ความคิดเห็นที่ 1 ร้านที่ขายดี ชงแก้วนึงเททิ้งแก้วนึงก็มีกำไร ผมคิดว่าต้องสองสามเท่าของต้นทุนครับ (เพราะคุณต้องค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาถัว) จากคุณ : Petshop boy เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 15:55:50

ความคิดเห็นที่ 2 กำไรไม่ทราบครับเพราะไม่รู้ว่าเเต่ละที่ขายเเก้วละกี่บาท   เเต่ต้นทุนยังไม่รวมค่าเเรง ค่าเช่า  ค่าน้ำ ค่าไฟ อยู่ที่เเก้วละ 18-20 บาทครับ สำหรับกาแฟเย็น  เม็ดกาแฟไทยธรรมดา จากคุณ : แสนเพลิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 16:14:52

ความคิดเห็นที่ 3 คห 2 ต้นทุนขนาดนั้นจริงหรือ จากคุณ : สมดั่งฤทัย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 16:51:08

ความคิดเห็นที่ 4 ผมกำลังคิดถึง สตาร์บัครเลย แก้วละร้อย ต้นทุนต่อแก้วถึง 30บาทรึเปล่า จากคุณ : darkness2 เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 17:12:52

ความคิดเห็นที่ 5 #4 ถ้าเอาเฉพาะกาแฟล้วนๆไม่ถึง 30 หรอกครับ  ที่ไปถึงร้อยเพราะเจอค่าอื่นๆจิปาถะรวมทั้งค่าภาพลักษณ์ จากคุณ : Petshop boy เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 17:20:19

ความคิดเห็นที่ 6 เคยคำนวนต้นทุนวัตถุดิบสำหรับกาแฟเย็น ไม่เกิน 15 - 20 บาทค่ะ แล้วแต่คุณภาพ และราคา ของวัตถุดิบด้วย อาจจะต่ำกว่านั้นก็ได้ จากคุณ : ส้มกลมกลิ้ง เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 17:23:19

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นแก้วกระดาษ16ออนซ์ใช้เนสกาแฟราคาขาย20-25บาทนะต้นทุนไม่เกิน10บาทรวมทุกอย่างบ้านผมขายกาแฟแต้ถ้าเป็นกาแฟสดทุนไม่เกิน15ขาย30บาทขึ้นอยู่กับยี่ห้อของกาแฟ จากคุณ : พ (พ่อรักแม่นะ) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 17:39:12

ความคิดเห็นที่ 8 กาแฟ กก.ละ 500(ไม่รวมค่าที่) ประมาณ8-10 บาทค่ะ จากคุณ : อ้วน เตี้ย เปรี้ยว ซ่า เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 18:24:29

ความคิดเห็นที่ 9 เคยขายอยู่ กาแฟสดขนาด 16ออนซ์  ราคาขายที่ 35 ต้นทุนอยู่ที่ 20 บาท คิดทุกอย่างแล้วนะครับทั้งค่าเม็ดกาแฟ นม น้ำตาล น้ำแข็ง ค่าเครื่อง ค่าไฟ ค่าแก้ว ค่าน้ำ ค่าแรง ค่าหลอด จากคุณ : มดตัวเล็ก เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 19:25:21

ความคิดเห็นที่ 10 จาก คห9 ถ้าคิดแค่ค่า เม็ดกาแฟ นม น้ำตาล น้ำแข็ง ต้นทุนเฉพาะน้ำกาแฟก็น่าราวๆ 10 บาท + - นิดหน่อย มิน่าทำไมร้านกาแฟนถึงผุดเป็นดอกเห็ด จากคุณ : Petshop boy เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 19:52:40

ความคิดเห็นที่ 11 ต้นทุนไม่เกินแก้วละ 15 บาท แล้วขายแก้วละ สี่สิบห้าถึงห้าสิบบาท คิดดูกำไรบานขนาดไหน ถ้าขายดีนี่ตั้งตัวได้เลย จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 19:59:27

ความคิดเห็นที่ 12 ผมชงกินเอง น่าจะไม่ถึง 10 บาทครับ ใช้ทุกๆอย่างแบบที่ซื้อเขากิน เพราะแอบดูๆ แล้วมาทำเอง อร่อยกว่าหลายๆเจ้าที่เคยซื้อเขากิน จากคุณ : หนูหริ่ง (chaleambui) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 20:08:44

ความคิดเห็นที่ 13 คห 11 ครับ กำไรที่ว่ามักจะหายไปกับค่าเช่าที่ เงินเดือนลุกจ้าง ครับ ต้นทุนเบี้ยงต้นอย่างที่ คห 11 ว่าไว้นั้นและครับ ต้นทุนรวมทุกอย่างแล้วตกแก้วล่ะ 15-20 บาทขึ้นอยู่กับวัตถุ ดิบ แต่ทำไมร้านกาแฟถึงต้องขายแก้วล่ะ 30-100 บาทขึ้นไป อยากให้ทุกคนมองไปที่ ค่าใช้จ่ายหลักๆ ของร้านด้วยนะครับ เช่น ค่าเช่าที่ ก็มีตั้งแต่ 3000 ถูกๆ ข้างถนนจนถึงหลักหมื่น หลักแสน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็ฯ อาคารพาณิชย์และบนห้าง นี่ยังไม่นับรวมอุปกรณ์การทำ เช่น เครื่องชง เครื่องบด ที่มีระดับราคา ตั้งแต่ หลัก หมื่นต้นๆ ไปจนถึงเป็นแสน จากคุณ : muk_22 เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 20:25:07

ความคิดเห็นที่ 14 กาแฟเย็นนะครับ กาแฟเย็น 1   เม็ดกาแฟ 1 กก .550 บาท ชงกาแฟได้ประมาณ 55 เเก้ว  ใช้ 2 ช๊อตครับ เคยชั่งเเล้วประมาณ 17-18 กรัมต่อ 2 ช๊อต ลองใส่เเค่ 14 กรัมมันไม่ค่อยเข้มครับพอดีผมไม่ค่อยชอบลากช๊อตกาแฟยาวๆ เเล้วผมใช้เครื่องบดเเอมฟิมเวลาปัดผงกาแฟไม่ค่อยหกกระจายเหมือนm5ครับ ............อันนี้ 10 บาทเเล้ว 2  นมผสม 4 ปั่มสูตรมาตรฐาน บูค๊อฟ ปั่มละ 50 สต. ................ก็ 2 บาท 3 น้ำเชื่อม 1 ปั่ม ............ 15 สต 4 นมเมจิ ประมาณ 3 ออนด์ เนื่องจากชงกาแฟไม่ลากกกกกกช๊อต จึงเปลื่องนมเเทนครับ เดื่ยวไม่เติมเเก้ว .............ประมาณ 3.78 บาท (คิดจากนม 2 ลิตร 84 บาท) 5 เเก้วepp 1ชุด ...........ฝาเรียบ 2.5 บาท 6 น้ำเเข็ง 1 บาท เพราะ 1 ลูก 50 บาทชงกาแฟเย็นได้ประมาณ 50 เเก้ว ลองบวกๆ ดูสิครับ 10+2+0.15+3.78+2.5+1 บาท  มันได้เท่าไหร่ครับ เกือบ 20 รึป่าว ถ้าขายได้วันละ 100 เเก้ว ถ้าคิดค่าเเรงคนชงอีก เเก้วละ 3 บาท(วันละ300ค่าเเรงขั้นต่ำ) ค่าน้ำค่าไฟอีกเเก้วละ 3 บาท(ร้านเปิดเเอร์) ค่าเครื่องชงเครื่องบดเเก้วละ 2 บาท(ลงไปประมาณ 2 เเสนเก็บเเก้วละ 2 บาท 1เเสนเเก้วคืนทุน  วันละ100เเก้วก็ 1000 วัน ) ค่าตกเเต่งร้านไม่คิด ............. เเถมให้ ก็บวกไปอีก 3+3+2 ประมาณ 8 บาท รวมๆ ต้นทุนกาแฟ 20 บาท ค่าอื่นๆ 8 บาท   เเล้วกำไรเท่าไหร่ดีละครับ .....???? จากคุณ : แสนเพลิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 20:43:21

ความคิดเห็นที่ 15 คำถามของเจ้าของกระทู้คือ   กำไร กำไร   =   ราคาขาย - ต้นทุน ต้นทุน =  ค่าวัตถุดิบ + ค่าดำเนินการ + ค่าOver head ค่าวัตถุดิบ  ไม่น่าจะหนีกันเท่าไร  Arabica ดีๆในประเทศก็ น่าจะอยู่ราวๆ 500 - 550฿ กาแฟเย็นใช้ 2 ชอตก็ 16 กรับก็ราวๆ 9฿ ไม่เกินนี้ ถ้วย 22 Oz + น้ำแข็งก็ 2.5฿ ส่วนค่านม ค่าปรุงแต่งก็ไม่หนีกันราวๆ 5 - 6฿  เท่าไร  คิดเอง ค่าดำเนินการ  แล้วแต่ว่าใช้แฟรมไชน์หรือ อินดี้ ของผม indy ก้ไม่มีค่านี้ Over head  อันนี้อยู่ที่ฝีมือในการควบคุมครับ แต่ละร้านไม่เท่ากันครับ ดังนั้นกำไรของแต่ละร้านมันจะขึ้นกับค่า OH ตัวนี้ว่าสถานที่น่าสนมาก แต่ค่าเช่าก็แพงสุดๆ แต่กำลังซื้อสูงแบบซื้อกาแฟระดับ 40฿ upไม่มีปัญหา  อย่างนี้ก็ ควรจะ มีกำไรมาก และค่าดำเนินการ ( ถ้ามี ) ของเราหักทุกอย่างกำไรเฉลี่ยที่ 8 - 8.5฿ ต่อแก้ว แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 20:53:07 จากคุณ : ร่ำสุราริมน้ำตามลำพัง เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 20:49:19

ความคิดเห็นที่ 16 "นมเมจิ 2 ลิตร 84.-" เปลี่ยนมาใช้นมสดจากเต้าได้มั๊ยคะ เราซื้อโลละ 10.- ต้นทุนน่าจะลดลง เราชอบนมแบบนี้อ่ะ คนไม่ชินคงกินยาก กลิ่นคาวค่อนข้างแรง แต่พอใส่ในกาแฟกลิ่นมันจะหอมกว่าใช้นมอื่นๆ จากคุณ : เด็กแหนม เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 21:59:09

ความคิดเห็นที่ 17 อ่า...........เปลื่ยนเเล้วกลัว สตีมไม่ขึ้นครับ  ถึงขึ้นเเต่คงไม่ค่อยคุ้นมือเท่าไหร่เดียวเท อารต์ไม่ไปครับ ......... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 55 01:04:24 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 23:08:04 จากคุณ : แสนเพลิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 23:07:14

ความคิดเห็นที่ 18 #17 แคมโพสสสสสส 555 เพราะคิดว่าต้นทุน 10-15 บาท แล้วขายได้แก้วละ 40-55 บาท มันถึงได้เปิดกันเป็นดอกเห็ด... แล้วก็ตายตามกันไปเหมือนเห็ด... ไงล่ะครับ ค่าเช่าที่ เดือนละ 25,000 ค่าใช้จ่ายต่อเดือนหัวแตก (ค่าเด็ก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าของพัง) 35,000 ค่าเครื่องชงพร้อมเครื่องบด 300,000(ถ้าเช่าที่ 25,000 ผมว่าคงไม่ใช้ออสก้าล่ะมั้งครับ) ค่าแต่งร้าน 900,000 ขายวันละ 100 แก้วกำไรวันละ 3000 บาท(ดูเหมือนเยอะ) ขายได้ 20 วันต่อเดือน 60,000 เจ๊งนะครับ....กินกากกาแฟที่ขายนั้นแหละ ไม่มีตังซื้อมาม่ากินครับ.... อย่ามองแต่ตัวเลขพื้นฐานครับ... หรือจะบอกว่า มีร้านเขาบอกว่า ขายได้วันละ 300 แก้ว ขายดีเป็นเททิ้ง... เปิด 8.00-17.00(เริ่มเก็บของ) 9 ชั่วโมงต่อวัน ชั่วโมงละ 33 แก้ว คิดซะว่า 2นาทีออก 1 แก้ว จ้างเด็กแค่ 2 คนพอแล้ว.... ไม่รอดนะครับ เจอลูกค้าไทยแค่ออเดอร์คนเดียว สั่งตอนเที่ยง ปั่น 5 เย็็น2(ฝากกันซื้อในออฟฟิต) สายการทำงาน หายไป 10 นาทีหรือเปล่า... ไม่ใช่นะครับ หายไป 20 นาที จากแค่ 7 แก้ว กาแฟปั่น ต้องทำชอตท์ ต้องผสม ต้องปั่น ต้องล้างครับ แก้วนึงมีมี 4 นาทีครับ ถ้าทำคล่องๆลดลงมาเหลือ 3 นาที.... ลูกจ้างผอมเลย...เอาเวลาที่ไหนทานข้าว.... ส่วนเรื่อง นม อสค. ปริมาณไขมัน มันไม่สเถียนครับ วัวแต่ละโรงให้ไขมันไม่เท่ากัน ถ้าไม่บาลานท์ด้วยนมผง(ขั้นตอนการผลิตนม) มันไม่มีทางสเถียนครับ รสชาติกาแฟเพี้ยนครับ... นมดีต้องไม่คาว ครับลองทานนมฮอกไกโด สัก 1 กล่อง.... ได้กลิ่นหญ้าอ่อนๆหอมๆด้วยครับ กลิ่นมันสะอาดมาก.... ขอยอมแพ้... จากคุณ : K-T-O เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 00:21:44

ความคิดเห็นที่ 19 สาวนใหญ่ถ้าเป็นแค่คนบริโภคเนี่ยจะคิดแค่ว่าแก้วละ 50 ทำไมแพงจังทีร้านนั้นขาย 25 เอง (ตอนผมไม่ได้เปิดร้านขายก็เคยคิดงี้แหละ 555) แต่พอมาเปิดร้านเองถึงรู้ว่าหลายๆ อย่างต่างกันครับ - ค่าเช่าที่แต่ละคนราคาต่างกัน - รูปแบบร้านที่ลงทุนต่างกัน - วัตถุดิบที่ราคาต่างกัน (กาแฟบางตัวราคากิโลละ 400 บางตัวกิโลละ 600) - ค่าพนักงาน ส่วนต้นทุนคร่าวๆ - กาแฟ 1 กิโลชงเย็นได้ประมาณ 55 แก้ว (น้อยสุด 50 สูงสูด 60) ตก 10 บาท/แก้ว (กรนีกาแฟราคาสูงหน่อย) - แก้ว+ฝา+หลอด (3 บาท) - บางร้านติดสติกเกอร์อีก 20 สตางค์ - ค่าน้ำชงกาแฟ (อันนี้ไม่เล่นนะครับ เอาน้ำปะปามาชงเครื่องพังหมด) 10 สตางค์ต่อแก้ว - นมสด 8 บาท/แก้ว (กรนีใช้นมสดจริงๆ) - นมข้น 1-2 บาท (แล้วแต่สูตร) - ค่าไฟฟ้า (ต้องคำนวนนะครับ เพราะใช้เครื่ิงชงไม่มีไฟก็ชงไม่ได้ อย่างกาแฟโบราณก็มีค่าแก๊ส) ส่วนเรื่องสูตรเนี่ย (ขอนอกเรื่อง) หลายท่านกล่าวว่าทำไมหลายๆ ร้านเหมือนเอาเปรียบลูกค้าหรือชงไม่เป็นเช่น - ทำไมใส่นมข้น จริงๆ กาแฟสดต้องไม่ใส่ - ทำไมบางร้านไม่ใช้นมสด ใส่นมคาร์เนชั่นแทน - ร้านนี้ตลกจริง มีเอสเพรสโซ่เย็นด้วย ไม่รู้หรือไงว่ามันไม่มีในโลก - ขายแพงจังต้นทุนจิงๆ ไม่เกิน 15 หรอก แต่ก่อนผมเป็นคนอย่างนั้นเลยครับ และฏ็มาเปิดร้านด้วยใจแน่วแน่ (แรกๆ) - ชงแบบไม่ใส่นมข้น - ขายแค่ 25 บาท (ใช้กาแฟกิโล 600 -_-) - ในเมนูไม่มีเอสเย็น - ฯลฯ สิ่งที่ตามมาครับเปิดมา 3 เดือน ขายได้วันละ 5 แก้ว.....คนไม่กินเลยทิ้งอีโก้ดู ชงแบบเพื่อนบ้านที่ไม่ว่าเค้าไว้ ใส่นมข้น, เมนูเอสเย็น บลาๆๆๆๆ .... กลายเป็นขายดีขึ้นมากๆ ลูกค้าที่เคยซื้อชมกันใหญ่ว่าอร่อยขึ้นเยอะน่าจะชงงี้มานานแล้ว เลยรู้ซึ้งครับว่ามันต้องตามลูกค้าแถวนั้น (แถวนั้นเค้าชอบแบบไหน) ตอนนี้เวลาใครใสพูดกับผมว่าเอสเย็นไม่มีในโลก ผมกล้าพูดเลยว่า "มีสิ!! อย่างน้อยก็ที่ร้านผม" ใครที่คิดว่ากำไรดี ขายเอาเปรียบลูกค้า เป็นงานง่ายๆ ได้เงินง่ายๆ ผมว่าลองไปดูกันก่อนก็ดีครับ ท่านจะรู้อะไรอีกเยอะ ผมรู้สัจธรรมมาเลยว่า คนส่วนใหญ่จะคิดว่างานคนอื่นง่ายกว่าของงานตัวเอง จะรู้ว่ายากง่าย ได้เวินง่ายจริงไหมก็ต้องลองครับ แค่คำว่า "ผมว่า, คิดว่า" มันอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง ความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครไม่เห็นด้วยก็ขออภัยด้วยนะครับ จากใจชายขายกาแฟ จากคุณ : เขียนบน iPad (nok-kapiak) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 00:46:08

ความคิดเห็นที่ 20 ความรู้เพียบ ตามมาเก็บ ^_^ ขอบคุณคะ จากคุณ : almond_cake เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 01:11:12

ความคิดเห็นที่ 21 โอ้ เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าแก้วละ 50 แพงงงง  ต่อไปนี้จะไม่คิดแบบนั้นอีกแล้วค่ะ จากคุณ : ปูใบไม้ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 03:53:32

ความคิดเห็นที่ 22 เอสเย็น (บางที่ก็เรียกว่าไทยสไตล์) เป็นเมนูพื้นถิ่นของภูมิภาคแถวๆบ้านเราครับ เวียดนามเขาก็มี ตอนนี้ ได้มีการคุยกันในวงกว้างว่า... ปล่อยให้มีไป แต่ว่า อธิบายให้ได้ว่ามันต่างจาก สูตรอื่นเช่นไร เพื่อเป็นการให้ความรู้กับลูกค้าครับ ไม่ใช่ว่า เอามาไรมาใส่น้ำแข็งก็ยัดนมข้นหวานลงไปซะหมด... >_< กาแฟเป็น เมนูเครื่องดื่มครับ เหมือนทำอาหาร ผักกระเพา บางร้านใส่ถั่งฝักยาวด้วย บางที่ก็ไม่ใส่ กาแฟบางที่ก็ใส่นมข้น บ้างร้านก็ไม่ใส่ อยากทานต้องบอกครับ แล้วถามว่าแบบเนี้ยที่ร้านเรียกว่าอะไร... ถ้าทำออกมายังไม่อร่อยก็เปลี่ยนร้านครับ... อออออ มีการทดสอบกันมาแล้วว่า กาแฟคั่วเข้มๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบที่เราๆชอบเอามาขายกันตาม คียออส นั้นไซท์...เหมาะกับ การเอามาทำเอสเย็น มากกว่ากาแฟคั่วกลางๆ มากมายครับ.... >_< จากคุณ : K-T-O เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 14:52:43

ความคิดเห็นที่ 23 สำหรับร้านเรา ใช้กาแฟกิโลละ 490 บาท ต้นทุนก็ตกแก้วละเกือบ 20 บาท (สูตรร้าน) ไม่รวมค่าเช่า ค่าแรง ค่าน้ำ ค่าไฟนะคะ จากคุณ : NooLek_Ka เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 22:27:38