ความคิดเห็นที่ 1 เอาข้าวเปล่ากินกะกุ้งแห้ง ราดด้วยซอยพริกศรีราชา เปิดตู้เย็นเจอกุ้งแห้งกับหมึกแห้งแต่หมึกขี้เกียจทอดเลยจัดเอากุ้งแห้งโรยๆข้าวหอม อร่อยดีเหมือนกัน จากคุณ : Type-Tp เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:10:52

ความคิดเห็นที่ 2 มาม่าใส่น้ำที่ออกจากฝักบัว ครับ คิดแล้วเศร้า จากคุณ : สองร้อย เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:11:59

ความคิดเห็นที่ 3 มาม่าเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ใช่ไม่มีเงินนะคะ...แต่แบบว่าเป็นวันที่อพยพหนีน้ำท่วมวันแรก มาเช่าโรงแรมอยู่ แล้วก็กินมาม่าโดยการต้มน้ำร้อน เอามาม่าใส่หม้อหุงข้าว ที่ดันเอามาแต่ชั้นใน ไม่เอาตัวนอกมาด้วย แต่ก็กินอร่อยนะคะ 4 คน พ่อ แม่ ลูก   ลูกสาวก็เอาข้าวเหนียวจิ้มน้ำมาม่า อร่อยไป จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:19:23

ความคิดเห็นที่ 4 แถมอีกรูป จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:20:07

ความคิดเห็นที่ 5 มาม่าใส่น้ำจากฝักบัวแต่ก็เอาไปต้มให้เดือดนี่ครับ ไม่เห็นต้องเศร้าเลย ผมยังใช้น้ำประปามาหุงข้าวเลย ประปาบอกว่าน้ำสะอาดดื่มได้โดยไม่ต้องต้ม ผมก็เลยจัดเต็ม แต่น้ำดื่มผมซื้อตลอดไม่กล้าดื่ม ของเพื่อนผมเศร้ากว่า นิ  เอามาม่าใส่กับน้ำประปา เพราะไม่มีเครื่องทำความร้อนใดๆทั้งสิ้น โดยเอาไปแช่น้ำให้นิ่มแล้วค่อยปรุงเครื่องแล้วจัดการ คิดสภาพดูแล้วกัน จากคุณ : Type-Tp เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:21:41

ความคิดเห็นที่ 6 ขนมจีน ขนมจีน ขนมจีน ขนมจีน ขนมจีน เพราะมัน 10 บาท อย่างอื่น 20 -25 บาท กินแต่มื้อกลางวันติดกันเกือบเดือนเลย จากคุณ : Ladyeros เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:23:06

ความคิดเห็นที่ 7 คืออาหารแสนอร่อยที่ค่ายยุวกาชาด(ตอนเด็กค่ะ) ถึงมันจะอร่อย แต่เราก็กินอย่างรันทดที่สุด เรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นหัวหน้าหมู่ยุวกาชาด (ที่ค่อนข้างเซ้วฟ์) ค่ะ 55 คุณครูจะแจกของสดให้ยุวกาชาดทุกกลุ่มเพื่อนำไปทำอาหารเย็น ในฐานะหัวหน้ากุ่ม เราจึงออกแบบเมนูที่คิดว่า "ต้องไม่ธรรมดา" เราบอกให้เพื่อน ๆ ขุดดินฝังไก่ แล้วจุดไฟด้านบน (กะจะทำไก่อบ 55) เพื่อน ๆ ก็แย้งแล้วนะ แต่เราก็ยืนยันจะทำ สุดท้าย ไก่มันก็ไม่สุก กินไม่ได้ หมู่อื่น ๆ เลยแบ่งอาหารที่พวกเค้าทำมาให้กลุ่มเรา มันอร่อยมากค่ะ...แต่เรากินทั้งน้ำตาของความรู้สึกผิด (น้ำตาหัวหน้าหมู่ 555) รันทดมากค่ะ จำไม่ลืมเลย T_T จากคุณ : Kika_ii เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:25:17

ความคิดเห็นที่ 8 รันทดที่สุด คือ ข้าวเหนียว หมูยอ จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:31:44

ความคิดเห็นที่ 9 มีเงินซื้อไข่ต้มฟองเดียวกินสองคน ฟองละสองบาท ถ้าซื้อข้าวต้องจ่ายสามบาท เงินไม่พอ มีแค่สองบาทเลยต้องซื้อไข่ต้มแทน แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 17:46:25 จากคุณ : JitZungkabuai เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:34:55

ความคิดเห็นที่ 10 ข้าวกับแมกกี้ ตอนเรียนคะ  อยู่หอ ไม่มีตังกินข้าว จากคุณ : หมูปิ้งชาเย็น (หมูปิ้งชาเย็น) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:43:16

ความคิดเห็นที่ 11 ข้าวเหนียวเปล่าๆ ตอนบวชพระ แล้วไปเดินธุดงค์แถวน่าน เนื่องจากฉัตรมังสวิรัติ จากคุณ : get_13ad เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:51:24

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำเปล่าครับเพราะไม่เหลือตังกินมาม่า = =" จากคุณ : เม่าขนมปัง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:56:10

ความคิดเห็นที่ 13 ข้าวคลุก น้ำปลาครับ จากคุณ : งดแสดงความคิดเห็น เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:58:19

ความคิดเห็นที่ 14 ข้าวไข่พะโล้ค่ะ แต่กิน 5 วันติดกัน สมัยเรียนตปท. ต้องปั่น essay ไม่มีเวลาทำกับข้าว ซื้อกินก็ไม่สะดวก แพงด้วย เลยต้มไข่ ทำเป็นพะโล้ (หมูก็ไม่ได้ใส่) เก็บไว้กินทั้งอาทิตย์ จากคุณ : Spring Rolls เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:59:47

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านแต่ละความเห็นแล้วอึ้ง รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่ไม่เคยลำบากเรื่องอาหารการกินเลย จากคุณ : DerMDeeP เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:03:03

ความคิดเห็นที่ 16 นึกถึงตอนเมื่อนานมาแล้วอยู่บริษัทนึงเค้าไม่ค่อยจ่ายเงินเดือน  เราก็พอมีบ้าง  แต่ลูกน้องอีกหลายชีวิตมันไม่มี ก็เลยตัดสินใจ  ซื้อมาม่า  ปลากระป๋อง  ผักกาดดองกระป๋อง  แล้วที่ออฟฟิศมีชามกะทะไฟฟ้าอยู่  เอามาม่าสัก 5- 6 ซองลงต้ม ใส่ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง  ผักกาดดองกระป๋อง 1 กระป๋อง  หุงข้าว 1 หม้อ  กินกันสิบกว่าชีวิต  กินกันรอเงินเดือนออก   ตอนนั้นไม่รู้สึกว่ารันทดอะไร  กินกันไปขำกันไป จากคุณ : คุณน้ำตาลหวานใจ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:03:26

ความคิดเห็นที่ 17 กินน้ำเปล่ากลั้วท้องอยู่ 3  วัน อันนี้รันทดสุดๆสำหรับเรา ขนาดข้าวยังไม่มีจะกิน  ต้องเอาขวดเปล่าไปกรอกน้ำจากร.ร.  ไปกินที่หอ คือเราใช้เงินฟุ่มเฟือยเอง  เลยไม่มีเงินน่ะ จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:07:16

ความคิดเห็นที่ 18 ม่าม่า เช่นกัน ด้วยเงิน ที่ควานหาได้ใต้เบาะรถ 4 บาท แบบว่าไม่มีเงินเหลือติดตัวเลยซักบาท ด้วยความหวังจะยืมคนนู้นคนนี้คนนั้น แต่ปรากฎ ไม่มีใครให้ยืมเลย เข็ดไปจนตายเลยทีเดียว จากคุณ : lyonheartz เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:07:45

ความคิดเห็นที่ 19 ไข้ขึ้นอยู่บ้าน ไม่มีอะไรกิน ไม่มีใครสนใจ ลุกมาหาอะไรกินเองก็ไม่ไหว ดื่มน้ำแล้วนอนหลับต่อค่ะ รอตอนเย็นคนที่บ้านทำข้าวเย็น ได้กินข้าวมื้อแรกของวันตอน 3 ทุ่มพร้อมกับผื่นแดงๆ เต็มตัวค่ะ T^T จากคุณ : แกะน้อยนักเดินทาง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:15:47

ความคิดเห็นที่ 20 กินเลย์ห่อเดียว กับน้ำประปา  (เลย์ได้มาฟรี) พอวันต่อมาก็เป็นโจ๊กซองฟรี(ของที่ลูกค้าในห้องทิ้งไว้) กินสองวันแบ่งต้ม  ใส่น้ำประปา ตอนนั้นไม่มีเงินเลยสักบาท   ทะเลาะกับแฟน(คนเก่า)  เค้าเอาเงินเราไปหมด อยู่หอคนเดียว  ไม่อยากขอแม่   จะยืมเพื่อนหรือคนที่ทำงานก็ได้ แต่เราอดทน  :)) หลังจากนั้นมันก็เอาเงินมาคืนและตอนนี้ก็เลิกกันไปแล้ว จากคุณ : princessizz เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:18:52

ความคิดเห็นที่ 21 ข้าวต้ม feat.ไข่เค็ม 9 มื้อติดต่อกัน__ปวดฟัน จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:26:25

ความคิดเห็นที่ 22 ตั้งแต่เกิดมาจำไดิว่าไม่เคยลำบาก แต่หากว่าถามว่ามื้อไหนรัดทนที่สุด คงจะเป็นมื้อนี้มั้ง แต่เราจำไม่ได้ เพราะตอนนั้นเรายังเล็ก แม่เล่าว่า มีลูกสองคน เราเป็นคนโต พาไปกินก๋วยเตี่ยว ไปกันสามคนแม่ลูก มีเงินนิดหน่อย ลูกสองคนร้องกิน ต้องตามใจ ซื้อชามเดียวก้อไม่ได้ พี่ได้ น้องก้อต้องได้ พี่น้องกินกันอร่อย แต่แม่ไม่ได้กินเพราะมีเงินไม่พอ เราฟังแม่เล่าความหลังแล้วเศร้า มันจุกอยู่ทีคอ คนเป็นแม่ทำให้ลูกได้ทุกอย่างจริง ๆ เลยคิดว่ามื้อนี้ละมังเป็นมื้อที่รันทดที่สุดของเรา พร้อมกับสัญญา ต่อไปนี้ ต่อให้ก๋วยเตี่ยวแพงที่สุดแค่ไหน ลูกจะหามาให้แม่กินให้ได้จ๊ะ จากคุณ : การรอคอยที่ยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:29:49

ความคิดเห็นที่ 23 มาม่าค่ะ ถ้าอยากประหยัดมากก็ไม่กินเลย ข้ามมื้อไปเลยค่ะ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:32:42

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นครับ เย็นนั้นโปรเฟสเซอร์พาไปกินเนื้อย่างอร่อยมว๊ากกกกก กินจนพุงกาง กลับถึงบ้าน host ตอนประมาณสามทุ่ม คุณแม่ (host) นั่งรออยู่พร้อมชาบู ชาบูหม้อใหญ่ ....... จุดนั้นอึ้งมาก กลัวเค้าเสียใจก็เลยค่อย ๆ กินเข้าไปจนหมด T^T จากคุณ : adalimumab เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:41:55

ความคิดเห็นที่ 25 สมัยเรียน อยู่หอแถวเพชรบุรีซอย5ค่ะ  วันนั้นมีเงินติดตัวประมาณ30บาท แวะ7 ซื้อแหนม จะเอาไปผสมกับยำแหนมป้าใหญ่ ออกจาก7 จะกดตังค์ ปรากฎวันนั้นการสื่อสารขัดข้อง บัตรกรุงไทย กดเงินไม่ได้ทุกตู้ ทั่วกทม....วันนั้นรูมเมทไม่อยู่ด้วย สุดท้ายเหลือเงิน 8 บาท ซื้อน้ำเต้าหู้ 1ถุง กินกับแหนม ที่ซื้อจาก7 ...เป็นอาหารเย็นค่ะ จากคุณ : FruZo เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:52:24

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องขัดสนการกินไม่เคยครับ เพราะผมอยู่กับพ่อ-แม่ เคยแต่มีบางวันที่ไม่มีเงินเลยสักบาท ^^ จากคุณ : JaNpUeK เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:45:35

ความคิดเห็นที่ 27 ไข่เจียวทอดเช้าหั่นสามส่วน ข้าวก็ซื้อสามถ้วยห้าบาทตอนนั้น  กินเช้ากลางวันเย็น ถ้าพอมีตัง อยากกินดีหน่อยก็ไปคาร์ฟูร์ตอนดึกๆรออาหารที่เค้าลดราคา แล้วซื้อมาเผื่ออีกวันด้วย แต่เอากลับมาต้องอุ่นก่อนไม่งั้นบูด เพราะที่ซื้อมามันก็จะบูดอยู่แล้ว ตอนนั้นทำงานด้วยเรียนด้วยไหนจะค่าเทอมค่ากินค่าห้อง รำบากพอสมควรแต่ก็ผ่านมันมาได้ จากคุณ : AE101 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:48:28

ความคิดเห็นที่ 28 หุงข้าวเอง ซื้อไส้กรอกแดงๆไม้ละ 5 บาทสองไม้เอามาทอดใหม่ เอาข้าวเหยาะแมกกี้กินสามมื้อค่ะ จากคุณ : Soda111 (soda111) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:04:12

ความคิดเห็นที่ 29 สำหรับเรา เป็นมื้อแรกหลังจากที่ รู้ว่าคนที่รักมาก จากไปค่ะ รันทดใจมากมาย กลืนข้าวเหมือนกลืนกรวด จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:06:05

ความคิดเห็นที่ 30 ข้าวกับมาม่า 1 ถุง ต้มแล้วแบ่งครึ่งกินสองมื้อ เน้นข้าวให้อิ่มสุดๆ จากคุณ : naturalization เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:12:32

ความคิดเห็นที่ 31 กินข้าวไปร้องไห้ไป ตอนนั้นโดนแม่ตีรู้สึกว่าไม่ได้เคี้ยว กลืนๆมันลงไปพร้อมน้ำตา....T.T จากคุณ : คุณป้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:20:50

ความคิดเห็นที่ 32 ่กินข้าวกับ "ผัดมะเขือยาว" ค่ะ คือตอนนั้น ประมาณ ป.4 ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ แล้วที่โรงเรียนเค้าทำผัดมะเขือยาว กะกับข้าวอะไรอีกอย่างจำไม่ได้ นักเรียนประจำเกือบทุกคน ไม่ยอมกินผัดมะเขือยาว เหลือทิ้งแบบเยอะมาก สรุปคือ ซิสเตอร์ (อยู่โรงเรียนคริสต์) ทำผัดมะเขือยาวมาให้ซ้ำอีกหนึ่งมื้อ และบอกว่า "ให้กินให้หมด ถ้าเหลือทิ้ง จะให้กินอีก" ด้วยความเป็นเด็ก เลยต้องจำใจกินให้หมด ืทั้งๆที่ มีรุ่นพี่บอกว่า ไม่ต้องกินหรอก แล้วรุ่นพี่ก้อเอาผัดมะเขือยาวอัดๆๆๆใส่จานซ้อนๆกัน แต่เรากลัวอ่ะ เลยต้องกินจนหมด สาบานได้ว่า เป็นผัดมะเขือยาวมื้อแรกและมื้อเดียวในชีวิต จากคุณ : i.mod เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:39:46

ความคิดเห็นที่ 33 ว่าจะตอบมาม่าหรือไข่เจียว...แต่คิดไปคิดมาก็ไม่รันทดเท่ากินข้าวเคล้าน้ำตาอ่ะค่ะ จากคุณ : ตะนอย-เอ็กซ์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:52:15

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนเงินช๊อต มีกระปุกนูเทล่าอยู่กระปุกนึง หยิบมานั่งกินอยู่อย่างนั้นทั้งวันอะค่ะ จากคุณ : Reigaz เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:04:53

ความคิดเห็นที่ 35 ต้มมาม่าด้วยน้ำก๊อกใส่ผงปรุงรสแค่หนึ่งในสามแล้วกินแต่น้ำไปสองมื้อแล้วมื้อสามค่อยกินน้ำบวกเส้น จริงๆคิดแล้วก็ตลกทำไปได้น่าจะแบ่งเส้นกินสามทีแต่กลัวเส้นอืดไม่พอเลยเก็บจนมื้อที่สามให้มันอืดจนถึงที่สุดจริงๆ แต่ก็ได้แค่วันเดียววันต่อมาเลยยอมให้คนที่มาจีบแต่ไม่ชอบเท่าไหร่เลี้ยงข้าว วันต่อมาให้อีกคน(แฟน)ที่มาจีบเลี้ยงเลยกลายเป็นได้เป็นแฟนกันเพราะเดือนนั้นถังแตกไม่งั้นไม่ยอมให้เลี้ยงนะเนี๊ย5555 จากคุณ : yuri_ja เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:13:08

ความคิดเห็นที่ 36 ที่นึกออก เหมือนจะลำบาก แต่ไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ ข้าว 1 หม้อ ปลากระป๋อง 2 กระป๋อง... กับคน 8 คนที่ยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า (ตอนกิน กินมื้อเย็น) เพราะแอบหนีคุณแม่ไปบ้านเพื่อน แหะๆ ตั้งแต่นั้นก็ไม่ดื้อกับคุณแม่อีกเลย เพราะอยู่ที่บ้าน ยังไงๆก็ยังมีของดีๆกิน ทำกับข้าวกินเองที่บ้าน แย่สุดก็ แกงหม้อเดียว กินได้ 3 วัน (วันละ 2 มื้อ) จากคุณ : * Ju TaRo * เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:19:47

ความคิดเห็นที่ 37 #24   ขำก็ขำ สงสารก็สงสาร จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:22:25

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ใช่อาหาร แต่คิดว่ารันทดที่สุดแล้ว TTT^TTT วันนั้นเราท้องเสีย ท้องเดิน ประมานว่าถ่ายเป็นน้ำตลอด แล้วไม่มีความรู้กับโรคนี้เลย คิดว่าท้องเสียธรรมดา แต่ถ่ายบ่อยมากๆ แล้วช่วงนั้น แก๊สหมดพอดี ทะเลาะงอนกับแม่อีก ไม่มีแก๊สต้มน้ำ น้ำขวดก็เหลือแค่นิดเดียว ก็อยู่อย่างนั้นยันดึก แล้วมันถ่ายตลอดเลยเหนื่อยมาก จำได้ว่าตอนเช้าตื่นมาหน้ามืดมาก หิวน้ำสุดๆ แต่ต้องไปเรียนเลยเข้าไปอาบน้ำ วินาทีนั้นแบบ หน้ามืดล้มในห้องน้ำ หมดแรงมองอะไรไม่เห็นเลย รู้สึกว่าขาดน้ำมากๆ ต้องเอาปากอ้ารองน้ำจากฝักบัวที่เปิดไหลลงมา TTT_TTT  ทรมานมาก กลัวตายสุดๆ พยายามเอาแรงทั้งหมดหยิบผ้าเช็ดตัวพันไว้ แล้วคลานกระดึ๊บลงมาหาแม่ข้างล่าง TT_TT จากคุณ : นู๋เป็นสาววาย เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:22:56

ความคิดเห็นที่ 39 มื้อที่รันทดที่สุด แต่ก็ปนอารมณ์ขำๆ สมัยเรียน โดนครูยึดเงิน กับเพื่อนอีก 4 คนค่ะ มีเศษเงินรวมกัน 20 บาท เอาไปซื้อข้าวราดแกงได้ 1 จาน รุมกินกันเหมือนแร้งลงอะคะ 5 คน 1 จาน ^^ จากคุณ : สวี๊ตParadiSe เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:27:24

ความคิดเห็นที่ 40 กินมาม่าคัพที่ลาสเวกัส   ไม่มีส้อม  ต้องใช้นิ้วหยิบกิน  ลองคิดดู  ร้อนไม๊ ? จากคุณ : ล้นฟ้า เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:38:37

ความคิดเห็นที่ 41 หมกตุ๊กแก ตอนเด็กๆ ไปนอนป่า ทำไร่ทำสวน เสบียงหมด พ่อเฒ่าเลยให้ไปดักนกคุ่ม แต่ดักไม่ได้ เลยให้ไปจับตุ๊กแกป่า ที่ต้นกุง ตอนกลางคืน พี่ชายก็พาไปคล้องตุ๊กแก ได้มา 1 ตัว รุ่งเช้า พ่อเฒ่า สับเนื้อตุ๊กแกละเอียด ไส่ไข่ไก่ 1 ฟอง ใส่ตะไคร้ ใบแมงลัก ห่อใบตอง หมกถ่านไฟ หอมฉุย เราขอกินแค่คำเดียว (แต่รู้สึกอร่อยจริงๆนะ) พอตกกลางคืน ได้ยินเสียงตุ๊กแกอีกตัวร้องลั่นป่า ทั้งคืน พ่อเฒ่าบอกว่า สงสัยจะเป็นคู่ของมัน เราเลยรู้สึกรันทดมาก จากคุณ : ปรุงรสตามชอบ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:42:06

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนเด็กๆ ไม่มีอะไรกิน แม่ไม่อยู่ ผัดข้าวเปล่าๆกับซีอิ๊วดำโรยน้ำตาลให้น้องๆกิน เป็นมื้อที่จำได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยความที่สงสารน้องเลยต้องดัดแปลงสิ่งที่มี ทำให้น้องได้กินอิ่มไปหนึ่งมื้อ จากคุณ : To my mind (To my mind) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:42:55

ความคิดเห็นที่ 43 แม่เคยเล่าว่า แม่ออกจากบ้านมาหาเงินแต่เด็กๆ มาอาศัยบ้านญาติๆ ต้องต้มปลาทู2ตัว เอาน้ำมาคลุกข้าว2อาทิตย์ เราเองก็เคยไม่มีเงินติดบ้านเลย หอบของไปขาย ท้องก็หิว ได้เงินมาก็ซื้อของกิน รอดตายไป ^^ จากคุณ : แนผ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:50:15

ความคิดเห็นที่ 44 บะหมี่ถ้วยรสอะไรก็อ่านไม่ออก..จากร้านจีนที่ออสเตรเลีย เค้าบอกว่าน้ำก๊อกรร.ที่นี่ร้อนใช้ได้..ป้าก็ลองดู ไม่เห็นมันจะนิ่มขึ้นเลย..ชิมแล้วน้ำตาไหล เสียดายตังจังเล้ย จากคุณ : ป้าจอยเอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:54:10

ความคิดเห็นที่ 45 มีตังค์ แต่กินไม่ลงกินไม่ได้ กินข้าวได้วันละครึ่งกล่องแค่นั้น ถ้าไม่มีแรงต้องกินพวกน้ำสีๆ ทรมานมากเห็นข้าวแล้วกลืนไม่ลงกินไม่ได้ เครียดจากการเรียน เห็นข้าวแล้วร้องไห้ ครึ่งกล่องกินสามชั่วโมง - -" เป็นอยู่เดือนกว่า ทรมานมาก จากคุณ : ล่องลอยในความฝัน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:56:14

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนนั้นไม่มีเงินไปกินข้าวกลางวันทำงาน ตอนเช้าที่บ้านมีข้าว+ไข่1ฟอง+พริกแกงเขียวหวาน เลยทำข้าวผัดพริกแกงเขียวหวาน แ้ล้วก้ไข่เจียวไปกะว่าไปกินมื้อเที่ยง แต่ด้วยความที่ทำกับข้าวไม่เป็น ข้าวผัดไม่ได้เรื่อง ไข่เจียวด้าน+ไหม้+อมน้ำมัน เอาไปกินที่ทำงานกับเพื่อนทั้งอย่างงั้น เพื่อนสงสาร ต้องแบ่งหมูทอดให้กิน 555 จากคุณ : ribbon jung +^_^+ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:03:08

ความคิดเห็นที่ 47 ช่วงน้ำท่วม ตอนกลับไปดูบ้าน คิดว่าไปดูแป๊บๆ เลยไม่ได้เตรียมเสบียงไปเผื่อ พอไปถึง เห็นของในบ้านเละเทะ เลยอยู่ทำความสะอาด วันเสาร์ มื้อเที่ยง -> ขนมปังลูกเกด + น้ำดื่ม 1.5 ล. มื้อเย็น -> ขนมปังลูกเกด + น้ำดื่ม 1.5 ล. วันอาทิตย์ มื้อเช้า -> ขนมปังลูกเกด + น้ำดื่ม 1.5 ล. มื้อเที่ยง -> ขนมปังลูกเกด + น้ำดื่ม 1.5 ล. ปล. ขนมปังมีอยู่ 1 ก้อน กับ น้ำ 1 ขวด จากคุณ : i_nam เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:04:07

ความคิดเห็นที่ 48 แม่ทำงานโรงงาน โรงเรียนปิดเทอมเราอยู่บ้าน แม่จะซื้ออาหารกลางวันมาให้กิน ก๊วยจั๊บ กับเผือกแกงบวช เราก็กินกินกิน จนเหลือเส้นก๊วยจั๊บกะน้ำ เผือกแกงบวชเหลือแต่น้ำ แม่เก็บถ้วยชามไปหลังบ้าน แอบเห็นแม่ตักของที่เหลือๆ กิน แล้วก็กลับไปทำงาน หลังจากนั้นไม่ว่าแม่ซื้ออะไรให้กินเราไม่เคยกินจนหมดอีกเลย ทุกวันนี้เห็นเผือกแกงบวชเมื่อไร สะเทือนทุกครั้ง.... จากคุณ : gomei เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:19:11

ความคิดเห็นที่ 49 เคยครั้งนึงตอนอยู่หอ ตอนนั้นเงินหมดอีกสามวันกว่าจะได้เงินจากแม่ ที่ห้องมีไมโครเวฟอย่างเดียว น้ำขวดก็หมด เลยต้องเอาน้ำก็อก เป็นน้ำบาดาล เข้าไมโครเวฟกิน แทนน้ำเปล่า รสชาติแย่มากแต่ก็ต้องจำใจ ส่วนข้าวก็เป็นมาม่า กับบ้ำบาดาล เข้าไมโครเวฟ สามวันกินแต่แบบนี้ เป็นช่วงที่แย่มากๆ จากคุณ : เจ้าหญิงโรคจิต เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:21:30

ความคิดเห็นที่ 50 มีกับเค้าเหมือนกันค่ะ  รันทดมั้ย พอได้นะ  เพราะแม่หมูแสบมากเป็นช่วงที่ยังเป็นนักศึกษา บ้านอยู่ไกล เลยขอพ่อแม่ย้ายมาอยู่หอ ปิดเทอมแล้วพวกเรายังไม่กลับบ้าน เพราะนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัด กับเพื่อนๆ ทั้งหมดห้าคน ไปแบบลุยมาก นั่งรถเมล์ออกนอก กทม. แล้วโบกรถไปใต้กัน ที่โบกรถเพราะว่าปิดเทอมแล้ว ทางบ้านก็ไม่ได้ให้เงินงัย เพราะคิดว่าพวกเราจะต้องกลับบ้านอยู่แล้ว ห้าคนมีเงินอยู่พันกว่าบาทในตอนนั้นก็เยอะอยู่นะ การไปครั้งนั้นถ้าเทียบกับตอนนี้ก็ประมาณว่าไปแบบ สะพายเป้ แต่ของพวกเรามีเต๊นท์ไปด้วย และมันส์กว่ามาก โบกรถไปเรื่อยๆ ค่ำไหนกางเต๊นท์ที่นั่น หนุกมากๆ ประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ อาหารหลักระหว่างเดินทางคือ มาม่า ข้าวเปล่า ไข่เจียวจากร้านอาหารข้างทางบ้าง ช่วงแรกๆ ก็กินอิ่มนอนหลับดี เพราะเหนื่อยด้วย แต่ตอนขากลับนี่ดิ เงินชักจะหมด แถมเพิ่งมาถึงประจวบเอง โบกรถบ้าง เดินคุยกันไปบ้าง จนจะค่ำ เริ่มหิว จำได้ว่าตรงนั้นคือ ทับสะแก พวกเราหิวมาก เงินเหลือไม่ถึงร้อยบาท แต่ต้องเก็บเป็นค่ารถตอนเข้า กทม. เดินเข้าไปขอกางเต๊นท์ในรร. กางเสร็จก็พากันเดินไปในตลาด ไปซื้อข้าวเปล่า ขากลับ ผ่านบ้านใครไม่รุ เค้าตากปลาย่างไว้ในกระจาดที่เป็นไม้ไผ่อ่ะ ...หุ..หุ..คงรู้ใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ระหว่าง คนพเนจรทั้งห้า กับปลาย่างที่เจ้าของบ้านไม่อยู่..เหอ..เหอ..เสร็จตรู..อิ..อิ  มีแถมให้อีก ในตอนเช้าก่อนออกเดินทาง ไปซื้อมาม่า มาแล้วขออนุญาตเข้าไปต้มที่บ้านพักครู ห้าคน ต่อมาม่าสามห่อ ใส่ตำลึงข้างรั้วด้วย ต้มเสร็จ เพื่อนๆ กรูกันใส่หม้อเลย เราไม่ทันแหงมๆ นึกขึ้นได้ จิกหัวมันขึ้นมาคนนึง แล้วแทรกเข้าไปแทนที่ แล้วจึงปฏิบัติการ..............:-)...:-)......:-).... นำลายที่ฟูฟ่องเป็นฟองของเรากระจายฟุ้งไปทั้งวง เพื่อนๆแตกฮือ... ส่วนเรา นั่งกินหน้าตาเฉยอย่าง เอร็ด อร่อย นี่คือประสบการณ์การกินแบบรันทดของแม่หมู พฤติกรรมนี้ผู้ปกครองควรพิจารณา อาจไม่เหมาะจะเป็นเยี่ยงอย่างกับเยวชน ... แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 22:26:29 จากคุณ : แม่หมูตาโต เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:25:06

ความคิดเห็นที่ 51 ข้าวเหนียวที่ เพื่อนแม่ที่โรงงาน กินเหลือ แม่เก็บมา มีครึ่งห่อ แบ่ง 2คนแม่ลูก จิ้มน้ำปลา พริกผง เศร้ามากมากมาย ตอนนี้ สามารถพาแม่ไปกิน บุฟเฟ่ นานาชาติได้อย่างภูมิใจ อิ อิ จากคุณ : มันเป็นส่วนผสมในใจ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:34:57

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่เจอแม่นานมาก กลับบ้าน แม่อุ่นถั่วเขียวต้มน้ำตาลให้กิน 1 ถ้วย คนแก่ตามองไม่ค่อยเห็น มีขี้จิ้งจกตกลงไป แม่นั่งมองดูเรากิน อมยิ้ม เราแอบทิ้งขี้จิ้งจก แล้วก็กินต่อไป จากคุณ : จิตรพร เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:38:09

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนเรียน ป 2 ทำเงินหาย เลยซื้อข้าวไม่ได้ นั่งหงอยอยู่คนเดียว เพื่อนอีกคนเป็นลูกชาวนา มีเงินติดตัว 1 บาท มันเลยไปซื้อขนมเป็นเม็ดเล็กๆอยู่ในหลอดมาแบ่งกินกับผม คิดดูว่าปกติแค่นี้มันก็ไม่อิ่มอยู่แล้ว ยังเจือกมาแบ่งผมอีก นึกแล้วยังซึ้งไม่หาย ที่จำได้แม่นอีกครั้งคืองอนแม่ เพราะทำกับข้าวที่ไม่ชอบ เลยกินแต่ข้าวสวยเปล่าๆประชดซะงั้น แม่ก็ไม่ง้อนะ กินไปก็กินน้ำเปล่าตามเพราะฝืดคอโค่ดๆ ต่อจากนั้นไม่เคยงอนแม่เรื่องกับข้าวอีกเลย จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:47:46

ความคิดเห็นที่ 54 มันเป็นปสก.แบบฮาๆค่ะ  ช่วงเป็นเด็กประมาณ 3-4 ขวบ พ่อกับแม่ไปทำงาน ล็อกบ้าน แล้วเผลอหยิบกุญแจบ้านไปหมดทุกดอก (คงเป็นเวรกรรม T^T เพราะปกติที่บ้านจะมีกุญแจบ้านอยู่หลายพวง ไม่รู้หยิบไปหมดได้ไง)   แล้วที่บ้านไม่มีใครทำกับข้าว  ตู้เย็นก็เลยมีแต่น้ำเปล่า   สรุปว่าอาหารของวันนั้นทั้งวันคือ ข้าวเหนียวที่เหลือจากมื้อเย็นของเมื่อวาน กับ น้ำปลา TT^TT  ตั้งแต่วันนั้น ก็เลยขอกุญแจบ้านส่วนตัวไว้เลย จากคุณ : Baboon_baba เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 23:00:48

ความคิดเห็นที่ 55 จำได้ว่า ตอนเราเป็นเด็ก เป็นตอนเย็น เราเอากะละมังครอบหัว วิ่งลุยฝนที่ตกหนักมาก ไปยืมเงินเพื่อนบ้าน ได้มา ยี่สิบบาท ข้าวยังไม่ได้กินกันตั้งแต่เช้า แม่ให้เก็บเงินนั้นไปโรงเรียนกับน้อง แล้วแม่เราก็เอา มะขามเปียก ตั้งไฟ ใส่น้ำ แล้วเติมน้ำตาล แล้วก็มาคลุกข้าวกินกัน ตาเราบอกเราว่า กับข้าวมือนี้ อร่อยที่สุดเลยนะ ตอนเราอยู่หอกับเพื่อน ไม่มีเงิน เพื่อนก็กลับบ้าน เราเอาน้ำประปาต้มกินแทนน้ำเปล่า กินแทนข้าว อยากกินข้าวเหนียวไก่ทอดมาก ราคาแค่ชุดละ 13 บาท ( ข้าว กับไก่หนึ่งน่อง ) เราก็ได้แต่มอง แล้วกลืนน้ำลาย ไม่มีเงินจ่ายค่าหอ เราใช้วิธี เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า นั่งหลับบนรถเมลล์จนสุดสาย 3.50 รอจนเช้า เพื่อไปอาบน้ำ 5 บาท ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีอีกเยอะค่ะ กว่าจะมีทุกวันนี้ เรายังเคยคุยกันขำขำ ว่าวันนึงถ้าเรามีโอกาสเขียน อัตชีวประวัติ หรือมีใครเชิญไปออกรายการนี่ เราต้องทำตาแดงๆ เสียงเครือๆ เหมือนอย่างคนดังทั้งหลายเล่าเรื่องของเค้า แน่แน่ 5555555555 ทุกวันนี้สุขสบายแล้ว ยังเสียดาย ว่าไม่มีโอกาสได้พา พ่อ และ ตา ไปกินบุปเฟ่ต์ตามโรงแรมที่ทุกท่านมารีวิว อยากพาท่านไปมากเลยค่ะ ไม่มีโอกาสได้ดูแล ท่านทั้งสอง อย่างที่ลูกหลานควรทำ แต่เราก็ได้ดูแลแม่ อย่างที่ไม่ต้องให้ท่านได้ลำบากเลย แม่บอกเราว่า ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ การที่แม่ไม่เคยทอดทิ้งตายาย เลี้ยงดูพ่อแม่อย่างสุดความสามารถที่จะทำได้ วันนี้มันส่งผล ให้ลูกของแม่ ดูแลท่านอย่างดี ลูกๆ มีความเจริญ ก้าวหน้า แต่การที่ชีวิตดีขึ้น ก็ทำให้เรามักจะลืมตัว ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย มีเมมเบอร์โรงแรม กินร้านหรู ซื้อเครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้าแพงๆ  ..... แฟนเราเตือนเสมอ ให้นึกถึง ชีวิตรันทด ที่เราชอบเล่าให้เค้าฟัง อย่าอยู่อย่างประมาท ต้องคอยเก็บออม ชีวิตไม่แน่นอน วันนึงเราอาจกลับไปลำบากยิ่งกว่าที่เคยเจอมาก็ได้ เราก็รับปากเค้าตลอด แต่เพิ่งจะมีเงินเก็บแค่ห้าพันเองอ่ะ แถมตอนนี้ สร้อยคอ สองเส้น ยังอยู่ทีโรงรับจำนำอยู่เลย 55555555 จากคุณ : I am a tough girl. เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 23:28:57

ความคิดเห็นที่ 56 คนเราเลือกเกิดไม่ได้จริงๆ แต่เลือกที่ก้าวผ่านตรงไหนไปได้ ซึ่งมันต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก ผมขอชื่นชมทุกท่านนะครับ จากคุณ : chaihr เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 00:31:49

ความคิดเห็นที่ 57 สี่ห้าปีก่อน เตรีียมออกจากงานหลังพ้นโปร(เพราะมันไม่ใช่) ห้ามใช้เงินเกินวันละ 50 บาท ต้องยืนรออาหารสำเร็จในห้่างดอกบัวลดราคา (ข้าวหมูกระเทียมไข่ดาวจะลดเหลือ 15 บาทตอนค่ำๆ) แต่ถึงจะลำบากก็ไม่คิดว่ารันทด เพราะรู้ว่าทนเพื่ออะไร แล้วมีความสุขกับงานใหม่ที่ทำมาถึงตอนนี้ ที่รันทดกว่าคือ นั่งทำงานแทบตาย กว่าจะได้กินข้าวก็เลยบ่ายสอง กินไปมือสั่นไปเพราะความหิว แต่ยังไม่วายโดนด่า ยื่นใบลาออกหลังจากนั้นไม่นานด้วยความสะใจ จากคุณ : thanatchaya (Thanatchaya) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 01:31:00

ความคิดเห็นที่ 58 ตอนไปเรียนต่างแดน มื้อรันทดที่สุดในชีวิตคือต้มเส้นสปาเกตตี้กินเปล่าๆค่ะ ตอนนั้นกระเป่าตังค์โดนขโมย แล้วดันเป็นวันที่ปกติจะต้องไปจ่ายกับข้าว ผลคือตู้เย็นโล่งมาก มีนมก้นขวด น้ำเปล่า แล้วก้เส้นสปา ต้มเส้นคลุกเกลือกิน รสชาติแย่กว่ามาม่าเยอะค่ะ (มาม่ายังมีผงชูรส) จากคุณ : dekhype เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 02:33:37

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องของตัวเองไม่มี มีแต่เรื่องของแม่ที่เคยเล่าให้ฟัง เราฟังเรื่องนี้แล้วรุ้สึกสงสารแม่ตอนเด็กๆจับใจมาก แม่เล่าให้ฟังว่า สมัยแม่เด็กๆ แม่ต้องเลี้ยงน้องตอนนั้นแม่ 6 ขวบ เลี้ยงน้อง 2 คน ยายกับตาเราไปทำสวนทำนา ตอนนั้นไม่มีเงินหรอก ตายายให้แม่หากินกันเองมื้อกลางวัน แม่บอกว่าน้องไม่ได้กินนมยายเพราะยายต้องไปดำนา เวลาน้องหิวข้าวแม่จะไปจับอีห๊วก((ลูกอ๊อด)) มาตำๆให้ละเอียดเอาต้มกับน้ำหาพริกหาข่าใส่ แล้วเอาป้อนน้องด้วยกินเองด้วย จะได้กินข้าวก็ทุ่มสองทุ่มตายายกลับนู้นแหละ ฟังแล้วน้ำตาแอบเออ แต่แม่หัวเราะแทนบอกแค่ว่าตอนเด็กๆนี่กินมาหมดแล้วทุกอย่าง ตอนนี้พาแม่ไปกินอะไรอร่อยๆทุกที่เลยค่ะที่แม่อยากทาน อยากให้แม่มีความสุข แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 05:29:13 จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 05:25:00

ความคิดเห็นที่ 60 วันนี้เลยค่ะ ข้าวกับไข่ดาวเหยาะซีอิ๊วขาว หรือไม่ก็แอปเปิ้ล 1 ลูกค่ะ (ที่อังกฤษ แอปเปิ้ลถูกสุดค่ะ) หรือบางวันก็ข้าว+ผักกาดดองกระป๋อง (1 กระป๋อง 2 มื้อค่ะ) หรือไม่ก็โยเกิร์ต 1 อันค่ะ จากคุณ : production เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 05:36:05

ความคิดเห็นที่ 61 ตอนไม่มีจะกินครับ กินน้ำแกงของเหลือๆ ก้นถาด คลุกข้าว ตอนปิดร้าน จากคุณ : ลูกแม่ค้าขายข้าวแกง (Are Yoi) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 05:45:52

ความคิดเห็นที่ 62 มีครั้งนึงเงินช็อตต้องรออีก10วัน อดข้าวไม่ได้กินอะไรมา6วันกินแต่น้ำ เข้าใจเลยว่า หิวจนตาลายเป็นยังไง แต่เสมือนพระเจ้าเมตตา เงี่ยหูได้ยินเสียงลูกหมาร้องอิ๋งอยู่แถวพง หญ้าข้างบ้าน ลากสังขารอิดโดยเข้าไปเจอลูกหมาวัยกำลังน่ารักอายุไม่เกิน1เดือน 4ตัว อยู่ในกล่อง คาดว่ามีคนเอามาปล่อยทิ้ง ผมจึง.......... ท้ายนี้ ผมขอให้คำมั่นว่าการเสียสละของพวกมันจะไม่เสียเปล่า แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 06:58:36 จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 06:57:38

ความคิดเห็นที่ 63 ไปทำงานต่างจังหวัดใช้เงินจนหมดญาติพี่น้องก็ไม่มี อยู่กัน 5 คน มีเงิน 30 บาท ซื้อแกงอ่อมหอยขม กับข้าวเหนียว 10 บาท เวลาจุ๊บหอยจะได้กินลมเข้าไปด้วย เดี๋ยวไม่อิ่มกัน ตอนซื้อกับข้าวตามองแต่ไก่ย่างหอมๆ คิดในใจ..สิ้นเดือนเราเจอกันแน่ไก่จ๋า จากคุณ : คนแดนปราสาทขอม เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 09:03:38

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้นี้รันทดมากเลยค่ะ อ่านไปก็ซับน้ำตาไป ของเราลำบากที่สุดก็ตอนอยู่เมืองนอกนี่ล่ะ เผอิญว่าอ้วนอ่ะ แล้วชอบกินจุกกินจิก กินแล้วไม่ค่อยอิ่ม ตอนนั้น host เอาปลาแซลมอนกระป๋องมาให้เพื่อเอาไปฝากแม่ที่เมืองไทย แต่เราหิวมาก เลยเปิดกินก่อน แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นก็ตรงที่มันไม่มีฝาดึงนี่ล่ะ ต้องแงะอยู่นานกว่าจะได้กิน อีกมื้อก็คือตอนที่มีครอบครัวแล้ว จะไปข้างนอก กับข้าวพร้อม แต่ข้าวไม่พอ ก็ต้องให้ลูกกับสามีกินก่อน ส่วนเราก็กินที่เหลือจากลูก ไปถึงบ้านแม่ ก็หิวข้าวมากๆๆๆ พอไปถึงก็ตรงขึ้นไปกินข้าวก่อน แฟนก็บ่นๆๆๆว่าไม่ช่วยขนของก่อน เราก็งงดิ ก็คนมันหิวนี่หว่า จากคุณ : bangnuu เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 10:50:32

ความคิดเห็นที่ 65 62  น่ากลัวมาก ... แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 14:37:34 จากคุณ : คนอย่างเรา...ใครเขาจะเอา เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 10:58:32

ความคิดเห็นที่ 66 ช่วงนึงต้องใช้เงินห้ามเกิน 50 บาท ก็ได้ข้าวกล้องคลุกน้ำปลานี่ล่ะ ช่ว่ยชีวิต อร่อยด้วยนะ อิอิ จากคุณ : คนหัวฟู เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 11:23:42

ความคิดเห็นที่ 67 ของผมนี่ไม่รู้จะรันทดหรือเปล่ามีช่วงที่เป็นนักศึกษาเงินที่ได้จากทางบ้านก็หมดจะขออีกก็ไม่อยากรบกวนเพิ่มภาระให้ทางบ้าน เพื่อน ๆ ก็กลับบ้านกันหมดครับต้องเก็บชมพู่แถวหอพักกินประทังชีวิตอยู่ 2-3 วันกว่าเพื่อนจะกลับจากบ้านกัน จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 15:40:12

ความคิดเห็นที่ 68 ตอนนั้น ม.4 บ้านโดนขโมยขึ้นค่ะ ไอ้เราก็อยากช่วยแม่ประหยัด ก็เลยห่อข้าวไปกินกลางวัน วันนั้นเปิดกล่องข้าวมา มีมดดำนอนตายผสมอยู่ในข้าวชนิดที่ทำให้ข้าวกลายเป็นเหมือนข้าวคลุกงาดำ แต่ก็กินค่ะคิดซะว่าได้โปรตีนเพิ่ม จากคุณ : dollfie เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 17:47:28

ความคิดเห็นที่ 69 กินข้าวไป ดู รีวิว อาหารอร่อยๆ น่าทาน จากคุณ : foodpp เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:33:13

ความคิดเห็นที่ 70 ความคิดเห็นที่ 14     ข้าวไข่พะโล้ค่ะ แต่กิน 5 วันติดกัน สมัยเรียนตปท. ต้องปั่น essay ไม่มีเวลาทำกับข้าว ซื้อกินก็ไม่สะดวก แพงด้วย เลยต้มไข่ ทำเป็นพะโล้ (หมูก็ไม่ได้ใส่) เก็บไว้กินทั้งอาทิตย์ จากคุณ : Spring Rolls   เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:59:47   : cinogen หัวอกเดียวกัน  แต่ของผมมีข้าวมันไก่กินทีหลายวัน จากคุณ : cinogen เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 22:10:45

ความคิดเห็นที่ 71 ของเราไม่รันทดด้านราคา แต่ได้รางวัลดราม่ายอดเยี่ยม... เหตุเกิดตอนเราอยู่ประมาณ ป. 6 บ้านเราเป็นครอบครัวอาหารถุง คุณแม่จะซื้อกับข้าวถุงตุนไว้ให้ลูกทุกวัน วันนึง โจทย์ที่ได้รับเป็นผัดพริกขิงผักบุ้ง กับแกงจืดวุ้นเส้น.....  คุณพี่สาวเป็นคนอุ่นอาหารถุงให้ (สมัยก่อนอุ่นจากเตา ไม่มีไมโครเวฟแสนสะดวกเหมือนทุกวันนี้) พอนางอุ่นเสร็จ เรียกเรามาทานด้วยเสียงแปดหลอด (คงเพราะเราไม่ได้ช่วย แหะๆ และนางก็คงกะลังหิว) แว๊ก!! มันไม่น่ากินซะนี่กระไร เราเลยสวมวิญญาณคุณชายกวนบาทา ไม่กิน สะบัดสะบิ้ง อยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง คุณพี่สาวคงเหลืออด อัญเชิญวิญญาณ ดั๊ม มัตสึโมโต้ (นักมวยปล้ำหญิง ญี่ปุ่น) คร่อมเรา จับเรานอนคว่ำ แล้วเอามือกดคอไว้....แอร๊ยย  เหมือนตำรวจฝรั่งจับผู้ร้ายประมาณนั้น... จากนั้น นางก็ปู้ยี่ปู้ยำ จับแกงจืดกับผัดพริกขิงผักบุ้ง มาทำแกงโฮ๊ะในจานข้าวเรา แล้วบังคับให้กินให้หมด....  ตอนนั้นคุณชายกวนบาทาออกจากร่าง เหลือแต่พจมาน!!  นั่งกินข้าวไปน้ำตาไหลลงช้อนไป เค็มๆ ยี๊ๆ....  เกลียดแกงจืดวุ้นเส้นกับผัดพริกขิงผักบุ้งไปจนวันตาย T_T ดราม่า...และรันทดพอมั๊ยคร๊าบบบ TTT__TTT จากคุณ : สองหมีขี้อ้อน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 22:14:37

ความคิดเห็นที่ 72 เกลือครับ กินข้าวกับเกลือตอนนั้นทำงานส่วนตัวเจ๊ง เงินหมดเหลือเงินติดกระเป๋าสามบาทต้องเดินกลับบ้าน จากสี่แยกพงษ์เพชรมาที่รามอินทราเดินกลับบ้านทั้งน้ำตา จะบอกใครก็ไม่ได้พูดไม่ออกโลกมืดวูบคิดสั้นไปหลายครั้ง เริ่มเดินกลับบ้านจากตอนบ่ายโมงถึงบ้านเกือบหกโมงเย็น ช่วงนั้นกินข้าวไม่ลงไปหลายวันพอเริ่มตั้งสติได้ก็หุงข้าวสารที่เหลือ มองหาของกินรอบตัวเหลือแต่เกลือหนึ่งขวดคลุกกับข้าวกินเป็นเดือน หลังจากนั้นก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดดีบ้างแย่บ้างถึงวันนี้จะไม่สบายนัก แต่ก็ไม่ลำบากมากมองกลับไปวันนั้นก็เลยเห็นและเข้าใจชีวิตมากขึ้นจริงๆ จากคุณ : อูหลง เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 01:06:50

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 62 เอ่อะ.......... จากคุณ : bebia เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 04:03:23

ความคิดเห็นที่ 74 ตอนอยู่ม.ต้น บ้านจนมากกินข้าว2จานกับลูกชิ้นปลา1ไม้รีดน้ำจิ้มซะถุงแห้งคลุกข้าว เกือบทุกวันเน้นปริมาณข้าวไว้ก่อน เราตัวใหญ่กินเยอะ   มารู้ตอนหลังว่าแม่ต้องเก็บเงินไว้ให้ค่าเทอม ตัวเองแทบไม่ได้กิน(เพราะเราฟาดข้าวทีละ2จานT_T) ผ่านมาแล้วยังจำไม่ลืม ตอนนี้มีตังค์แล้วของแพงๆที่แม่อยากกินจะหามาให้ไม่เคยเสียดายเงินเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 06:22:33 จากคุณ : love mom so much เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 06:20:33

ความคิดเห็นที่ 75 62 คะ ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไม๊คะ T^T จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 09:24:58

ความคิดเห็นที่ 76 ไปเรียนพิเศษได้ตังค์เยอะ จ่ายเยอะ เอาไปซื้อหนังสือ ดูหนัง รู้ตัวอีกที วันนั้นทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือ 20 ซื้อข้าวเหนียว ไก่ย่างหน้าหอ เป็นมื้อเดียวทั้งวัน กลับหอไป เป็นลม เพื่อนสงสารให้ยืม 100 นึง วันต่อมาโทรบอกแม่ แม่ร้องไห้ โอนตังค์มาให้จ่าย ต่อจากวันนั้นเราเลยต้องทำรายรับ รายจ่าย วางแผนจ่าย นึกถึงวันนั้นทีไร ยังรู้สึกแปลกๆกับตัวเองเลย จ่ายไม่คิด จากคุณ : ต้นไม้ต้นนั้นที่เคยรดน้ำ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 12:50:37

ความคิดเห็นที่ 77 คิดแล้วรันทดมาก ของเรา ซ่อนเงินไว้ในกล่องยาแล้วลืมว่าซ่อนไว้ หาไม่เจอ ไม่มีเงินใช้ ไม่กล้าขอแม่ เลยต้องกินน้ำเปล่า(ฟรีนะไปกดเอาที่คูลเลอร์ที่เรียนพิเศษ) กับขนมฟันโอ 5 บาท มันแลเยอะดี มื้อนั้นคือ จ่าย 5 บาท ตอนกลางคืนท้องร้องโครกครากเลยอ่ะT^T จากคุณ : ซักกระนิด เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 00:59:31

ความคิดเห็นที่ 78 ข้าวเหนียวจี่กับเตาไฟจิ้มเกลือ ติดกันหนึ่งอาทิตย์เพราะโดนคนยืมเอาเงินไปหมดแล้วไม่ยอมมาคืน (ตอนนี้หัวเราะได้ แต่ตอนนั้นน้ำตาร่วงเพราะความแค้น) จากคุณ : ตัว(Z) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 20:10:34