ความคิดเห็นที่ 1 น้ำปูนใสเค้าเอาไว้แช่ก่อนนำไปเชื่อมเพื่อไม่ให้มันเละมากไม่ใช่เหรอคะ ไม่ได้เอาไว้ใส่เป็นส่วนผสม (ใช่ไหมอ่ะ หรือเราเข้าใจผิด) จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 10:22:22

ความคิดเห็นที่ 2 มันจะเละ กลายเป็นฟักเชื่อมนุ่มนิ่ม ไปตามร้านขายวัสดุก่อสร้างแล้วซื้อปูนขาวสำหรับฉาบบ้าน มาแช่ก็ได้เหมือนปูนแดง (คุณสมบัติของปูนขาวคือเปลี่ยนคาร์บอนที่อยู่ในเส้นใยผักให้กลาย เป็นแคลเซียม ความรู้สึกกรุบกรอบๆ ตอนที่เราเคี้ยวคือหินปูนอ่อนๆ ที่เกาะอยู่ตามเส้นใยผัก นี่เอง) จากคุณ : tb เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 10:33:06

ความคิดเห็นที่ 3 alkaline water แทนได้ อย่างที่เขาว่า เอาฟักทองมาแช่ แล้วเทน้ำด่างทิ้ง จากคุณ : KU_EE เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 10:33:59

ความคิดเห็นที่ 4 ปูนขาวตามร้านวัสดุก่อสร้างมันไม่ใช่ "ปูนขาว" ที่เอามาแช่พืชผักผลไม้นะครับ มันปูน คนละประเภทกัน ปูนขาวที่เอามาแช่พืชผักผลไม้เค้าเผาจาก "เปลือกหอยแครง" ครับ แล้วก็เอามาทำปูนแดงโดยใส่ขมิ้นกับสีเสียดเข้าไป ทีนี้เวลาไปซื้อปูนแดงมาใช้ ต้อง บอกคนขายว่า เอาประเภทที่ไม่ใส่ "สีเสียด" ก็จะได้ปูนแดง แต่ถ้าบางเจ้าเค้าทำไว้แบบ ไม่ใส่ทั้งขมิ้นและสีเสียด ก็จะกลายเป็น "ปูนขาว" ถ้าอยู่ต่างประเทศ ไม่มีปูนแดง ปูนขาวขาย ก็ลองเผาเองจากเปลือกหอยก็ได้ครับ ลองไปค้นในคลังกระทู้เก่า ๆ มีคนมารีวิวสอนเผาเปลือกหอยเพื่อมาทำปูนขาวด้วยครับ หรือไม่ก็ลองเสิร์ชหาเอาจากกูเกิลก็ได้ครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 12:47:52

ความคิดเห็นที่ 5 ไปเสิรช์ข้อมูลเก่าเรื่องปูนแดง ปูนขาวมาให้ครับ จะได้เป็นข้อมูลไว้ มิเช่นนั้นอาจจะ สับสนกับ "ปูนขาว" ในวงการก่อสร้าง เดี๋ยวกัดกระเพาะตายกันพอดีครับ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/12/D10009209/D10009209.html ชื่อวิทยาศาสตร์   Ca(OH)2 แคลเซียมไฮดรอกไซด์ ปูนกินกับหมากได้จากการเผาเปลือกหอยจนร้อนจัด สามารถบดเป็นฝุ่นละเอียดสีขาว แล้วเอาไปผสมกับขมิ้น จะให้สีส้มหรือเรียกเป็นสีเฉพาะว่าสีปูน วิธีการทำปูนแดงแบบใช้ในบ้าน ส่วนผสมในการทำปูนแดง 1. เปลือกหอยแครง 2. เตาไฟ (ใช้เตาถ่านนะ) 3. โอ่งมังกรใบเล็กหรือกระป๋องนมก็ได้ (หาฝามาปิดด้วยนะ) วิธีการทำ 1. เปลือหอยแครงที่กินเสร็จแล้ว แช่น้ำทิ้งไว้ 3-4 อาทิตย์ จากนั้นนำมาขัดเอาเนื้อหอยที่ติดอยู่ข้างในออก และขัดเปลือกด้านนอกให้สะอาด 2. ตั้งเตาไฟให้ร้อนใส่ถ่านเยอะๆ นำเปลือกหอยที่ล้างสะอาดแล้วโยนเข้าเตาไฟ เผาให้เปลือกกลายเป็นสีขาวขุ่นๆ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาพอสมควร 3. นำโอ่งมังกรเล็กๆ ที่เตรียมไว้ ใส่น้ำประมาณ 1/2 ลิตร (กะประมาณว่าน้ำต้องน้อยกว่าครึ่งนึงของเปลือกหอยที่เผา ถ้าปูนข้นเกินเติมน้ำได้ แต่ถ้าน้ำเยอะเละไปไม่ดีค่ะ) 4. นำเปลือกหอยที่เผาได้ที่ทิ้งลงไปในภาชนะที่ใส่น้ำไว้แล้ว จากนั้นนำไม้มาคนๆ เปลือกหอยที่กรอบได้ที่เมื่อโดนน้ำก็จะแตกละเอียดกลายเป็นปูนในที่สุดคนจนให้มีลักษณะเหนียวๆเหมือนแป้งเปียก 5. ถ้าอยากให้ปูนแดงก็ไม่ยาก ใส่น้ำขมิ้นลงไป คนๆ ให้เข้ากัน ได้แล้วปูนแดงไว้กินหมาก หรือ ใครจะเอาไว้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นก็ได้ เช่นทำบวชฟักทอง ก็เอาฟักทองหั่นแช่น้ำปูนใสไว้ก่อน จะทำให้ฟักทองไม่เละเวลาทำขนม แต่อันที่จริงปูนแดง หรือไม่แดงก็มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อเหมือนกันนะ แต่น้ำขมิ้นที่ใส่ให้แดงน่ะ เพราะบางคนเค้าชอบให้ปูนแดงๆ เวลากินหมากสีจะได้แดงๆ ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคุณ Ironwood และท่านอื่น ๆ ในกระทู้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 12:59:09

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ Ironwood กระทู้เดียวกันครับ น้ำปูนใสทำมาจากปูนแดงหรือปูนขาว ที่กินกับหมาก มาละลายในน้ำแล้วตั้งทิ้งให้ตกตะกอน กรองเอาแต่น้ำใสมาใช้ ปูนขาวก็คือ CaO จะละลายน้ำใจปริมาณน้อยมาก กลายเป็น สารละลาย Ca(OH)2 เป็นที่รู้กันในแวดวงวิทยาศาสตร์ ว่า น้ำปูนใสเอาไว้ทดสอบก๊าซ CO2 หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไฟซด์ได้ โดยผ่านก๋าซต้องสงสัยลงไปในน้ำปูนใส ถ้าน้ำปูนใสขุ่น ก๊าซนั้นก็คือ ก๊าซ CO2 . ดังนั้นถ้าตั้งน้ำปูนใสไว้ให้สัมผัสอากาศ น้ำปูนใสจะขุ่น เพราะในอากาศมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ด้วย ทีนี้เมื่อเราเอาน้ำปูนใสมาแช่ผัก ผลไม้ น้ำปูนใสจะทำปฏิกิริยากับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ตกค้างในท่อลำเลียงของผัก ผลไม้ กลายเป็นหินปูนจิ๋วๆ ทำให้เวลากิน เรารู้สึกว่ากรอบ ส่วนการเก็บ เมื่อกวนปูนกับน้ำจนละลาย แตะสัมผัมจะลื่นมีฤทธิ์เป็นด่าง ปิดปากภาชนะไว้ ปล่อยให้กากตกตะกอน แล้วค่อยๆรินน้ำใสๆ ใส่ขวดหรือภาชนะ ปิดฝาและติดป้ายไว้ ว่าน้ำปูนใส สามารถเก็บไว้ได้นาน หลายเดือน . เพิ่มเติมอีกหน่อย ปูนขาว หรือ ภาษาเยอรมัน เรียกว่า Kalkwasser หรือภาษาอังกฤษ เรียก Lime มีชื่อทางเคมีว่าแคลเซี่ยมไฮดรอกไซด์ Calcium hydroxide - Ca (OH)2 เป็นผลผลิตจากการนำเอาหินปูนมาเผาได้ Calcium oxide (CaO)จากนั้นพรมน้ำลงไปขณะร้อนๆ Calcium oxide (CaO) รวมกับน้ำจะได้ Ca (OH)2 ความบริสุทธิ์ของสารที่ได้นี้ ขึ้นอยู่กับแหล่งหินปูนที่นำมาผลิตด้วย โดยมากมักมี Mg Sr ผสมอยู่ ถ้าหากมี Magnesium (Mg) ผสมอยู่มากจะเรียกหินปูนนั้นว่า Dolomite - CaMg (CO3)2 . ที่จริงแล้วน้ำปูนใส ที่เราใช้ทำขนมนั้น ก็เป็นสารตัวเดียวกันนั่นเอง จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 13:00:36

ความคิดเห็นที่ 7 เราต้มโดยไม่แช่น้ำปูนใสสักที ต้มฟักทองกับน้ำเปล่าจนฟักเริ่มเปลี่ยนสี หรือเนื้อเริ่มเละแล้วใส่น้ำตาลทรายอ่ะ จากคุณ : ทะเลตะวัน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 13:35:09

ความคิดเห็นที่ 8 อ้าวตายแล้ว ...ตอนเด็กๆ แม่ใช้ให้ไปตักปูนหลังบ้านซึ่งเขาก่อสร้างกันอยู่มาละลายน้ำแช่ฟัก ถ้าแม่ว่าทำไมไม่ใช้ปูนแดง แม่บอกว่าเปลือง เพราะทำเยอะ แล้วปูนแดงล้างสียากกว่าปูนขาว ด้วย แล้วจริงๆ เราก้ไม่ได้กินปูนขาว เพียงอาศัยปฏิกริยาให้มันเปลี่ยนคาร์บอนเป็นหินปูนเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 54 14:27:57 จากคุณ : tb เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 14:12:36

ความคิดเห็นที่ 9 โอวได้ความรู้ดีเลยค่ะ แต่ไม่อยากจะบอกเลยว่าหอยแครงที่นี่ก็หายาก T-T แถมถ้าต้อง open burning หลังบ้านสามีด่าแน่เลยค่ะ อาจจะลองจากใช้ alkaline water ดูก่อน (จำส่วนผสมไม่ได้ แต่จำได้ว่ามีโซเดียม) ถ้าไม่สำเร็จก็ลองต้มแบบไม่แช่ดู ถ้ามันเละมาก ไม่อร่อย ก็รออดใจกลับไปกินที่ไทยก็ได้ค่ะ T-T (จริงๆคืออยากต้มให้แม่สามีลองทานดูน่ะค่ะ) จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 14:24:52

ความคิดเห็นที่ 10 ลองเปลี่ยนเป็นกล้วยๆห้ามหน่อยดีกว่าไหมคะ กล้วยห่ามๆบางทีไม่ต้องแช่น้ำปูนก็ไม่ค่อยเละนะคะ ^ ^ จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 16:20:33

ความคิดเห็นที่ 11 ทอดซิครับ  ทอดให้สุก  ผิวด้านนอกจะตึง  หลังจากนั้นก็เคี่ยวน้ำตาลทรายให้เหนียว พอเยิ้ม  จากนั้นก็เอาฟักทองที่ทอดแล้วไปคลุกๆ  เสร็จแล้วก็โรยด้วยงาคั่ว  อืม ท่าทางจะอร่อย ปล.ฟักทองหั่นชิ้นหนาพอประมาณนะครับ  หนาไปทอดนานกว่าจะสุก  ทอดไฟแรงไป ข้างนอกจะไหม้  ข้างในไม่สุก  ต้องระวังนิดนึงครับ จากคุณ : บานดึก เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 20:45:58

ความคิดเห็นที่ 12 หลายปีก่อนเคยอ่านเจอข้อมูลมาแบบคุณ  tb  ค่ะปูนขาวที่ใช้ทำน้ำปูนใสคือปูนขาวที่ใช้ในการก่อสร้างนั่นเอง    ในลิงค์ค่ะ น้ำปูนใส ที่ไม่ต้องใช้ปูนแดงทำ โดย แตง http://www.kruaklaibaan.com/viewtopic.php?f=52&t=291 พอดีนึกได้ว่ามีหนังสือที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำปูนใสของ สนพ.แสงแดด  ไม่ได้คัดมาทั้งหมดนะคะ  เพราะยาวเกินคัดเอาเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมา ปูนทำมาจากหิน ซึ่งเป็นหินจากภูเขาโดยหินชนิดนี้จะต้องเป็นหินปูนเท่านั้นจึงจะนำมาทำปูนขาวปูนแดงได้   คุณอวยชัย แดงด้อมยุทธ์ เจ้าของรุ่นที่ 3 ของครอบครัวที่ทำเตาปูนในจังหวัดราชบุรี  จะสั่งซื้อหินปูนจากดรงโรงโม่ที่เขาสามง่ามเพื่อใช้ในการทำปูนขาวปูนแดง (ใครสนใจพิธีกรรมในการสร้างเตาเผาหินปูนหาอ่านได้ใน "เส้นทางขนมไทย" ของ สนพ. แสงแดด" นะคะ  หนังสือน่าสนใจรวบรวมกำเนิดขนมไทยๆ และวัตถุดิบบางตัว) ปูนขาวนอกจากจะใช้ในงานก่อสร้างและการเกษตรแก้ดินเปรี้ยวแล้วยังนิยมนำไปฆ่าเชื้อในนากุ้ง   ทางภาคอีสานนิยมใช้ปูนขาวกินกับหมากและทำอาหาร  แต่นิยมใช้ปูนขาวกินกับหมากมากกว่าปูนแดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปูนขาวที่ทำจากเปลือกหอย คือ เอาเปลือกหอยแครง หอยแมลงภู่ หรือหอยที่หาได้ในท้องถิ่นมาเผากับแกลบจนไหม้เป็นกาบขาว  ใส่ในน้ำ  กวนจนละลายแล้วหมักน้ำไว้ให้งวดก็จะได้ปูนขาว  ปัจจุบันไม่นิยมทำจึงหันมาใช้ปูนขาวจากหินปูนเพราะสะดวกมีขายอยู่ทั่วไป ข้อมูลเพิ่มเติม   สิ่งที่พอจะใช้ทดเชยแทนน้ำปูนขาวได้น่าจะเป็นผงเบ็คกิ้งโซดา(Baking Soda)    http://www.pallswiss.com/boards/index.php?topic=2796.0 จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 21:36:23

ความคิดเห็นที่ 13 เราเคยใช้ เบคกิ้ง โซดา ค่ะ ละลายน้ำ แช่ไว้ เหมือนน้ำปูน จะช่วยให้ ไม่เละ ค่ะ จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 23:49:49

ความคิดเห็นที่ 14 เคยอ่านเจอว่า บางคนก็ใช้น้ำโซดาซ่าๆนี่แหละค่ะ จากคุณ : BeNettY เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 07:30:49

ความคิดเห็นที่ 15 ฟักทองเชื่อมที่เคยรับประทานมาตลอดเป็นฟักทองเชื่อมที่นิ่มมากๆ  ส่วนที่เหนียวก็เหนียวเพราะเนื้อของฟักทองเอง ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ที่ทำให้รับประทานท่านแช่น้ำปูนใสสักครั้งเลยค่ะ  หาฟักทองแก่จัดๆลองเชื่อมแบบไม่ต้องแช่น้ำปูนใสดูความแตกต่าง จากคุณ : Daytime Lantern เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 12:29:42