ความคิดเห็นที่ 1 ปริมาณ  ปู้กะๆเอานะคะตามความเคยชิน ทำแจ่วกันก่อนค่ะ หอมแดง กระเทียมจีน พริกแดง นำทั้งหมดไปคั่วรวมกันในกระทะ ค้นในตู้เย็นเจอแมงดา1ตัวเลยเด็ดปีก หั่นเป็นชิ้นใส่ลงไปคั่วด้วยนะคะ กลิ่นหอมมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ต้องเป็นแมงดาตัวผู้แน่ๆเลย เพราะตัวเมียจะไม่หอมเลยค่ะ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:06:52

ความคิดเห็นที่ 2 พริกหยวกหนึ่งกำมือ ปู้นำไปเข้าเตาอบค่ะ ให้สุกนิ่มและเปลือกเกรียมๆจะได้ลอกออกง่ายๆหน่อย ใส่พริกหยวกเพื่อเพิ่มปริมาณของเนื้อสัมผัสนะคะ และไม่ทำให้เผ็ดมากเกินไปนัก จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:09:10

ความคิดเห็นที่ 3 ใส่พริกแดง หอมแดงและกระเทียมที่เราคั่วไว้ลงไปตำในครกหินนะคะ ใส่เกลือทะเลลงไปด้วยประมาณหนึ่งช้อนชาเพื่อทำให้ของที่เราโขลกละเอียดง่ายขึ้น ทำให้พริกไม่กระเด็นเข้าตา และทำให้ยืดอายุน้ำพริกถ้วยนี้ให้เก็บได้นานยิ่งขึ้นค่ะ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:11:44

ความคิดเห็นที่ 4 โขลกส่วนแรกละเอียดดีแล้ว  ก็ลอกเปลือกพริกหยวก  เอาแต่เนื้อใส่ลงไปเลยค่ะ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:14:41

ความคิดเห็นที่ 5 จากนั้นก็ใส่Anchovy ลงไป  ปู้ใส่ไปหลายตัวหน่อยนะคะ น่าจะประมาณ 4-5 ตัว  เพราะว่าไม่ได้ปรุงรสด้วยน้ำปลาอีก เลือกยี่ห้อในรูปนี่นะคะ  หอมค่ะ  ไม่เค็มมากด้วย จากนั้นก็โขลกให้ละเอียดๆ  และคนให้เข้ากันดี  ก็เป็นอันเรียบร้อยค่า จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:18:38

ความคิดเห็นที่ 6 ตักใส่ถ้วยรอไว้ก่อน  เดี๋ยวไปทอดปลากันน๊า จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:21:21

ความคิดเห็นที่ 7 เตรียมผักสดไว้จิ้มค่ะ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:22:26

ความคิดเห็นที่ 8 ผักโขมลวกก็มี จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:23:05

ความคิดเห็นที่ 9 น่าอร่อยมาก ๆ เลยค่ะคุณปู้  เดี๋ยวขอลอกดีกว่าแต่เปลี่ยนเป็นใส่แองโชวี่บ้านเฮาแทน  อิอิ จากคุณ : บ้านฟ้าซอย 5 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:25:50

ความคิดเห็นที่ 10 ปลาคางเบือน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี คางเบือน การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ Kingdom: Animalia Phylum: Chordata Class: Actinopterygii Order: Siluriformes Family: Siluridae Genus: Belodontichthys Species: B. truncatus ชื่อวิทยาศาสตร์ Belodontichthys truncatus (Kottelat & Ng, 1999) ชื่อพ้อง Wallago dinema (Bleeker, 1851) ปลาคางเบือน (อังกฤษ: Twisted-Jaw Catfish) เป็นชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาเนื้ออ่อน (Siluridae) ชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Belodontichthys truncatus มีลักษณะส่วนหัวแบนข้างมากเช่นเดียวกับลำตัว รูปร่างเพรียวยาว ด้านท้ายเล็กหัวและจะงอยปากงอนขึ้นด้านบน ปากกว้างมาก คางเชิดขึ้น จึงได้ชื่อว่า "คางเบือน" มีฟันแหลมคมบนขากรรไกร ตาโตอยู่ตอนกลางของหัว ใกล้มุมปากมีหนวด 1 คู่ยาวจนถึงครีบอก ครีบหลังเล็กมาก ครีบอกใหญ่ปลายแหลม ครีบท้องเล็ก ครีบหางเล็กเว้าตื้น ตัวมีสีเงินวาวหรือเหลือบสีเขียวอ่อน ด้านท้องสีจาง ครีบก้นและครีบหางมีขอบสีคล้ำ มีขนาดประมาณ 35-40 เซนติเมตร พบใหญ่สุดถึง 80 เซนติเมตร พบในแม่น้ำสายใหญ่ทั่วประเทศ ยกเว้นแม่น้ำสาละวินและภาคตะวันออก เนื้อมีรสชาติดีและราคาแพง สามารถปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น ทอดกระเทียม ต้มยำ และยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามด้วย คางเบือนยังมีชื่อเรียกในภาษาอีสานอีกว่า "เบี้ยว", "ขบ" , "ปากวิบ" หรือ "แก็ก"[1] เป็นปลาชนิดหนึ่งที่มีชื่อถูกกล่าวถึงกาพย์แห่ชมปลาของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร ไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) ที่ว่า คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย [แก้]อ้างอิง ^ หนังสือปลาน้ำจืดไทย โดย ดร.ชวลิต วิทยานนท์ (กรุงเทพ, พ.ศ. 2544) ISBN 974-475-655-5 [แก้]แหล่งข้อมูลอื่น ข้อมูลปลาคางเบือนจาก FishBase ปลาไทยในวรรณคดี Credit: http://th.wikipedia.org Credit: รูปภาพจากhttp://jawnoyfishing แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 55 11:27:59 จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:27:19

ความคิดเห็นที่ 11 พี่ดา  ได้เลยค่า  ใส่แองโชวี่บ้านเฮาก็รสแซ่บรสนัวค่า ล้างปลาให้สะอาด แล้วนำมาวางบนถาด  เอาทิชชู่แผ่นใหญ่ซับให้แห้ง ตอนซื้อที่ตลาดให้แม่ค้าควักไส้ออกให้นะคะ  ปู้เอามาหั่นเป็นชิ้นเอง จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:30:53

ความคิดเห็นที่ 12 น่าจิ้มมากค่ะ เหลือเอนโชวี่ 1 กระป๋อง เย็นนี้คงได้เอามาทำแล้ว จากคุณ : ม่านบาหลี เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:32:58

ความคิดเห็นที่ 13 ชิ้นปลาสวยงามและสดมาก  ซื้อมาในราคากก.ละ 300 บาทค่ะ ขนาดตัวที่ซื้อมาก็ 2 กก. 600 บาท ทอดกินมื้อเช้าสี่ชิ้นและทอดหัวปลาด้วย เหลืออีกสี่ชิ้นส่วนหางเอาไว้ทำเมนูอื่นค่ะ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:33:29

ความคิดเห็นที่ 14 อุ.......น้ำพริกน่าทานแต่แมงดานี่กินไม่เป็นค่ะ รอดูปลาทอดต่ออ หิวแล้วๆๆ จากคุณ : ran.takarai เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:35:02

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ : ม่านบาหลี  ลองทำดูนะคะ กลิ่นไม่ฉุนมากอร่อยไปอีกแบบนะคะ  บางทีก็เบื่อปลาร้า 555 ชื่อปลาคางเบือน  ก็มาจากลักษณะของปลาที่คางยื่นนะคะ อีสานเรียกปลาขบ แต่ที่บ้านปู้ตั้งนิกเนมให้ปลาชนิดนี้และเรียกกันติดปากว่า  ปลาติ๊กชิโร่ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:36:29

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ : ran.takarai ถ้าไม่ทานแมงดาก็ไม่ใส่ก็ได้นะคะ   แต่ว่าเคยลองตำแจ่วใส่แองโชวี่หรือยังคะ   อร่อยน๊า จัดการโรยปลาด้วยพริกไทยดำบดใหม่ๆ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:38:19

ความคิดเห็นที่ 17 ตามด้วยผงปรุงรส จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:39:55

ความคิดเห็นที่ 18 และในเมื่อเราอยู่ในโปรแกรมพร่องแป้ง จึงต้องหาตัวช่วยค่ะ เพื่อให้ได้ปลาทอดที่สวยงามและไม่ติดกระทะ อันที่จริงก็เป็นเคล็ดลับที่ปู้ใช้เสมอเวลาทอดปลาค่ะ แต่ในเวลาปกติมักจะคลุกแป้งทั่วตัวปลา จะทำให้ปลามีผิวที่กรอบนอก ไม่ใส่แป้งเราก็ทอดปลาสวยได้ ด้วยการใช้ขิงแก่ค่ะ นำมาหั่นแว่น จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:43:15

ความคิดเห็นที่ 19 เอาขิงลงไปทอดให้เกรียมเลยค่ะ แต่ระวังอย่าให้ไหม้น๊า ตักขิงที่ทอดออกแล้วหย่อนเนื้อปลาลงไปทอดทีละ 2-3 ชิ้นแล้วแต่ขนาด ทอดปลาให้อร่อยต้องใช้ไฟกลางและใช้น้ำมันปาล์มใหม่ๆเยอะๆค่ะให้ท่วมตัวปลา จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:45:44

ความคิดเห็นที่ 20 อย่าพลิกปลาถ้าอีกด้านยังไม่สุกดีนะคะ จะทำให้เนื้อปลายุ่ย  ไม่สวยงามค่ะ ทอดจนสุกเหลือง  ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมันหรือทิชชู่อเนกประสงค์ ปลาทอดของเราก็พร้อมจะหม่ำคู่กับแจ่วไฮโซแล้วค่า จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:47:52

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะเรานั้นคู่กัน!!! จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:49:55

ความคิดเห็นที่ 22 น่ากินมากค่ะ เห็นแล้วหิวข้าวเลย จากคุณ : Iam5 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 12:42:10

ความคิดเห็นที่ 23 โอ้...แม่เจ้า! เห็นอาหารลดความอ้วนแบบนี้แล้วกลัวว่าน้ำหนักจะไม่ลดนะสิคะ  น่ากินเสียนี่กระไร  เห็นอย่างนี้แล้วป้าเน็ทยอมอ้วนต่อดีก่า!! จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 12:43:34

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ : Iam5 ขอบคุณมากเลยค่า  วันนี้กินทั้งเช้าและสายเลยค่ะ  แหะๆๆ คุณ : phanet คิดถึงข้าวมากกกกกกกกที่สุดเลยค่ะ  แต่ต้องอดทน จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 13:01:35

ความคิดเห็นที่ 25 น่าทานเป็นที่สุด ขนาดเพิ่งจะหมำข้าวเสร็จ มาเปิดดูรีวิวนี้ เดี๋ยวบ่ายมีอีกรอบแน่ๆค่ะ ^^ จากคุณ : Fairy Mary เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 13:34:53

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ : Fairy Mary  หิวก็หม่ำเลยค่า  จัดไป จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 13:52:03

ความคิดเห็นที่ 27 กรี๊ด หิวเลยค่าคุณปู้ จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 15:35:00

ความคิดเห็นที่ 28 แจ่วพริกสดใส่แองโชวี่...หูยยย...ต้องลองแล้วค่ะ... จากคุณ : ดอกน้ำค้าง เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 15:40:15

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ : กาแฟรสเสน่หา คุณกร ตำครกเดียวกินได้ทั้งวันเลยค่ะ  อิอิ คุณ : ดอกน้ำค้าง ลองสิคะ  แล้วจะติดใจน๊า  เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไงคะ จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 16:35:28

ความคิดเห็นที่ 30 โห..........สีสรร แจ่ว น่ากิน คงแซบน่าดู น้ำลายไหลลลลลลล จากคุณ : Capt_Jook9 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 16:50:59

ความคิดเห็นที่ 31 น่ากินสุด ๆ เลยค่ะ จากคุณ : สาวบ้านหมี่ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:02:07

ความคิดเห็นที่ 32 แจ่วนี้น่าทานมากๆ ชอบกลิ่นหอมๆ ของแมงดามากๆ ค่า จากคุณ : ladynula เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:43:33

ความคิดเห็นที่ 33 แค่เห็นเครื่องปรุงก็รู้ว่าแซ๊ปครับ พิถีพิถันดี จากคุณ : นาย เหลือง เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:52:20

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ : Capt_Jook9 คุณ : สาวบ้านหมี่ คุณ : ladynula คุณ : นาย เหลือง ขอบคุณมากค่า จากคุณ : ดอกการะเวก เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 08:50:42