ความคิดเห็นที่ 1 ผมตั้งใจไว้ว่ากระทู้ซีรี่ส์นี้หลักๆ จะพูดถึงแค่ขนมระดับคลาสสิกจากทางฝั่งตะวันตก คำว่าคลาสสิกในที่นี้ ผมขอนับประมาณว่า ถ้าพูดถึงขนมชิ้นนี้ คนฝรั่งเศสทั่วไปที่ไม่ต้องเป็นแฟนพันธุ์แท้ขนมก็รู้จักกันดี ซึ่งส่วนใหญ่มันก็มีให้กินมาเป็นสิบเป็นร้อยปีแล้วละ ซึ่งเมื่อลองนับหัวดูแล้ว คิดว่ามีขนมที่น่าพูดถึงเป็นสิบอย่าง และหลังจากนั้น ถ้ายังมีเพื่อนๆสนใจ และถ้าผมยังพอมีเวลา และยังมีแรงเขียน ก็อยากจะพูดถึงขนมสมัยใหม่ ที่เรียกว่า Patisserie Moderne กันบ้าง ซึ่งพวกนี้มีเด่นจริงๆอยู่ไม่กี่ตัว ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่ารูปภาพบางส่วนมาจากกรุภาพถ่ายผมเอง ส่วนบางภาพก็เอามาจากอินเตอร์เน็ทนะครับ (ส่วนมากเลยแหละ เพราะผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปขนมเท่าไร รู้ตัวอีกทีก็กินจนจะหมดชิ้นแล้ว เวรกรรม...)  ไม่ได้มีเจตนาจะละเมิดลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้นครับ ถ้ามีภาพไหนไม่เหมาะสมก็บอกได้ครับ ยินดีลบให้และขอโทษล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ครับ ที่ตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อแชร์ความรู้เท่านั้นครับ ซึ่งรูปภาพในกระทู้ของผมก็อย่าคาดหวังเรื่องความงามมากนะครับ เพราะใช้กล้องมือถือถ่ายล้วนๆครับ ไม่มีตังค์ไปซื้อกล้องเทพๆ เพราะเอาเงินไปซื้อขนมกินหมดแล้ว แหะๆ และอีกอย่างคือ ผมไม่ได้เป็นคนเก่งหรือเทพอะไรหรอกครับ ไม่ได้มาสถาปนาตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือแฟนพันธุ์แท้ของขนม หรือร้านไหนทั้งนั้น ผมเพียงแค่คนกินขนมคนนึง ที่ต้องการจะแชร์ความรู้และประสบการณ์เท่านั้น บางท่านอาจจะรู้มากกว่าผม ลึกกว่าผมก็ได้ สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้ อาจจะมีผิดพลาด คลาดเคลื่อนบ้าง เพราะข้อมูลทั้งหมดผมเริ่มศึกษามาตั้งแต่ช่วง 4-5 ปีที่แล้ว หลายๆอย่างในปัจจุบันอาจเปลี่ยนไป (ซึ่งผมเองก็ตามอัพเดทได้ไม่หมด เพราะผมไม่ได้อยู่ฝรั่งเศสตลอดเวลาครับ) ข้อมูลหลายอย่างมาจากการเล่าปากต่อปากจากเพื่อนชาวฝรั่งเศสที่คลุกคลีในวงการขนม ถ้ามีข้อมูลไหนผิดพลาด ก็ขออภัยล่วงหน้า หรือเพื่อนสมาชิกท่านอื่นจะเพิ่มเติมก็ยินดีรับฟังเสมอครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:43:25

ความคิดเห็นที่ 2 เอาล่ะๆ ...ขนมอย่างแรกที่จะพูดถึง เชื่อว่าคนไทยแทบทุกคนรู้จัก นั่นคือ เอแคลร์ เอแคลร์ เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ฟ้าผ่า (ลองใส่คำว่า eclair ลงไปใน google ก็จะเห็นรูปฟ้าผ่าออกมาปนกับรูปขนมด้วยครับ ลองดูจิๆ) แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยกับขนมนี่ แต่ว่ากันว่ามันมีที่มาจากความอร่อยของขนมชิ้นนี้ ที่ใครๆก็ฟาดเรียบหมดเร็วราวฟ้าผ่า ซึ่งขนมนี้อยู่มาเป็นร้อยปี มีการคิดค้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 โดยแป้งชูว์ถูกคิดค้นด้วยเชฟชาวอิตาเลียนชื่อ Popelini  ก่อนจะถูกนำเข้ามาที่ฝรั่งเศส แล้วมีการพัฒนาแตกหน่ออีกหลายรอบหลายหน (อาทิเช่น กลายเป็น profiterole คือแป้งชูว์ไส้ไอศกรีม กินกับซอสช็อคโกแลต ซึ่งมักจะเสิร์ฟเป็นของหวานเวลาไปกินอาหารฝรั่งเศสในร้านเล็กๆแบบ bistro) ก่อนจะกระจายไปทั่วทั้งโลก จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:45:01

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้ก็คือ profiterole ที่หากินได้ทั่วไปในฝรั่งเศสครับ เวลาไปกินร้านที่จัดเป็นคอร์สแบบ entree+plat+dessert ไอ้เจ้าของหวานในเซ็ท ก็มักจะมีอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น tarte tartin, creme brulee และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า profiterole นี่แหละครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:47:30

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้ว เอแคลร์ของแท้ของฝรั่งเศส กับเอแคลร์แบบไทยๆ มันต่างกันเรื่องหน้าตาอยู่นะครับ เพราะเอแคลร์บ้านเรา ที่ผมก็กินมาตั้งแต่เด็ก มันคือลูกกลมๆ เปลือกเป็นแป้งนิ่มๆ แล้วมีไส้ครีมวานิลาอยู่ข้างใน (นึกภาพง่ายสุดคือของ S&P ครับ) หรือบางที่ก็เอามาแต่งหน้า มีคอหงส์คอห่านด้วย ... เอ๊ะ คอห่านนี่ส้วมนี่หว่า งั้นคอหงส์อย่างเดียวก็ได้ แหะๆ (จะว่าไปเอแคลร์หงส์นี่ไม่ได้เห็นนานแล้วนะ จนมาเห็นร้านนึงในพารากอนขายอยู่ จำชื่อร้านไม่ได้เหมือนกัน) ซึ่งเอแคลร์ไทยแบบนี้ จริงๆมันคือสิ่งที่คนฝรั่งเศสเรียกว่า “ชูครีม” หรือ choux a la crème ครับ แบรนด์นึงที่หากินได้ง่ายในบ้านเราก็คือ beard papa นี่แหละ แบบเดียวกันครับ ส่วนในรูปนี้เป็นชูครีมของร้าน Sadaharu Aoki เชฟญี่ปุ่นที่ไปดังที่ปารีสก่อนจะมาเปิดร้านที่บ้านเกิดซะอีก จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:48:32

ความคิดเห็นที่ 5 แต่เอแคลร์ของฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม จะต้องเป็นทรงยาวครับ ไม่ได้มีกำหนดกฏหมายว่าต้องยาวเท่าไร เพราะทำได้หลายขนาด ตั้งแต่เล็กเท่านิ้วชี้ จนยาวคืบนึงก็เคยเห็น และมีการราด glaze บนหน้าเพื่อความสวยงาม ส่วนเรื่องไส้นั้น มาตรฐานก็คือครีมวานิลา แต่หลังจากนั้น ไส้เอแคลร์ก็มีการแตกแขนง เป็นไส้กาแฟ ไส้ช็อคโกแลต ไส้คาราเมล จนมาถึงยุคหลัง ที่ผมเริ่มได้เห็นเอแคลร์ไส้ใหม่ๆ อย่างเช่น ไส้ครีมพิสตาชิโอ และไส้ราสเบอรี่ อย่างในรูปข้างล่างนี้ เป็นเอแคลร์ของร้าน Maison du Chocolat ไส้คาราเมลครับ ร้านนี้มีสาขาหลายที่ในปารีสและเมืองใหญ่ๆในฝรั่งเศส ที่หากินได้ใกล้บ้านเราที่สุดคือที่ฮ่องกง ราคาอาจจะโหดหน่อยคือชิ้นละประมาณ 200 บาท แต่แพคเกจน่ารักมากครับ มีกล่องใส่เอแคลร์แยกชิ้นให้เลย (อ้อ... ร้านนี้ไอติมก็อร่อยมากครับ ไม่แน่ใจว่าสาขาฮ่องกงมีขายป่าวนะครับ) จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:50:07

ความคิดเห็นที่ 6 จะว่าไป ขนมอย่างเอแคลร์อยู่คู่บ้านคู่เมืองฝรั่งเศสมาเป็นร้อยปี โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนหน้าตา เหมือนกับขนมหวานบ้านเราอย่างทองหยิบทองหยอด ตอนเด็กกินยังไง ตอนนี้ก็กินอย่างนั้น จนกระทั่งเมื่อราวๆปี 2004 เกิดการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ของเอแคลร์ เมื่อ Fauchon แบรนด์ขนมและอาหารระดับหรูและเก่าแก่กว่า 150 ปีของปารีส จับเอแคลร์มาแต่งตัวใหม่ด้วยการสกรีนรูปลงบนแผ่นช็อคโกแลตโค้งแทนการราดเกลซ ซึ่งสิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุด คือเอแคลร์ลายโมนาลิซ่าครับ ซึ่งนอกจากลายโมนาลิซ่าแล้ว ก็ยังมีลายอื่นๆอีกรวมทั้งหมด 24 แบบหมุนเวียนกันไป (และหลังจากนั้นก็ยังมีลายใหม่ออกมาอีกนับไม่ถ้วน) แต่รู้สึกว่าตอนนี้ลายโมนาลิซ่าจะไม่มีขายแล้วนะครับ หลายครั้งล่าสุดที่ผมเดินเข้าไปดู เห็นแค่ลายอื่น ซึ่งปกติผมไม่ใช่แฟนของ Fauchon เท่าไร เพราะเป็นร้านที่ทำขนมหน้าตาสวยมาก แต่รสชาติออกไปทางกลางๆ แต่ถ้าใครไปเที่ยวปารีส แล้วจะซื้อขนมหรือชากาแฟเป็นของฝากกลับบ้าน แนะนำให้ไปที่ Fauchon (เมโทรสาย 8 สถานี Madeleine) รับรองว่าหมดตัวได้สบายๆครับ ขนมคุณภาพดี แพคเกจสวยหรูเหมาะแก่การเป็นของฝากมาก แต่ราคาก็โหดใช้ได้ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:51:48

ความคิดเห็นที่ 7 แถมอีกนิด... ปี 2008 Fauchon ยังทำเอแคลร์คอลเลกชั่นพิเศษ เพื่อเป็นการ tribute ในนักแสดงชาวฝรั่งเศส Brigitt Bardot อีกลายนึงครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:52:41

ความคิดเห็นที่ 8 Fauchon เป็นแบรนด์ฝรั่งเศส ที่เป็นที่นิยมของชาวเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นและเกาหลีครับ ลองไปเดินที่สาขายานแม่ที่ปารีส จะเห็นว่าลูกค้ากว่าครึ่งเป็นคนญี่ปุ่น Fauchon ก็เลยไปเปิดสาขาที่ญี่ปุ่นด้วยครับ แถมมีสินค้าหลากหลาย ของหลายอย่างที่ไม่มีขายที่ปารีสซะงั้น แต่ของที่ผมแนะนำให้ลองคือไอติมครับ เด็ดดวงไม่แพ้แบรนด์ดังๆอย่าง Haagen Dazs หรือ Movenpick เลยแหละ   (ผมเคยเจอ Singapore Airlines เสิร์ฟไอติมถ้วยรสวานิลลาของ Fauchon ในไฟลท์ที่ออกจากโตเกียวอยู่พักใหญ่เมื่อนานมาแล้ว ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวนี้สายการบินนี้ไม่มีรูทบิน BKK-NRT แล้ว ผมเลยไม่ได้ใช้บริการอีกเลย) จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:54:53

ความคิดเห็นที่ 9 กลับมาที่เอแคลร์กันต่อ ในช่วงเดียวกับที่สาขาปารีสมีเอแคลร์โมนาลิซ่า ทางสาขาโตเกียวก็มีเอแคลร์ The great Wave of Kanagawa ภาพวาดโคตรโด่งดังของศิลปินญี่ปุ่น “โฮคุไซ” ที่ขายเป็น limited edition ตอนที่ผมไปเป็นช่วงซากุระ ก็มีเอแคลร์ซากุระเป็น limited edition เหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดไส้เป็นราสเบอรี่ครับ รสชาติอร่อยดี แต่ไม่ได้ดีที่สุดตามสไตล์และมาตรฐานของ Fauchon นั่นแหละ และถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกว่าที่สาขาโตเกียวเค้าจะมีจัด Eclair Design Week ทุกปีนะครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:56:23

ความคิดเห็นที่ 10 และในช่วงฤดูร้อนก็เคยมีเอแคลร์มะม่วงด้วย ชิ้นนี้มีขายทั้งที่สาขาโตเกียวและปารีสครับ... (ผมว่าดีไม่ดี อาจจะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ไทยก็ได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป มะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ส่งออกมาที่ chinatown ในปารีสนี่ถึงจะราคาแพงโหดมหาโหด แต่ก็อร่อยมาก กินแล้วหายคิดถึงบ้านเลย จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:57:57

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ละรูป ลายสวยๆ ทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : Close To Heaven เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:58:36

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนนี้เอแคลร์ซากุระที่ขายช่วงฤดูใบไม้ผลิที่โตเกียวครับ น่ารักจนไม่กล้ากินเลยอ้ะ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:59:45

ความคิดเห็นที่ 13 จนถึงตอนนี้ Fauchon ก็ยังคิดเอแคลร์ใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ จนส่วนตัวของผม ถ้าพูดถึง Fauchon ผมจะนึกถึงขนมแค่สองอย่างเท่านั้น หนึ่งก็คือ Eclair ที่หน้าตาน่ารักทั้งหมดนี่แหละ และสองก็คือ Marron Glace (มารองกลาเซ่) หรือเกาลัดเชื่อมที่วางขายช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูหนาว ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของร้าน ราคาก็ไม่ใช่ถูก แต่ก็อดใจไม่ได้ต้องฝ่าอากาศหนาวไปซื้อมากินกับชาดีๆ มีความสุขมาก จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:02:21

ความคิดเห็นที่ 14 อีกเจ้านึงที่ผมชอบเอแคลร์มากๆ  คือร้าน Sadaharu Aoki ซึ่งเป็นเชฟญี่ปุ่นที่ไปดังที่ปารีส ก่อนจะมาเปิดร้านที่โตเกียวทีหลัง (ในขณะที่ Pierre Herme นี่กลับด้านกันเลย คือเป็นเชฟฝรั่งเศสที่ดังที่ญี่ปุ่น เปิดร้านที่โตเกียวก่อน แล้วค่อยมาเปิดร้านที่ปารีส) ร้านนี้จะเด่นมากเรื่องการใช้วัตถุดิบแบบญี่ปุ่น คือมีพวกชาเขียว งาดำ ส้มยูสุ บ๊วย วาซาบิมาผสมผสานในขนมด้วย เอแคลร์ที่โดดเด่นมากๆของ Aoki คือเอแคลร์งาดำครับ ที่ปารีส หาซื้อได้ที่ห้าง Gallerie Lafayette ตึกสินค้าผู้ชาย จะมีซุ้มของร้านนี้อยู่ในซุปเปอร์มาเก็ตชั้นสอง ราคาจะแพงกว่าสาขายานแม่ที่ถนน Vaurigard นิดหน่อยครับ (แต่สาขายานแม่อยู่ไกล ไปยาก อย่าไปเลย เสียเวลาเที่ยว...) จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:03:14

ความคิดเห็นที่ 15 ปิดท้ายกระทู้เอแคลร์ด้วย เอแคลร์จากฝีมือของ Pierre Herme หนึ่งในร้านโปรดของผม กับเอแคลร์ที่ชื่อ Gourmandise Constellation ที่ขายครั้งแรกช่วงฤดูร้อนปีที่แล้วเพื่อเป็นการฉลองที่ร้านสาขาใหญ่ของ Pierre Herme ที่ถนน Rue Bonaparte จะเปิดทำการตามปกติในช่วงฤดูร้อนเป็นปีแรก (เป็นปกติที่ช่วงเดือน กค-สค ร้านรวงในฝรั่งเศสจะเงียบมาก คนจะหยุดทำงานและไปเที่ยวกันหมด ซึ่งร้าน Pierre Herme ก็มักจะปิดเช่นเดียวกัน นักเรียนไทยส่วนใหญ่ก็กลับบ้านกันช่วงนี้  อดกินเลย) แต่ตอนนี้ขนมชิ้นนี้กลับมาขายแล้ว และท่าทางจะกลับมาขายเป็นคอลเลกชั่นถาวรด้วยครับ (เพื่อนๆที่ทำงานด้านขนมหวานยกให้ขนมชิ้นนี้เป็นหนึ่งในขนมที่ดีที่สุดของ PH ตั้งแต่เปิดร้านมาเลยด้วย) จริงๆแล้วหน้าตาของมัน ดูไม่ค่อยเหมือนเอแคลร์เท่าไรเนอะ ดูแล้วมันคล้ายพวกขนม Paris-Brest ซะมากกว่า แต่ทาง Pierre Herme จัดขนมชิ้นนี้อยู่ในหมวดของเอแคลร์เอง ในเมื่อผู้คิดค้นบอกว่าเป็นเอแคลร์ ผมก็ว่ามันเป็นเอแคลร์ครับ แหะๆ ตัวเปลือกด้านนอกมีอัลมอนด์อบจนกรอบ (Heavily roasted) และครีมด้านในเป็นครีมมาสคาโพน สตรอเบอรี่สด cardamom และแยมมาร์มาเลด ภาพนี้เอามาจาก official packshot ของ PH เลยครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:04:53

ความคิดเห็นที่ 16 นี่แหละครับ ฝีมือคนฝรั่งเศส ที่ดัดแปลงขนมเบสิคออกมาให้สวยงามได้ขนาดนี้ ทำให้ขนมอันแสนจะเรียบง่ายอยู่มาได้เป็นร้อยปี และยังไม่มีวี่แววว่าจะเสื่อมความนิยม ตอนต่อไป ผมจะพูดถึงขนมที่เพิ่งฮิตปรอทแตกในบ้านเรา ชนิดที่ตอนนี้ใครๆก็เริ่มรู้จัก นั่นคือ “มาการง” ครับ ขอบอกไว้ก่อนว่ามีอะไรแพรวพราวมากกว่าเอแคลร์เยอะเลยล่ะครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:06:09

ความคิดเห็นที่ 17 น่าทานมากค่ะ ถ้ามองผ่านๆจะไม่ทราบเลยนะคะว่าเป็นเอแคร์ ที่เมืองไทยมีแต่ทรงกลมๆซะเป็นส่วนมาก จนเข้าใจว่าเอแคร์จริงๆเป็นทรงกลมซะแล้วค่ะ จากคุณ : สวี๊ตParadiSe เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:16:24

ความคิดเห็นที่ 18 ลวดลายเยอะแบบนั้นน่าเก็บมากกว่าน่ากินนะ บ้านเราไม่มีหลากหลายแบบนี้แฮะ จากคุณ : Suisen เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:48:06

ความคิดเห็นที่ 19 น่าทานมาก ของโปรด จากคุณ : Whereabouts เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 23:39:54

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนนี้เกาหลีก็มีื fauchon ในห้างแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ไม่รู้เลยว่าเป็นร้านดัง เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะตามไปชิมนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPad (JangMinJi) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 23:45:20

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณที่ให้ความรู้คับ จากคุณ : nomask เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 00:10:07

ความคิดเห็นที่ 22 รอชมตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้เพิ่มเติมมากเลย จากคุณ : flowerkale เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 00:10:11

ความคิดเห็นที่ 23 (^^ ) จากคุณ : ว่านน้ำ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 00:12:44

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งเคยเห็นแบบมีลายนะคะนี่ น่าลองมากๆ จากคุณ : โบอิ้ง (Oshiri) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 02:39:16

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากค่ะ ที่เอามาแชร์กัน ต้องขอโทษที่กิ๊ฟ หมดแล้ว  แจกในใจกระจายเลยค่ะ จากคุณ : แม่น้องฝัน เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 07:16:54

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ จากคุณ : benz47 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 07:49:54

ความคิดเห็นที่ 27 คิดถึงแม่ครัวเอ็มจัง ไม่รู้ว่ากรณีขนมเค้กที่เลียนแบบ สืบสาวไปถึงไหนแล้ว อยากรู้ความจริงจังเลย จากคุณ : burenglong (burenglong) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 08:19:27

ความคิดเห็นที่ 28 สวยมากจนไม่กล้ากินเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะคะ จากคุณ : ชลันธร เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 08:25:58

ความคิดเห็นที่ 29 ลายสวยๆ น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ  ^ ^ จากคุณ : กาแฟแก้วเดิม เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 08:31:04

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะคะ ชอบมากๆ จากคุณ : NokJbz เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 08:51:01

ความคิดเห็นที่ 31 น่ากินมากกกกกกกกกกก สงสัยมานานแล้วว่าแอแคลร์กับชูครีมต่างกันยังไง วันนี้ได้ความรู้ละ fauchon เหมือนเคยเห็นตอนไปญี่ปุ่น แต่นึกไม่ออก =_=" สงสัยตอนไปญี่งวดหน้าจะต้องมานั่งลิสต์ร้านขนมซะแล้วววว เป็นประเทศที่ขนมฝรั่งเยอะจริงๆ ขอบคุณมากนะคะ<3 จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 09:48:30

ความคิดเห็นที่ 32 -ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้และเรื่องราวหวานๆ ลงชื่อติดตามค่ะ จากคุณ : Jarunya.b เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 11:01:32

ความคิดเห็นที่ 33 รอชมต่อนะครับ จากคุณ : via iPad (ท่าน้ำนนท์) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 11:17:41

ความคิดเห็นที่ 34 เห้นแล้วอยากกิน คงทำได้แค่ไปกินที่ เลอ โนต จากคุณ : Noopy&Wood เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 11:18:49

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณค่ะ สำหรับกระทู้ดีๆ  ต้นเดือนมาอีกนะคะ อยากแจกกีบ ชอบๆๆ จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 11:38:55

ความคิดเห็นที่ 36 จขกท ไม่ใช่แม่ครัวเอ็มปลอมตัวมาใช่เปล่าคะ แหะๆๆ จากคุณ : beermania เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 11:42:06

ความคิดเห็นที่ 37 ได้ความรู้มากเลยค่ะ คนที่ไม่ได้สนใจขนมตอนแรก แล้วรู้ประวัติที่มาที่ไปของขนมขนาดนี้ สุดยอดค่ะ ขอบคุณนะคะ กับความรู้ที่นำมาแชร์ค่ะ กิ๊ฟท์หมดค่ะ มอบ ให้แทนนะคะ โหวตกระทู้ให้ด้วยค่ะ จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 12:08:50

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบ เอแคลร์โมนาลิซ่า เก๋ดี น่าซื้อเป็นของฝากค่ะ จากคุณ : บูโกกิ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 12:48:30

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ จากคุณ : sexy kitty เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 12:53:39

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ จขกท. ที่นำความรู้ดีๆมาแบ่งปันนะคะ รูปเอแคร์สวยมากๆคะอยากเห็นของจริงและอยากชิมบ้างจังเลยคะ จากคุณ : Tummy@Kuwait เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 13:01:26

ความคิดเห็นที่ 41 สวยมากกกอ่ะ ไม่น่ากินเรยย น่าเก็บไว้ดูเล่น อิอิ จากคุณ : Tantawan2011 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 13:19:04

ความคิดเห็นที่ 42 นานๆๆๆๆๆๆทีจะเจอกระทู้ตัวอักษรยาวๆๆแบบมีความรู้ในห้องนี้ รออ่านครับ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 13:25:17 จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 13:23:08

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้วน้ำตาคลอ สวยงามเกินกว่าจะทานลง จากคุณ : himalayas เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 14:00:05

ความคิดเห็นที่ 44 รูปสวย ข้อมูลเยี่ยม เขียนได้ดีเลยคับ น่าจะรวบรวมทำเป็นหนังสือได้เลย มาต่อไว ๆ นะคับ จากคุณ : คนไม่มีดี เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 15:14:45

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบมากๆ ค่ะ เคยกินแต่ชูครีมอยากกินเอแคลร์ของจิงมั่งจัง มาการงเคยกินที่เขาใหญ่แต่ไม่อร่อยเลยค่ะ ซื้อมาพร้อมกับคาราเมลกรอบ(ที่ร้านเรียกอย่างนั้น) ซึ่งเจ้าคาราเมลกรอบเนี่ยอร่อยมากค่ะ อยากรู้ว่าจิงๆ แล้วมันเรียกว่าอะไรคะ จะรอติดตามตอนต่อๆ ไปค่ะ จากคุณ : Family of 4G เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 16:13:04

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านเพลินมากครับ (^_^)b เอแคลร์นี่ของโปรดเลยยย จากคุณ : blame me เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 16:29:00

ความคิดเห็นที่ 47 ทำเอาเพ้อเลยอ่ะ จากคุณ : ladynula เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 16:39:22

ความคิดเห็นที่ 48 ช่วงนี้มีแต่กระทู้ของหวานๆ ยวนตายวนใจ น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดด เลยค่ะ ^ ^  จากคุณ : ข้าวเหนียวปิ้งกับหมูกระป๋อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 16:48:20

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากๆ สำหรับความรู้ค่ะ รูปประกอบก็สวยมากๆ เพิ่งรู้จริงๆ ว่าเอแคลร์หน้าตาแบบนี้ ส่วนขนมของโปรดเราคือชูครีม (โง่มานาน 555) ถ้ามีเวลารบกวนมาโพสท์เรื่องขนมอื่นๆ อีกนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ กิ๊ฟหมดซะแล้ว ไม่งั้นเทหน้าตักให้เลย แต่โหวตให้แล้วนะคะ เก็บเข้าคลังกระทู้ด้วย ^^ แก้ไขข้อความ : ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ขอให้จขกท.ช่วยใส่คำอ่านภาษาไทยไว้ข้างหลังคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศสด้วยได้มั้ยคะ จะได้เรียกถูกค่ะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 16:56:48 จากคุณ : *~Treacle Tart~* เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 16:55:14

ความคิดเห็นที่ 50 สวยมากกกกกก ไม่กล้ากินเลยค่ะ บ้านเราน่าทำขนมผิงเคลือบช็อกนะ ท่าจะอร่อย จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 20:45:33

ความคิดเห็นที่ 51  หลายสัปดาห์ก่อน คุณพล ตัณฑเสถียร เธอก็ทำเอแคล์รูปทรงแบบนี้อ่ะคะ   เรายังคิดว่าจะทำการบ้านส่งคุณพลที่บล๊อกของคุณพล พอดีได้มาเห็นที่กระทู้นี้คะ   ถือเป็นความรู้ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ มีสาระนำมาบอกเล่าสู่กันฟังนะคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 21:02:38

ความคิดเห็นที่ 52 รอติดตามตอนต่อไปอยู่ค่ะ ชอบมากเลย :) จากคุณ : หลานไม้ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 22:00:02

ความคิดเห็นที่ 53 อูย อยากรู้จักเจ้าของกระทู้จังครับ พอดีกำลังศึกษาเรื่องขนมอย่างจริงจังอยู่อ้ะครับ ขอบอกว่าสุดยอดมากๆ ครับ ทั้งความรู้และภาพที่นำมาแบ่งปัน ขอคารวะ รับข้าน้อยเป็นศิษย์ด้วยครับ จากคุณ : jumjee เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 22:33:21

ความคิดเห็นที่ 54 Yeahhhh thx for yr essay kaaa!!!! จากคุณ : Ph big fan (vodca) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 22:48:11

ความคิดเห็นที่ 55 เจ้าของกระทู้เขียนอ่านเพลินดีจังค่ะ :) เพิ่งทราบนะคะเนี่ยว่าราคาเค้กของ Aoki สองสาขาไม่เท่ากัน o___O  แบบว่า..ไม่เคยสังเกตเลย ^ ^;; สมัยไปอยู่ปารีสปีแรกสุด โรงเรียนอยู่ใกล้สาขาแม่ตรง Vaugirard มาก (อารมณ์เดินห้านาทีถึง) เลยทานบ่อยหน่อย ร้านนี้ก็ฮิตดีเนอะค่ะ เห็นคนฝรั่งเศสไปกันเยอะเชียว แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่อ่ะค่ะ แอบรู้สึกว่ามัน..overestimated ไปหน่อย แฮะๆ โดยเฉพาะพวกรสงา เราว่าเขาทำส่วนผสมรสออกมาพิลึกๆ แปลกๆแบบไม่อร่อยไงไม่รู้อ่ะค่ะ ไม่เหมือน PH ที่ทำคอมบิเนชั่นรสแปลกๆออกมา ยังมีวินบ้าง (แต่เฟลบ้างก็มีนะ 555 << บั่บว่าไม่ได้เป็นแฟนฮาร์ดคอร์ของ PH ขนาดนั้น 555) ถ้าชอบมากาครงรสแบบญี่ปุ่นๆ ไม่ทราบเจ้าของกระทู้เคยลองชิมของ Toraya (ร้านขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เป็นสาขามาจากญี่ปุ่นเลยนั่นล่ะค่ะ) หรือยังเอ่ย? ถ้าจำไม่ผิดร้านอยู่แถวๆ rue Florentine เมโทร Concorde ค่ะ (ไม่ไกลจาก PH สาขา St. Honoré) มีไม่กี่รส แต่ในความเห็นเรา เราว่าทำออกมาอร่อยกว่า Sadaharu Aoki อีกอ่ะค่ะ   Éclair ของ Fauchon รสที่เคยทานแล้วชอบที่สุด คือ รส Earl Gray แต่หลายปีมากกกกมาแล้วอ่ะค่ะ ไม่เคยเห็นอีกเลย เสียดายจัง :(  ส่วนรสอื่นๆแอบเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เลยค่ะว่ามันกลางๆเนอะ ไม่อร่อยปรี๊ดแสงพุ่งขนาดนั้น ของร้านอื่นมีที่อร่อยกว่า แต่ Fauchon เขาก็ตกแต่งสวยหลอกล่อเราจริงๆ ยังไม่เคยลอง Gourmandise Constellation ของ PH เลย อร๊ายยย พลาดมาก หน้าร้อนปีที่แล้วเราก็ค้างเติ่งอยู่ปารีสแท้ๆ T_T พลาดๆๆๆๆๆๆ คลาดสายตาไปได้ไงเนี่ย ไว้มีโอกาสต้องลองบ้าง ดูด้วยตาจากรูป เปลือกด้านนอกแอบเหมือน Paris-Brest จริงๆเนอะคะ   ขอบคุณคุณเจ้าของกระทู้สำหรับข้อมูลมากค่ะ รออ่านกระทู้ถัดไปนะคะ จากคุณ : RUBIS เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 23:00:38

ความคิดเห็นที่ 56 สวยมากจนไม่กล้ากินจริงๆ พาติซิเย่ทีทำมืงต้องนิ่งขนาดไหนเนี่ย ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 23:29:06

ความคิดเห็นที่ 57 ขออนุญาตแปะ eclair รสกาแฟของร้านที่ปลื้มเป็นพิเศษนิดนะคะ Pâtisserie des rêve ค่า จากคุณ : RUBIS เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 23:38:10

ความคิดเห็นที่ 58 ฮืออ อร่อย TvT จากคุณ : RUBIS เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 23:39:03

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ ทั้งข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ จากคุณ : kittscake เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 03:18:33

ความคิดเห็นที่ 60 มิน่าล่ะ ก็ว่า ทำไมเอแคลร์ที่อังกฤษเป็นทรงยาว จากคุณ : production เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 05:27:19

ความคิดเห็นที่ 61 #55 คุณ RUBIS ผมเห็นด้วยครับว่า Aoki เป็นร้านที่ overrated ไปพอสมควรเลยครับ แต่สำหรับผมก็ยังนับว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ดีที่สุดในปารีสนะครับ แต่สิ่งที่น่ากลัวของ Aoki คือ มันเป็นร้านแบบ hit or miss น่ะครับ คือต้องเลือกดีๆ ชิ้นที่อร่อยก็จะอร่อยไปเลย แต่ชิ้นที่แย่ ก็จะแย่ไปเลยเหมือนกัน ชิ้นที่ดีมากๆของร้านนี้คือ Caramel Tarte กับมาการงบางรสครับ แต่ชิ้นแย่ๆ ไม่ขอพูดถึง เจอมาหลายชิ้น T____T แต่ร้านนี้ก็ต้องเข้าใจนิดนึงว่า วัตถุดิบที่เอามาใช้ มันค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับคนฝรั่งเศสครับ ซึ่งอย่างพวกมัทชะ มันต้องอาศัย acquired taste นะครับ ถึงจะชอบกัน ส่วนของ PH ถึงจะเป็นร้านโปรดผม แต่พวกรสประหลาดๆที่ออกมาใหม่ ก็เฟวเยอะจริงๆครับ (แบบปีที่แล้วมีมาการองรสแครอท หรือหน่อไม้ฝรั่ง ผมว่ามันแปลกเกิ๊นนนนนนนนนน) เดี๋ยวตอนหน้าพูดถึงมาการง คงได้พูดถึง PH และ Laduree เยอะกว่าตอนนี้ครับ ว่าแต่ PH มีสาขาที่ St.Honore แล้วเหรอครับ? เข้าใจว่าเป็นสาขาที่ Rue Cambon ถนนเล็กๆ เส้นเดียวกับ maison ของ Chanel ใช่มั้ยครับ? พอดีบ้านผมอยู่ฝั่ง Rive Gauche เลยไม่ได้ไปแถวนั้นบ่อยๆ แหะๆ ส่วน La Patisserie des Reves นี่ก้ออีกร้านโปรดของผมครับ แต่ไม่เคยกินเอแคลร์เลย ไปทีไรก็เสร็จ St. Honore กับ Tarte du Saison ตลอดเลย แหะๆ ปล. ถ้าคุณ RUBIS ชอบเอแคลร์ ต้องลองของ Jacque Genin แถวๆ republique ครับ ร้านนี้เป็นเทพของ patisserie แบบพื้นฐานทุกอย่างครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 08:12:00

ความคิดเห็นที่ 62 ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ เรื่องขนมเนี่ยต้องยกให้ทางเชฟขนมฝรั่งเศสจริงๆ  ปรานีตกันเหลือเกิน อาจจเป็นเพราะอย่างนี้คนญี่ปุ่นถึงได้ชอบ  เพราะความทุ่มเทในการรังสรรค์คล้ายๆกัน เสียดายที่ตอนนั้นพลาดขนมของ Maison กับ PH  (และไม่รู้จัก Fauchon ด้วยซ้ำ 5555) ได้ข้อมูลแบบนี้แล้ว คราวหน้าต้องลองให้ได้แน่ๆค่ะ  ^.^ จากคุณ : fm@co เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 11:13:10

ความคิดเห็นที่ 63 แล้วมาใหม่ไวๆ นะคะ รออยู่ จากคุณ : อุนจู เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 11:33:17

ความคิดเห็นที่ 64 โอ๊ย....หิว จากคุณ : NanaPhan เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 12:00:47

ความคิดเห็นที่ 65 นอนรอตอนต่อไป จากคุณ : ranmachan เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 12:33:57

ความคิดเห็นที่ 66 #20 ขอบคุณที่มาบอกข่าวครับ Fauchon ตอนนี้ขยายธุรกิจมาที่ middle east และ asia เยอะมากครับ ใกล้ๆบ้านเรา ตอนนี้มี boutique ที่สนามบินในฮ่องกงกับสิงคโปร์แล้วครับ แต่เน้นพวก packaged products ซื้อเป็นของฝากครับ #62 ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสเค้าเป็นประเทศที่เคารพและชื่นชอบวัฒนธรรมของกันและกัน (reciprocal cultural respect) เพราะคนญี่ปุ่นชอบวัฒนธรรมที่มี "ราก" ซึ่งวัฒนธรรมฝรั่งเศสก็ตอบโจทย์ได้ดีครับ ส่วนคนฝรั่งเศสเองเขาก็ชอบความประณีต ละเมียดละไมโดยเฉพาะวัฒนธรรมการกิน ซึ่งฝีมือการทำอาหารของคนญี่ปุ่นก็ตอบโจทย์นี้เช่นกันครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 13:16:02

ความคิดเห็นที่ 67 น่ากินที่สู้ดดด เลย รอ มาการง ...นะคะ จากคุณ : สิทธิ์ของหัวใจ เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 13:18:37

ความคิดเห็นที่ 68 ว้าว ข้อมูลน่าติดตามมากค่ะ ได้รู้จักเอแคลร์มากขึ้นเยอะเลยค่ะ หลงคิดว่า ชูครีม เป็นเอแคลร์แบบดั้งเดิมมานาน 5555 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จากคุณ : สิงโตแพนด้า เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 15:48:14

ความคิดเห็นที่ 69 PH ที่ St. Honoré หมายถึงที่ rue Cambon ล่ะค่ะ พอดีถนนมันตัดกันเลยเผลอเรียกว่าสาขานั้นทุกที ขออภัยที่เขียนไม่ชัดเจนค่า m__ __m Jacques Genin แวะไปทานอยู่เนืองๆค่ะเวลาไปเดินเล่น marais แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบของหวานของร้านนี้เท่าไหร่อ่ะค่ะ (แต่ทาร์ตมะนาวก็อร่อยดีนะคะ เปรี้ยวปรี๊ด 555) เข้าใจว่าเขาดังด้านชอคโกแลต แต่ส่วนตัว(อีกแล้ว)รู้สึกว่ารสชอคโกแลตเขาติดเปรี้ยวไปหน่อยน่ะค่ะ ถ้าชอคโกแลต ชอบรสออกสไตล์ J-P Hévin มากกว่าหน่อย (ร้านนี้มีชอคโกแลตสุดเก๋ที่ทำเป้นลายหน้าท้องซิคส์แพค ชอบซื้อไปฝากเพื่อนสาวค่ะ 555) pâtisserie des rêves นี่เลิฟฟฟฟฟฟมากเลยค่ะ ปกติถ้าเป็นทั่วๆไป จะไว้ใจ Ladurée ที่สุด แต่ถ้าเค้กอย่างเดียว ยกให้ที่นี่เลยค่ะ (แต่ Pâtisserie des rêves มันไม่ได้ทำ macaron นี่เนอะ) ร้านนี้ Paris-Brest กับ Grand Cru ก็อร่อย(มาก)ค่ะ เคยไปตอนร้านจะปิดไม่ค่อยมีไรเหลือ ได้ clafoutis กลับมาก็อร่อย ถ้าไปทานที่ tearoom ของเขาแถว passy (เอ..ถนนไรหว่า rue Longchamp มั้งนะคะ ถ้าจำไม่ผิด) จะมี atelier des choux มาเป็นเซตชูครีมสองลูกเลือกรสได้ ทานกับชาก็อร๊อยอร่อยค่ะ (พูดไปน้ำลายหกไป)   (เคยอ่านเจอแว่บๆในกระทู้พันทิป เหมือนมีคนไทยฝึกงานที่ร้านด้วย น่าตื่นเต้นเน้อออ) ร้านนี้เขาน่ารักดีนะคะ ทุกปีช่วงก่อนเปิดเทอม (ประมาณปลายกันยา) เขาจะจัดงานปิคนิคให้ไปทานเค้กฟรีด้วยอ่ะค่ะ (ประมาณว่าต้องไปลงชื่อก่อนในเฟซบุ้ค) ปีที่แล้วก็ลองไปดู จัดที่ hippodrome st. cloud (แอบไกลนิดนึง..) บรรยากาศดีมากๆ เหมือนนั่งปิคนิคชิวๆ แล้วทางร้านก็ให้ขนมมาคนล่ะสามอย่างได้ค่ะ แถมนั่งๆชิวๆอยู่ก็มีเด็กๆเอา chouquette ที่เพิ่งทำเสร็จมาเสิร์ฟ พอเลิกงานก็มีขนมห่อกลับบ้านให้ด้วย ทั้งหมดนี่ฟรีหมดเลยค่ะ ยังคุยกับเพื่อนๆที่ไปด้วยกันว่าร้านเขาจะคุ้มเหรอเนี่ย 5555 คุณ Le Vivier อยู่ rive gauche ก็มีร้านขนมทานเยอะนะคะเนี่ย Carl Marletti แถวเขตห้าก็อร่อยใช่ไหมคะ? ส่วนตัวเคยลองแค่ทาร์ตมะนาวที่ดังๆของเขา แต่ร้านค่อนข้างไกลบ้าน เลยไม่ค่อยได้ลองอย่างอื่นของเขาเท่าไหร่ ในรูปนี่ที่ร้านนั่งทานของ pâtisserie des rêves ค่ะ Paris-Brest กับ ชูครีม :D (สีส้มๆเป็นชาแตงโตกับเกรฟฟรุ้ต รสคาดไม่ถึงดีค่ะ 555) จากคุณ : RUBIS เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:25:59

ความคิดเห็นที่ 70 ลิ้นผมไม่ค่อยชอบ Tarte Citron เท่าไร แต่เพื่อนๆในวงการเขายกให้ Tarte Citron ของ Jacques Genin เป็นหนึ่งในที่สุดของปารีสเลยล่ะครับ เค้าเขียนหนังสือ cookbook ที่ทั้งเล่มพูดถึงแต่การทำ Tarte Citron อย่างเดียวเลยนะครับ สูตรเค้าเป๊ะในระดับตวงเป็นกรัม อบเป็นวินาที เพื่อ perfection ของการทำขนมชิ้นนี้จริงๆ Carl Marletti ไกลบ้านผมมากกกกกก จะไปก็แค่ตอนไปซื้อของที่ตลาด rue Mouffetard แต่ร้านนี้ของดีเยอะจริงๆ ถ้าพูดตรงนี้เดี๋ยวจะยาว ไม่จบแน่ๆ อิอิ แถว Rive Gauche ร้านขนมเยอะจริงๆครับ เกือบทุกร้านอยู่ในรัศมีเดิน 15 นาทีจากบ้าน La Patisserie des Reves นี่ก็ไปบ่อยเวลาไปซื้อของที่ epicerie ของ Bon Marche :) แต่บางทีก็เสร็จร้าน Hugo & Victor ซะก่อน (ร้านนี้ก็ของอร่อยอีกตรึมๆๆๆๆๆ) ผมยังไม่เคยไปกินที่ Salon de the ของร้านนี้เลย กว่าจะกลับปารีสอีกทีคงหลัง summer ไว้จะไปลองนะครับ :) เวลาคุยกับคนที่คอเดียวกันนี่สนุกจัง แค่คุยก็อยากจะกลับไปกินอีกแล้ว T____T จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 17:43:45

ความคิดเห็นที่ 71 . จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 17:48:01

ความคิดเห็นที่ 72 ส่วนตัวไม่ได้เป้นคนทำขนม ไม่ค่อยรู้เรื่องทางเทคนิคๆเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยเข้ามาในห้องก้นครัว แต่ถ้าเรื่องกินอย่างเดียวนี่สู้ตายค่า 555 ได้คุยกับคนชอบชิมสนุกดีเน้อ ตอนนี้กลับมาอยู่ไทยช่วยคราวก็แอบคิดถึงขนมที่นู้นเหมือนกันค่ะ T_T จริงๆหลายอย่างก็พอหาทานได้ แต่อยากทานพวก religieuse à la violette ไรงี้อ่ะค่ะ หาที่นี่ไม่ได้เน้อ Y_Y Hugo&Victor นี่เขาก็ดังเร็วดีนะคะ จำได้ว่าสักสามปีที่แล้วยังไม่ค่อยดังเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้มีเคาเตอร์ที่ printemps แล้ว ไม่เคยทาน salon de thé ของร้านนี้เหมือนกันค่ะ เลยแค่ขนมกรุบๆกริบๆไปเรื่อย พูดแล้วก็อยากลอง *q* tarte au citron นี่เข้าใจว่าฟิกาโร่ให้ของ Jacques Genin เป้นที่หนึ่งในปารีสนะคะ คุณ Le Vivier บรรยายซะทำเอาอยกลองชิมของอื่นๆในร้านเลยค่ะ จากคุณ : RUBIS เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 18:08:36

ความคิดเห็นที่ 73 ล.ป. กลับไปหน้าร้อนอย่าลืมทานไอศกรีมของ PH นะคะ ปกติส่วนตัวไม่ได้ปลื้ม PH เท่าสาวกของ PH (อิอิ) แต่ถ้าไอติมนี่ยอมมมมมค่ะ อร่อยมากกกกกแทบทุกรสเลย ชอบ miss gla gla รส ispahan สุดๆ Y_Y จากคุณ : RUBIS เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 18:11:46

ความคิดเห็นที่ 74   น่าทานมากครับ   จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 21:14:31

ความคิดเห็นที่ 75 สุดยอดเลยค่ะ เห็นแล้วความตะกละบังเกิด จากคุณ : a pinky pig เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 08:38:20

ความคิดเห็นที่ 76 น่าทานมากเลยคะ หิวๆ จากคุณ : armkaa เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 09:24:14

ความคิดเห็นที่ 77 ชอบทานขนมหวานเหมือนกัน ใครๆก็ว่าอาหารฝรั่งเศสอร่อย (แต่ส่วนตัวติดอาหารเอเชีย) ทานอาหารไม่หมด แต่ขอขนมหวานทุกครั้ง เลยน้ำหนักขึ้นไปพักนึง จากคุณ : YoleCk_TammY เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 12:14:54

ความคิดเห็นที่ 78 หู้ววว ดีใจ ที่มีคนใจดีที่มากความรู้และประสบการณ์มาเขียนเรื่องดีๆ น่าสนใจให้อ่านให้ห้องครัวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน มาบ่อยๆ นะคะ จะตามอ่านไปตลอดเลย ขอบคุณมากค่ะ ได้ทั้งความรู้ อาหารตา และแรงบันดาลใจกันเลยที่เดียวกระทู้นี้ จากคุณ : expat เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 16:17:12

ความคิดเห็นที่ 79 เห็นแล้วอยากไปปารีสอีกสักรอบ จะตามรอยขนมอร่อยแบบนี้ให้หมดเลยค่ะ จากคุณ : น้องเสือน้อย เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 19:30:30

ความคิดเห็นที่ 80 ตามมาชม แต่อดชิมด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : fatcoco เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 20:11:11

ความคิดเห็นที่ 81 เก็บเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 21:13:14

ความคิดเห็นที่ 82 แค่ดูก็อ้วนแล้ว 555 จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 21:45:55

ความคิดเห็นที่ 83 น่ารัก น่ามอง น่าชิมทุกชิ้นเลย ขอบคุณรีวิวแสนหวานชวนให้ฝันถึงขนมอร่อยๆค่า จากคุณ : ลาเต้แก้วหญ่ายๆ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 22:01:23

ความคิดเห็นที่ 84   ชอบกระทู้แบบนี้มากค่ะ   ขนมที่ดีต้องมองแล้วมีความสุข  ทานแล้วอร่อย ๆ  รอติดตามอีกนะคะ จากคุณ : Pecan เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 10:26:48

ความคิดเห็นที่ 85 น่าทานมากกกกกก แถมได้ความรู้ด้วย จากคุณ : Paksabuy เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:17:14

ความคิดเห็นที่ 86 คิดถึงขนมฝรั่งเศส ตอนอยู่ญี่ปุ่นครับ ^^" ยังไม่เคยได้มีโอกาสไปกินของต้นตำรับซะที แต่ตอนอยู่ญี่ปุ่นโซ้ยขนมสไตล์ฝรั่งเศสไปเยอะมาก อร่อยแทบทุกอย่างเลยครับ จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -" เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 14:31:53

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับผม ^^ จากคุณ : JO-Kung เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 09:54:45

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณคราบบบ จากคุณ : tstevy1a เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 10:42:47

ความคิดเห็นที่ 89 แวะเข้ามาอ่าน เข้ามาดูภาพ ถึงกับน้ำลายไหล ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆด้วยนะคะ น่ากินทุกอันเลย ฮ่า จากคุณ : Mosay เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:51:02

ความคิดเห็นที่ 90 ชอบกระทู้นี้มาก เราก็เป็นคนที่ชอบหาข้อมูลของขนม หรือของกินเหมือนกันค่ะ แต่ไม่มีโอกาสได้ไปกินที่ตปท.เท่าไหร่ เคยกินมาการงของปิแอร์แค่ครั้งเดียว ประทับใจมาก^^ ขนมญี่ปุ่นเราก็ชอบมากก ขอบคุณมากๆนะคะ ที่เอามาแชร์ เอามาเล่าให้ฟัง อยากมีโอกาสไปๆกลับๆแบบจขกท.บ้างจัง ชอบมากเลย เขียนสนุกค่ะ อ่านแล้วลื่นไหลดีไม่มีสะดุด คงเพราะเป็นเรื่องที่ชอบอยู่แล้วด้วย จะคอยติดตามตอนต่อไปนะคะ มาเร็วๆนะ :) จากคุณ : I forgive ,just not forget เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:30:55

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ น่าทานมากมาก จากคุณ : meadville เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 19:37:45

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณมากค่ะ  เพิ่งรู้ว่าเอแคลร์จริงๆ หน้าตามันเป็นเช่นนี้เอง... จากคุณ : deep lilac เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 21:40:54