ความคิดเห็นที่ 1 ตามหัวข้อกระทู้ ครัวกลางไพร ชุด กินข้าว กินน้ำ กระทู้นี้ จขกท จะว่าด้วยเทคนิคและวิธีการ หุงข้าว และ การหาน้ำกิน ในป่า อ่านดูแล้วหลายคนอาจจะคิดว่า มันไม่ได้แปลกอะไรตรงไหน กะอีแค่ หุงข้าว กับหาน้ำ ใช่ครับมันไม่แปลก แต่ จขกท คิดว่าอีกหลายคนในที่นี้ ไม่รู้และไม่เคยทำมาก่อน อันดับแรกผมจะว่าด้วยเรื่อง การหุงข้าว ในยุคที่ทุกบ้านมีไฟฟ้าใช้กันแทบทุกหลังคาเรือนในปัจจุบันนี้ การหุงข้าวในหม้อไฟฟ้า จึงเป็นสิ่งที่ง่ายดาย ที่ใครๆก็ทำได้ แต่ถ้าสถานที่ ที่ไม่มีไฟฟ้าใช่ล่ะ? การหุงข้าวจะทำได้เช่นไร เช่น กลางป่า กลางเขา เทคนิคพวกนี้ถ้าเรายังจำได้ก็คือ การหุงข้าวแบบ"เช็ดน้ำ" และ แบบ"ไม่เช็ดน้ำ" แบบเช็ดน้ำ อุปกรณ์ก็มีแค่ หม้อพร้อมฝา เติมข้าวสารลงไปตามต้องการ(ไม่ควรเกินครึ่งหม้อ) เติมน้ำให้เต็มแล้วตั้งบนเตาถ่าน แต่จะตั้งแช่แบบหม้อหุงข้าวไฟฟ้าไม่ได้ เพราะข้าวที่อยู่ก้นหม้อจะไหม้ ควรคนทุกระยะ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:30:38

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีนี้เหมาะกับสมาชิกจำนวนมากๆ เพราะการหุงข้าวในหม้อใหญ่ๆจะได้ปริมาณ ข้าวสวยเยอะตามไปด้วย แต่ก็ต้องคอยคนอยู่ตลอดเวลา พอน้ำเริ่มเดือด ก็ต้องตักขึ้นมาดูเมล็ดข้าวสาร ว่าเริ่มบานหรือสุกแล้วหรือยัง จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:35:04

ความคิดเห็นที่ 3 โตยมาผ่อ คนแรก เลย เฮาาาาา อิ๊ ลู้..................... จากคุณ : สองร้อย เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:42:22

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาดูด้วยค่ะ จากคุณ : พี่หมีสีขาว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:43:53

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาเกาะติดเจ้า จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:45:33

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อข้าวสารเริ่มบานจวนใกล้สุก ถ้าอยากรู้ว่าได้ที่หรือยังก็ตองลองชิมดู หรือรอสักครู่อย่าใจเย็นหรือใจร้อน ใจเย็นข้าวที่หวังจะเป็นข้าวสวย อาจจะกลายเป็นข้าวต้ม แต่ถ้าใจร้อนก็จะกลายเป็นข้าวดิบ กินกุบๆ ไม่เจริญอาหาร เมื่อได้ตามต้องการก็รินน้ำข้าวออกให้หมด หรือที่เรียกว่า"เช็ดน้ำ" น้ำข้าวนี้มีประโยชน์ครับ กินได้คุณค่าทางอาหารสูง เช็ดน้ำออกหมดแล้วใช่ว่าจะจบขั้นตอน ยังครับ ต้องนำไปอังกับไฟอ่อนๆ เพื่อให้ข้าวสุกขึ้นหม้อ บ้านผมเรียกวิธีนี้ว่า "ดงข้าว" จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:45:53

ความคิดเห็นที่ 7 วันนี้มาทันถ่ายทอดสด .. สวัสดี วันสุดท้ายของเดือนค่ะ จากคุณ : Aromdee Jang เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:48:37

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับคุณสองร้อย , คุณพี่หมีสีขาว และคุณเด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน   ^ ^ *************************************************** ความร้อนจากถ่านไฟ จะทำให้ข้าวในหม้อร้อนระอุ แต่อย่ามัวแต่เพลิดเพลินเจริญใจ เพราะอาจจะไหม้จนกินไม่ได้ ต้องหมุนกลับหรือเปลี่ยนมุมบ้าง //////////////////////////////// รูปซ้ำ - -" แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 55 10:52:08 แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 55 10:51:45 จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:50:47

ความคิดเห็นที่ 9 ตามดูหลาย กระทู้แล้ว ชอบมากคะ ชีวิตกลางแจ้ง เมื่อก่อนไปบ่อย เห็นคุณ หนุ่มเหน่อ เอามารีวิวให้ดูแล้ว ปลุกวิญญาณป่าขึ้นมาทันทีเลย ขอบคุณมากที่ถ่ายทอดภาพและเรื่องราว มาเผื่อคนกรุง ชอบจริงๆ แต่กิ๊ฟหมด จริงใจ ไมตรีคะ จากคุณ : ทับสมิงครา เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:55:31

ความคิดเห็นที่ 10 วิธีต่อไปคือ การหุงข้าวแบบไม่เช็ดน้ำ เป็นวิธีที่ผมถนัดที่สุดครับ แต่ขอยอมรับว่าผมไม่ถนัดแบบไม่เช็ดน้ำ - -" (ไม่ดิบก็แฉะ ไม่แฉะก็ไหม้) อุปกรณ์ที่ใช้ก็คือ หม้อสนาม เท่าที่ผมทราบมานั้น การหุงข้าวในหม้อสนาม เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง และชาติที่ใช้หม้อสนามหุงข้าวเป็นชาติแรกก็คือ ญี่ปุ่น หม้อสนามจัดเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ครับ ทำจากอะลูมีเนียมแผ่นอัดขึ้นรูป น้ำหนักเบา เหมาะแก่การพบพา โดยส่วนตัวผมชอบมากครับ เจ้าหม้อสนามนี้หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์แค้มป์ หรือเครื่องใช้ทหาร มีทั้งของเก่าและของใหม่ ราคาตั้งแต่ ร้อยกว่าบาทไปจนถึงหลักพัน แต่ผมเลือกที่จะใช้ของเก่ามือสองครับ เพราะนอกจากจะราคาถูกแล้ว มันยังดูขรังดีครับ ^ ^ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:00:30

ความคิดเห็นที่ 11 ตามอ่านอยู่ค่ะ คล้ายๆตอนเรียนลูกเสือเลย จากคุณ : Mukinha เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:03:51

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับคุณ Aromdee Jang และคุณทับสมิงครา ^ ^ ***************************************** หม้อสนามบางรุ่น จะมีขีดบอกปริมาณให้เราครับ เจ้าขีดที่ว่าใช้สำหรับกะหรือตวงข้าวและน้ำที่จะหุงโดยเฉพาะ  ขีดล่างคือข้าวที่จะต้องใส่ลงไป ขีดบนคือปริมาณน้ำที่จะต้องเติม จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:06:18

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนประกอบของหม้อสนามจะมีอยู่ด้วยกันหลักๆ 4 ส่วนด้วยกันคือ 1.ตัวหม้อ 2.ฝาหม้อ 3.ขาหรือหูแขวนหม้อ 4.ฝาด้านในหม้อ ภายในหม้อยังสามารถบรรจุสิ่งของต่างๆได้ครับ เพราะมีช่องสำหรับใส่ของได้ครับ ส่วนตัวผมจะใส่พวกข้าวสาร พริงแห้งหอมกระเทียมและเกลือ ปลากระป๋อง บ้างโอกาสก็มียา จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:11:21

ความคิดเห็นที่ 14 โดยหลักแล้ว ผมจะตวงข้าวสารลงไปในหม้อประมาณ 2 ฝาหม้อสนามครับ แล้วจะเติมน้ำจนเต็ม 1 หม้อสนามสามารถกินกันได้ประมาณ 3-4 คนแบบอิ่มๆเต็มพิกัด จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:14:31

ความคิดเห็นที่ 15 ตามอ่านค่ะ  ^^ จากคุณ : บูตะ กะ กิมจิ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:14:50

ความคิดเห็นที่ 16 ...  รอชม  " ชีวิตกลางแจ้ง "  มันส์ ๆ ครับผม จากคุณ : OverEat เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:16:00

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อพวกเรารู้จักหม้อสนามพอประมาณแล้ว ผมจะพาไปหุงข้าวจริงๆกันเลยดีกว่า ตักตวงข้าวใส่หม้อสนามแล้วเติมน้ำลงไปแล้ว ใช่ว่าจะตั้งไฟได้เลยนะครับ หลายคนไม่รู้ผลที่ออกมาก็คือ ข้าวก้นหม้อจะไหม้ครับ ควรกวนหรือคน ข้าวกับน้ำให้เข้ากันก่อน เห็นมั๊ยเด็กตัวเล็กๆยังทำได้เลย ไม่ยาก^ ^ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:17:45

ความคิดเห็นที่ 18 จากภาพบน ผมจะใส่ข้าวสารให้เกินขีดล่างมาเล็กน้อยครับ โดยจะเพิ่มน้ำลงไปจนเต็ม เพิ่มตามส่วนครับ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็นำไปแขวนกับราวไม้ครับ โดยยกหม้อให้สูงเหนือเปลวไปเล็กน้อย จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:22:34

ความคิดเห็นที่ 19 สถานที่คือที่ใหนค่ะ เคยหุงข้าวเช็ดน้ำค่ะ  ต้องมีไม้ขัดหม้อด้วย  ^^ จากคุณ : ผึ้ง (คนอยู่บ้าน) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:25:42

ความคิดเห็นที่ 20 จะรู้ได้ไงว่าข้าวสุกได้ที่? สังเกตง่ายๆคือ น้ำในหม้อจะเดือดจนทะลักออกมา อย่าตกใจครับ ปล่อยไว้แบบนั้นก่อน อย่าลืมว่าเราหุงแบบไม่เช็ดน้ำ ให้เพื่อนหาไม้มาเคาะหม้อดูครับ จะรู้ตวามแตกต่างระหว่างก่อนหุงและหลังหุง(ใครเป็นแม่ค้าทุเรียนเก่าจะรู้ดี ฮาๆ) จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:28:04

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อข้าวในหม้อเริ่มบานหรือสุก เขาก็จะค่อยๆดันฝาหม้อออกมาครับ จากนั้นให้เรายกลงไปอังกับถ่านไฟอ่อนๆ เพื่อให้ข้าวสุกระอุทั่วถึง จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:31:27

ความคิดเห็นที่ 22 เสร็จเรียบร้อยก็พร้อมรับประทานครับ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:36:07

ความคิดเห็นที่ 23 ตามติด ชีวิตกลางไพรค่ะ จากคุณ : มณีรินค่ะ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:37:46

ความคิดเห็นที่ 24 หม้อสนามมีประโยชน์สารพัดครับ จะเอามาต้มก็ได้ ทอดก็ได้ บางครั้งฝาของมันก็ใช้เป็นแก้วน้ำ เขียง(ใช้ซอยพริกกระเทียม งานเบาๆ) หรือบ่อยครั้งมันก็เป็นขันใช้ตักอาบน้ำ ใช้แกง... จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:41:14

ความคิดเห็นที่ 25 ใช้ต้ม... จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:42:13

ความคิดเห็นที่ 26 น่าสนุกจัง ชอบมาก จากคุณ : รักซ้อนซ่อนรัก เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:45:54

ความคิดเห็นที่ 27 คิดถึงตอนเข้าค่าย  หุงข้าวสามกษัตริย์ จากคุณ : ประสานไมตรี เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:46:28

ความคิดเห็นที่ 28 ติดตามเข้าป่าด้วยคน ชอบครับ จากคุณ : Poifhai@Thailand เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:49:52

ความคิดเห็นที่ 29 สารพัดที่เราจะนำหม้อสนาม มาดัดแปลงครับ ว่าเหมาะสมกับเวลาและโอกาสเช่นไร ^ ^ ต่อไปการหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ครับ... ส่วนมากจะใช้อยู่ 2 วิธี ด้วยกัน คือ 1.ตั้งกระบอก 2.นอนกระบอก ตั้งกระบอก หมายถึง การหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่แบบตั้งกระบอกไม้ไผ่ แบบเดียวกับการทำข้าวหลาม แต่วิธีนี้ทางผมไม่ค่อยนิยมครับ จึงไม่ขอกล่าว ที่นิยมก็คือ วิธีการนอนกระบอกครับ อุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมาก แค่มองหากระบอกไม้ไผ่ เลือกตัดมาให้ได้ขนาด อย่าอ่อน หรือแก่จนเกินไป จากนั้นใช้มีดเจาะบนกระบอกให้เป็นรู้ กว้างพอที่จะเทข้าวสารและน้ำลงไปได้ ตามส่วนคือ ข้าวครึ่ง น้ำครึ่ง จากนั้นให้ตะแคงกลับไปกลับมา(เพื่อคนผสมข้าวให้เข้ากัน) แล้วนำไปวางบนกองไฟ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 55 11:54:25 จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:52:06

ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อข้าวเริ่มสุกได้ที่ (ข้าวจะบานออกมาจากรู้) ให้ขยับกระบอกข้าว ออกมาอังไฟอ่อนๆ แบบเดียวกับการหุงในหม้อสนาม ถ้าไม่อยากให้กระบอกที่ไหม้ดำติดมือ หรือเปรอะเปือนผ้าใบที่เรากางนั่งกินข้าว ก็ให้ถากเปลือกออกก่อน แบบเดียวกะข้าวหลามงานวัด จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 11:59:29

ความคิดเห็นที่ 31 จากนั้น ก็ผ่ากระบอกออก จะผ่าแบบข้าวหลาม หรือจะผ่าแบบตัดครึ่ง ก็แล้วแต่ความถนัดครับ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:01:57

ความคิดเห็นที่ 32 พร้อมรับประทานแล้วครับ... จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:03:53

ความคิดเห็นที่ 33 สาระความรู้เต็มๆ จากคุณ : minkexotic เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:11:33

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบข้าวในกระบอกไม้ไผ่จังค่ะ จากคุณ : แพรริโกะ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:20:40

ความคิดเห็นที่ 35 สุดๆเลยครับ บ้านผม เข้าป่า หลายๆวัน จะใช้วิธี ต้มข้าวต้ม แบบ ห่อข้าวต้ม แล้วย่างไฟ พอถึงเวลากินก็ ย่างไฟทั้งหมด ส่วนที่เหลือก็ เก็บ แล้วย่างไฟเรื่อยๆ เป็นการอุ่นไปในตัว ทำแบบนี้เรื่อยๆ จนมัดสุดท้าย กินได้หลายมื้อ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:21:59

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีค่ะคุณ หนุ่มเหน่อ ชมกระทู้ของคุณ เหมือนวัยเด็กของเราที่ผ่านมาเลยค่ะ^_^ จากคุณ : IcesatiM เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:22:59

ความคิดเห็นที่ 37 รอดูวิธีหาน้ำค่ะ ^@^ จากคุณ : lovenatural เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:24:10

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีครับเพื่อนๆ ขอโทษที่ทำให้เสียจังหวะนะครับ จขกท แวะไปกินข้าวเทียงมา อิอิ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เรามาต่อกันดีกว่า เรื่องการหุงข้าวก็มีเท่านี้ล่ะครับ ต่อไปจะเป็นเรื่องของการ หาน้ำกิน โดยส่วนตัว จขกท เวลาได้เข้าป่า มักจะติดน้ำดื่มที่ซื้อกินเข้าไปในป่า แค่ขวดเล็กๆขวดเดียวเท่านั้นครับ โดยใช้ดื่มกินในช่วงที่เดินทางเข้าไป ส่วนที่เหลือคือการหาเอาในแหล่งน้ำธรรมชาติ ตามลำห้วยต่าง ซึ่ง จขกท มักจะติดเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปด้วยเสมอครับ นั้นก็คือ ใยกรองน้ำตู้ปลา (ถุงสีขาวๆข้างมีด) เจ้าสิ่งนี้มีเอาไว้กรองสิ่งสกปรกต่างๆได้ในระดับหนึ่งครับ ที่สำคัญหาซื้อง่ายราคาถูก จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:29:55

ความคิดเห็นที่ 39 เช้าวันจันทร์  ตาฉันตั้ง  รอกระทู้ เพื่อเฝ้าดู   พ่อหนุ่มเหน่อ  ชะเง้อหา อยากจะเห็น  เมนูไพร    เป็นบุญตา อาหารป่า   ท่ามกลางเขา  ลำเนาธาร     มีหุงข้าว   หาปลา  มาเป็นหลัก     ต้องรู้จัก   หุงอย่างไร  ไม่แฉะหนา     เป็นเพราะข้าว  ไม่เช็ดน้ำ  พึ่งเวลา     นานเนิ่นช้า   พาเม็ดข้าว  ร้าวบานปลาย หลายชีวิต   ต้องดำรงค์  กลางพงป่า รู้พึ่งพา     ใช้ประโยชน์  จากไพรสนฑ์ เพราะป่าใหญ่  ไร้สิ้นรถ    ไร้ผู้คน ต้องดำรงค์   ชีวิตตน  โดยลำพัง     ยามค่ำคืน    ในป่า   น่ากลัวมาก     ทั้งหอยทาก  ช้างเสือหมี  อีกทั้งหมา     ไม่รวมภูติ   ผีปีศาจ    กลางพนา     ชีวิตข้า     กลางป่า   น่ากลัวจริง พ่อหนุ่มเหน่อ    กลับชอบ    เป็นหนักหนา แทบทุกครา    เข้าป่าใหญ่    ใจฝันหา ดูชีวิต        มีความสุข    ทุกครั้งครา เมื่อเข้ามา    ท่ามขุนเขา    ลำเนาไพร จากคุณ : ตะโกครับ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:32:20

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อก่อนที่บ้านเคยหุงข้าวแบบนี้ด้วยแหละ เราชอบกินน้ำข้าวที่แม่รินไว้ให้หมาแมวกิน แต่เราก็ไปแย่งมันกินซะงั้น ...เอ๊ะ ยังไง --? จากคุณ : a girl next door เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:35:37

ความคิดเห็นที่ 41 แต่ถ้าเป็นชาวบ้านโดยทั้วไป ไม่จำเป็นครับ เพราะสามารถตกดื่มกันดิบๆได้เลย ส่วนคนในเมืองแบบเราๆหรือแบบผม ไม่สามารถทำได้ครับ เพราะเราไม่มีภูมิเหมือนกับเขาครับ เห็นน้ำใสๆแบบนี้อย่าไว้ใจนะครับ ควรน้ำมาต้มให้สุกก่อนดื่มทุกครั้ง ถ้าไม่ทำแบบนั้นก็อาจจะป่วยเป็น โรคทางเดินอาหารได้ ที่ผมโดนมาก็พวก บิด จะถ่ายแต่ละที ทรมานบันเทิงอย่าบอกใคร - -" จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:35:58

ความคิดเห็นที่ 42 คุณหนุ่มเหน่อ ทำให้ห้องก้นครัวสนุกหลากหลายไปอีกแบบ ครัวป่าๆ ขนาดคุณตะโกแต่งกลอนให้เลยทีเดียว ชื่นชมทั้งสองท่านครับ จากคุณ : by iPad (ท่าน้ำนนท์) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:38:04

ความคิดเห็นที่ 43 โดยเฉพาะ น้ำที่เป็นแอ่งนิ่งๆแบบนี้ ยิ่งไม่สมควรตักขึ้นมาดื่มนะครับ เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นแล้ว ใบไม้เหล่านั้น ก็อาจจะมีสารเคมีบางอย่าง ที่ทำให้เบื่อเมาได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การต้มให้เดือดเท่านั้นครับ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:41:27

ความคิดเห็นที่ 44 แอบปาด อยากจะไปเป็นชาวป่าแบบนี้บ้าง...ขอบคุณที่พาไปครับ กำลังนึกหน้าจขกท...คงจะคล้ายๆพี่ติ๊ก เนวิเกเตอร์ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:43:03

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณ น้าตะโก ด้วยนะครับ ^ ^ ************************** แต่ถ้าเพื่อนๆ หาแหล่งน้ำไหล ไม่ได้จริงๆ ก็มีวิธีแก้ครับ  คือ ให้เพื่อนๆมองหาพื้นที่ บริเวณนั้น เลือกที่เป็นดินปนทราย ห่างออกมาจากแอ่งน้ำนั้นประมาณสักเมตร จากนั้นก็ลงมือขุดเลยครับ ขุดให้ลึกที่สุดเท่าที่เราจะสามารถ  น้ำในแอ่งหรือแหล่งน้ำใกล้เคียง จะค่อยๆซึมผ่านชั้นกรวดทรายเข้ามาเองครับ ทราดทรายและชั้นดิน จะเป็นตัวกรองให้อย่างดี ^ ^ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:47:43

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 44     แอบปาด อยากจะไปเป็นชาวป่าแบบนี้บ้าง...ขอบคุณที่พาไปครับ กำลังนึกหน้าจขกท...คงจะคล้ายๆพี่ติ๊ก เนวิเกเตอร์ จากคุณ : Eakiji Onisuka     เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:43:03     /////////////////////////////////////// ผมว่าเหมือน พี่ติ๊ก กลิ่นสี มากกว่า ฮาๆ ***************************************** ถ้าน้ำในแอ่งตกตะกอนช้า ก็ให้ขุดเปิดช่องให้น้ำไหลระบายออกครับ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:50:18

ความคิดเห็นที่ 47 จขกท.คะหม้อสนามมือ 2 สภาพดีๆจะหาซื้อได้ที่ไหนคะ อยากได้เอาไปให้คุณพ่อใช้บ้างอ่ะค่ะ ตอนเรียนลูกเสือเนตรนารี อาจารย์เราจะขุดหลุมใกล้ๆกับลำห้วย เอาหินมาเรียงๆตรงขอบ วิดน้ำที่ซึมออกมาจนน้ำใสก็จะเป็นน้ำส่วนที่ดื่มได้อ่ะค่ะ....ลำบากเนอะ  555 จากคุณ : ก้านดอกบัว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:51:38

ความคิดเห็นที่ 48 ใจเย็นๆสักพัก รอให้น้ำระบายออกแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ พักเดียวก็ได้น้ำกินแล้ว แต่ต้องต้มก่อนนะครับ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:52:04

ความคิดเห็นที่ 49 เจ๋งเป้ง ไปเลยพี่หนุ่มเหน่อ จากคุณ : LW_meaw เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:56:43

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 47     จขกท.คะหม้อสนามมือ 2 สภาพดีๆจะหาซื้อได้ที่ไหนคะ อยากได้เอาไปให้คุณพ่อใช้บ้างอ่ะค่ะ ตอนเรียนลูกเสือเนตรนารี อาจารย์เราจะขุดหลุมใกล้ๆกับลำห้วย เอาหินมาเรียงๆตรงขอบ วิดน้ำที่ซึมออกมาจนน้ำใสก็จะเป็นน้ำส่วนที่ดื่มได้อ่ะค่ะ....ลำบากเนอะ  555 จากคุณ : ก้านดอกบัว     เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:51:38     ********************************** ที่ผมซื้อมา ที่เมืองกาญจน์ครับ หน้าสนามกีฬาจังหวัด(สนามกลีบบัว) ร้านจะติดข้างปั๊มน้ำมัน ตอนนั้นซื้อมาใบละ 150 บาทครับ แต่ร้านทั่วไปไม่แน่ใจว่าจะถูกหรือแพงกว่านี้หรือเปล่า แต่ถ้ามีเวลามากๆ ลองไปเดินเที่ยวโรงเกลือดูครับ มีทุกอย่างที่คุณต้องการ แต่ต้องต่อราคาเก่งๆนะครับ เพราะเขาบวกเรา เกินครึ่ง ^ ^ ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////// ทีนี่ มาดูวิธีของผมดูบ้างครับ อันดับแรก ผมจะตักน้ำใส่หม้อ แล้วพักไว้สักระยะหนึ่งครับ เพื่อให้น้ำตกตะกอน โดยจะใช้ใยกรองน้ำก่องครั้งที่ 1   ปล.ในรูปไม่ใช่ผมนะครับ น้องที่ไปด้วยกัน จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:58:24

ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 49     เจ๋งเป้ง ไปเลยพี่หนุ่มเหน่อ จากคุณ : LW_meaw   เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 12:56:43     ****************************** วันที่ 6 เจอกันนะน้องสาว ฮี้ๆๆๆๆๆๆ ////////////////////////////////////////////// เมื่อน้ำตกตะกอนแล้ว ก็ค่อยๆตักใส่หม้อ หรือกาน้ำก็ได้ครับ โดยกรองใหม่อีกครั้ง (ที่กรองอันใหม่) จากนั้นก็น้ำไปต้มได้เลย จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:01:14

ความคิดเห็นที่ 52 ต้มจนน้ำเดือดได้ที่ ก็ยกออกครับ แล้วนำไปแช่น้ำ(หล่อเย็น) เพื่อน้ำในหม้อที่เราต้ม จะเย็นเร็วขึ้น จากนั้น ค่อยๆตักใส่ขวด โดยผ่านใยกรองน้ำและผ้าขาวบาง ใส่ขวดเป้นอันจบกระบวนการครับ ดื่มกินได้สนิทใจ ^ ^ ปล.ไม่ใช่ผมอีกตามฟอร์ม ^ ^ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:05:14

ความคิดเห็นที่ 53 รออ่านค่ะ ^_^ จากคุณ : dolphin_moo เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:08:14

ความคิดเห็นที่ 54 หรือแบบนี้ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:08:40

ความคิดเห็นที่ 55 จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:09:47

ความคิดเห็นที่ 56 แต่ถ้าอยากให้เย็น ก็น้ำไปแช่ในตู้เย็นธรรมชาติ แบบนี้ครับ ปล.บริษัทเจ้าของขวดน้ำ ติดต่อผมด้วยนะครับ ผมว่าจะขอค้าโฆษณา ไว้เป็นทุนธุดงค์ไพร ในครั้งต่อไป อิอิ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:11:24

ความคิดเห็นที่ 57 หรือชอบร้อนๆ เอาไว้ชงชา กาแฟ ก็ไม่ผิดกติกาครับ ^ ^ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:17:24

ความคิดเห็นที่ 58 เดินป่าแบบนี้  แล้วได้  ส่องสัตว์ตอนกลางคืนรึเปล่าค่ะ  มีตัวอะรัยบ้างค่ะ  ป่ายังเป็นป่าอยู่มากเลยค่ะ จากคุณ : ผึ้ง (คนอยู่บ้าน) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:20:15

ความคิดเห็นที่ 59 แต่ถ้าทริปไหน ผมต้องขึ้นไปนอนบนเขาหลายวัน (ไม่มีแหล่งน้ำ) วิธีที่ดีที่สุดก็คือ แบกมันขึ้นไปครับ - -" ปล.เอาแงซายตอนเป็นเด็กมาให้ดู ชื่อน้องพุ่มครับ เด็กกะเหรี่ยง จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:21:16

ความคิดเห็นที่ 60 ความคิดเห็นที่ 58     เดินป่าแบบนี้  แล้วได้  ส่องสัตว์ตอนกลางคืนรึเปล่าค่ะ  มีตัวอะรัยบ้างค่ะ  ป่ายังเป็นป่าอยู่มากเลยค่ะ จากคุณ : ผึ้ง (คนอยู่บ้าน)     เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:20:15     ************************************ ที่เห็นบ่อยๆก็พวก อีเห็น พญาบ่าง ลิงลม เสือปลา งูเหลือม งูหลาม นกหนู ฯลฯ หมูป่า กระทิง วัวป่า เห็นแต่รอยครับ ^ ^  จะบอกว่ามีไอ้ลาย ก็กลัวจะไม่มีใครกล้าไปด้วย หุหุ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:25:04

ความคิดเห็นที่ 61 อาหารใน คห. 22 น่าทานมากกกกก จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:27:04

ความคิดเห็นที่ 62 ถ้าไปหลายวันหน่อยก็ต้องแบกไปแบบนี้ครับ ที่เห็นน่าจะประมาณ 15 ลิตร จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:28:35

ความคิดเห็นที่ 63 แค่เห็น ก็อยากไปเดินป่าอีกแล้ว จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:30:54

ความคิดเห็นที่ 64 เหมือนเดิมครับ ก่อนนำมาดื่มก็ต้องต้มก่อน ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบต้มในกระบอกไม้ไผ่ เพราะมันจะมีกลิ่นออกเปรี้ยวๆผสมมาในน้ำที่ต้มครับ แต่ถ้าเลือกไม่ได้จริงๆ ก็ไม่มีปัญหา จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:32:12

ความคิดเห็นที่ 65 หรือใช้หุงข้าว ถึงจะเหนียวตัวเพราะไม่ได้อาบน้ำถึง 3 วัน แต่แป้งตรางูก็พอช่วยได้ครับ ^ ^ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:34:20

ความคิดเห็นที่ 66 อิ่มข้าว อิ่มน้ำแล้ว ก็ต้องมีผลไม้มาล้างปากเสียหน่อย ธง-ซ่าร์  ภาษากะเหรี่ยง แปลวว่า ลูกทอง ถ้าไม่รู้จัก ผมจะบอกว่ามันคือ มะหลอด น่าจะร้องอ๋อ... แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 55 21:07:55 จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:40:12

ความคิดเห็นที่ 67 รสชาตเปรี้ยวสุดๆ ต้องจิ้มกะเกลือ เห็นแล้วน้ำลายสอ จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:41:45

ความคิดเห็นที่ 68 ธรรมชาติมากๆ จากคุณ : pandapu เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:46:33

ความคิดเห็นที่ 69 เหมือนมะเขือเทศเลยคะ จากคุณ : puzar16 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:53:19

ความคิดเห็นที่ 70 เป็นยังไงบ้างครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาวก้นครัว กระทู้นี้อาจจะไม่มีเมนูเด็ดๆอะไรมากนัก แต่ผมหวังว่าคงจะให้ความรู้นิดๆหน่อยๆกับเพื่อนๆนะครับ เห็นหรือยังครับว่าป่าไม้และธรรมชาติ มันสำคัญกับเราขนาดไหน วันก่อนเห็นข่าวป่าไม้ที่จังหวัด น่าน แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก หวังว่าเรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก ช่วยกันนะครับคนละนิดคนละหน่อย ^ ^ กระทู้หน้าพบกับเมนูอะไรนั้น โปรดติดตามนะครับ ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตาม และโหวตเป็นกระทู้แน่นำอีกแล้ว ^ ^ เพื่อเป็นการขอบคุณ ผมจะใบ้ให้นะครับ ว่าเมนูหน้าจะเป็นอะไร.... ผิดพลาด หรือตกหล่นประการใด ผมต้องขออภัยเพื่อนๆมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 55 14:02:57 จากคุณ : หนุ่มเหน่อ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:58:08

ความคิดเห็นที่ 71 ติดตามครับ ชอบๆ จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:58:32

ความคิดเห็นที่ 72 บอกได้เลยว่าสุดยอดดดด จากคุณ : แสงแห่งชีวิต เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 14:04:45

ความคิดเห็นที่ 73 จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : พี่หมีสีขาว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 14:09:54

ความคิดเห็นที่ 74 คห 70 เห็นภาพเห็ดโคน หรือเมนูหน้าเป็นแกงเห็ดโคน เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นต้มยำเห็ดโคน จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 14:12:50

ความคิดเห็นที่ 75 แวะมาเจิมให้แล้วเด้อ... จากคุณ : ไวน์มันแกว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 14:13:37

ความคิดเห็นที่ 76 ตามแงซายไปเดินป่าด้วยคน ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : AdeliE เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 14:28:19

ความคิดเห็นที่ 77 คิดถึงตอนเด็ก  ๆ เข้าไปหาง่ามหนังสะติ๊กในป่า เช้ากลางวัน ไปหากินในป่าเอา ห่อแค่ข้าว กับไฟแช็ก น้ำปลา ติดตัวไป จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 14:37:19

ความคิดเห็นที่ 78 นั่นมัน.....เห็ดโคน........ จากคุณ : khinzama เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:00:19

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านแล้ว ได้ความรู้ดีจังค่ะ  สนุกด้วย ไว้มาตั้งกระทู้อีกนะคะ ชอบมากค่ะ จากคุณ : จ่อย (นู๋เมล์จ้ะ) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:15:39

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณค่ะ ชอบมาก เหมือนได้ไปเที่ยวแบกเป้เข้าป่าไปกับเจ้าของกระทู้เลยค่ะ จากคุณ : มะปรางข้างรั้ว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:40:18

ความคิดเห็นที่ 81 อยากกินแกงเห็ดโคน จากคุณ : เด็กดอย (lining_flower) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:40:28

ความคิดเห็นที่ 82 เด็กกะเหรี่ยงน่ารัก>< 555 จากคุณ : ดอกไม้5สี เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:41:37

ความคิดเห็นที่ 83 มะหลอด มีจุดเงาๆสีเงินด้วย จับจะติดมือ เมล็ดยาวสวยเป็นกลีบๆด้านใน เปรี้ยวมาก แต่อร่อย จากคุณ : PlacidUnicon เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:41:48

ความคิดเห็นที่ 84 ใช้ชีวิตเหมือนผมสมัยก่อนเลย เดินถึก ลุยเข้าไป.. จากคุณ : มหาอุตม์ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 15:50:45

ความคิดเห็นที่ 85 ชอบมากเลยค่ะ ได้เห็นในอีกมุมที่เราไม่มีโอกาสได้สัมผัส จากคุณ : บัวผันภรรยาบัวลอย เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 16:00:09

ความคิดเห็นที่ 86 ตามติดทุกกระทู้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : มะม่วงทองดำ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 16:04:26

ความคิดเห็นที่ 87 ชอบมากเลยครับ จากคุณ : เกี้ยT3 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 16:10:47

ความคิดเห็นที่ 88 ไค่อยากกิ๋นบะหลอด จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 16:20:32

ความคิดเห็นที่ 89 กรี๊ดส์สสสสสสส    มาจบเอาที่ น้องแงซายเนี๊ยะแหล่ะ วิธีหุงหาอาหาร ข้าวน้ำ ลืมไปหมดสิ้น จากคุณ : นู๋_ดุ๊ก เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 16:54:49

ความคิดเห็นที่ 90 คิดถึงเพชรพระอุมาเลยค่ะ ตอนเราอ่านก็แทบอยากแบกเป้เข้าป่า ชอบมากๆค่ะ ชีวิตกลางแจ้ง เราเป็นคนเมือง รักสบาย แต่ไม่กลัวลำบากค่ะ :) งงไม๊?  555 จากคุณ : Kissy Kiss เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 16:57:38

ความคิดเห็นที่ 91 แค่น้ำปลาพริกถ้วยนั้นกับข้าวหุงร้อนๆก็อยู่ได้แล้วค่ะ จากคุณ : แม่น้องภู เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 17:22:22

ความคิดเห็นที่ 92 แงชาย น่าร๊อกอ่ะ หนุ่มหล่อในดงไพร จากคุณ : shimoho เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 17:28:19

ความคิดเห็นที่ 93 ว้าววว อยากไปเดินป่าเลยค่ะ จากคุณ : wippygal25 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 17:33:46

ความคิดเห็นที่ 94 โอ๊ย อ่านแล้วอยากเิดินป่าบ้างงงงงงงง ปล.แงซายตอนเด็ก หล่อใช่ย่อยนะเนี่ย จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 17:51:47

ความคิดเห็นที่ 95 น่าสนุกมากครับ... กิฟท์หมด รอพรุ่งนี้นะครับ จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 18:56:59

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านแล้วอยากเอาเต้นท์ออกบ้างจัง ไม่ได้ไปแคมปิ้งมาปีนึงแล้ว...แต่คงไม่สมบุกสมบันขนาดคุณหนุ่มเหน่อ....ขอบคุณที่นำมาให้ชมกัน จากคุณ : green light...go เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 19:10:23

ความคิดเห็นที่ 97 แหม่ ผมเดาว่าน่าจะมีตัดเถาวัลย์มากินน้ำด้วย ผิดเลย จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 19:22:06

ความคิดเห็นที่ 98 มันสุดยอดมากค่ะ >< จากคุณ : poohpeary (poohpeary) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 19:26:21

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณค่ะ เคยหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ ชอบมากๆ55 ข้าวอร่อย หอม หวานอะ จากคุณ : ปูปลาน้ำเต้า เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 19:33:10

ความคิดเห็นที่ 100 เหมือนดูสารคดี  ดีๆเรื่องนึงเลยค่ะ จากคุณ : Tree Rose เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 19:43:07

ความคิดเห็นที่ 101 สนุกอ่าาาาา จากคุณ : หอยทากติดเทอร์โบ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 20:09:00

ความคิดเห็นที่ 102 อยากเข้าป่าเพราะน้องกะเหรี่ยงหน้ามนคนน่ารักซะงั้น อิอิ ตอนเด็กๆเคยเอาหม้อสนามของพ่อมาต้มมาม่าเล่น(พ่อเป็นทหาร) อร่อยแต่ก็แปลกๆ แม่ชอบด่าว่าแก๊สก็มีทำไมไม่ช้ายยย ชั้นต้องมาขัดหม้อดำๆให้หล่อนตลอด 555 ก็อยากเล่นอ่ะแม่ จากคุณ : กินแกลบยังแพงไป เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 20:27:19

ความคิดเห็นที่ 103 ชอบมากกกกกก > < กระทู้นี้ ขอบคุณมากๆๆค่ะ จากคุณ : ข่อยริมทาง เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 20:44:14

ความคิดเห็นที่ 104 เห็นเห็ดโคนแล้วใจละลาย   น้ำข้าวเอามาชงโอวัลตินกินอร่อยนะ มีใครเคยกินบ้างเอ่ย จากคุณ : Pikless เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 20:46:26