ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่า จขกท กำลังนอยซ์ครับ หลังจากโดนเพื่อนๆบางคนไม่เห็นด้วยและอาจจะมีคำแนะนำบางคำอาจจะทำให้ไม่สบายใจไปบ้าง ลองหลังไมค์ไปหาพี่วัฒน์ OVER EAT ดูมั๊ยครับ??? พี่เค้าเคยให้สูตรไว้ ผมเอาไปทำตาม มันก็อร่อยดีนะครับ ส่วนเรื่องร้าน ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ มันไกลมากผมไม่มีโอกาสไปชิม แต่ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ ... สู้..สู้ ..นะครับ ^^ จากคุณ : เชฟกะทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 01:47:59

ความคิดเห็นที่ 2 ที่บ้านผมใช้เกลือแบบเป็นมัดๆแถวๆอ่ะคับซองเล็กๆ แล้วก็เรื่องกระดูกใส่มากไขมาก น้ำจะมันนะครับ ที่บ้านเลยใช้เศษเนื้อต้มน้ำซุปครับ ใส่เกลือ น้ำตาลกรวด รสดีเนื้อเล็กน้อย แล้วพวกอบเชย โปยกั๊กอะไรเทือกนั้นครับ เศษเนื้อนี่ใช้มาตลอดเลยร่วม 20 ปีละ ป.ล.ที่บ้านขายแต่น้ำใสนะฮะ เนื้อตุ๋นผมก็ใช้เศษเนื้อที่ต้มแล้วประมาณ 4 ชม.มาตุ๋นต่ออีกประมาณชม.ครึ่ง :) จากคุณ : เขียนบน iPhone (พลอยคือผู้ชาย) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 01:55:56

ความคิดเห็นที่ 3 เบื่อกระทู้คุณมากๆแล้วนะ วนเวียนพูดแต่ตัวเองอยู่ได้ เดี๋ยวก็อร่อยที่สุดในโลก คุยโปรโมทร้านอยู่ได้ มาอีกที่ อร่อยที่2ของโลก อีกที่ไม่อร่อยที่สุด โน้นนี่ โน้นนี่ พอที่เฮ่อ รกบอร์ด จากคุณ : Nutsawan เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 03:34:51

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องอื่นไม่ถนัดแต่หากเป็นลูกชิิ้นต้องของแดงค่ะ. อร่อยไม่แพง รู้สึกเนื้อจะ130มั้งคะ ล่าสุดซื้อที่ตลาดนนท์แต่เห็นแถวบ้านสั่งเยอะเขาจะมาส่ง ลองตาในอากู๋ดู จากคุณ : กิสโม่ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 03:46:16

ความคิดเห็นที่ 5 จขกท.น่าจะลอง "ปิดปรับปรุง" ร้านสักสัปดาห์นึงแล้วปรับสูตรให้มันคงที่ ก่อนที่จะเปิดขายอีกครั้งไม่ดีหรือครับ ถ้ายังเปิดเรื่อยๆแบบนี้ลูกค้าที่มากินวันแรกๆก้คงจะไม่กลับมาแล้ว(เพราะอ่านกระทู้แล้วดูเหมือนว่าสูตรจะล้มเหลวเอามากๆ) แถมอาจจะปากต่อปากไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ กว่าสูตรจะลงตัวร้านคงหมดเครดิตไปซะก่อนล่ะมั้งครับ (แต่อันที่จริงก็น่าจะจัดสูตรที่ลงตัวได้แล้วถึงจะเปิดร้านไม่ใช่หรือครับเนี่ย...) แต่บอกเลยนะครับว่าเห้นใจมาก ถ้า จขกท.เปิดร้านอยู่ภูเก็ตผมจะลางานสักอาทิตย์นึงไปช่วยจขกท.ทุกวันเลยอ่ะ(ไม่ได้พูดเล่นนะเนี่ย) จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 06:49:06

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นกำลังใจให้ จขกท.ครับ.. จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 08:31:04

ความคิดเห็นที่ 7 ลองหาน้ำส้มข้าวเหนียวหมัก  ดูนะคะ ร้านทีใช้น้ำส้มนี้คือร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตรงข้าม   ธนาคารกสิกรไทย ตรงซอยรางน้ำ   ตอนเราตุ๋นเนื้อจะใช้เนื้อสามชั้นตุ๋นค่ะ แบบพอน้ำกว๋ยเตี๋ยวเดือด   เราก็หรี่ไฟเป็นกลาง  เกลือเราใช้เกลือห่อเล็กๆที่ขายตามร้านทั่วไป จากคุณ : ไก่อเมริกา เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 08:36:35

ความคิดเห็นที่ 8 1.ใช้เกลือแกงชนิดไม่เสริมไอโอดีน ยี่ห้ออะไรก็เหมือนกัน   ผมซื้อมาใช้ที่บ้าน ใช้เกลือเม็ด ไม่มียี่ห้อ แถวๆสมุทรสาคร   ไม่ได้เปิดร้านขายอาหารหรอกครับ แต่ชอบทำทานเองที่บ้าน   วันหยุดสุดสัปดาห์ทำนี่ทำนั่นทานประจำ 2.เส้นหมี่เท่าที่เคยใช้ก็มี"ไวไว" กับตรา"สิงห์ดาว" ก็ใช้ได้   เส้นเล็กกับเส้นใหญ่ซื้อตามตลาดสดก็ดูเอา ว่าใส่แป้งมันมากไหม   ใส่แป้งมันมากไม่อร่อยมันจะใสๆ เส้นดีๆต้องขาวขุ่น 3.ลูกชิ้น..อันนี้บอกยากที่อร่อยก็แพง แนะนำให้ทำเองดีที่สุด   งงครับ รสชาติดีราคาไม่โหดร้าย กับ รสชาติดี ราคาไม่เกี่ยง?   ของถูกและดี หายากครับ ทางที่ดีตีลูกชิ้นเองเลย ไม่ยาก 4.การเจียวกระเทียม ใช้กระเทียมไทยกลีบเล็ก ส่วนน้ำมันก็น้ำมันปาล์ม   หรือน้ำมันถั่วเหลือง ยี่ห้ออะไรก็ได้ มันสำคัญที่กระเทียม 5.กระดูกที่ใช้ต้มน้ำซุปก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ   พอน้ำงวดลงทำให้ตักลำบากก็เอาออก..อันนี้ต่อเนื่องไปที่ข้อ6 ใช้กระดูกเยอะ   หลังจากน้ำซุปได้ที่ดีแล้วก็ตักออกสิครับ ไม่ลองซุปก้อนสำเร็จดู?(รสเนื้อ)   จะลดเวลาการเคี่ยวน้ำซุปลงไปได้มาก จาก6ชั่วโมง เหลือแค่2ชั่วโมง   (ซุปก้อนครึ่งหนึ่ง กระดูกครึ่งหนึ่ง) 6.ความจริงการเคี่ยวน้ำซุปใส่กระดูกแล้วใส่น้ำแค่พอท่วมกระดูกเท่านั้น   แล้วใส่เครื่องเทศ(แล้วแต่สูตร) เคี่ยวด้วยไฟอ่อน-ปานกลาง 6-8 ชั่วโมง   เนื้อที่จะทำเนื้อตุ๋นก็ต้มพร้อมน้ำซุปเลย เนื้อเปื่อยได้ที่ก็ตักขึ้นพักไว้   พอหายร้อนก็หั่นเป็นชิ้นๆ 7.น้ำส้มใช้น้ำส้มสายชูกลั่น5% แบบทั่วๆไป คั่วพริกขี้หนูด้วยไฟแรงๆ   ให้ผิวออกไหม้นิดๆประปราย แล้วนำมาบด ใส่น้ำส้มสายชู+เกลือป่น รูปที่ฝากให้ดู...น้ำใสนะ แบบนี้สำหรับทำก๋วยเตี๋ยว ส่วนเกาเหลาน้ำจะออกข้นๆ หนืดๆ กว่านี้นิดหนึ่ง ลองเอาเอ็นลงไปตุ๋นในน้ำซุป น้ำซุปจะออกข้นๆหนืดๆ คล้ายๆกระเพาะปลาน้ำแดง แต่ไม่หนืดเท่า หรือไม่ก็ละลายแป้งข้าวโพดใส่ลงไป ค่อยๆใส่ อย่าใส่มากจนเป็นกระเพาะปลาไปล่ะ เจ้าของกระทู้น่าลองมาทานเนื้อตุ๋นเอกมัยดูครับ ร้านวัฒนาฯ สุขุมวิท63 *สูตรของคุณวัฒน์(ชายกาง) ก็ใช้ได้ อ่านกระทู้ของคุณมาหลายกระทู้แล้ว ผมว่าคุณเริ่มต้นใหม่ดีกว่า ล้มแล้วรีบลุก ล้มอีกก็ลุกขึ้นมาใหม่ เริ่มต้นด้วยการตระเวณชิม ลิ้มรสชาติของเจ้าดังๆ แล้วมาทำให้ได้รสชาติใกล้เคียงที่สุด คุณเองก็มีพื้นฐานอยู่แล้ว ไม่น่ายาก ให้มันรู้ไป ว่าพยายามเต็มที่ เต็มกำลังแล้ว มันต้องสำเร็จ อย่าเร่งรัด ค่อยๆเรียนรู้ พยามยามไป เมื่อถึงเวลาที่มันจะสำเร็จละก็...เพียงชั่วข้ามคืนมันก็สำเร็จ หลังจากที่เพียรพยายามมานานนับเป็นปีๆ จากคุณ : tanapol1962 เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 11:15:20

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นร้านก๊วยเตี๋ยวเนื้อแถวบ้านนอกจากใส่กระดูกต้มน้ำซุปแล้ว เค้ายังเอาเนื้อน่องลายแบบเป็นดุ้นๆใส่ไปต้มด้วย พอเนื้อเริ่มสุกไม่ถึงกะเปื่อยยุ่ย เค้าก็จะตักมาหั่นเป็นชิ้นๆสำหรับเนื้อตุ๋น แล้วก็เอาเนื้อที่หั่นนั่น ไปตุ๋นต่อใน หม้อทองเหลืองตังหากอ่ะค่ะ ส่วนอีกร้านเป็นเตี๋ยวเนื้อรถเข็น อร่อยมากกกกก เราเห็นในน้ำซุปเค้ามีสัปปะรดผ่าครึ่งผลต้มอยู่ด้วยค่ะ อาจจะช่วยให้ซุปกลมกล่อม และเนื้อนุ่มขึ้นมั้งคะ จากคุณ : Uni_Maki เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 14:02:16

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมค่ะ จากรูปเราดูแล้วน้ำซุปคุณไม่น่าทานเลย มันดูมีเศษไขมัน เศษอะรัย ไขๆมันๆล่องลอย ดูไม่ใสไม่น่าซดอ่ะค่ะ จากคุณ : Uni_Maki เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 14:04:48

ความคิดเห็นที่ 11 ติดตามเงียบๆ ตั้งแต่ก่อนเปิดร้านเมื่อปี สองปีก่อน จนทุกวันนี้คุณยังหาสิ่งที่ลงตัว ให้ก๋วยเตี๋ยวคุณไม่ได้เลย     แต่คุณก็เข้ามาถามหามันเป็นพักๆ มีคำถามว่า...สิ่งที่คุณได้ไปจากพี่ๆ เพื่อนๆในนี้ คุณได้นำมันไปลองใช้แล้วรึยัง แล้วคุณฝึกฝนมันดีพอแล้วหรือไม่ คุณควรที่จะพัฒนา สูตรของคุณให้ลงตัวก่อน แล้วค่อยกลับมาเปิดร้านใหม่อีกที         อีกซักอาทิตย์กว่าๆจะไประยอง ไว้จะแวะไปลองทาน แต่เราเชื่ออย่างนึงว่าถ้าคน ทำยังไม่อร่อยกับสิ่งที่ตัวเองทำ คนอื่นก็กินแล้วไม่อร่อยหรอกค่ะ จากคุณ : earthlight_004 เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 15:33:08

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบได้เฉพาะเส้นก๋วยเตี๋ยว เพราะว่าที่บ้านขายอยู่ บางเจ้า ยี่ห้อเดียวกัน บางวันดี บางวันไม่ดี ขึ้นอยู่กับข้าวเป็นข้าวใหม่ หรือข้าวเก่า ถ้าได้ข้าวใหม่มาทำ ก็เละหน่อย เวลาลวกก็ต้องลวกให้เร็ว แต่ถ้าเป็นข้าวเก่า ก็จะเหนียวนุ่ม ก็ลวกนานหน่อยได้ เห็นดังๆ อยู่ตอนนี้ก็มีจากบ้านโป่งราชบุรี ที่ขึ้นชื่อ แต่ส่วนมากก็เป็นร้านแถวละแวกใกล้เคียงทั้งนั้นล่ะครับ แนะนำว่า ถ้าได้เส้นมา ลองลวกดูก่อนครับ ว่าต้องใช้เวลาขนาดไหน ถึงจะพอดี พูดถึงเส้นหมี่ จะมีทั้ง 2 แบบ แบบที่แห้ง ที่อบ มา ต้องมาแช่น้ำเอง หรือแบบที่เป็นเส้นหมี่สด ที่เค้าแช่น้ำมาแล้ว พร้อมลวก ส่วนยี่ห้อขึ้นอยู่ความชอบครับ ผมว่าไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าแบบแห้งก็เก็บเป็นอะไหล่ได้ ถ้าเส้นหมด แบ่งเอามาแช่น้ำ ขายประทังไปได้ครับ ที่ได้มาแข็งน่าจะเป็นเส้นหมี่สด คงตากลมไม่ก็เป็นของค้างที่เก็บไว้ในตู้เย็น เอามาแช่น้ำซะหน่อย แล้วลองลวกดูครับอย่างที่บอก จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 15:42:31

ความคิดเห็นที่ 13 นี่เอาลุกค้าเป็นหนูทดลองสูตรรายวันเลยหรือนี่  กล้ามาก ถ้าร้านอยู่ระยอง  เร็วๆนี้ได้แวะไปชิมแน่ๆค่ะ เห็นคุณเปิดกระทู้ถามวนเวียนไปมาเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยวเนื้อมานานมากแล้ว ยังหาสูตรที่ลงตัวไม่ได้เหรอค่ะ  นี่คุณเก่งอยู่แล้ว  มาลองภูมิคนในห้องก้นครัว หรือคุณไม่รู้อะไรเลยจริงๆ  ถ้าไม่รู้อะไร  จนป่านนี้ก็น่าจะเรียนรู้อะไรได้เยอะๆไปแล้ว  แต่ถ้าคุณเก่งแล้วมาลองภูมิคตนในนี้  จะทำไปเพื่อ ?   ... ตอนแรกก็ว่าจะไม่เม้นต์แล้ว  แต่เห็นคุณตั้งกระทู้ในอ่าง  วนไปวนมา   เฮ้อ..เหนื่อยแทน แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 55 16:09:32 จากคุณ : StigmatA เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 16:08:57

ความคิดเห็นที่ 14 วันนี้เนื้อน่ากินค่ะ แต่น้ำซุปไม่น่ากินอ่ะ จากคุณ : beermania เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 17:35:03

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบอบคุณที่แนะนำและตอบคำถามและคำแนะนำนะครับ ผมขอตอบคุณ  Nutsawan   ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่เคยใช้คำว่าอร่อยที่สุดในโลกเลยนะครับ กับเกาเหลาที่ผมทำ ส่วนคำว่า อร่อยที่สองของโลกนั้นจริงๆผมอยากเลิกใช้แล้วครับ แต่ว่าผมมีป้ายเก่าของพี่สาวอยู่ ก็เลยเอามาใช้ เพื่อประหยัดงบการทำป้าย ร้านผมเองจะใช้คำว่า อร่อยโครตๆอย่างเดียวแทน ซึ่งมันอาจจะดูเว่อๆไปนิด แต่คิดให้ดีดี หลายร้านก็มีคำหลายคำแทน และสื่อความหมายว่า ร้านของเค๊าอร่อย เช่น โอชา -เลิศรส -รสเด็ด อะไรประมาณนี้ ตัวผมไม่อยากใช้คำพวกนั้นเลยคิดคำใหม่ว่าอร่อยโคตรๆ มันก็แค่นั้นเองครับไม่มีอะไรมาก ส่วนที่ว่าผมต้องการมาโปรโมทร้าน เดี่ยวที่สุดในโลกที่สองในโลก อะไรแบบนี้ เห็นไหมครับ กระทู้นี้ ผมจะพยามไม่พูดและเล่าเรื่องร้านสักเท่าไหร่เลย เพราะว่า ต้องการให้เป็นกระทู้สำหรับการถามตอบสิ่งที่ผมอยากรู้ และคนอืนๆที่อยากรู้เหมือนกันกับผม ตั้งแต่ข้อ 1-7  ถ้าบังเอิญอยากรู้ตรงกัน เข้ามากระทู้นี้ก็จะได้ความรู้ไปด้วย   และผมก็ไม่ได้โปรโมทร้านใดใดเลย ลองถามเพื่อนในห้องก้นครัวดูซิครับ ผมเลยหลังไมค์ไปบอกใครบ้างว่าร้านผมอยู่ที่ไหน  มีหลายหลังไมค์ ตั้งแต่สมัยเมื่อก่อนสองปีที่แล้วก็หลังไมค์มาถาม ผมก็ไม่ได้บอกใครไปเลยครับ กระทู้สำหรับคำถามต่างๆที่ผมสงสัย ผมขอบอกว่า ผมขอยังที่จะตั้งกระทู้ถามต่อไป ถ้าผมคิดว่า ท่านผู้รู้ในห้องนี้ช่วยผมได้ไมได้รู้และตอบได้ทุกข้อ ตอบได้แค่บางข้อ ก็ถือว่า ขอบคุณมากแล้วครับ ส่วนที่ผมจะงดก็คือ เข้ามาบอกกล่าวมาพูดมาคุย  ว่าวันนี้ขายเป็นยังไง และลูกค้าบ่นอะไร  อะไรต่างๆแบบนี้  จะพยามไม่บอกไม่พูดและเอ่ยถึง  ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่คิดว่า จะมีคนไม่พอใจ เอามากๆอย่างคุณ  Nutsawan  และอีกหลายๆคนที่เบื่อ ผมขอโทษอีกครั้งนะ  แต่กระทู้นี้อ่านให้ดีดี ผมไม่ได้พูดคุยอะไรมากนักเลย เน้นคำถามสิ่งที่ผมอยากรู้  หลายคนอาจจะมองว่า เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็ยังมาถาม ก็ผมไม่รู้ไงครับผมเลยมาถาม อย่างเช่นเรื่องเกลือเนี่ย เพราะมีกระทู้ก่อน บอกว่า ยังไงก็อย่าใช้เกลือปรุงทิพย์ ผมก็เลยเกิดข้อสงสัย และอยากรู้เกลือที่สามารถทำอาหารได้อร่อย ก็เลยเป็นที่มาของ หนึ่งคำถาม และอย่างเส้นก๋วยเตี๋ยว ผมก็ยังหาเส้นที่ดีดีมาใช้ยังไม่ได้ ถ้าผมไม่ถามผมก็ไม่รู้ เพราะใน google บางครั้ง ก็ไม่มีให้อ่านในสิ่งที่อยากรู้   หลายวันก่อนผมจะตั้งคำถามเกี่ยวกับการต้มไข่ ให้เป็นยางมะตูมก่อนที่จะโพสถามอะไร ผมจะลองหาใน google ดูก่อน ซึ่งใน google ก็มีคำตอบที่ผมอ่านแล้ว อืม คงไม่ต้องไปถามต่อแล้ว  ผมก็ไม่ได้ตั้งกระทู้ถาม แต่ถ้าข้อสงสัยไหน ผมหาใน google แล้วเกิดข้อสงสัยในคำตอบ หรือบางเวป ตอบไม่เหมือนกัน ผมก็เลยอาจจะเข้ามาถามในห้องก้นครัวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ส่วนที่บอกว่า รกบอร์ดนั้น อ่านแล้วก็ปวดใจขึ้นมาทันที - -' เห้อ ก็คนไม่รู้ครับก็เลยถาม  ถึงบางสิ่งอาจจะรู้พอประมาณแล้ว  แต่อยากรู้ให้จริง และรู้ให้ลึกลงไป ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกนะครับ  คือว่า อาชีพผมตอนนี้คือ การทำอาหารขาย ผมว่าก็ไม่น่าผืดอะไรที่ผมจะขวานขวายหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 20:59:03

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่อยากซ้ำเติมเลย แต่ไม่มีสูตรตายตัวเลย ประเภทกะๆเอานี่นิดนี่หน่อยแบบที่คุณทำผมว่าจะไม่รอดเอานา บางวันก็พอดี อีกวันเค็ม อีกวันจืด เรียกว่าลูกค้าไม่รู้นะโดนวันไหน หยุดปรับปรุงสูตรให้มันเป๊ะกว่านี่เูถอะครับ สงสารลูกค้าบ้างนะไม่ใช่สักแต่ว่าจะขายๆอย่างเดียว จากคุณ : nukkid เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 21:08:49

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบ คห 4 ครับ   คือว่าของแดงเนี่ยหมายถึงยี่ห้อแดงเหรอครับ แถวที่ผมอยู่ไม่เห็นเลยครับ ยังไงเดี๋ยวจะลองไปถามแม่ค้าดูพรุ่งนี้นะครับ ^^ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 21:56:12

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบ คห 5 ครับ คือว่า ผมคิดนะครับว่าจะปิืดปรับปรุงเหมือนกัน  และจริงๆแล้วสูตรและความอร่อย ก็ควรที่จะลงตัวก่อนเปิืดขาย  อืมใช่เลยครับ  คือยังไงดีหละ ก็มั่นใจในตัวเองมากไปไงครับ คิดว่าต้องอร่อยแน่นอน ก็เลยกำหนดวันที่จะขาย เพราะทุกอย่างลงตัว เพราะไม่ได้ห่วงเรื่องความอร่อยเลย เพราะคิดว่าตัวเองชัว แต่ตรงกันข้าม  วันแรกที่ทำ ต้องใช้คำว่า ไม่มีความอร่อยเลยแม้แต่น้อย วันแรกที่ตั้งใจจะเปิดก็เลยไม่ได้เปิดครับ  และทีนี้ก็ไม่รู้จะทำไงดี เพราะลงทุนเนื้อไปแล้ว แต่ก็ลองทำน้ำซุปใหม่อีกรอบ  วันที่รสชาติดีขึ้น ก็เลย ตัดสินใจขายครับ รสชาติดีขึ้นไม่ได้หมายถึงว่าอร่อยนะครับ แต่ว่า ก็พอกินได้   ก็เลยเป็นที่มาของการติดสติ๊กเกอร์คำว่าไม่อร่อยไงครับ  และป้ายร้าน ที่เขียนคำว่า อร่อยที่สองของโลก ผมก็หาคำว่าล้านมาิติดให้เป็น ที่สองล้านของโลกแทนแล้ว แต่ว่า มันรกไป ก็เลยเอาออกดีกว่า   คือว่า ตอนนี้ร้านผมรสชาติก็ถือว่า พอกินได้เหมือนร้านข้างทางทั่วไปครับ พอขายได้ แต่มันแย่ตรงๆที่ว่า โฆษณาในป้ายมัน อร๊อยอร่อย มากเกินไป มันจึงทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจ  ครั้งจะเอาป้ายออกเลยและหา้ป้ายใหม่ นั่นก็คือ ต้องใช้เงินทุนเพิ่มครับ ตอนนี้งบน้อยครับ บอกกันตรงๆ  ใจจริงผมไม่อยากใช้เล๊ยครับ ณ เวลานี้ ทั้งสองคำำนั่นแหละ   อ่านความเห็นของคุณก็มานั่งคิดสักพักว่าอืมก็น่าจะเข้าทีเหมือนกัน ปิดและมาลองสูตร ให้ ok ก่อนแล้วค่อยไปขาย  แต่ก็มาคิดๆอีกรอบว่า ณ ตอนนี้ งบผมน้อยจริงๆ ถ้าผมหยุดและต้องซื้อเนื้อ มาทำเหมือนทำขายนั้น  ใช้ทุนเยอะมากครับ และกว่าจะลงตัว  ณ ตอนนี้ผมไม่มีทุนที่จะทำแบบนั้นครับ  ผมเลยใช้วิธี ทำและปรับๆสูตรเอา และได้ขายเอาทุนเพื่อซื้อเนื้อชุดใหม่ในวันต่อไปครับ ซึ่งที่ผ่านมาก็ถือว่า พอไปได้ครับ ก็เลยคงต้องขายไปปรับสูตรไป  เพราะทุนผมน้อยจริงๆ จริงๆไม่อยากพูดอะไรแบบนี้ยาวนะครับ  เดี๋ยวมีคนว่าผมอีก แต่ว่า ผมต้องการอธิบายและพูดคุย  ใครไม่ชอบใจ ผมขอโทษด้วยละกันนะครับ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 22:09:25

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบ คห 6 7 8 9 ครับ ขอขอบคุณมากครับ คำตอบของคุณๆเป็นประโยชน์กับผมยิ่งนักครับ  ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 22:31:15

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบ คห 10 ครับ จากรูปนั้น ที่ลอยๆอยู่ ส่วนนึงคือ กระเทียมสดปั่นที่ใส่ไปในน้ำซุปครับ และบางส่วนเป็นกระเทียมเจียว  ที่ผมใส่ไปด้วย ก่อนถ่ายครับ ตอนถ่ายก็จับไปจับมาหนุนไปหมุนมา  สังเกตุได้จากตรงกลางของเนื้อนั่้นแหละครับกระเทียมเจียวสีออกขาวๆ เพราะมันโดนผมคนไปคนมา จนเปื่อยหมดละ  หามุม แฮะๆ ส่วนมันก้อาจจะมีบ้างเพราะกว่าจะถ่ายได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกันครับ  ถ่ายหลายรูป จะเอาไปอัดเพื่อ ติดไว้ที่ร้านหนะครับ ยังหารูปสวยๆไม่ได้เลย ก็เลยถ่ายทุกวัน เผื่อวันไหนเข้ามุมแสงดีมุมได้ ออกมาสวยจะได้ส่งร้านไปอัดรูปครับ ^^ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 22:40:05

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบ คห 11 ครับ คือว่าถ้าจะให้พูดกันตรงๆนั้น และผมก็เคยพูดไหลายครั้งแล้วว่าผมยังไม่เก่งครับ และผมก็ถามๆๆ มันก็หลายเรื่องครับ  และก็ได้นำความรู้่ไปใช้บ้างแล้ว ในบางเรื่องเป็นข้อสงสัยใหม่ผมก็เลยเข้ามาถามใหม่ แต่เช่นในเรื่องลูกชิ้น ผมเคยถามไปแล้ว แต่ผมก็มาถามใหม่เพราะผมยังไมไ่ด้ลูกชิ้นที่ผม OK ผมก็เลยมาถามอีกหนึ่งข้อในเรื่องของลูกชิ้น ส่วนเรื่องเส้นผมก็ต้องถาม  เพราะว่าร้านผมเส้นยังไม่ลงตัว อะไรประมาณนี้ครับ  ส่วนเรื่องแค่น้ำมันจะเจียวกระเทียมนั้น  กับเรื่องแค่นี้ก็ต้องมาถาม ใช่ครับถ้าผมจะไม่ใส่ใจ เพราะน้ำมันอะไรก็เจียวกระเทียมได้เหมือนกัน ทั้งน้ำมันหมู ปลาม และน้ำมันถั่วเหลือง  แต่ว่าเร็วๆนี้ผมได้คุยกับเพืื่อนคนนึงสมัยเรียนม ปลาย มันแนะนำว่าให้ใช้ น้ำมันปาล์มในการทำน้ำพริกเผา เพราะมันจะไม่เหม็นหืน   แต่พอผมเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนอีกคน กลับบอกว่าน้ำมันปาล์มไม่ดี ผมก็เลยสับสน ก็เลยเป็นที่มาของการตั้งคำถามนี่ไงหละครับ  คือว่าผมอยากรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยพวกนี้ด้วยหนะครับ  ซึ่งก็นะ ผมยังไม่เก่ง และมีความรู้ ก็เลยต้องถามจากผู้รู้ไงครับ  ส่วนเรืองสูตรนั้น  ตอนนี้ก็ยอมรับว่าัยังไม่ลงตัวครับ ยังต้องใส่ๆชิมๆ คิดๆ ชิมๆใส่ๆอยู่แบบนี้อยู่ครับช่วงนี้   แต่มันก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำได้ ณ ตอนนี้ เพราะยิ่งถ้าทำเอง ชิมเอง และให้แค่คนรู้จักชิม ผมว่าก็ยิ่งจะลงตัวได้ช้าลงครับ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 22:53:04

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ คห 12  และตอบ 13 -14 ครับ คือว่าสรุปเลยนะครับว่า ผมไม่ค่อยรู้อะไรเลยสักเท่าไหร่ครับถึงบางครั้งอาจจะรู้ แต่ว่าไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เคยรู้จะจริงหรือเปล่า ก็เลยต้องหาคำตอบให้แน่ใจครับ และที่บอกว่าเอาลูกค้าเป็นหนูลองสูตรนั้น  ก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะครับ แต่รสชาติตอนนี้ก็ พอกินได้มากกว่าวันแรกพอสมควรแล้วครับ น่าจะพอที่จะขายได้ แต่แค่ยังไม่อร่อยมากมายเท่านั้น ผมก็ต้องใช้วิธีทำและปรับไปเรื่อยๆเหมือนที่ผมอธิบายไว้นั่นแหละครับ แล้วคุณหละ จะเข้ามาชิมวันไหน จะเป็นวันที่ เค็ม หรือจืด หรือหวาน ^^ ล้อเล่นนะครับ :D จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 23:12:28

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คห 14 วันหน้าจะปรับปรุงใหม่ครับ ให้ทั้งน้ำซุปและเนื้อน่ากินครับ และจะปรับให้เวลากินจริงๆแล้วอร่อยด้วยครับ แ่ต่ตอนนี้  ต้องใช้คำว่า พอกินได้ไปก่อน ^_^ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 23:14:24

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ คห 16 ครับ ครับๆจะพยามปรับสูตรให้เร็วที่สุดครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 55 23:41:17 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 55 23:22:41 จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 23:20:16

ความคิดเห็นที่ 25 เทคนิค การทำเนื้อเปื่อย ถ้าเสิตดูใน กูเกิ้ล มีมากมาย กาำรทำให้อร่อย ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะ ถ้าเลือกวัตถุดิบที่สด และคุณภาพดี  เนื้อก็มีคุณสมบัติที่หอม และอร่อยอยู่แล้ว ปรุงอีกนิด ก็ใช้ได้  จริงๆถ้าจะเปิดร้านขาย ควรทดลองทำสูตรที่ ลองแล้วว่าอร่อยและหัดทำจนฝีมืออยู่ตัว แล้วค่อยเปิดร้าน ไม่ใช่ ขายไป ทดลองไป ขาดความมั่นใจ แบบนี้   ลูกค้า มากินแล้วไม่อร่อย  ปากต่อปาก อีกหน่อย  ลูกค้าหายหมด ลองดูน่ะค่ะ  ขอให้ขายดีค่ะ http://www.google.co.th/search?hl=th&cp=7&gs_id=3s&xhr=t&q=%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_qf.,cf.osb&biw=998&bih=599&um=1&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw&ei=XLf9T8O2D5C0rAe11sHcBg สูตรคุณ พ่อครัวเถื่อน ขั้นตอนละเอียด http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/01/D6249422/D6249422.html แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 55 00:59:53 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 00:44:11

ความคิดเห็นที่ 26 แวะมาบอกว่า วันนี้ ขออ่านเฉยๆ   โน คอมเมนท์... จากคุณ : Jitara เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 02:31:15

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวค่ะ เห็นแม่ปรุงแบบทุกวันคือ เวลาจะต้มน้ำซุปอ่ะ ใส่น้ำตาลกรวดลงไปด้วย คนอร์ด้วย รากผักชี กระเทียมพริกไทย ตำด้วยกันแล้วห่อด้วยผ้าขาว ซีอิ๊วขาว แล้วก็กระดูกหมู แต่แม่ก็ไม่ได้ใส่ซะจนเต็มหม้อแบบคุณนะคะ แม่ใช้ลูกชิ้นเนื้อของ "แชมป์" อ่ะคะ...เราว่าก็อร่อยดีนะ... แต่ที่สำคัญคือ ลูกชิ้นเจ้านี้เค้าจะมีคนส่งให้ละ แล้วเค้าก็มีน้ำซุปให้ด้วยถุงใหญ่ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องมาเติมน้ำเปล่าแล้วก็ปรุงส่วนผสมด้านบนลงไปอีก ไม่รู้ว่าเราเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่านะ...แต่ก็ลองดูนะคะ ปล.เห็นตั้งกระทู้มาหลายทู้แล้ว เราว่าปิดปรับปรุงสูตรก่อนแบบที่ท่านบนๆบอกก็ดีนะคะ...ถ้าขืนปล่อยไปแบบนี้มีแต่เสียกับเสียอ่ะ เราว่า จากคุณ : คำสารภาพครั้งล่าสุด เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 04:05:51

ความคิดเห็นที่ 28 อย่้าคิดว่า อะไรว่าดี ว่าอร่อย เยอะเข้าไว้ มันก็อร่อย เราว่าคุณปิดร้านก่อนนะ แล้วทดลองสูตรใหม่ทั้งหมดเลย คราวนี้ใช้การชั่งตวงวัดมาประกอบการทำก๋วยเตี๋ยวด้วย ทำทีละน้อย ใส่อะไรเท่าไร แล้วจดไว้ ทำตารางเลยได้ยิ่งดี แล้วชิม (หาคนมาชิมด้วย ไม่ใช่ชิมเองคนเดียว เพื่อน ครอบครัว ใครก็ได้ที่สนิทและจริงใจ) ชามนี้ขาดอะไร หรืออะไรมากไป ปรับ แก้ จนได้สูตรที่ลงตัวให้ได้แล้วค่อยเปิดร้านใหม่เถอะค่ะ ลองเปิดร้านไป โดยที่รสชาติยังสามวันดีสี่วันไข้ วันนี้เค็ม พรุ่งนี้จืด อีกวันเปรี้ยว เนื้อแข็ง เนื้อนุ่ม ต้องปรับกันทุกวันแบบมากๆ แบบนี้ เราว่าไม่ไหวนะ จริงอยู่ที่วัตถุดิบแต่ละวัน เช่น เนื้อ หรือ เส้น อาจจะไม่มาตรฐานเดียวกันเป๊ะๆ แต่ขอเป็นให้รสน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวคุณมาตรฐานก่อนเหอะ อย่างน้อยเนื้อเหนียวไป เส้นแข็งไป ลูกชิ้นไม่เด้งเท่าวันก่อน ซดน้ำซุป ฮ่า อร่อย เหมือนทุกวัน มันยังเอาลูกค้าอยู่กว่าที่จะต้องลุ้นว่า วันนี้ีรสก๋วยเตี๋ยวทั้งชามจะออกมาเป็นอย่างไรนะ อ่านกระทู้คุณมา บอกตรงๆ ถ้าเป็นเราทำแล้วเป็นแบบนี้ เรากลัวลูกค้าหายนะ สุดท้ายมันจะไปไม่รอด ส่วนวัตถุดิบที่ไหนอร่อย อะไรยังไง มีคนแนะนำให้ถามคุณชายกาง อันนี้เราเห็นด้่วยอย่างยิ่ง ลองหลังไมค์ไปนะคะ จากคุณ : Zerbirus เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 10:30:46

ความคิดเห็นที่ 29 และก็ ที่ว่าไม่มีทุนจะซื้อทุกอย่างมาเหมือนทำขาย คุณลองลดอัตราส่วนในการทำลงสิคะ ทำหม้อเล็กๆ แบบสัก สามสี่ชาม ต่อหม้อ แล้วจดส่วนผสมทั้งหมดด้วยการ ชั่ง ตวง วัด ที่มาตรฐาน ถ้ามันมาตรฐาน พอขยายสูตรมาเป็นหม้อใหญ่เพื่อขาย มันก็ต้องอร่อยเหมือนเดิมล่ะ ถ้าสูตรมันลงตัวแล้ว ตอนทดลอง ปรับสูตร ใครเขาทำหม้อใหญ่เหมือนทำขาย ร้านอื่นๆ ก็ตายสิ ขาดทุนตาย จากคุณ : Zerbirus เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 10:33:34

ความคิดเห็นที่ 30 หัดทำน้อยๆก่อน ประมาณว่าทำทานได้สัก10คน ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ควรใช้เครื่อง ชั่ง ตวง ทำแล้วจดบันทึกขนาดการใช้วัตถุดิบ การปรุงอาหาร มือใหม่หัดทำต้องใช้ช้อนตวง,ถ้วยตวง เมื่อทำจนชำนาญแล้ว ใช้กะๆเอา ก็พอ เรื่องการปรุงอาหาร มันไม่ต้องให้ลงตัวเป๊ะๆ ขาดหรือเกิน นิดๆหน่อยๆก็ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะขาดหรือเกินไปมากมายจนรสชาติเพี้ยนไปมากมาย แบบนี้ใช้ไม่ได้ เมื่อได้สูตรหรือแบบที่เราพอใจแล้วจึงเริ่มขยายสูตร มันต้องลงทุนหน่อย ยังไม่ทำขาย ทำแจก ทำเลี้ยงไปก่อน อาจทำไปช่วยงานบุญต่างๆก็ได้ ทำสักสองหรือสามครั้ง จนมั่นใจ แล้วคราวนี้ค่อยลงมือปฏิบัติการจริง(ควรมีแนวทางในการดำเนินกิจการไว้ก่อน) จากคุณ : tanapol1962 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 14:53:01

ความคิดเห็นที่ 31 วันนี้ได้เวลาปิดปรับปรุงแล้วจริงๆครับ ^^ และก็ไม่รู้ว่าจะได้เปิดอีกเมื่อไหร่ และเปิดอีกครั้ง จะอร่อยลงตัวหรือเปล่าก็ไม่ค่อยจะแน่ใจนะครับ แต่ระหว่างนี้ที่ปิดขายเนื้อตุ๋นจะขาย ขนมจีนไปก่อน พอได้เจอหน้าลูกค้าเดิมๆบ้าง ^^ ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งนะครับ จริงๆว่าจะขายขนมจีนวันนี้เลยแหละ เดี๋ยวขอตั้วกระทู้ถามเรื่องขนมจีนก่อนสักหน่อย หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ :D จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:31:38