|
ปัญหามาจาก
1. คนติวไม่มีศักยภาพทางการเงินมากนัก อาจจะเป็นแค่นักเรียนที่มีความสามารถในการติวได้ดี หรือคนทำงานออฟฟิศ หรือแม้แต่รับติวเป็นงานหลัก คนพวกนี้ไม่มีเงินไปเปิดอาคารหรอกครับ การจะเปิดอาคารมันต้องใช้เงินหลายล้านมากๆ และความสามารถของเขาก็ สอนได้แค่บางวิชา หรือเน้นติวให้ความรู้แน่นขึ้นเป็นคนๆไป
เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า "ก็แล้วทำไมไม่ไปเปิดที่บ้านเองหรือสถานที่อื่นๆละ ?"
คำตอบก็คือ เพราะว่าร้านสตาร์บัค , แมค , kfc ฯลฯ ทุกร้านจะมีมาตรฐานเดียวกันหมด theme ของร้านก็เหมือนกัน ทำให้ "คนเรียน" นึกภาพออกว่าบรรยากาศเป็นยังไงและรู้สึก "ปลอดภัย" เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นกลาง
สมมุติสถานการณ์ ถ้าน้องผู้หญิงจะเรียนติวตัวต่อตัว กับ ติวเตอร์ผู้ชาย แต่จะให้ไปเรียนที่บ้านติวเตอร์ ? มันก็ได้นะครับ สถานที่ก็ส่วนตัว มีสมาธิ ? แต่มันจะเหมาะสมมั้ยละ ?
2. น้องที่อยากติวอยากได้การติวแบบใกล้ชิด ตัวๆเพราะสามารถระบุปัญหาของตัวเองได้ชัดเจนกว่า แต่ไม่อยากเสียเงินไปติวที่อืนที่แพง เพราะที่อื่นๆจะไม่ปรับเนื้อหาให้ตรงกับปัญหาของน้อง จึงเลือกติวกับติวเตอร์ตัวๆ
คำถามอีกอัน แล้วทำไมติวเตอร์ไม่ใช้มหาวิทยาลัย ห้องสมุด หรือที่ที่เหมาะในการติวมากกว่าร้านนั่งกินอาหาร? บอกตรงๆว่าผมไม่รู้คำตอบนี้แน่ชัดนัก แต่ถ้าจะให้ประเมินก็คือ "น้องๆเบื่อบรรยากาศในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย ที่แสนจะน่าเบื่อวิชาการมากๆ อยากได้บรรยากาศชิวๆมากกว่า" จึงเป็นที่มาของการมานั่งติวในร้านอาหารแบบนี้ นี่คือเหตุผลที่ผมคิดว่าใกล้เคียงที่สุด ส่วนเหตุผลอื่นก็คือ ขี้เกียจไปมหาวิทยาลัย ขึ้เกียจไปห้องสมุด , หน้าด้าน , หรือ ร้านสตาร์บัคส์ , MC ฯลฯ อาจจะอยู่ใกล้ทั้งคนสอนและคนเรียนเดินทางสะดวกกว่าไปมหาวิทยาลัยหรือห้องสมุด
ส่วนพวกขายตรง MLM , Network Marketing หรือคำสวยหรูอื่นๆ พวกนี้ "จำเป็น" ต้องใช้สถานที่แบบนี้เพราะเป็นสถานที่ที่ "เป็นกลาง" ทำให้ คนฟัง (หรือ ว่าที่ Downline) สามารถรับได้กับบรรยากาศ พวกเขาสามารถเชิญ ว่าที่ Downline ไปที่ศูนย์ของพวกเขาได้ครับ แต่ 1. บรรยากาศในศูนย์ของ MLM แต่ละที่นั้น จะส่งผลให้ "ว่าที่ Downline" ไม่รู้สึกปลอดภัย เท่าร้าน สตาร์บัคส์ ร้านแม็คที่เขารู้จักและคุ้นเคย 2. การกระจายธุรกิจ MLM โดยใช้ร้านพวกนี้เป็นสถานที่ สามารถเพิ่มยอด Downline ได้มากกว่าเรียกมาฟังที่ศูนย์ งานพวกนี้ยิ่งคนมาทำเยอะก็ยิ่งได้มาก ปริมาณ ย่อมสำคัญกว่าคุณภาพ สำหรับงานแบบนี้ เพราะฉะนั้น พวกเค้าจะไม่สนใจสถานที่เลย เค้าจะสนใจที่ปริมาณคนเท่านั้น อีกอย่างความเกรงใจของว่าที่ Downline พอคนชวนทำ MLM เลี้ยงกาแฟแก้วสองแก้ว เค้าก็จะรู้สึกเกรงใจ แล้วอยากสมัครด้วย (อาจจะมีผลไม่กี่คนในกรณีแบบนี้นะ)
เมื่อบรรยากาศมันเหมือนกัน มันจึงเป็นสถานที่ที่เป็นกลาง สาธารณะ , ปลอดภัย(เพราะคนไม่กล้าทำอะไรเนื่องจากเป็นที่เปิด ใครๆก็มองเห็น) จึงมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นครับ
วิธีแก้ปัญหา 1. ร้านต้องเปลีย่นรูปแบบโต๊ะให้เล็กลงกว่านี้นิดนึงเต็มที่ก็วางโน็ตบุคได้เครื่องเดียวพอ 2. ออกโฆษณาทางทีวีให้เจ็บๆ เรื่องมารยาททางสังคม เช่น เห็นคนกำลังสอนอยู่ในร้าน แม่พาลูกกับครอบครัวมากินแม็ค แต่น้อง(ที่หน้าตาน่ารักหาที่นั่งไม่ได้) แล้วก็ลงเอยว่า มาร่วมกันสร้างมารยาททางสังคมที่ดี ...... แล้วก็ลงชื่อหน่วยงาน (กระทรวงอะไรก้ว่าไป) 3. แต่ละโต๊ะไม่มีปลั๊กไฟ หมดปัญหาเรื่องเสียบโน้ตบุคแช่ หรือจะให้มีก็ได้แต่เป็นแบบ Breaker แบบใช้ Timer แยกตามโต๊ะ 4. พยายามทำร้านให้โล่ง ให้เห็นอิริยาบทของคน หรือสิ่งของ เคลื่อนไหวตลอดเวลา เพราะลูกค้าที่มากิน พฤติกรรมของลูกค้าคือการ หยุด นั่ง และกินดื่มกับบรรยากาศ ลูกค้าจะเป็นผู้มองสิ่งรอบตัวที่เคลื่อนไหวไป ร้านโล่งๆจะทำให้พวกติว เสียสมาธิเป็นอย่างมาก 5. พยายามให้มีการทำความสะอาดหรือรบกวนสมาธิบริเวณตรงที่ติวอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นวิธีที่ไม่ดี แต่ถ้าหน้าด้านก็ต้องทำแบบนี้ 6. WIFI ควรมีการขายโดยร้านเอง 7. พยายามให้ร้านมีเสียงเพลง เสียงคลอ ตลอดเวลา ยิ่งเปิดอะไรที่ตลกๆได้ยิ่งดี หรือเปิดอะไรที่สนุกๆรันยาวๆ หรือเปิดข่าว ที่มีข่าวทั้งวัน สดๆ จะดีมากๆ อย่าเปิดหนัง หรืออะไรที่เข้าถึงคนได้ยาก พยายามเปิดอะไรที่เข้าถึงคนได้ง่ายๆ ถ้าเป็นแนวๆสนุกสนาน จะมีผลต่อลูกค้ามากๆ 8. มีจัดกิจกรรมประจำเดือน แบบสุ่ม หรือในวันที่มีคนมาติวเยอะๆ ร้านก็จัดกิจกรรมขึ้นมาให้ร้านวุ่นวาย ต้องไปคิดเอาเองว่าเป็นกิจกรรมแบบไหนครับ อาจจะแจกของเล่นเด็กถ้ากินครบกี่ชุด หรือมีเล่นเกมครอบครัว พ่อแม่ลูกจะได้กินฟรีกี่ชุด อะไรแบบนี้ครับ 9. สุดท้ายก็คือวิธีประชด แบบความเห็นที่ 93 ครับ
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 15:04:43
จากคุณ |
:
sillygang
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 55 15:02:11
|
|
|
|
|