ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้ของฝากจากลอนดอน อิอิ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:21:15

ความคิดเห็นที่ 2 ปะปะปะปะปะปาดดดด!!!! ไม่ยอมมาแบ่งกันบ้างง่ะ :P จากคุณ : pfau เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:53:38

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มจาก Pierre Herme ก่อน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:53:40

ความคิดเห็นที่ 4 Macaron ต้องกินกับชา เอาชุดน้ำชามาตั้งรอเลยทีเดียว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:59:55

ความคิดเห็นที่ 5 กล่องนี้เจ็ดชิ้นค่า สีสวยยยยย แค่เห็นก็ลอยล่องแล้ว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:01:46

ความคิดเห็นที่ 6 มาการองน่าทานมาก จากคุณ : armkaa เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:07:20

ความคิดเห็นที่ 7 Die for !!!!!!!! จากคุณ : jayzazap เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:22:00

ความคิดเห็นที่ 8 เริ่มกันที่ชิ้นแรก กับรส ISPAHAN - Rose, Litchi & Raspberries Macaron ของ Pierre Herme นี่ชิ้นใหญ่ หนานุ่ม ไส้ก็ให้เต็มที่ เต็มปากเต็มคำ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 11:28:59 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:22:00

ความคิดเห็นที่ 9 รส Ispahan นี่ ครีมลิ้นจี่ออกเปรี้ยว กัดไปคำแรก แอบสะดุ้ง เปรี้ยวแหลมไปนิด ต้องเคี้ยวอีกสองสามคำกว่าจะได้กลิ่นโรสออกมา แต่พอเริ่มดื่มด่ำแล้วก็จะพบว่ากลิ่นโรสหอมอบอวลมาก ปลื้มตั้งแต่ชิ้นแรก จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:24:41

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาติดๆกับ INFINIMENT ROSE - Rose & Rose Petal ถ้าชอบอันแรก อันนี้ไม่ต้องพูดถึง กลิ่นโรสหอมมมมม คนกินก็ละลาย ตายคา Macaron ไปเลย โหวตให้เป็นชิ้นชนะเลิศของกล่องนี้ไปอย่างขาดลอย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:33:21

ความคิดเห็นที่ 11 ไส้ของโรสนั้น คล้ายๆกับพวกขนมไส้มะพร้าว texture แตกต่างจากครีมลิ้นจี่ที่เนียนสนิทของชิ้นแรก แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 11:37:41 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:35:15

ความคิดเห็นที่ 12 ต่อกันด้วยชิ้นนี้ที่ตอนทานเดาอย่างมั่นใจมากว่าเป็น Hazelnut แต่พอไปดูเวป เอ๊ะ ไม่เห็นมีรสนี้เลย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:44:54

ความคิดเห็นที่ 13 จากการตามล่าหาความจริงไปพักใหญ่ ปริศนาก็ไขกระจ่าง ว่ามันคือ Infiniment Marron Glacé หรือ รสเกาลัดนั่นเอง เสาะแสวงหามาจนเจอคำบรรยายอย่างละเอียดเลยทีเดียว “It’s filled with a chestnut cream purée, punctuated by chestnut chunks, which gives hints of chesnut and sugar alternatively.” http://style.selfridges.com/self-expression/when-selfridges-met-pierre-herm%C3%A9 แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 11:54:13 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:45:13

ความคิดเห็นที่ 14 ชิ้นถัดมานี่ไม่มีข้อกังขา สีสันสดใจได้ใจบรรยากาศราววันคริสต์มาสอย่างนี้ ต้่องเป็น Montebello อย่างแน่นอน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:00:51

ความคิดเห็นที่ 15 Montebello - Pistachio & Compote de Framboises ชิ้นนี้นอกจากสีจัดจ้าน รสชาติก็ตัดกันฉับไม่แพ้กับสี ข้างนึงเป็นรสหอมอ่อนๆของถั่วพิชตาชิโอ อีกข้างเป็นรสโดดเด่นของราสเบอรรี่ ครีมข้างในก็รสชาติเข้มข้นมาก เห็นเค้าว่าข้างในเป็น "raspberry-flavoured gelée encased in a pistachio paste-infused ganache" เลยล่ะ http://travellingfoodies.wordpress.com/2011/09/08/pierre-herme%E2%80%99s-macaron-montebello/ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 12:06:09 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:04:57

ความคิดเห็นที่ 16 ชิ้นต่อมายังคงธีม “composite” คือแบบที่ไส้ทำมาจากส่วนประกอบสองอย่าง MOGADOR - Milk Chocolate & Passion Fruit ชิ้นนี้เสาวรสเปรี้ยวจี๊ดตัดกันกับช็อกโกแลตเข้มๆ ส่วนตัวชอบ combo ช็อกโกแลตกับส้มเป็นอันมาก ปกติเสาวรสก็เป็นผลไม้ที่ชอบ แต่พอมาเจอช็อกกับเสาวรสเข้าไปต้องขอยอมแพ้ ไม่ใช่แนวจริงๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:10:07

ความคิดเห็นที่ 17 ขอปาดนะค้า จะบอกว่าเพื่อนคุณ จขกท. น่ารักมากๆเลยน้าา เราเคยหอบ Laduree กลับมาให้เพื่อนสนิท เพราะอยากให้เค้าชิม อยากจะบอกว่า มันลำบากมาก ต้องทะนุถนอมยิ่งกว่าลูกซะอีก 5555 แล้วเราทรานซิสเครื่องอีก โอ๊ย จะลุก จะนั่ง นี่ต้องค่อยๆแง้มดูว่ามันยังอยู่ดีรึป่าว บุบไปรึยัง ฮ่าฮ่า เห็นแล้วอยากกินเลยค่ะ จากคุณ : เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:26:38

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนชิ้นนี้เป็นช็อกโกแลตสักอย่าง ด้านนอกแห้งๆหน่อย ออกคล้ายๆขนมปังกรอบ หายังไงก็หาที่หน้าตาเหมือนไม่เจอ ชิ้นนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:30:02

ความคิดเห็นที่ 19 ชิ้นสุดท้ายนี่แมนมากๆ ถ้าเป็นชายหนุ่มก็ต้องเรียกว่าหล่อเข้ม Dark, Tall and Handsome Caraquillo - Chocolate, Coffee & Aniseed กลิ่นกาแฟหอมมาก คนรักกาแฟคงถูกอกถูกใจ ทั้งช็อกโกแลต ทั้งกาแฟ เข้มมมมม ซะจนคนไม่ดื่มกาแฟอย่างเราทานได้แค่คำเดียวก็ขออำลา ชิ้นนี้เป็นชิ้นเดียวที่เรายอมแบ่งเพื่อนฝูง ที่เหลือซัดเรียบคนเดียวเลย อิอิ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:34:23

ความคิดเห็นที่ 20 นอกจากชิ้นที่นำเสนอแล้ว ชิ้นที่จขกทอ่านเจอแล้วชักดิ้นชักงอตายก็มี Chocolate & Foie Gras Macaron กับ White Truffle Macaron คุณเพื่อนไปนั่งทาน Chocolate & Foie Gras Macaron ในร้านมา ได้ยินว่าอร่อยมากกกกกกก แต่ทว่า ทางร้านไม่ขายใส่กล่องเพราะถ้าทิ้งไว้นานก่อนทานจะเสียรสชาติ เราก็เลยไม่มีบุญพอจะได้ชิม กระซิกๆ ส่วน White Truffle Macaron นั้นไปแอบอ่านจากรีวิวในเวปมาว่าเวลาซื้อต้องซื้อเป็นรสนี้ทั้งกล่อง เพราะสต๊าฟของทางร้านปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมใส่กล่องร่วมกับรสอื่นๆ เนื่องว่าจะทำให้กลิ่นและรสเสียไปไม่ได้มาตรฐาน รักษาคุณภาพสมราคาจริงๆ White Truffle Macaron Review http://myfoodsirens.wordpress.com/2011/12/22/macarons-spree-round-3/ Picture credit: http://www.wallpaper.com/gallery/lifestyle/december-food-news-editors-picks/17052831/56197 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:56:10

ความคิดเห็นที่ 21 เพ้อไปเพ้อมา กล่องเจ็ดชิ้นก็เริ่มยาวเป็นมหากาพย์ แล้วกล่อง 24 ชิ้นจาก Laduree นี่จะเขียนได้ยาวกี่หน้าเนี่ย เอิกส์... อยากจะเปรียบเทียบให้ว่าร้านไหนอร่อยกว่าก็เกรงใจ เพราะอันหนึ่งเดินทางมาจากนิวยอร์ก อีกอันเดินทางมาจากลอนดอน เดินทางมานานต่างกัน กระทบกระเทือนต่างกัน ต้องฝ่าฟันทั้งอากาศและความชื้นอะไรแค่ไหนเราก็ไม่รู้ รสสัมผัสก็เลยอาจจะผิดจากของสดๆไปบ้าง แถมรสของ Laduree เราเลือกเอง ก็เลยมีแต่ของโปรด ส่วนคุณเพื่อนผู้น่ารักอยากให้เราลองของแปลกใหม่ เลยเลือกรสออกจะ adventurous กว่า ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณเพื่อนและคุณพี่เป็นอย่างสูงที่ทั้งซื้อมาให้ แถมยังทนุถนอมอย่างดีจนมาถึงมือเราโดยไม่บุบสลายนะค้า ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านและแวะมาเมนท์ทักทายค่า วันนี้ขออนุญาตไปนอนก่อน กลับจากทำงานพรุ่งนี้จะมาลง Laduree ให้ต่อ อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหนนะคะ เอารูปมาล่อไว้ก่อน อิอิ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 13:01:02

ความคิดเห็นที่ 22 Laduree สีสวยมาเลย ร้านนี้คิวยาวดีค่ะ ที่ปารีสน่ะ ยิ่งวันอาทิตย์ที่คนค่อนโลกไปเดินที่ชองเอลิเซ่ส์ละก็ต้องรอกันนานไปเลยค่ะ   ขอบคุณที่บรรยายรสชาดของPierre Herme ได้ซึ้งดีค่ะ ตอนทานก็ได้แต่อร่อยๆกัน เพิ่งได้ตำรามาเลยค่ะ อ้อได้เรียนมากาฮองกะเชฟที่เคยอยู่กะPierre Herme มาด้วยค่ะ วันนั้นทั้งห้องรักเชฟกันทันทีค่ะ จากคุณ : MAE FAI เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 13:23:31

ความคิดเห็นที่ 23 เคยทานแต่ของ Laduree ครับ ของ Pierre Herme คงต้องไปกินเองซะแล้ว ขอบคุณมากนะครับ สำหรับรีวิว จากคุณ : JO-Kung เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 13:39:17

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบกระทู้นี้จัง บรรยายซะเหมือนได้กินไปด้วย จากคุณ : จิตแก้ว เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 15:03:40

ความคิดเห็นที่ 25 กรี๊ดดด กีบหมด กระโดดเข้ากระทู้มาอย่างรวดเร็ว  Pierre Herme อยากกินนนนนนนนน LADUREE 24 ชิ้นนี่ 24 รสเลยรึเปล่าคะ เราเคยกินทั้งร้านมีให้เลือกแค่สิบรสเองง่ะ รีบกลับมารีวิวนะคะ จะรอ อิอิ จากคุณ : คะน้า (KaNa-IRC) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 18:16:41

ความคิดเห็นที่ 26 น่าหม่ำทั้ง ลอนดอน และ นิวยอร์คเลยค้า ยิ่งอ่านบรรยายแต่ละรสชาติ โอ๊ย! น้ำลายเต็มปาก ^^ จากคุณ : humxm เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 19:23:47

ความคิดเห็นที่ 27 กินคนเดียวหมด 7 ชิ้นรวดเดียวเลยเหรอครับ หวานแสบคอมั้ยครับ >< จากคุณ : แต้วแว้ว เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 20:11:10

ความคิดเห็นที่ 28 แอบมาลงต่อระหว่างพักเที่ยง ขอยกยอดตอบเมนท์ไปเย็นนี้นะคะ มาเริ่มชิม Macaron ของ Laduree กันดีกว่า ของ Laduree นั้น เราลงทุนไปนั่งอ่านรีวิวมากมายหลายร้อยอันใน yelp ได้ความมาว่ารส Rose กับ Orange Blossom และ Salted Caramel เป็นรสที่เมพสุด แถม Cherry Blossom ก็ฟังดูหอมน่าทาน อ่านไปอ่านมา อ๊ะ เจอรสใหม่ที่เพิ่งออก ไส้เป็น marshmallow ด้วย เลยสั่งรสพวกนี้อย่างละสามชิ้นไปเลย นอกจากนั้นก็สั่งชิ้นเดียวบ้างสองชิ้นบ้าง แล้วก็บอกคุณพี่ไปว่า รสไหนดูแปลกดีก็ซื้อมาจนครบ 24 ชิ้นละกัน อิอิ ในรูปจะเห็นว่าห้าแถวล่างเป็นรสเดียวกันอย่างละสามชิ้น จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 23:26:53

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้นี่เราทุ่มทุนมาก เนื่องจากคุณพี่กลับจากนิวยอร์กมาถึงบอสตันก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า Macaron ก็เลยยังมาไม่ถึงมือเรา วันรุ่งขึ้นนี่เราเลยลงทุนตื่นแต่เช้าตรู่บุกไปปลุกคุณพี่ รับ Macaron มาสู่อ้อมอก ขอโทษที่ไปปลุกเช้านะค้าบ (-/\-)' ได้ถุงมาปุ๊บก็หามุมถ่ายรูปปั๊บ เก้าอี้หน้าห้องคุณพี่มันเลยนั่นแหละ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 23:49:38

ความคิดเห็นที่ 30 ด้วยความเห่อมากถึงเห่อที่สุด เราอดทนได้แค่เดินไปถึงปากซอย พอเห็นหน้าปากซอยมีร้านเบเกอรี่ เราก็รี่เข้าไปไม่รอช้า สั่งชา Earl grey ร้อนๆมาหนึ่งกา ได้นั่งเก้าอี้สูงที่เคาน์เตอร์ มองวิวนอกหน้าต่าง วันนี้อากาศก็เป็นใจ ออกแนวขมุกขมัวมีละอองฝนเล็กๆ ให้อารมณ์อย่างกับอยู่อังกฤษเลยทีเดียว ชาส่งกลิ่นหอมมมมม รู้ได้ทันทีว่ามื้อเช้าวันนี้คงเป็นหนึ่งในมื้อเช้าที่เลิศที่สุดที่เคยทานมา จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 01:00:33

ความคิดเห็นที่ 31 โฮก อยากกินนนนนนนนนนนนนนนน จากคุณ : eternity_of_love เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 06:17:15

ความคิดเห็นที่ 32 แง้มกล่อง... ตึกตักตึกตัก จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 10:29:47

ความคิดเห็นที่ 33 รส white truffle ของ Pierre Herme ที่สาขาปารีสขายกลับบ้านแบบแยกชิ้นได้นะครับ แต่จะแพคแยกกับรสอื่น เพราะกลิ่น truffle แรงมาก จะไปตีกับชิ้นอื่นครับ และพนักงานแนะนำว่า เวลากิน ให้กินชิ้น truffle เป็นชิ้นสุดท้าย และเว้นเวลาจากชิ้นก่อนสักพักนึงครับ จากคุณ : ซูชิไข่หวานอันใหญ่เป้ง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 10:43:59

ความคิดเห็นที่ 34 แท่นแท้นนนน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 10:57:27

ความคิดเห็นที่ 35 หมุนตัวสามตลบ แล้วก็เริ่มละเลียด ชิ้นแรก Cherry Blossom กัดแล้วกลิ่นซากุระหอมอ่อนๆฟุ้งกระจาย ละลายยยยยไปเลยกับความกรอบด้านนอก นุ่มเนียนด้านใน texture สุดพระเจ้าจริงๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:19:33

ความคิดเห็นที่ 36 น่าทานมาก ๆ จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:33:04

ความคิดเห็นที่ 37 ต่อกันด้วย Orange Blossom กลิ่นหอมอ่อนๆไม่หวานมากอีกเช่นเคย ข้างในนี่เนียนจริงอะไรจริง ด้วยความที่ชอบรสชาติบางๆกลิ่นหอมอ่อนๆ ขอยกให้ Orange Blossom และ Cherry Blossom เป็นมือวางอันดับสองคู่กัน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:35:33

ความคิดเห็นที่ 38 และแล้วก็ถึงเวลามือวางอันดับหนึ่งเผยโฉม Rose Petal มาแล้วค่าาาาา ชิ้นนี้หอมมากกกกกกกก... ข้างในเนียนนุ่ม ไส้ฟูฟ่องเต็มที่อย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ เทียบแล้วกลิ่นหอมแรงกว่าสองอันแรกหน่อย แต่อร่อยอย่าบอกใครเลยจริงๆค่ะ กัดแล้วต้องหลับตาพริ้มไปหลายวินาที ซึมซับความหอมอบอวลให้เต็มอิ่ม อื้มมมมมมมม... เคลิ่มมมมมม... จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:41:25

ความคิดเห็นที่ 39 จิบชา Earl Grey ตามช้าๆ รอ after taste ค่อยๆผสมไปกับรสชาจนเหลือแต่กลิ่นและรสของ Earl Grey บอกได้คำเดียว... Simply divine ~ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 11:48:28 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:47:55

ความคิดเห็นที่ 40 ตามมาติดๆด้วยรสที่โหวตกันอย่างถล่มทลายตามเวปต่างๆ คือรส Caramel with Salted Butter อันนี้ เข้มมมม ข้นนนน หอมมม หวานนนน มากกกกกกกกก อร่อยสมราคาคุยค่ะ แต่ด้วยความที่เข้มเกิน เลยทานได้แค่ครึ่งชิ้น พักยกไว้รอบถัดไป จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:05:17

ความคิดเห็นที่ 41 ที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่ามีรสใหม่ไส้มาร์ชเมลโลว์มันคืออันนี้ค่า Incroyables สีเขียวมาเชียว มาร์ชเมลโลว์หนึบมาก กัดแล้วยืดดดดเลยค่ะ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:24:15

ความคิดเห็นที่ 42 สี่ชิ้นครึ่งติดกันนี่ก็เต็มที่แล้วค่ะ ซดชาจนหมดกาแล้วก็เริ่งร่าไปทำงาน ไว้จะเอารูปที่แอบทานตอนพักเที่ยงวันนั้นมาลงต่อนะคะ ตอบเมนท์ค่า @Pfau  แง้ว ทีตัวเองไปกินร้านอิตาเลียนไฮโซที่ Angelini, Shangri-La ไม่เห็นแบ่งกันบ้างล่ะ งานนี้ต้องมีเอาคืนกันบ้างหุหุหุ @ armkaa  รีวิวเองยังเคลิ้มตามรูปเลยค่ะ แหะๆ @ jayzazap  อร่อยละลายตายคาที่เลยจริงๆค่ะ ชาตินี้ต้องไปนั่งทานที่ร้านให้ครบทุกรสให้ได้ แง่มๆๆ @เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ จริงค่ะซาบซึ้งในน้ำใจคนหิ้วมาอย่างมาก คุณ เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ ก็ใจดีนะคะ ประคบประหงมกลับมาให้เพื่อนเช่นกัน คุณเพื่อนสนิทนี่โชคดีจริงๆค่ะ @ MAE FAI โอ้โห มีหาซื้อตำรามาทำกันด้วย แถมได้ไปเรียนกับเชฟอีก น่าอิจฉามากๆเลยค่ะ ;) @ JO-Kung ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านและทักทายกันนะคะ @ จิตแก้ว แหะๆ คนเขียนบ้า Macaron น่ะค่ะ เลยบรรยายซะเว่อร์จริงอะไรจริง @คะน้า (KaNa-IRC) ไม่ถึง 24 รสค่ะ เพราะกล่องนี้กะแบ่งคนอื่นบ้าง(เล็กน้อย) เลยต้องซื้อบางรสซ้ำๆกันเหนียว อิอิ @ Humxm คนรีวิวก็นั่งน้ำลายฟูมปากอยู่หน้าจอค่ะ อยากบินไปนั่งทานที่ลอนดอนที่ปารีสกับเค้ามั่งเหมือนกัน @ แต้วแว้ว เปล่านะค้า เค้าเปล่าทานคนเดียวหมด 7 ชิ้นรวด เค้าแค่ทานหกชินครึ่งแล้วยกชิ้นช็อกโกแลตกาแฟขมๆ (ครึ่งชิ้นที่เหลือ) ให้เพื่อนทานเท่านั้นเองค่า เหอๆๆ ตอนทานกัดทีละครึ่งชิ้น หกชิ้นรวด แล้วก็ทานครึ่งชิ้นที่เหลือทั้งชุดเป็นอาหารเช้าวันถัดมาอีกรอบค่า ทานแล้วก็ไม่ถึงกับหวานแสบคอนะคะ โดยเฉพาะชิ้นหลังๆออกแนวช็อกโกแลตเลยติดขมมากกว่าหวานซะอีก @eternity_of_love ตอนจขกทเปิดรีวิวอ่านก่อนส่งใบสั่งก็อย่างนี้ล่ะค่ะ เห็นแล้วโฮกกกกกกก @ซูชิไข่หวานอันใหญ่เป้ง โอ้ ดีจังเลยค่ะ ตอนแรกอ่านกำลังคิดว่าสั่งทรัฟเฟิลอย่างเดียวเป็นกล่องๆนี่ดูอลังการไปมาก อ่านมาจากรีวิวคนอื่นน่ะค่ะ ดูเค้าพิถีพิถันดีจริงๆนะคะ ทานแล้วชอบไหมอย่างไรเล่าให้ฟังบ้างสิคะ :) @ BROWN STITCH ขาประจำมาแล้ว คิดถึงค่า วันนี้นอนก่อนเช่นเคย แล้วจะมาต่อให้จบพรุ่งนี้นะคะ ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามค่า จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:30:23

ความคิดเห็นที่ 43 อยากกินบ้างงงงงงงงงงงง จากคุณ : Sara_Less เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 17:37:33

ความคิดเห็นที่ 44 มาแล้วค่า... พักเที่ยงก็แกะกล่องขนมทานมันที่ทำงานเลย กลัวเก็บไว้นานแล้วไม่อร่อย สีเขียวอ่อนนี่รส Pistachio อร่อยอีกแล้ว... คนชอบรส  Pistachio อยู่แล้วเป็นทุนเดิมนี่ไม่ควรพลาด จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:20:18

ความคิดเห็นที่ 45 รส vanilla bean บุบเล็กน้อย ชอบของ Laduree ที่รสอ่อนๆหวานน้อยทุกชิ้น กินเท่าไรก็ไม่เลี่ยน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:21:49

ความคิดเห็นที่ 46 เจอรูปชิ้นไม่บุบล่ะ เหมือนว่าคุณพี่จะซื้อทั้ง Vanilla Bean ทั้ง Pistachio มาสามชิ้นเลย ไม่ได้สั่งเยอะขนาดนี้ แต่ก็ทานได้ไม่มีบ่น อิอิ (แหม ใครจะกล้า) จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:24:22

ความคิดเห็นที่ 47 Vanilla Bean นี่ไส้เนียนหนึบเป็นพิเศษต่างจากอันอื่น จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:25:32

ความคิดเห็นที่ 48 ต่อด้วยรสเข้มขึ้นกันบ้าง อย่างรส Hazelnut จะว่าไปก็ไม่เข้มมากนะนี่ กำลังพอดี จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:26:48

ความคิดเห็นที่ 49 จบที่รส Lemon เป็นรสสุดท้าย อันนี้เปรี้ยวได้ใจ รสคล้ายๆไส้ของเลมอนทาร์ต คนชอบเปรี้ยวอย่างเราก็ปลื้มอีกเช่นเคย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:33:09

ความคิดเห็นที่ 50 ทานครบรสแล้ว อิ่มกันหรือยังคะ อิอิ ส่วนตัวแล้วคิดว่า Pierre Herme จะออกหนานุ่ม ออกแบบรสชาติแปลกๆใหม่ๆ ไส้เองก็มีเอกลักษณ์ บางชิ้นก็มี gelee บางชิ้นก็มี ganache ส่วนใหญ่รสไส้กับรสด้านนอกจะเป็นคนละรส แต่สามารถเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ choice ของชิ้นที่เพื่อนเลือกมาด้วยค่ะ เลยทำให้เทรนด์เป็นอารมณ์นั้นไป ทาง Laduree ก็จะออกไปทางรสอ่อนๆ ไส้มักเป็นรสเดียวกันเรือใกล้เคียงกับด้านนอก ที่ชอบเป็นพิเศษคือ texture ที่ส่วนนอกสุดบางกรอบจริงๆ กัดแล้วจะเจอความกรอบก่อน แล้วค่อยนุ่ม แล้วก็เนียนไส้ จากนั้นกลิ่นหอมก็จะพุ่งอบอวลทั่วปาก ในขณะที่ของ Pierre Herme ข้างนอกไม่กรอบเท่า แต่ด้วยความที่ใหญ่กว่า กัดแล้วก็จะนิ่มจมเขี้ยวมากกว่า เหอๆ บรรยายฟังแปลกๆยังไงพิกล แต่ก็อย่างที่ออกตัวไว้ ว่าถ้าไปกินที่ร้านสดๆ texture อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ จะมาเปรียบเทียบเลยก็จะดูไม่แฟร์เล็กๆ เพราะบินมาไกลกว่าด้วย เอาเป็นว่า ยกสองร้านนี้ขึ้นหิ้งเป็นร้านสุดโปรดในดวงใจไปเรียบร้อย ใครได้ไปทานสดๆใหม่ๆ ถูกใจอย่างไร เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 09:45:00