เมนูมั่ว ๆ จากของเหลือในตู้เย็นและสูตรคูณประสบการณ์ชีวิต
|
|
หัดโพสต์ครั้งแรกค่ะ...เรื่องยาวหน่อย แต่รูปมีรูปเดียว ไว้แก้ตัวครั้งหน้าละกันนะคะ v v v เหตุเกิดจากความขี้เกียจขับรถฝ่ากองทัพนักเรียนหลังเลิกเรียน แต่ก็หิว...หิ๊ว...หิว เลยเปิดตู้เย็นพ่อหมีเล่น แล้วก็จ๊ะเอ๋กับน้องไข่ไก่ที่ซื้อติดตู้เย็น น้องมะเขือเทศนี่ก็ติดตู้เย็นและพยายามกินทุกวัน น้องหมูอู๊ด ๆ อายุการแช่แข็ง ๘ วัน ซื้อมากะทอดให้พ่อหมีกิน แต่วันนั้นแค่ยำปลากระป๋องกับทำเห็ดอบสมุนไพร พ่อหมีก็ว่ามันอร่อยจนไม่ต้องการหมูทอดอีก น้องแขนงอายุการแช่ค้าง ๔ วัน ปลาร้าบองไม่ทราบอายุ แต่ซื้อมา ๒ วันแล้วจากพ่อค้าส้มตำโคราช และมีข้าวกล้องค้างคืนเหลืออีกครึ่งหม้อ เหลือเยอะขนาดนี้เพราะหุงเผื่อพ่อหมีพุงกลม แบบลืมไปว่าเพิ่งส่งเค้ากลับบ้านที่นครฯ เมื่อวานเย็นนี่นา
ตอนแรกจะผัดข้าว...ใส่ทุกอย่างรวมกันแล้วก็ผัด ๆ ๆ แต่อยากกินไข่ด้วย ใส่ไข่ลงในข้าวผัดแจ่วบองคงดูไม่จืด และอยากกินมะเขือเทศย่างเป็นแผ่นกลม ๆ สวย ๆ สามสี่วันก่อนพ่อหมีทำให้กินแล้วติดใจมากกกกกกกก เคยเห็นเมนูกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา...เอาแขนงมาแทนจะดีมั้ยนะ
บลา...บลา...บลา...
คิดไปอีกมากมายพลางหั่นมะเขือเทศลูกโตเป็นชิ้นกลม ๆ หั่นแขนงแบบพอคำโตแล้วล้างน้ำอีกรอบ เปิดกะทะไฟฟ้าหน้าตาหม้อสุกี้ก้นเด้งป่องขึ้นมา วางมะเขือเทศเรียงเดี่ยวไม่มีซ้ำซ้อนแล้วปิดฝา หั่นหมูเป็นคำใหญ่ ๆ ใส่ถ้วยเทน้ำปลาลงไป แล้วคลุก ๆ ๆ วางไว้ กลับด้านมะเขือเทศในกะทะ และมันทำให้รู้ว่า... ถ้าจะทำเมนูนี้ต้องหั่นเป็นชิ้นหนาหน่อย ไม่ใช่บางเฉียบ เพราะไม่งั้นไส้จะเละออกมา ขอบเองก็ขาดหายไปกับความร้อน ย่างมะเขือเทศประมาณว่าไลโคปีนออกมาเยอะแล้วก็ตักใส่จาน ใส่เนยลงในกะทะนิดหน่อย พอเนยละลายตอกไข่ใส่ลงไปแล้วคน ๆ ๆ อยากกินไข่ดาวสวย ๆ ข้างนอกกรอบข้างในเป็นยางมะตูม แต่กะทะเราไม่อำนวย ก้นป่องทอดไข่ดาวไม่ได้ ก็เลยตามเลย กลับด้านไข่คนให้สุกทั่วกันแล้วตักใส่จาน เติมน้ำมันพืชลงในกะทะ ปิดฝารอให้น้ำมันร้อนหน่อย ตักข้าวค้างคืนใส่ถ้วยไว้ เวลาตักกะไว้ว่ากินคนเดียว เปิดฝากะทะ วางหมูเรียงหนึ่งแบบมะเขือเทศ แล้วปิดฝา เก็บเขียง มีด ถ้วยหมักหมูไปล้างทำความสะอาดระหว่างรอหมูสุก กลับด้านหมูอีกฝั่ง ปิดฝาครอบ แล้วเช็ดเขียงกับมีดเก็บเข้าที่ คว่ำถ้วยหมักหมูในที่คว่ำจาน เปิดฝากะทะออกมาพลิกหมูดู สุกทั่วถึงแล้วก็ตักใส่จาน ใส่แขนงลงไปในกะทะที่มีน้ำมันเหลือ ๆ ผัดคลุกน้ำมันไปมา เหยาะน้ำปลาลงไปนิดหน่อย ผัดไป...ผัดมา ปิดฝาช่วยให้ผักสุกเร็ว เปิดฝากะทะ...หอมกลิ่นน้ำปลาปนกับกลิ่นเขียว ๆ ของผักมากมาย ตักแขนงทอดน้ำปลาใส่จานเดียวกับเมนูก่อนหน้า เติมน้ำมันลงในกะทะนิดเดียว ตักแจ่วบองลงไปผัดโดยไม่ต้องรอน้ำมันร้อน กลิ่นแจ่วบองหอมมาก ยิ่งโดนความร้อนยิ่งหอมยั่วน้ำลาย ใส่ข้าวค้างคืนลงกะทะ เติมน้ำปลานิดแบบนิดจริง ๆ เพราะอาหารก่อนหน้าเราใส่น้ำปลาเยอะแล้ว โรยน้ำตาลบาง ๆ ให้ทั่วหน้าข้าวเป็นเคล็บลับส่วนตัวตั้งแต่ ม.๓ ถ้าโรยน้ำตาลแบบนี้เราจะได้ข้าวผัดที่มีรสหวานปนนิด ๆ ...จนเหมือนว่าหวานมาจากข้าว คลุกข้าวกับเครื่องปรุงรสที่เติมลงไปและแจ่วบองให้เข้ากันจนทั่ว ตักข้าวใส่ถ้วยข้าวญี่ปุ่นที่พ่อหมีหอบหิ้วขึ้นเครื่องบินจากร้านโดโซะมาให้ ตักมะเขือเทศมาวางตรงกลาง ตักหมูทอด ตักแขนงทอดน้ำปลา ตักไข่คนวางเรียงกัน มองอีกที...มันสวยมากกกกกกกกกกกกกกกก จากเมนูมั่ว ๆ รู้สึกว่ากลายเป็นอาหารที่ดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมาทันที (ฮา)
ถ่ายรูปลง Instagram แล้วแชร์ลง FB และทวิตเตอร์ ยัง...ยังไม่พอ...ไปโพสต์ที่กลุ่ม "ทำอาหารกินเอง" ที่พี่โอ๋ชวนเข้าใน FB ด้วย ปิดท้ายด้วยการละเลียดกินข้าวทีละคำ และเขียนบล็อกทีละตัว
บางคำกินกับมะเขือเทศไฟล์บังคับ บางคำกินกับไข่คนจืด ๆ หอม ๆ บางคำกินกับแขนงที่ทำให้รู้ว่าไม่ใช่กะหล่ำปลีก็ทอดในน้ำปลาแทนกันได้ บางคำเคี้ยวไปโดนตะไคร้ที่ซ่อนอยู่ในแจ่วบองหอมซ่าจี๊ด ๆ ขึ้นมา ส่วนหมูทอดที่ไม่รู้ทอดทำไมนั้น เอาเก็บไว้ให้แมวหลงบ้านกิน
ฉันชอบทำอาหาร...โดยเฉพาะเป็นอาหารจานมั่ว ๆ ที่มีอะไรก็จับมาทำอาหารได้หมด อาหารของฉันไม่มีสูตร และไม่ตายตัวว่าต้องเป็นไปตามสูตรเป๊ะ ๆ เป็นอาหารจากประสบการณ์และ Instinct เช่นเดียวกันกับชีวิตของฉัน... เราพูดกันมากว่า "ชีวิตไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" แต่ในความเป็นจริงฉันพบว่าใครหลายคนรายรอบตัวฉัน ...พยายามทำให้ดูว่าชีวิตตนสำเร็จรูป รวมถึงพยายาม "ยัดเยียด" ความสำเร็จรูป และ "สูตร" การใช้ชีวิตเข้าสู่ชีวิตฉัน ฉันไม่ปฎิเสธ "สูตร" ต่าง ๆ เหล่านั้น และยิ่งไม่ปรารถนา "ชีวิตสำเร็จรูป" สูตรต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ ฉันขอนำมาคูณกับประสบการณ์ชีวิต เป็น "สูตรคูณประสบการณ์ชีวิต" ในแบบของฉันเอง ...ไว้จัดการกับชีวิตฉันเอง
จากคุณ |
:
เพลงฝนต้นลมหนาว
|
เขียนเมื่อ |
:
28 พ.ย. 54 20:05:44
|
|
|
|