ความคิดเห็นที่ 1 เห็นคำว่าขี้เกียจ เลย ขี้เกียจตอบเลย โว๊ะ!!! จากคุณ : minkexotic เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:46:02

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นแกงเผ็ดที่ต้องนำเครื่องแกงไปผัดกับน้ำมัน หรือ หัวกะทิ ก่อน แนะนำให้ใส่กะปิตำลงไปกับเครื่องแกง เพราะจะได้ผัดเครื่องแกงที่มีกะปิผสมอยู่  ถ้าใส่กะปิตอนผัดเครื่องแกง กะปิเป็นก้อนจะขยี้ให้ผสมกับเครื่องแกงได้ยาก การผัดเครื่องแกงทำให้เครื่องแกงหอม ถ้าเป็นแกงที่ใส่น้ำ พวกแกงป่า แกงพริกทั้งหลาย ใส่กะปิตอนหลังได้ เพราะไม่มีการผัดเครื่องแกง จากคุณ : swin เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:46:07

ความคิดเห็นที่ 3 ใส่ลงไปในครกตลอดค่ะ จะได้เข้ากันได้ดี จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:56:59

ความคิดเห็นที่ 4 ตำพริกในครก แล้วไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจานเหรอคะ ล้างแค่น้ำเฉยๆได้เหรอคะ ต้องตำผสมกันคะ ไม่งั้นมันไม่เข้ากันนะคะ จากคุณ : sweetmeringue เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:25:18

ความคิดเห็นที่ 5 ก็น่าจะได้ค่ะ แต่คุณต้องหาวิธีที่จะทำให้กะปิเข้ากันกับแกงนั้นๆค่ะ ถ้าจะถามว่ามันทำให้ความอร่อยลดลงหรือไม่  ขอตอบว่าไม่หรอกค่ะ เพราะกะปิเป็นส่วนหนึ่งของพริกแกงคงไม่ทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลงไปเท่าไร.. แต่ที่เขาต้องตำกะปิลงไปพร้อมพริกแกงก็เพราะในกะปิเองอาจมีส่วนเกินที่ติดมาหรือกะปิไม่ละเอียดพอ(กะปิในสมัยโบราณ)ถ้าเราตำแล้วจะได้ไม่เกิดปัญหาค่ะ การตำพริกแกงในสมัยนู้นนนน....จึงต้องตำกะปิผสมลงไปด้วยค่ะ และนิยมทำกันมาถึงสมัยนี้แหละค่ะ.. ปล.การล้างครกด้วยน้ำเปล่า อาจทำให้ไม่สะอาดพอนะคะ อาจมีเศษสิ่งของติดตามรอยของครก ถ้าล้างด้วยน้ำยาล้างจานจะทำให้สะอาดขึ้น เพราะเราต้องล้าง 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อยค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 16:42:14 จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:40:27

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่จำเป็นค่ะ เพราะปกติเราซื้อเครื่องแกงเพราะไม่มีเวลาตำเองทุกมื้อ เวลาแกงเราก็ตักเครื่องแกงใส่ ตักกะปิใส่ แล้วก็คนให้มันละลายเข้ากัน นอกจากว่าวันไหนอยากได้เผ็ดพิเศษตำพริกเพิ่ม ครกเปื้อนแล้วเราถึงจะเอากะปิลงไปตำรวม จากคุณ : บ้านฟ้าซอย 5 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:59:57

ความคิดเห็นที่ 7 - ถ้าเป็นแกงส้ม ตักกะปิลงในหม้อได้เลยค่ะ ไม่ต้องรวมกับเครื่องแกงก็ได้ เพราะมันจะไปละลายกับน้ำในหม้ออยู่ดี - ถึงแม้จะเอากะปิลงครก ก็ล้างน้ำเปล่าได้ค่ะ ไม่ได้เหม็นหรือมีกลิ่นขนาดรับไม่ได้ค่ะ จากคุณ : ลมก็อวลแต่กลิ่นมณฑาทอง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:36:21

ความคิดเห็นที่ 8 กะปิในปัจจุบัน อาจไม่ได้ใช้ตัว"เคย"มาหมักแบบแต่ก่อน หลายแห่งลดต้นทุน โดยการใช้กุ้งธรรมดานี่แหละ มาทำ สังเกตุจากในน้ำแกงจะมีก้อน ขาวๆ เป็นลิ่มๆ นัั่นก็คือ เนื้อกุ้งธรรมดา ซึ่งไม่มีความหอมเปรี้ยว กะปิดี ในอดีต ในกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม มีขั้นตอนการใช้"ฝ่าเท้า" นวดบดด้วยอ่ะ แต่ผลผลิตที่ได้มาอร่อยหลาย บรรดาแกงกระทิทั้งหลาย น่าจะใส่กะปิลงในครก ก่อนโขลกบด เมื่อมีน้ำกะทิเข้าไปทำละลายแล้ว จะซด จะซู๊ด จะช่วยทวีความหอมกลมกล่อมยิ่งขึ้น จากคุณ : ภักษาภิรมย์ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 19:06:29

ความคิดเห็นที่ 9 มาว่ากันเรื่อง"ก้นครก" และการล้างครก ผู้ใหญ่ ญาติโยม ที่บ้าน กระซิบทีเด็ด เคล็บลับ ว่าให้เอาน้ำ"ล้างครก" ที่มี พริกแกงอยู่ ยกเทลงใส่หม้อแกงเลย จะยิ่งอร่อยเหาะขึ้น ส่วนครกจะล้างเองหรือให้ใครล้าง อันนี้ผมไม่รู้ด้วยนะ จากคุณ : ภักษาภิรมย์ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 19:15:13

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ ครับ ถ้าตำเฉพาะพริก กับกระเทียม โดยไม่ใส่กะปิ ผมไม่ค่อยจะใส่น้ำยาล้างจานลงไปล้าง เพราะคิดว่ามันล้างยาก เนื่องจากครก อาจมีรูพรุน และทำให้ชำระล้างน้ำยาล้างจานออกลำบาก วันไหนใช้น้ำยาล้างจานกับครกขึ้นมาทีนึง ผมจะล้างน้ำนานนนนน มากครับ เลยใช้แค่น้ำเปล่าครับ ผมอนามัยจัดนะครับ อย่าได้เข้าใจผิดว่าขี้เกียจแล้วจะสกปรกนะครับ :-) จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 19:28:32

ความคิดเห็นที่ 11 คราวหน้ากลับบ้านจะเอาแกงส้มปักษ์ใต้มาอวดนะคะ จากคุณ : ลมก็อวลแต่กลิ่นมณฑาทอง (ลมก็อวลแต่กลิ่นมณฑาทอง) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:45:32

ความคิดเห็นที่ 12 "น้ำล้างครก" นี่แหละทีเด็ดครับ สูตรจากคุณยายสู่แม่ จากแม่สู่ผม เล่ายาวครับ ^^ จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 21:49:52