ความคิดเห็นที่ 1 ตามกำหนดการนั้น ระหว่างรอชิมบ๊ะจ่าง และรอเดินทางไปวัดกาลหว่าร์ที่ตลาดน้อย ผู้เข้าร่วมกิจกรรม สามารถเดินชมงานศิลป์ ที่จัดแสดงอยู่ในหอศิลป์กรุงไทย บริเวณชั้น 1, 2 และ 3 ของธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช ซึ่งโดยส่วนตัวทราบดีว่า ในวันงานนั้น ตัวเองคงไม่มีเวลามาละเมียดละไมเก็บภาพงานศิลป์ ที่จัดแสดงไว้นับร้อยชิ้น และด้วยเวลาอันน้อยนิดในวันนั้น หลายคนคงไม่มีมีโอกาสได้ชมงานศิลป์กันอย่างทั่วถึง จึงเดินทางไปที่หอศิลป์กรุงไทย ถนนเยาวราช ก่อนวันงานสองวัน คือตอนเที่ยงของวันอังคารที่ 19-6-12 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 12:00:42 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:20:54

ความคิดเห็นที่ 2 แต่แวะปากซอยเยาวราช 23 หรือถนนเสริมสินค้า ซึ่งอยู่ด้านข้างของหอศิลป์กรุงไทย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:21:36

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อทานข้าวเที่ยง ที่ร้านข้าวหมูแดงนายโอว ซึ่งเก็บภาพไว้หลายครั้งแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:22:01

ความคิดเห็นที่ 4 หมูแดงและกุนเชียงที่แขวนห้อยอยู่ในตู้ไม้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:22:22

ความคิดเห็นที่ 5 "เต้าฮวยหนึ่งชาม" "แหม อาสามล้อเล่นอีกแล้ว ถังไม้ใส่ข้าวสวยค่ะ" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:22:52

ความคิดเห็นที่ 6 ร้านนี้ขายมาเข้าปีที่ 39 แล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:23:22

ความคิดเห็นที่ 7 หลายคนคงคุ้นๆกับขวดเหล้าเฮนเนสซี่ ใส่น้ำหมูแดงสำหรับราดข้าว ร้านแรกที่ทำแบบนี้เมื่อกว่าห้าสิบปีที่แล้ว คือร้านนายฮุยในโรงหนังนาครสนุก ซึ่งปัจจุบันลูกสาวเปิดขายอยู่ที่วังบูรพา "เที่ยวไปกินไป @ วังบูรพา" http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/07/D6760223/D6760223.html ร้านที่สองคือร้านข้าวหมูแดงนครสนุก ที่ปากตรอกสีดา ถนนหลวง วรจักร ซึ่งแตกออกมาจากร้านนายฮุย หลังการปิดตัวของโรงหนังนาครสนุก ร้านนายโอวมีความเกี่ยวข้องกับร้านข้าวหมูแดงนครสนุก โดยเป็นเพื่อนกัน และซื้อสูตรมาทำขาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:23:51

ความคิดเห็นที่ 8 สั่งข้าวหมูแดงธรรมดาจานละ 35 บาทสองจาน ใส่พริกชี้ฟ้าสด ไม่ราดซีอิ๊วดำ ไข่ต้มไม่เป็นยางมะตูมแบบร้านสีมรกต ตรอกสุกร 1 ร้านข้าวหมูแดงนายโอวหยุดวันอาทิตย์ เปิดขายตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 14:22:02 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:24:31

ความคิดเห็นที่ 9 อิ่มแล้วเดินเข้าธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอศิลป์กรุงไทย โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นล่าง ชั้นสองและเต็มชั้นสาม นิทรรศการจะเป็นแบบหมุนเวียน เปิดให้ชมฟรี วันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่ 8.30-16.00 น. ตัวอาคารเป็นอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งของถนนเยาวราช เดิมเป็นที่ตั้งของธนาคารเกษตร ซึ่งเหล็กดัดยังมีตราของธนาคารเกษตร ต่อมาเป็นสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทยในยุคแรก สำหรับระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน คืองาน"จินตลักษณ์งานช่าง รังสรรค์ศิลปกรรมประจำชาติครั้งที่ 2" เป็นนิทรรศการศิลปนิพนธ์ คณะศิลปประจำชาติ 2555 วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:24:58

ความคิดเห็นที่ 10 "กระบี่พระนารายณ์" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:25:26

ความคิดเห็นที่ 11 "กระบี่คช" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:25:48

ความคิดเห็นที่ 12 "เจอช้าง" ไม่ถ่ายด้านหลังมาให้ดู แต่จากกางเกงที่รูดลงของทศกรรฐ์ คงไม่ต้องบอกว่ากำลังทำอะไร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:26:13

ความคิดเห็นที่ 13 "เจอปลา" เหาะมาเจอปลาเกิดอารมณ์ ลูกออกมาหัวคงเป็นยักษ์ ส่วนตัวคงเป็นปลา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:26:42

ความคิดเห็นที่ 14 "ขัดแย้ง ๒" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:27:08

ความคิดเห็นที่ 15 "ขัดแย้ง ๓" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:27:30

ความคิดเห็นที่ 16 "ฟ้อนหมากกั๊บเกิ้บ ๒ และ ๓" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:27:54

ความคิดเห็นที่ 17 "จินตนาการสัตว์หิมพานต์สายพันธุ์ใหม่" การผสมพันธู์ฝืนหลักพันธุกรรมศาสตร์ ให้กำเนิดเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ ที่รวมตัวกันอยู่บนเขามอ รอบเขาพระสุเมรุ "สัตว์หิมพานต์ @ พระเมรุ 2" http://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M12192495/M12192495.html "เที่ยวไปกินไป @ สนามหลวง : พระเมรุและสัตว์หิมพานต์ 1" http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D12223804/D12223804.html จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:28:19

ความคิดเห็นที่ 18 ชั้นสองเป็นนิทรรศการภาพวาด ชั้นสามจัดแสดงศิลปกรรมและประติมากรรม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:28:36

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพลายรดน้ำ "ความสามัคคี ๑" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:28:57

ความคิดเห็นที่ 20 "ทานบารมี ๒" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:29:16

ความคิดเห็นที่ 21 "เรือพระ(บก)" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:29:37

ความคิดเห็นที่ 22 "เรือพระ(น้ำ)" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:30:15

ความคิดเห็นที่ 23 "แม่โพสพ ๑" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:30:36

ความคิดเห็นที่ 24 "เสมาเอก" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:30:57

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่มีรายละเอียด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:31:20

ความคิดเห็นที่ 26 "ประเลง" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:31:38

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีรายละเอียด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:32:02

ความคิดเห็นที่ 28 "สัตตภัณฑ์" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:32:21

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่มีรายละเอียด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:32:37

ความคิดเห็นที่ 30 "นารายณ์อวตาร" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:32:55

ความคิดเห็นที่ 31 เนื่องจากกิจกรรมจัดในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันซื้อบ๊ะจ่างเตรียมไว้ไหว้ในวันรุ่งขึ้น จึงไปรับบ๊ะจ่างที่สั่งไว้ที่ตลาดน้อย ลงรถที่ปากซอยเจริญกรุง 22 เดินลัดไปที่ตลาด ร้านนี้ทำแต่"กีจ่าง" ซึ่งเกิดจากการนำข้าวเหนียวไปแช่ในน้ำด่าง ที่ได้จากขี้เถ้าของเปลือกนุ่น หรือเปลือกทุเรียน นำมากรองให้ใส แล้วเอาข้าวเหนียวลงไปแช่ 3-4 วัน จนน้ำด่างซึมเข้าไปในเม็ดข้าวเหนียว ได้เป็นก้อนแป้งข้าวเหนียวสีเหลือง เสร็จแล้วนำไปล้างให้หมดความลื่น แห้งแล้วห่อด้วยใบไผ่ มัดและนำไปนึ่ง จัดเป็นบ๊ะจ่างแบบหวาน ดูภายนอกคล้ายข้าวต้มน้ำวุ้น แต่ข้าวต้มน้ำวุ้นใช้ข้าวเหนียวแช่น้ำธรรมดา ก่อนห่อด้วยใบตองแล้วนำไปต้มจนข้าวเหนียวสุก เป็นเครื่องน้ำแข็งไส แต่กีจ่างทานเปล่าๆหรือจิ้มน้ำตาลทราย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:33:27

ความคิดเห็นที่ 32 แฟนอยากทานที่ร้านเป็ดตุ๋นเจ้าท่า จึงเดินไปทางเอี่ยมละออ แต่ส่วนก๋วยเตี๋ยวเป็ดกำลังซ่อมร้าน มีแต่เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:33:51

ความคิดเห็นที่ 33 จึงเดินย้อนกลับไปทางตลาดน้อย ย่านตลาดน้อย เป็นย่านที่มีการทำบ๊ะจ่างขายกันมาก ช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง จะระดมคนมาห่อบ๊ะจ่าง เพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:34:20

ความคิดเห็นที่ 34 เดินมาถึงปากซอยดวงตะวัน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าตลาดน้อย 11.50 น.ร้านโจ๊กเด็กเจ๊มะลิยังไม่เก็บร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:34:47

ความคิดเห็นที่ 35 โจ๊กยังไม่หมด จึงสั่งแบบใส่ไข่หนึ่งชาม นั่งที่โต๊ะเก้าอี้เตี้ยๆแบบให้เด็กนั่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:35:09

ความคิดเห็นที่ 36 เริ่มจากตอกไข่ลวกใส่ชาม ตามด้วยโจ๊กข้นร้อนๆ ราดด้วยหมูสับต้มซีอิ๊ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:35:38

ความคิดเห็นที่ 37 โรยหน้าด้วยปาท่องโก๋แบบกรอบบด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:36:03

ความคิดเห็นที่ 38 หอมซอยและขิงซอย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:36:25

ความคิดเห็นที่ 39 ไข่ลวกสุกกำลังดี น้ำซีอิ๊วต้มหมูสับหอม ชามใหญ่ใส่ไข่สำหรับผู้ใหญ่ ชามละ 25 บาท ไม่ใส่ไข่ 20 บาท ถ้าเป็นชามเล็กสำหรับเด็ก ซึ่งจะแวะทานตอนเช้าก่อนเข้าโรงเรียน ชามละ 10 บาท ใส่ไข่ 15 บาท ร้านโจ๊กเด็กเจ๊มะลิขายมาสิบกว่าปี เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงเที่ยง เป็นอาหารที่หาทานยาก ในย่านไชน่าทาวน์เยาวราช พบร้านโจ๊กเด็กหรือโจ๊กเกลือแค่สามร้าน คือ ที่ตลาดน้อย ตรอกสุกร 1 ฝั่งวัดไตรมิตร(หยุดขายเพราะป่วย) และ"อ่วกคกฮั่ง" หรือตรอกอิสรานุภาพ ซอยเจริญกรุง 21 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:00:44 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:36:49

ความคิดเห็นที่ 40 จากร้านโจ๊กเด็กข้ามซอยวานิช 2 ไปเข้าตลาด(คุณนาย)น้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:37:13

ความคิดเห็นที่ 41 แวะรับบ๊ะจ่างที่สั่งไว้ที่ร้านเจ๊วัชรี ราคาขึ้นจากปกติ 40-45 เป็น 50 บาท ทุกปีสั่งพี่สาวเจ๊ปุ๊ แต่ปีนี้ไม่ขาย เพราะเจ็บมือทำไม่ไหว จึงพลาดโอกาสทำเงิน ร้านกุยช่ายเจ๊น้อยที่อยู่ติดกัน ช่วงนี้หันมาทำบ๊ะจ่างขายเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 55 15:40:07 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:37:38

ความคิดเห็นที่ 42 ซื้อทุเรียนหมอนทองจากจันทบุรีหนึ่งลูก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:40:33

ความคิดเห็นที่ 43 ทานข้าวเที่ยงที่ร้านก๋วยจั๊บน้ำใสตลาดน้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:40:54

ความคิดเห็นที่ 44 วันนี้สั่งเป็นเส้นหมี่แทนแผ่นก๋วยจั๊บทั้งสองคน ชามละ 35 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:41:22

ความคิดเห็นที่ 45 ต่อด้วยเส้นหมี่แห้ง ซื้อเกาเหลาซึ่งใส่เลือดหมูด้วยกลับบ้านสองชุด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:41:47

ความคิดเห็นที่ 46 วันศุกร์ที่ 22-6-12 8.15 น.ถึงหอศิลป์กรุงไทย มีเวลา 15 นาทีก่อนถึงเวลานัด ให้แฟนรอ ส่วนตัวเองเดินไปย่านจักรวรรดิ์ เพื่อซื้อดอกอัญชันแห้งให้เพื่อนที่มาจากอเมริกา และมาเดินวันนี้ด้วย ได้มาหนึ่งห่อครึ่งกิโล แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:08:09 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:42:10

ความคิดเห็นที่ 47 กลับมาถึงหอศิลป์ 8.30 น. ให้แฟนลงทะเบียนแทน ไม่ได้เช็คว่าใครมาจากห้องก้นครัวบ้าง แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:08:54 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:42:32

ความคิดเห็นที่ 48 บริเวณงานมีกระดานแสดงตำนานบ๊ะจ่าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:43:00

ความคิดเห็นที่ 49 ตำนานบ๊ะจ่างจากเอกสารที่แจกหลังลงทะเบียน คำว่า"บ๊ะจ่าง"เป็นคำภาษาฮกเกี้ยน การแข่งเรือมังกร(ไม่มีในประเทศไทย) ยังสื่อความหมายถึงการที่ชาวบ้าน แจวเรืออย่างเร่งรีบ เพื่อหาศพของชวีหยวน ก่อนที่สัตว์น้ำจะทำลายศพของชวีหยวน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:43:26

ความคิดเห็นที่ 50 วัสดุที่ใช้ห่อบ๊ะจ่าง ใบไผ่จีนและเชือกปอ ปัจจุบันหาบ๊ะจ่างที่มัดด้วยเชือกปอยาก เนื่องจากเชือกปอหาซื้อยาก มีราคาแพง และต้องใช้เวลาในการเตรียมเชือกก่อนมัด มัดแล้วนำไปนึ่งหรือต้ม แต่ปัจจุบันนิยมนึ่ง เนื่องจากง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า และเก็บได้นานกว่าแบบต้ม แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:12:49 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:43:53

ความคิดเห็นที่ 51 มีหนุ่มสุรเชษฐ์ ฤกษ์รัตน์ ผู้สืบสานการทำขนมจากตระกูล"ซิ้ม" กำลังเตรียมซึ้งไม้ไผ่สำหรับนึ่งบ๊ะจ่าง ซึ้งแบบนี้ หาซื้อได้ที่ข้างวัดไตรมิตร และมีหลายขนาด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:44:14

ความคิดเห็นที่ 52 วันนี้มีบ๊ะจ่างจากสามท้องถิ่นของจีนมาให้ชมและชิมสามแบบ ขาดแต่บ๊ะจ่างแบบจีนแคะ เริ่มจากบ๊ะจ่างแบบแต้จิ๋ว ห่อด้วยใบไผ่เป็นทรงปิระมิดฐานสามเหลี่ยม ฝีมือหนุ่มสุรเชษฐ์ มัดด้วยเชือกปอ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:44:47

ความคิดเห็นที่ 53 บ๊ะจ่างแบบกวางตุ้ง เป็นทรงสามเหลี่ยมสี่ด้าน มีขนาดใหญ่ที่สุด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:45:11

ความคิดเห็นที่ 54 บ๊ะจ่างแบบไหหลำ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบน แตกต่างจากอีกสองแบบที่ห่อด้วยใบไผ่ แต่แบบไหหลำห่อด้วยใบมะพร้าว เพราะภูมิประเทศของไหหลำเป็นเกาะ มีต้นมะพร้าวมากกว่าต้นไผ่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:45:46

ความคิดเห็นที่ 55 บ๊ะจ่างจากจีน ในบรรจุภัณฑ์สวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:46:19

ความคิดเห็นที่ 56 จัดการนึ่งบ๊ะจ่างทั้งสามแบบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:46:44

ความคิดเห็นที่ 57 ระหว่างรอการนึ่งบ๊ะจ่าง แยกย้ายกันเดินชมนิทรรศการศิลป์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:47:08

ความคิดเห็นที่ 58 9.00 น.บ๊ะจ่างร้อนได้ที่ เริ่มหั่นบ๊ะจ่างแบบกวางตุ้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:47:29

ความคิดเห็นที่ 59 หนึ่งลูกหั่นให้ได้ชิมประมาณ 14 ชิ้นเล็ก เตรียมมา 25 ลูก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:47:52

ความคิดเห็นที่ 60 ต้องช่วยกันหั่น จะได้ชิมกันร้อนๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:48:21

ความคิดเห็นที่ 61 เริ่มเห็นความแตกต่างของไส้บ๊ะจ่าง แบบกวางตุ้งใส่ถั่วเขียวซีกนึ่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:48:46

ความคิดเห็นที่ 62 บ๊ะจ่างทรงสามเหลี่ยมแบบแต้จิ๋ว ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย เพราะคนจีนในไทยส่วนใหญ่ เป็นคนแต้จิ๋ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:49:13

ความคิดเห็นที่ 63 บ๊ะจ่างแบบแต้จิ๋วจะเน้นไส้เต็มลูก สมัยก่อนจะใส่เม็ดบัว ต่อมาแปะก๊วยราคาถูกลง จึงหันมาใส่แปะก๊วย เพราะเม็ดบัวเตรียมยากกว่าจะนิ่ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:49:35

ความคิดเห็นที่ 64 บ๊ะจ่างแบบไหหลำเน้นข้าวเหนียวมากกว่าไส้ กลิ่นหอมของใบมะพร้าว ซึมแทรกเข้าเนื้อข้าวเหนียวนุ่มๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:50:05

ความคิดเห็นที่ 65 9.14 น.กล่าวต้อนรับและเปิดงาน โดย คุณภิเศก โพธิ์นคร อดีตผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายเสริมสร้างทุนทางปัญญา และกิจกรรมเพื่อสังคม ผู้ริเริ่มให้มีการก่อตั้งหอศิลป์กรุงไทย และส่งเสริมให้ใช้สถานที่ ในการจัดนิทรรศการทางวัฒนธรรม เช่น การรื้อฟื้นจัดพิธีชุกฮวยฮึ้ง การเขียนอักษรจีนด้วยพู่กันจีน การตัดกระดาษสีแบบจีน เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:20:38 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:50:30

ความคิดเห็นที่ 66 หนึ่งในผู้ให้ความรู้ในวันนี้ คุณสมชัย กวางทองพาณิชย์ ผู้รู้เรื่องวัฒนธรรมจีน ประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเขตสัมพันธวงศ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:50:59

ความคิดเห็นที่ 67 9.24 น.เริ่มการชิมบ๊ะจ่าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:51:22

ความคิดเห็นที่ 68 จุดประสงค์ของการชิม ไม่ได้ให้เพื่ออิ่มหรือเอากลับบ้าน แต่เพื่อให้รู้ถึงความแตกกต่างของรสชาติ ของบ๊ะจ่างแต่ละชนิด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:51:52

ความคิดเห็นที่ 69 มีสมาชิกห้องก้นครัว ชี้ให้ดูพระพิฆเนศแห่งความสำเร็จของแต่ละอาชีพ ซึ่งมีหลายปาง แต่ปางนี้เหมาะกับห้องก้นครัว เพราะพระพิฆเนศใส่หมวกพ่อครัว พระกรทั้งสี่ถืออุปกรณ์การทำอาหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:52:19

ความคิดเห็นที่ 70 เพิ่งรู้นะคะว่าบ๊ะจ่างมีหลายแบบ -*- ปกติทานอย่างเดียว อิอิ แต่ข้าวหมูแดงน่าทานง่ะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:52:32

ความคิดเห็นที่ 71 เห็นโจ๊กเด็กแบบนี้แล้วคิดถึงชมัดเลยครับอาสาม จากคุณ : ดาวคนอง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:52:35

ความคิดเห็นที่ 72 ลุ๊งลิ๊ง ...ต้องลองหามาชิมแล้วครับ ดาวคนอง...เห็นโจ๊กเด็กหรือโจ๊กเกลือแล้ว คิดถึงตอนเป็นเด็ก ตั้งร้านเล็กๆ มีโจ๊กหนึ่งหม้อ ใส่ซีอิ๊วเล็กน้อย โรยเกลือ ใส่ปลาท่องโก๋บด หอมอร่อย .................................................................................................. จากหอศิลป์เดินทางไปวัดกาลหว่าร์ โดยทางหอศิลป์ฯจัดรถตู้ไปส่ง แต่เนื่องจากไม่คาดว่าคนจะมาร่วมกว่า 80 คน จึงจ้างทั้งแท็กซี่และสามล้อไปส่ง แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 55 18:18:29 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:52:43

ความคิดเห็นที่ 73 ประวัติของวัดกาลหว่าร์ที่ทางหอศิลป์ฯแจก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:53:11

ความคิดเห็นที่ 74 เกิดปัญหาเมื่อเจ้าอาวาสไม่อยู่บรรยายประวัติ ต้องรอตามเจ้าหน้าที่อื่น ซึ่งถ้าไม่มาก็คงเดินชมกันเอง บังเอิญว่าวันนี้ทางวัดเปิดห้องเก็บพระตาย ซึ่งปกติไม่เปิดให้ชม เพราะมีอายุกว่าสองร้อยปี ก็เลยจำเป็นต้องบรรยายเอง ในส่วนของพระตาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:53:34

ความคิดเห็นที่ 75 พ.ศ.2310 ครั้งเมื่อกรุงศรีอยุธาแตก ชาวโปรตุเกสอพยพหนีพม่ามายังกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งตั้งมั่นอยู่ฝั่งทิศตะวันตก ของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ย่านกุฎีจีน และสร้างโบสถ์ซางตาครู้ส อีกส่วนตั้งมั่นอยู่ทางทิศตะวันออก และสร้างค่ายแม่พระลูกประคำ ต่อมารัชกาลที่ 1 ประทานที่ให้สร้างวัดกาลหว่าร์ ชาวโปรตุเกสส่วนนี้ ได้นำรูปศักดิ์สิทธิ์จากอยุธยามาด้วยสองรูป หนึ่งคือรูปพระตาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:54:00

ความคิดเห็นที่ 76 ซึ่งเป็นรูปไม้แกะสลัก ตอนพระเยซูถูกตรึงกางเขน ที่เนินเขากาลวาริโอ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด แต่คนจีนเรียกเพี้ยนเป็น"กาลหว่าร์" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:54:21

ความคิดเห็นที่ 77 อีกหนึ่งคือรูปพระแม่ลูกประคำ สูงสี่ฟุตแกะสลักจากไม้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:54:56

ความคิดเห็นที่ 78 ถึงตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ของโบสถ์มาช่วยอธิบายประวัติของทางวัด รวมถึงความรู้เรื่องสิ่งประดับต่างๆภายในโบสถ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:55:22

ความคิดเห็นที่ 79 คุณศศิลิยา ประเสิรฐศรีสุข เป็นหนึ่งในนักร้องเสียงโซปราโน่ ของวงประสานเสียงโรซารีโอ(Rosario Choir/ไทย) ของวัดกาลหว่าร์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:58:23

ความคิดเห็นที่ 80 ***ได้ความรู้มั่กๆเลยคร่ะ คุณอาสามlaser*** จากคุณ : ไม่สวยแต่อร่อย (Deny_reny69) เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:58:28

ความคิดเห็นที่ 81 Deny_reny69...ปีนี้ทานบ๊ะจ่างไปกี่ลูกครับ ........................................................................... ความหมายของตัวหนังสือจีน บนซุ้มโค้งเหนือพระแท่น "แม่พระแห่งลูกประคำ ช่วยวิงวอนเทอญ" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 15:59:37

ความคิดเห็นที่ 82 ภาพแกะสลักประจำเสา จำไม่ได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:00:02

ความคิดเห็นที่ 83 สองข้างกำแพงโบสถ์ มีส่วนบรรจุอัฐิ ของบาทหลวงของวัดกาลหว่าร์ในอดีต บางท่านอยู่ระหว่างยื่นขอยกย่องเป็นนักบุญ(Saint) จากสำนักวาติกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:00:29

ความคิดเห็นที่ 84 ก่อนเดินทางต่อไปบ้านโซวเฮงไถ่ มอบภาพถ่ายวัดกาลหว่าร์ให้กับตัวแทนของทางวัด เป็นฝีมือของกลุ่มถ่ายภาพ ชื่อว่า fotolizm  เป็นกลุ่มน้องๆที่ถ่ายภาพระดับเซียน ที่บันทึกเรื่องราวเยาวราชกันมาเป็นปีๆ แต่ละภาพสวยงามมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:00:55

ความคิดเห็นที่ 85 เดินรั้งท้ายบรรยายเรื่องของตรอกโรงเกือก และศาลเจ้าฮ้อนหว่อง จึงไปถึงบ้านโซวเฮงไถ่หลังสุด ปรากฏว่าข้าวต้มมัดและสาคูไส้หมู ฝีมือคุณนายดวงตะวันหมดแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:01:18

ความคิดเห็นที่ 86 ประวัติบ้านโซวเฮงไถ่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:01:44

ความคิดเห็นที่ 87 หนังสือครัวบ้านแม่ของคุณนายดวงตะวันจัดพิมพ์เสร็จแล้ว เล่มละ 290 บาท คุณนายเซ็นชื่อในหนังสือให้กับผู้ที่ซื้อหนังสือ แฟนซื้อมา 1 เล่ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:02:11

ความคิดเห็นที่ 88 วันนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้พบกับสมาชิกห้องก้นครัว ซึ่งทำงานอยู่ที่นี่ด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:02:38