ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคย เข้าไปทานที่ร้าน คล้ายๆ แบบที่คุณว่า  แถวๆ กลางซอย สุขุมวิท 101/1 เจ้าของเรียน การชงกาแฟ มาจาก ตปท.  ร้านก็เป็นบ้านของตัวเอง   เครื่องชง กาแฟ เห็นน้องเจ้าของเคลมว่า มีไม่กี่เครื่องในไทย  ขายกาแฟ แก้ว ล่ะ 70 บาท ไม่แน่ใจว่า แพงรึเปล่า รู้แต่ว่า รสชาด ดีกว่า ของ อเมซอน  ครับ จากคุณ : H-Tx เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 15:21:19

ความคิดเห็นที่ 2 ลองคิดต้นทุน ต่อแก้ว ดูสิครับ แต่เอาแค่ต้นทุนผันแปร พอนะครับ เช่น ต่อแก้ว ต้องมีกาแฟ น้ำ ไฟ น้ำแข็ง แก้ว ฝา หลอด แล้วสรุป ต่อแก้วได้กี่บาท ตั้งไว้ก่อน ต่อมา มาคำนวน ทรัพย์สินที่สร้างไป โดยหารเฉลี่ย ต่อสัญญาเช่าว่าตกเดือนเท่าไร จะได้รู้ว่าจะ markup กี่เปอร์เซนต์จะได้อยู่รอด ตัวอย่าง ขำๆ 1.ถ้าต้นทุนผันแปร ของกาแฟ ต่อแก้ว อยู่ที่ 15 บาท ผมว่า น่าจะขายได้ 200-300% ของราคาต้นทุน คือ 45-60 บาท ทั้งนี้ เกรดของกาแฟ คุณต้องพรีเมี่ยม จริงๆ 2.ค่าใช้จ่าย ค่าตกแต่ง ที่สร้างลงไปถือว่าเป็น ทรัพย์สินที่จะไม่ได้คืน เมื่อตอนหมดสัญญา อันนี้ ก็ต้องคำนวนหารเฉลี่ย ว่า คุณจะขายได้วันละกี่แก้ว เช่น ลงทุน 1,000,000 บาท ต่อสัญญา 3 ปี หารเฉลี่ยต่อวันก็จะประมาณ 1100 บาท ซึ่งเป็น ค่าเสื่อมที่คุณต้องเสียต่อวัน ดังนั้น ถ้าลงทุน 1,000,000 คิดเฉลี่ย ต่ำๆ ขายวันละ 100 แก้ว จะมีต้นทุนดังนี้ - ค่าต้นทุนผันแปร กาแฟ ประมาณ 15 บาท - ค่าเสื่อมทรัพย์สิน ประมาณ 10 บาท - ถ้าขายแก้วละ 45 บาท ก็จะกำไรประมาณ 15-20 บาทต่อแก้ว และขาย 100 แก้ว ก็จะกำไรวันละประมาณ 1500-2000 บาท คิดเป็นต่อปี ประมาณ 600,000 บาท ต่อ 3 ปีตามอายุสัญญาเช่า ก็เกือบ 2,000,000 บาท มันสำคัญตรงที่ยอดขาย ที่คุณประเมิน ว่าจะได้ตามนั้นรึไม่ ถ้าไม่ได้การลงทุนสูง ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน จากคุณ : ไก่อลาสก้า เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 15:55:52

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าขายแก้วละเจ็ดสิบ วันละร้อยแก้วยังเอาไม่อยู่เลยครับแบบนี้  ต้องหลัก300 แก้วขึ้่น แต่โดยทั่วไปเอากำไรจากส่วนอื่นได้ เช่นเค้ก เบอเกอรี่ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 16:15:41

ความคิดเห็นที่ 4 ขายเกินแก้วละร้อยนี่หาคนกินยากแล้วครับ จากคุณ : Kt-Kw เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 16:41:29

ความคิดเห็นที่ 5 ปั๊มนึงในตัวเมืองปากช่อง มีบาริสต้า  มีอาหารเช้าเล็กๆขาย มีแอร์ เครื่องชงกาแฟ สี่แสนกว่า เมล็ดกาแฟอย่างดี แต่ไม่ได้แต่งร้านหรูหรา บางทีเปิดแค่ครึ่งวัน กาแฟไม่เกินแก้วละ ๕๐ ได้ข่าวว่าเจ้าของรวยมาก  แค่อยากมีร้านกาแฟเล่นๆ จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 16:44:41

ความคิดเห็นที่ 6 คห.2  ยังไม่ได้รวมค่าจ้าง บาริสเตอร์กับพนักงานขั้นต่ำอีก 2 คน จากคุณ : tong^kern เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 16:55:44

ความคิดเห็นที่ 7 ตาม ที่เคยเจอมา แก้วละ 65 ขึ้นไปครับ ขายแพงกว่า เงือก ขายยากครับ ตอบตามคำถามแบบนี้ก็พอแล้วมั้งครับ นอกเรื่องดีกว่า เครื่องชงราคาเกิน 400,000 มักจะมีนิสัย ตอบสนองต่อการทำดีมาก แปลว่า ทำดีดีมาก ทำไม่ดีออกมาตามสภาพ บาริสต้าที่ใช้ ควรใส่ใจเรื่องการ ปรับเครื่องบดกาแฟ เสมอเมื่อมีการเพี้ยนของรสชาติครับ ซึ่งมีเป้นส่วนน้อย ราคากาแฟ 600 บาท เป็นราคาปรกติที่ร้านกาแฟ อินดี้ที่ตั้งใจจริง ใช้กันนะครับ ตัวพิเศษที่บางร้านใช้ กิโลละ 1200 เสริฟ เป็นกาแฟดำร้อนเท่านั้นครับ ไม่เสริฟเย็น ค่าเช่า หลักหมื่น เป็นเรื่องปรกติของร้านกาแฟ นะครับ ถ้าระดับที่มีลูกค้า ยอมจ่ายแก้วละ 80^ ขายต่อวัน 2-300 แก้ว ค่าเช่าประมาณ 3-4-50,000 ครับ เหนื่อยอยู่ บาริสต้า ที่คุมเครื่องแบบที่ว่ามาข้อแรก เงินเดือน น่าจะ 12-16 ครับ พนักงาน ก็8-9 ตามปรกติ ตกแต่งปรกติที่ผมทำๆ ก็ประมาณ .9-1 ล้าน อยู่แล้วครับ สำหรับร้านขนาด 40-50 ตรม. จากคุณ : K-T-O เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:51:41

ความคิดเห็นที่ 8 4 แสนนี่ของ synesso รึเปล่าน๊าาาา!! ^^ ตัวในฝันผมเลยนะนั่น 555  ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องหลุดค่าเครื่องนะครับ ขายแก้วละ 50 บาทให้คนกินประทับใจเล่นเลยครับ อิอิ ^^ จากคุณ : เขียนบน iPad (nok-kapiak) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:17:10

ความคิดเห็นที่ 9 แก้วละ 40 ครับ เกินนี้ไม่ซื้อ เพราะ พวกเหตุผลที่ยกมาไม่ค่อยมีมูลค่ากับผมเท่าไหร่ ก็อาจจะอร่อยขึ้นบ้าง แต่ผมก็หากาแฟแก้วละ40 อร่อยๆได้ ... ดังนั้น ขายแก้วละ 40 แต่ขายวันละ 1,000 แก้ว วันนึงก็ได้  40,000 แล้ว เหอ เหอ... ... ... ธุรกิจนี้...กลิ่นมันหอมหวนเย้ายวน แต่รสชาติมันขมขื่น นะครับ จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:15:23

ความคิดเห็นที่ 10 เคยเจอ ค่าเครื่องชงรวมเครื่องบด 2เเสนกว่าๆ  กาแฟโลละเกือบๆ 600 ขาดไปไม่กี่สิบบาท  ทำเลไม่ค่อยดีเท่าไหร่  ขายเอสเพรสโซ ช๊อตละ 20-25 ละครัฟฟฟ วันละ 1000 เเก้ว  ............  เหอเหอ สงสัยทำเลเทพประทาน ครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 22:36:34 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 20:56:12 จากคุณ : แสนเพลิน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:15:51

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าใจแล้วล่ะ ถ้าจะให้คุ้ม ปัจจัยเดียวที่จะมาเป็นตัวแปรก็คือ จำนวนแก้วที่เยอะ (บนพื้นฐานของกาแฟที่อร่อย) แต่ถ้าจะต้องมีการขายที่หลายร้อยแก้วต่อวัน ประเทศไทยนี้คงจะหาได้ยากมากๆ อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่ได้คิดจะทำเว่อร์ๆแบบนี้ แต่ขอบคุณทุกคนมากๆ คำตอบทุกท่านเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจจริงๆ จากคุณ : burenglong (burenglong) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:28:27

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 3     ถ้าขายแก้วละเจ็ดสิบ วันละร้อยแก้วยังเอาไม่อยู่เลยครับแบบนี้  ต้องหลัก300 แก้วขึ้่น แต่โดยทั่วไปเอากำไรจากส่วนอื่นได้ เช่นเค้ก เบอเกอรี่ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน     --------------------------------------------------------------------------------- ครับ ที่ คห.3 บอกมาใกล้เคียง กับที่เคยคุย น้องเจ้าของร้านเลย น้องเค้า บอกว่า ถ้าจะขาย เอาแบบพอได้กำไรจริง  ต้อง แก้วละ 200 +  ถึงเอาอยู่ คงหมายถึง คุ้มค่าเครื่องชงด้วย จากคุณ : H-Tx เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:46:46

ความคิดเห็นที่ 13 เกินแก้วละ80บาทผมคนนึงก็จะเปลี่ยนไปกินสตาร์บักดีกว่าเพราะไม่ต้องเสี่ยงกับรสชาติของกาแฟเท่าไหร่ครับ จากคุณ : jibkichan เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:53:58

ความคิดเห็นที่ 14 ปัจจัยประกอบที่ช่วยให้ขายแพงได้ก็หลายอย่างอ่ะครับ ร้านข้างเป็นบูธไม่มีที่นั่งขาย 40 บาทแต่ถ้าที่ร้านติดแอร์ มีเนต โซฟาซีท หนังสือให้อ่าน บลาๆๆๆๆ ^^ ผมว่าขาย 70-80 ก็มีคนหลายคนก็เลือกเข้ามาร้านเรานะ อยู่ที่เราจับจุดได้ไหม ที่จังหวัดผมมีโซนนึง ร้านกาแฟแถวนั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 6-7 ร้านแต่ที่ขายได้มี 2 ร้าน ร้านนึงขาย 35 บาทเป็นร้านเล็กๆ กาแฟอย่างเดียวลูกค้าเป็นกลุ่มพนักงานที่โรงพยาบาล เคยถามเค้าบอกได้วันนึง 300 อัพ. ^^ ส่วนอีกร้านร้านติดแอร์ ขายขั้นต่ำ 70 บาท (ผมกินมอคค่า 90) 3 เดือนแรกเงียบกริ้บแต่ตอนนี้คึกคักมากขายดี มีแค่กาแฟ, เค๊ก, ไอติม ที่ถามๆ เพื่อนๆเค้าชอบเพราะร้านนี้นั่งชิลล์ๆ หนังสือให้อ่านเยอะ เนตฟรี เจ้าของเป็นกันเองแต่ขายได้เท่าไหร่ไม่รู้นะครับ แต่เท่าที่รู้เปิดร้าน 10 โมงยัน เที่ยงคืนคึกคักตลอด (บางทีมีมาจัดสัมนาด้วย) ส่วนอีก 4 ร้านเป็นร้านมีที่นั่ง 1 เป็นบูธ 3 เท่าที่เห็นเตรียมปิดไป 2 และอีก 2 เหงาหงอย (เย็นแก้วละ 30 บาท 3 ร้าน อีกร้านเย็น 25) นี่แหละครับจับจุดลูกค้าได้ อัธยาสัยดีๆ ผมว่าช่วยได้เยอะ ความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครไม่เห็นด้วยก็ขออภัยด้วยเน่อ ^^ จากคุณ : เขียนบน iPad (nok-kapiak) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 00:51:47

ความคิดเห็นที่ 15 กาแฟเจ้าของโดยคนไทย ลงทุนเต็มที่ จัดตกแต่งสวยงาม ต้องขายแก้วต่ำกว่า 60 ไม่งั้นคนไทยไม่กิน ส่วนตาบัค เจ้าของเป็น ตปท แก้วละ 100 กว่าบาท คนไทยกินเอาๆ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 08:32:46

ความคิดเห็นที่ 16 ทำเอาเท่ ก็พอได้ครับแต่เอารวยคงยาก จากคุณ : muk_22 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 08:48:20

ความคิดเห็นที่ 17 ผมตอบแบบเอาความรู้สึกของคนเป็นลูกค้าล่ะกัน ส่วนตัวผมกินกาแฟตั้งแต่ถูกยันแพงผมไม่ซีเรียสเรื่องราคานะ แต่ผมซีเรียสเรื่องรสชาติกับบรรยากาศ กับการบริการมากกว่า เพราะถ้าผมไปร้านนั่งแช่ได้ มีพวกของว่างอื่นให้เลือก มี net มีที่นั่งไม่ลำบากแย่งกับแบบร้านแบรนด์ดังๆที่ลุกแย่งกับเป็นเก้าอี้ดนตรี พนักงานยินดีต้อนรับมีใจในการบริการ ต่อให้S size คิดแก้วละ 100  ผมก็ยินดีไปใช้บริการ แต่หากเจอร้านที่ทำกาแฟรสชาติไม่ต่างกับ รถเข็นกาแฟโบราณ หรือยังหาจุดขายของสูตรร้านตัวเองไม่เจอ พนักงานไม่เต็มใจบริการ บรรยากาศร้าน ไม่สมกับจัดไว้ตามสไตร์ เช่นจัดแบบร้านนั่งแช่ แต่พอเรานั่งไปสัก 1 ชม. กลับมาปิดแอร์ตรงแถวที่เรานั่ง หรือทำเป็นมาขยันกวาดร้านถูร้านตรงโซนทีเรานั่ง พยายามแสดงออกให้เห็นว่า "มรึงนั่งนานไปแล้ว" ทั้งกริยาและสายตา ต่อให้ถูก คิดแก้วละ 35 ผมก็ไม่กลับไปเหยียบอีกครับ ซึ่งทั้งหมดมาจากประสบการณ์ของผมเอง แล้วทุกครั้งที่ผมไปใช้บริการร้าน แบบ concept ของ จขกท ผมก็ไม่เคยใช้บริการต่ำกว่าครั้งละ 300 เลยด้วยซ้ำ แต่กลับเจอร้านที่ไม่เห็นว่าเรามาเป็นลูกค้าเค้า หรือร้านที่ฝีมือไม่ถึงก็หลายครั้งเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 15:35:30 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 15:34:32 จากคุณ : eXPleang เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 15:32:37

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าหาว่าผมกวนนะ ถ้าจะให้รุ่ง ตั้งราคาขายให้เวอร์ๆไปเลย เอาเท่าสตาร์บักก็ได้ แล้วทำการตลาด เสริม ว่าของเราอินเทรน์ คนที่กินเป็นแฟชั่น ชอบของแพง ยิ่งแพงยิ่งอุดหนุน  มีมากอยู่นะ อยู่ที่ว่าคุณจะจับตลาดไหน ของแบบนี้อุปทานได้ครับ(อุปโหลกก็ได้) คนกินกาแฟ มันเป็นการเสพติดด้วย สร้างภาพลักษณ์เข้าไว้ แต่ถ้าจะเน้นจำนวนแก้ว ก็คิดราคาเบาๆไปครับ ขยันชงหน่อยก็แล้วกัน จากคุณ : chan ty เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 15:34:04

ความคิดเห็นที่ 19 ขอถามต่อหน่อยนะทุกท่าน ถ้าบรรยากาศร้านดีเยี่ยม เครื่องสุดหรู มันจะทำให้ความคาดหวังต่อกาแฟเตลิดไปไกล แต่เมื่อลูกค้าได้ชิม รสชาติก็ดี แต่ไม่เท่ากับที่เขาหวังไว้ แต่ก็ไม่น่าเกลียด มันจะรู้พวกแบรนด์ดังได้ไหม จากคุณ : burenglong (burenglong) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 18:13:45

ความคิดเห็นที่ 20 ตั้งราคาแปลกๆ เช่น 55 66 77 88 99  น่าจะช่วยได้นิดหน่อยครับ จากคุณ : Tha Suttha เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 18:52:05

ความคิดเห็นที่ 21 เอาเมล็ดกาแฟราคานี้ คุณสามารถบอกสูตรของคุณได้เลยครับ คนคั่วเค้าชอบเลย ดั่งเช่นผม แต่ตัวผม ผมอยากแนะนำเอาเกรดราคา 450 ขึ้นก็พอนะครับ เอาส่วนเกินตรงนั้นไปเป็นค่าสูตร ค่าแบรดเราเลยดีกว่า ลองมาคุยกันดูนะครับที่ ผมคั่วเมล็ดกาแฟขายอยู่ครับ   http://www.facebook.com/Kafaewiangpapao จากคุณ : น้ำเชี่ยวตะวัน (น้ำเชี่ยวตะวัน) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 21:01:23