|
8. ทราบมาว่าคุณผึ้งเรียนทั้งหมดสองปี ตอนนี้ผ่านมาแล้วหนึ่งปี เล่าความรู้สึกที่ได้ร่ำเรียนมาตลอดหนึ่งปีให้ฟังได้มั้ยครับ
ขอยกบทความที่เคยลงในเฟซบุคมาให้อ่านเลยก็แล้วกันนะคะ
อีกไม่กี่วันก็จะจบการศึกษาปีแรกที่ซือจิแล้ว เร็วมากกกกกกกก ยังจำได้อยู่ว่าเดือนแรกๆของการเรียน การเป็นเด็กต่างชาติท่ามกลางเด็กญี่ปุ่น มันเซ็ง มันน้อยใจ มันรู้สึกโดนแบ่งแยกยังไงก็ไม่รู้ คิดไปเองว่าเค้าไม่อยากคุยด้วย เค้าเห็นเราเป็นกะเหรี่ยง แรกๆยังไม่มีเพื่อน ต้องนั่งกินข้าวกลางวันคนเดียว ก็ไม่กินมันซะเลย นน.หายไป ผอมลงจนมีแต่คนทัก (แต่ตอนนี้กลับมาครบถ้วนแถมเกินๆด้วย) ทำขนมต้องทำเป็นกลุ่ม เวลาเพื่อนจะถามอะไร หันมาแล้วพูดว่า นี่ๆ แต่พอเห็นว่าเป็นเรา ก็จะรีบหันไปเลือกถามคนอื่นแทน หรืออะไรที่ถามออกมาแล้วเราตอบ เค้าก็ต้องไปถามคนอื่นซ้ำเพื่อความชัวร์ รู้สึกเสียกำลังใจมากมาย เดือนแรกๆไม่อยากไปโรงเรียนเลย.... นี่เหรอ การเรียนทำขนมที่เรารอคอย ทำไมมันไม่สนุก มันไม่มีความสุขเลย อาจารย์พูดอะไร จับใจความได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ จากปกติที่เป็นคนเข้าใจอะไรง่าย กล้าถาม ทำอะไรเร็ว ออกแนวเป็นคนนำ กลายเป็นเงอะๆงะๆ จะต้องทำอะไรยังไงก็ไม่รู้ อึดอัดสุดๆ แต่ยิ่งผ่านไป อะไรๆมันก็ดีขึ้น พอเริ่มปรับตัวได้ รู้ระบบในห้องทำขนม มันก็เริ่มลื่นไหล เพื่อนๆ เริ่มเข้ามาคุยด้วย คือเค้าไม่ได้ไม่อยากคุยด้วย แต่เราเป็นต่างชาติ เค้ากลัวคุยด้วยไม่รู้เรื่อง พอมีหนึ่งคนเริ่มเข้ามาคุย คนอื่นๆก็เข้ามาตาม และด้วยความที่ทุกคนเป็นเด็กน้อย (เฉลี่ยอายุ 18 ขวบ) ก็จะบ๊องๆฮาๆกัน จากสามเดือนแรกที่เงียบมาก....ก็เริ่มเปิดเผยตัวตน 55555 ตอนนี้มีความสุขมากมาย เริ่มสนิทกับเพื่อนๆ ขนาดจับตูด จับนมกันได้ (ดรรชนีวัดความสนิทของเรา) (ปล. เด็กญี่ปุ่นตัวเล็กนมโต) แต่แล้วก็ได้รับข่าวร้ายว่าปีหน้าจะมีการสลับสับเปลี่ยนห้อง แซดเลย พอสนิทก็มาโดนจับแยกซะงั้น ปีหน้าจะเรียนโหดกว่านี้เยอะ และมีการสอบบัตรที่คนทำขนมกับอาหารจะต้องมีไว้เพื่อการสมัครงาน ซึ่งยากมากมาย สอบไม่ผ่านกันเยอะแยะ กะเหรี่ยงไม่หวังจะผ่าน แถมผ่านไปก็ใช้ว่าจะได้ใช้ เพราะเค้าพูดไว้ตั้งแต่สัมภาษณ์เข้าโรงเรียนเลยว่า ต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่าจบจากที่นี่ ไม่ใช่จะหางานที่ญี่ปุ่นได้ ก็เข้าใจนะ นักเรียนเยอะมาก เค้าก็ต้องเลือกดันเด็กญี่ปุ่นอยู่แล้ว ต่างชาติต้องมาเสียเวลาทำวีซ่า ดำเนินการโน่นนี่ ถ้าไม่ใช่ร้านใหญ่ๆเค้าคงไม่มาเสียเวลาทำให้เรา เอาเป็นว่า ปีหน้าก็สู้ต่อปายยยยยยยยนะโอชิน!! ปล. วันนี้ผลสอบข้อเขียนออก อยากจะบอกให้เจ๊ยองรู้ เลยเอาชื่อวิชามาลองแปลเป็นภาษาอังกฤษดู ได้ดังนี้ Sanitary Law, Public Health, Food Science, Food Hygiene, Nutrition Science, Sociality, Dessert theory เจ๊ดดดดด เพิ่งรู้ตัวว่าเรียน food science ด้วยอ่ะ 555555
นั่นแหละ จริงๆมันขึ้นอยู่กับนิสัยของแต่ละคนด้วยนะ บางคนอัธยาศัยดี เข้าไปอาจจะมีเพื่อนเลยก็ได้ค่ะ
ที่จริงเพื่อนๆเค้าจะเห็นเด็กต่างชาติเป็นคล้ายๆดารานะ 555 อยากคุยนะ แต่ไม่กล้าเข้าหา
เพราะฉะนั้น ขอแนะนำให้เข้าหาเค้าก่อนได้เลย
อาจจะคุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่นานๆไปก็จะพัฒนากันขึ้นไปเองค่ะ
จากคุณ |
:
เถียร
|
เขียนเมื่อ |
:
13 มี.ค. 55 22:25:09
|
|
|
|
|