ความคิดเห็นที่ 1 เคยอ่านเจอว่า พืชบ้านเรา มีการใช้กระบวนการเพิ่มผลผลิตด้วย GMO แล้ว อันที่จริง ฉลากข้างขวดของผลิตภัณฑ์ ควรระบุด้วยว่า "ใช้วัตถุดิบ GMO" เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่ไม่อยากเสี่ยง ตอนนี้รู้สึกเหมือนถูกปิดตามัดมือชก สุขภาพของเรา แต่ใครจะทำอะไรยังไงก็ได้ เชิญตามสะดวก -*- จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 15:18:35

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวใช้รำข้าวเป็นประจำ น้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันปาล์มบ้างตามความสะดวก ทำกับข้าวเป็นประจำ ถ้าคำถามเรื่องสุขภาพ เห็นว่ายังไม่มีอะไรแตกต่างกันครับ ปล. บทความในย่อหน้าคุ้นๆ เหมือนกระทู้แนะนำประวัติศาสตร์ก้นครัวของพี่แก้ว (เสมอกลาง) เลยครับ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2006/10/D4781553/D4781553.html แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 15:22:24 จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 15:21:50

ความคิดเห็นที่ 3 ช๊อค....แล้วตกลงจะเชื่อใครล่ะเนี่ย เห็นตามหนังสือโภชนาการ บอกให้กินน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก กินน้ำมันปาล์มให้น้อย  เพราะจะเกิดโรคหัวใจ มาเจอข้อมูลนี่อีก  งง. จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 15:23:45

ความคิดเห็นที่ 4 อยู่ที่ว่านำไปใช้ทำอะไรมากกว่าครับ ทอดก้อปาล์มเพราะทนอุณหภูมิได้สูง ส่วนผัด ให้ดีก้อรำข้าว ส่วนน้ำมันมะกอกถ้าผัดใช้แบบไลท์ก้อพอ แบบExtra verginใช้ทำสลัด หรือใช้ทำอาหารที่ใช้ความร้อนไม่สูงและไม่นาน ส่วนถั่วเหลืองไม่ใช้มานานเพราะทอด ก้อไม่ดีดำเร็ว ตอนหกเช็ดออกยากมาก น้ำมันหมูยังเช็ดออกง่ายกว่าอีก ตอนนี้งดน้ำมัน หมูชั่วคราว จากคุณ : ซาสิ้ว เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 15:47:14

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเอาตามกระบวนการผลิต (เขาบอกว่า) น้ำมันปาล์มใช้วิธีหีบ เพื่อบีบเอาน้ำมันจากผลปาล์มและเมล็ด แล้วกรอง สีของน้ำมันขึ้นอยู่กับความสดของผลปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง มีคนบอกว่าใช้สารเคมีในการดึงสารแขวนลอยในตัวน้ำมันออกประมาณ 4-5 ขั้นตอนเพื่อให้มีความใส ส่วนที่โฆษณาว่าไม่เป็นไขเมื่อแช่ตู้เย็นนั้น ไม่ได้มีผลต่อการบริโภค เพราะอุณหภูมิในร่างกาย ไม่มีทางเป็นไขได้อยู่แล้ว จากคุณ : บรรเจิดจิต เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 16:01:15

ความคิดเห็นที่ 6 คุณซาสิ้วคิดเหมือนผมเลยครับ เวลาที่น้ำมันถั่วเหลืองโดนความร้อนแล้วเช็ดออกยากมาก โดยเฉพาะส่วนที่กระเด็นไปติด น้ำมันหมูจะเช็ดออกง่ายกว่า ตอนนี้ก็เลยงงแล้วสิว่าจะใช้น้ำมันอะไรดี ยังไงก้คงจะลองศึกษาน้ำมันรำข้าวดูครับ ป.ล. ขอบคุณ Are Yoi มากครับสำหรับข้อมูล พึ่งรู้ว่ามีกระทู้นี้ด้วย ตกลงตอนนี้ที่อ่านได้ก้คือน้ำมันปาล์มนั้นไม่ดีนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 16:19:02 แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 16:06:15 จากคุณ : ต้นสนริมน้ำ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 16:01:35

ความคิดเห็นที่ 7 ดีจังอยากให้น้ำมันถั่วเหลืองราคาลงซะบ้าง เด้งไป 55 บาทแนะ จากคุณ : แก๊งเหมียวอาละวาด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:24:07

ความคิดเห็นที่ 8 ทอด ใช้ปาล์ม ผัด  ใช้รำข้าว น้ำสลัด ใช้มะกอก จากคุณ : new_x3 เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:55:16

ความคิดเห็นที่ 9 อ๊าาาย เข้าไปอ่านแล้วโดนมากค่ะ ---quote--- อะแฮ่ม และไม่ว่าใครก็ตามที่โชคดีไม่เคยกินคุกกี้ดำมาก่อน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นเจ้า trans fat นี้ได้ง่ายๆ เพราะว่า trans fat เป็นส่วนผสมมากมายอยู่ทั้งในขนม นม เนย ที่มีมาร์การีนเป็นส่วนประกอบ และของทอดที่ต้องใช้น้ำมันทั้งหลายแหล่ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ เสี่ยงต่อ Trans fat มีดังนี้เอย - อาหารนอกบ้านที่ไปซื้อเขากิน เราไม่รู้แน่ชัดว่าส่วนผสมเขาใช้อะไรบ้าง ใช้เนยสด หรือใช้มาร์การีนหรือเนยเทียม ใช้น้ำมันประเภทอะไร ว่ากันว่าบรรดาอาหาร+ขนมไดเอททั้งหลายล้วนมี trans fat ผสมทั้งนั้น กินแล้วไม่อ้วน ไขมันจุกตาย แต่หัวใจสลาย เอ้ย ล้มเหลวเพราะ trans fat แทน (ตอนนี้มาแรงกว่าโรคใดๆ) - เค้ก บิสกิต คุกกี้ทุกชนิดที่ในสูตรมี เนยขาว ชอร์ทเทนนิ่งเป็นส่วนผสม ล้วนอุดมไปด้วย trans fat - พวกขนมกรุบกรอบ-ซองๆ ของขบเคี้ยวกินเล่นทั้งหลาย อาทิ พวกมันฝรั่ง ต้องดูให้ดีว่าเขาใช้น้ำมันอะไรทอด เพราะนั่นก็ที่มาของ trans fat เช่นกัน (Frito Lay / Chee-tos / แครกเกอร์ไส้ชีส Ritz/ ถั่วทอด ถั่วอบกรอบ เสี่ยงปริมาณ trans fat ทั้งสิ้น) - คอฟฟี่เมท ครีมเทียม วิปครีม (ต้องเลือกดูตามฉลาก แต่ละยี่ห้อว่า เขาใช้ส่วนผสมอะไร) - Crouton / น้ำสลัดสำเร็จรูป - dips สำเร็จรูปทั้งหลาย - ผงเกรวี่สำเร็จรูป / ซอส มิกซ์ต่างๆ - อาหารแช่แข็งแบบสำเร็จรูปที่เอามาอุ่นในไมโครเวฟแล้วกินได้เลย (ก็เข้าข่าย) - ซุปกระป๋อง / ซุปซองสำเร็จรูป / พีนัท บัตเตอร์ /ซีเรียลอาหารเช้า ---unquote--- กะลังนั่งกินขนมประเภทนี้เลยแงๆ รีบจับมาเช็คด่วนค่ะ สรุปวันนี้รอด แต่พรุ่งนี้ตอนซื้อของกินต้องดูให้ละเอียดแล้วค่ะ เสี่ยงมากเลยเรา **เพิ่มเติมค่ะ ไปอ่านในโพสต์ที่คุง Are Yoi ให้มาแล้วอ้าว แบบนี้เราก็ยังกินได้ แต่ไม่ควรกินมาก แล้วแบบนี้เราควรทำดีท๊อกซ์ล้างลำไส้อ๊าป่าวเนี่ย แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 19:43:21 จากคุณ : pangzaaa2005 เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 19:38:52

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องห้ามซื้อกินทั้งหมด เพราะไม่รู้จะเจอน้ำมันอะไร (ปาท่องโก๋ กล้วยแขก ถั่วทอด ข้าวเกรียบ บะหมี่สำเร็จรูป........................................................................................ ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒ ฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒฒ มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม         ต้องทำกินเอง         จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 20:15:30

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ากินไปแล้ว หลายสิบปี ต่องทำไงครับ ฮือๆ ร้องไห้ซะงั้น จากคุณ : Coach The Lead เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 20:56:41

ความคิดเห็นที่ 12 ที่บ้านเลิกใช้ทั้งสองอย่างแล้ว ทั้งถั่วเหลืองแล้วก็ปาล์ม เพราะใช้แล้วครัวจะเหนียวมากทำความสะอาดลำบาก ขนาดอยู่ในครัวยังเหนียวขนาดนี้ถ้าไปอยู่ในเส้นเลือดอะไรจะเกิดขึ้น ที่บ้านเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดอกคาโรล่าแทน(อยากรู้ประโยชน์ลองหาในกูเกิ้ลดู)@น้ำมันข้าวโพด@น้ำมันหมู ตั้งแต่เลิกใช้น้ำมันถั่วเหลือง@ปาล์ม ครัวที่บ้านหายเหนียวเลย แต่การทานน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่งนานเกินไปก็จะเกิดอันตราย จากคุณ : suvichan naja เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:59:57

ความคิดเห็นที่ 13 โดยปกติ น้ำมันถั่วเหลืองทนความร้อนได้น้อยกว่าน้ำมันปาล์ม ดังน้ันน้ำมันถั่วเหลืองจึงเหมะกับการผัด ส่วนน้ำมันปาล์มใช้ทอดค่ะ ถ้าใช้น้ำมันผิด เอาถั่วเหลืองไปใช้ประกอบอาหารที่มีอุณหภูมิสูง พูดง่ายๆคือน้ำมันร้อนเกินไป น้ำมันจะแปรสถานะเป็นสารอนุมูลอิสระ พูดง่ายๆอีกทีคือมะเร็งถามหาค่ะ ส่วนเรื่อง gmo อันนี้เซ็งค่ะ เพราะเกือบทุกอย่างมันโดนผลิตออกมาแบบน้ัน เนื่องจากประชากรโลกที่มีมากมาย การผลิตพืชผลที่โตเร็วทนต่อโรคจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอาหาร และยีนของพืชผักที่โดนแปร แน่นอนว่าส่งผลให้มนุษย์เกิดปัญหาสุขภาพด้วย ขอบอก ซีอิ๊ว ซอสถั่วเหลืองทั้งหลาย รับประทานกันแต่เท่าที่จำเป็นนะคะ โคตรรรรรร อันตรายเลย ทั้งสารก่อมะเร็ง gmo และอื่นๆอีกมากมาย จากคุณ : pretty1pink เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 06:17:48

ความคิดเห็นที่ 14 ในยุคสมัยหนึ่ง Transfat เป็นอันตราย ก่อให้เกิดโรคหัวใจ ในอีกยุคสมัยหนึ่ง มีผลการวิจัยใหม่ๆออกมาว่า Transfat ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ขึ้นอยู่กับจริยธรรมและความสะเพร่า(และผลประโยชน์)ของคนทำเว็บล่ะครับ ว่าจะไป site reference ที่เว็บอดีตชาติหรือเว็บสมัยใหม่มา ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีการวิจัยใหม่ๆออกมา ผลการศึกษาก็จะต่างออกไปอีกครับ สรุป กินอะไรที่อยากกินเถอะครับ แค่อย่ากินอะไรที่ซ้ำๆมากจนเกินไป กินให้หลากหลาย โรคภัยไม่มาเบียดเบียนครับ จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 09:18:27

ความคิดเห็นที่ 15 กินหลากหลาย ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่าเครียดค่ะ ^_^ จากคุณ : Kika_ii เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 09:26:47

ความคิดเห็นที่ 16 เลือกแบบที่ไขมันอิ่มตัวน้อยอ่ะค่ะ  เรื่องมากไปก็วุ่นวายกับชีวิต  กินข้าวนอกบ้านเค้าเลือกใช้น้ำมันถูกสุดอยู่แล้ว จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 13:27:31

ความคิดเห็นที่ 17 เอ่อ แล้วกินน้ำมันดอกทานตะวันละ จากคุณ : เนเวอร์แลนด์ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 15:14:12