ความคิดเห็นที่ 1 บะกุดเต๋ป่าวครับ จากคุณ : Sun (sundaysilent) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:22:41

ความคิดเห็นที่ 2 ปัญหาของคุณคือไม่มีลูกค้าใหม่ๆและกลุ่มลูกค้ามันเฉพาะเกินไป อาจจะเพราะว่าราคาอาหารค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับบรรยากาศและประเภทของอาหาร วัยรุ่นจะชอบกินอะไรที่มันเป็นแฟชั่นค่ะ กินแล้วเท่ อวดเพื่อนได้ ถ้าไม่ใช่พวกอาหารฝรั่งอาหารญี่ปุ่น เบเกอรี่. กาแฟสด.สมู้ตตี้. ไอติมก็คงยากหน่อยค่ะที่จะเรียกลูกค้ากลุ่มนี้ได้ แต่ถ้าเป็นอาหารธรรมดาก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง วัยรุ่นจะเลือกกินร้านที่อร่อยและราคาสบายกระเป๋า ไม่แพงนั่นแหละ (อันนี้เราเทียบจากสมัยเราเรียนอยู่มหาลัย). ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวจานละ50 เราเลือกที่จะเพิ่มเงินอีกนิดแล้วไปกินราเมนชามละ69 ดีกว่า และอีกสาเหตุนึงที่อาหารของคุณขายได้ยากเพราะมันอาจจะเฉพาะด้านเกินไปค่ะ บางคนไม่เคยกินก็ไม่กล้าลอง ไม่รู้จัก หรือบางคนอาจจะอยากลองแต่ก็กลัวไม่อร่อย บางทีอาจต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ในเวปไซต์หรือเฟสบุ๊กเพื่อดึงลูกค้าจากที่ไกลๆมา จากนั้นถ้าเค้าประทับใจร้านคุณเค้าอาจจะบอกต่อปากต่อปาก. บางทีการที่มีคนบอกๆมาว่าร้านนี้อร่อย. มันดูน่าเชื่อถือมากกว่า สู้ๆนะคะ เราก็ทำร้านอาหารเหมือนกันขายอาหารเฉพาะด้านด้วย  คนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยกิน แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่กินอาหารพวกนี้. เราต้องพยายามดึงลูกค้าที่ต้องการร้านของเราเข้ามาให้ได้ค่ะ จากคุณ : ลูกหมูหวาน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:35:51

ความคิดเห็นที่ 3 ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ -มีรายการอาหารที่หลากหลายหรือเปล่าคะ เพราะบางครั้งลูกค้าก็อยากลองเมนูแปลกใหม่บ้าง -ร้านที่ดูสะอาด เป็นระเบียบ บางครั้งไปนั่งทานก็รู้สึกอึดอัด วางตัวไม่ถูกค่ะ (กลัวซุ่มซ่าม ทำร้านสกปรก) -ลูกค้าระดับวัยรุ่น หรือผู้ใช้แรงงาน อาจจะมีความรู้สึกว่า "ร้านนี้ราคาต้องแพงแน่ๆเลย" โดยส่วนตัว ถึงจะอร่อยล้ำขนาดไหน ถูกปากเพียงใดแต่ก็จะไม่ทานติดต่อกันเกิน 5 วัน และก็จะหยุดทานเป็นเดือนค่ะ ถึงจะกลับมาทานใหม่ จากคุณ : ฮังเลก้นหม้อ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:39:12

ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย แต่ผมว่าสิ่งที่ทำนั้น รักษาฐานลูกค้าเดิมได้ และทำให้กลับมาทานซ้ำ เรื่องนี้ถือว่าดีแล้วคับ แต่จขกท.อยากได้กลุ่มลูกค้าใหม่ คือวัยรุ่น กลุ่มแรงงาน วัยรุ่นมีพฤติกรรมกินยังไงบ้าง แฟชั่น? รึป่าว กลุ่มแรงงาน ผมไม่แน่ใจจะหมายถึงกลุ่มไหน แต่เดาว่ากลุ่มที่ทำงานแบกหามรึป่าว กลุ่มนี้รายได้น้อย เน้นทานอิ่มเยอะ ผมว่าจขกท.เน้นขยายให้กลุ่มเดิมมากขึ้นดีกว่าไหม แต่จะทำยังไงให้หน้าใหม่ๆรู้จัก และอยากลองมาชิม ไม่รู้อาหารที่ว่าคืออะไร ประเภทเกาเหลา? อยากช่วยคับ เป็นกำลังใจนะคับ จากคุณ : MR.WOLVERINE เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:43:54

ความคิดเห็นที่ 5 ทำเลดีไหมคะ จากคุณ : jeji o เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:45:08

ความคิดเห็นที่ 6 ระดับวัยรุ่นหรือทำงานใช้แรงงานมีน้อย(ผมอยากได้ลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย) ส่วนตัวนะครับผมเป็นพนักงานโรงงาน ร้านที่ใหญ่หรูสะอาดส่วนใหญ่ผมคิดว่าราคาแพงๆทั้งนั้น  คุณควรจะติดป้ายราคา ให้ดูเห็นง่ายๆนะครับ 35-50 ผมคิดว่าราคาก็ไม่ถึงกับแพงมากต่อหนึ่งมื้อถ้าของดีได้ปริมาณเยอะ ผมคิดว่าคุ้มนะครับ จากคุณ : BankManU เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:07:37

ความคิดเห็นที่ 7 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะคะ ถ้าคุณบอกว่าอาหารรสชาติเหมือนเดิม สะอาด ตามที่ลูกค้าบอก ลองดู เวลาเปิดปิดร้าน ที่จอดรถ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาทาน คนส่วนใหญ่ที่อยู่ละแวกนั้น ใกล้สถานที่อะไร เช่น ธนาคาร คอนโด ปั๊มน้ำมัน นอกจากนี้นะคะ คือ คนแถวนั้นรู้ไม๊ว่าเราอยู่ตรงนี้ ที่ตรงนี้มีร้านเปิดแล้วนะ อาจจะถึงเวลาที่ต้องโฆษณาแล้วก็ได้ค่ะ บางครั้งคนละแวกนั้นถ้าเค้าไม่ทราบว่าหัวมุมถัดไปมีร้านอร่อย เค้าไม่เคยต้องเดินไปทำธุระอะไร เค้าก็จะไม่เคยเดินเฉียดไปเลยค่ะ เป็นปีๆก็ตาม ลองโฆษณาแจกใบปลิวดูก็ไม่เสียหายนะคะหรือจะติดป้ายจากปากซอย หรือซอยใกล้เคียงก็ได้ ขอให้ขายดีๆนะคะ จากคุณ : Alca by tinee (alca) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:08:28

ความคิดเห็นที่ 8 ขายแต่เกาเหลาเหรอคะ ถ้าเป็นเช่นนั้นเมนูอาจจะไม่หลากหลาย แบบ เห็นร้านขายแต่เกาเหลาอย่างเดี๊ยว อาจจะไม่น่าเข้า บางทีร้านสะอาดเกินไป จะดูแพง คนไม่กล้าเข้า ควรจะติดป้ายราคาใหญ่ๆ หรือร้านดูสะอาด ใหม่ คนจะคิดว่าเป็นเจ้าใหม่ อร่อยรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าร้านเก่าๆ มันจะดูเหมือนเปิดมานาน ซึ่งก็ต้องอร่อยในระดับนึง และมันดูคุ้นเคยกว่า ร้านก๋วยเตี๊ยวอร่อยส่วนใหญ่เก่าๆโทรมๆ หรือเราคิดไปเอง? :D ทำเลดีนี่ ดียังไง ที่จอดรถมีมั๊ย ใกล้อะไรบ้าง โฆษนาบ้างก็ดีค่ะ บางทีปากต่อปากนี่ ใช้เวลานานหลายปีนะคะ จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:23:54

ความคิดเห็นที่ 9 ความรักและใส่ใจในกับข้าวที่คุณทำไงล่ะครับ  ที่คุณขาดไป ผมไม่อยากใช้คำว่าศรัทธาเพราะยังไปไม่ถึงขั้นนั้น คุณตั้งโจทย์ว่า ต้องการลูกค้าเพิ่ม ลองทำตามโจทย์นี้ดูครับ รสชาติอาหาร...ดีขึ้น ปริมาณ ......,เท่าเดิม บริการ......ดีขึ้น ความสะอาด.....ดีขึ้น ราคา....ยังเหมือนเดิม" ไม่ต้องลงทุนเพิ่มสักบาท  แต่ได้ลูกค้าเพิ่มแน่นวล   จากคุณ : แม่แคม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:29:05

ความคิดเห็นที่ 10 ลองจัดโปรโมชั่นดูครับ 10แถม1งี้ อาจทำให้ลูกค้าเข้าร้านซ้ำ แบบไม่ทิ้งห่างไปเป็นเดือนๆ หรือกินเท่านี้ให้เมนูอะไรเพิ่มก็ว่าไป อาจได้ลูกค้าใหม่ๆเพิ่ม ลองดูครับ เหมือนจะมีหนังสือแนะนำจังหวัดระครับพวกการท่องเที่ยว ลองติดต่อให้เขาเอาชื้อร้านเราเข้าไปในการแนะนำร้านอาหารดูครับ(อาจมีค่าใช้จ่ายแต่ไม่น่ามาก) ยิ่งเป็นอาหารพื้นเมืองด้วยแล้ว คนอยากลองมีเยอะครับ จากคุณ : amogashi เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:34:10

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เจ้าของกระทู้ถาม เเต่ขอทายว่าเจ้าของกระทู้เป็น คนใต้ จากคุณ : Gravity Distortion เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:54:31

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ทราบว่า จขกท เคยเรียนเรื่องหลักการตลาด อันประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ ๔ ประการ คือ ผลิตภัณฑ์ (product) ทำเล หรือ สถานที่ (place) ราคา (price) การส่งเสริมการขาย (promotion) องค์ประกอบทั้งสี่นี้จะต้องได้รับการวางแผนและคำนวณมาอย่างดี ให้สอดคล้องต้องกัน เช่นทำเลคุณดี  แต่สินค้าคุณราคาถูก เป้าหมายคุณอาจจะสงสัยว่าทำไม เลยไม่กล้าลองผลิตภัณฑ์ ทำเลดี สินค้าดี ราคาดี  แต่ไม่เคยส่งเสริมการขาย พีอาร์ ประชาสัมพันธ์  ใครจะทราบหล่ะ   การตลาดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์   ทราบหรือไม่ว่า อาชีพที่มีไอคิว สูงที่สุด มิใช่ หมอ หรือวิศวะ  แต่เป็น อาชีพค้าขาย  เพราะต้องคิดตลอดเวลาที่ตื่น ให้ธุรกิจตนเองอยู่รอด เมนูคุณเปลี่ยนบ้างไหม  มีอะไรแปลกใหม่ไหม  หรือนักชิมเลื่องชื่อเคยเข้าร้านไหม ฯลฯ อยากจะประสบความสำเร็จในการงาน เอาอิทธิบาท ๔ ไปท่องและใช้ให้ขึ้นใจ ฉันทะ  รักชอบในสิ่งที่ทำ วิริยะ   ด้วยความพากเพียร พยายาม จิตตะ  เอาใจใส่ วิมังสา  ตรวจทาน สม่ำเสมอ จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 02:08:23

ความคิดเห็นที่ 13 มีผู้หวังดีมากมายมาช่วยกันให้กำลังใจและช่วยกันวิเคราะห์  แต่ข้อมูลจาก จขกท ให้ไว้ไม่เพียงพอ  ทุกคนจึงให้ข้อเสนอแนะแบบหลักการทั่วไป  ไม่สามารถลงลึกถึงปัญหาที่แท้จริง   ลองเปิดตัวให้มากกว่านี้  ประเภทอาหาร  ทำเลที่ตั้ง  รูปถ่ายได้ก็ดี (ไม่ทราบผิดกฏพันทิพหรือเปล่า)  เผลอๆดีจริงอร่อยจังอย่างที่ว่าไว้  ก็อาจจะดังเพราะ web pantip ก็ไม่แน่  แต่อย่างน้อยคุณจะได้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์แน่นอน อาหารบางประเภทอาจเหมาะเฉพาะกลุ่มหรือสถานที่  เช่น  ผู้ใหญ่หน่อยอาจชอบ  แต่วัยรุ่นไม่ค่อยสน  ยกตัวอย่าง  เกาเหลาเลือดหมู  ทั่วๆไปวัยรุ่นไม่สน  แต่ถ้าไปอยู่ตามพัทยาหรือหัวหิน  วัยรุ่นนั่นแหละลูกค้ากลุ่มสำคัญ  อันนี้น่าจะบอกว่าสถานทีหรือบรรยากาศพาไปหรือเปล่า  ของคุณจะเข้าข่ายนี้หรือเปล่า  คือของดีแต่บังเอิญผิดที่ผิดตำแหน่ง  อีกตัวอย่างคือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา  ถ้ารสชาติน้ำแกงจืดปนหวานแบบต้มกระดูกหมู  จะขายดีอยู่รอดแถบเยาวราช  แต่ถ้าย้ายไปชานเมืองหน่อยรสชาติก็ต้องเปลี่ยนให้เข้มข้น ต้องเพิ่มของทอดเช่นเกี้ยวทอด หนังปลาทอด เป็นต้น    อันนี้คงเป็นแบบท้องถิ่นนิยม    จขกท ลองมองจุดนี้ ทำร้านอาหารฝีมือต้องมาก่อน  ถ้าอร่อยจริงก็เห็นรอดเกือบทั้งนั้น  คำว่าอร่อยต้องมาจากความรู้สึกของลูกค้า  เจ้าของร้านอย่าเข้าข้างตัวเอง  ทุกวันนี้ร้านอาหารส่วนใหญ่กว่า 90% แค่อยู่ในประเภทพอกินได้  ทำเลทที่ดีช่วยให้ร้านระดับนี้พออยู่ได้  แต่ถ้าฝีมือดีบวกทำเลเยี่ยม  อันนี้ติดลมบนไปเลย ขอให้โชคดี จากคุณ : KSAK 1 (KSAK 1) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 05:42:37

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นกำลังใจให้ค่ะ  สู้ สู้ อย่าช้านะคะ ต้องเพิ่มเติมด่วน เพิ่มทั้งเมนูอาหาร เลือกได้ทั้งรสชาติ ทั้งราคา อาหารอะไรที่เข้ากันได้ รีบจัดมา อาหารอะไรบางอย่างราคาประหยัดได้รีบจัดมา หรืออาหารอะไรเพื่อสุขภาพได้รีบจัดหา หน้าร้านขายอะไรได้ เอาเลย! สู้ สู้ ค่ะ จากคุณ : ลมสบาย เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 05:52:32

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าว่ากันนะครับ ลองเปลี่ยนเป็น รถเข็นแล้วหาที่ขายตามตลาด หรือสถานที่คนพลุกพล่าน มีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่ง จะลดค่าใช้จ่ายในการจัดการร้านขึ้นเยอะเลยครับ รับรองเงินเหลือ พอมีลูกค้าหน้าใหม่เยอะขึ้น ก็อาจตั้งร้านถาวรได้ครับ จากคุณ : นายหมีพูห์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 06:54:57

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับ คุณKSAK 1 ข้อมูลไม่เพียงพอครับ ทำเลที่ตั้งอยู่ตรงไหน ชุมชนเล็ก-ใหญ่ ขายอะไรก็บอกไปชัดๆเลย ถ้าปิดบังเป็นปริศนาให้ลองเดากันเองก็สนุกสนานดี คนตอบก็ตอบแบบนึกเอาเองเพราะไม่รู้เกาเหลาอะไร จากคุณ : สุราสาก เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 07:17:46

ความคิดเห็นที่ 17 ้เหมือนร้านเราเมื่อก่อนเลยค่ะ มีแต่ลูกค้าประจำ หน้าเดิมๆ แต่ละคนมีรายได้ค่อนข้างดี ขาจร รายได้ พอประมาณมาน้อยมากกก อันนี้ต้องอาศัยความอดทน ค่ะ ใช้เวลากันเป็นปีสองปี ถึงจะดึงลูกค้าจากที่ไกลๆได้ บอกปากต่อปากต้องใช้เวลานานนะคะ ต้องเพิ่มการประชา สัมพันธ์อีกนิด   ข้อควรคิด คือ คนในละแวกนั้น และใกล้เคียงรู้จักร้าน คุณแล้วหรือยัง เป็นที่พูดถึงรึยัง (ไม่จำเป็นต้องมาทาน แต่ เค้ารู้นะว่าคุณมาเปิด อยู่ตรงไหน ขายอะไร บรรยากาศ ร้านเป็นยังไง) ต้องดึงคนในละแวกนี้ให้ได้ก่อน รอบๆสถานที่ มีบริษัท โรงงาน หรือ อะไรๆที่มีจำนวน คนเยอะไหม มุ่งประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นให้เค้าดูสิ อย่าง ร้านเราติดโรงหนัง กับ ใกล้บริษัทใหญ่ ทำโปรคนดูหนังอัน นึงช่วงเย็น บริษัทช่วงกลางวันอันนึง ถ้าราคาของอาหารคุณจัดว่าอยู่ในระดับตอนบน การหาคนกลุ่มล่างได้มีน้อย ร้านดูดี สะอาด คน มักคิดว่าแพงแหงมๆ ร้านเราเจาะกลุ่มล่างไม่สำเร็จ จากโปรตั๋วหนัง ซึ่งน่าจะดึงคนได้หลากหลาย ปรากฎ ว่า ยังเป็นกลุ่มคนระดับเดิมอยู่ดี  คิดว่าเป็นที่บรรยากาศ ร้าน พอคนมาด้อมๆมองๆ ประกอบกับลูกค้าที่นั่งในร้าน เค้ากลับถอย ทั้งๆที่ได้โปร (คือเค้าสามารถจ่ายได้แน่ๆ) แต่ก้อไม่เข้า คงจะเกร็ง กลัวตัวเองซะงั้น สุดท้าย เมื่อไม่ได้กลุ่มล่างนี้ เราก้อเน้นทำตลาดบน ไปเลย เพิ่มบริการให้คนกลุ่มนี้ เพิ่มรายการอาหาร ทีคนกลุ่มนี้สนใจ ได้ผลเร็วทันใจเลยล่ะ จากข้อมูลจขกท. เราคงตอบได้เท่านี้ จากคุณ : Annachen เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 07:23:42

ความคิดเห็นที่ 18 คุณน้าแท้ ๆ ของผม แกเคยขายข้าวมันไก่อยู่แถวโรงงานปูนที่สระบุรี รายได้ดีมาก แถวนั้นคนงานเยอะ แต่เลือกที่จะเปลี่ยนมาขายที่ขอนแก่น เพราะอยากให้ลูก ๆ ได้ใกล้ที่เรียน ใกล้บ้าน มลพิษน้อย กลุ่มเป้าหมายจึงเปลี่ยนเป็นพวกน้อง ๆ นักศึกษา อาจารย์ และจนท.โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย แรก ๆ ก็ขายไม่ค่อยดีครับ ขายสองรอบ เช้าและเย็น วันหนึ่งหมดไก่สามตัว สี่ตัว อาจเพราะทำเลไกล (ม.ขอนแก่นกว้างมากกก) แถมยังเป็นร้านหน้าใหม่ แล้วร้านไม่ได้ตกแต่งอะไรสวยงามเลย ตั้งโต๊ะพับเหมือนร้านข้างทาง แต่อาศัยความอดทน ลูกค้าประจำ รวมถึงการบอกปากต่อปากนี่แหละครับ ตอนนี้ก็ขายดีขึ้นแล้ว ลูกค้าบางคนรวบรวมมาสั่งเป็น 10 ห่อก็มี แต่กว่าจะมาขนาดนี้ได้ก็เกือบ 2 ปี ล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 08:56:00 จากคุณ : mello man เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:55:23

ความคิดเห็นที่ 19 อยู่ทำเลจรน่าจะดีกว่า จากคุณ : Gapbabo เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:17:11

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่า คุณให้ข้อมูลน้อยเกินไป 1. อาหารของคุณคืออะไร 2. Location ของคุณคือที่ไหน 3. Surrounding ของคุณเป็นอย่างไร ถ้าคุณขายของอร่อยจริง ราคานี้ ที่ทองหล่อ คุณไม่มีเจ๊ง แต่ถ้าคุณขายอยู่ชายแดนสักแห่ง อาจจะร่วง ถ้าคุณให้ข้อมูลมากกว่านี้ เพื่อนๆก้นครัว ยังช่วยวิเคราะห์ได้ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:02:24

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าอยากได้ลูกค้าหลายกลุ่ม อาหารก็ต้องหลากหลาย วัยรุ่นไม่น่าจะชอบแนวนี้ อยากให้ลองทำเมนูจานเดียวง่ายๆ แล้วมีเครื่องดื่มหรือขนมที่ดึงดูดวัยรุ่นซะหน่อยก็ดี จากคุณ : jiri เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:33:28

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่มีประสบการณ์ทำร้านอาหารเช่นกันค่ะ แต่ขอให้คำแนะนำในฐานะผู้บริโภคแล้วกัน ร้านอาหารที่เรากิน และเห็นว่าอร่อยมาก ๆ ในราคาระดับนี้ ไม่ว่าจะอร่อยสำหรับเราแค่ไหนก็ตาม เราก็ไม่ไปซ้ำในช่วงเวลาใกล้ ๆ กันค่ะ เนื่องจากเมืองไทยร้านอาหารเยอะเหลือเกิน อยากลองร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยค่ะ ยิ่งถ้าขายอาหารซ้ำ ๆ ไม่กี่อย่าง ยิ่งไม่มีสิ่งจูงใจให้กลับไปค่ะ แต่ถ้าหากร้านนั้น ๆ มีหลากหลายเมนู และอร่อยจริง บางครั้งก็ทำให้เราเกิดนึกได้ว่า อืม...ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ชิมเลย น่าจะอร่อย ๆ เหมือน ๆ กัน ดังนั้นเราว่า คุณอาจจะต้องหา  Key ที่ทำให้ลูกค้าเก่าแวะเวียนมาบ่อย ๆ และมีสิ่งจูงใจลูกค้าใหม่ ๆ ด้วย แต่สำหรับลูกค้าระดับระดับวัยรุ่นหรือทำงานใช้แรงงานมีน้อย(ผมอยากได้ลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย)  เราว่าสำหรับกลุ่มคนแรงงาน ราคาระดับนี้ยังแพงเกินไปมาก  ๆ ค่ะ ถ้าพูดถึงแรงงานที่ได้ค่าแรงเป็นวัน หรือค่าแรงขั้นต่ำนะคะ คนเหล่านี้ ไม่ห่อข้าวมากินเอง ก็กินต่อมื้อราคาต่ำมาก  ๆ  เน้นปริมาณค่ะ เคยเห็นคนงานซื้อหมูปิ้งไม้เดียว ข้าวเหนียวสองห่อค่ะ จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:02:39

ความคิดเห็นที่ 23 เมนูไม่หลากหลายรึเปล่า? ลองเพิ่มของทานเล่นดูสิ เช่นเกี้ยวทอด เปาะเปี๊ยทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอด จากคุณ : ความเชื่อเฉพาะบุคคล เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:04:14

ความคิดเห็นที่ 24 ลองเพิ่มเมนูเพื่อกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและกลุ่มคนใช้แรงงาน และให้ระดับราคาลดลงหน่อยจะได้มีกำลังซื้อ น่าจะทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นนะครับ สู้ๆ^^ จากคุณ : Wini2524 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:30:05

ความคิดเห็นที่ 25 น่าจะยังให้เวลาไม่พอครับ ถ้าคุณไม่ใช่คนประเภทที่เปิดปุ๊บ คนเต็มร้านปั๊บ เพราะว่ามีคนรู้จักมายมาย หรือเป็นคนที่มีโชค หรือว่ามีทุกอย่างพร้อมสำหรับร้านที่จะประสบความสำเร็จ อย่างที่แนะนำกันมา คุณก็คือคนธรรมดาทั่วๆไป ที่หลายๆคนเป็น มันต้องใช้เวลาสำหรับสร้างตลาดครับ เวลา 4-5 เดือน ยังเร็วไปที่จะตัดสินว่าอะไรเป็นอะไร และแน่นอน คุณจะต้องมีเงินพอที่จะประคับประคองธุระกิจให้อยู่ ไปได้โดยไม่มีกำไรเข้ามาช่วย จะนานเท่าไร คงบอกไม่ได้...มันขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง ลืมบอกไปว่าบางร้านเปิดมาคนเต็มร้าน ไม่ถึงปีพับไป ก็มีมาก อย่าเพิ่งกังวลจนเกินไป ในฐานะที่ขาย อาหารเหมือนกัน อาจจะต่างตลาดกัน ก็ขอเอาใจช่วย...ผมเองก็ใช้เวลานานอยู่ กว่าจะหายใจทั่วท้อง แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 13:49:27 จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:43:02

ความคิดเห็นที่ 26 เจ้าของกระทู้เงียบไปเลย กลัวคนเขารู้รึครับว่าขายอะไร เขาอยากจะช่วยแต่ไม่บอกข้อมูลให้ละเอียด จริงใจหน่อยครับ จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:20:47

ความคิดเห็นที่ 27 มาแล้วครับ(เพิ่งเก็บร้านเสร็จ...เฮ้อ...ละเหี่ยใจเคยชินแล้วครับ) ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคำตอบ มีประโยชน์ทั้งนั้นเลยครับ ผมก็ติดใจเรื่องเมนูไม่หลากหลายเช่นกัน แต่เพราะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้จึงไม่กล้านำเสนอของใหม่ๆถ้าไม่แน่ใจ จริงๆแล้วเป็นพระเอกในบ้านมานานพอดู ทำกับข้าวให้คนในบ้านกินมาตลอด แต่ถ้าต้องแสดงให้คนนอกบ้านดู"ขาสั่น"ครับ กลัวไปหมด จะพยายามทำทีละอย่างสองอย่างที่เราถนัดและเคยทำให้คนใกล้ตัวกินมาแล้ว ผมคนใต้แน่นอน ถูกต้องนะคร้าบบบ อาหารที่ว่าขออุบไว้อีกนิด จะมาเล่าให้หมดเปลือกเมื่อเข็นครกผ่านภูเขาลูกนี้ไปก่อน รับรองมีหลากรสบู๊สนุกสุขเศร้าเคล้าน้ำตา เพราะเป็นคนช่างสังเกตุที่ว่า เห็นพฤติกรรมการกินของลูกค้าแต่ละท่าน ผมจดจำไว้ทั้งหมด รับรองเล่าแล้วสนุกสนาน ตัวอย่างนิดๆหน่อยๆเช่น มี"นายแพทย์"คนหนึ่งเป็นลูกค้าประจำประเภทนานๆมาที คลีนิคอยู่ใกล้ๆร้านผม เชื่อไหม?กินเสียงดังที่สุด(ช้อนกระทบจาน)เท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต ขนาดที่ว่าลูกสาวนั่งล้างจานหลังบ้านยังได้ยินเสียง และเดาออกเลยว่าเป็น"คุณหมอ" พวกเรายังแอบเป็นห่วงว่า...ถ้าท่านไปงานเลี้ยงอะไรจะเกิดขึ้น? ขอบคุณอีกครั้งครับ จะเก็บทุกสาระดีๆไปใช้ให้เกิดประโยชน์ครับ จากคุณ : คนขาดหุ้น เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:38:44

ความคิดเห็นที่ 28 มาให้กำลังใจคนขายของเหมือนกัน ขายอาหาร มีอย่างเดียวต้องคิดไว้ อย่าท้อ อย่าถอย อาหารเป็นอาชีพพิเศษค่ะ ต้องใช้เวลานานกว่าชีพอื่นหน่อย ถ้า1ปีแล้วยังยอดเท่าเดิม ก็ควรหาทำเลใหม่ ในกรณีที่มั่นใจรสชาติฝีมือตัวเองนะคะ ขอฝากอีกนิด อร่อยเราอาจจะไม่อร่อยลูกค้าส่วนมากรึเปล่า ลองไปหาร้านที่ขายเหมือนเราที่เขาขายดี ชิมเยอะๆค่ะ จะได้รู้ว่าเราควรจะปรับปรุงอะไรบ้าง เป็นกำลังใจให้นะคะ   ^^ ปล.เห็นด้วยกับท่านอื่นนะคะ  ว่าเราควรเพิ่มอาหารที่ขายให้หลากหลายหน่อย   แก้ไข เพิ่มข้อความ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 21:25:04 จากคุณ : โอ๋ hwang-thi เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 21:23:17

ความคิดเห็นที่ 29 จากโจทย เข้าใจว่าลูกค้าติดแล้ว แต่มากินถี่น้อยลง แล้วลูกค้าหน้าใหม่ก็เข้ามาไม่เร็วพอที่จะพยุงธุรกิจให้ทำกำไรมากพอได้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากปัจจัย (ซึ่งไม่ใช่ปัญหา) 1 อาหารเฉพาะเจาะจง 2 ราคาไม่ถูก (แต่สมราคา) 3 ทำเล และ ประชาสัมพันธ์ องค์ประกอบทั้งสามอย่างนี้ พอรวมๆกัน อาจทำให้ต้องใช้เวลาในการทำให้กลุ่มลูกค้าของเรามาอุดหนุนมากขึ้น ลองคิดเล่นๆดูนะค่ะ  อาหารเฉพาะเจาะจง "เกาลัด" ถ้าเราอยากซื้อเกาลัด เราก็จะไปนึกถึงเยาวราช?  เกาลัดเป็นอาหารที่ราคาไม่ถูก แต่เวลาเราซื้อเจ้าดีๆ เราก็ว่าสมราคาที่เราสามารถจ่ายได้  แต่ถึงเราจะชอบมากเท่าไหร่ กินได้ทุกวัน แต่ก็อาจจะไม่ซื้อทุกวันเพราะเป็นอาหารราคาแพง นานๆกินที หรือความเป็นไปได้อีกอย่างคือ จุดอิ่มตัว เราอาจไม่ได้อยากกินเกาลัดทุกวัน บางทีเราไปเจอเกาลัดเจ้าอร่อย ก็อาจจะไปซื้ออีกในวันรุ่งขึ้น แต่ความอยากกินมันก็ลดลงทุกทีๆ ทุกครั้งที่ซื้อ คิดว่าอันนี้น่าจะเป็นคำตอบ สำหรับโจทย์ของคุณที่ว่าทำไมลูกค้ามากินแรกๆ มาบ่อยมาก แล้วค่อยๆ กินนานๆที  อาจเป็นเพราะเค้าถึงจุดอิ่มตัวกับอาหารเฉพาะเจาะจงก็เป็นได้ ต่อไปคือเรื่อง ทำเล และประชาสัมพันธ์ ถ้าร้านเกาลัดตั้งอยู่ที่เยาวราช มันก็จะประชาสัมพันธ์ไปในตัว ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาใบปลิว ติดป้ายอะไรมากมาย ลูกค้าขาจรก็เยอะ เป็นลูกค้าที่ไปเยาวราชเพื่อซื้อเกาลัดอยู่แล้ว (โดยที่ยังไม่ได้เจาะจงว่าจะซื้อจากเจ้าไหน เพียงแค่รู้ว่าต้องไปซื้อที่เยาวราช ) แต่ถ้าร้านเกาลัดไปขายอยู่ที่เดอะมอลล์บางแค ยอดขายอาจจะดีไม่เท่าขายที่เยาวราช ทั้งๆที่ราคาก็ขายเท่ากัน คุณภาพ รสชาติเหมือนกัน แต่เค้าอาจจะไม่มีลูกค้าขาจรที่ตั้งใจจะไปซื้อเกาลัคในทำเลตรงนั้น ก็จะได้แต่ลูกค้าขาจรไปไปทำธุระอย่างอื่นแต่ไม่รู้ว่าตรงนั้นมีเกาลัดเจ้าอร่อยขายอยู่ บางคนก็อาจจะลองซื้อกิน บางคนก็อาจจะไม่อยากเสี่ยงซื้อเพราะไม่มีชื่อเพราะถือเป็นอาหารราคาแพง(กลับไปปัจจัยข้อสอง) ถ้าไม่อร่อยก็เสียดายเงิน เพราะฉะนั้นส่วนตัวคิดว่าการแก้ปัญหาคือใส่เมนูอาหารให้หลากหลายมากขึ้น แล้วก็หลากหลายในราคาด้วยเพื่อ 1 รองรับลูกค้ากลุ่มรายได้ไม่มาก กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มขายแรงงาน 2 ให้ลูกค้าสามารถกินได้ทุกวัน ไม่มีจุดอิ่มตัว ไม่คิดว่าอาหารแพงเกินไปนานๆกินที 3 ประชาสัมพันธ์ว่า อาหารเรามีชื่อนะ  ถ้าขายเกาลัดก็อาจจะติดป้ายกว่า เจ้าเก่าเยาวราช เป็นจิตวิทยาเพื่อให้ลูกค้ากล้าซื้อ กล้าลอง 3.1 Branding การตีตรา ทำให้ลูกค้ารู้สีกว่า ถ้าจะกินอาหารเจาะจงต้องกินของเรา เช่น นายเกี๊ยะ เกาลัดเยาวราช จากคุณ : pammeluff (Pammeluff) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:34:13

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณครับ ระยะนี้ยอมรับว่า"เห็นแก่ตัว"ชั่วคราว มาอ่านกระทู้ตัวเองและอื่นๆเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัวล้วนๆทุกวันครับ อ่านซ้ำๆไม่มีเบื่อ เหมือนมีคุณป้าผู้ช่ำชองเรื่องครัวมาเท้าสะเอวชี้นิ้วแนะโน่นนี่นั่น ประโยชน์ทั้งนั้นครับ ขอบคุณจริงๆ จากคุณ : คนขาดหุ้น เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 23:13:55

ความคิดเห็นที่ 31 สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของร้านค้าทุกร้านคือ "ประชาสัมพันธ์" บางที ปากต่อปาก ไปไม่ถึง บางคนก็ว่าอร่อย แต่ไม่พูดต่อ ฉะนั้น เราต้องทำเอง ป้ายให้เด่นๆเข้าไว้ ลงทุนหน่อยก็ทำใบปลิวใบเล็กๆ copy ธรรมดา ให้คนเค้ารู้ว่ามีร้านนี้อยู่ ณ ตรงนี้นะ อาหารก็น่าจะมีหลากหลายกว่านี้นะคะ มีอย่างเดียวขายยาก บางครั้งมากันหลายคน คงไม่อยากมานั่งทานอย่างเดียวกันทุกคน เค้าก็จะเลือกไปร้านตามสั่งสบายๆมากกว่า เ้ป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ข้ามผ่านภูเขาลูกนี้ไปให้ได้ ^^ จากคุณ : Tui_NiChy เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 13:49:37

ความคิดเห็นที่ 32 แนะนำว่า เพิ่มเมนูที่กำไรเยอะๆดีกว่าไหมคะ โดยส่วนตัว พวกน้ำสมุนไพร  กระเจี๊ยบ ชามะนาว พวกนี้ กำไรดีนะคะ   แก้วละ 12-15-20 บาท แนะนำว่า ทำแก้วใหญ่ๆ  คนจะรู้สึกว่าได้เยอะ (จริงๆ เยอะน้ำแข็งมากกว่า)  คนดูดไม่ค่อยหมดหรอกคะ อิอิ หรือถ้ามีขนมวางขาย (ถ้ามีคนทำ หรือรู้จักคนที่ทำขายอร่อยๆ) เสริมก็ดีนะคะ  วางทีละน้อยๆ เน้นให้หมดคะ จากคุณ : nongnew2000 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 20:56:34