ความคิดเห็นที่ 1 มาดูส่วนที่ถือว่ายากที่สุดกันดีกว่า เรียกว่าหนามมงกุฏ ส่วนผสมมีแค่ เม็ดแตงโม น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ แต่ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงในการทำ ขนมชนิดนี้ถือว่ายากที่สุด ที่ต้องใช้ฝีมือจริงๆ ในการทำ ส่วนผสม เม็ดแตงโม  1/4  ถ้วย  น้ำตาลทราย  1/2 ถ้วย  น้ำลอยดอกมะลิ  1/2 ถ้วย หรือน้ำเปล่าแล้วหยดกลิ่นมะลิสังเคราะห์สัก 3 หยดลงไปก็ใช้ได้เหมือนกัน เริ่มต้นจากการทำส่วนผสมของน้ำเชื่อม ผสมน้ำและน้ำตาลทรายตั้งไฟปานกลาง อย่าคนบ่อย จนเดือนยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นๆ (เหตุผล ของการไม่คนน้ำเชื่อมบ่อยๆ จะขนมไทยอะไรก็แล้วแต่ที่มีความเข้มข้นของน้ำตาลทรายสูง มักจะตกทราย คือลักษณะคืนเป็นเม็ดน้ำตาล และแข็ง วิธีแก้ไข ก็คือเติมน้ำลงไปตั้งไฟใหม่ และอย่าคนบ่อย) จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:30:32

ความคิดเห็นที่ 2 มาเริ่มกวาดเม็ดแตงโมกันนะครับ เริ่มต้นเอาเม็ดแตงโม ใส่ในกระทะทอง ตั้งไฟอ่อนๆ ย้ำว่าใช้ไฟอ่อน เพื่อไม่ให้เม็ดแตงบวมขึ้น และสีเข้ม ดูไม่สวยงาม ใช้ปลายๆนิ้วทั้งห้า จุ่มลงในน้ำเชื่อมและสบัดลงบนเม็ดแตง เทคนิคคือเอียงข้างของกระทะทองมือซื้อจับหูกระทะ มือขวากวาดเม็ด และจะเป็นอะไรที่ร้อนมากๆ แต่ถ้าผ่านช่วงประมาณ 30 นาทีแรกผ่านไปความร้อนก็จะน้อยลงแล้ว แต่วิธีแก้ไข ลองใช้หลังเล็บดู พอแห้งก็เปลี่ยนมุนกลับตะแขงอีกข้าง อย่าลืมหาผ้าสักผืน สับน้ำหมาดๆ เช็ด ตรงที่เรากวาดตอนเปลี่ยนมุมกระทะด้วย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ครับ จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:33:32

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อมา มาเตรียมส่วนของฐานขนม หรือถ้าชื่อคำศัพท์ในเบเกอรี่ก็จะเรียกว่าแป้งพาย สูตรต้นตำรับจริงๆ จะไม่ใช้เนยสด แต่ปัจจุบันปรับสูตรเพื่อให้เข้ายุคสมัยเพื่อรสชาติทีดีขึ้น นะครับแป้งสาลีอเนกประสงค์ 190 กรัม ไข่แดงของไข่ไก่ 1 ฟอง แนะนำเป็นเบอร์ 1 หรือ 0 นะครับ น้ำเย็นจัด 1/4 ถ้วย เพื่อการจับตัวของแป้งที่ดี และเนยสดดชนิดจืด เริ่มจากร่อนแป้งสาลีลงอ่างผสม ผสมน้ำเย็นจัด และไข่แดงให้เข้ากัน ต่อมาใส่เนยลงในแป้ง ใช้ปลายนิ้วทั้งสองมือถูให้ทั่ว ถูเบาๆ ย้ำว่าถูเบาๆ เพราะเมื่อนิ้วของเราสำผัสกันจะเกิดความร้อนจากนิ้วมือ อาาจะเปลี่ยนเนยสดที่ยังเป็นเม็ดๆ กลายเป็นของเหลวทันที เทคนิคนี้ใช้ในเบเกอรี่เช่นกัน ถูจนเป็นเม็ดทั่วๆ ลักษณะคล้ายๆ เม็ดถั่วเขียว และก็ใส่ส่วนผสมของของเหลวลงไป ไม่ต้องนวดเยอะ ผสมพอจับตัวเป็นก้อน ห้ามนวดนาด และพักแป้งไว้ 10 นาที คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบาง สัก 2 มิล ใช้พิมพ์วงกลมกดลงไปแล้วกรุใส่ถ้วยตะไล และในถ้วยก็แนะนำให้ทาเนยขาวบางๆ ไม่ต้องเยอะที่ก้นถ้วยเผื่อเวลาอบเสร็จแป้งจะได้ไม่ติดกับก้นถ้วย เทคนิคที่สำคัญก็มาถึง คือการเอาไม้จิ้มเล็กๆ จิ้มไปที่กนถ้วยให้ถั่ว เพื่อเวลาอบ จะช่วยลดแรงดัดของเนยกับน้ำขึ้น เพราะจำทำให้เป็นปุ่มๆ ฟองอากาศขึ้น ถ้าไปถ้วยพายของเบเกอรี่ก็จะมีเม็ดถั่วใส่ลงไปรองด้วยกระดาษไข เพื่อไม่ให้แป้งดันขึ้น อบไฟล่างบน ที่ 150 องศา c เวลา 20 นาที อบเสร็จก็เอาตัวแป้งออก พักให้เย็นบนตระแกรง จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:42:01

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วอบเสร็จ หน้าตาก็เป็นแบบนี้ ลักษณะที่ถูกต้อง ตามที่บันทึกไว้ในตำราอาหาร จะต้องเอียง 45 องศา เพื่อความสวยงามเวลาติดเม็ดแตงโมลงไป จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:42:54

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อมา คือส่วนสำคัญอีกเช่นกัน คือตัวขนมทองเอก สูตรนี้สามารถนำไปใช้ได้กับขนมทองเอก และเสน่ห์จัน เช่นกัน แป้งสาลีอเนกประสงค์ (คั่วไฟอ่อนให้สุกก่อน) 285 กรัม ไข่แดงของไข่ไก่ 12 ฟอง (ไข่ขาวที่เหลือก็สามารถนำไปทำสังขยาได้นะครับ) กะทิ 600 กรัม น้ำตาลทราย 400 กรัม สีผสมอาหารสีเหลืองไข่ 1/2 ช้อนชา เริ่มต้นจากการนำกะทิกับน้ำตาลทรายไปตั้งไฟให้น้ำตาลทรายละลาย ถ้ามีเศษผงอะไรก็กรงด้วยผ้าขาวบางสักครั้งหนึ่งก่อน เคี่ยวต่อลดเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคียวจนเป็นยางมะตูมลักษณะสีจะคล้ายๆ นมข้นหวาน เสร็จแล้วก็ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้อุ่น ใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ผสมให้เข้ากัน ถ้าน้ำกะทิยังร้อนอยู่เวลาใส่ไข่ลงไป จะทำให้ไข่แดงสุกเป็นก้อน ต้องรอให้เย็นๆๆ ก่อนนะครับ ใส่สีผสมอาหาร ต่อมาก็ใส่แป้งสาลีที่คั่วแล้ว ผสมให้เข้ากัน ตั้งไฟ กลางค่อนข้างอ่อน กวนจนจับตัวเป็นก้อนหลุดร่อนออกจากกระทะ ทิ้งไว้ให้เย็นๆ นำไปอบควันเทียน จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:48:01

ความคิดเห็นที่ 6 นำแป้งมาปั้นให้เป็นก้อนกลม เกลี้ยงจุมน้ำเชื่อมเล็กน้อยที่เหลือจากการทำนามมงกุฏที่ก้นขนมติดลงไปที่ฐานและติดเม็ดแตงโม เจ็ดเม็ด ให้ทั่วจุ๋มปลายเม็ดด้วยน้ำเชือม วางห่างเท่าๆ กัน ใช้สันมีดกรีดเป็นล่อง เหมือนเม็ดมะยม ปั้นแป้งเล็กๆ ติดที่หน้าขนม ติดทองคำเปลว ย้ำว่าทองคำเปลวแท้ 100% ปลอดภัยสามารถปริโภคได้ จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:50:18

ความคิดเห็นที่ 7 ทองเอกกระจัง จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:50:48

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ถ้าใครทำแล้วจะรู้ว่าเป็นขนมที่ใช้เวลาทำนานมาก แต่ถ้าทำขายก็สามารถอัปราคาได้แพงเช่นกันนะครับ จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:51:59

ความคิดเห็นที่ 9 ขนมทองเอก สูตรเดียวกัน แค่เปลี่ยนหน้าตา เอามาอัดใส่พิมพ์ จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:53:25

ความคิดเห็นที่ 10 ขนมเสน่ห์จัน สูตรเดียวกัน บางสูตรก็เคยเจอก็จะมีการนำเอาผงลูกจันป่นมาใส่ แต่ทำแล้วสส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบกลิ่นของผงลูกจันป่นเท่าไหร่ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:54:32

ความคิดเห็นที่ 11 ฝากหน้าแฟนเพจไว้ด้วยนะครับ ผมเป็นคนที่ชอบทำเบเกอรี่ และขนมไทยมาก โดยเฉพาะขนมไทย ถือว่ามีเสน่ห์ และยิ่งงานสายโรงแรม หาคนที่จะทำขนมไทยค่อนข้างยาก เพราะกรรมวิธีการทำยากกว่าเบเกอรี่ซะอีก แต่ผมอยากสืบทอด ใครมีอะไรแนะนำก็บอกนะครับ http://www.facebook.com/iamchefindyfanclub จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:59:01

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบมากค่ะขนมนี้ หาทานยากมาก จากคุณ : nisa_vanilla เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 01:03:56

ความคิดเห็นที่ 13 หาทานยากแล้วครับ ยิ่งหน้าตา รสชาติแบบต้นตำรับ แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 01:33:16 จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 01:32:40

ความคิดเห็นที่ 14 ดีจังค่ะ รายละเอียดแน่น จากคุณ : jeeper (jeeper) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 04:46:18

ความคิดเห็นที่ 15 ชื่นชมค่ะ จากคุณ : สาวขอนแก่น (makai) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 06:42:15

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณที่คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของขนมไทย แต่อยากกินขนมหน้านวลด้วยค่ะ หากินยากมากๆ จากคุณ : ซอกงซาล เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 07:39:34

ความคิดเห็นที่ 17 น่าทานจัง ปล. ทองเอกกระจัง กับ จ่ามงกุฏเป็นคนละอย่างกันนะคะ อ้างอิง http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=363 จากคุณ : แม่ดำด่าง (Viradee) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 10:55:34

ความคิดเห็นที่ 18 ใช่ๆ จริงๆแล้วเราเรียกชื่อขนมชนิดนี้ผิดมาตลอด ขนมนี้ จะเรียกว่าทองเอกกระจัง หรืออีกชื่อว่าดาราทอง ขนมจ่ามงกุฏ ลักษณะจะห่อในใบตอง จากคุณ : iamchefindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 11:02:06

ความคิดเห็นที่ 19 อยากเห็นรูปจ่ามงกุฏตัวจริงว่าหน้าตาเป็นยังไงจังครับ จากคุณ : Pipy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 11:15:35

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบกินขนมไทย แต่หาอร่อยๆยากจริงๆ ตามไป like แล้วค่ะ จากคุณ : chanis เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 11:44:50

ความคิดเห็นที่ 21 ทำออกมาได้น่าทานมาก เก่งจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : แม่ฟลุ๊กกะเฟียต เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 11:47:55

ความคิดเห็นที่ 22 รูปค่ะ ^^ จากคุณ : * Ju TaRo * เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 12:55:00

ความคิดเห็นที่ 23 ขนมเสน่ห์จัน ไม่ใสผงลูกจันป่น คงเหมือน ขนมกล้วมไม่ใส่กล้วย จากคุณ : boing007 เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 14:54:17

ความคิดเห็นที่ 24 น่าทานจัง.. จากคุณ : มณีรินค่ะ เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 18:02:11

ความคิดเห็นที่ 25 ไอ้ที่เหมือนมงกุฎก็ดันไม่ใช่จ่ามงกุฎ  ไอ้ที่ชื่อจ่ามงกุฎก็ไม่มีองศาไหนสอดคล้องกับชื่อเลย ให้มันได้หยั่งงี้ จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:34:37