ความคิดเห็นที่ 1 ต้นทุนรวม~ 70% - 75% (ในนี้รวมค่าโสหุ้ย เช่น ค่าไฟ ค่าแก็ส ค่าน้ำ คิด 3% รวมไว้นะครับ) กำไร ~ 25 - 30% ครับ จากคุณ : นายหมีพูห์ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 21:13:14

ความคิดเห็นที่ 2 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 22:06:13 จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 22:05:08

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 22:07:21 จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 22:06:58

ความคิดเห็นที่ 4 การบริหารต้นทุนอาหาร (Food cost) จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 22:20:13

ความคิดเห็นที่ 5 เอาแบบที่เราทำงานก็แล้วกันนะคะ ต้องคำนวณว่าในจานนั้น ใส่อะไรบ้าง อย่างละกี่กรัม  แล้วแต่ละอย่างตกกรัมละกีบาท ลองคำนวณคร่าวๆนะคะ  อย่าเพิ่งรวมค่า น้ำค่าไฟ ค่าแก๊สต่างๆ เอาแค่ค่าอาหารพอ ลูกแพรไม่รู้ว่าที่เมืองไทย ต้นทุนค่าอาหารประมาณเท่าไหร่แล้ว เลยยกตัวอย่างให่ไม่ได้ค่ะ  ช่วยได่มั้ยเนี่ย !!! แต่ที่ร้านที่ลูกแพรทำงานนี้ จะกำหนดไว้เลยค่ะว่า   Food Cost ต้องประมาณ 22% ค่าแรงงาน ประมาณ 27-30 % เพราะฉะนั้น gross profit ต้องอยู่ที่ประมาณ 48-50% ค่ะ อย่างเพิ่งตาลุกวาวนะคะ  เพราะนี่ยังไม่รวมค่าจิปาฐะต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าอุปกรณ์ความสะอาด ค่าบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หักจากพวกนี้แล้ว  เราก็จะได้ Operating profit ค่ะ ถ้าเราควบคุมค่าใช้จ่ายข้างต้นได้ยิ่งมากก็ยิ่งดีค่ะ แล้วค่อยมาหักค่าเช่า และภาษีต่างๆ ค่ะ ก็จะได้ EBIDA หรือ รายรับก่อนค่าเสื่อมราคา หลังจากนี้ ก็จะเป็นกำไรสุทธิค่ะ   อันนี้เป็นความรู้ที่ลูกแพรทำงานที่อังกฤษนะคะ  ที่เมืองไทยอาจจะแตกต่างกันไป เพราะค่าแรงงานที่โน่นถูกกว่า (ที่นี่ตกชั่วโมงละ 300 กว่าบาทค่ะ) เราอาจจะเพิ่มต้นทุนอาหารให้ขึ้นไป ซัก 30 % ก็ได้ค่ะ ราคาขายจะได้ไม่สูงมากนัก  แล้วประหยัดแรงงานเอาค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะคะ จากคุณ : ลูกแพร แช่อิ่ม เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 22:42:31

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าคงขึ้นกับประเภทร้าน ระดับของร้านด้วล่ะครับ ร้านผม 35 % แต่แรงงานราวๆ 15-20% อยากปจะปรับให้เหมือน คุณลูกแพรเหมือนกัน กำลังค่อยๆแก้ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 07:19:32

ความคิดเห็นที่ 7 คุณลูกแพรค่ะ   EBIDA   นี่ย่อมาจากอะไรค่ะ   มี่ที่มาที่ไปอย่างไรค่ะ แล้วตอนนี้คุณลูกแพรทำร้านอาหารหรือเปล่าค่ะ  ขอบคุณมากน่ะค่ะ จากคุณ : NPSS เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 09:19:05

ความคิดเห็นที่ 8 คูณ NPSS EBITDA ย่อมาจาก earning before interest tax depreciation and amortization คือ ประมาณว่า กำไรก่อนหัก ดอกเบี้ย ในกรณีที่เรากู้เงินค่ะ รวมไปถึงภาษี และค่าเสื่อมราคา EBITDA จะใช้ในบริษัทใหญ่ค่ะ  ถ้าเราทำร้านเอง ตัวนี้ก็คงไม่จำเป็นเท่าไหร่มั้งค่ะ ตอนนี้ลูกแพรทำงานร้านอาหารที่ลอนดอนค่ะ เป็นร้านแบบ Chain เพราะฉะนั้นเรื่องตัวเลขต้องคุมให้อยู่ค่ะ ไม่งั้นโดนเชือดค่ะ 555 แล้วคุณ NPSS ทำร้านอะไรค่ะ เผื่อได้ช่วยแชร์ไอเดียค่ะ จากคุณ : ลูกแพร แช่อิ่ม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 14:51:21

ความคิดเห็นที่ 9 พี่ไป LONDON ทุกปีค่ะ   ลูกแพรร้านอยู่แถวไหนค่ะ   พี่อยากทำร้านอาหารอิตาเลี่ยนแบบ home made ค่ะความรู้พอมีบ้าง  จะหุ้นกับเพื่อนทำค่ะ   จะส่งข่าวส่งรูปมาให้ดูถ้า  ถ้าคุยกันลงตัวน่ะค่ะ   ซื้อหนังสือมาดูหลายเล่มแล้ว  กำลังคำนวณงบประมาณค่ะ ไม่เกิน 2 อาทิตย์ต้องสรุปค่ะว่าอย่างไรแน่   นี่ก็เร่งดูหมอดูน่ะว่าจะโอไหมถ้าทำ  ห้ามพลาดค่ะประมาณนี้  ขอบคุณมากน่ะค่ะ จากคุณ : NPSS เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 16:36:49

ความคิดเห็นที่ 10 EBITDA จะช่วยดูเรื่องเม็ดเงินด้วยครับ เรื่องจาก Net Profit จะเป็นยอดสุทธิทั้งหมดแล้ว ทำให้เรามองเรื่อง Cash ไม่ออก เนื่องจากค่าเสื่อมราคาไม่ได้จ่ายจริงแต่ทยอยตัดเป็นค่าใช้จ่ายตามอายุ แต่ทางเราลงทุนครั้งแรกไปแล้วตอนซื้อ ตัว EBITDA นี่จะใช้ในลักษณะมอง cashflow ไปด้วยครับ จะใช้ดูว่าที่เราดำเนินงานน่ะเงินมันเข้าพอจ่ายดอกเบี้ยรึเปล่าด้วยครับ จากคุณ : Padboyslim เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 02:13:44

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ NPSS ค่ะ หนูไม่ได้มีร้านเองหรอกค่ะ เป็นแค่ ผู้จัดการร้าน  แต่ก็เรียนรู้อะไรได้เยอะเลย พี่มีอะไรที่หนูพอจะช่วยได้ก็หลังไมค์มานะคะ จากคุณ : ลูกแพร แช่อิ่ม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 06:11:55

ความคิดเห็นที่ 12 เราคำนวณ แบบนี้ค่ะ ซื้อหมูมาโลละ สมมุติที่150/กิโล ใช้ทำอะไร เช่น หมูผัดพริกใช้หมู2ขีด/1จาน หมู (30)+เครื่องปรุง+ผัก+แก๊ส (30)  = ต้นทุน 60 บาท ปลากิโล เท่าไหร่ 1กิโล มีกี่ตัว ทำได้กี่จาน ไก่ 1ตัวเท่าไหร่ ทำได้กี่จาน กุ้ง+ปลาหมึก 1กิโล มีกี่ตัว ขายเท่าไหร่ กี่ตัว/1หม้อ/1จาน เมื่อคำนวณ แล้ว ก็แพคของเป็นถุงๆ ค่ะ กุ้งกี่ตัว/ถุง , หมูกี่ขีด/ถุง ประมาณนี้คะ จะได้ราคาทุน และกำไรเท่าไหร่ /กิโล จะต้อง แบ่งเป็น อย่างน้อย สามส่วน 1.ต้นทุน 2.ค่าแรง 3. กำไร บางอย่างจะกำไรน้อย บางอย่างจะกำไรมาก ก็เฉลี่ย กันไปค่ะ อยู่ที่ราคาขาย ของเราด้วยคะ ว่าร้านของเรานั้น มีลูกค้า ระดับไหน ค่าใช้จ่ายส่วนกลางเท่าไหร่ ลองดูนะคะ คิดเล่นๆๆดูก่อน จะเห็นว่ากำไร ค่อนข้างเยอะ แต่พอทำจริงๆๆ แล้ว ร้านอาหาร เป็นงานที่ ต้องใช้ความอดทน กับลูกค้า และพนักงาน มีข้อปลีกย่อย มากมายไปหมด ให้แก้ไข ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีใจรัก จริงๆ ไม่แนะนำให้ทำคะ จากคุณ : สายน้ำทา เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 12:38:23