ความคิดเห็นที่ 1 ขั้นตอนการทำ จะว่ายุ่งยากก็ไม่เชิงครับ เพียงแต่ขั้นตอนการเตรียม มันมีวัตถุดิบเยอะหน่อย ผมว่าเรามาเตรียมของสำหรับตัวเครื่องของเมี่ยงก่อนดีกว่านะครับ -มะนาวล้างสะอาด หั่นเต๋า -หอมแดงเล็ก หั่นเต๋า -ขิงหั่นเต๋า -พริกขี้หนูสวน -กุ้งแห้งเกรดดี ไม่ใช้กุ้งแห้งฝอยใส่สีนะครับ -ใบชะพลู หรือ ใบทองหลาง(ของผมมีทั้งสองอย่างเลย) จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:16:55

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องมีถั่วลิสงคั่วด้วย ผมเลือกที่จะคั่วเองครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:19:12

ความคิดเห็นที่ 3 และต้องมีมะพร้าวคั่ว ขาดไม่ได้ ตัวมะพร้าวคั่วนี่แหละครับ ที่ยุ่งยากหน่อย เริ่มจากหามะพร้าวให้ได้ขนาด คือ ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป เพราะถ้าอ่อน จะซอยไม่ได้ ถ้าแก่เกินไปจะไม่หอม ไม่มัน แถมแห้งด้วย จากนั้นฝานมะพร้าวบางๆตามรูปโค้งของมะพร้าวแล้วซอยให้ฝอยที่สุด เสร็จเเล้วนำไปใส่ถาด ผึ่งลม ผึ่งแดดให้แห้งซักครู่ แล้วนำมาคั่วในกระทะที่ใช้ไฟกลางจนถึงไฟอ่อน ไม่งั้นจะไหม้และขม นี่ครับ หน้าตามะพร้าวที่ซอยฝอยเตรียมคั่ว จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:23:23

ความคิดเห็นที่ 4 จากนั้น ใส่กระทะคั่วได้เลย...ขั้นตอนนี้ กรุณาใส่ใจมากๆนะครับ ไม่งั้นไหม้ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:24:35

ความคิดเห็นที่ 5 คั่วด้วยไฟกลางไปซักพัก จะได้แบบนี้ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:25:27

ความคิดเห็นที่ 6 คั่วต่อไปเรื่อยๆ กลิ่นหอมเริ่มออก ลดไฟลง สีจะเข้มมากขึ้น....ระวังไหม้นะครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:26:37

ความคิดเห็นที่ 7 ผ่านไป 20 นาที(โดยประมาณ อาจมากกว่านั้น) สังเกต สีมะพร้าวจะเข้ม แต่อย่าให้ถึงกับออกสีเข้มมากเกินไปนะครับ ไม่งั้นขม รีบตักจากกระทะใส่ถาดไว้ เกลี่ยให้ทั่ว ของผมออกมารสชาติพอดีครับ กรอบ ไม่ขมเลย จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:29:08

ความคิดเห็นที่ 8 ในส่วนของเครื่อง เสร็จเเล้วนะครับ ต่อไป เรามาทำน้ำเมี่ยงกัน พระเอกของเมนูนี้ วัตถุดิบประกอบด้วย -ข่า(จะอ่อนหรือแก่ก็ได้) -น้ำตาลปี๊ปแท้ 1 กิโล -กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำเปล่า จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:31:39

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มจาก หั่นข่าเป็นแว่นๆ หรือจะสับก็ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 00:36:05 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:33:22

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้น เทใส่ครก ตำพอแหลก จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:34:00

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ต้องให้ละเอียดจนเป็นผงนะครับ จะได้เคี้ยวเนื้อข่าบ้าง สมุนไพรไทย จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:35:43

ความคิดเห็นที่ 12 พักจากข่าไว้ก่อน เรามาเริ่มที่การทำตัวน้ำนะครับ ประกอบด้วย น้ำตาลปี๊ปแท้ และ กะปิ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:37:16

ความคิดเห็นที่ 13 เริ่มจาก ใส่น้ำตาลปี๊ปในหม้อแล้วเติมน้ำเปล่าไปนิดนึง ประมาณ 1ใน3 ของแก้ว ใช้ไฟกลางนะครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:38:33

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านไปซัก 5 นาที น้ำตาลเริ่มละลายเเล้ว จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:39:27

ความคิดเห็นที่ 15 ผ่านไป 10 นาที เริ่มเดือดมากขึ้น มีฟองตามขอบๆหม้อ ใช้ไฟกลางไปก่อน จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:40:28

ความคิดเห็นที่ 16 15 นาทีผ่านไป เดือดปุดๆเลยครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:41:07

ความคิดเห็นที่ 17 ผ่านไป 20 นาที เราก็ใส่กะปิลงไปได้เลยครับ เมื่อใส่กะปิลงไปแล้ว คนให้กะปิละลายนะครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:42:37

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อกะปิละลายเเล้ว ตามด้วยข่าที่เราตำไว้เเล้ว ได้เลยครับ.... จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:43:28

ความคิดเห็นที่ 19 จากนั้น คนให้ข่าละลายเข้ากับตัวน้ำครับ จากนี้ไป หมั่นคนนะครับ แล้วลดไฟลงเหลือไฟอ่อน จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:45:03

ความคิดเห็นที่ 20 อยากกทานขึ้นมาเลยค่ะ จากคุณ : หมูอืด เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:45:21

ความคิดเห็นที่ 21 ลองตักขึ้นมาดูครับ ว่าเหนียวหรือยัง จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:45:46

ความคิดเห็นที่ 22 เคี่ยวต่อไปอีกซักครู่ แล้วปิดไฟทิ้งไว้ได้เลยครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:46:57

ความคิดเห็นที่ 23 รอน้ำเมี่ยงเย็น ตัวของน้ำจะเหนียวขึ้นมาอีกครับ เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็มาจัดเตรียมได้เลยครับ วันนี้ ผมได้ทั้งใบทองหลางจากข้างบ้านยาย แล้วก็ใบชะพลูจากบ้านทวด นี่แหละสังคมต่างจังหวัด ของกินหาได้รอบบ้าน .............................................. ด้วยความรีบ ขาดกุ้งแห้งซะงั้น จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:51:02

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เป็นไร เอาใหม่ และเเล้ว เราก็ได้ มอ เอีย งอ เมียง ไม้เอก เมี่ยง....สมใจอยาก แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 00:53:04 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:52:33

ความคิดเห็นที่ 25 และเเล้วก้ได้เวลาชิมครับ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:54:09

ความคิดเห็นที่ 26 อีกซักคำ....หรอยนิ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:54:46

ความคิดเห็นที่ 27 ซักคำมั้ยครับ ผมป้อนให้........... แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 01:04:01 จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 01:01:50

ความคิดเห็นที่ 28 อ้าาาามมมมมม ขอ 2 คำนะ จากคุณ : Take me drunk! เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 01:07:37

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบมากเลยค่ะขอสักคํา จากคุณ : mangkhud เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 01:09:50

ความคิดเห็นที่ 30 คารวะความอดทนในการซอยมะพร้าว จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 04:07:37

ความคิดเห็นที่ 31 ล็อคอินมาแจกกิฟ ให้พี่บ่าว เมี่ยงคำน่ากินมากครับ ไว้จะลอกการบ้านมั่ง... จากคุณ : บ้านเรามีภูเขาอยู่หน้าบ้าน เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 07:19:36

ความคิดเห็นที่ 32 จขกท.หล่อจัง จากคุณ : สองร้อย เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 08:08:29

ความคิดเห็นที่ 33 เมื่ยงกับใบชะพลู นี่กินเพลินเลยแหละครับ จากคุณ : เอื่อยเฉื่อย เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 08:10:13

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบกิน แต่ไม่ชอบทำ วัตถุดิบเยอะเกินค่ะ เหลือเหลยม้ายนิ จากคุณ : รักซ้อนซ่อนรัก เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 08:13:58

ความคิดเห็นที่ 35 ขอหลายๆคำเลยค่ะ ไม่ได้กินนานละ อ้ามมมม จากคุณ : หมีหมูต่าย เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 08:47:43

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณครับที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : หยก (เป็ดวุฒากาศ27) เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 09:19:45

ความคิดเห็นที่ 37 มันเหนื่อยตรงซอยมะพร้าวนี่แหละ แต่ออกมาแล้วน่าเคี้ยวมาก จากคุณ : by iPad (ท่าน้ำนนท์) เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 09:29:47

ความคิดเห็นที่ 38 น่าอิจฉาจริ๊ง จริง ได้แต่ซื้อเค้ากิน เสียตังค์ไม่ว่าใบเมี่ยงที่ว่ากับชุดมันยังแก่มากกกกกกก เคี้ยวทีเคี้ยวหยั่งกะเคี้ยวเอื้อง จากคุณ : lol lol lol เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 09:31:24

ความคิดเห็นที่ 39 กินมั่งตะ จากคุณ : puzar16 เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:13:12

ความคิดเห็นที่ 40 ขอหมดนั่นเลยได้ป่าว....อิอิ อยากกินอ่ะ จากคุณ : น้องแจ๊ว เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:38:21

ความคิดเห็นที่ 41 ขอ 1 คำนะคะ ว่าแต่...คั่วมะพร้าวยังมีอารมณ์ศิลป์อีกน๊อ ไม่กลัวไหมเหรอคะ เป็นหนูนี่ ไหม้แน่ๆค่ะ ฮา จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:48:23

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นคนใต้เหมือนกันแต่หาได้เคยกินใบทองหลางม๊ายยย รสชาติเป็นไงคะ จากคุณ : JayJorJae เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:54:41

ความคิดเห็นที่ 43 ทำยากจะตาย...เครื่องก็เยอะ ยอมแพ้..ตั้งแต่คั่วมะพร้าวแล้วค่ะ อิอิ จากคุณ : ขาวสวยหมวยสาว เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 12:02:39

ความคิดเห็นที่ 44 อันอื่นไม่ยากหรอก แต่กว่าจะกระเทาะกะลามะพร้าวออก แล้วเฉือนผิวดำ ๆ ด้านนอกออก เอาไปฝานบาง ๆ เป็นชิ้น ๆ แล้วเอาไปหั่นเป็นเส้น เอาไปคั่วให้เหลืองหอม หมดไปครึ่งวันแล้ว กินไม่ถึงสิบนาที หยุดกินเพราะมันเมื่อยกรามมาก เคี้ยวไม่ไหว สรุปซื้อกินดีกว่า ง่ายดี จากคุณ : อัลปลั๊ก เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 12:26:55

ความคิดเห็นที่ 45 ทำนานสุดก็เห็นทีเป็นมะพร้าวซอยเนี่ยแหละครับ สมัยเด็ก ๆ ช่วยยายทำมีดเข้ามือตลอด T T จากคุณ : Poifhai@Thailand เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 13:21:46

ความคิดเห็นที่ 46 น่ากินจัง จากคุณ : เด็กหวี (Erdbeerkaese) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 16:08:04

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามา กรี๊ดดด ใบทองหลาง กรี๊ดดด สำรับเมี่ยงคะ เริ่ด         กรี๊ดดดดดดดดด เจ้าของกระทู้ที่ชอบหนีชุมพรมานอนกรุงเตป น่ากินเป็นที่สุด เคี่ยวน้ำจิ้มเมี่ยงคำไว้แล้ว ยังหาเวลากินไม่ได้คะ จากคุณ : บ่งบ๊ง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:35:04