ความคิดเห็นที่ 1 มาดูส่วนผสมและวิธีทำก่อนนะคะ Banana Caramel Cake ส่วนผสม - คาราเมลสูตรที่ชอบ 70 กรัม - แป้งเค้ก 180 กรัม - ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา - เกลือ 1/2 ช้อนชา - เนยจืดทิ้งไว้ให้นิ่ม 115 กรัม - ครีมชีสทิ้งไว้ให้นิ่ม 90 กรัม - น้ำตาล (1) 75 กรัม - น้ำตาล (2) 40 กรัม - ไข่ไก่ แยกไข่ขาว-ไข่แดง 3 ฟอง - กล้วยหอมตัดเป็นชิ้นละครึ่งเซ็นติเมตร 1 1/2 ลูก - ครีมชีสหั่นเต๋า 30 กรัม วิธีทำ 1. วอร์มเตาอบไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180c 2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ รวมกัน พักไว้ 3. ตีเนย ครีมชีส และน้ำตาล (1) รวมกันจนขึ้นฟู ทยอยใส่ไข่แดงทีละฟอง ตีให้เข้ากัน พักไว้ 4. ตีไข่ขาวกับน้ำตาล (2) จนขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน นำมาตะล่อมรวมกับส่วนผสมที่พักไว้ 5. ร่อนแป้งเค้กที่พักไว้ลงไปผสม ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ 6. ผสมกล้วยกับคาราเมล ตะล่อมให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์ โรยครีมชีสหั่นเต๋า 7. อบประมาณ 30-40 นาที แล้วแต่ขนาดของพิมพ์ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:21:39

ความคิดเห็นที่ 2 คาราเมล ใช้สูตรไหนก็ได้นะคะที่ตัวเองชอบ สำหรับอุ่น ก็ต้องสูตรของพี่ปุ๊ก delidelicious แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ดังนั้น ตวงน้ำตาลทราย 75 กรัม และน้ำเปล่า 1/2 ช้อนชา ลงในหม้อก้นหนา ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อนทิ้งไว้ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:25:31

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วงก่อนวิปปิ้งครีมขาดตลาดเนอะ หายากจัง ต้องใช้นมแทนวิปปิ้งครีมมาหลายสูตรแล้ว แต่วันนี้ไปเดิน Tops เห็นวิปปิ้งครีมแล้วนะคะ ดีใจอย่างกะได้แหวนเพชร แต่ว่าวันที่ทำ ยังไม่มีวิปปิ้งครีม ก็เลยลองใช้นมเมจิโกลด์แทนดูค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ลองดู จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:27:26

ความคิดเห็นที่ 4 ตวงใส่ถ้วยทนไฟ 1/2 ถ้วยตวง รอเข้าไมโครเวฟ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:28:14

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อน้ำตาลที่ตั้งทิ้งไว้ละลายและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ ก็ให้นำวิปปิ้งครีม (ที่อุ่นใช้เมจิแก้ขัด) ไปเวฟให้ร้อนสักประมาณ 45 วินาที - 1 นาที แล้วค่อยๆ เทลงไปผสมกับน้ำตาลไหม้ มือซ้ายเทวิปปิ้งครีมลงไป ส่วนมือขวา้ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ให้วิปปิ้งครีมเข้ากับน้ำตาลไหม้ ยกลงจากเตา เทใส่ภาชนะอื่น พักไว้ให้เย็นสนิท จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:30:40

ความคิดเห็นที่ 6 ระหว่างรอให้วิปปิ้งครีมเย็นสนิท เราก็มาเตรียมส่วนผสมอื่นกันค่ะ แยกไข่ขาว ไข่แดงรอไว้ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:31:22

ความคิดเห็นที่ 7 ข้ามรูปคาราเมลไปค่ะ สรุปแล้ว เราไม่สามารถใช้นมแทนวิปปิ้งครีมเพื่อทำคาราเมลนะคะ เพราะเราจะได้คาราเมลจ๋องแจ๋งที่ไร้ความข้นโดยสิ้นเชิง ครั้นจะใช้สูตรที่กวนนมข้นหวาน น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดงรวมกัน ... ก็ไม่ได้อีก เพราะตอนนี้นมข้นหวานก็ขาดตลาด -_- เอาล่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ เดินหน้าลงมือทำต่อไปกันเถอะค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:34:05

ความคิดเห็นที่ 8 กล้วยหอม หั่นครึ่งตามแนวยาว แล้วหั่นตามแนวขวางประมาณครึ่งเซ็นติเมตร หั่นเสร็จรีบหาอะไรมาปิดกันอากาศ กล้วยจะได้ไม่ดำ (ขี้เกียจคลุกน้ำมะนาวน่ะค่ะ อิอิ) ครั้งนี้อุ่นใช้กล้วยงอมไปหน่อย พี่ยาบอกว่า สูตรนี้ไม่เหมาะกับกล้วยที่งอมจัด เพราะว่าเราไม่ได้บดกล้วย แต่ใช้กล้วยเป็นชิ้นๆ ถ้าใช้กล้วยงอมเกินไป เวลาอบเสร็จแล้ว เนื้อกล้วยจะหดและหาย เหลือเพียงโพรงอากาศใหญ่ๆ ในเนื้อเค้ก ดังนั้น ใครจะทำสูตรนี้ ใช้กล้วยหอมที่สุกกำลังดี จะดีกว่านะคะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:37:24

ความคิดเห็นที่ 9 ตวงแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือ ร่อนรวมกันสองรอบแล้วพักไว้ก่อน จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:38:01

ความคิดเห็นที่ 10 มาตีเนยกันค่ะ ใส่เนยนิ่มๆ ครีมชีสนิ่มๆ กับน้ำตาล 75 กรัมรวมกัน จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:39:00

ความคิดเห็นที่ 11 ตีจนขึ้นฟูและสีอ่อนลง หมั่นหยุดเครื่องเพื่อปาดอ่างเป็นระยะๆ เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดีนะคะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:39:39

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อส่วนผสมฟูเบาดีแล้ว ค่อยๆ ทยอยใส่ไข่แดงลงไปทีละฟอง เมื่อเห็นว่าไข่แดงเข้ากับส่วนผสมเนยแล้ว ค่อยใส่เพิ่ม ที่เห็นสีน้ำตาลๆ ในไข่คือกลิ่นวานิลานะคะ แอบเหยาะลงไปหน่อยเพื่อดับคาว ในสูตรไม่ได้ระบุไว้ อุ่นเติมเองแหละ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:40:53

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อตีส่วนผสมไข่แดงเสร็จ หากมีเครื่องตีอยู่เครื่องเดียว ก็คงต้องถอดหัวตีไปล้าง เพื่อมาตีไข่ขาวเนอะ แต่ว่าหนนี้ อุ่นขี้เกียจค่ะ ดังนั้นระหว่างใช้เครื่องตีเนยกับไข่แดง อุ่นก็ใช้ตะกร้อมือตีไข่ขาวกับน้ำตาลไปด้วย เป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำขนมมาเลยแหละ ที่ตีไข่ขาวด้วยมือ เมื่อยมากกกกกก กว่าจะได้ไข่ขาวฟูและตั้งยอดอ่อนๆ แบบนี้ แทบหน้ามืด ต้องขอบคุณบรรพบุรุษของเราจริงๆ ที่ได้สร้างไฟฟ้าขึ้นมา ทำให้ชีวิตรุ่นลูกหลานอย่างเราไม่ต้องลำบาก T^T จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:43:13

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนผสมไข่แดงพร้อมแล้วค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:44:10

ความคิดเห็นที่ 15 แบ่งไข่ขาวออกเป็น 3 ส่วนในใจ ตะล่อมส่วนแรกลงในส่วนผสมไข่แดงอย่างเบามือ เมื่อเข้ากันดีแล้ว ก็ตักส่วนที่สองมาตะล่อมต่อจนหมด จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:45:08

ความคิดเห็นที่ 16 ทยอยแบ่งแป้งที่พักไว้ ร่อนผ่านกระชอนเล็กๆ ลงไปผสม ตะล่อมให้เ้ข้ากัน จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:46:06

ความคิดเห็นที่ 17 สังเกตไหมคะ ช่วงท้ายๆ นี้ รูปของอุ่นมันมัวๆ ตรงริมๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร กล้องคงใกล้จะพังแล้วแหละ รวนๆ ชอบกล ใส่กล้วยหอมและคาราเมลลงไปผสมเลยค่ะ ใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:47:31

ความคิดเห็นที่ 18 เรียบร้อย พร้อมตักใส่พิมพ์ส่งเข้าเตาอบแล้วจ้า จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:47:59

ความคิดเห็นที่ 19 ต้นฉบับ พี่ยา และหมอก้อย ใส่แบทเทอร์ลงพิมพ์โลฟ แต่ว่าอุ่นขี้เกียจเตรียมพิมพ์โลฟแหละ อิิืิิอิ ชอบอบเป็นคัพเค้ก เพราะว่าแจกจ่ายง่ายดี ีตักแบทเทอร์ลงในกระทงฟอยล์ แล้วโรยหน้าด้วยครีมชีสหั่นเต๋าค่ะ ในสูตร ให้ไว้ 30 กรัมสำหรับโรยหน้า แต่ตอนอุ่นตวง ก็เพิ่มเป็น 50 กรัม แต่มันก็ยังไม่ค่อยสะใจเลยค่ะ ดังนั้น หากใครจะทำสูตรนี้ ในส่วนของครีมชีสที่ใช้โรยหน้า สามารถเพิ่มปริมาณได้ตามใจปรารถนาเลยนะคะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:50:37

ความคิดเห็นที่ 20 กล้องมัวจริงๆ อย่าเพิ่งเจ๊งนะ ไม่มีตังค์ซื้อใหม่อ่า จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:51:11

ความคิดเห็นที่ 21 อบไฟบน-ล่าง 180c ประมาณ 30-40 นาทีแล้วแต่พิมพ์นะคะ อุ่นอบไปประมาณ 35 นาที สังเกตว่ากลิ่นขนมเริ่มอบอวลไปทั่วบ้าน สีขนมกลายเป็นสีน้ำตาลทอง ก็ลองใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปเพื่อทดสอบ เมื่อไม่เห็นว่ามีเศษเค้กหรือน้ำเปียกๆ ติดไม้จิ้มฟัน ก็แสดงว่าเค้กสุกแล้วค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:52:56

ความคิดเห็นที่ 22 หัวเหม่งๆ น่ากินตรงมีครีมชีสหั่นเต๋านี่แหละค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:53:38

ความคิดเห็นที่ 23 น่าหม่ะมากเลยค่า อึก กลืนน้ำลาย จากคุณ : natty_pantip เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:55:50

ความคิดเห็นที่ 24 พักไว้ทั้งพิมพ์ประมาณ 5 นาที แล้วอุ่นก็แคะออกจากพิมพ์มาพักต่อบนตะแกรง ได้ยินเค้าว่า วิธีนี้จะทำให้กระทงกระดาษไม่ร่อนออกจากตัวเค้ก อุ่นเดาว่า เพราะถ้ายังทิ้งไว้ในพิมพ์ พิมพ์ที่ยังร้อนอยู่จะทำให้ขนมเค้กสุกต่อ เมื่อสุกเกินไป เนื้อเค้กก็หด ทำให้ขอบขนมหลุดจากกระทงค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:55:58

ความคิดเห็นที่ 25 natty_pantip - มาหม่ำด้วยกันนะคะ อร่อยมากๆ สูตรเค้าดีจริงๆ __________________________________________________ เสร็จแล้วค่ะ Banana Caramel Cake แม้ว่าคาราเมลจะไ่ม่เป็นใจ แต่ก็อร่อยหอมหวานจังเลย จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:58:05

ความคิดเห็นที่ 26 เสน่์ห์ของเค้กกล้วยหอมสูตรนี้ อุ่นว่าอยู่ตรงที่กลิ่นอันแสนเย้ายวนของคาราเมล ชิ้นกล้วยที่แทรกในเนื้อเค้กเพิ่มความฉ่ำในคำที่กัด และบางคำก็เค็มๆ มันๆ เพราะกัดโดนครีมชีสที่โรยหน้า ระหว่างที่ชิม อุ่นก็คิดได้แค่ว่า "แบบนี้ต้องมีซ้ำ ฮ่า..." จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:59:52

ความคิดเห็นที่ 27 ขอชิ้นนึงเลยค่ะ คุณอุ่น ครีสชีสล่อตาล่อใจมาก จากคุณ : natty_pantip เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:00:00

ความคิดเห็นที่ 28 natty_pantip - งั้นจัดชิ้นนี้ให้เลยค่า ________________________________ พยายามยั่วผู้อ่านด้วยครีมชีสชิ้นน้อยกลอยใจ อิอิ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:01:11

ความคิดเห็นที่ 29 จัดใส่จาน เตรียมสังหาร จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:01:56

ความคิดเห็นที่ 30 ปลดอาภรณ์ อุอิ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:02:46

ความคิดเห็นที่ 31 ด้านในเป็นโพรงไม่เหมือนของต้นฉบับเลย พี่ยาให้ไขข้อข้องใจให้แล้วว่า เพราะอุ่นใช้กล้วยงอมเกินไปค่ะ ดังนั้นพออบ กล้วยจึงหดและหายไปหมด เหลือไว้เพียงโพรงที่ว่างเปล่า แต่ก็หวานอร่อยดีนะคะ ฮิๆ เอาไว้แก้ตัวใหม่ ขนมสูตรนี้ หมอก้อยบอกว่า ถ้าทิ้งไว้ข้ามคืน จะอร่อยขึ้นแบบก้าวกระโดด ... อุ่นได้ทดลองแล้ว ยืนยันว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ ขอบคุณพี่ยาสำหรับสูตรดีๆ นะคะ มีสูตรเลิฟๆ เพิ่มอีกสูตรหนึ่งแล้วซี ... พบกันใหม่เมนูหน้านะคะ สวัสดีค่า จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:04:51

ความคิดเห็นที่ 32 น่าอร่อยจังเลยค่ะ ^^ จากคุณ : BeNettY เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 01:00:21

ความคิดเห็นที่ 33 ท่าทางจะหอมคาราเมลน่าดูเลยอ่ะ จากคุณ : ทนายอ้วน เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 05:10:51

ความคิดเห็นที่ 34 แบบนี้  ต้องลองการบ้านซะแล้ว  อิอิ จากคุณ : อาร์ม (StigmatA) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 07:24:27

ความคิดเห็นที่ 35 อู้วววว น่าทำตามมากๆค่ะ ชอบไอ้ตัวครีมชีสก้อนๆนี่ล่ะ อยากถามว่าคาราเมลที่ทำเอง กับที่ซื้อเป็นกระปุกที่ใช้เป็น topping นี่เหมือนกันมั้ยคะ ที่บ้านเหลือเยอะเชียวค่ะ  นานๆเอาไปราดป็อปคอร์นทีหนึ่ง จากคุณ : melfa เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 09:14:30

ความคิดเห็นที่ 36 น่าทานมากเลย .. แอบจกไปชิ้นนึงนะคะ แถมด้วยแอบจดไว้เป็นอีกหนึ่งเมนูสังหารกล้วยหอมค่ะ จากคุณ : tamsae เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 12:36:09

ความคิดเห็นที่ 37 น่าทานมาก ๆ เลยค่ะ อยากมีเตาอบบ้างจัง T.T จากคุณ : เจ้าหญิงถั่วเขียว เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 16:17:51

ความคิดเห็นที่ 38 BeNettY - ขอบคุณค่ะ ทนายอ้วน - หอมมากๆ ค่ะ ถูกใจคนชอบคาราเมลเลยแหละ อาร์ม (StigmatA) - ลอกเลยค่ะ หนับหนุนๆ อิอิ melfa - อุ่นไม่เคยใช้ซะด้วย ก็เลยไม่รู้ว่าเหมือนกันไหม แต่เชื่อว่าใช้แทนกันได้ค่ะ ลองทำดูนะคะ tamsae - เป็นเมนูที่ต้องหากล้วยมาจงใจสังหารเลยแหละ คงจะทำอีกครั้งเร็วๆ นี้แน่นอน เจ้าหญิงถั่วเขียว - ลองซื้อเตาอบเล็กๆ ก็ไำด้นะคะ อุ่นตอนหัดทำ ก็ซื้อเตาอบ OTTO ราคาเกือบๆ สองพันเอง ขนาดเท่าเตาไมโครเวฟ เมื่อปีกกล้าขาแข็งแล้วค่อยขยับขยายขนาดเตาอบค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 22:07:51

ความคิดเห็นที่ 39 น่าทานจังเลยค่ะ จากคุณ : Us-Sama Iland เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 23:53:55

ความคิดเห็นที่ 40 ส่งการบ้านค่ะ คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ >_< *ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะ* จากคุณ : ปลาทองพันธุ์ปั๊ก* เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 54 16:00:31

ความคิดเห็นที่ 41 Us-Sama Iland - ขอบคุณนะคะ ปลาทองพันธุ์ปั๊ก* - ว้าว น่าหม่ำมากๆ เลย ครีมชีสยั่วยวนมั่กๆ น่าแทะค่ะ อิอิ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 01:58:21