ความคิดเห็นที่ 1 เยอะครับที่ไทยคิดเองทำเอง เอาชัดที่สุด ก็ผัดไทย ไทยแท้แน่นอน ส่วนกบเขียดเดี๋ยวนี้ก็ยังกินอยู่นะครับ เอาซะทำฟาร์มเลี้ยงได้เลย จากคุณ : Hammer_Grizzly เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:58:19

ความคิดเห็นที่ 2 “ข้าวผัดอเมริกัน” ไทยก็เป็นคนคิดไหมค่ะ เห็นกระทู้เก่าๆมีคนบอกว่าที่เมกาไม่มีนะค่ะ ปล.แต่เราช้อบชอบ อร่อยจริงๆลุย จากคุณ : คุณค่าที่คุณคู่ควร เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:02:18

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้กวนนะคะ แต่ขอตอบแบบตามตรงว่า เกิดไม่ทันสมัย ร.1-5 เลยไม่รู้ว่าแต่ก่อนกับข้าวเค้าเป็นอย่างไรและอร่อยไหม? จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:13:59

ความคิดเห็นที่ 4 คือ...พูดตรงๆนะครับ ถ้าถามว่า ใครทำอร่อยกว่า คาดว่าคงไม่มีใครตอบได้ เพราะคนที่เคยกินรสมือของคนสมัยโน้นทำ คงหายากที่จะเหลือมีชีวิตจนปัจจุบัน ส่วนเรื่องความสวยหรูของอาหาร ถ้าอาหารชาวบ้านสมัยก่อน ก้ไม่สวยหรูหนะใช่ แต่อย่าลืมนะครับว่ามีอาหารในวังด้วย ไม่ต่างอะไรกับอีกหลายๆประเทศ ตำรับอาหารเด่นๆดีๆจำนวนมากก็ออกมาจากในวังของสมัยโบราณนะ รวมถึงการประดิดประดอยหรือตบแต่งอาหาร และพิธีกรรมการกินต่างๆ จากคุณ : dragonite เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:14:22

ความคิดเห็นที่ 5 ย่าบอกก่อนตายว่าอาหารสมัยนี้มันขยะจิงๆ ผมเชื่อย่าครับ จากคุณ : wow_hell เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:17:06

ความคิดเห็นที่ 6 นึกถึงฝีมือย่า โบราณพอไหมคะ คนแก่ๆ ทำอะไรก็อร่อย ไม่ต้องมานั่งตวง ฝีมือล้วนๆ จากคุณ : มันเป็นส่วนผสมในใจ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:18:23

ความคิดเห็นที่ 7 เทียบกันยาก ปัจจุบัน เครื่องปรุงรสต่าง ๆ มีเยอะมาก ทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ จากคุณ : F Fu Yong เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:19:50

ความคิดเห็นที่ 8 แน่นอนว่ารสชาติอาหารในสมัยโบราณกับปัจจุบันย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องคิดไปถึงสมัยรัชกาลที่ 1 - 5 หรอก เอาแค่ 5 -10 ปีที่แล้ว อาหารหลายๆ อย่างก็มีรสที่แปลกไปจากเดิมมาก ส่วนความอร่อยนั้นก็แล้วแต่คนอีกนั่นแหละ เราเป็นคนปัจจุบันก็มีอาหารหลายอย่างที่เราว่าของเดิมอร่อยกว่า (เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ผัดกะเพราะ พะโล้ ฯลฯ ที่เราว่ารสชาติเดิมตอนเราเป็นเด็กอร่อยกว่าปัจจุบันมาก) ส่วนที่เพื่อนคุณบอกว่า "อาหารไทยจริงๆไม่ได้สวยหรูแบบที่เห็นในปัจจุบันหรอก แบบว่าจับกบจับเขียด ปิ้งๆย่างๆ กินไปวันๆแค่นั้นอะ ..." ก็ต้องถามอีกว่าเป็นอาหารของคนชนชั้นไหน ถ้าเป็นชาวบ้านก็อาจเป็นไปได้ แต่ชาวบ้านก็ต้องแบ่งอีกว่ามีเงินหรือไม่มีเงิน แต่ถ้าเป็นของคนชนชั้นสูงหละก็ ลองเอาหนังสือเรื่อง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานให้เพื่อนอ่าน อาจจะได้ความรู้ใหม่ๆ มากขึ้น จากคุณ : Saor เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:20:01

ความคิดเห็นที่ 9 ตะโก จะตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาหารในสมัย รัชกาลที่1-5 นี่ ทั้งตะโก และ จขกท คงเกิดไม่ทันแน่ๆ ใช่ไหมครับ เพราะฉนั้น เราคงเอาไปเปรียบเทียบเช่นนั้น ไม่ได้แน่ๆ และคงตอบไม่ได้เช่นกันว่า ใช้ กบ เขียด มาปิ้งกินกันไปวันๆ เอาอย่างนี้ ดีไหมครับ อาหารปัจจุบันที่เราทานกันตามร้านตามสั่ง หรือ ร้านข้าวแกง เทียบกับ อาหาร ที่ปู่ย่า ตายาย พ่อหรือ แม่เราทำให้ทาน ตะโก ฟันธงเลยครับว่า อาหารที่เคยทานในวัยเยาว์ อร่อยกว่า อาหารในปัจจุบันแน่นอน วิธีการปรุงอาหารในสมัยก่อน กว่าจะปรุงออกมาได้แต่ละอย่าง เลือกแล้ว เลือกอีก พิถีพิถัน มากกว่าในปัจจุบันมากๆครับ  ยกตัวอย่าง แกงเขียวหวาน สมัยก่อน จะต้องหามะพร้าวที่แก่จัด มาขูด แล้วคั้นน้ำกะทิมาแกง เครื่องแกงต้องตำด้วยสมุนไพรเช่น ตะไคร้ ข่า หอมกระเทียม แกงถึงจะมีความหอม กะทิต้องเคี่ยวจนแตกมันลอยหน้าพอดี ไม่มาก ไม่น้อย เครื่องแกงต้องเอามาผัดให้ได้ที่กว่าจะหอมแกงจึงออกมาได้สวยงาม และอร่อย มีความเค็ม มัน หอม เผ็ด ครบรส สมัยนี้ กะทิเทใส่หม้อ ใส่เครื่องแกง ใส่เนื้อสัตว์ แกงเดือดใส่ผักต่างๆ ชิมรสออกหวานๆ ถ้าต้องการให้มันลอยหน้าก็ใส่น้ำมันพืชลงไป  สังเกตุดูแกงถุงตามตลาดได้เลยครับ น้ำใสแจ๋ว ไม่มีความมันกะทิ มีรสหวาน ไม่หอมพริกแกงเพราะใช้พริกแกงสำเร็จ ร้านขายอาหาร พยายามใช้คำว่า "โบราณ" มาสร้างเป็นจุดขายแทบทั้งนั้นครับ ไม่เคยเห็นร้านไหนเลยที่บอกว่า "ผัดไทปัจจุบัน" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวปัจจุบัน" มาสร้างจุดขายสักร้าน อ้อที่ตะโกพูดมาทั้งหมด หมายถึงอาหารไทยนะครับ จากคุณ : ตะโกครับ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:28:56

ความคิดเห็นที่ 10 จับกบเขียดย่างกินไปวันๆ นั่นมันสมัยอดัม อีฟ โน่นเเล้วมั้ง เห็นคนโบราณท่านประดิดประดอยอาหารกินนะ เเต่นั่นเเหละ เกิดไม่ทัน เเต่คิดเอาเองว่ามันน่าจะอร่อยมากเเน่ๆ จากคุณ : this_is_more_than_love เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:29:26

ความคิดเห็นที่ 11 ความอร่อยไม่รู้เหมือนกัน เกิดไม่ทัน แต่เรื่องต้นตำหรับ ความปราณีต ผมว่าปัจจุบันสู้สมัยก่อนไม่ได้แต่นอน สังเกตได้ง่ายๆอย่างที่คุณตะโกบอกเลยครับ จากคุณ : กังฟูแพนด้าแมน (borzila) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:50:55

ความคิดเห็นที่ 12 ผมคิดว่าในสมัยก่อนน่าจะอร่อยกว่า สังเกตุจากการเลี้ยงสัตว์ ถ้าเป็นหมูก็จะถูกเลี้ยงด้วย หยวกกล้วย หรืออาหารตามธรรมชาติ และก็ต้องรอให้โตเต็มที่ถึงจะเชือดขาย ไม่เหมื่อนสมัยนี้มีสารเร่งเนื้อ เร่งโต อันตรายมาก อย่างปลาก็หากินตามธรรมชาติ น้ำก็ใสสะอาด ทำให้คิดว่าปลาอาจจะสด และมีรสชาติดี จากคุณ : คนเก้าเส้ง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:00:37

ความคิดเห็นที่ 13 ดูรายการเครื่องเสวยตามเสด็จไกลบ้าน (น้อมรำลึก 100 ปี พระพุทธเจ้าหลวง) ก็มีรายการอาหารหลายอย่างนะคะ ดูน่าอร่อยทั้งนั้นเลย จากคุณ : loginของแม่ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:02:17

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าไม่สวยหรูแล้วเค้าไปเอาการแกะสลักมาจากไหนล่ะคะ เราว่าอาหารไทยอ่ะไม่ว่าจะยุคสมัยไหนเค้าไม่ได้ทำกันง่ายๆหรอกค่ะ อย่างพวกบรรดาแกงๆต่างๆ เครื่องเยอะจะตาย ไม่เหมือนอาหารฝรั่ง มีแค่เกลือกับพริกไทยก็ปรุงกันได้แล้ว ถึงแม้ว่าอาหารบางอย่างหรือขนมบางประเภทเป็นของต่างชาติแต่เราก็ควรภูมิใจในรากเหง้าของเราที่บรรพบุรุษยอมรับนำเอาสิ่งดีๆของเค้ามาเพื่อให้เราได้รู้ว่ารากเหง้าของเรามาจากไหนนะคะ อย่าพูดเลยว่าไม่มีอะไรที่เป็นของไทยเลย เราว่าคำพูดอย่างนี้ดูถูกบรรพบุรุษของพวกเราๆมากนะ ขอโทษนะคะถ้าพูดแรงไป จากคุณ : bangnuu เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:02:46

ความคิดเห็นที่ 15 1.พริกขี้หนูเม็ดยาวกับกระเทียมเม็ดใหญ่ปั่นด้วยเครื่องปั่นเอามาผัดกระเพรา  กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าพริก 2.กับพริกขี้หนูเม็ดเล็กๆ ป้อมๆ กระเทียมกลีบเล็ก ตำด้วยครก เอามาผัดกระเพรา อร่อยมากกกกกก เผ็ดร้อนจนเหงื่อตก ปัจจุบันร้านอาหารข้างทางกินร้อยเจอร้อย ใช้แบบข้อ 1 ซึ่งมันไม่อร่อย ไม่เข้าใจว่าทำไมชอบซื้อมาใช้กัน เมื่อก่อนเจอแค่ในกรุงเทพ เชียงใหม่แต่ก็เข้าใจว่าวัฒนธรรมในการกินของคนใน 2 พื้นที่นี้ไม่ทานเผ็ด แต่ปัจจุบันลามไปทุกหนแห่งแม้แต่ชลบุรีบ้านเรา หาผัดกระเพราอร่อยยากยิ่งแถมประโคมน้ำมันหอยจนบางทีนึกว่ากินหมูผัดน้ำมันหอย ทุกวันนี้ถ้าอยากกินแบบข้อ 2 ต้องทำเองสถานเดียว แถมกระเพราเดี๋ยวนี้ใบใหญ่ไม่หอมเหมือนเก่า -*- นี่ขนาดผัดกระเพราเมนูธรรมดาที่ห่างกันแค่ 10 ปี ยังแตกต่างขนาดนี้ ไม่ต้องคิดว่า รัชกาลที่ 1-5 กับปัจจุบันซึ่งความละเมียดคงต่างกันราวฟ้ากับเหว สังคมเมืองเวลามีค่ามากจริงๆ สะดวก ง่าย เร็ว จนเกินไป จากคุณ : usdank เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:19:33

ความคิดเห็นที่ 16 กุ้งแม่น้ำเผาสะเดาน้ำปลาหวาน.... ผมซูฮกการกินเมนูนี้ของคนสมัยก่อนครับ คิดได้ไง อร่อยโฮกกกก เครดิตภาพ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jazzy-bong&month=29-06-2010&group=3&gblog=21 จากคุณ : Petshop boy เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:49:41

ความคิดเห็นที่ 17 ที่แน่ๆสมัยโบราณไม่มีผงชูรส ไม่มีรสดี ตาและปู่เราก็ไม่กินชูรส ไม่กินน้ำปลา แต่ทำกับข้าวรสชาดติดลิ้นเรามาก อยากถามสูตรก็เกรงจะลำบากท่านมาเข้าฝัน จากคุณ : กิ่ง&อ๊อด เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:54:48

ความคิดเห็นที่ 18 เราเกิดไม่ทันร.1-5 แต่เราเกิดทัน อาหารและขนมไทยอร่อยๆ ที่ทำมาจากธรรมชาติจริงๆ ซึ่งบางครั้งเห็นคนสมัยใหม่กินแล้วยังคิดสงสารเพราะเสียดายที่เค้าไม่ได้กินของอร่อยๆ และดีๆ ส่วนเรื่องจับกบนั้น ไม่ใช่แค่กบ แต่ยังมี หนูนา ปลา กุ้ง ผักปลอดสารพิษที่ปลูกกันเอง ถ้าจะให้พูดนี่เยอะมาก จากคุณ : ladynula เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 17:35:53

ความคิดเห็นที่ 19 แกง นี่ไม่ได้แขกสอนนะครับ ไปหากินข้านแขกก็ไม่มีแบบนี้หรอก เรารับเอาวัฒนธรรมเค้ามาดัดแปลง ให้เข้ากับรสนิยมคนไทย เหมือนพวกก๋วยเตี๋ยวเรือ หรือเรื่องพวงพริก ที่บ้านเค้าไม่มีเหมือนเราแน่นอน มันก็เหมือนแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ที่เอาแกงกระหรี่ของอังกฤษมาดัดแปลง ให้ถูกปากคนญี่ปุ่น อาหารสมัยก่อน จะทำครัวนี่ต้องใช้ทาส กี่คนครับ .... ใช้เวลากี่ชั่วโมง สมัยนี้ล่ะ แต่ผมว่ารสชาติในอดีตอาจจะไม่ถูกปากท่านหรอกนะ เพราะรสนิยมด้านอาหารมันเปลี่ยนไปตามเวลา ไม่ได้แปลว่าอดีตไม่อร่อยนะ แต่มันจะไม่ถูกปากมากกว่า อาหารคือ วัฒนธรรมอย่างหนึ่งครับ เหมือนภาษา เหมือนแฟชั่น  ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเลยมันเป็นไปไม่ได้หรอก เวลาเปลี่ยนค่านิยมเปลี่ยน วัฒนธรรมก็เปลี่ยน การฝืนให้มันเหมือนเดิมเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติมันทำไม่ได้หรอก จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 18:09:54

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ ที่บอกว่า สมัย ร1 - ร5  คนไทยยังจับกบจับเขียด  ไปเอาข้อมูลมาจากใหนเหรอฮะ   ไปอ่านนี่ก่อนตั้งคำถามอะไรดีกว่ามั้ย ร.1 ถึง ร.5 เป็นสมัยรัตนโกสินทร์นะครับ (บอกไว้ก่อนเผื่อหาไม่เจอ) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2 แล้วก็ที่ สบถ ว่า "เฮ้อ แล้วมีอะไรมั่งที่ไทยคิดเองละเนี่ย" รู้ไหมครับ  ญี่ปุ่น แต่เดิมขนมหวานเขามีแค่อะไรบ้าง ?  แล้วปัจจุบันที่เบอเกอรี่ของเขา อาหารของเขาบูม โด่งดังเนี่ย หลายอย่างเค้าก็ดัดแปลงมาจากขนมของต่างชาติทั้งนั้น อาหารการคิดเองได้เป็นเรื่องดีครับ แต่นอกเหนือจากการคิดเองได้ คือการพัฒนาครับ เราสามารถเอาอะไรมาพัฒนาให้ได้เท่าเขา หรือเทียบกับเขาได้หรือเปล่า มามองตรงนี้ดีกว่า  เพราะอาหาร ยิ่งพัฒนามากขึ้น เราก็จะได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆอร่อยๆหลายหลายขึ้นกว่าเดิม การจำเจอยู่กับสิ่งเดิมๆ ในบางครั้งมันก็น่าเบื่อหน่ายครับ ถ้ามัวแต่ดูถูกครัวตัวเอง แล้วทำไมฟรั่งมังฆ่า ถึงได้ชื่นชมอาหารไทยนักหนา ทำไมเขาไม่ไปยกยอดินเดีย ไม่ไปยกยอต้นตำหรับแทน นั่นเพราะว่า คนไทยเรานำมาพัฒนาต่อยอดได้ดีกว่าต้นตำหรับครับ   แต่ผมกำลังสงสัยอยู่เรื่องนึงว่า ตอนนี้ "อาหารไทย ยังพัฒนาอยู่ใหม"  เพราะไปกินที่ใหน ก็เห็นแต่อะไรเดิมๆ เฟรนซ์ชายเดิมๆรสชาติเหลือขอเดิมๆ เกือบทุกที่ บางอย่างก็ดัดแปลงซะจนกินไม่อร่อยไปแล้ว   ทั้งๆที่จำได้ว่าตอนเด็กๆ กินมามันอร่อยกว่านี้ อาหารไทยในตอนนี้ ผมว่าอาจจะห่วยกว่าสมัย ร.1 - ร. 5 ก็ได้ครับ มีแต่ความอร่อยจอมปลอมจากผงปรุงแต่ง  น้อยอย่างที่จะมาจากตัววัตถุดิบ ความประนีตล้วนๆ ดูจากนี่ก็ได้ครับ ซักนิด  อยากให้ดูจนจบ ถึงตอน 2 นะครับ ที่เค้าพูดถึงมัสมั่นสมัยก่อนกับสมัยนี้ก็ได้ รายการกินอยู่คือ  :ตอน การเดินทางของมัสมั่น ตอนที่ 1 :  http://www.youtube.com/watch?v=WEC9monMe3I ตอนที่ 2 :  http://www.youtube.com/watch?v=nttw5I3xCrs แก้ไขคำผิดกับเพิ่มข้อมูลครับ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:53:46 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:43:32 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:36:08 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:35:39 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:34:44 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:30:41 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:28:02 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:25:47 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:24:22 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:23:07 จากคุณ : ผ่านมาอ่าน (doraemon_x) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 19:18:08

ความคิดเห็นที่ 21 สมัยก่อนไม่ต้องใช้ เครื่องปรุงรสเป็นซองๆ คิดว่าสมัยก่อนน่าจะอร่อยกว่า อยากเกิดทันเหมือนกัน 5555 จากคุณ : jeeper เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 19:53:09

ความคิดเห็นที่ 22 สมัยก่อนอาหารเป็นรสธรรมชาติมากกว่าครับ สมัยนี้เครื่องปรุงเยอะ มันกลายเป็นอร่อยเครื่องปรุงไปแล้ว กินอะไรก็ต้องปรุงเพิ่ม มีซอส มีพริกน้ำปลา มีนำ้ตาล มีผงชูรส พอกินอะไรจืดๆก็บอกว่าไม่อร่อย เพราะลิ้นชินกับเครื่องปรุงไปหมดแล้ว จากคุณ : gluttony เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:07:44

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาอีกรอบครับ ดูผลโหวตแล้ว ช่างตรงกันข้ามกับคอมเม้นท์เหลือเกิน เอาน่าสมาชิกที่โหวตปัจจุบัน ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้นี่ครับ จะได้เห็นภาพกว้างขึ้น. ตอนนี้ผลโหวต50/50ครับ จากคุณ : ตะโกครับ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:13:31

ความคิดเห็นที่ 24  อาหารโบราณอร่อยเพราะ.......รส(มือ)   อาหารปัจจุบันอร่อยเพราะ......(ผงชู)รส คนยุคนี้ เราว่า ทั้งร้านอาหาร และแม่ครัว ถ้าขาดตัวช่วย ผงชูรส(รวมทั้งที่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ซอส น้ำมันหอย และผงนัว ผงรสดีทั้งหลาย คงทำออกมาอร่อยยาก ) สมัยก่อนเครื่องปรุงรส อย่างเก่ง ก็มีเกลือแกง กับกะปิ เป็นตัวช่วย น้ำปลา ก็น่าจะมีในยุคหลัง) จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:17:50

ความคิดเห็นที่ 25 มันต้องเทียบในระดับเดียวกันสิครับ......อาการผู้ดีสมัยก่อน กับอาหารผู้ดีสมัยนี้ น่าจะสูสี ในเรื่องรสมือ เพราะใช้ของเกรดดีเป็นหลัก คิดว่าอาหารไทยในวังสมัยก่อน กับอาหารไทยในวังสมัยนี้ คุณภาพจะดรอปลงเหรอครับ ต้องของเกรดขั้นยอดทั้งสิ้น แต่ถ้าเทียบอาหารระดับครัวเรือนผมว่าสมัยก่อนพิถีพิถันมากกว่า แต่ความสดใหม่ของคนสมัยก่อนน่าจะให้ความอร่อยได้มากกว่าของแช่เย็นที่ซื้อจากซุปเปอร์ทุกวันนี้แน่นอน แต่ความหลากหลายของอาหารแต่ละวันปัจจุบันน่าจะมากและหลากหลายกว่าคนโบราณแน่นอน ยิ่งถ้าไปเทียบกับเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เพราะแนวอาหารจีนก็พึ่งจะเข้ามาในสังคมคนทั่วไปก่อนสงครามโลกครั้งแรกไม่นานนัก เหมือนพวกร้านห้อยเทียนเหลา สตูร์ สเต็ก ก็มาเฟื่องฟูจากพ่อครัวจีนในรั้วในวังที่ออกมาหากินหลังเปลี่ยนการปกครอง 2475 นี่เอง  อาหารแบบไทยแท้ ๆ ที่นึกออกนะครับสมัยก่อน พวกผัด ๆ นี่เลิกพูด ปลาปิ้ง ห่อใบตองหมก แกงป่า นำ้พริกผักจิ้ม น่าจะเป็นของหลักของคนระดับพื้นบ้านแน่นอน อย่าลืมว่าสมัยนั้นกินข้าวด้วยมือ ช้อนส้อมมาเริ่มในวังก็ยุึคสมัย ร.5 อาหารน่าจะต้องเป็นกลุ่มที่สนับสนุนการกินด้วยมือมากกว่า.....ถ้าจะเทียบจริง ๆ น่าจะเทียบการกินระหว่างปัจจุบันกับเมื่อ 60-70 ปีก่อน อาจจะตัดสินได้ยากกว่า จากคุณ : คนพิจิตร เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:38:30

ความคิดเห็นที่ 26 บ้านยายผมอยู่นครนายก สมัยก่อนตอนเด็ก ๆ พายเรือเก็บสายบัวมาผัดใส่หมู เครื่องปรุงมีแต่น้ำปลากับน้ำตาล ทำไมมันอร่อยนักตอนนั้นก็ไม่รู้ ปัจจุบันมาลองผัดใส่แต่น้ำปลากับน้ำตาลดูเหมือนเดิมดันกินแทบไม่ได้...อาจเป็นได้ว่าลิ้นมันเคยรับรสอะไรมากแล้วในชีวิต แต่ตอนนั้นเด็ก ๆ สมองส่วนความจำรสยังใหม่อยู่ก็ได้.........เด็ก ๆ แค่ขนมไข่จิ้งจกสี ๆ ก็อร่อยโคตร แต่เดี๋ยวนี้ลองกินยังงงว่าตอนเด็กชอบได้ไงหว่า แต่สมัยนั้นแค่นี้ก็หรูแล้ว จากคุณ : คนพิจิตร เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:41:34

ความคิดเห็นที่ 27 หึหึ ปัจจุบันเราไม่เข้าใจว่า ลิ้นชิมรสของคนสมัยนี้เป็นอย่างไร หรือถูกรสชาติของอาหารปัจจุบันกลบไปเสียสิ้นว่า นี้คืออาหารอร่อย เป็นที่น่าเสียดายว่า คนรุ่นใหม่ๆ ไม่เคยได้กินอาหารสมัยก่อนว่ารสชาติอย่างไร จึงไม่รู้ว่ามีที่อร่อยกว่าสมัยนี้อีกมากนัก เอาแค่ถอยไปสัก 20 ปีก็พอ เราเลยคิดเอาเองว่า คนที่มาแบ่งปันความคิดเห็นในกระทู้นี้ ถ้าเป็นวัยกลางคน ได้มีโอกาสสัมผัสการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของการกินอาหาร มีตัวเปรียบเทียบอาหารที่ เคยกินตอนเด็กๆ จากปู่ย่าตายาย กับอาหารปัจจุบัน คงไม่แปลกที่จะตอบว่า อาหารสมัยก่อนอร่อยกว่า  แต่เด็กรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสนั้น โตมาพร้อมฟาสต์ฟู้ด หรือ ร้านอาหารแฟรนไชส์ รสชาติที่ได้จากการผลิตแบบอุตสาหกรรม ก็คงต้องบอกว่าสิ่งที่เจออยู่ทุกวันนี้มันอร่อยแล้ว โทษอะไรไม่ได้เลย ได้แต่คิดว่าสิ่งต่างๆ ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา อาหารอร่อยๆ ในสมัยก่อน อาจจะไม่มีคนสืบทอดต่อๆ กันมา หรือ ด้วยการดำรงชีพใน ปัจจุบันที่เร่งรีบ ทำให้ความพิถีพิถันในการทำอาหารน้อยลงไปอีก ดังนั้น ยิ่งทำก็ยิ่งไม่เหมือนสมัยก่อน ก็คงไม่มีอะไรในสมัยนี้ให้เหมือนสมัยก่อนแน่นอน จากคุณ : กระต่ายน้อยดัดฟัน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 21:31:50

ความคิดเห็นที่ 28 อาหารสมัยก่อนอร่อยกว่าแน่นอนครับ แค่นึกถึงตอนเด็ก ๆ เทียบกับเดี๋ยวนี้ก็แตกต่างกันแล้ว ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยครับ ตัวผมเองเป็นลูกหลานชาวบ้านป่าเพราะว่าปู่ย่าตายายเป็นคนบ้านนอกไกลปืนเที่ยงอยู่ป่ามาตั้งแต่บรรพบุรุษ อาหารก็ไม่ได้หรูหราอะไรอาศัยกินกันแบบบ้าน ๆ จับกบจับเขียดนี่ตอนผมเด็ก ๆ มีให้กินเยอะครับกบ เขียด สมัยนี้เขียดหายากแล้ว อีกทั้งฟังจากพ่อและญาติผู้ใหญ่เล่ามา คนบ้านป่ามีเนื้อกินไม่ได้ขาดไม่ว่าจะหมูป่า เก้ง กวาง กระทิง ของป่าทั้งหลายแหล่ ความรู้ติดตัวที่ได้มาก็เลยออกแนวอาหารบ้าน ๆ ทั่วไป ส่วนทางฝั่งภรรยาผมญาติผู้ใหญ่รุ่นปู่ทวด ย่าทวด ทำงานในรั้วในวัง อาหารการกินเลยดูหรูหรา ดูจากที่เวลาพบปะสังสรรค์ป้า ๆ จะทำอาหารที่ออกแนวประดิษฐ์ประดอยหน่อยเป็นความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดมาอีกทีสำหรับผมแล้วมันดูหรูหราและอร่อยไปอีกแบบ แต่พวกญาติผู้ใหญ่ก็ยังบอกว่าทำสู้คุณย่าหรือญาติผู้ใหญ่ของพวกท่านไม่ได้เลย ผมเองก็ได้รับความรู้จากท่านญาติผู้ใหญ่เหล่านี้ไม่น้อยแต่รสมือคงไม่สามารถสู้ท่านได้ จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 21:33:00

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเป็นสมัยก่อนแต่งงานคงจะตอบว่าสมัยใหม่ แต่พอแต่งงานแล้วมาเจอบ้านแฟนและฝั่งญาติแฟนทำอาหาร เลือสมัยโบราณ ต้องบอกแบบนั้น แต่ล่ะอย่างที่ทำเอามาจากปู๋กับย่ากันล้วนสืบทอดกันมา กะยาสาท เค้ายังใข้แต่น้ำอ้อยใส่ถั่วลิสงซอยละเอียดไม่ีใส่มะพร้าวซอยใส่น้ำตาลอย่างปัจจุบัน สูตรแต่ล่ะอย่างคัดของอย่างดี ทำแบบโบราณเตาฟืน เดีี๋ยวนี้ใช้ทำแบบรวดเร็วเลยไม่ได้รสชาตที่แท้จริงเท่าไหร่ ขนมชั้นเดียวนี้ก็หนาอย่างกับอะไร ที่เคยกินฝั่งบ้านแฟนใสและบางจนมองเห็นอีกฝั่งแต่เหนียว ขนมเปียกปูนเราไม่ทันกินคนทำไม่ไหวแล้ว แฟนบอกว่าตอนเด็กซนขึ้นไปวิ่งบนขนมยังไม่เละเลย ขนมไป๋กับขนมเทียนไส้หวานกว่าจะได้กินแม่แฟนต้องใช้เวลาทำไส้ตั้ง 3 วัน เอาไปอบเทียนหอมให้ได้ที่ก่อน เทียนอบก็ทำเองหอมกว่าที่ซื้อตามร้านมากมาย เป็นของที่แม่แฟนหวงมากทำยาก จากคุณ : Peony เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 21:37:50

ความคิดเห็นที่ 30 อาหารไทยสมัยก่อนก็คงมีทั้ง อร่อย และ ไม่อร่อย แหล่ะครับ อย่างใหนไม่ได้เรื่อง ก็คงจะตายจากไป เคยดูรายการทาง ทรูวิชั่น ที่เค้าเล่าถึงการเสด็จประพาสยุโรป ของรัชกาลที่5 พระองค์ท่านทรงบันทึกว่า ได้ลองทานเนื้อหมูของตะวันตกแล้ว มีรสชาติดีกว่าของที่บ้านเรา(สยาม) เพราะเนื้อหมูที่บ้านเรา(สมัยท่าน) เนื้อค่อนข้างเหม็นสาป   นั่นขนาดเป็นของที่ทำให้เสวย ยังมีกลิ่นสาป จากคุณ : dezwunwai เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:11:47

ความคิดเห็นที่ 31 อยากทราบคคห.ของคนที่คิดว่าอาหารสมัยร.1-5อร่อย เนื่องจากความพิถีพิถัน ประดิษฐ์ประดอย คัดสรรค์อย่างดี ว่าแล้วชอบดนตรีไทย การแสดงโขน ร่ายรำต่างๆในยุคเดียวกันนั้นมั้ยครับ ซึ่งก็มีความพิถีพิถันมากเช่นกัน ถ้าไม่ชอบ อะไรทำให้คำตอบต่างกัน จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:30:47

ความคิดเห็นที่ 32 อาหารสมัยก่อน มีความละเมียดละไม มากกว่า  กินแล้วรู้สึกว่ามีอะไรๆส่งผ่านมามากกว่า (ชอบมากกว่าอาหารฝรั่งจานที่บอกว่าเน้นโชว์รสชาติวัตถุดิบซะอีก) แต่เดี๋ยวก่อน ...  อาหารสมัยปัจจุบันของคุณนี่มันหมายความว่าไงนะ ช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหม  จะได้ออกเสียงถนัดๆ   และเพื่อนของคุณนี่ เอาความเห็นเรื่อง 'จับกบจับเขียด ปิ้งๆย่างๆ กินไปวันๆ' มาจากไหนคะ  อยากทราบที่มา  ประกอบการตัดสินใจ จากคุณ : อยากทำอาหารได้อย่างยาย (SweetAme) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:32:42

ความคิดเห็นที่ 33 ทำไมตอนไปอยู่เมืองนอกหมูมีกลิ่นสาปละคะ เป็นคนไม่ทานเื้นิ้อเลยได้แต่กินแกะกะไก่ และก็อาหารทะเลอยู่แค่นั้น สาปมากจิงๆนะคะ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 22:49:03 จากคุณ : kiss of death เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:48:06

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าพูดถึงอาหารไทยสมัยก่อนน่าจะอร่อยกว่าเพราะทุกอย่างทำเองกับมือตั้ง แต่กะทิยังต้องปีนขึ้นไปเก็บมาขูดเองสมัยนี้มาเป็นกล่อง เครื่องแกงสมัยก่อน แม่อยู่กับยายแม่บอกเวลาจะทำแกงอะไรแต่ล่ะที กินมื้อกลางวันต้องทำตั้งแต่เช้า หรือแม้แต่หมูสับก็ต้องใช้มีดสับสมัยนี้ก็เครื่องบดเครื่องแกงก็ไม่ได้ตำแล้ว ใช้เครื่องซึ่งจริงแล้วตำกลิ่นจะหอมกว่า อีกหลายๆอย่างค่ะที่ความทันสมัยทำให้ บางทีความอร่อยน้อยลงอย่างเมื่อก่อนใช้เตาถ่านทำกับข้าวก็จะอร่อยกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหรือเราอุปทานหว่าอิอิ แต่เคยกินอาหารฝีมือยายกะฝีมือแม่แล้วคนล่ะเรื่องเลยจริงๆค่ะ  คุณแม่ทำอร่อยแต่ยายทำโครตอร่อยเลยล่ะ^_^ ส่วนเรื่องที่เพื่อนคุณพูดเราว่าอาจจะมีคนทานเพราะทุกวันนี้ก็ยังมีคนทานแต่บ้านเมืองเราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนอาหารดีๆก็มีทานกันมาช้านานแล้วค่ะ ดูได้จากกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ของ รัชกาลที่2 เชื่อว่าไม่ใช่แค่ในวังที่ทำทานกันชาวบ้านปรกติก็คงทำทานเช่นกัน ขออนุญาตหยิบยกมาให้ได้อ่านกันค่ะ โคลง                   แกงไก่มัสมั่นเนื้อ                          นพคุณ    พี่เอย              หอมยี่หร่ารสฉุน                                 เฉียบร้อน              ชายใดบริโภคภุญช์                             พิศวาส   หวังนา              แรงอยากยอหัตถ์ข้อน                          อกให้หวนแสวงฯ                กาพย์                    มัสมั่นแกงแก้วตา                          หอมยี่หร่ารสร้อนแรง              ชายใดได้กลืนแกง                               แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา                     ยำใหญ่ใส่สารพัด                         วางจานจัดหลายเหลือตรา              รสดีด้วยน้ำปลา                                  ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ                     ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม                   เจือน้ำส้มโรยพริกไทย              โอชาจะหาไหน                                   ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง                     หมูแนมแหลมเลิศรส                      พร้อมพริกสดใบทองหลาง              พิศห่อเห็นรางชาง                                ห่างห่อหวนป่วนใจโหย                     ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น                        วางถึงลิ้นดิ้นแดโย              รสทิพย์หยิบมาโปรย                             ฤาจะเปรียบเทียบทันขวัญ                      เทโพพื้นเนื้อท้อง                         เป็นมันย่องล่องลอยมัน              น่าซดรสครามครัน                               ของสวรรค์เสวยรมย์                      ความรักยักเปลี่ยนท่า                    ทำน้ำยาอย่างแกงขม               กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม                      ชมไม่วายคลับคล้ายเห็น                      ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ                    รสพิเศษใส่ลูกเอ็น               ใครหุงปรุงไม่เป็น                                เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ                       เหลือรู้หมูป่าต้ม                          แกงคั่วส้มใส่ระกำ               รอยแจ้งแห่งความขำ                           ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม                       ช้าช้าพล่าเนื้อสด                        ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม              คิดความยามถนอม                              สนิทเนื้อเจือรสเสาวคนธ์                       ล่าเตียงคิดเตียงน้อง                   นอนเตียงทองทำเมืองบน               ลดหลั่นชั้นชอบกล                             ยลอยากนิทรคิดแยบยล                       เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า                   รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน                เจ็บไกลใจอาวรณ์                             ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง                       รังนกนึ่งน่าซด                           โอชารสกว่าทั้งปวง                นกพรากจากรังรวง                            เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน                       ไตปลาเสแสร้งว่า                       ดุจวาจากระบิดกระบวน                ใบโศกบอกโศกครวญ                        ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ                        ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง                เป็นโฉมน้องฤาโฉมไหน                ผักหวานซ่านทรวงใน                         ใคร่ครวญรักผักหวานนางฯ            ผู้แต่ง    พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย  ( รัชกาลที่ 2 )            ที่มาของเรื่อง  กาพย์เห่เรือนี้สันนิษฐานว่าทรงพระราชนิพนธ์ เพื่อชมฝีพระหัตถ์ในการแต่งเครื่องเสวยของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 23:00:43 จากคุณ : patty babeby เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:50:34

ความคิดเห็นที่ 35 ย่าเป็นคนโบราณ ยายก็ด้วย   ทำกับข้าวอร่อยมากๆค่ะ เราว่าคนโบราณทำกับข้าวอร่อยกว่านะ  สะอาดมากๆด้วยค่ะ จากคุณ : ปุ้ม หญิง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:59:57

ความคิดเห็นที่ 36 โหวตแบบสมัยใหม่ครับ ชอบพวกชีสสและเครื่องปรุงเครื่องเทศใหม่ๆ แต่อาหารสมัยก่อนกว่าจะทำเสร็จต้องอาศัยความประณีตน่าดู  แต่ที่คนสมัยก่อนอาหารไทยคงถึงเครื่องถึงรสมากๆ ครับ  น่าจะอร่อยกว่าสำหรับอาหารไทย จากคุณ : vut0826 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 23:20:13

ความคิดเห็นที่ 37 อาหารสมัยก่อนอร่อยเพราะต้องทำกินเอง ผู้หญิงก็ไม่เรียนหนังสือ เข้าครัว จับงานบ้านอย่างเดียว มีเวลาฝึกปรือฝีมือทั้งชีวิต จะแกงกะทิถ้วยเดียวก็มีเวลาเหลือเฟือในการประณีตบรรจง สมัยนี้มีขายเยอะแยะ ซื้อกินมากกว่าทำเอง (ถ้าไม่มีแม่บ้าน) เค้าก็ทำลวกๆขายถูกมั่งแพงมั่ง ก็พาลเอาว่าอาหารสมัยนี้ไม่อร่อย จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 23:31:54

ความคิดเห็นที่ 38 อาหารสมัยย่ายายอร่อยกว่าเยอะค่ะ ยายสอนทำกับข้าวนี่สอนคนอื่นต่อไม่ถูกเลย หยิบนู่นนิด หยิบนี่หน่อย  ตวงไม่ได้ ขนมชนิดเดียวกัน หน้าฝนกะหน้าร้อนยังใช้ส่วนผสมไม่เท่ากัน ต้องใช้มือสัมผัส ลิ้นแตะล้วนๆ ทำน้ำแกงก็ไม่มีอะไรเยอะ ใส่นู่นใส่นี่  ปิดฝา เดี๋ยวเดียวอร่อย ทำให้เพื่อนดู  เพื่อนงง ว่าทำไมมันง่ายนัก ไม่ต้องมีผงชูรส ผงปรุงรสอะไรหลายแหล่ เดี๋ยวนี้เปิดหาสูตรทำกับข้าว  ใส่ผงๆกันซะเยอะ  เราทำไม่ค่อยถูก อีกข้อก็อาจจะเพราะของสดมาก ผัก เครื่องปรุง สมุนไพร  เก็บเอาในบ้าน ไข่ไก่ ก็มีกรงที่บ้าน  นมสด  ก็มีคนมาส่งตามสั่ง เป็นขวดๆ หมูก็ซื้อทุกเช้า  มาสับเองผสมกับกุ้ง  ให้ได้น้ำซุปหวาน จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 07:15:16

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าแน่นอนครับ อย่างน้อยสมัยก่อนอาหารก็ยังใส่ผงชูรสน้อยกว่าในปัจจุบัน ฉะนั้นเวลาปรุงต้องเป็นความสามารถล้วน แต่ตอนหลังผงชูรสนี่ใช้กันจนเกินความจำเป็นมากไปนะ อะไรก็ใส่ไปหมด แม้แต่รถเข็นผลไม้ ยังมีผงชูรสผสมพริก ไว้บริการลูกค้าเลยครับ จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:44:47

ความคิดเห็นที่ 40 วัตถุดิบอาหารสมัยก่อนชนะขาดในเรื่องของความสด และรสชาติ เอาง่ายๆผักที่ปลูกโดยใช้ปุ๋ยคอก อร่อยกว่าใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ หมู ไก่ ที่เลี้ยงแบบบ้านๆ มันได่เดินออกกำลังกาย สุขภาพจิตดี เนื้อก็อร่อยกว่า ปลา กุ้ง จับมาจากแม่น้ำสดๆ เติบโตในแหล่งน้ำที่สะอาด  เนื้อหวานอร่อยมาก น้ำมันหมูทำกับข้าวอร่อยค่ะ ถ้าไม่กลัวคอเลสเตอรอล ทุกวันนี้ยังใช้อยู่เป็นบางคราว โดยเฉพาะไข่เจียว ไขดาว กะทิสดที่ได้จากมะพร้าวที่เก็บจากต้นใหม่ๆ ขูด คั้นเอง ได้กะทิที่หอมหวานตืิดปลายลิ้น อร่อยมาก ต่างจากมะพร้าวที่ซื้อในตลาดสด และกะทิกล่องน่ะชิดซ้าย เทียบชั้นไม่ได้เลย แต่สมัยใหม่ของที่เคยหายาก กลับหาทานได้ง่ายๆ ได้วัตถุดิบทำอาหารที่หลากหลายไม่จำเจ ดังนั้นถ้าเทียบก็เทียบกันจานต่อจาน วัตถุดิบเหมือนกัน อาหารสมัยก่อนชนะขาดแน่นอน จากคุณ : simiach เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:50:35

ความคิดเห็นที่ 41 ไ่ม่ต้องอะไรมาก แค่ไำข่พะโล้ เรากินร้านที่เขาขายๆ กันเนี่ย ไม่เคยอร่อยเลย เพราะไข่พะโล้ที่บ้านเรากว่าจะได้กินทำกันทีเป็นวัน เรื่องเครื่องพะโล้สำเร็จแบบเป็นซองๆ ไม่เคยมี ย่าต้องมาตำ มาหมัก ชุลมุนวุ่นวายอยู่ในครัว และตั้งหม้อเคี่ยวออกมาเป็นวันๆ กว่าจะได้ไข่พะโล้หม้อนึง ที่ทั้งหอม หวาน เข้มข้น ไม่้ใช่น้ำใสโจ๋ง หวานน้ำตาลแหลมๆ เหมือนที่เขาทำขายกันตอนนี้ หรือขนาดทอดไข่ดาวที่ไข่ขาวกรอบเป็นสีทองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กรอบจริงแบบไม่ใช่เกรียม แต่ไข่แดงยังเป็นน้ำเยิ้มๆ ไม่ใช่แค่ยางมะตูมด้วย ที่เดี๋ยวนี้ไปหาตามร้านหรือหาคนทอดได้แบบนี้ น้อยมาก สั่งไข่ดาวกรอบตามร้านทีไร ไข่แดงสุกแข็งมาซะทุกที ไหนจะแกงเผ็ด แกงกะทิ ต้องซื้อมะพร้าวขูดมาคั้นเอง ไอ้กะทิกล่องอย่าได้เอามาแทนเชียว เราเคยลองทำกล้วยบวดชี สูตรของย่า แต่ใฃ้กะทิกล่องแทนกะทิคั้นเอง ออกมายังไงก็อร่อยไม่เท่า ความปราณีตมันต่างกัน จากคุณ : Zerbirus เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:52:12

ความคิดเห็นที่ 42 พ่อเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนกว่าจะได้กินแกงเนื้อซักหม้อ ลำบากมากเพราะไม่มีแกงถุงขาย ต้องทำเองทุกอย่าง เช้า ย่าไปตลาดไปซื้อเนื้อมาล้าง หั่นหมัก แล้วก็ค่อยๆเคี่ยวจนเปื่อย ตำน้ำพริกก็หน้าที่ย่า ตาต้องขึ้นมะพร้าวเอง เอาลงมาพ่อกับลุงผมช่วยกันขูดช่วยกันคั้นกระทิออกมา แล้วเอาให้ย่าไปแกงเริ่มทั้งตั้งแต่เช้ามืดได้กินก็มื้อเย็น อร่อยเข้มข้น เดี่ยวนี้แกงซักหม้อ เดินไปซื้อเครื่องแกง กระทิ มาจากตลาดเอามาต้มใส่หม้อจบ เครื่องปรุงก็ใส่กันเข้าไป ไม่ต้องพิถีพิถันมาก จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 09:51:09

ความคิดเห็นที่ 43 "แบบว่าจับกบจับเขียด ปิ้งๆย่างๆ กินไปวันๆแค่นั้นอะ" ไม่น่าจะเป็นสมัยโบราณ ต้นรัตนโกสินทร์ อย่างที่จขกทเปรียบ แต่น่าจะเป็นสมัยมนุษย์ยังอยู่ในถ้ำ สงสัยคนตั้งกระทู้ จะไม่เคยอ่านกาพย์เห่เรือเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ไม่เคยอ่านสี่แผ่นดิน ตอนแม่พลอยอยู่ในวัง ฯลฯ ถึงไม่ทราบว่าคนสมัยก่อน เขาละเมียดละไม ประณีต ในการรับประทาน แค่อาหารตอนนี้กับอาหารที่เคยทานตอนเด็ก ก็ตอบได้ว่าอาหารตอนนี้มันทำแบบแดรกด่วนจริงๆ อาหารพื้นๆ แบบ ไข่พะโล้ที่เคี่ยวจนเข้าเนื้อ แกงไก่หอมเครื่องแกง ขนมครกหอมกลิ่นชัน ยังหารับประทานไม่ได้เลย จากคุณ : กบใต้กะลา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:06:43

ความคิดเห็นที่ 44 คิดว่าสมัยก่อนน่าจะอร่อยกว่ามาก เพราะคิดถึงกับข้าวที่ยาย ทำให้ทาน แค่ต้มยำหมูธรรมดาๆ แต่ทำไมมันอร่อยกว่าที่เราทำเยอะเลยก็ไม่รู้ มันถึงเครื่องกว่า แบบบอกไม่ถูกเลย จากคุณ : เทมมารีนเลิฟ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:38:55

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่าสมัยโบราณ เพราะว่าคุณยายผม ทำอาหารไทยอร่อยมาก แบบโบราณดั พูดไปก้อคิดถึงยายย จากคุณ : SuperunknowN เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:02:46

ความคิดเห็นที่ 46 สมัยก่อนอร่อยกว่าแน่นอนคะ  แล้วสมัยก่อนยิ่งในวังเค้ามีเวลาทั้งวันเพื่อประดิษฐ์ประดอยอาหารเลยนะ  เคยได้คุยกะคุณทวดของเพื่อน90กว่าแล้ว แต่ยังไม่หลง  แกเคยทำงานในวังมาก่อน โอโห ฟังแก่เล่ามานี่สุดยอดเลยอะ อาหารที่เราๆทำกันนี่ขยะไปเลย อีกอย่างเราเคยกินอาหารที่ยายเราทำ  ขนาดไม่ได้อยู่ในวังนะ อร่อยมาก รสมือล้วนๆไม่มีตัวช่วยอย่างรสดี ผงชูรสอะไรเลย  เคยกินข้าวต้มกะทิไหม๊ละ หอมหวานมันไม่เลี่ย ซึ่งเดี๊ยวนี้เราไม่เคยเห็นที่ไหนขายเลยนะ ดังนั้นเรามั่นใจว่าอาหารสมัยก่อนอร่ยกว่าจ้า จากคุณ : วิดวะหน้าตาดี เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:38:39

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านกระทู้นี้แล้วสะอึกเลย อาหารสมัยก่อนจับกบจับเขียดกินเอ้อ... ผมไปอยู่ไหนมาทำไมไม่เคยกิน ผมยังไม่แก่นะ 30 กว่า แต่บังเอิญมีบ้านอยู่ต่างจังหวัด. ถามว่าอาหารปราณีตแบบอาหารในวังไหม คำตอบคือไม่ แต่ถ้าถามว่าอร่อยไหม ผมยืนยันว่าอร่อยเหาะ เอาง่ายๆ แถวบ้านผมนี่ ประมาณบ่ายสองครึ่ง ผมจะได้ยินเสียงเตรียมเครื่องปรุงอาหารแล้ว. พอเกือบหกโมงกลิ่นอาหารหลายอย่างก็จะหอมฟุ้งลอยตามลมมาจากแต่ละบ้าน แค่กลิ่นอาหารก็หอมยั่วน้ำลายยิ่งนัก อาหารหลายๆอย่างที่ผมได้กินและติดรสมือ ก็มี ต้มข่าไก่ ที่ไม่ใช่ต้มแบบอีสาน สุดอร่อย ไม่หวานจัดเหมือนสมัยนี้ แกงหมูเทโพที่ทั้งหอมทั้งอร่อยแกงเขียวหวาน. แกงเนื้อที่ไม่เค็มโดดออกมา ต้มจืดหน่อไม้ไผ่ตง ยำกุ้งแห้ง ฯลฯ ผมยังไม่เคยกินกบ กินเขียดเลยนะ ป.ล. บ้านผมอยู่ภาคกลาง วัฒนธรรมการกินต่างจากภาคอีสานแน่นอน จากคุณ : เขียนบน iPad (Air Bender) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:08:01

ความคิดเห็นที่ 48 เราว่าสมัยก่อนค่ะ เอาแค่สมัยที่พี่เลี้ยงเรายังมีชีวิตอยู่ อาหารง่ายๆ ไข่เจียว ปลาทูทอด น้ำมันหมู เตาถ่าน กินขาดดดดดด  เพราะคนทอดใจเย็นมาก พี่เลี้ยงเสีย ไม่เคยได้กินไข่เจียว ปลาทูทอดที่ไหนอร่อยขนาดนั้นอีกเลย  ข้าวผัดก้นครก ก้นกระทะ แนมกากหมูหวาน แกงกะทิเคี่ยวจนแตกมัน ใบมะกรูดตะไคร้ซอยยิบไม่มีสากลิ้น ทุกๆอย่างอร่อยมากมาย  โดยที่ไม่เคยสัมผัสผงชูรสเลยแม้แต่เกล็ดเดียว พิถีพิถันตั้งแต่คัดวัตถุดิบ เลือกของที่ตลาด ผักสดสมุนไพรบางอย่างก็ปลูกเอง สดอร่อย การเลือกไม้ ก่อไฟ ตั้งแต่เริ่มตั้งไฟ จนราไฟ มีของอร่อยได้ตลอด มีการจัดการไฟอย่างยอดเยี่ยม หมกมันเทศในเตาเป็นขนมกินเล่น ใช้ประโยชน์จากความร้อนที่หลงเหลือในเตา   ดอกไม้กินได้เอามายำสร้างสีสันบนโต๊ะอาหาร บางทีก็มีแตงกวาแกะสลักเป็นเรือลำน้อย ใส่น้ำพริกรสอร่อยในลำเรือหลอกเด็กให้กินผัก และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่สำคัญคือ ฉลาดเลือกวัตถุดิบที่ดี มีความสามารถ ความพิถีพิถัน ขยันฝึกปรือ ใจรัก นึกถึงผู้บริโภค ถ้าคนในสมัยปัจจุบันมีสิ่งเหล่านี้ อาหารก็อร่อยแน่นอนค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 54 08:00:14 จากคุณ : amitambien เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 07:58:57

ความคิดเห็นที่ 49 ยายเราทำอาหารอร่อย มีสูตรชาววังติดตัวมาด้วย แต่เสียไป 20กว่าปีแล้ว จนป่านี้อาหารสูตรของยายเราก็ทำไม่เป็น เคยได้ยินแต่แม่เล่าว่า ตอนเด็กๆ คนตกกุ้งแม่น้ำมาขายหน้าบ้าน เป็นพวงใหญ่ๆ มันคงสดมาก (แม่อยู่ทางใต้)     ต้มข่าไก่ ไม่เคยกินใครทำอร่อยกว่าแม่เรา (สูตรคุณยาย)---ไม่ไม่เคยบอกว่ากินกบ เขียดไรเลย      ....พะโล้ กับ ขนมผักกาด สูตรย่าเรา  หาซื้อให้อร่อยเท่า ไม่เคยเจอ   ....ไม่ว่าถูกหรือแพง... แต่มีร้านอาหารอร่อยแบบโบราณ ที่ขายข้าวแช่แถว ราชวัตน่ะ แค่กินก็รู้เลยว่า เครื่องแกงทำเอง ไม่ใช้น้ำตาลทราย....เอาแค่น้ำตาลต้นตาลน่ะ หาให้อร่อยแบบที่เคยเจอตอนเด็กๆ ก็ยากมากแล้ว...คิดดูนะ แค่น้ำตาล จากคุณ : joejeetha เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:30:07

ความคิดเห็นที่ 50 แนะนำให้จขกท และเพื่อน หา หนังสือชื่อว่า ชีวิตในวัง(มีสองเล่ม) และ ชีวิตนอกวัง(มีสิบเจ็ดเล่ม) ของ มล.เนื่อง นิลรัตน์ จะได้เกร็ดความรู้ เรื่องอาหาร และ ความละเมียดละมัย ของ คนไทยในอดีต  เยอะเลย จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:11:30

ความคิดเห็นที่ 51 เอาแค่เมนูเดียว เทียบแค่วัยเด็ก ไข่พะโล้เตรียมเย็น กินอีกวัน แม่เราเคี่ยวน้ำตาลเป็นสีน้ำตาลไหม้ก่อนใส่น้ำเพื่อเอาสี เคี่ยวกลางคืนรอบนึง เช้ามาเคี่ยวต่อไข่เป็นสีน้ำตาลทั้งลูกไข่ขาวก็มีรส หอมถึงไข่แดง หมูก็เปื่อยสุดๆ น้ำแกงไม่เคยเหลือ ทุกวันนี้เจอแต่พะโล้เหม็นซีอิ๊ว เปลือกดำๆข้างในขาวจั๊วะ แม่เราใช้เครื่องเทศสำเร็จ แต่ปรุงเอง เตาถ่าน.. ...ไม่ต้องเทียบว่าสมัยก่อนละเมียดกว่านี้จะรสดีแค่ไหน จากคุณ : อินทวา เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 12:20:13