ความคิดเห็นที่ 1 ปัจจัยเรื่องความอร่อยก็มีผลครับ หลายคนเลือกทานร้านที่อร่อยกว่า และยินดีที่จะจ่ายเพิ่มในราคาแพงกว่าที่ยอมรับได้ จากคุณ : เขาวานให้หมูเป็นสายลับ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 23:42:00

ความคิดเห็นที่ 2 อร่อย เพราะ ผงชูรส หรือ สารปรุงแต่งรส ทั้งนั้น มะเร็งรออยู่ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:13:22

ความคิดเห็นที่ 3 ๑ อิ่มก๋วยเตี๋ยวตอนเที่ยง บ้านเรา(เราต้องเบิ้ล แห้ง น้ำ) แพงกว่าไต้หวันอีกอะ เกือบเท่า สิงคโปร์ มาเก๊า เลย แต่รายได้เราห่างลิบ จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:42:44

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้มาดูแถวสะพานพุทธฯ ฝั่งธน ตอนค่ำ ๆ จะมีราดหน้าราคา จานละ 10 บาท กระเพรา + ไข่ดาว จานละ 15 บาท พิเศษ 20 บาท ก๋วยจั๊บ 20 บาท ราคาแสนถูก ถ้าจะให้อิ่มมาก ๆ และต้องทาน 2 จาน ราคารวมกันแล้วก็ยังเห็นว่าถูกอยู่ดี จากคุณ : ช่อมะลิทองเพชร เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:55:21

ความคิดเห็นที่ 5 ด้วยความเคารพ จขกท. "กะเพรา" ครับ ไม่ใช่ "กระเพรา" เอาแบบเจาะลึกนะครับ case study จากร้านอาหารตามสั่งหน้าร้านผมเอง หมู กิโลละ 120 บาท = ขีดละ 12 บาท ข้าวผัดกะเพรา 1 จานใช้หมูประมาณ 60 กรัม ต้นทุนหมูประมาณ 7.20 บาท   ข้าว ต้นทุนค่าข้าวสารรวมค่าไฟหูงประมาณ 2 บาท/จาน ค่าแก๊สในการผัด ตกจานละ 2 บาท เครื่องปรุง น้ำมันพืช  ซอสปรุงรส น้ำมันหอยพริก กระเทียม พริกไทย ผงชูรส ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ใบกะเพรา พริกน้ำปลา ตีซะ 5 บาท ค่ารถไปซื้อของถ้าไม่มีรถส่วนตัว วันละ 100 บาท (ไป-กลับ) ขายได้ 100 จาน = จานละ 1 บาท ค่าแรงงานลูกจ้าง (เตรียมของ+ล้างจาน) ตีต่ำสักวันละ 150 บาท ใช้ลูกจ้าง 3 คน วันละ 450 บาท ติ้งต่างว่าขายได้วันละ 100 จาน = ต้นทุน 4.5 บาทต่อจาน ค่าน้ำค่าไฟ (น้ำ+ น้ำยาล้างจาน+แสงสว่าง) ตีให้วันละ 30 บาท ขายได้วันนึง 100 จาน ตกจานละ 3.3 บาท หากไม่รวมค่าเช่า เข้าผัดกะเพราแบบไม่มีค่าเช่า ไม่มีไข่ดาว ต้นทุนจานละ 7.20 + 2 +2 + 5 + 1 + 4.5 + 3.3 = 25 บาท อันนี้เป็นราคาที่ยังไม่นับรวมค่าตัวเจ้าของร้าน (พ่อครัว) นะครับ ค่าตัวตีซะวันละ 300 บาท (2 เท่าของลูกจ้าง) ขายได้วันละ 100 จาน ค่าแรงพ่อครัวตกจานละ 3 บาท 25 + 3 = 28 บาท ตั้งราคาขายจานละ 30 บาท กำไรต่อจาน 2 บาท 100 จาน = 2x100 = 200 บาทเป็นกำไรสุทธิต่อวัน ขายแบบไม่มีวันหยุด 1 เดือน 200x30 = กำไร 6,000 บาท ถ้ามีค่าเช่าวันละ 100 บาท = เดือนละ 3,000 บาท กำไรต่อเดือนจะเหลือ 3,000 บาท ตัวเลขดังกล่าวคิดจากขายได้ วันละ 100 จาน นะครับ ถ้าขายไม่ถึงเป้านี้ นอกจากจะไม่ได้กำไรแล้ว ยังมีโอกาสเหนื่อยฟรี + เข้าเนื้อด้วยครับ ถ้าเป็นคุณ จะตั้งราคาขายข้าวกะเพราหมู จานละเท่าไหร่ดีครับ *แก้คำผิด* แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 02:57:05 จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 02:38:42

ความคิดเห็นที่ 6 1. ค่าเช่าแพง 2. ต้องการกำไรมากๆ คุณ Are Yoi ถ้าคำนวณอย่างที่ว่ามา ผมสงสัยว่า ทำไมบางร้านตั้งราคาถูกได้ละครับ เพราะที่ผมเคยทานตามร้านอาหารทั่วๆไป กะเพราะหมูสับ ไม่ไข่ดาว จานละ 30 บาทยังมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย ทำไม ข้าวแกงตามมหาลัยถึงขายราคาถูกได้ แถมพูนๆจาน วันก่อนไปกินที่โรงอาหาร มธ สั่งขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ ไข่อีกครึ่งใบ ออกมาจานเบ้อเริ่ม จานละ 25 บาท (ถ้าจำไม่ผิด จำได้แต่ว่า ทำไมคิดถูกจัง) ที่ราคาแพงๆส่วนใหญ่ เป็นร้านห้องแถว มีหน้าร้านของตัวเอง หรือพวกในห้างแหละครับ ค่าเช่าแพง ต้องการกำไรเยอะๆ เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มมีรายได้ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 09:00:22

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าค่าสถานที่นะทำให้อาหารในห้างแพงกว่าข้างนอก    ถ้าเป็นผมจะเก็บค่าสถานที่เฉพาะค่าน้ำค่าไฟ   แต่ที่ได้คือมีลูกค้ามาเดินในห้างมากๆ   ดีกว่าคนมาเดินโหรงเหรง จากคุณ : เฒ่าเทคโน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 10:01:42

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่มีอะไรมาก ขายแพงเพราะอยากรวยเร็วเท่านั้นเอง ที่บ้านผมขายราคาเดิมไม่ได้ปรับมา 15 ปีแล้ว ของขึ้นบ้างลงบ้างกำไรถัวเฉลี่ยกัน จากคุณ : tb เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 12:03:38

ความคิดเห็นที่ 9 #6 คุณ LAPD21 ปัจจัยที่แตกต่างครับ ร้านอาหารตามมหาลัย อาจมีรายจ่ายและยอดขายที่ต่างกันครับ - ค่าเช่าที่ถูกกว่า? - ค่าน้ำค่าไฟที่ถูกกว่า? - ลูกจ้างไม่ต้อง หรือ ใช้ญาติพี่น้อง ที่ค่าจ้างต่ำกว่า? - ยอดขายที่สูงกว่า? *อันนี้สำคัญ* จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 12:39:45

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ข้างบนคำนวณผิด "ค่าน้ำค่าไฟ (น้ำ+ น้ำยาล้างจาน+แสงสว่าง) ตีให้วันละ 30 บาท ขายได้วันนึง 100 จาน ตกจานละ 3.3 บาท" >>> ต้องเป็น 0.30 บาท ถึงจะถูก (30/100=0.30) "หากไม่รวมค่าเช่า เข้าผัดกะเพราแบบไม่มีค่าเช่า ไม่มีไข่ดาว ต้นทุนจานละ 7.20 + 2 +2 + 5 + 1 + 4.5 + 3.3 = 25 บาท" >>> ต้องเป็น 7.20+2+5+1+4.5+0.3 = 20 บาท แต่เราว่าที่ขายแพงเพราะ "ถ้าขายแพงได้แล้วทำไมต้องขายถูก" อย่างนี้มากกว่า คหสต จากคุณ : โฮลิก เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 15:15:52

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 7 MsgStatus(Msv[7], 7); ผมว่าค่าสถานที่นะทำให้อาหารในห้างแพงกว่าข้างนอก    ถ้าเป็นผมจะเก็บค่าสถานที่เฉพาะค่าน้ำค่าไฟ   แต่ที่ได้คือมีลูกค้ามาเดินในห้างมากๆ   ดีกว่าคนมาเดินโหรงเหรง จากคุณ : เฒ่าเทคโน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 10:01:42 ,ที่คิดแบบนี้ ก็เพราะไม่มีห้างเป็นของตนเองน่ะสิ ห้างที่เล่นตัวได้ ใครๆก็จ้องเข้าไปเซ้ง ไปเช่า   ในห้าง หัก 35 เปอร์เซ็นต์แน่ะ ขายได้100 นึง เอาคูปองไปขึ้นเงินได้แค่ 65บาท แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 19:41:50 จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:26:05

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 5 ว่าจะเข้ามาตอบ วิธีการคำนวณคุณ มันเข้าข้างคนขายไปหน่อย เผอิญ ความคิดเห็นที่ 10 คุณโฮลิก ตอบไปแล้วครับ ผมเสริม คุณ โฮลิก นิดเดียวตรงที่ ร้านข้าวแกงบนฟุตบาทเนี่ย ลูกจ้างคนเดียวก็เกินพอแล้วครับ นี่คุณเล่นซะ 3 คน มันหนักไป ถ้าลูกจ้างคนเดียว 4.5 จะเป็น 1.5 ราคาต้นทุนจะเป็น 17 บาทครับ เคยไปกินก๋วยเตี๋ยวรถเข็นตอน ตี 2 ที่สำเพ็ง ร้านนี้ ให้ตะเกียบใช้แล้วทิ้ง แถม ชามก็ชามโฟมใช้แล้วทิ้ง อร่อยมาก ถามเขา ๆ บอกว่า ไม่ต้องเปลืองลูกจ้างมาล้างจาน ขายเสร็จตอนเช้าตรู่ ก็ เอาขยะไปทิ้ง เข็นรถเข็นกลับบ้านนอน ราคา ชามละ 25 บาท ครับ จากคุณ : โบกกรัก เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:35:52

ความคิดเห็นที่ 13 ศูนย์อาหารในห้างมาตรฐาน พวกจานชาม ช้อน โต๊ะเก้าอี้ สะอาดกว่าร้านตึกแถวข้างถนนนะ แอร์ก็เย็น น้ำปลาพริก เครืองปรุง ก็สะอาดสะอ้าน มีทิชชู่ให้ใช้อีกต่างหาก ราคาก็ไม่ต่างจากร้านข้างนอกเท่าไหร่นะ แต่ปัญหาคือ ส่วนใหญ่มันไม่อร่อย จากคุณ : like_that เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:36:08

ความคิดเห็นที่ 14 ขออภัยที่คำนวนผิดบางข้อนะครับครับ ^^" เคสที่ยกตัวอย่างมา เกิดจากการพูดคุยปรับทุกข์กับ จขร. ตามสั่งหน้าร้าน ตัวเลข 100 จาน เป็นแค่ตัวเลขสมมุติครับ ในความเป็นจริงเค้าขายได้วันละหลายร้อยจานอยู่นะ เค้าขายตั้งแต่ 11 โมงเช้า ถึง ตี 1 ครับ ร้านอยู่ปากซอยโชคชัย 4-55 ส่วนร้านผมก็ร้านเหล้า บาร์พูล ที่อยู่ตรงร้านเค้านั่นแหละ ลูกจ้าง 3 คน 2 กะ บางจุด อาจดูตัวเลขต้นทุนสูง แต่ข้าวตามสั่งเค้า ไม่ว่าผัดกะเพราหรือผัดคะน้า ฯลฯ ธรรมดา 30 พิเศษ 35 -40 (ไข่ดาวด้วย) ปริมาณไม่ขี้เหร่ ถ้าบาง คห. สามารถทำข้าวผัดกะเพราต้นทุนต่อจานๆละ 17-20 บาทได้จริง และ ปริมาณอาหารในจานสมเหตุสมผล (อีกทั้งได้เกำไรในจุดที่พอใจขาย) ยอดขายสำคัญมาก ถ้าทำอร่อยยอดขายเยอะ เช่นขายได้วันละ 1,000 จาน up ถึงขายจานละ 25 บาท คุณก็ยังได้กำไรจานละ 5-8 บาท ขายวันละ 1 พันจาน ก็กำไรวันละ 5-8 พันบาท ที่ยกตัวอย่างลูกจ้าง 3 คน พ่อครัว (จขร. มือผัด) + เก็บตังค์ ลูกจ้างคนที่ 1. มือรอง หั่น ล้าง เตรียมของ เตรียมผัก กะปริมาณเนื้อ พร้อมผัด จานต่อจาน + หูงข้าว และสามารถผัดกับข้าวแทนได้ตอน จขร. ไปทำธุระส่วนตัว ลูกจ้างคนที่ 2. มือเสริฟ เสริฟ เก็บจาน เช็ดโต๊ะ ตักน้ำแข็ง กรณีสั่งกลับบ้าน คอยรับ order จัดคิวให้มือรอง จัดของใส่ถุง และวิ่งซื้อของเวลาของขาด ลูกจ้างคนที่ 3. มือล้าง ล้างๆๆ และ ล้าง การตั้งราคา หากคนซื้อรู้สึกว่าคุ้ม คนขายมีกำไร  นั่นก็ win - win ครับ   *ด้วยความเคารพทุกความเห็นครับ* จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 03:07:41

ความคิดเห็นที่ 15 เคลียร์ละครับ เรื่องมันจึงอยู่ที่ว่า ต้นทุนด้านอื่น ๆ ที่จะต้องนำส่วนต่างระหว่าง ราคาตุนทุนจริง กับ ราคาขาย ไปคิด เช่น ราคาข้างถนน ไม่ต้องเช่าใคร หรือ ร้านข้างถนนที่ขายในตึกแถวเช่าเขาเดือนละ หมื่น หรือ ร้านในห้างที่โดนชักเปอร์เซนต์ เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : โบกกรัก เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 18:20:51

ความคิดเห็นที่ 16 บางร้านขายในที่ของตัวเอง ก็ยังขายแพง  ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากได้กำไรเยอะๆ ทำมาบ่นว่าของแพงๆ  ลูกค้าก็จ่ายตลาดก็รู้ราคาของสดอยู่  ข้าวจานนึงผักน้อยเดียว เนื้อสัตว์ไม่กี่ชิ้น จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 20:58:37

ความคิดเห็นที่ 17 ค่าที่ตั้งร้านกับค่าลุกจ้าง ไงครับ ค่าลูกจ้างอย่างต่ำก็คนละ6-8 พัน ค่าทีเลดีหลายหมื่อนต่อเดือน พวกต้นทุนวัตถุดบก็สูงอยู่แต่ไม่มากกว่า ค่าใช้จ่าย 2 ส่วนหรอกครับ จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 14:02:51

ความคิดเห็นที่ 18 ^^กินประจำ จากคุณ : panthitra_wat เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:17:00