ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยแวะทานข้าวที่นี่ แต่เท่าที่สังเกตุเห็น ตลอดความยาวของจุดพักรถ ร้านอาหารซ้ำกันหลายร้านเหมือนดักหัวกลางท้าย ตั้งแต่มีการตัดถนนใหม่หลายสาย การไปจันทบุรีใช้ระยะทางสั้นลง จำได้ว่าสมัยก่อน จากกรุงเทพฯถึงระยอง 222 กม.และถึงจันทบุรี 322 กม.แต่ปัจจุบันถ้าใช้มอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7)ซึ่งเริ่มต้นที่ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ สิ้นสุดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 90 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 ระยะทาง 50 กิโลเมตร และทางหลวงหมายเลข 3 อีก 108 กิโลเมตร รวมระยะทางจากกรุงเทพฯถึงจันทบุรี 248 กิโลเมตร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:20:10

ความคิดเห็นที่ 2 11.28 น.ก่อนตัวเมืองจันทบุรี 6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาที่แยกเขาไร่ยาเข้าถนนรักศักดิ์ชมูล ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรักศักดิ์ชมูล 24 เลียบกำแพงมหาวิทยาลัยฯ เข้าซอยไปประมาณ 500 เมตร ทางขวามือคือร้านอาหารชื่อปีระกา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:20:34

ความคิดเห็นที่ 3 จอดรถฝนเริ่มตกปรอยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกหนักหลังเดินเข้าร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:20:48

ความคิดเห็นที่ 4 ร้านตกแต่งเป็นสวนร่มรื่นสไตล์บาหลี นอกจากเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีห้องพักด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:21:07

ความคิดเห็นที่ 5 เครื่องดื่มมีทั้งน้ำดำและน้ำเปล่า ของตัวเองเป็นน้ำโซดา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:21:27

ความคิดเห็นที่ 6 มีเจ้าถิ่นมายืนคอยส่วนแบ่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:21:45

ความคิดเห็นที่ 7 จานแรกเนื้อปลากะพงผัดกระวาน 90 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:22:08

ความคิดเห็นที่ 8 เนื้อปลาทอดผัดพริกตำ ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกหนุ่ม ใบมะกรูด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:22:54

ความคิดเห็นที่ 9 และบางอย่างหั่นเป็นแว่น ที่ดูคล้ายหน่อกะลาซอย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:23:10

ความคิดเห็นที่ 10 แถมรสคล้ายหน่อกะลา แต่รสอ่อนกว่า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:23:32

ความคิดเห็นที่ 11 เจ้าสิ่งนี้คือเหง้าอ่อนของกระวานไทย ซึ่งจะมีต้นให้ดูในตอนที่ 3 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:23:54

ความคิดเห็นที่ 12 แกงส้มกุ้งไข่ชะอม 150 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:24:13

ความคิดเห็นที่ 14 น้ำแกงส้มเข้มข้นด้วยเนื้อปลาบด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:26:44

ความคิดเห็นที่ 15 เขยเมืองจันท์คนที่สามและภรรยาตามมาสมทบ รวมแล้วโต๊ะนี้ 17 คน เป็นหมอโรงพยาบาลรัฐ 4 คน หมอฟันเอกชนอีก 2 คน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:27:03

ความคิดเห็นที่ 16 ยำถั่วพูและผักกูด 90 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:27:59

ความคิดเห็นที่ 17 รสเผ็ดปานกลาง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:28:24

ความคิดเห็นที่ 18 ไก่ทอดเกลือ 90 บาท กรอบนอกติดเกลือบางๆไม่เค็ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:28:57

ความคิดเห็นที่ 19 ปลากะพงทอดน้ำปลา 220 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:29:26

ความคิดเห็นที่ 20 ปลาตัวใหญ่ทอดได้ดี ราดด้วยน้ำปลาปรุงรสหวานอ่อนๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:29:47

ความคิดเห็นที่ 21 มาพร้อมยำมะม่วงดิบและแครอทจานใหญ่ ที่คิดว่าเป็นอาหารอีกจาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:30:24

ความคิดเห็นที่ 22 สั่งข้าวเปล่าเป็นโถๆละ 70 บาท แต่เพิ่มข้าวผัดปูจานใหญ่อีกจาน 150 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:30:45

ความคิดเห็นที่ 23 อาหารสั่งแค่ 5 อย่าง แต่สั่งอย่างละ 3 ชุด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:31:10

ความคิดเห็นที่ 24 มื้อนี้เจ้าถิ่นมือไวแย่งจ่ายก่อน จากการที่ฝนตกหนัก ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนจากการขึ้นเขาคิชฌกูฏ ไปลุ้นเช้าวันอาทิตย์ เพราะฝนเพิ่งหยุดตก ถนนขึ้นเขารวมถึงทางเดินขึ้นเขาอาจลื่น ไม่ปลอดภัยสำหรับเหล่า สว. แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 55 12:36:54 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:31:31

ความคิดเห็นที่ 25 จึงเดินทางไปทางอำเภอท่าใหม่ เพื่อมุ่งหน้าไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนฯ ซึ่งเป็นทางเดียวกับทางไปหาดเจ้าหลาว ระหว่างทางแวะสะพานเฉลิมพระเกียรติ หรือสะพานปากน้ำแขมหนู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:31:54

ความคิดเห็นที่ 26 จอดรถชมวิวชิดทางเท้ากลางสะพาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:32:19

ความคิดเห็นที่ 27 สะพานเฉลิมพระเกียรติ (สะพานปากน้ำแขมหนู) ตั้งอยู่บริเวณชายหาดปากน้ำแขมหนู สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 กรมโยธาธิการได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 73 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 7 เมตร ยาว 645 เมตร พร้อมทางเดินข้างละ 1.50 เมตร ซึ่งสะพานแห่งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ มีประชาชนเข้ามาเที่ยวชมวิว ตกปลา และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามเย็น เนื่องจากในช่วงเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นการย่นระยะทางการเดินทาง ระหว่างตำบลตะกาดเง้าไปยังตำบลคลองขุด ที่มา : http://www.thaitambon.com/Tambon/ttrvprovtlist.asp?ProvCode=22&page=8 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:32:39

ความคิดเห็นที่ 28 เนื่องจากเป็นปากน้ำออกทะเล อาชีพของคนในแถบนี้จึงเป็นอาชีพประมง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:33:00

ความคิดเห็นที่ 29 โดยตั้งเป็นหมู่บ้านอยู่ทางด้านขวาของปากน้ำแขมหนู มองเห็นหลังคาโบสถ์ของวัดแขมหนู ทิวทัศน์ที่สวยงามของบริเวณนี้ เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำมิวสิควีดิโอด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:33:21

ความคิดเห็นที่ 30 14.22 น.ถึงศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เลี้ยวขวาเข้าไปจอดรถที่ลานจอดรถ  หน้าสะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน   สะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน  เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2539   โดยงานป่าไม้เป็นผู้สำรวจและออกแบบก่อสร้าง ตัวสะพานทางเดินสร้างด้วยไม้ตะเคียนทอง(Hopea odorata)   มีความยาวทั้งสิ้น 1,433 เมตร และยังมีส่วนที่เป็นทางเดินปูด้วยแผ่นหินทรายยาว 363 เมตร รวมเป็นระยะทางเดินศึกษาธรรมชาติทั้งสิ้น 1,793 เมตร จุดเริ่มต้นซุ้มประตูศาลาทางเข้าอยู่บริเวณ ด้านทิศใต้ของอ่าวคุ้งกระเบน  ห่างจากสำนักงานอาคารศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ฝั่งตรงข้ามถนนเพียง  200 เมตร เส้นทางเดินของสะพาน จะผ่านบริเวณสังคมพืชไม้เบิกนำจำพวกไม้แสม   ไม้ลำพู  แปลงเพาะชำกล้าไม้ แปลงปลูกป่าไม้โกงกาง แปลงศึกษาวิจัย ข้ามสะพานแขวน ไปสู่ป่าธรรมชาติ  ที่มีไม้โกงกางขนาดใหญ่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นสมบูรณ์ จากนั้นสะพานจะวกกลับ ผ่านแปลงทดลองการปลูกป่าชายเลนผสมผสานกับการเลี้ยงปลา ผ่านบ่อทดลองการเลี้ยงกุ้งทะเล ที่มีการรักษาสภาพแวดล้อมโดยระบบชลประทานน้ำเค็ม และไปสิ้นสุดที่ศาลาเชิงทรง ซึ่งอธิบายลักษณะของพื้นที่และพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ระหว่างรอยต่อป่าชายเลนและป่าบก บริเวณสะพานทางเดินได้จัดสร้างศาลาสื่อความหมายธรรมชาติ (Nature Interpretation)   และระเบียงหยุดพักชมธรรมชาติเป็นระยะๆ  เพื่อให้ผู้มาเยือนได้ศึกษาหาความรู้เรื่องราวของป่าชายเลน บนบอร์ดนิทรรศการ  พร้อมกับดูตัวอย่างจากของจริงบริเวณรอบ ๆ ศาลา จำนวนทั้งสิ้น 10 ศาลา ที่มา : http://www.fisheries.go.th/cf-kung_krabaen/forest.htm จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:33:45

ความคิดเห็นที่ 31 ศาลาปู่แสม ตรงกลางเป็นต้นแสมขาวอายุกว่าร้อยปี นายฉลวย เสนาะสรรพ์ อายุ 63 ปี ราษฎรตำบลคลองขุดเล่าว่า"ปู่เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่จำความได้ ปู่ก็เห็นปู่แสมยืนตระหง่านอยู่เช่นนี้แล้ว" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:34:03

ความคิดเห็นที่ 32 ต้นโกงกางมีทั้งต้นโกงกางใบเล็กและต้นโกงกางใบใหญ่ ช่วงที่ไปถึงอยู่ในช่วงน้ำลง แต่แทบไม่เห็นปูแสม ส่วนปูก้ามดาบและปลาตีนไม่เห็นเลย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:34:27

ความคิดเห็นที่ 33 เดินผ่านป่าโกงกางหนาแน่น ไปจนถึงทางเดินเลียบทะเลของอ่าวคุ้งกระเบน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:34:55

ความคิดเห็นที่ 34 ศาลาชมวิว เป็นศาลาที่สร้างยื่นออกไปในอ่าว สามารถมองเห็นแนวป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ ที่ทอดตัวเป็นแนวโดยรอบ ผู้มาเที่ยวชมจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านและชาวประมงขนาดเล็ก ที่ผูกพันอยู่กับผืนน้ำ และผืนป่าแห่งนี้ทั้งในยามน้ำขึ้นและน้ำลด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:35:13

ความคิดเห็นที่ 35 แวะถ่ายรูปหมู่กันที่นี่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:35:30

ความคิดเห็นที่ 36 "มาเที่ยวกับที่บ้านฮิ" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:35:49

ความคิดเห็นที่ 37 14.49 น.ออกเดินเข้าป่าโกงกางกันต่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:36:06

ความคิดเห็นที่ 38 ลูกโกงกาง เมื่อหลุดจากขั้ว ฝักปลายแหลมจะปักลงไปในดินเลน แล้วเจริญเป็นต้นโกงกางต้นใหม่ เป็นการปรับตัวตามธรรมชาติเพื่อการขยายพันธุ์ต่อไป เพราะถ้าไม่ปักลงในเลน เมล็ดก็จะถูกน้ำพัดลงทะเลไป จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:36:27

ความคิดเห็นที่ 39 เช้านี้ฝนตกทั่วจังหวัดจันทบุรี อากาศจึ่งไม่ร้อนเดินสบายๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:36:48

ความคิดเห็นที่ 40 ข้ามสะพานขึงเด้งดึ๋งๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:37:04

ความคิดเห็นที่ 41 การก่อสร้างทางเดิน ไม่มีการตัดโค่นต้นโกงกางที่ขวางทาง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:37:22

ความคิดเห็นที่ 42 เดินมาจนถึงศาลาพะยูน หยุดนั่งผักผ่อนถ่ายรูปกันที่นี่ แต่ไม่มีสาวคนไหน ยอมถ่ายรูปคู่กับพะยูน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:37:43

ความคิดเห็นที่ 43 ศาลาพะยูนอธิบายถึงความสำเร็จ ในการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ   เกี่ยวกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญ คือการที่มีพะยูนซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่หายไปจากอ่าวคุ้งกระเบนเป็นเวลานับสิบปี ได้หวนกลับเข้ามาหากินหญ้าทะเล ในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนอีกครั้งหนึ่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:38:03

ความคิดเห็นที่ 44 ติดกับศาลาพะยูนคือศาลาคายัค เป็นท่าจอดเรือคายัค ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ที่จัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวก สำหรับผู้มาเที่ยวชมป่าชายเลน โดยการพายเรือคายัก แต่วันนี้ไม่มีเรือจอด และไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ประจำศาลา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:38:28

ความคิดเห็นที่ 45 เดินต่อไปอีกห้านาทีก็ถึงหอดูนก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:39:49

ความคิดเห็นที่ 46 สร้างด้วยไม้สูงถึง 15 เมตร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:40:07

ความคิดเห็นที่ 47 สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าโกงกางในมุมสูง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:40:28

ความคิดเห็นที่ 48 และทิวทัศน์ของอ่าวคุ้งกระเบน นอกจากนี้ยังเป็นที่ชมนกนานาชนิด ที่มีสีสันสวยงามไม่น้อยกว่า 120 ชนิด ที่ออกหากินในบริเวณป่าชายเลนและอ่าวคุ้งกระเบน เช่น นกยางเปีย นกกินเบี้ยว นกยางเขียว นกอีแพรดแถบอกดำ นกจาบคาเล็ก และเมื่อปลายฝนต้นหนาวมาถึง จะมีนกอพยพจากไซบีเรีย แวะมาหาอาหารเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะเดินทางไปยังที่อื่นๆ เช่น นกอีก๋อยเล็ก นกอีก๋อยใหญ่ นกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางโทนน้อย เป็นต้น ในชั้นของเรือนยอดป่า เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมของหมู่ไม้ทั้งหลาย ทั้งในเรื่องของขบวนการสังเคราะห์แสงและการสืบต่อพันธุ์ อีกทั้งเป็นพื้นที่กิจกรรม แหล่งพักพิงและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าบางชนิดและนก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:40:49

ความคิดเห็นที่ 49 แต่วันนี้ไม่มีวาสนาเห็นนกแม้แต่ตัวเดียว มีเพียงโอกาสเป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นดอกสีเหลือง ของต้นโกงกางใบใหญ่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:41:10

ความคิดเห็นที่ 50 และสาวๆที่นั่งพักอยู่ข้างล่าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:41:32

ความคิดเห็นที่ 51 15.16 น.ออกเดินกันต่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:41:51

ความคิดเห็นที่ 52 ผ่านสะพานไม้แบบมั่นคงไม่โยกเยก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:42:11

ความคิดเห็นที่ 53 แปลงสาธิตการเลี้ยงหอยนางรมเพื่อช่วยบำบัดน้ำเสียจากนากุ้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:42:35

ความคิดเห็นที่ 54 ดอกสีขาวของต้นตีนเป็ดทราย ซึ่งผลของมันนำมาเผาตำผสมน้ำมันพืชทาแก้โรคตาปลา เมล็ดมีน้ำมันทาแก้คัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:42:56

ความคิดเห็นที่ 55 ต้นมะนาวผี ผีคงไม่ดุแม้หนามจะแหลม เพราะใบโดนแมลงกัดกินจนแหว่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:43:21

ความคิดเห็นที่ 56 สวนสมุนไพรป่าชายเลน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:43:44

ความคิดเห็นที่ 57 เช่น ขลู่ สมุนไพรสารพัดประโยชน์ ทั้งต้นเป็นยาขับปัสสาวะ ช่วยย่อย ผสมกับยาสูบแก้ริดสีดวงจมูก แก้โรคเบาหวาน แก้ริดสีดวงทวาร ใบแก้ปวดเมื่อย ตำผสมเกลือแก้ปากเหม็น น้ำคั้นแก้โรคบิด ต้มใบช่วยลดน้ำหนัก ใบ, รากแก้ไข้ ขับเหงื่อ พอกแก้หลอดลมอักเสบ ใบ, ต้นอ่อน ทาแก้ปวดโรคไขข้ออักเสบ ต้มอาบแก้หิด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:44:04

ความคิดเห็นที่ 58 เหงือกปลาหมอดอกม่วง ตากแห้งบดเป็นผง หรือต้มกินแก้อาการเหน็บชา อัมพาต ปวดเมื่อย แก้ลม ต้มผสมเกลือ อมน้ำบ้วนปากแก้ปวดฟัน รากแก้หืด แก้ไอ ขับเสมหะ เมล็ดใช้พอกฝี ช่วยขับพยาธิ น้ำเหลืองเสีย ต้นตำผสมน้ำรักษาวัณโรค ตำผสมขมิ้นอ้อยและน้ำมัน แก้ริดสีดวงทวาร ทั้งต้นตำผสมกับชะเอมเทศให้ละเอียด ละลายกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน แก้เจ็บหลังเจ็บเอว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:44:30

ความคิดเห็นที่ 59 เตาอิฐเผาถ่านไม้โกงกาง โดยนำไม้โกงกางที่ตัดสางขยายระยะ หรือการตัดไม้บางต้นออก เพื่อให้ต้นที่เหลืออยู่ มีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น มาเผาในเตาอิฐ ถ่านจากไม้โกงกางจัดว่าเป็นถ่านที่ดีที่สุด ให้ค่าความร้อนสูงสุด ติดไฟง่ายไม่แตกปะทุ ควันไฟน้อย คุเป็นถ่านไฟได้นาน จึงมีราคาสูงกว่าถ่านไม้ชนิดอื่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:45:03

ความคิดเห็นที่ 60 ลักษณะการไม่ตัดไม้ที่สะพานไม้ผ่าน เป็นลักษณะเดียวกับทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ที่วนอุทยานปราณบุรี "เที่ยวไปกินไป @ ปราณบุรี" http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/07/D6811411/D6811411.html จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:45:27

ความคิดเห็นที่ 61 15.25 น.แดดเริ่มแรง แสงแดดส่องทะลุยอดอ่อนของต้นโกงกาง ให้ภาพย้อนแสงที่สวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:45:50

ความคิดเห็นที่ 62 จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ นั่งรถขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าหาดเจ้าหลาว จอดรถหน้าสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ดำเนินงานภายใต้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี ในการปฏิบัติงานจัดหาและรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำทะเลที่น่าสนใจ จากท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงนำมาจัดแสดง เพื่อผลทางด้านการศึกษาหาความรู้ และการผักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนผู้สนใจ โดยไม่คิดมูลค่า พร้อมทั้งจัดวิทยากร เพื่อบรรยายความรู้ ให้กับคณะผู้เยี่ยมชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทุกวัน มีพันธุ์สัตว์น้ำแสดงทั้งหมด 36 ตู้ ในพื้นที่ระยะที่ 1 และพื้นที่ระยะที่ 2 จำนวน 17 ตู้ รวมทั้งตู้หลอด และอุโมงค์น้ำ สัตว์น้ำที่นำมาจัดแสดงนี้ มีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน และพื้นที่ใกล้เคียง จัดแสดงระบบนิเวศวิทยาของอ่าวคุ้งกระเบน ความสัมพันธ์ของสัตว์น้ำพันธุ์ไม้น้ำต่ออ่าวคุ้งกระเบน และโขดหินตลอดแนวชายหาดแหลมเสด็จ - ชายหาดเจ้าหลาว เช่น ปลากะพงขาว, ปลากะรัง, ปลากะพงแดง, ปลาสินสมุทร, ปลาการ์ตูน และปลากระเบน เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาประชาช และผู้สนใจใช้เป็นที่ศึกษาหาความรู้ และทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ในความสวยงามของสัตว์น้ำต่างๆ อันก่อให้เกิดจิตสำนึกของการรักธรรมชาติ และร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่านี้ต่อไป เวลาเปิดให้บริการ วันอังคาร - วันศุกร์ เปิดให้บริการ เวลา 08.30 - 16.30น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดให้บริการ เวลา 08.30 - 17.30น. ปิดให้บริการทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์ใดเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเปิดให้บริการ และจะปิดให้บริการในวันถัดไป) ไม่เสียค่าเข้าชม แต่มีกล่องรับบริจาคค่าอาหารสัตว์น้ำ ที่มา : http://www.aquariumthailand.com/chanthaburi-aquarium.html จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:46:28

ความคิดเห็นที่ 63 ภายในสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ ติดเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย ช่วยให้ร่างกายเย็นสบาย จากอากาศภายนอกที่เริ่มร้อน เดินวนขวาชมปลาพันธุ์ต่างๆคลายร้อน เช่น ปลาโนรีหรือปลาผีเสื้อครีบยาว ปลาข้าวเม่าน้ำลึก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:46:54

ความคิดเห็นที่ 64 ปลาตะคองเหลือง ปลากะรังเหลืองจุดฟ้าหรือกุดสลาด ปลากะพงข้างเหลือง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:47:21

ความคิดเห็นที่ 65 ปลาหมอทะเล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:47:43

ความคิดเห็นที่ 66 ปลาสิงโต พิษร้ายจากเงี่ยงปลายครีบถึงตาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:48:54

ความคิดเห็นที่ 67 ปลายทางสุดท้ายคืออุโมงค์สัตว์น้ำทะเลความยาวประมาณ 10 เมตร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:49:28

ความคิดเห็นที่ 68 เจ้าปลากระเบนคงว่ายจนเหนื่อย จึงมาเกาะพักอยู่ติดกระจก แถมยิ้มหวานเปิดโอกาสให้สาวๆได้ถ่ายรูปคู่ด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:50:13

ความคิดเห็นที่ 69 ไม่ได้เดินเล่นบนหาดเจ้าหลาว แต่ขึ้นรถมีขนมจากแถวนั้นมาให้ชิมกัน ทั้งข้าวเหนียวมูนหน้าปลาและขนมมันรสอร่อย แต่ไม่ได้ชิมขนมจาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:50:45

ความคิดเห็นที่ 70 จากหาดจ้าวหลาวที่มีร้านอาหารทะเลมากมาย ตรงไปทางอำเภอเมืองจันทบุรี ผ่านทางด้านอำเภอแหลมสิงห์ ผ่านนากุ้ง จอดรถชิดทางเท้ากลางสะพานตากสินมหาราช หรือสะพานแหลมสิงห์ ที่ทั้งสูงและยาวที่สุดของจังหวัดจันทบุรี และภาคตะวันออก มีความยาว 1,060 เมตร ทำให้ราษฎรในพื้นที่สามารถนำผลผลิตทางการเกษตร การประมง และอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารทะเล มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการสร้างงานและเป็นการเพิ่มรายได้ในท้องถิ่น สะพานแหลมสิงห์สามารถเชื่อมต่อไป อ.ท่าใหม่ และ ถ.สุขุมวิท เพื่อไปยังกรุงเทพฯได้ ที่มา : http://travelchanthaburi.com/content.php?id=182 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:51:06

ความคิดเห็นที่ 71 หมู่บ้านประมงเชิงสะพานตากสินมหาราช จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:51:28

ความคิดเห็นที่ 72 สะพานแห่งนี้สามารถจอดรถชมวิวพระอาทิตย์ตกลับแหลมสิงห์ได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:51:49

ความคิดเห็นที่ 73 กึ่งกลางสะพานมีรถสามล้อขายหมึกปิ้ง หมึกมีแถวเดียวสองราคา ซ้ายมือตัวละ 150 บาท ขวามือตัวละ 80 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:52:17

ความคิดเห็นที่ 74 เตาปิ้งหมึกของจันทบุรี ไม่ใช้เตาดิน แต่ดัดแปลงโดยใช้ถังแก๊สปิคนิคมาดัดแปลง โดยผ่าขวางด้านบน ทำเป็นฝาเปิดปิด เจาะรูและท่อวาวล์เปิดปิดแก๊สเป็นทางให้อากาศเข้าออกกันเตาดับ แต่บางคนก็ใช้หม้ออลูมิเนียมมาดัดแปลง เช่นที่วัดกะทิง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:52:41

ความคิดเห็นที่ 75 กลิ่นหมึกปิ้งช่างยั่วยวนนัก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:53:02

ความคิดเห็นที่ 76 แฟนกับเพื่อนสั่งขนาด 80 บาทคนละตัว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:53:29

ความคิดเห็นที่ 77 เหนียวติดฟันดี ส่วนตัวชอบแบบรีดให้ตัวยาวๆแล้วปิ้งซ้ำอีกครั้งให้กรอบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:53:51

ความคิดเห็นที่ 78 เคี้ยวหมึกปิ้งชมวิวเพลินๆ กลางน้ำมีฟาร์มหอย ปลูกเป็นกระต๊อบเฝ้ากันแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นฟาร์มหอยมุกหรือเปล่า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:54:11

ความคิดเห็นที่ 79 มาดถ่ายรูปเท่ๆของ ผอ.โรงพยาบาล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:54:35

ความคิดเห็นที่ 80 สาวๆอุดหนุนลูกปลาทูตากแห้งกันละถุง จากแม้ค้าข้างรถขายหมึกปิ้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:54:54

ความคิดเห็นที่ 81 ข้ามสะพานไปตัวเมืองจันทบุรี ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดจันทบุรี เช่น คุกขี้ไก่ น้ำตกพลิ้ว ถึงตัวเมืองจันทบุรี ผ่านโรงพยาบาลพระปกเกล้าเข้าถนนท่าแฉลบ ตรงไปจนสุดถนนชนท่าเรือ เยื้องกับโรงพักตำรวจน้ำ คือร้านท่าแฉลบอาหารทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารทะเลที่มีอยู่หลายร้านในย่านนี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:55:26

ความคิดเห็นที่ 82 ร้านตั้งอยู่ทางด้านขวาของท่าเรือ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:55:51

ความคิดเห็นที่ 83 ตรงข้ามทางเข้าร้านมีร้านขายกะปิและอาหารทะเลตากแห้งเจ๊บุตร หน้าทางเข้าร้านมีร้านข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊อัญ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:56:18

ความคิดเห็นที่ 84 18.00 น.ไม่ได้จองโต๊ะไว้แต่พอมีโต๊ะว่าง ร้านนี้เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ 10.30-20.30 น. มีรูปอาหารแนะนำให้ดูที่ทางเข้าร้าน ร้านนี้นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:56:37

ความคิดเห็นที่ 85 รายการอาหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:57:02

ความคิดเห็นที่ 86 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:57:23

ความคิดเห็นที่ 87 .. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:57:51

ความคิดเห็นที่ 88 ร้านขายดีจนเจ้าของร้านต้องมาช่วยย่างอาหารทะเล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:58:18

ความคิดเห็นที่ 89 พนักงานกำลังอ้าเปลือกหอยแมลงภู่ใส่ในจานอาหารทะเลเผารวม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:58:55

ความคิดเห็นที่ 90 จานละแค่ 230 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:59:21