ความคิดเห็นที่ 1 ไปกินแกงส้มตามร้านอาหาร หวานทุกร้าน ยังกะกินน้ำเชื่อม จากคุณ : uorda เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 06:21:25

ความคิดเห็นที่ 2 เขาทำตามความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ ลองคิดกลับกันดูนะครับ ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่อยากกินหวาน พอเจ้าของร้านทำอาหารแล้วหวานเกินไป ลูกค้าก็ช่วยกันติ เขาก็จะไม่ใส่รสหวานมากเกินไปหรอกครับ ถ้าเขาไม่ใส่รสหวานเขาก็โดนลูกค้าว่า แต่รสหวานที่แหลมขึ้นมาบางทีอาจเกิดจาก ผงชูรส ก็ได้นะครับ จากคุณ : นายหมีพูห์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 06:29:52

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยความเคารพ จขกท. รสชาติอาหารไทย เป็น ปัจจัตตัง ครับ อาหารไทยเป็นอาหารที่ยังไม่ตายครับ คนไทยต่างกับคนชาติอื่นๆ มีลิ้นที่มีสีสรร ลิ้นใครลิ้นมัน รสชาติที่แท้จริง รสชาติดั้งเดิม ที่ว่า เอาลิ้นใครมาวัดครับ เอาอะไรมาเป็นมาตรฐานตัดสินครับ ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย หวาน อร่อย ไม่หวาน อร่อย ไปชิมร้านดังๆ มีอาจารย์ชื่อดังท่านนึงที่ออกสื่อบ่อย ผมตามไปกินแล้ว ผมจะเสียมารยาท ถ้าจะบอกว่าอาหารร้านนั้น รสชาติสุนัขไม่รับประทาน มันก็เป็นเรื่องของลิ้นผม แค่อยากจะสื่อว่าอย่าคิดเองเออเองครับ เค็ม อร่อย เปรี้ยว อร่อย หวาน อร่อย เผ็ด อร่อย มีแต่เกรียน เท่านั้นที่ฟันธงได้ ขอโทษล่วงหน้า หากความเห็นของผม มันขัดแย้ง กับศูนย์กลางของจักวาลครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 06:51:31 จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 06:50:15

ความคิดเห็นที่ 4 ปล.1 ผมไม่ทราบว่า จขกท. อายุเท่าไหร่ผมไม่ทราบ เป็นเด็กประถม หรือ อาจเป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่ผมก็ได้ มาม่าต้มยำกุ้ง รสชาติที่เค้า R&D มา ผมว่ามันจืดชืดไปครับ ผมต้องเติม น้ำปลา น้ำพริกเผา บีบมะนาว เติมน้ำตาล พริกป่น เป็นประจำ ก็ผมชอบของผมอย่างนี้อ่ะครับ ปล.2 กะเพรา คือ กะเพรา ไม่ใช่ กระเพรา ครับ จากคุณ : ดราม่าไปอย่าให้เสีย (Are Yoi) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 07:21:25

ความคิดเห็นที่ 5 ขอน้อมรับครับผมเพิ่งจะ 30 เองผมแค่ไม่อยากให้อาหารไทยรสชาติต้องเปลี่ยนไปจากเดิมที่มันเป็นเท่านั้น ส่วนที่พิมพ์ผิดผมขออภัย(^_^) ผมถึงอยากทราบความคิดเห็นของแต่ละท่าน ขอบคุณครับ และผมก็ไม่ชอบทำตัวเป็นศูนย์กลางฯ อย่างอาหารทางใต้ที่รสชาติส่วนใหญ่จะเผ็ดแบบ แกงเหลืองหน่อไม้ ถ้าทำออกมาหวาน หรือเค็มเด่นออกมาจะเรียกว่าแกงเหลืองหน่อไม้อยู่หรือเปล่า (ทวดผมที่เสียท่านเคยอยู่ห้องเครื่องในวัง แต่ไม่รู้วังไหน ผมไม่ได้ความรู้ด้านทำอาหารจากท่านเพราะ ท่านเสียตอนผมยังเด็ก น่าเสียดาย) แก้หลายรอบเพราะพิมพ์ในมือถือมันชอบโดนตัวอื่นขึ้นมาด้วย แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 08:21:48 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 07:50:52 จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 07:42:08

ความคิดเห็นที่ 6 หัวข้อกระทู้ก็แจ้งไว้นะครับว่าขอความเห็น ผมไม่ได้ว่า ๆ หวามไม่อร่อย เค็มไม่อร่อย เผ็ดเปรียวไม่อร่อย จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 07:54:16

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าอาหารไทยพื้นฐานมีรสหวานเกือบทุกอย่าง ( อันที่จริงเราก็ไม่รู้ว่าอะไรคืออาหารไทยแบบแท้ๆ ) เช่นแพนง,แกงเขียวหวาน,แม้แต่ต้มยำหรือกะเพรา ถ้าไม่มีหวานในปริมาณที่ต่างกันรสชาดคงแปลกๆ จากคุณ : orange coral (orange coral) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:19:57

ความคิดเห็นที่ 8 7 ใช่ครับส่วนที่อยากสื่อ อหารแบบไหนที่รสต้องหวานมันก็ต้องเป็นแบบนั้นถูกต้องครับ จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:25:38

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วอะไรคือดั้งเดิมล่ะครับ เอามาตรฐานไหนมาตัดสินวาดั้งเดิมต้องเปรี้ยว-เผ็ด หรือดั้งเดิมต้องหวานแหลม? ไอ้ที่กินกันอยู่อาจจะเป็นดั้งเดิมก่อนที่คนสมัยก่อนจะเปลี่ยนจากน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสหวาน มาเป็นรสเปรี้ยวเผ็ด ด้วยรสชาติสมัยนิยมในยุคนั้น แล้วคนปัจจุบันมาเปลี่ยนให้เป็นรสชาติหวานแบบเดิมก็ได้ ปล. รสชาติ หรือ รสชาด ผมว่ามันก็ถูกทั้งนั้น จะมีใครมาดราม่ากับผมต่อในจุดนี้ไหม? จากคุณ : ดราม่าไปอย่าให้เสีย (basicball) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:28:09

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:33:03

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่น่าเชื่อกระทู้นี้จะมีคนอ่านแล้วไม่พอใจ จากคุณ : ayres เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:33:10

ความคิดเห็นที่ 12 เอาเป็นว่าผมคิดผิดไปเองแล้วกันนะครับ ผมต้องขออภัยทุกท่านด้วยต่อจากนี้คงจะไม่ตั้งกระทู้ไร้สาระอย่างกระทู้นี้อีก จะเป็นผู้ดูอย่างเดียว ขออภัยทุกท่านด้วย จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:38:07

ความคิดเห็นที่ 13 รสชาติดั้งเดิมคืออะไรเหรอคะ ในเมื่อรสชาติก็ถูกปรุงขึ้นมาในความรู้สึกคนทำว่ามันอร่อย แนะนำให้ดูตำนานรักดอกเหมย ตอนบ่ายโมงกว่า ๆ นี่เลยค่ะ เรื่องราวการแข่งขันระหว่างรสชาติอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมจากสูตรของพ่อครัวหลวงคนสุดท้าย และเชฟรุ่นใหม่ ที่เข้ามาสืบทอดกิจการ ปรับรสชาติ เพื่อให้ถูกปากคนต่างชาติมากยิ่งขึ้น จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:40:55

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็น ความชอบ ไม่มีถูกผิดหรอกค่ะ คุณจขกท อย่าเพิ่งนอยด์เนาะ   เราแสดงความคิดเห็นได้ ในขอบเขตของความสุภาพและมีมารยาทนะ ถึงแม้เราอาจจะเห็นต่างกันก็เถอะ ความแตกต่างของอาหารไทยสมัยนี้ เราว่าอยู่ที่ความปราณีตนะคะ ส่วนรสชาติ ก็แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ตามความชอบของแต่ละบ้าน หวานน้อย อ่อนเข้ม ตามความสะดวกปาก สะดวกใจ นอกเรื่อง.. อาหารมันมีวิวัฒนาการ ก็เพื่อตามหารสชาติใหม่ๆ บางครั้ง ก็เพราะความจำเป็นจากการขาดวัตถุดิบ (เมื่ออยู่ต่างท้องถิ่น) จึงต้องดัดแปลง แต่แม้จะเปลี่ยน วัตถุดิบผิดแผกไปจากที่เคยบ้าง หลายจาน หัวใจมันก็ยังเป็นชาติพันธุ์ของจานนั้นๆแหล่ะ จากคุณ : I_JeejunBo เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:48:34

ความคิดเห็นที่ 15 เราก็เป็นคนนึงที่ไม่ชอบอาหารออกหวานค่ะ แล้วเดี๋ยวนี้ก็รู้สึกเหมือนที่ เจ้าของกระทู้ว่าแหละค่ะ อาหารทุกอย่างจะออกหวานโดดขึ้นเรื่อย ๆ ร้านบางร้านที่แนะนำกัน เคยลองไปชิมแล้ว สามีแซวเราว่า เก่งมากแนะนำร้านนี้ เพราะว่า เราจะประหยัด ไม่ต้องสั่งขนมหวานมาทานต่อเลย 55555 จริง ๆ เราว่า เป็นไปตามสมัยนิยมค่ะ รสหวานเป็นรสที่ถูกปากคนส่วนใหญ่ เพื่อมาทดแทนรสธรรมชาติ อาจจะเป็นเพราะทุกวันนี้ ถ้ามัวนั่งละเมียด ตุ๋นเพื่อให้ได้ซุปหวานธรรมชาติ หรือว่า มีกลิ่นหอมที่ได้จากเตาถ่าน อะไรแบบนี้ คงเป็นเรื่องยาก ตามธรรมชาติรสหวานจะติดได้ง่าย ทำให้เรากินหวานมากขึ้น ๆ โดยไม่รู้ตัวจนชินอ่ะค่ะ เลยกลายเป็น หวาน = อร่อย เคยอ่านกระทู้ใรหว้ากอเรื่อง รสหวานและ การติดหวานเนี่ยอ่ะค่ะ   เราก็เลยต้องเลือกค่ะเวลาจะทานร้านไหน ถ้า หวานมาก ก็ครั้งเดียวค่ะ เป็นคนชอบขนมหวานนะคะ แต่ไม่ชอบคือ อาคาวที่ออกรสหวานเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 09:03:28 จากคุณ : รัตติกัลยา เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:51:57

ความคิดเห็นที่ 16 รสหวานจะติดง่ายน่ะครับ :o) จากคุณ : Marwin เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:56:35

ความคิดเห็นที่ 17 นานาจิตตังค่ะ ต่างคนต่างที่มา ต่างความต้องการ ไม่มีตายตัวว่าแกงนี้ต้องรสนี้อร่อย ครอบครัวเราทำทานเองที่บ้านตลอด เพราะเรารู้ว่าใครชอบอะไร ชอบรสไหน แบบสั่งกันได้เลย เช่น แม่เราชอบแกงส้มหวาน สามีชอบยำหวาน ประมาณนี้ จากคุณ : taklomklom เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:03:00

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ คือผมสื่อความหมายให้ไม่เข้าใจกันเองนะครับ ดั่งเดิมที่หมายถึงคือ ไม่ใช่แบบโบราณ แต่เป็นแบบถ้าเราสั่งต้มยำพอจะนึกออกหไมครับว่ารสต้องเป็นไง และมีอะไรบ้าง แต่พอต้มยำมา รสกับเหมือนอะไรสักอย่าง แถมยังใส่ผักอะไรมั่ว ๆ มาอีก และผมก็ตั้งผิดห้องความจริงต้อง ห้องร้านอาหาร ไม่ใช่ ห้องการทำอาหาร ขออภัยทุกท่านนะครับ (^_^) จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:09:10

ความคิดเห็นที่ 19 เราแก่แล้วค่ะ จะ 60 แล้ว  รู้สึกได้เลยว่าอาหารเดี๋ยวนี้รสชาติเปลี่ยนไปจริงๆ ค่ะ   เคยสั่งข้าวราดแกงไตปลา  ตักได้คำเดียวก็ต้องเลิกกิน  เพราะทั้งเผ็ด ทั้งหวาน และทั้งคาว ส้มตำลาว  น้าสะใภ้เราขายอยู่ที่บ้านไผ่  (เราไปเที่ยวทุกปิดเทอม)  เรากินตั้งแต่เด็กก็รสชาตินึง   พอเดี๋ยวนี้มาเจอส้มตำใส่ปลาร้า ใส่น้ำตาล  แทบแย่เหมือนกัน   แล้วเราเป็นคนที่กินหวานแล้วเวียนหัวด้วยค่ะ   ก็เลยไม่ชอบ  ขนมหวานก็ชอบแต่ต้องหวานน้อยค่ะ ยังโดนแซวเลยว่า  อย่างนี้จะเรียกขนมหวานได้ยังไงล่ะเนี่ย  แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:19:25

ความคิดเห็นที่ 20 บอกตามตรง พี่ก็เป็นคนชอบหวานค่ะ  อาหารไทยตามร้านก็ชอบร้านที่ติดรสหวาน ทราบค่ะว่าสมัยก่อนอาหารคงไม่หวานอย่างนี้ ครั้งหนึ่งสมัยเด็กๆเคยได้ทานแกงเขียวหวานกะทิของผู้เฒ่าผู้แก่โบราณ มันอร่อยมากๆ จำความประทับใจไม่รู้เลือน ความหวานของแกงดูเหมือนเพียงแค่หวานจากมะพร้าวสดๆที่คั้นน้ำกะทิ อีกครั้งสมัยที่เกาะเกร็ดยังไม่รุ่งอย่างงปัจจุบัน แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ก็เป็นที่ขึ้นชื่อของคนแถวนั้นมาก  กลับไปอีกทีก็หาไม่เจอแล้วค่ะ ร้านนั้น แต่หาไม่ได้อีกแล้วกับแกงถุงที่ต้องซื้อสำเร็จจากตลาด เดี๋ยวนี้ บางครั้งยังนึก ค่อนแคะเขาไปตามประสาคนแก่ที่ไม่มีปัญญาทำกินเองแล้วว่า ....เฮ้อ! ...แม่ค้าข้าวแกงร้านนี้ทำกับข้าวไม่เป็นยังแค่นมาทำกับข้าวขาย  แกงกะทิก็ใส   หวานน้ำตาลชัดเจนเกินไป แต่จะทำอย่างไรได้หล่ะคะ ยุคสมัยเปลี่ยนไป  ค่าครองชีพเปลี่ยนไป มันก็คงเป็นไปตามกาลเวลานั่นแหล่ะค่ะ จากคุณ : ทิวลิปสีหวานแหวว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:25:47

ความคิดเห็นที่ 21 ที่ระยองอาหารหวานแทบทุกอย่าง แต่นั่นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน จะให้ทุกคนกินแต่รสที่เป็นรสดั้งเดิม กันทั้งหมด เหมือนเป็นพวกอนุรักษ์นิยม คงไม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ิสิ่งใหม่ๆ อาหารใหม่ๆ ...ถ้าคิดย้อนไปถึงยุคหิน ว่าถ้ายังอนุรักษ์การกินแบบดั้งเดิมแบบนั้น ป่านนี้พวกเราคงได้กินแต่เนื้อดิบๆกันอยุ่เลย.... อ่านข้อความด้านล่างแล้วร้อนตัว ไม่รู้หมายถึงเรารึเปล่าที่ว่ามีคนโมโห จขกท แต่เราเปล่านะ เราแค่อยากจะสื่อว่า ทุกอย่างย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไปเรื่อยๆ...ส่วนรสชาติที่แท้่จริง จะมีใครบอกได้ว่ารสชาติดั้งเดิมของ อาหารไทยต้นตำรำแท้ๆตั้งแต่สมัยอดีตเป็นแบบไหนกันแน่ .. ..เพราะมันอยู่ฝีมือ ของแม่ครัวแต่ละเป็นคนปรุง มันก็เพี้ยนกันมาเรื่อยๆตามความชอบของแม่ครัวหรือ คนกินอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 15:21:15 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 15:10:10 จากคุณ : kissykate เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:47:04

ความคิดเห็นที่ 22 แค่ขอความเห็นก็โดนว่าซะแล้ว น่าสงสาร จขกท. จังเลยค่ะ เราเห็นใจ จขกท. นะคะ เราเกิดมากินอาหารบนโลกใบนี้แค่ 25 ปี ไม่ได้เก่งกล้าสามารถ แต่ก็รักที่จะทานอาหารไทย และก็รับรู้ว่ารสชาติอาหารปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อก่อนค่ะ ปัจจุบันนี้ ของที่อร่อย คือ ของที่เราทำเอง ส่วนรสชาติดั้งเดิม หรือรสชาติอาหารที่แท้จริง ต้องให้คุณย่า คุณยาย ทำให้ทานค่ะ พวกท่านจะรู้ดีว่ารสชาติจริงๆ ของอาหารแต่ละอย่างเป็นอย่างไร วันก่อนกลับไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด ได้ทานอาหารฝีมือน้าที่สืบทอดมาจากคุณยาย อร่อยมาก มันมีครบทุกรสอ่ะค่ะ "กลมกล่อม" นี่แหละมั้ง รสชาติอาหารที่แท้จริง จขกท. อย่าเพิ่งงอนนะคะ อย่าเลิกเปิดประเด็นหรือตั้งกระทู้เลยนะคะ สู้ๆ ค่ะ ^____^ จากคุณ : Sweetest Love เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:51:38

ความคิดเห็นที่ 23 เซ็งผัดพริกแกงทำหวานยังกะเชื่อม  ผัดกะเพราใส่ทำไมหอมใหญ่ ข้าโพดอ่อน หวานนนนนน จะอ้วก  แกงส้มออกรสหวานไปไกลๆ ส้มตำลาวออกหวานจนเหม็นคาวปลาร้า อาหารควรออกหวานก็ควรหวานกำลังเข้ากับอย่าง  เเต่นี่ หวานเกิน แกงละโล้หวานๆอีก  เฮ้อออออออออ จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:09:30

ความคิดเห็นที่ 24 มันเป็นเทรนด์ครับ อาหารก็ปรับเปลี่ยนไปตามเวลานั่นแล จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:11:28

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ แต่สงสัยบางความคิดเห็น เขาโมโหอะไรของเขา? จากคุณ : DUB-COOK เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:17:40

ความคิดเห็นที่ 26 เราเข้าใจเจ้าของ จขกท. ส่วนตัวเราเวลาไปกินอาหารตามสั่ง จะกินอยู่สองอย่าง จะสั่งอย่างอื่นกลัวเจ้าของว่าเยอะ อย่างแรกที่สั่ง  ผัดกะเพราใส่กะเพราอย่างเดียวนะ เพราะถ้าไม่สั่งอย่างนี้ก็จะได้แบบ ผัดกะเพราใส่ ถั่วฝักยาว  ใส่เห็ด  ใส่ข้าวโพด ใส่หอมหัวใหญ่   อีกอย่างที่สั่งลาดหน้า จากคุณ : pu_pu_salon เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:26:28

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนผมเป็นคนชอบรสหวานครับ แต่ยอมรับว่าอาหารสมัยนี้ติดรสหวานมากไปจริงๆ ไม่เหมือนสมัยเด็กๆ ที่อาหารแต่ละอย่างมันจะมีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัว จากคุณ : natureza เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:26:35

ความคิดเห็นที่ 28 ด้วยความเคารพนะคะ เราคิดว่าแต่ละคนชอบรสชาดไม่เหมือนกันหรอกค่ะ ร้านที่เราว่าอร่อย คนอื่นอาจจะไม่อร่อยด้วยก็ได้ อาหารไทยมันวัดมาตรฐานยากนะ เพราะรสปากเราไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเราชอบอาหารที่มีรสเปรี้ยว+เผ็ดนำ เพราะฉนั้นถ้าร้านไหนไม่เปรี้ยว ไม่เผ้ด สำหรับเราถือว่าไม่อร่อย 55555  และเราไม่ชอบรสเค็มหรืิอหวานเลย กินรสจืดยังดีกว่า ถามว่าเป็นมาตรฐานมั้ย ก็ไม่อ่ะ มาตรฐานเราคนเดียว เราแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการหัดทำอาหารเองค่ะ จะได้รสชาดที่เราชอบแถมสด สะอาดกว่าด้วย ป.ล เราไม่ชอบอาหารที่มีรสเค็ม+หวานอยู่ด้วยกัน เช่น พะโล้ ขาหมู ต้มเค็ม อะไรประมาณนี้ จากคุณ : ของขวัญนายไข่ตุ๋น เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:41:25

ความคิดเห็นที่ 29 เราชอบกินหวาน เลยไม่อยากเมนท์ ขอเข้ามาให้กำลังใจ จขกท เฉยๆละกัน ^ ^ จากคุณ : bejinpao เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:44:11

ความคิดเห็นที่ 30 ... จากคุณ : งดแสดงความคิดเห็น เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:46:27

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจนะ อย่าว่าแต่เรื่องรสชาติ เคยเห็นตามห้องอาหาร แบบหรูๆแพงๆ จะชอบปรับรูปแบบอาหารไทยทีเราเคยเห็นให้หน้าตาแปลกๆไป ก็รู้ล่ะว่าเพื่อความ unique หรือแสดงความสามารถของ chef (จริงๆทำอาหารไทยควรเรียกพ่อครัว แม่ครัวมากกว่า) อาจจะอร่อยและรสชาติคงเดิว แต่เราก็ไม่ชอบอยู่ดี จากคุณ : thippy56_ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:52:14

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อวานเห็นแม่ค้าขายแกง มีแกงจืดมะระยัดไส้หมูสับ เลยลองซื้อมากิน ปรากฎว่า หวานนำ มาเลย สำหรับเราไม่อร่อย เพราะแกงจืดไม่ควรจะหวาน แต่ถ้าเค้าทำขายแล้วขายได้หมดทุกวัน อาจแสดงว่า ลูกค้าขาประจำเค้ากินรสนี้ หรือ ตัวแม่ค้าเองกินหวานก็ได้ค่ะ เราว่านะคนส่วนมาก มีรสอร่อยไม่เหมือนกัน บางคนชอบหวาน บางคนชอบเค็ม บางคนชอบเปรี้ยว รสชาติของอาหารแต่ละร้าน ก็เลยแตกต่างกันไป จากคุณ : pinky_bo เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:54:34

ความคิดเห็นที่ 33 เข้าใจ จขกท ค่ะ เราก็ไม่ชอบทานอาหารคาวที่ทำเหมือนของหวาน เช่น ไข่พะโล้เชื่อม ส้มตำเชื่อม และก็อะไรอีกมากที่หลายๆความเห็นได้กล่าวมา หลายๆท่านคงรับประทานอาหารหวานจนชิน เพราะมีความจำเป็นต้องทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ อาหารไทยมีหลากรส และความหวานก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในแทบทุกเมนู เพียงแต่ควรต้องปรุงรสหวานให้มีความพอดี หากปรุงรสจัดเกินไป ไม่ว่าจะเค็มเกิน เผ็ดเกิน หวานเกิน ย่อมมีผลเสียทั้งสิ้น จะพูดเพียงแค่รสหวาน เพราะเจอบ่อยที่สุด บางครั้งเราแอบคิดว่า ไม่ต้องใส่น้ำตาลมากขนาดนี้ก็ได้ ต้นทุนจะได้ถูกลง5555 ที่สำคัญที่สุดที่ควรตระหนักคือผลเสียที่ได้รับจากการรับประทานน้ำตาลมาเกินไป หนึ่งในนั้นคือทำให้โกรธง่าย และยังมีอีกมากมายหาอ่านได้โดยการสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ท ถ้าลดน้ำตาลได้ ลดเถอะค่ะ เพื่อตัวท่านเอง^^ เป็นห่วงสุขภาพคนไทยทุกคน สู้ๆค่ะคุณ จขกท. จากคุณ : SaPank (SaPank) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:54:51

ความคิดเห็นที่ 34 อาหารมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอาหารชาติใหนๆ ไม่มีอะไรผิดปกติ ที่ ตอนนี้อาหารไทยภาคกลางมีรสหวานมาก อนาคต อาจจะเปลี่ยนไปอีกก็ได้ เพราะว่า สังคมเปลี่ยน การเดินทาง การสื่อสารเป็นเรื่องง่ายๆ แล้ว ปัจจุบัน มีอาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาลี เข้ามาในเมืองไทยเยอะ อาหารญี่ปุ่นก็เริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามาในอาหารไทย  เช่น ยำที่ใส่วาซาบิเป็นต้น ขณะเดียวกัน ต่างชาติก็รับอาหารไทยไปเยอะเหมือนกัน เช่น ผัดไทย แกงมัสมั่น เป็นต้น ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถึงเป็นเรื่องแปลก จากคุณ : swin เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 11:09:14

ความคิดเห็นที่ 35 สงสารคุณ จขกท.ค่ะ...สู้ๆอย่าเพิ่งท้อนะคะ (จะมีใครดราม่าใส่เค้าป่าวอ่ะ?) จากคุณ : หนมปังหวาน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 11:09:42

ความคิดเห็นที่ 36 เท่าที่ดูคนไม่ชอบหวานก็เยอะ แต่แปลกทำไมร้านขายหวานแบบที่หลายคนบอก ยังอยู่ได้ ขายดี .... ทำไม ? จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 11:36:21

ความคิดเห็นที่ 37 ตั้งโจทย์มาถกกันดีกว่า ว่าอาหารไทยดั้งเดิมหน้าตาเป็นยังไง จากคุณ : ไม่เข้าพวก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 11:38:29

ความคิดเห็นที่ 38 ผมชอบหวานนำบ้าง แต่รับไม่ได้กับอาหารหลายๆร้านที่ทำหวานแบบหวานเลี่ยนเป็นขนมหวาน บางร้านแกงเผ็ด แกงส้มบ้าอะไร หวานกว่าเค้ก ผมว่าหวานประเภทนี้ไม่ใช่หวานตามกระแสหรอก ทำอาหารไม่เป็นมากกว่า การทำอาหารควรทำให้ได้มาตรฐานซึ่งเป็นแบบกลางๆไว้ก่อนคนส่วนใหญ่รับได้ แล้วใครชอบหวาน ก็ไปเติมกันเอง คนไทยอีกเยอะยังต้องการอาหารไทยแบบเดิมๆที่ไม่หวาน ผมก็ด้วยคนหนึ่ง ร้านอาหารไทยที่ยังทำได้มาตรฐานไทยเดิมๆทำอาหารไม่หวาน ยังมีอีกไม่น้อยครับ จากคุณ : Poonoi เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 11:41:30

ความคิดเห็นที่ 39 อร่อยในแบบของใครของมันค่ะ ในสิ่งที่คุณคิดว่ามันอร่อย มันคือรสชาติแท้จริง แต่มันไม่ได้หมายความว่ารสชาตินั้นคือความอร่อยถูกปากทุกคน จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:01:07

ความคิดเห็นที่ 40 คุณปลาทอง ..... ตามที่เราคิดนะคะ คนที่บ้านทำอาหารทานเอง โดยเฉพาะบ้านที่คุณแม่ที่มีอายุหน่อยทำให้ทานทุกวัน คนกลุ่มนี้มั้งค่ะจะเป็นคนที่ทานอาหารนอกบ้านจะรับรู้รสก่อนว่าหวาน เพราะเวลาทำเอง เราจะรู้ว่าใส่อะไรเท่าไหร่ เลยไม่กล้าใส่น้ำตาลเยอะไงคะ ยิ่งคนที่ดูแลเรื่องนี้ดี ๆ เค้าจะมีวิธีอื่น ๆ ให้รสกลมกล่อมโดยได้รสหวานตามธรรมชาติของตัวอาหารเอง จากคุณ : รัตติกัลยา เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:02:24

ความคิดเห็นที่ 41 เรากลับคิดว่า รสหวานเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปค่ะ แต่ก่อนเวลาคนทำกับข้าว อาหารไทยเค้าจะใช้น้ำตาลอ้อย น้ำตาลปีป น้ำตาลมะพร้าว อะไรแบบนี้ แต่ในปัจจุบันเพื่อความสะดวกในการทำอาหารบางทีก็ไม่ได้หาเครื่องเครามาครบเหมือนแต่ก่อนน่ะค่ะ ตามร้านอาหารตามสั่งหรือแม่บ้านยุคใหม่ ความหวานส่วนใหญ่ก็ใช้น้ำตาลทรายซะเพราะหาซื้อง่าย หรือใช้มะนาวแทนน้ำส้มมะขามเปียกในบางเมนู ปล. อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ จากคุณ : Ms.MoJiTo~* เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:28:08

ความคิดเห็นที่ 42 เราเองก็ชอบหวานเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ใช่หวานนำ หวานเลี่ยน หวานโดด ทำกับข้าวเอง (ทำไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ)ก็ใส่น้ำตาลตลอดและน้ำปลา ถ้าต้มยำก็เน้นที่เปรี้ยวและเค็มแล้วหวานตาม คือให้รสชาติมันออกมากลมกล่อมตามความชอบตัวเราเองน่ะค่ะ แต่ละคนจะชอบไม่เหมือนกัน บ้านแต่ละคนก็กินแบบบ้านใครบ้านเค้า ส่วนร้านอาหารถ้าหวานนำโดดเกินไป เราก็จะไม่กินบ่อย เช่นกันกับที่ร้านไหนเค็มโดด, เผ็ดโดด เราก็ไม่ไปกินอีกเหมือนกัน ร้านไหนทำอาหารได้ถูกใจเราทั้งบ้าน ก็จะไปกินร้านนั้นอีก ให้กำลังใจจขกท.นะคะ ^^ จากคุณ : Gwan เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:37:50

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบคห.25  เขาหุดหิด เพราะกินหวานมากไปมั๊งเราว่า เพราะกินหวานทำให้โกรธง่ายจริงค่ะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:45:02

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ละคนชอบอาหารรสชาติต่างกันไป เราว่าขึ้นอยู่กับคนกินมากกว่าว่าชอบยังไง อย่างก๋วยเตี๋ยวสั่งเหมือนกันมาสี่ชาม ถ้าเป็นเราต้องเติมน้ำปลาเพราะชอบเค็ม พี่ที่เรารู้จักกินหวานมากเติมน้ำตาลสี่ช้อน อีกคนกินเปรี้ยวมากใส่น้ำส้มไปซะเยอะ อย่างแกงเขียวหวานก็ต้องเน้นหวาน แกงไตปลาก็ต้องเน้นเค็ม เราว่าปรุงตามใจฉันแล้วแต่ลิ้นคนกินมากกว่า จากคุณ : OtteR เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 14:22:39

ความคิดเห็นที่ 45 เราก้ไม่ชอบหวานค่ะ เข้าใจว่าคนเราก็มีความชอบที่แตกต่างกันไป แต่ไม่เข้าใจบางคห.ที่มาโมโหจขกท. เพราะเท่าที่อ่านดูรู้สึกว่าจขกท.แค่ขอความเห็น ไม่ได้ร้องแร่แห่กระเซิงอะไรอ่ะนะ เราก้งงๆ จากคุณ : BonuZzo (BonuZzo) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 15:14:52

ความคิดเห็นที่ 46 สมัยมัธยม เวลากินก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อน จะรู้สึกตลกมาก เพราะคนหนึ่งปรุงโดยใส่น้ำตาล 2 ช้อน อีกคนน้ำส้ม 2 ช้อน อีกคนใส่พริก 2 ช้อน กินคนละรสกันเลย ไม่รู้มาคบกันได้ไง พี่อีกคนที่รู้จัก กินจืดมากชนิดกินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุงเลย น้องที่โตมาด้วยกันตลอดกินเผ็ดมาก ๆ สรุปแล้วเรื่องรสเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว สุดท้่ายแล้ว กินหนักรสใดรสหนึ่งมากเกินไป ก็ไม่ดีกับสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 15:37:40 จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 15:30:33

ความคิดเห็นที่ 47 แหะๆๆ ตลกร้ายไปหน่อย จขกท. อย่าโกรธผมนะครับ นี่คือตัวอย่างการจุดประเด็น ต้มมาม่ากระทู้ครับ มีกระทู้แบบนี้ก็ดี เป็นสีสรรต้มยำรสแซบ ของบอร์ดนี้ครับ ^^ จากคุณ : มาม่าอร่อย (Are Yoi) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 15:44:04

ความคิดเห็นที่ 48 ที่บ้านผม อาหารจืดพวกแกงจืด ผัดผักนี่ไม่เคยใส่น้ำตาลเลย แต่ของหวาน อย่างทองหยอดนี่หวานมาก เคยถามแม่ว่าทำไมหวานขนาดนี้ แม่บอกว่าสมัยก่อนไม่มีตู้เย็น การทำให้หวานจัด แล้วใส่ขวดโหล เทน้ำเชื่อมจนเต็ม ปิดผนึกขวดโหลเอาไว้ ทำให้เก็บได้นาน (น้ำที่ใช้ทั้งทำอาหารและล้างภาชนะบรรจุใช้น้ำที่ผ่านการต้มเดือดแล้ว) จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 15:45:55

ความคิดเห็นที่ 49 โธ่ คุณเอก ต้มมาม่าก็ไม่บอก เดี๋ยวคุณ จขกท เค้าตกใจเลิกมาเยี่ยมห้องก้นครัว เราจะขาดเพื่อนไปนะ จากคุณ : ท่าน้ำนนท์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:28:55

ความคิดเห็นที่ 50 ตอบ 47 ครับ ผมไม่โกรธอะไรครับ ผมแค่รู้สึกว่าร้านอาหารสมัยนี้ทำอาหารผิดไปจากรสของมัน คือทำมั่ว และปรุงมั่ว เหมือนที่ผมเคยเจอตามร้านโดยเฉพาะร้านที่ลูกค้าพม่า(ไม่ใช่คนพม่าจะไม่ดีนะครับ) เป็นคนปรุง ยกตัวอย่างเช่นร้านตามสั่งแถวตึกช่อง 3 ผมเห็นกับข้าวแล้วเซ็งแต่ขายดีเพราะ office คนเยอะส่วนอีกเจ้าอาหารก็มีแต่รสหวานโดดอย่างเดียวทุกประเภท อยากให้แค่ว่าอาหารอย่างไหนที่ควรหวาน อย่างไหนรสอะไร สมัยนี้ตามร้านมั่วมาก ผมเห็นตรงกับคุณว่าพวกอาจาร์ยที่ไปชิมต่าง ๆ ผมก็ว่าบางทีไม่ถูกปากเรา ผมแค่อยากจะอนุรักษ์อาหารไทยไว้ ผม ยากไปเรียนทำอาหารไทยด้วยซ้ำไป ผมขอขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้ง การขอความเห็นมันต้องมีความเห็นหลากหลายผมรับได้ครับ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะดราม่า (^_^) จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:40:33

ความคิดเห็นที่ 51 49 ขอโทษผมจำคนผิดเห็นมี นนท์ เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 16:49:59 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 16:45:17 จากคุณ : ร๊อตโต้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:42:47

ความคิดเห็นที่ 52 ปัจจุบันมีอาหารต่างชาติมาเป็นตัวเลือกให้คนไทยเป็นจำนวนมาก ลิ้นคนกินก็เปลี่ยนไปตามความชอบ ยอมรับว่าสมัยนี้ รสชาติอาหารไทยมักทำรสเอาใจฝรั่ง หากินรสที่มันถึงพริกถึงขิงที่เจาะกลุ่มตลาดคนไทยจริงๆ ยากครับ วัฒนธรรมการกินที่เปลี่ยนไป อาหารต่างชาติเข้ามาฟิวชั่นกับอาหารไทยก็เยอะ ทำให้สูตรดั้งเดิมจึงมีการวิวัฒน์พัฒนากันไปตามยุค อีกทั้งเทคโนโลยีต่างๆ เช่น จากการโขลกน้ำพริกด้วยครก ก็เปลี่ยนมาเป็นปั่น การสับหมูด้วยเขียง กลายมาเป็นเครื่องบด อาหารไทยยังพัฒนาได้อีกเยอะครับ มันยังไม่ตาย เพียงแต่มันปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบันเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องรสชาติ อย่างที่บอก ลิ้นใครลิ้นมันครับ เถียงกันทั้งวันทั้งคืนก็ไม่จบ ล่าสุดผมไปกินห้องอาหารชามไทยมา เค้าก็ทำได้ดีนะ แต่รสเผ็ดมันไม่เผ็ดอย่างที่ควรจะเป็น (คหสต.) เวลาไปกินบุฟเฟ่ต์โรงแรม ก็จะแอบเผือกมองฝรั่งตักอาหารไทยเป็นประจำ อยากรู้ว่าเค้าชอบกินอะไร เป็นการเก็บข้อมูลไปในตัว ทุกครั้งเห็นฝรั่งนั่งกินอาหารไทยกันเอร็ดอร่อย ก็ยังแอบดีใจอยู่ครับที่อาหารไทยยังขายออก ในยุค กระแสญี่ปุ่น เกาหลีแรงมาก แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 17:35:34 จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 17:28:20

ความคิดเห็นที่ 53 ชอบหวานบอกแม่ค้าเอาหวานๆ ไม่ชอบหวานบอกน้องๆ บอกแม่ครัวด้วยนะไม่ใส่น้ำตาล พี่หวานอยู่แล้ว ฮิ้วววววววว นานาจิตตังแหล่ะเน้อ ปอลอ จำได้ว่าอ่านจากที่ไหนซักที่ อาหารรสหวานมีเกร็ดความรู้อยู่ว่า เดิมนั้น เป็นของแสดงถึงฐานะของเจ้าของบ้าน เพราะสมัยก่อนน้ำตาลมันแพง ใครมีตังค์ทำขนมหวานๆ กับข้าวออกหวานๆ แสดงว่าเป็นคนมั่งมี ส่วนใครที่เหนียวน้ำตาล ทำออกจืดๆคือไม่มั่งมีเท่า ก็ว่ากันไป เรื่องเล่าต่อๆกันมา จากคุณ : GyBzO เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 18:27:06

ความคิดเห็นที่ 54 เข้าใจ จขกท นะคะว่าต้องการสื่อเรื่องอะไร เราอยู่แถวมหาวิทยาลัย ปกติไม่ทำกับข้าวทานเองเพราะทานคนเดียวรู้สึกมันยุ่งยาก อาหารตามสั่งที่สั่งทานเกือบทุกร้านจะมีรสหวานแซมมาด้วย บางอย่างก็ไม่น่าเกลียด พอรับได้ แต่บางอย่างนี่ก็ไม่ไหว มีครั้งนึงสั่งแกงป่า ปรากฎเค้าใส่น้ำตาลมาให้จนหวาน ตกลงก็เลยเลิกทานร้านนั้นหันไปทานร้านอื่นที่หวานน้อยกว่า จากคุณ : pinkywitch แม่มดสีชมพู เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 18:36:49

ความคิดเห็นที่ 55 รสชาดเป็นเรื่องของแต่ละคนเนอะ แต่ที่ไม่ชอบคือ อาหารไทยหลายๆอย่าง ไม่เหมือนของเดิม ชอบที่พ่อ ย่า ยาย ฯลฯ ทำให้กิน อร่อยกว่ามาก ซื้อกินแล้วชอบเจอแปลกๆ (เราคงไม่ชินเอง 555+) อะไรที่ควรจะใส่ก็ไม่ใส่ อะไรที่ไม่น่าใส่ จัดเต็ม!! เช่น ผัดกะเพรา ต้มแซ่บ ราดหน้า ต้มยำ ฯลฯ กินแล้วงงๆ ว่าเอ๊ะ! นี่ฉันกินอะไรอยู่หว่า 5555+ จากคุณ : Tui_NiChy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 19:06:59

ความคิดเห็นที่ 56 ลองหาสูตรเฉพาะบ้านของคุณไหมครับ  คุณร๊อตโต้ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D12542014/D12542014.html นี่เป็นวิธีเขียนสูตรอาหารที่ไม่ยุ่งยากครับ^^ จากคุณ : นายหมีพูห์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 19:15:50

ความคิดเห็นที่ 57 เราเห็นด้วยกับ จขกท นะ ถ้าถามว่ารสดั้งเดิมมันเป็นยังไง เอาง่ายๆ อาหารเหนือแต่เดิมไม่ค่อยมีรสหวาน (เท่าที่นึกออกก็แค่แกงฮังเล) เพราะทางเหนือแต่เดิมไม่ค่อยมีน้ำตาลขายค่ะ จะมีก็แค่น้ำอ้อย น้ำตาลปึก เครื่องแกงส่วนใหญ่ก็มีแค่ พริก เกลือ ปลาร้า หอม (กระเทียม) ของทอดก็ไม่ค่อยมี ทำให้คนแถวบ้านไม่ค่อยมีคนอวบ หรืออ้วน ใครที่อ้วนนี่ถึงขั้นโดนเรียกชื่อมีสร้อยแบบล้อเลียนกันเลยทีเดียว (พ่อเล่าให้ฟัง) แต่ปัจจุบัน แกงพื้นฐานต่างๆมีการเติม "น้ำตาลทราย" ลงไปด้วยค่ะ ...หม้อละ 1 ช้อนแกงเลยนะคะ เท่าที่ถาม ก็ได้ความว่า ทำให้กลมกล่อมขึ้น แต่เรากินแล้วเราไม่ชอบ น้ำตาลทรายมันมีรสชาดที่หวานแหลม ขัดกับแกงเหนือแปลกๆ - -" ยกตัวอย่างเช่น จอผักกาด มันควรจะเค็ม+เปรี้ยว กลมกล่อมด้วยรสจากผัก แต่ดันมีรสหวานแหลมๆของน้ำตาลทรายเข้ามา เราว่ามันไม่เข้ากันเลยจริงๆ แถมเดี๋ยวนี้คนก็นิยมของทอดมากขึ้น ไหนจะขนมหวานที่หาซื้อง่ายกว่าเดิมมาก ตอนนี้ คนแถวบ้านมีอัตราส่วนของคนอวบ คนอ้วน เทียบกับคนรูปร่างปกติเกินครึ่งไปแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : น้องงัว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 19:49:01

ความคิดเห็นที่ 58 รสชาติเป็นเรื่องของแต่ละคนจริงค่ะ แต่เข้าใจคำว่า รสชาติอาหารไทยดั้งเดิม อย่างที่ จขกท สื่อค่ะ เพราะอาหารไทยดั้งเดิมไม่ได้มีรสชาติ "หวานโดด" จนกลบรสชาติอื่นหมด แต่อาหารไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอาหารไทยภาคกลางจะมีรสชาติหลากหลาย หรือ ที่เรียกว่า กลมกล่อม และจะมีความโดดเด่นของรสชาติแต่ละเมนูที่ต่างกันไป แต่ไม่ใช่รสชาติ "หวานโดด" เหมือนปัจจุบัน จากคุณ : mewa12 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:45:50

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ : น้องงัว จอผักกาด มันควรจะเค็ม+เปรี้ยว กลมกล่อมด้วยรสจากผัก ผมเห็นด้วยครับ และ น้ำพริกอ่อง ก็แบบเดียวกัน แต่ น้ำพริกอ่อง ที่ขายกันปัจจุบันนี้ หวาน มากกกกกก   นี่หรือ น้ำพริกอ่อง อ้อ ข้าวซอย อีก รสดั้งเดิม เขาหอมเครื่องเทศ เค็มหวาน กำลังดี ถ้าชอบ เผ็ด เปรี้ยว ก็เติมเอง เดี๋ยวนี้ หวาน จนเลี่ยน เพี้ยนไปหมดครับ   นึกถึง ญาติผู้ใหญ่ ที่ท่านทำให้เรากิน ตอนนี้ ไม่มีท่านเหล่านั้นอยู่แล้ว จากคุณ : totspol เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 22:05:08

ความคิดเห็นที่ 60 เข้าใจจขกท.นะคะ   เคยไปทานน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นครพนม  มันหวานมากเลย และไม่คิดจะทานอีกเลย คงเหมือนคนญี่ปุ่นที่อยู่บ้านเราไม่เข้าร้านอาหารฟูจิ  และดิฉันก็ไม่เข้าร้านอาหารนิปปอนเต  เพราะมันไม่ถูกลิ้นน่ะค่ะ จากคุณ : แม่งามงอน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 07:44:29

ความคิดเห็นที่ 61 อาหารเดี๋ยวนี้หวานขึ้นจริง ๆ ค่ะ กระทั่งขนมจีน ยังมีรสหวาน เข้าใจประเด็นของเจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 11:14:35

ความคิดเห็นที่ 62 แต่ก่อนอาหารไทยใช้ความหวานเพื่อตัดรสชาติอื่น ๆ  ของอาหารให้กลมกล่อมขึ้น แต่ก็ยังเน้นรสชาติของวัตถุดิบ และเอกลักษณ์ของอาหารชนิดนั้น ๆ อยู่ เดี๋ยวนี้ เติมน้ำตาลหนักมือไปหน่อย อาหารไทยหลาย ๆ อย่างจึงมีรสชาติหวานนำ เรื่องรสชาติของอาหารบางอย่างที่เปลี่ยนไปตามเวลา ยังพอรับได้ค่ะ แต่อาหารบางอย่างที่มันไม่ควรจะใส่บางอย่างลงไปเนี่ย รับไม่ได้จริง ๆ อย่างเช่นเดี๋ยวนี้ พริกกะเกลือตามรถขายผลไม้ ไม่รู้ทำไมชอบใส่ผงชูรส หรือไม่ก็ใส่รสดีกัน เล่นซะปากชากันเลย จากคุณ : Kika_ii เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 15:30:31

ความคิดเห็นที่ 63 มาเสริมอีกหน่อย ผมว่าอาหารไทยส่วนใหญ่จะเน้นการปรุง เครื่องปรุงเยอะ รสชาติจึงค่อนข้างแตกต่างหลากหลาย ไม่เหมือนแถบยุโรปที่เน้นวัตถุดิบเป็นหลัก ประมาณว่าเนื้อชิ้นโรยเกลือพริกไทย ย่าง ก็กินได้แล้ว อาหารสมัยนี้หวานขึ้นจริงๆครับ คนกินก็ติดหวานกันมากขึ้น คนขายก็ทำเอาใจคนกิน.. ปล.1 ส้มตำไทย ขนาดคนอีสานตำ หวานเจี๊ยบบบบ ปล.2 เคยพาเพื่อนชาวญี่ปุ่นไปกินก๋วยเตี๋ยว มันถามผมว่าร้านนี้อร่อยหรือเปล่า? ทำไมมีแต่คนปรุงเพิ่ม จากคุณ : DUB-COOK เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 17:16:53

ความคิดเห็นที่ 64 มันหวานมากจริงๆค่ะ โดยเฉพาะพวกแพนงและผัดพริกแกงต่างๆ จากคุณ : fm@co เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:18:03

ความคิดเห็นที่ 65 บางคนก็ตั้งใจจะดราม่าเกินไปนะ จากคุณ : kwangMJ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:44:03

ความคิดเห็นที่ 66 น่าจะเฉพาะคนกรุงเทพ เพราะไข่พะโล้แถวโชคชัย 4 เป็นไข่เชื่อมแทบทุกร้าน กินหวานกว่าคนแถวราชบุรี เพชรบุรีอีก จากคุณ : จ๊ะหญิง เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:49:22

ความคิดเห็นที่ 67 แปลกใจที่มีค้านกระทู้ว่ารสหวาน รสชาติอาหารไทย เป็น ปัจจัตตัง ครับ อาหารไทยเป็นอาหารที่ยังไม่ตายครับ จริงอยู่ครับ รสอร่อยนั้น ลิ้นใครลิ้นมัน แต่อาหารคาวบางอย่างไม่ควรหวานแล้วทำหวาน มันก็ออกนอกกรอบอาหารไทยแล้ว  จะขายดีหรือไม่ ก็แล้วแต่ลิ้นใครลิ้นมัน  แต่ถ้าทำหวานเกินแล้ว บอกว่านี่อาหารไทยเหมือนกันนะ ก็อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่รสดั้งเดิมเหมือนที่จขกท.กล่าวถึง  ถ้าถามว่าเอาอะไรมาวัด  ก็จากที่เคยได้ทานทั่วไปครับ  ถ้าที่บ้านทานหวาน มันก็เฉพาะที่ เหมือนที่ยกระยองมาอ้าง รสหวานน้ำตาลทรายกับรสหวานน้ำตาลโตนดก็แยกกันไม่ยาก  ขนาดเพื่อนผมวัยรุ่น ยังเอยปากบ่นว่า แกงเขียวหวานจะหวานไปถึงใหน  แค่กะทิกับมะเขือ ก็หวานพอแล้ว ผมรู้สึกถึงหวานปลอมเกิดขึ้น เมื่อมีการรณรงค์ให้เลิกใช้ผงชูรส  มีบางท่านแนะนำให้ใส่น้ำตาลทรายแทน  เท่านั้นแหละครับ วิดน้ำตาลกันเพียบ จากคุณ : รักมวยไทย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 07:16:33

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยกะ จขกท สุดทิ่มลิ่มประตูอ่ะ!!!! บอกตามตรง เราโมโหมาก ที่เจออาหารที่แม่ng ใส่น้ำตาลยันดะ เช่น ลาบ น้ำตก ผัดกะเพรา ไรงี๊ คืออยากถามคนทำมากว่า จะใส่หาสวรรค์วิมานอะไรเหรอ!!!! เกลียดน้ำตาล เกลียดรสหวาน ที่มันมาอยู่ในอาหารที่มันไม่สมควรจะมาอยู่จริงๆ! จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 15:54:20

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นด้วยกับจขกททุกประการ อาหารไทยมีรสชาติจำเพาะของอาหารแต่ละชนิด ไม่ใช่ว่าทุกชนิดจะต้องเป็นรสชาติเดียวกันหมด จากคุณ : weirdbird เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 17:21:52

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นด้วยกับจขกทมากๆครับ สำหรับผม อาหารคาวควรจะคาว อาหารหวานควรจะหวานแต่พอดี เดี๋ยวนี้ส่วนมากที่เจอ .. อาหารคาว มันก็หวาน .. อาหารหวาน .. ยังกับน้ำเชื่อมครับ ขนาดเครื่องดื่มสมัยนี้ บางเจ้า คุณต้องเติมน้ำเกือบเท่าตัวลงไปผสมจึงจะได้รสชาติหวานที่พอดีสำหรับเครื่องดื่มครับ จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 23:13:24

ความคิดเห็นที่ 71 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะคะ เด็กสมัยใหม่รับประทานแต่อาหารตามสั่ง แกงถุง จนชินก็ว่าอร่อย พอเราทำอาหารแบบรสชาติดั้งเดิมสมัยพ่อแม่ปู่ย่าตายายทำให้กิน กลับบอกว่า "รสชาติแปลก" ซะงั้น เฮ้ออออ จากคุณ : juujeejang เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 17:21:31

ความคิดเห็นที่ 72 เพราะเป็นอย่างนี้ เราจึงต้องทำกับข้าวกินเองค่ะ ขนาดกลับมาอยู่ สมุยแล้ว เวลาขี้เกียจทำกับข้าว ซื้อไข่พะโล้มาทีไร นึกว่ากินไข่หวานทุกที จากคุณ : noksamui เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 22:31:30

ความคิดเห็นที่ 73 เราอายุ 40 กว่าแล้วจ้ะ ตอนไปเรียนทำอาหารที่วิทยาลัยสารพัดช่างฯ ครูให้ปรุงเอง เพื่อนคนจีนเป็นแม่ค้าขายกับข้าวตลาดบางแค จัดการใส่น้ำตาลในแกงเผ็ด กับ พะโล้ โดยไม่ถามใครเลย พวกเราห้ามไม่ทันเพราะไม่คิดว่าเขาจะใส่ เขาบอกว่าเขาขายกับข้าวเขารู้ดี ต้องใส่หวานไว้ก่อน  ตกลงมื้อนั้นเลยต้องแบ่งแกงหวาน กับพะโล้หวานนำกลับบ้านด้วยความเคืองใจกันทุกคน และครั้งต่อไปเฝ้าไม่ให้แม่ค้าคนนี้มาปรุงอาหารอีก เห็นด้วยกับคุณ poonoi ที่บอกว่าแม่ค้าทำไม่เป็น อันนี้เป็นเรื่องจริงเพราะอาหารไทยสมัยก่อนมีความหวานกลมกล่อมจากเครื่องปรุงธรรมชาติ เช่นน้ำโปรตีนจากเนื้อสัตว์ น้ำกะทิ น้ำจากผักอยู่แล้ว อาจเติมน้ำตาลปี๊บลงเล็กน้อยเพื่อความกลมกล่อมยิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่หวานโดดอย่างที่เพื่อนๆหลายๆท่านชี้แจงมา เช่นอาหารอีสานแท้ก็ไม่หวาน มีแต่รสเค็มกับเผ็ด มานิยมรสหวานน้ำตาลนำ ก็สัก 20 กว่าปีนี้  อย่างเรากับลูกไปซื้อกับข้าว หรือส้มตำร้านไหนถ้าบอกว่าไม่ใส่ชูรสปุ๊บ เขาจะใส่น้ำตาลแทนทันที ต้องคอยเฝ้าบอกว่าไม่ใส่น้ำตาล ไม่งั้นโดนซัดน้ำตาลตลอด พ่อค้าแม่ค้าจะคิดแทนแบบตื้นๆว่าน้ำตาลแทนผงชูรสได้ ซึ่งไม่เห็นจะเหมือนกันตรงไหน ...ผงชูรส ก็แทนรสชาดกลมกล่อมจากกระดูกสัตว์ หรือเนื้อสัตว์ เพราะมันถูกกว่าที่จะใส่เนื้อสัตว์ลงต้มในหม้อ เพราะต้องใช้ปริมาณเยอะ เขาจะกำไรน้อย ... ...และคิดไปเองว่าใช้น้ำตาลแทนความหวานจากเนื้อสัตว์อีก ... ทางที่ดีคือ เราเลิกซื้อ และทำเองก็จบ ผลดีก็คือเราและลูกๆทำอาหารเก่งขึ้นเยอะ ได้รสชาดเดิมๆที่ถูกต้องอย่างที่ควรเป็นด้วย เราทำกับข้าวกินเองมานานมากๆแล้ว ทำง่ายไม่ยุ่งยากเลย ทำบ่อยๆก็ชินไม่ต้องง้อแม่ค้า ที่ทำอาหารไม่เป็นแต่รู้มาก ใส่น้ำตาล กับผงชูรสเยอะๆให้เรากินด้วย เรากำลังจะตั้งกระทู้แบบนี้พอดี มาเจอคุณ ร็อตโต้ ตั้งไว้ก่อนทีแรกเราก็ดีใจที่มีคนคิดอย่างนี้เยอะ แต่พอเห็นคนไม่เห็นด้วยมีเหตุผลส่วนตัวอีก เราก็เลยคิดว่าดีเหมือนกันที่อ่านเจอก่อน เพราะเดี๋ยวนี้ความชอบส่วนบุคคลก็กลายเป็นของที่อาจขัดใจกันได้อีก แน่นอนว่ารสชาดอาหารไทย กับข้าวไทย ไม่หวานนำแน่นอน จากคุณ : Pianista (Pianista) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 01:31:01