ความคิดเห็นที่ 1 รอจดสูตรค่ะ จากคุณ : กระท่อมร้าง..กลางนา เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:10:27

ความคิดเห็นที่ 2 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 55 10:19:09 จากคุณ : ล้นฟ้า เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:18:57

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไม่เป็นค่ะ แต่ชอบทาน แล้วยังไม่อยากทำ อยากทานอ้อนแม่ดีกว่าค่ะ อิอิ แต่ที่รู้เกี่ยวกับขี้เหล็กที่ไม่ขม เราเห็นแม่ต้มหลายน้ำเพื่อเอารสขมออกอ่ะค่ะ อ้อ ใส่เกลือในน้ำด้วยค่ะ หลัง ๆ เราชอบแกงใบขี้เหล็กน้อยกว่าแกงดอกขี้เหล็ก ใช่ค่ะ แกงดอกขี้เหล็กเหลือง ๆ รสมัน ๆ อร่อยดีค่ะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:21:43

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบให้แม่ทำให้กินเหมือนกัน หลายขั้นตอนใช้ได้ ใช้เวลานานพอสมควร แบบว่าขี้เกียจ 555 เวลาทำต้องต้มเปลี่ยนน้ำหลายรอบเพื่อให้รสชาติไม่ขมมาก ต้องคั้นน้ำใบย่านางอีก เอาน้ำย่านางที่คั้นได้ข้นๆตั้งไฟ ทุบหอมแดงพริกสดใส่ลงไป น้ำเดือดใส่ขี้เหล็ก ปรุงรสด้วยเกลือน้ำปลาร้า อื่นอีก ๆ ตามชอบ ใส่หนังหมูที่ต้มสุกแล้ว พอจะยกลงใส่ต้นหอมใบแมงลัก เป็นอันเสร็จ ลองทำดูค่ะ สูตรนี้อาจอร่อยถูกใจก็ได้ จากคุณ : me with you เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:32:06

ความคิดเห็นที่ 5 แกงขี้เหล็กกะทิที่บ้านพิมจะทำแบบนี้นะคะ เริ่มต้นตั้งแต่รูดใบขี้เหล็กเลือกเอาแต่ใบอ่อนและใบเพสลาด  นำไปต้มน้ำจนเปื่อยนุ่มตามต้องการ ระหว่างต้มเหยาะเกลือไปเล็กน้อย เกลือจะทำให้ความขมลดลง   ต้มเสร็จนำมาล้างน้ำ บีบให้แห้งพักไว้ ต่อมาก็ย่างหมูหรือเนื้อ (ตามชอบ) และย่างปลาทูหรือปลาโอ  ย่างเสร็จ..หมูก็หั่นไว้เป็นชิ้น  ปลาก็แกะเอาแต่เนื้อยีเป็นชิ้นเล็กๆ ตั้งกระทะ ใส่หัวกะทิลงไปผัดจนแตกมันเล็กน้อย ใส่พริกแกงลงไป ผัดจนแตกมันพอประมาณ ก็ใส่กระชาย หมู และปลาลงไป ผัดให้เข้ากันสักแป๊บ เติมน้ำกะทิ  ใส่ขี้เหล็กลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำต้มปลาอินทรีเค็มหอม  และตัดรสด้วยน้ำตาลนิดนึง พอเดือดชิมรสชาติตามชอบ ขาดอะไรไปก็เติมเพิ่ม  ปรุงรสราดด้วยหัวกะทิข้นๆ รอเดือดอีกทีก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:48:04

ความคิดเห็นที่ 6 ...  ด้านบนมีตำรับแกงแบบภาคอีสานแล้ว  ลองดูแบบภาคกลาง ใส่กะทินะครับ แกงขี้เหล็ก เครื่องปรุง - ขี้เหล็กต้มน้ำเกลือ บีบน้ำทิ้ง แล้วล้างน้ำเปล่าอีก 1 ครั้ง บีบให้แห้ง 1/2 กก. - หัวกะทิ 1 กก. - หางกะทิ 1/2 กก. - เครื่องแกงเผ็ด (แกงแดง) 1 ขีดสำหรับรสอ่อน 2 ขีดสำหรับเข้ม ๆ - ปลาย่างแกะเนื้อ 3 ชต.  ตำละเอียด ๆ - น้ำปลาร้า ครึ่งถ้วย ...  หรือ - ปลาอินทรีเค็มแกะเนื้อ บี้ให้ละเอียด ๆ  2 - 3 ชต. - กระชายตำละเอียด 3 ชต. - น้ำตาลปี๊บ - น้ำปลา - เกลือทะเลป่น - หมู หรือ เนื้อวัวย่างพอสุก หั่นชิ้นพอคำ ตามต้องการ วิธีทำ   ตำน้ำพริกแกงกับปลาย่างและกระชายให้เข้ากัน  พักไว้   ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่หัวกะทิลงไปซักครึ่ง ให้เดือด หมั่นคน   คนให้กะทิหอมดี แต่ไม่ต้องแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้เข้ากัน   ผัดซัก 5 นาที ให้หอม ๆ เติมหัวกะทิที่เหลือลงไปให้หมด  ใส่ขี้เหล็กลงไป  คนให้เข้ากัน รอเดือดอีกครั้ง   ใส่น้ำปลาร้าหรือปลาเค็มลงไป เป็นอันดับแรก  เพราะเราไม่ได้ใช้รสเค็มตรงนี้ แต่ใช้กลิ่นที่ชอบลงไปก่อน   ดูน้ำแกงว่า เหือดไปรึเปล่า ถ้าแห้งไป เติมหางกะทิได้นิดหน่อย เพราะขี้เหล็กจะดูดกะทิมากครับ  เดือดอีกครั้ง ใส่หมู/เนื้อวัวย่างลงไป  คนให้เข้ากัน    ชิมรสดู แล้วเติมรสตามที่ชอบครับ ไม่เค็มแรกใส่เกลือ แล้วถึงจะใช้น้ำปลา  เติมหวานอีกนิด ให้กลมกล่อม     เพราะขี้เหล็กมีรสขม จะต้องมีรสหวานนิด ๆ มาประสานรสชาติให้ครับ  แกงถึงจะกลมกล่อม     เดือดอีกครั้งปิดไฟ ปิดฝาหม้อ  บ่มทิ้งไว้ซักพักค่อยทาน จะอร่อยมากครับ     เสร็จแล้วครับ  แกงขี้เหล็กหมู/เนื้อย่าง จากคุณ : ชายกาง... (OverEat) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:52:41

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ  ทุก  คคห  นะคะขอบคุณจริงๆจ้า   เย้นนี้จะทำ2แกงเลย   กิ๊ฟหมดแล้ว^^ จากคุณ : หัวหอม++ตัวหอม เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:13:56

ความคิดเห็นที่ 8 ขอเอารูปมาแจมครับ จากคุณ : สล่าปู่ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:29:40

ความคิดเห็นที่ 9 ว่ากันว่าการต้มขี้เหล็กไม่ให้ขมนั้น ให้ต้มพร้อมมะเขือพวงสักสิบลูก จะหายขม และสะดวก ประหยัดกว่าการต้มน้ำทิ้งหลาย ๆ รอบ ความเห็นส่วนตัว----ขี้เหล็กมีเสน่ห์ตรงขมๆ นี่ล่ะค่ะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 14:50:50

ความคิดเห็นที่ 10 by นางสาว รวีปภา โพธิพงศา ม.5/5 เลขที่ 37 โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ จากคุณ : nareesom เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 17:36:06

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบแกงขี้เหล็กฝีมือแม่ที่สุดค่ะ ตอนนั่งดูแม่ทำเหมือนว่าจะง่าย ยังไม่เคยลองทำเองเลย จากคุณ : Japansainlook เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:01:16

ความคิดเห็นที่ 12 ง่ายมากสำหรับคนทำไม่เป็น ไปซ้ือน้ำยาที่กินกับขนมจีนมา พร้อมกับนำขี้เหล็กที่ต้มแล้วใส่ลงไป ตั้งไฟให้เดือด ปรุงรสตามชอบใจ(ตามตลาดจะมีข้ีเหล็กที่ต้มแล้วขายถ้าชอบดอกก็ใส่ดอกลงไป) จากคุณ : คลองสำโรง เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:33:41

ความคิดเห็นที่ 13 เราเพิ่งจะมารู้จักแกงขี้เหล็กไม่ใส่กะทิและเพิ่งกินเป็นเมื่อปีกว่าๆมานี่เอง...พี่สาวคนกาฬสินธิ์ทำให้กิน แล้วเขาก็สอนมาอีกที...เอาหอมแดง พริก ตะไคร้ ไปตำให้แหลก ข่าฝาน พวกนี้เป็นเครื่องแกง...พี่เขาต้มขาหมูต่างหากแล้วมาเลาะเนื้อออกมาต้มกับเครื่องแกง และขี้เหล็กที่ต้มน้ำขมทิ้งไปแล้ว ปรุงด้วยน้ำปลาร้า อ่อ...ใส่น้ำใบย่านางด้วย....เป็นอันเสร็จ...พี่อีสานอีกคนบอกให้ใส่ข้าวคั่วลงไปด้วย เราก็เอาเลย อร่อยแบบของเราน่ะล่ะ และก็เขาก็เพิ่งมาบอกให้กินกับข้าวเหนียว เราก็ลอง คราวนี้เลยติดใจเลย ไม่เคยกินแบบนี้มาก่อน..เราชอบทำกับหมูสามชั้น ไม่ก็กระดูกอ่อน....คราวหน้าจะลองทำกับเนื้อปลา ไม่อยากกินเนื้อสัตว์บกเท่าไหร่ มันย่อยยาก พี่ๆเขาเรียกเราลาวเทียม ของพวกเขาลาวแท้...แซวกันขำๆนะคะ จากคุณ : green light...go เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 20:13:21

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นแกงที่ตอนเด็กๆ เกลียดมาก แต่ตอนนี้เจอที่ไหนทำอร่อยไม่ได้เลย แทบจะถลาเข้าไปหา นี่มันฟ้องวัยชัดๅ 555 จากคุณ : Ladyinlovernovels เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 22:39:33

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่อยากให้ขมง่ายนิดเดียวคะ...ต้มน้ำทิ้งซัก3น้ำ...หายขมแน่นอนคะ... จากคุณ : Nan-And-LovelyDog เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:23:56

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ คลองสำโรง   คุณ เกิดที่ไหนครับ  มาอยู่คลองสำโรง หรือเปล่า   สูตรเดียวกันเลยครับ แกงขี้เหล็ก เหมือน  แกงหอยขม  ขัดหอยขม ให้หอยขมสะอาด หมดคราบตะไคล้  ตัดตูดออก      ให้ซื้อน้ำยาขนมจีนที่อร่อย   มาใส่แกงหอยขมได้เลย  ใส่ใบแมงลัก จากคุณ : HITEN เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:52:03