ความคิดเห็นที่ 1 แต่ก่อนจะพาไปชิมก๋ยเตี๋ยวบ้านนอก ผมลงเครื่องเย็นวันเสาร์ถึงเชียงใหม่ประมาณ 5 โมงกว่าๆแต่ยังไม่หิวเท่าไร เลยชวนเพื่อนไปเดินถนนคนเดินวันเสาร์ วัวลาย กันครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:02:27

ความคิดเห็นที่ 2 บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าเอ๊ะเชียงใหม่มีถนนคนเดินวันเสาร์ด้วยเหรอ เคยได้ยินแต่ถนนคนเดินวันอาทิตย์ ขอตอบว่ามีครับ แต่จะตั้งอยู่คนละจุดกัน ถนนคนเดินวันเสาร์จะตั้งอยู่ที่ถนนวัวลาย บ่ายแก่ๆสัก 4-5 โมงเย็นถนนแห่งนี้ก็จะปิดถนนต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่น จับจ่ายซื้อของที่ถนนแห่งนี้ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:04:44

ความคิดเห็นที่ 3 บรรยากาศของถนนคนเดินวันเสาร์ก็ต้องบอกว่าคล้ายของวันอาทิตย์นั่นแหละครับ หลายๆร้านมาขายที่ตลาดถนนคนเดินวันเสาร์ และก็ไปขายวันอาทิตย์อีกด้วย จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:05:44

ความคิดเห็นที่ 4 ของที่ขายก็อาจจะคล้ายๆกันบ้างครับ มีขายทั้งของกิน ของพื้นเมือง แม้แต่ตุ๊กตาน่ารักๆแบบนี้ก็มี จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:06:54

ความคิดเห็นที่ 5 เซ็ตตุ๊กตาหมีที่น่ารักมากๆ สาวๆน่าจะถูกใจ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:07:38

ความคิดเห็นที่ 6 ร้านยิงปืนประลองความแม่น แบบงานวัดสมัยเด็กๆที่พวกเราเคยยิงเล่นกัน จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:09:26

ความคิดเห็นที่ 7 ร้านยิงปืนมีหลายร้านครับ... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:10:04

ความคิดเห็นที่ 8 ร้านนี้ขายกรอบรูปที่ทำจากผลิตภัณฑ์โค้กครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:10:47

ความคิดเห็นที่ 9 ร้านขายรูปภาพคล้ายๆกับถนนคนเดินวันอาทิตย์ก็มี ส่วนตัวชอบรูปสองรูปนี้มาก สวยและมีความหมายดีทีเดียว จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:11:30

ความคิดเห็นที่ 10 เดินเที่ยวเพลินๆมาสะดุดกับร้านนี้ครับ คนมุงซื้อเยอะพอสมควร "ร้านหมี่ยำป้าบัว" พี่คนนึงที่รออยู่เห็นพวกเราไปดูบอก อร่อยมากเลยนะหมี่ยำร้านนี้ พี่ซื้อกินบ่อยๆเลย อ๊ะ!!! แบบนี้ต้องลองครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:13:19

ความคิดเห็นที่ 11 รีวิวอาหาร? จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:13:39

ความคิดเห็นที่ 12 หมี่ยำป้าบัวมีให้เลือกสองแบบ คือ แคบหมู 20 บาท และแบบทะเล 30 บาท จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:14:24

ความคิดเห็นที่ 13 ระดับความเผ็ดมีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ ไม่เผ็ด (อนุบาลทานได้) เผ็ดน้อย (อร่อยพอดี) เผ็ดปานกลาง (อร่อยเข้มข้น) และ เผ็ดมาก จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:16:24

ความคิดเห็นที่ 14 น้ำยำ ถ้าจำไม่ผิดน้ำยำในภาพเป็นระดับความเผ็ดแบบปานกลางครับ...เราสั่งแบบนี้แหละ เผ็ดปานกลาง ไม่กล้าสั่งเผ็ดมาก เพราะพี่ที่ขายบอกเผ็ดปานกลางก็เผ็ดแล้วละ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:18:30

ความคิดเห็นที่ 15 ปาดมารอต่อ จากคุณ : gus9642 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:20:36

ความคิดเห็นที่ 16 ได้มาแล้วครับ หมี่ยำป้าบัว ระดับความเผ็ดปานกลาง รสชาติจัดจ้านมาก กินไปซู้ดไป แบบอารมณ์ประมาณว่าเผ็ดนะ แต่อร่อย อยากกินอีกประมาณนั้นเลยครับ ใครอยากกินหมี่ยำป้าบัว  เท่าที่สอบถามขายแค่อาทิตย์ละ 2 วัน วันเสาร์ขายที่ถนนคนเดินวัวลาย ต้นถนนเลยครับ เดินเข้าถนนก็เจอเลยหาไม่ยาก ส่วนวันอาทิตย์แกบอกว่าขายที่ถนนคนเดินวันอาทิตย์เช่นกัน แต่อยู่ตรงไหนผมไม่รู้นะเพราะมันกว้างมากๆ ส่วนวันจันทร์-ศุกร์หยุดขายเนื่องจากแกทำงานประจำด้วยครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:21:32

ความคิดเห็นที่ 17 เสร็จจากถนนคนเดินวัวลาย เรามุ่งหน้าไปแถวโรงเรียนหอพระ เส้นทางเดียวกับวัดพระสิงห์ เพื่อไปชิม "ก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก" ตามที่เกริ่นไว้ครับ อย่างที่บอกว่าผมได้แรงบันดาลใจจากรีวิวนี้ เลยอยากตามไปชิมครับ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/06/D12243367/D12243367.html จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:24:43

ความคิดเห็นที่ 18 รอกินก๋วยเตี๊ยวบ้านนอก .. จากคุณ : ลูกสาวแม่ใหญ่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:25:35

ความคิดเห็นที่ 19 ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก จะมีขายเฉพาะเส้นบะหมี่เท่านั้น ไม่มีเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หมี่ขาว ใดๆทั้งสิ้นครับ  เมนูมีทั้งหมด 6 เมนู คือ บะหมี่ต้มยำบ้านนอก บะหมี่กระดูกหมูตุ๋น บะหมี่ต้มยำไข่ บะหมี่ต้มยำ บะหมี่น้ำตก และบะหมี่น้ำใส จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:27:18

ความคิดเห็นที่ 20 ปาดขวาค่ะ น้ำลายสอ จากคุณ : ชอนวอน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:28:08

ความคิดเห็นที่ 21 ร้านนี้คนขายมี 2 คนครับ ผู้ชายจะเป็นคนปรุง และผู้หญิงจะเป็นคนเสิร์ฟ ทางร้านไม่รับแบงค์ 500 และแบงค์ 1000 เพราะไม่มีทอนนะครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:28:53

ความคิดเห็นที่ 22 ขอแทรกหน่อย  ต้นปีหน้าผมจะขึ้นไปเชียงใหม่พอดี ต้องหาโอกาสไปทานให้ได้ครับ จากคุณ : Floatation เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:30:33

ความคิดเห็นที่ 23 ร้านเปิดบ่ายๆถึงสองทุ่มโดยประมาณ ไม่มีซื้อกลับบ้าน ใครอยากทานต้องมาทานที่ร้านเท่านั้นครับ มาถึงใครอยากทานอะไรมีกระดาษกับปากกาในกระป๋อง ให้เขียนรายการอาหารที่ต้องการแล้วยื่นให้พ่อค้าแม่ค้าครับ... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:30:36

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเส้นเล็กยำที่หนึ่งคะ  ขอแบบพิเศษเลยนะคะ ^ ^ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:31:12

ความคิดเห็นที่ 25 อ้อ เกือบลืมทางร้านปิดวันพุธนะครับ ไม่ต้องไปทานกันสำหรับวันนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่เท่าที่เห็นจะเป็นเด็กซะเยอะ โดยเฉพาะน้องๆจากโรงเรียนหอพระที่อยู่ใกล้ๆกัน เดินทางมาทานเป็นอาหารเย็นก่อนกลับซะเยอะเลย เจ้าของร้านเรียกลูกทุกคำเลย (เจ้าของร้านยังไม่แก่นะครับ เท่าที่ประมาณดูผู้ชายน่าจะไม่เกินสามสิบกลางๆหรืออาจจะต้นๆด้วยซ้ำ ผู้หญิงนี่ก็อาจจะไม่เกินสามสิบปี) แล้วก็ทางร้านมีโต๊ะน้อยครับ เท่าที่กะเกณฑ์ด้วยสายตา ผมว่านั่งได้ไม่น่าเกิน 15 คนพร้อมๆกันนะ และด้วยเหตุที่โต๊ะน้อย แต่ลูกค้าเยอะ เจ้าของร้านเลยออกกฎเกณฑ์ต่างๆออกมาเพื่อคุมลูกค้า (โดยเฉพาะเป็นลูกค้าเด็กๆเป็นส่วนใหญ่ด้วย) บางคนอาจจะคิดว่าร้านนี้เรื่องเยอะ แต่ลองไปสัมผัสดูเถอะครับ เจ้าของร้านพูดจาสุภาพเรียบร้อยและเป็นมิตรมากๆ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:34:38

ความคิดเห็นที่ 26 มีเพื่อนๆมารอทานต้มยำกันเยอะเลยแฮะ อิอิ งั้นเริ่มต้นด้วยเครื่องปรุงก่อนเป็นไรครับ เครื่องปรุงสี่สหาย พริกดอง พริกป่น น้ำตาล พริกเผาพร้อมครับ...แต่บอกกันก่อนว่าให้ชิมก่อนปรุงนะครับ เพราะของเค้ารสชาติจัดจ้านพร้อมทานอยู่แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 16:37:07 จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:36:27

ความคิดเห็นที่ 27 ขอเริ่มต้นด้วย บะหมี่ต้มยำบ้านนอก อันเปรียบเสมือน signature ของทางร้านครับ... ถ้าคุณคิดถึงบะหมี่ต้มยำแบบทั่วๆไป คงจะคิดว่าชามนี้คงเหมือนบะหมี่ต้มยำที่คุณเคยกิน ขอบอกว่าให้ลืมมันไปซะ...เพราะต้มยำบ้านนอกไม่เหมือนบะหมี่ต้มยำชามไหนๆที่ผมเคยกินในประเทศไทยเลย จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:38:44

ความคิดเห็นที่ 28 น้ำซุปของเค้าปรุงรสมาเฉพาะ เป็นสูตรเฉพาะที่เจ้าของร้านเค้าคิดเองครับ เวลาตักน้ำซุปจะมีรสสมุนไพรและเครื่องเทศอยู่เต็มปากไปหมด และรสชาติเผ็ดร้อนถึงใจจริงๆครับ...หมูตุ๋น ตับ ฯลฯ ที่ใส่มาล้วนเป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับปริมาณและราคาต้องบอกว่า ถูกมาก ครับ... อ้อ ใครไม่ชอบรสจัดสั่งได้นะครับ เอาแบบเผ็ดน้อยๆหรือไม่เผ็ดเค้าสามารถทำให้ได้ครับ แต่ถ้ากินเผ็ดไหว ผมอยากให้ลองเวอร์ชั่นปกตินี่แหละครับ ซี้ดซ้าดสะใจจริงๆ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:41:47

ความคิดเห็นที่ 29 ส่วนใครไม่ชอบเผ็ด ให้เลือกเมนู บะหมี่กระดูกหมูตุ๋น ครับ  รสชาติไม่ร้อนแรง แต่กลมกล่อม อร่อยมากๆๆเช่นกัน จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:44:11

ความคิดเห็นที่ 30 ทริปหน้าเจอกันนะคะเชียงใหม่ ขอบคุณค่ะ จขกท จากคุณ : snyggen เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:44:27

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นแล้วน้ำลายแตกฟองทันทีเลยคราบ จากคุณ : ทนายอ้วน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:45:47

ความคิดเห็นที่ 32 แต่ไหนๆถ่อไปกินตั้งไกลแล้ว หากกินไหว ผมแนะนำให้สั่งทั้ง บะหมี่ต้มยำบ้านนอก และ บะหมี่กระดูกหมูตุ๋น เลยครับ จะได้กินทั้งแบบเผ็ดร้อน และแบบกลมกล่อมตัดกันดี เอาบะหมี่ต้มยำบ้านนอกมาก่อน แล้วตัดรสเผ็ดด้วยบะหมี่กระดูกหมูตุ๋น สูตรนี้ดูจะเข้าทีดีทีเดียว ใครอยากไปลองจะเอาสูตรนี้ไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:46:33

ความคิดเห็นที่ 33 ผมชอบขนาดประเดิมมื้อแรกด้วย ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก   ขากลับก่อนกลับก็แวะมากินอีกสักรอบครับ ถือเป็นการส่งท้าย เจ้าของร้านบอกว่าเชียงใหม่มีร้านเยอะ ไปลองทานร้านอื่นดูก่อนก็ได้นะ แต่ไม่เอาครับ ผมชอบ อยากกลับไปกินอีกรอบ อิอิ มาก่อนใครกับ บะหมี่ต้มยำบ้านนอก สูตรไม่เผ็ดของเพื่อนผมครับ ลองเปรียบเทียบสีสันกับภาพในความเห็น 27-28 ดูนะครับว่าแบบไม่เผ็ด กับ แบบปกติในความเห็น 27,28 ดูแตกต่างกันไหม... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:50:01

ความคิดเห็นที่ 34 น่าทานนนนน จากคุณ : Pantip me via New iPad (กินรีสีชมพู) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:50:25

ความคิดเห็นที่ 35 มารอบสองแต่เพื่อนผมยังติดใจ บะหมี่กระดูกหมูตุ๋น เลยสั่งเหมือนเดิมเลย... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:51:12

ความคิดเห็นที่ 36 ส่วนผมไม่ชอบกินซ้ำครับ เลยลองเมนูใหม่ บะหมี่ต้มยำไข่ต้ม... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:52:44

ความคิดเห็นที่ 37 ....... แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 15:56:23 จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:55:22

ความคิดเห็นที่ 38 บะหมี่ต้มยำไข่ต้ม...จะแตกต่างจากบะหมี่ต้มยำบ้านนอกตรงที่ จะใส่น้ำพริกเผาลงไปครับ เจ้าของร้านเล่าว่า คิดค้นสูตรบะหมี่ต้มยำบ้านนอกขึ้นมาก่อน แต่ขายไปเรื่อยๆ คิดค้นปรับปรุงสูตรโดยเอาน้ำพริกเผาเติมเข้าไปในบะหมี่ต้มยำ พร้อมใส่ไข่ต้มลงไปด้วย ปรากฎว่าขายดีไม่แพ้บะหมี่ต้มยำบ้านนอก  โดยเฉพาะน้องๆนักเรียนผมเห็นสั่ง บะหมี่ต้มยำไข่ต้ม เป็นอันดับ 1 เลยครับ รสชาติร้อนแรงไม่แพ้ "บะหมี่ต้มยำบ้านนอก"เลย... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:56:05

ความคิดเห็นที่ 39 หิวตาลาย \\(@_@)// จากคุณ : apotheker เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:56:39

ความคิดเห็นที่ 40 และปิดท้ายกับอีกเมนูที่ผมได้ลองกัน คือ บะหมี่น้ำตก อีกเมนูที่ผมทดลองสั่งดู คุยกับเจ้าของร้านบอกว่าจะคล้ายๆน้ำตกทั่วไป แต่ที่แตกต่าง คือ เค้าจะใส่เครื่องเทศมากเป็นพิเศษ เวลาซดน้ำซุปจะได้กลิ่นเครื่องเทศในปาก และจะไม่เหม็ดสาบเลือดแบบก๋วยเตี๋ยวน้ำตกทั่วๆไป จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:58:40

ความคิดเห็นที่ 41 น้ำลายไหลลลลลล จากคุณ : jayawin เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:00:16

ความคิดเห็นที่ 42 แม้ว่าสีสันของ บะหมี่น้ำตก จะดูดำปิ๊ดปี๋ แต่รสชาติถือว่าดีทีเดียวครับ คงถูกใจสำหรับคนชอบกินน้ำตก แต่ไม่ชอบกลิ่นเลือดจากก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เจ้าของร้านจริงๆเป็นคนกรุงเทพฯ แต่มาอยู่เชียงใหม่ได้ 12 ปีแล้ว เพราะมาแล้วชอบ เบื่อความวุ่นวายของคนกรุงเทพฯ เลยมาอยู่เชียงใหม่ครับ แวะไปพูดคุย และชิมก๋วยเตี๋ยวได้ ขาดอีกสองเมนูที่ผมไม่ได้ลอง คือ บะหมี่น้ำใส กับ บะหมี่ต้มยำ (แบบธรรมดา) เพื่อนๆที่จะไปเชียงใหม่ฝากลองชิมแล้วมาบอกต่อกันด้วยนะครับว่าอร่อยหรือเปล่า... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:01:16

ความคิดเห็นที่ 43 อ้อ ฝากนิดสำหรับเรื่องห้องน้ำ เพราะสถานที่คับแคบ ห้องน้ำที่นี่เลยไม่มีประตูแต่จะอาศัยม่านรูดเปิดปิด สำหรับผู้ชายคงไม่เท่าไร แต่ผู้หญิงที่ไปเข้าก็ดูกันสักนิดนะครับ ถ้ามีผ้าม่านปิดอยู่คุณผู้ชายอย่าเผลอไปเปิดเชียวล่ะ  แต่ยังไงเจ้าของร้านเค้าดูอยู่ตลอดว่ามีคนเข้าหรือเปล่านะครับ.... ก็ฝากกันไว้สำหรับร้าน ก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก ไปลองชิมกันดู ผมว่าระเบียบกฎเกณฑ์ที่เค้าวางไว้ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาครับ เพียงแต่เราอาจจะรู้สึกไปเองว่าเยอะหรือเรื่องมาก จริงๆไม่มีอะไรเลย ผมบอกได้เลยว่าเจ้าของร้านเป็นคนสุภาพ พูดจาดีมากๆครับ ไปลองเถอะครับ ร้านที่ทั้งอร่อย และราคาถูกๆแบบนี้ ไม่อยากให้พลาดการไปชิมจริงๆครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:05:43

ความคิดเห็นที่ 44 ดูแค่รูปก็รู้ว่าอร่อยแน่ๆเลยครับ จากคุณ : คิดนอกกรอบ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:09:47

ความคิดเห็นที่ 45 ยังไม่จบครับ มีอีกร้านที่อยากลอง จากกระทู้นี้มีอีกร้านที่อยู่ในละแวกเดียวกับ ก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก ระยะห่างกันเพียง 110 เมตร (วัดจาก Gps) http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9641324/E9641324.html ดูจากกระทู้ด้านบนเลยแวะไปลองด้วยเลยทีเดียวว่าอร่อยจริงไหมนะครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:10:30

ความคิดเห็นที่ 46 ร้านเต็งหนึ่งเป็นร้านอาหารตามสั่งราคาถูกเมื่อเทียบกับปริมาณ  ราคาอาหารจานหนึ่งตกเพียง 30-35 บาทเท่านั้น จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:12:01

ความคิดเห็นที่ 47 ผมลองสั่ง ข้าวกระเพราะไก่กรอบ  สนนราคา 35 บาท จัดข้าวมาซะสวยเลย เป็นรูปหัวใจ  รสชาติเท่าที่ชิมออกหวานเป็นหลักครับ ไม่ค่อยได้กลิ่นกะเพราเท่าที่ควร  รสชาติเหมือนทำให้ฝรั่งทานมากกว่าให้คนไทยทานครับ แต่ใช้ได้นะครับ ใครที่ไม่ชอบเผ็ดลองไปทานดูครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:13:51

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนเพื่อนผมสั่ง "ข้าวหน้าสตูว์หมู" สนนราคาไม่แน่ใจว่า 30 หรือ 35 บาท รสชาติติดหวานเช่นกัน  คิดว่าเหมาะกับฝรั่งทานมากกว่าคนไทยทาน ตอนไปทานเห็นฝรั่งนั่งในร้านเหมือนกันครับ  แต่ถ้าใครอยากทานอาหารตามสั่งราคาประหยัด แต่ไม่ชอบแบบเผ็ดร้อน ลองมองไว้เป็นตัวเลือกดูครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:15:54

ความคิดเห็นที่ 49 ทานอิ่มแล้วไปเที่ยวกันต่อ พาไปเดินย่อยอาหาร และเที่ยวชม วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ที่ไม่ไกลจากสองร้านที่พาไปชิมกันครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:19:04

ความคิดเห็นที่ 50 วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง" จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:20:08

ความคิดเห็นที่ 51 ประวัติ พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์เม็งราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 ขั้นแรกให้ก่อสร้างเจดีย์สูง 23 วา เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีก 2 ปี จึงได้สร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฏิสงฆ์ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขึ้นครองนครเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย เมื่อขบวนช้างอัญเชิญมาถึงหน้าวัด ช้างก็ไม่ยอมเดินทางต่อ พระเจ้าแสนเมืองมา จึงโปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐาน ณ วัดลีเชียงพระ ประชาชนทางเหนือนิยมเรียกพระพุทธสิหิงค์ ว่า "พระสิงห์" จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัดพระสิงห์" ในปี พ.ศ. 2360 พระญาธัมมลังกา หรือพระเจ้าช้างเผือกธรรมลังกา พระอนุชาของพระเจ้ากาวิละ โปรดให้บูรณะพระอุโบสถและพระเจดีย์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2467 เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์สุดท้าย พร้อมด้วยครูบาศรีวิชัย และประชาชนชาวเชียงใหม่ ได้ร่วมกันบูระฃณะปฏิสังขรณ์วัดพระสิงห์อีกครั้ง และได้มีการขุดพบสิ่งของมีค่ามากมาย อาทิ แผ่นทองคำจารึกเรื่องราวต่างๆ โกศบรรจุอัฐิพระญาคำฟู แต่สิ่งของเหล่านี้สูญหายไปในช่วงสงครามเอเชียบูรพา และในปี พ.ศ. 2493 วัดพระสิงห์(ศาสนา) ได้รับโปรดเกล้าให้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:21:04

ความคิดเห็นที่ 52 ตำนานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางสมาธิ สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร [2]เป็นศิลปะแบบลังกา ตามประวัติกล่าวว่า พระเจ้าสีหฬะ พระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีป ทรงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 700 ต่อมา เจ้านครศรีธรรมราชได้ไปขอมาถวายพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย เมื่อสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยาได้กรุงสุโขทัยเป็นเมืองขึ้น จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมืองกำแพงเพชรและเชียงราย เมื่อพระเจ้าแสนเมืองมา เจ้านครเชียงใหม่ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่เชียงใหม่พร้อมกับพระแก้วมรกต เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตีเมืองเชียงใหม่ได้เมื่อ พ.ศ. 2205 ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ์กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานถึง 105 ปี เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แก่พม่าใน พ.ศ. 2310 ชาวเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปที่เชียงใหม่ เมื่อมณฑลพายัพได้กลับมาเป็นของไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทโปรดให้อัญเชิญลงมายังกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2338 ปัจจุบันพระพุทธสิหิงค์ ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล[3] โดยจะมีพิธีเชิญออกมาช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ประชาชนไทยได้สักการะและสรงน้ำ ส่วนพระสิงห์ที่ประดิษฐานที่วัดแห่งนี้เป็นพระพุทธรูปจำลอง ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:22:12

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ไกลจากวัดพระสิงห์ เราไปเที่ยวชมกันอีกวัด วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:24:09

ความคิดเห็นที่ 54 วัดเจดีย์หลวงสร้างอยู่กลางใจเมืองเชียงใหม่ ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรล้านนา ตั้งอยู่เลขที่ 103 ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ภายในวัดประมาณ 32 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:24:53

ความคิดเห็นที่ 55 วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่ มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราชกุฏาคาร วัดโชติการาม สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ. 1928-พ.ศ. 1945 วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ มีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ ที่ปัจจุบันมีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในเชียงใหม่ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:25:29

ความคิดเห็นที่ 56 พระธาตุเจดีย์หลวงนั้นถือว่าเป็นพระธาตุที่มีความสูงที่สุดในภาคเหนือ หรือล้านนา คือ สูงประมาณ 80 เมตร เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณด้านละ 60 เมตร ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ถือว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดของเมืองเชียงใหม่ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:27:10

ความคิดเห็นที่ 57 กระทู้เริ่มจะยาว ขอทิ้งภาพ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ไว้ที่ภาพนี้นะครับ... จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:28:22

ความคิดเห็นที่ 58 ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวพระธาตุดอยสุเทพ สวนสัตว์เชียงใหม่ และพาไปชิม ขาหมูเยอรมัน GM ร้านชื่อดังอีกร้านของจังหวัดเชียงใหม่ พบกันใหม่ตอนหน้าซึ่งเป็นตอนจบของรีวิวชุดเชียงใหม่-ลำพูนนะครับ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:31:12

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ น่าทานมากมายครับ จากคุณ : JO-Kung เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:37:21

ความคิดเห็นที่ 60 บะหมี่น่ากินทุกชามเลยค่ะ แต่ถ้าชามสุดท้ายเปลี่ยนจากไข่ต้มเป็นไข่ยางมะตูม จะเริ่ดกว่านี้ ^^ จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:55:01

ความคิดเห็นที่ 61 น้ำลายไหล จากคุณ : Aunjairam เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 17:16:47

ความคิดเห็นที่ 62 อยากได้บะหมี่ต้มย้ำไข่ต้ม เมนูอื่นก็น่าทาน จากคุณ : golove2 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 17:41:42

ความคิดเห็นที่ 63 คราวหน้าต้องตามไปลองบะหมี่ร้านนี้บ้าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:24:16

ความคิดเห็นที่ 64 ดูสีแล้ว แซ่บแน่นอน จากคุณ : ปลาร้าชุบแป้งทอด เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:53:53

ความคิดเห็นที่ 65 น่าทานมากครับ แต่ผมว่าห้องน้ำ จะทำประตูก็ทำได้นะ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่แคบ   และควรทำเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : เช้าสายบ่ายเย็น เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 20:07:23

ความคิดเห็นที่ 66 อยากไปกินค่ะ แต่กลัวอึดอัด เพราะแอบกลัวเจ้าของร้าน อิอิ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 20:22:24

ความคิดเห็นที่ 67 กินแล้วเครียด ต้มมาม่าเปิดพัดลมนอนกินอยู่บ้านดีกว่า จากคุณ : SweetKaw-Sweet เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 20:49:03

ความคิดเห็นที่ 68 ที่จริงผมเจตนาเอาร้านนี้มารีวิว เพราะอยากให้เปลี่ยนทัศนคติ เพราะเท่าที่สัมผัสมาเจ้าของร้านอัธยาศัยดีมากๆ พูดจาดี สุภาพเรียบร้อย ไม่ได้เป็นอย่างที่หลายท่านกลัวเลย แถมก๋วยเตี๋ยวรสชาติอร่อยมาก ควรค่าแก่การไปลองอย่างยิ่ง (ถ้าได้ไปเที่ยวหรืออยู่เชียงใหม่อยู่แล้ว)     แต่หลายความเห็นก็ยังกลัวอึดอัด กลัวเจ้าของร้าน กลัวกินแล้วเครียด ใจผมอยากให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ถ้าไม่ได้ไปลองจะรู้ได้ไงว่าเจ้าของร้านน่ากลัวอย่างที่ท่านคิดจริงหรือเปล่า   เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสลองไปทานดูครับ อย่าเพิ่งไปปิดกั้นตัวเองทั้งที่ยังไม่ได้ไปลองทานเลย ลองดูนะครับแล้วเอามาแลกเปลี่ยนกันครับ ^^ จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:03:47

ความคิดเห็นที่ 69 เรารู้สึกว่าร้านที่กฏระเบียบเยอะไปนั่งทานมันคงอึดอัด ขอดูแค่รีวิวนี้ก็พอ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:27:21

ความคิดเห็นที่ 70 มีแต่บะหมี่  ทำไมชื่อก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 00:24:55

ความคิดเห็นที่ 71 ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านนอกน่ากินมากครับ จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 04:43:23

ความคิดเห็นที่ 72 อ่า ได้ที่เที่ยวในเชียงใหม่เพิ่มแล้ว ขอบคุณเจ้าของกระทู้คร่า จากคุณ : Beyond expectation เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:14:27

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ น่าทานมาก อยากไปตามรอยบ้างจัง จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:30:46

ความคิดเห็นที่ 74 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D12613357/D12613357.html ตอนจบมาแล้วครับ พาไปชิมไส้กรอก และขาหมูเยอรมันบุฟเฟต์ G&M จากคุณ : mr_spurs เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 19:14:43

ความคิดเห็นที่ 75 ก๋วยเตี๋ยวน่ากินมาก ระเบียบจัดไม่เป็นไร เพราะเราก็เจ้าระเบียบเหมือนกัน คนไทยเดี๋ยวนี้ทำอะไรตามใจตัวเองมากเกินไป ไม่นึกถึงคนอื่นจนบางครั้งเหมือนคนไม่มีมารยาท ต้องหัดมีระเบียบและวินัยบ้างก้ดี จากคุณ : ตึ่งหนั่งเกี้ย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:26:45

ความคิดเห็นที่ 76 เป็นร้านโปรดเลยค่ะร้านนี้ อร่อยมากขอบอก บางทีหลงวันไปวันพุธเสียอารมณ์ทุกที ไม่อึดอัดนะคะ ไม่มีอะไรมากเลย อย่าไปสนใจอะไรมากค่ะแค่ปฏิบัติตามกฎ ไปถึงหยิบปากกา เขียนๆ ส่งให้เจ้าของร้าน รอ ทาน ทานเสร็จ จ่ายเงิน แค่นี้เองค่ะ เค้าไม่กดดันเราเลยค่ะ พี่เค้าเป็นกันเองมากๆ ค่ะ วันแรกที่เราไปร้านนี้ มันเผ็ดมากหน้าแดงปากแดง พี่เค้ายังแซวเป็นปกติค่ะ อย่าคิดมากค่ะ กฎทุกอย่างเราทำได้อยู่แล้ว ง่ายยิ่งกว่าปฏิบัติตามกฎจราจรอีกนะคะ จากคุณ : eii-ploiiz เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 03:31:12

ความคิดเห็นที่ 77 อ่อ สำหรับชื่อที่ว่าก๋วยเตี๋ยวบ้านนอก แล้วทำไมมีแต่บะหมี่ เหมือนก่อนตอนไปทานเห็นมีก๋วยเตี๋ยวนะคะ แต่เดี๋ยวนี้ทำไมมีแต่บะหมี่ไม่รู้ จำได้ว่าเคยสักวุ้นเส้น เค้าบอกไม่มีแอบกัวโดนด่า ฮ่าๆ จากคุณ : eii-ploiiz เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 03:37:17