ความคิดเห็นที่ 1 จากนั้นก็นำทุกอย่างมาสับรวมกันให้ทั้ง ๔ อย่างเข้ากันได้ดี จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:01:39

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากหมูสับ ปลาเค็มสับ กระเทียมสับ และพริกสับรวมเป็นเนื้อเดียวแล้ว ก็ตักใส่กล่องพลาสติก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา (อย่าใส่มาก เพราะเรามีปลาเค็มอยู่แล้ว) ตอกไข่ใส่ลงไป ๑ ฟอง เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วคนทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน ปิดฝา...แล้วส่งเข้าตู้เย็นพักไว้ราว ๑๕ นาที จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:05:07

ความคิดเห็นที่ 3 มารอชิมก๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา จากคุณ : บัวลอยน้ำใส เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:11:26

ความคิดเห็นที่ 4 ผ่านไป ๑๕ นาที (เป็นอย่างน้อย) ก็เริ่มตั้งกะทะ เทน้ำมันลงไป สำหรับคนที่ทานกะปิได้ ให้ใส่กะปิลงไปคั่วกับน้ำมันจนหอม แล้วเทส่วนผสมที่พักไว้ลงในกะทะ ผัดไปเรื่อย ๆ จนเนื้อหมูร่วนและแห้ง ถ้าไม่มั่นใจในฝีมือการปรุงรสของตัวเองในรอบแรก ให้ลองชิมเนื้อหมูที่สุกแล้ว แล้วเติมเครื่องต่อได้ค่ะ แล้วก็ผัดให้แห้ง ร่วน หอม น่าทาน ตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยเป็นที่สุด นอกจากอร่อยแล้ว...หมูสับผัดปลาเค็ม...ยังเหมือนช่วยพาฉันกลับไปสู่ เสียงหัวเราะบนโต๊ะอาหารของครอบครัวชาวจีนแคะ ที่เอื้ออารีย์ต่อคนต่างที่ต่างถิ่นอย่างฉัน ปล. ช่วงนี้ขอทำแต่เมนูง่าย ๆ ไปก่อน เพราะงานเยอะมาก ต้องรีบพยายามเคลียร์ให้ทันปลายเดือนนี้ค่ะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:12:27

ความคิดเห็นที่ 5 อ้าว...ลืมโชว์หน้าตาแบบใกล้ ๆ ตอนจัดลงจานแล้ว ทาน "หมูสับผัดปลาเค็ม" ด้วยกันสักคำมั้ยคะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:19:44

ความคิดเห็นที่ 6 คุณบัวลอยน้ำใสมาตอนรอพอดีเลยค่ะ ทานสาคูหมูสับเล่นไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:21:59

ความคิดเห็นที่ 7 เมนูนี้กินข้าวไม่อิ่ม คดแล้วคดอีกจนเกรงใจหม้อข้าว เกรงใจพุง จากคุณ : รักซ้อนซ่อนรัก เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:26:12

ความคิดเห็นที่ 8 อากาศร้อน ๆ อย่างนี้ แถมไอศกรีมส้มและมะนาวให้คุณรักซ้อนซ่อนรักด้วยละกันค่ะ ทานแบบไม่ต้องเกรงใจพุงนะคะ เป็นไอศกรีมที่เย็นชื่นใจแต่ไม่อ้วนค่ะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:47:53

ความคิดเห็นที่ 9 ว้าว น่ากินงะ ที่บ้าน ก็เป็นจีนแคะ  เตี่ยเคยทำให้กิน  คล้ายๆแบบนี้  แต่จะใช้วิธีนึ่ง(ไม่ใส่กะปินะ) อร่อยมาก เมนูนี้น่าสนใจ จะลองทำมั่ง จากคุณ : ปากกาหมึกดำ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:50:17

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาดูค่า :)) จากคุณ : armkaa เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:29:48

ความคิดเห็นที่ 11 น่ากินมากเลยค่ะ^^ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:09:07

ความคิดเห็นที่ 12 น่าทานนะคะ รูปก็สวยค่ะ จากคุณ : คะน้า (KaNa-IRC) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:07:06

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเราเอามาปั้นเป็นก้อน ทอดไว้ทานกับข้าวเหนียวมันจะพอได้ม่ะคะ รึว่าสูตรนี้มันจะต้องร่วนๆแบบนี้เท่านั้น?   (ถามแบบไม่ทราบจริงๆนะคะ แต่อยากทำทานบ้าง เห็นหน้าตาน่าทานขนาดนี้ อิอิ) แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 11:59:52 จากคุณ : Talk-Ka-Teb เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 11:59:21

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ Talk-Ka-Teb คะ สูตรที่ปลายได้มานั้นเค้าเอามารวนทานแบบร่วน ๆ แห้ง ๆ น่ะค่ะ แต่โดยส่วนตัวปลาย ปลายเชื่อว่าเราสามารถปรับอาหารได้ตามความเหมาะสม และความชอบของเรานะคะ เอามาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วลงทอด ก็น่าจะได้หมูสับปลาเค็มที่อร่อยไปอีกแบบ แต่เตาปลายเป็นเตาไฟฟ้า ไม่เหมาะกับการทอดอย่างแรงค่ะ เลยทำให้ดูไม่ได้ โอกาสหน้าจะลองทำดูนะคะ คงเป็นอาหารที่เหมาะกับการนำไปทานระหว่างเดินทาง ขอบคุณมากค่ะที่ถามมา และปลายคิดว่าถ้าจะทอดก็ควรตัดน้ำเปล่าออกไม่ต้องใส่ ถ้าอยากให้หอมกะปิ ให้นำกะปิไปเผา แล้วน้ำมาคลุกรวมตอนที่ปรุงรสแล้วใส่ไข่ไปน่าจะดีกว่าค่ะ และถ้าปั้นเป็นก้อนกลมก่อนแช่ตู้เย็นก็น่าจะดีเหมือนกันนะคะ ยังไงถ้าลองแล้วทำแล้ว รบกวนโพสต์มาให้ปลายชื่นชมหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 15:32:12

ความคิดเห็นที่ 15 สาคูน่าทานจังเลยค่ะ // ปลาเค็มนี่คือแบบดิบรึว่าแบบทอดแล้วคะ ก่อนไปสับรวมกัน จากคุณ : beermania เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 20:18:21

ความคิดเห็นที่ 16 สูตรที่บ้านผมใส่ปล้าร้าปลากระดี่สับรวมกับหมูหรือไม่ก็ไก่,กระเทียม,พริกขี้หนู  ผัดในน้ำมันใส่น้ำตาลตัดเค็มจากปลาร้าเล็กน้อยครับ  ทำทีนึง ข้าวหมดเป็นหม้อ  ผักหมดเป็นกะละมังครับ จากคุณ : TOA (ama_toa) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 00:08:45

ความคิดเห็นที่ 17 น่าลองทำมากเลยคะ คิดว่าน่าจะง่ายอยู่กับคนที่ฝีมือทำอาหารติดลบ จากคุณ : wendyandbas เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:07:12