ความคิดเห็นที่ 6 |
คุณแม่และญาติเคยทำโรงงานข้าวเกรียบค่ะ เคยเห็นตั้งแต่ขั้นนตอนการผลิตข้าวเกรียบ... เทคนิคการทอด.. เทคนิคการบรรจุ ให้สวยและไม่แตก และแพคกิ้ง ทำน้ำจิ้ม ขายส่งหลาย จังหวัด ทางภาคใต้ ขายดีจนทำไม่ทัน เพราะขาดแรงงาน พวกเราลูกๆโดนเกณฑ์เป็นแรงงานจำเป็น(แต่ค่าจ้างแพง)บ่อยๆ อิอิ ท่าน ใช้เทคนิค นำข้าวเกรียบมาตากแดดให้แห้งจัด แล้วเก็บไว้หนึ่งคืนก่อนทอด เวลาทอด ใช้สองกะทะค่ะ
กะทะแรก.... น้ำม้ันไม่ต้องมาก ไฟไม่ต้องแรงประมาณปานกลาง เอาข้าวเกรียบลงไป พอประมาณ อย่าใส่มากเกิน กะให้ข้่าวเกรียบทุกชิ้น โดนน้ำมัน ในกะทะ และใช้ตะแกรงตักครั้งเดียวหมด อาจใช้กระชอนกด ข้าวเกรียบให้ติดกะทะ จะได้โดนความร้อนเร็ว เหมือนเป็นการกระตุ้นให้้ตัวข้าวเกรียบ โดนความร้อนจากน้ำมัน พอขอบๆข้าวเกรียบเริ่มมีสีขาวเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ใช้กระชอนตักขึ้น ไปใส่ กระทะที่สอง......ที่มีน้ำมัน ประมาณ ครึ่งกะทะใบบัวเป็นอย่างน้อย ที่ตั้งไฟปานกลางแต่น้ำมันร้อนจัด พอข้าวเกรียบลงไป จะพองฟู่ ขึ้นมาทันที แล้วตักขึ้น จะได้ข้าวเกรียบที่พองฟู มีขนาดใหญ่ ไม่ไหม้ และกรอบทั่วกัน
ถ้าทอดกะทะใบเดียว น้ำมันไม่ร้อนจัด ข้าวเกรียบจะไม่ฟูสวย อมน้ำมัน ถ้าไฟแรงน้ำมันร้อนจัด ข้าวเกรียบจะไหม้ง่าย ถ้าตักไม่ทัน และสังเกตุว่าใช้ไฟแรง ทอดไม่กี่ครั้ง น้ำมันก็ไหม้ เปลี่ยนสี ต้องทิ้ง และถ้า ไฟแค่ปานกลางน้ำมันไม่ร้อนจัด ข้าวเกรียบก็ไม่ฟูพองเท่าที่ควร เขาเรียกว่า ข้าวเกรียบไม่สวย เวลาใส่ถุงขายต้องใส่หลายชิ้น ถ้าฟูสวย ใส่ไม่กี่ชิ้นก็เต็มถุง .........
ลองทำสองเทคนิคเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ชัดว่า ใช้เทคนิคที่บอกจะได้ข้าวเกรียบที่พองฟู สีสวย และได้ชิ้นใหญ๋กว่า อีกวิธีมากค่ะ น้ำมันก็จะไม่ เปลี่ยนสีเร็วจากความร้อนที่ใช้ด้วย
ขอให้ประสพผลสำเร็จกับอาชีพใหม่ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 55 23:02:11
จากคุณ |
:
panmai
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 55 22:50:28
|
|
|
|