ ดีกว่านะคะ...

4.โถปั่น ใส่ไข่ และ น้ำตาล เข้าเครื่องตีจนฟูข้น ประมาณ 5-7 นาที
สังเกดให้ฟูข้นไปเลยนะคะ...

5.ใส่น้ำมัน ลงไป ตอนนี้ เปิดสปีดกลางนะคะ ตีสักพัก จนแน่ใจว่าน้ำมัน กระจายทั่วๆ แล้วนะคะ..ถ้า ยังไง เอาพายช่วยคนใต้ล่างก็ได้คะ...

6.นำกล้วย ที่อยู่ในตู้เย็น ออกมา ใส่โถ แล้วตีสักพักจนแน่ใจว่าส่วนผสมกระจายทั่วๆ (ยังคงสปีดกลาง นะคะ)

7.ทยอยใส่แป้งแบ่ง สัก3 รอบนะคะเพื่อไม่ให้แป้งเกาะตัวเป็นก้อน
ตรง ช่วงใส่แป้ง เคยอ่านตามสุตรต่างๆ เขาบอก อย่าตีนาน แป้งจะเหนียว..แต่ก็เคยตีแป๊ปเดียว แป้งยังเป็นก้อนอยู่เลยคะ..ตรงนี้เลยคิดว่า น่าจะมาจากการเทโครม แป้งลงไปรวดเดียว แป้งยังไม่ทันกระจายตัว สุดท้ายหน่อยต้องเอามือลงไปบี้ๆ แป้ง...แต่ ตรงนี้ เป็นความลับนะคะ..คนทาน เค้กชุดนั้น เขาไม่รู้..

8.ใส่ ชีสที่ขูดไว้ลงไป ตรงนี้ ใช้พายช่วย ผสม ก็ได้คะ..แ้ป้งจะได้ ไม่ถูกรบกวนเกินไป ตอนใส่ พยายามกระจายชีสให้ทั่วๆ หยิบโรย เอานะคะ..อย่าควักเป็นก้อนๆลงไป...

9.ตักใส่ถ้วย เข้าอบ ไฟ 200 บ ล นานเท่าไหน ไม่ได้จับเวลาเลยคะ สังเกตจาก เค้กในเตา เริ่มพองฟู หน้าเปลี่ยนสี แล้วตอนที่พอจะเอาออกจากเตา เพื่อความมั่นใจ อีกสักรอบ เอาไม้จิ้ม สักที ((ขอสักที...))ไม่มีอะไรติด แฉะๆ ขึ้นมา แบบนี้ มีเฮ ..แล้วคะ..^^

อีกอย่าง หน่อย เอาลูกเกต ป๊ะหน้า ไปสัก 5 เม็ด อร่อยคะ..เด็ดเลย ..
ลองทำดูนะคะ

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 13:00:58

 
 

จากคุณ : usana@77
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 13:00:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com