 |
 
ความคิดเห็นที่ 34 |
^ ^ ^ เหอๆ
โรงคั่วที่เอ่ยนามมาทั้งของ พี่ ซ,พี่ บ,พี่ อ,พี่ น ล้วนเป็นโรงคั่วมาตราฐานที่ได้รับการยอมรับในวงการกาแฟบ้านเราครับ (ยังมีอีกเยอะที่ผมยอมรับนะครับแต่เอาแค่ที่อ้างอิงก่อน)ถ้าติดตามอยู่ตลอดจะทราบว่า โรงคั่วข้างต้นได้มีการคั่วกาแฟล๊อตพิเศษ นอกจากกาแฟตัวที่ทำตลาดปรกติด้วย เช่น ดรายโปรเสทบ้าง เมล็ดจากดอยอื่นๆ ที่ไม่ใช่ดอยช้างบ้าง หรืออาจจะเป็นตัว เบลนด์คอนเซฟพิเศษ โดยคั่วเพื่อให้เ้น้นการทานในแบบ กาแฟดำ และจะเป้นการคั่วแบบ จำนวนจำกัด(ที่บ้านผมเรียกกันว่าแบ่งกันกิน) สำหรับคนที่รู้คุณค่าของเมล็ดที่หาได้มา
ขอเล่าอะไรเล็กๆน้อยๆ นะครับ โดยส่วนตัวผมเองมีอคติ กับแบรนด์ดอยช้าง(ที่โลโก้เป็นรูปพี่ของคุณอาลีฮูนั้นแหละครับ)มาตลอดว่ามันคุณภาพต่ำ จนได้มีโอกาส พาเพื่อนต่างชาติที่เข้ามาหาข้อมูลเรื่องกาแฟของประเทศไทย ผมเลยขับรถพาขึ้นไปเที่ยวบนดอยช้างโดยได้รับการประสานงานจากทางพี่ๆและผู้ใหญ่ที่นับถึอในการเยี่ยมสวนกาแฟแม้จะไม่ใช่ ฤดูเก็บเกี่ยวหรือโปรเสทก็ตาม ได้เห้นมุมมองมากมาย ได้คุย ได้ลองทานกาแฟหลายๆตัว ที่บนนั้นทั้งที่คั่วโดยโรงคั่วดอยช้าง และโรงคั่วอื่น ผมกล้าบอกได้เต็มปากว่า กาแฟแบนด์ ดอยช้าง ที่ผมทาน พื้นราบ กับทานบนดอย รสชาติต่างกันมากครับ ความสมบูรณ์ ความตั้งใจของผู้ชง(เ้ป็นคนที่อาศัยอยู่บนนั้น เกิดบนกองกาแฟ อยู่กับกาแฟมาตั้งแต่เกิด เขาเชื่อในคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่ตนเอง ปลูก-เก็บเกี่ยว-โปรเสท-คั่วและชงเอง และสามารถอธิบายความแต่ต่างของเมล็ดแต่ละตัวที่ขายได้อย่างมีหลักการและความเข้าใจ ไม่ใช่สักแต่ขายๆ ชงๆ มันไปให้จบๆไป (ส่วนเรื่องคุณภาพของกาแฟที่ผมทานข้างล่างส่วนนึงน่าจะมาจากการบริหารสต๊อคของทางร้านครับ)
ลองถามตัวเองดูนะครับว่า เราเองไม่ว่าจะอยู่จุดไหนของวัฏจักร เป็น ผู้คั่ว(30นาที) ผู้ชง(5นาที) คอกาแฟ(15นาที)
ว่าตั้งใจที่จะทำมันออกมาให้ดีได้เท่ากับที่ชาวสวนเขาตั้งใจทำกันมาทั้งปีในช่วงรอบการเก็บเกี่ยวและโปรเสท(เป็นปี)
กลุ่มคนที่ตั้งใจมีแอบๆซ่อนๆ อยู่กันเยอะครับ ร้านเล็กๆดีๆมีซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยเต็มไปหมด เพียงแต่ว่า คุณหาพวกเขาเจอหรือไม่(ร้านกาแฟเล็กๆบางร้านใช้เครื่องชงเครื่องบดราคารวมกันเกือบ 4แสน)
อย่าเข้าใจว่ากาแฟของบ้านเราที่ได้ทานๆ กันทั่วไปเหมือนกันหมดครับ อาจจะเพียงแค่ว่า อนุกรมกาแฟที่หลายๆคนได้ทาน กับผมทานมันต่างกัน
ภาษากาแฟในโลกที่ผมรู้จัก มีทั้งกาแฟที่ ประทับใจและไม่ประทับใจ ถูกปากและไม่ถูกปาก ทานได้และอย่าทานดีกว่า รสชาติเป็นแบบไหน(กาแฟเป็นผลไม้และมีความซับซ้อนของรสชาติ) ทุกข้อที่บอกมาต่างกันและต้องมีเหตุผลรองรับครับว่าเพราะอะไร(เหตุผลของกาแฟเป็นวิทยาศาสตร์ และเขามีเปิดสอนครับ)
ผมเชื่อว่า คนเราชอบกินไข่ดาวสุกไม่เท่ากัน ทอดไข่เจียวไม่เหมือนกัน ทำมาม่าต่างวิธีกัน ปรุงรสก๋วยเตี๋ยวต่างกันออกไป และไม่ได้ทานอาหารรสชาติเดียวกันทั้งชีวิต
ถ้าคิดว่าชอบอะไรก็ลองออกไปค้นหามันบ้างนะครับเผื่อจะเจออะไรที่ประทับใจในชีวิตครับ
หมายเหตุ
1.ลูวัค ที่ทำในบ้านเรา ส่วนใหญ่ที่เจอ ผมไม่ยอมรับในแง่ของ การบวนการโปรเสทที่ผิดๆ(เลี้ยงในกรงและเอาผลกาแฟให้มันทานโดยไม่มีการเลือก) ชงผิดๆ (ประมาณว่าเอาใส่กาน้ำชาอันบะเริ่ม เน้น ปริมาณของน้ำกาแฟ โดยไม่คำนึงถึงเรโช) ทำให้ถ้าไม่รู้ที่มา(หรือว่ารู้แต่ว่ารับกับราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพไม่ได้)ผมจะเลี่ยงที่จะทานครับ
2.ลูวัคแท้ๆ ทั้งการนำเข้ามาแบบกาแฟสารและแบบคั่วพร้อมบดพร้อมใบเซอร์(แปลว่ามันยังเป็นเมล็ดอยู่ต้องเอามาบดเอง) เท่าที่ผมทานมา รสชาติไม่เหมือนกันเลย แต่ว่า มีสิ่งที่คล้ายๆกันคือ โปร่งและซับซ้อนครับ ฉะนั้นผมไม่แปลกใจถ้าหลายๆคนทานแล้ว อธิบายรสชาติต่างกัน
3.กาแฟของแต่ละร้านมีจุดเด่นต่างกัน แต่ถ้าจะเทสผมจะเลือกทานกาแฟดำร้อนครับ ถ้าใส่นมจะมองดูของเพื่อนๆก่อน จับแล้วแก้วร้อนไปโฟมนมแปลกๆ ก็จะไม่สั่งครับ ถือว่าเป็นที่รู้กัน
4.จากการที่ได้ทำงานในสายอาชีพทำให้ได้เข้าใจว่า ต่างคนก็ต่างเลือกที่จะเสพกาแฟในแง่มุมต่างกันออกไป อาจจะรสชาติ บรรยากาศ การใช้ชีวิต และสถานที่ ถ้าเคมีไม่ตรงกันก็คุยกันไม่เข้าใจครับ (บางคนผมบอกว่ากาแฟมันไม่ได้มีแต่รสขมบอกยังไงเขาก็ไม่เชื่อ และไม่เปิดใจที่จะลองด้วย คนประเภทนี่คุยเรื่องกาแฟไปก็เท่านั้นครับท่าจะคุยกันได้ไม่นาน555)
5.ผมอยู่เชียงใหม่มีร้านกาแฟเยอะมากกกกก หลายๆร้านใช้กาแฟวันละเกิน 1 กก.หลายๆร้านแยกโถเมล็ดร้อน-เย็น และหลายๆร้านที่ยอดขายเครื่องดื่มร้อนและเย็นใกล้เคียงกันครับ กลุ่มลูกค้าก็เวียนๆกันไป แต่ว่าส่วนมากก็เจอกันบ่อยๆครับ ทั้งๆที่ไม่ได้เจอในร้านเดียวกันตลอด ส่วนนึงมาจากการรวมกลุ่มกันของ ชมรมบาริสต้าและร้านกาแฟจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพของกลุ่มครับ ไม่รู้ว่าที่อื่นเขามีแบบนี้หรือเปล่านะครับ ว่างๆจะมารีวิวกิจกรรมเป็นระยะๆครับ
จากคุณ |
:
K-T-O
|
เขียนเมื่อ |
:
1 มี.ค. 55 02:20:23
|
|
|
|
 |