ความคิดเห็นที่ 1 ติดป้ายไว้ที่ร้านเลยค่ะ ว่าห้ามนำ.... มาใช้ไฟฟ้าในร้าน หรือขอคิดเลินเพิ่มอะไรก็ว่าไป (ถ้าจะคิดเงินเพิ่มค่าไฟ ก็แจงรายละเอียดไปด้วยว่าคุณต้องเสียค่าไฟหน่วยกี่บาท) จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:42:12

ความคิดเห็นที่ 2 เขียนป้ายบอกเลยค่ะ ไม่งั้นเขาก็ไม่เข้าใจหัวอกคนเปนแม่ค้าค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : By_My=ใบไม้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:45:15

ความคิดเห็นที่ 3 ติดป้ายบอกน่าจะได้ผลกว่า บอกผ่านทางนี้  เพราะเรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของ คนบางคนเท่านั้น หรือเขียนข้อความวางไว้บนโต๊ะเลย/แปะในเมนูอาหาร  ในเมื่อห้ามไม่ได้ คงต้องขอเก็บ เงิน โดยอ้างเหตุผลค่าไฟ (อัตราคอนโด) และขอความเห็นใจเพราะร้านไม่ได้ชาร์จค่า อาหาร/เครื่องดืมแต่อย่างใด  ข้อความประมาณนี้   "ถ้าต้องการใช้ปลั๊กไฟ ทางร้านขอคิดค่าบริการ นาทีละ 1 บาท" ถ้าโดนลูกค้า(คนนี้)บ่นว่างกหรืออะไรก็ตาม  ยอมเสียลูกค้าไร้จิตสำนึกซักคนร้านคง ไม่เสียหายเท่าไหร่ ! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:45:37

ความคิดเห็นที่ 4 ร้านเล็กๆไม่ใหญ่โตน่าเห็นใจ ติดป้ายบอกประกาศตามโต๊ะดีกว่าครับ  ลูกค้าไม่ได้ทุกคนที่เข้ามาเล่น internet จากคุณ : ) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:46:03

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ได้มากวนทีน อะไร จขกท. นะครับ  เขียนป้ายติดไว้ที่ร้านสิคับ มาบอกในนี้ แล้วจะช่วยอะไรร้านคุณได้ครับ  เพราะบางร้านเค้าก็อนุญาตให้ชาร์ตได้ ใครจะไปรู้ ถ้าไม่บอก จากคุณ : หัวเวียงใต้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:46:14

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อวานผ่านห้องสยามทางห้องรวมมิตร เห็นมีคนมาถาม ว่าจะพาแฟนไปอ่านหนังสือที่ร้านอาหารร้านไหนดี ว่าจะสอนสั่งอะไรบ้าง แต่็คิดอีกทีว่าอย่าเลย ปล่อยให้คนในนั้นเค้าดูๆกันเองดีกว่า คิดได้ไง ไปอ่านหนังสือเรียนในร้านอาหาร ไม่ให้คนอื่นเค้านั่งกันเลยหรือ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:48:40

ความคิดเห็นที่ 7 จ้างช่างไฟมาย้ายเต้าเสียบเลยค่ะ  ไม่ให้อยู่ในจุดที่จะเสียบได้ถึง หรือย้ายไม่ได้ก็หาปลั๊กหรืออะไรมาเสียบให้เต็มเต้าเสียบ แล้วเขียนแปะไว้ว่า "กรุณาอย่าดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในร้านออก" ถ้าลูกค้าดึงปลั๊กเราออกอีก  ก็ไม่ต้องไปรักษาน้ำใจแล้วค่ะลูกค้ามารยาทแย่แบบนี้ จากคุณ : Is Me177 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:51:38

ความคิดเห็นที่ 8 คงต้องทำป้ายติิดไว้ตามปลั๊กไฟเลยค่ะ กรณีที่ลูกค้าต้องการชาร์จจริง ๆ คิดเป็น ชม.ไปเลย หากต้องการชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ชม.ละ เท่าไหร่ก็ว่าไปค่ะ ป้าเคยพาลูก ๆ หลาน ๆ ไปทานข้าวร้านคนรุ้จัก ไปเป็นประจำ นั่งตั้งแต่ทุ่มยันเที่ยงคืน ซึ่งแน่นอนแบตอาจหมดระหว่างอยู่ที่ร้าน   เด็ก ๆ เอาปลั๊กมาเสียบชาร์จ ไอแพด โน๊ตบุ๊ค ก็ให้ทางแคชเชียร์คิดเงิน  เค้าคิดเครื่องละ 60 บาท  ( ร้านอาหารที่เมเจอร์ แจ้งวัฒนะ) จากคุณ : ป้าไฮเทค เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:51:58

ความคิดเห็นที่ 9 ทำป้ายติด น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดนะครับ จะเก็บค่าไฟ หรือ ห้ามเสียบ ลองดูครับ ที่ร้านมีไวไฟ ฟรีรึป่าวครับ ถ้ามี ติดป้ายรบกวน เก็บค่าไฟ ชม.ละ 20-30 ก็ ok นะคับ จากคุณ : benz47 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:55:26

ความคิดเห็นที่ 10 เหมือนที่หลายๆท่านบอกค่ะ ติดประกาศไปเลยให้ชัดเจน แต่ภาษาต้องสวยหน่อยนะค่ะเดี๋ยวมีเคืองลูกค้าหายละก็แย่เลย แถวบ้านเรามีร้านคล้ายๆ จขกท. นี่หละอาหารไม่แพง ชา กาแฟ มีครบถ้าใครจะชาร์ตไฟคิดจุดละ 30 บาทค่ะ อาจจะดูแพงไปแต่เค้าก็ทดแทนด้วยฟรี wifi ลูกค้าก็ยังเยอะเหมือนเดิม นั่งแช่เหมือนเดิม สบายใจทั้ง 2 ฝ่าย จากคุณ : ByBanTu เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 12:57:53

ความคิดเห็นที่ 11 เขียนป้ายติด "ค่าบริการชาร์จไฟ คิด 60 บาท ต่อเครื่อง" ประมาณนี้ แบบที่ ป้าไฮเทค เคยจ่าย จากคุณ : alone and easy target เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:02:03

ความคิดเห็นที่ 12 ^^ เพิ่มในเมนู ค่าไฟ(ชาร์ตแบต) นาทีละ 1 บาท จากคุณ : เตียจิ๊กนึ่ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:04:15

ความคิดเห็นที่ 13 ติดป้ายแจ้งไว้เลยค่ะว่า บริการชาร์จไฟ แต่คิดเงิน  ร้านเราก็ทำแบบนี้ค่ะ   เราเก็บตังค์ค่าชารฺจมือถือ  ๒๐ นาที ๑๐ บาท จากคุณ : อยากให้เธอได้มาอยู่ตรงนี้จัง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:07:37

ความคิดเห็นที่ 14 คิดเงินเลยครับ ติดป้ายไปให้เห็น จากคุณ : Petshop boy เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:12:22

ความคิดเห็นที่ 15 เขียนไว้ทุกปลั๊กว่า สำหรับอุปกรณ์ไฟ 330 โวลต์เท่านั้นนะคะ แล้วก็แปะสัญลักษณ์ว่า 220 มีกากะบาดคาด พร้อมรูปโน้ตบุคระเบิด แล้วก็ใช้สำหรับเสียบพัดลมที่ว่าไปครับ แต่เ้ว้นไว้ตำแหน่งนึง เขียนไว้าว่า 250 โวลต์ ใช้เสียบกับไฟ 220 โวลต์ได้ แต่อาจกระชากเป็นระยะ แค่นี้ก็ไม่มีพวกนั่งแช่มาใช้บริการแล้วครับ มาเฉพาะคนที่จะทานอาหาร แต่ถ้าพวกรู้ทันผมมีทีเด็ด มีเพื่อนเป็นวิศวะไฟฟ้าเคยบอกให้ฟัง แต่ไม่สามารถกระจายความชั่วร้ายผ่านบอร์ดสาธารณะได้ครับ จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:12:44

ความคิดเห็นที่ 16 เขามาโพสในนี้คงไม่ใช่เดาเอาว่าลูกค้าท่านนั้นเล่นพันทิป แล้วจะได้เข้ามาอ่านหรอกมั้งครับ เขาโพสถึงคนเป็นลูกค้าทั่วไปมากกว่า การจัดการในร้านของจขกท.เองก็เรื่องนึง ซึ่งมันคนละเรื่องกับการแชร์ในกระทู้ จากคุณ : ayres เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:30:02

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตให้นะคะ จะได้เห็นกันทั่วถึง จะว่าไป เรื่องที่ให้ติดป้ายก็ไม่เลวนะคะ แต่ขอติงนิดนึง ควรจะปลูกจิตสำนึกมากกว่า ไฟฟ้าในสถานที่ของคนอื่นเค้า ทำไมถึงต้องเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าไปชาร์ทไฟของเค้าด้วย แบบนี้ถ้าร้านไหนไม่มีแอร์ มิต้องแบกแอร์ไปใช้ไฟฟ้าร้านคนอื่นเค้าเหรอ ดีนะที่แอร์มันเคลื่อนย้ายไม่ได้ ส่วนเรื่องชาร์ทโทรศัพท์แล้วคิดเงิน อันนี้เห็นด้วยค่ะ จากคุณ : โดเรม่อนทมิฬ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:58:55

ความคิดเห็นที่ 18 เข้าใจเลยค่ะ เคยเจอมากับตัว อยากที่หลาย คห บอกค่ะ ติดป้ายไปเลย อย่างร้านเราเมื่อก่อนอาจจะเป็นร้านแรกๆที่ติดด้วยซ้ำ บางคนมองว่าใจร้าย เราติดว่า 50 บาท/ชั่วโมง ใจจริงคือไม่ได้อยากคิดเงิน แต่ไม่อยากให้เล่นหรือนั่งแช่นานๆมากกว่า เพราะร้านเราเป็นร้านอาหาร บางคนไม่มีมารยาทจริงๆมาานั่งแช่ตอนเที่ยง ลูกค้าเต็มร้าน ดื่มแค่ชากาเดียว เสียโอกาสไปทั้งโต๊ะ ถ้าเวลาที่คนไม่เยอะ ช่วงบ่ายๆคนไม่ค่อยมีแล้ว เราก็ไม่ได้ซีเรียสมาก ถือว่ามีคนนั่งดีกว่าไม่มี เพียงแต่ว่าจิตสำนึกของคนบางคนที่ทำให้ลูกค้าดีดีหลายๆคนพลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะลูกค้าที่ว่าบางคน นั่งแช่ ถือวิสาสะเสียบปลั๊ก แบ็ตเต็มก็ไม่เอาออก สั่งอาหารน้อย แน่นอนเราไม่คุ้มอยู่แล้ว เพราะต้องเปิดแอร์ตลอด ค่าน้ำค่าไฟอีก ถ้าเล่นแค่พอแบ็ตหมด แม้แต่เล่นหลายชั่วโมงโดยไม่เสียบปลั๊ก เราก็ไม่ว่าอะไร เน็ทเราก็ให้เล่นฟรี ถ้าทำงานค้างอยู่ ขอเสียบปลั๊กซักแป๊บเพื่อให้งานเสร็จ หรือแบ็ตมือถือหมดเกลี้ยง ขอชาร์ตให้พอใช้งานได้ เราก็ยังยินดี กรณีเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่ยกตัวอย่างขึ้นมา แต่ลูกค้าเคยขอกับเรา และเราก็ให้ เพียงแค่คุณขอด้วยความสุภาพ แสดงออกว่ามีความเกรงใจ เราก็เต็มใจให้บริการเสมอๆกับลูกค้าที่น่ารัก จากคุณ : SaPank (SaPank) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 14:22:02

ความคิดเห็นที่ 19 ของอย่างงี้ต้องให้บอกด้วยรึ ใช้แค่สามัญสำนึกก็น่าจะพอมังคะ จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 14:51:41

ความคิดเห็นที่ 20 บางคนมีความจำเป็นต้องใช้คอมฯ แบตหมดพอดี ก็ต้องหาชาร์ตตามร้านนี่แหละ ถ้าทางร้านคิดเงินเขาก็ยอมจ่าย (จำเป็น) ว่าแต่เขียนป้ายบอกก่อนจะได้ไม่มีปัญหาตามมา เป็นที่เข้าใจตรงกัน อยากชาร์ตก็จ่ายตังค์......ไม่อยากเสียตังค์ก็ไม่ต้องชาร์ต จากคุณ : คนใหญ่ในห้องแคบๆ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 15:03:02

ความคิดเห็นที่ 21 ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง(แต่ไม่เคยไปใช้ไฟร้านใครน่ะ) ผมยอมจ่ายตามกติกาที่ร้านกำหนดครับ ราคาก็ตามความเหมาะสม เช่นร้านเล็กๆก็สัก 30 บาทต่อชั่วโมง ร้านใหญ่ๆก็ 50 บาทต่อชั่วโมง จากคุณ : ความเชื่อเฉพาะบุคคล เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 16:36:48

ความคิดเห็นที่ 22 แนะนำให้เอาที่ปิดรูปลั้กไฟแบบที่กันเด็กเล็ก ไม่ให้เอานิ้วจิ้มอ่ะค่ะ แบบนั้นจะถอดยากพอดู แล้วก็แปะป้ายขอร้องในร้านนะคะ หรือไม่งั้นบอกว่า ขอคิดค่าชาร์ตเป็นราคา xx บาทค่ะ จากคุณ : yuki-onna เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 16:53:28

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ ทางร้านคงต้องติดป้ายเพื่อบวกเงินเพิ่มสำหรับคุณลูกค้าที่มาชาร์จแบตเครื่องใช้ไฟฟ้าในร้านค่ะ เนื่องจากร้านเราเพิ่งเปิดได้เดือนกว่าๆ กลัวจะเสียลูกค้าค่ะ คงต้องหาอัตราที่เหมาะสม เพราะทางร้านไม่ได้หวังจะได้กำไรจากเงินส่วนนี้ เพียงแต่ไม่อยากแบกรับภาระค่ะ อย่างที่โพสแจ้งด้านบนนะคะว่าจุดประสงค์ที่โพสแชร์เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้นำอุปกรณ์ไปชาร์จไฟตามร้านอาหาร ไม่ได้หวังว่าคุณลูกค้าของที่ร้านจะเข้ามาเห็นกระทู้นี้หรอกค่ะ แต่ก็แอบเห็นเขาเล่นพันทิบเหมือนกัน คุณลูกค้าที่เขาทำพฤติกรรมแบบนี้บางทีเขาอาจจะไม่ทันคิดค่ะ เห็นว่าสมาชิกห้องก้นครัว ออกไปทานอาหารนอกบ้านกันบ่อย อาจจะเคยทำลงไปโดยไม่ทันคิดค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำอีกครั้งนะคะ จากคุณ : lovelymilk เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 17:41:50

ความคิดเห็นที่ 24 เอามาฝาก http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12685691/X12685691.html กินไฟไม่เยอะนะครับ จากคุณ : CTRL System เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 20:21:31

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตให้แล้วจ้า.  คิดว่าน่าจะอยู่ที่มารยาทและกาลเทศะมากกว่านะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 55 20:47:21 จากคุณ : เห็นแล้วหิว เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 20:44:55

ความคิดเห็นที่ 26 ค่าไฟเสียบโน๊ตบุ๊ก มันน้อยมาก เสียบสัก 1ชั่วโมง ก็ไม่น่าจะถึง 1 บาท แค่อยากบอกแค่นี้แหละครับ จะเก็บเงิน หรือไม่เก็บเงิน ก็ต้องลองพิจารณาดูครับ บางคนมาเอาร้านเราเป็น อ๊อฟฟีส  บางทีไม่ใช่แค่ใช้ไฟโน๊ตบุ๊ก มานั่งแช่ ทานอิ่มแล้วไม่ลุกออกไป แทนที่จะมีโต๊ะว่าง รับลูกค้าอื่น ๆ ก็ต้องหามาตรการ ที่เหมาะสม ที่ยังรักษาลูกกค้าอยู่ได้ จากคุณ : KU_EE เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 22:19:47

ความคิดเห็นที่ 27 แนะนำให้เก็บเงินครับ คนไทยกลัวเสียเงินมากกว่ากลัวถูกจับอีกนะ จากคุณ : Marwin เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 00:32:04

ความคิดเห็นที่ 28 หาเทปมาปิดรูไว้เลยค่ะ จากคุณ : madizzle เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 10:44:33

ความคิดเห็นที่ 29 ขออธิายนอกเรื่องนิดนะครับ เรื่องการกินไฟของโน๊ตบุ๊คและอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ อยากจะบอกว่า โน๊ตบุ๊คตัวนึงมันกินไฟราวๆพัดลมน่ะครับ 70-80 Watt โดยประมาณ (ของผม 65 watt โน๊ตบุ๊ค จอ 17 นิ้ว) ค่าไฟ หน่วยล่ะ 6 บาท ก็คือ 1 kWh แปลว่า ถ้าใช้ไฟ 1000 watt นาน 1 ชั่วโมง จะโดนค่าไฟ 6 บาท ถ้าเทียบโน๊ตบุ๊คก็คือชาร์จราวๆ 15 ชั่วโมง จะโดน 1 หน่วยน่ะครับ คือไม่ได้สนับสนุนให้คนมาชาร์จได้นะครับ เพราะการที่คนอื่นมาชาร์จโดยที่ร้านไม่ยินยอม ผมก็ไม่สนับสนุนเหมือนกัน แต่อยากจะอธิบายว่าค่าไฟมันไม่ได้แพงมากเหมือนที่ท่านคิด ที่เค้าไม่ชอบให้คนมาเสียบกันเพราะ มันทำให้นั่งแช่ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเกินไป กาแฟแก้วเดียว เสียบปลั๊กนั่ง 4 ชั่วโมง เสียค่าแอร์ เสียเทิร์นโอเวอร์โต๊ะ เสีย facility ส่วนอื่น ในร้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เค้าเลยตั้งท่าคิดเงินกันเพื่อป้องกันการรากงอกน่ะครับ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 19:23:13

ความคิดเห็นที่ 30 ย้ายปลั๊กให้หมดค่ะ หาเต้ารับไม่เจอก็ระเห็จออกไปเองค่ะ เราไม่เคยเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆไปชาร์จหรือใช้ไฟนอกบ้านเลยค่ะ ไม่รู้สิคะ ไม่เคยคิดว่าจะต้องจำเป็นขนาดเอาชาร์จเจอร์ออกไปชาร์จนอกบ้าน แบตหมดก็เลิก ที่สำคัญ ไม่เคยนั่งแช่ที่ไหนจนแบตเครื่องใช้ไฟฟ้าหมดค่ะ จากคุณ : Kissy Kiss เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 19:35:18

ความคิดเห็นที่ 31   ติดป้าย บอกไว้ในร้าน  เช่นที่  เพื่อน ๆ  แนะ นำไว้ ดีที่สุดครับ จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 19:42:15

ความคิดเห็นที่ 32 คือ ค่าไฟโน้ตบุค ถูกก็จริงครับ แต่ถ้าหลาย ๆ คน หรือ บ่อย ๆ ก็เยอะครับ และประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ ค่าเสียโอกาสทางการค้า สำหรับการนั่งแช่เป็นหลาย ๆ ชั่วโมง แพงกว่ามากโขครับ และถ้ามีคนทำแบบนี้เยอะ ๆ ร้านก็แย่เลยครับ >< แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 20:19:09 จากคุณ : LovingYouTooMuch เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:18:11

ความคิดเห็นที่ 33 คิดค่าปลั๊กค่ะ ร้านอาหารร้านนึงในปั๊มน้ำมันแถวบ้าน คิดชั่วโมงละ 30 ค่ะ จากคุณ : =SimsMazTeR= (=SimsMazteR=) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:20:50

ความคิดเห็นที่ 34 บางทีคนทำร้านเวลาเห็นรายจ่ายก็เครียด ก็บางทีก็จะเหมาว่าเพราะพวกลูกค้ามันมาชาร์จแบต อะไรแบบนี้ซึ่งจริงๆมันไม่ได้อะไรขนาดนั้นน่ะครับ มือถือนี่ก็ไม่ได้กินไฟอะไรเยอะแยะเลยเวลาชาร์จ ส่วนมากลูกค้ามาชาร์จผมก็ตามสะดวก แฟนผมแรกๆคุณเธอไม่เข้าใจเห็นค่าไฟแพง ประกอบกับขายไม่ดีก็บ่นๆ จะเก็บเงินค่าชาร์จ ผมก็ต้องอธิบายกันไป ว่ามันไม่กี่ตังค์หรอก ให้ลูกค้าไปเหอะ เพราะแรกๆ คนก็ไม่เยอะก็ปล่อยมานั่งๆ ก็ดีกว่าร้านว่างๆโล่งๆ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:32:11

ความคิดเห็นที่ 35 คิดตังค์ครับ ชั่วโมงล่ะห้าสิบ เศษของนาทีคิดเป็น 1 ชั่วโมง ชาร์ต 5 นาทีคิดเท่ากับครึ่งชั่วโมง รับรอง ไม่มีใครขอเสียบ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:35:54

ความคิดเห็นที่ 36 ติดป้ายบอกว่าห้ามชาร์ต หรือจะคิดค่าชาร์ตก็ว่าไปเลยค่ะ จากคุณ : ลูกสาวบ้านนี้ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:40:48

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีค่ะ จขกท นะคะ เพิ่งเห็นว่าขึ้นแนะนำ ขอบคุณสมาชิกที่ช่วยโหวตนะคะ ขอบคุณสำหรับหลายความเห็นค่ะที่อธิบายเรื่องอัตราการเปลืองไฟ ยอมรับว่าไม่ทราบว่าจะกินไฟเยอะหรือน้อย แต่ยังไงส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่เหมาะสมอยู่ดีค่ะ ถึงแม้จะชั่วโมงละบาท อันนี้เบาใจมาหน่อยว่าไม่เยอะ แต่ก็เป็นต้นทุนของร้านอยู่ดีค่ะ หลายคน หลายชั่วโมง รวมยอดแล้วต่อเดือน ก็คงหลายบาทเหมือนกัน เงิน 1 บาทสำหรับบางคนอาจจะดูน้อย แต่สำหรับดิฉันถือว่าเป็นต้นทุนที่ไม่ควรเกิดขึ้นค่ะ แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำอธิบายเรื่องอัตราค่าไฟนะคะ แจ้งให้ทราบและเข้าใจตรงกันนะคะสำหรับจุดประสงค์ของการตั้งกระทู้ คือไม่อยากให้คุณลูกค้านำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปชาร์จไฟตามร้านอาหารค่ะ แม่ค้าเองก็คงไม่ทราบกันทุกคนถึงอัตราการสิ้นเปลืองไฟที่เกิดขึ้น แต่จะมองแค่ว่าต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองค่ะ ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องปกติกับพฤติกรรมแบบนี้ค่ะ และจุดที่ตัดสินใจทำให้มาโพสกระทู้ คือคุณลูกค้าคนหนึ่งมาชาร์จไฟ โดยถอดปลั๊กพัดลมของทางร้านออกแล้วเสียบไฟ โดยไม่ขออนุญาตหรือบอกกล่าวให้ทราบค่ะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : จขกท (lovelymilk) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:10:02

ความคิดเห็นที่ 38 เจอเหมือนกันค่ะ กะเข้ามาทำงานเต็มที่ เราจะบอกก่อนเลยถ้าเห็นกำลังจะชาร์ตไฟ บางคนก็เข้าใจ บางคนก็โกรธเรา ถ้าจำเป็นจริงๆ เราบอกว่าไม่เกิน 30 นาทีนะคะ ถ้าเกินนี้เราขอคิดเงินนะ ซึ่งคนที่เกรงใจคนอื่นเป็น เขาก็ทำตามกฏของเรา แต่บางคนไม่ ล่าสุดมีลูกค้าฝรั่งพูดไทยได้เข้ามาในร้าน จะมาเอาปลั๊กพ่วงที่เราเสียบอุปกรณ์คอมพ์ของเราไว้ เราบอกไม่ได้ ไม่ให้ชาร์ตแบต อนุโลมแค่โทรศัพท์ได้นิดหน่อยเพราะจำเป็น เขาไม่ยอม จะมาดึงปลั๊กคอมพ์เราออกให้ได้ บอกว่าผมจะใช้ไฟ ทำไมไม่ได้ เราเสียงแข็งใส่ แล้วเดินหนีเลย คนไทยหลายคนก็ออกแนวนี้ พอไม่ได้ชาร์ตไฟ จะโกรธทางร้าน อยากให้พวกเขาลองมีร้าน ลองทำธุรกิจดูเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 21:25:29 จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:22:24

ความคิดเห็นที่ 39 ผมไม่ได้กวนเจ้าของกระทู้นะครับ ผมก็เปิดร้านขายของ แต่ในกรณีเจ้าของกระทู้ผมว่าเป็นการประหยัดเกินไปจนดูเหมือนงก ไม่ให้ลูกค้าเข้ามาชาร์จไฟในร้านยังพอเข้าใจแต่เรื่องเปิดพัดลมแทนแอร์แล้วบอกว่าจะประหยัดค่าไฟเรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยเพราะคุณขายอาหารอาหารมันร้อนอยู่แล้ว ลูกค้าเดินเข้ามาเห็นที่ร้านติดแอร์ก็ต้องคาดหวังว่ามานั่งกินข้าวแอร์เย็นๆ แต่เดินเข้ามากลับเปิดพัดสมแทนก็อาจจะรู้สึกไม่ดีนิดๆก็ได้ ร้านผมต่อให้มีลูกค้าหรือไม่มีแต่ถ้าเป็นเวลาเปิดร้าน ผมต้องเปิดแอร์ตลอด เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกสบาย นี่เป็นความคิดเห็นของผมหวังว่าเจ้าของกระทู้คงไม่ว่ากันนะครับ จากคุณ : mancooper เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:20:19

ความคิดเห็นที่ 40 ขออนุญาตแสดงความเห็นต่างนะครับ ผมเป็นลูกค้าคนนึงที่ใช้บริการร้านอาหารที่เคยเอาปลั๊กโน๊ตบุ๊คไปเสียบในร้านอยู่บ่อยๆ ร้านที่ว่าก็จะอยู่ตามย่านธุรกิจหรือสนามบินบ้าง และส่วนใหญ่ที่เลือกเข้าร้านนั้นๆก็เพราะว่าเค้ามีเต้าเสียบนั่นแหละ ผมหมายถึงเต้าเสียบที่มีจัดไว้ทั่วไปในร้าน ทั้งนี้บางก็มีบางโต๊ะก็อาจจะไม่มีหรือบางทีก็อยู่ตามเสาตามผนังและที่เข้าไปก็เป็นเพราะจำเป็นต้องไปเจอทีมงานก่อนเข้าประชุมกับลูกค้าและก็ไม่อยากเสี่ยงให้แบตหมดจนกว่าจะงานเสร็จในวันนั้นๆ เรียนตามตรงว่าก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าให้ชาร์จรึไม่ให้และไม่คิดจะถามก่อนใช้ด้วย เพราะถ้ามีปลั๊กให้และไม่มีป้ายห้าม ผมก็ถือว่าอนุญาต และคิดเอาเองว่าร้านเค้าก็รวมไปในค่าอาหารหรือค่าบริการแล้วนั่นแหละจะแพงหรือถูกก็ตั้งราคามาเลย ถ้าเข้าไปใช้ก็หมายถึงเต็มใจที่จะจ่าย ผมไม่แน่ใจลักษณะรูปแบบร้านของ จขกท ซึ่งถ้ามาเจอลูกค้าที่มีความคิดแบบผมก็น่าเห็นใจในข้อกังวลครับ เห็นเหมือนท่านอื่นๆว่าแจ้งให้ชัดไปเลยว่าจะคิดเงินค่าไฟแต่ผมก็อยากจบอกอีกมุมนึงว่าที่ลูกค้าบางคนเค้าเลือกเข้าไปก็เพราะว่าจะใช้ไฟนี่แหละไม่ใช่ว่าต้องการอาหารอร่อยอะไรนักหนาหรอก จากคุณ : ohno เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:22:56

ความคิดเห็นที่ 41 ขอแชร์ประสบการณ์กับ จขกท. นะคะ เราเป็นเจ้าของร้านอาหารเหมือนกันค่ะ   เราปล่อย wi_fi  ให้ลุกค้าเล่นฟรี  ใต้โต๊ะทุกโต๊ะมีปลั๊กไว้ให้เสียเลยค่ะ  เพราะศึกษามาแล้วว่าโน้ตบุคกินไฟไม่ถึงชั่วโมงละ 1 บาท ร้านเราลูกค้าจะนั่งนานเท่าไรก็ได้   มีแมกกาซีนและนิยายให้อ่าน  มีทีวีให้ดู  มีเพลงให้ฟัง  มีพริ้นเตอร์ให้พริ้นงานในราคาถูก  เอาของข้างนอกมากินได้ไม่ว่า ผลที่เกิดขึ้นคือมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   นั่นหมายถึงเรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำงานมาหลายปี  และทำพร้อมกันหลายอย่าง  ค้นพบอย่างหนึ่งว่า  ไม่ว่าเราจะทำอะไรต้องให้ "ใจ"  กับลูกค้าก่อน  แล้วเงินมันจะตามมาเองค่ะ  มาแบบเยอะมากๆ ด้วย ทั้งนี้แต่ละคนมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน    ร้านเราอยู่ต่างจังหวัด  พื้นที่เหลือเฟือ เราจึงวางโต๊ะได้จำนวนมาก ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องโต๊ะเต็มสักเท่าไร    และน่าแปลกที่พอเกิดกรณีโต๊ะเต็ม  ลูกค้าเขาจะขยับขยายกันเองค่ะ   คือคนที่นั่งนานมากๆ แล้วจะรีบเช็คบิล   มีตะโกนเรียกคนมาใหม่ให้มานั่งแทนด้วย เราไม่ได้ว่าสิ่งที่   จขกท. ทำอยู่ไม่ดีนะคะ  เพราะบอกแล้วว่าคนเรามีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน   แต่อยากแชร์ความรู้สึกที่ว่าให้เห็นลูกค้าเป็นเพื่อนที่เข้ามาร้านเรา แล้วเราอยากจะเทคแคร์เขาให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้อะจ้า จากคุณ : ช็อปยันเช้า เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:01:38

ความคิดเห็นที่ 42 คุณควรจะแก้ไขด้วยการติดป้ายไว้นะคะ บอกว่าชาร์ตไฟชั่วโมงละเท่าไหร่หรือห้ามชาร์ตไฟ เหมือนที่หลายร้านเขาทำกัน เพราะเดี๋ยวนี้คนถือโน๊ตบุ๊คเข้าร้านกาแฟมันเยอะมาก! เราเองก็เป็นลูกค้าประเภทที่เอาโน๊ตบุ๊คไปนั่งทำงานในร้าน และสั่งอาหารเครื่องดื่มพอสมควร แล้วถ้าจะชาร์ตไฟเราจะถามทางร้านก่อนว่าคิดตังค์มั้ย บางร้านติดป้ายไว้เราก็จ่ายตามนั้น บางร้านไม่คิดค่าบริการเพราะมันบวกไปในราคากาแฟและอาหารอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 23:34:41 จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:31:58

ความคิดเห็นที่ 43 อาจจะลองปรับราคาค่าอาหารสักเล็กน้อยครับ โดยเฉลี่ยลูกค้าที่ใช้กับไม่ใช้ให้มันรองรับค่าไฟที่เพิ่มตรงนี้ จากคุณ : วิญญาณไม่ขายใคร เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:12:24

ความคิดเห็นที่ 44 ใช้ปลั๊กไฟแบบฮ่องกงซิครับ แล้วให้เช่าปลั๊กยูนิเวอร์แซล จากคุณ : ปันปัน (Super.Pan.) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:44:03

ความคิดเห็นที่ 45 ทำเป็นตู้หยอดเหรียญ จากคุณ : ปันปัน (Super.Pan.) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:45:13

ความคิดเห็นที่ 46       บางร้านก็มีนโยบายตอนรับลูกค้าโดยอนุญาตให้ใช้ไฟฟ้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หวังว่าจะดึงดูดใจลูกค้าให้ซื้ออาหารของร้าน มันก็ขึ้นอยู่กันลักษณะร้านอาหารนะครับ ถ้าเป็นร้านที่ขายเครื่องดื่มเน้นบรรยากาศ จะให้ลูกค้าใช้ไฟฟ้าได้เป็นจุดขายของร้านนะครับ แต่ถ้าเป็นพวกร้านอาหารตามสั่ง ร้าน Fast food ที่ต้องอาศัยอัตราการไหลเวียนของลูกค้าหลายๆคนจึงจะคุ้มทุนก็ติดประกาศของทางร้านเลยครับว่าขอความร่วมมือลูกค้าอย่าใช้ไฟฟ้าของทางร้าน      ผมไม่เห็นด้วยที่คุณเจ้าของกระทู้มารณรงค์ให้ลุกค้าไม่นำอุปกรณ์ไปใช้ที่ร้าน เพราะถ้าบอกว่าทำไมไม่ใช้ที่บ้าน เค้าจะซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพามาทำอะไร หรือถ้าบอกว่าทำไมไม่ชาร์ทมาจากบ้าน แบตเตอรี่โดยเฉลี่ยมันอยู่ไม่ทนเกินสามสี่ชั่วโมงหรอกครับ      ผมว่าคุณเจ้าของกระทู้ควรจะรณรงค์ว่าลุกค้าท่านใดที่มาใช้บริการร้านอาหารโปรดซักถามนโยบายเรื่องขอใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ ไม่ว่าจะคอม โทรศัพท์ กับทางร้านก่อน ถ้าร้านแจ้งว่าไม่ให้บริการก็จะได้ไม่ใช้ บางร้านก็อนุญาตก็ใช้ไป จะได้ไม่ขุ่นข้องหมองใจกัน     ผมมองว่าประเด็นนี้เจ้าของกระทู้หงุดหงิดกับมารยาทลูกค้าที่ดึงปลั๊กพัดลมโดยไม่บอกกล่าวมากกว่าเรื่องต้นทุนค่าไฟอีก ถ้าคิดว่ามันเป็นต้นทุนที่ไม่อยากรับภาระก็ติดป้ายแจ้งอย่างที่หลายความเห็นบอกก็ดีครับ จะได้เข้าใจตรงกันทั้งลูกค้าและเจ้าของกิจการ ปล. แก้ไขคำพิมพ์ผิด และจัดวรรคตอน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 01:07:33 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 01:06:48 จากคุณ : Sand (econdpu) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:53:59

ความคิดเห็นที่ 47 อย่าใช่คำว่ารณรงค์เลย เพราะหลายร้านก็อนุญาตและใช้จุดนี้ดึงดูดลูกค้า คุณแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ที่ร้านตัวเองไม่บอกลูกค้า แต่มาตั้งกระทู้ในนี้ แล้วมันจะช่วยอะไรมั้ย จากคุณ : Mme.Dinsmoor เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:05:09

ความคิดเห็นที่ 48 ร้านอาหารแถวบ้านเรา มีคิดค่าแอร์ด้วยค่ะ อย่าว่าแต่ที่ชาร์ตไฟโน๊ตบุ๊คเลยค่ะ -*- จากคุณ : ห้ามแกะอ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:27:12

ความคิดเห็นที่ 49 ร้านกาแฟใต้คอนโดเราคิดค่าชาร์ตโน้ตบุ๊คชั่วโมงละ 10 บาทค่ะ แต่ให้เล่นเน็ตฟรี จากคุณ : คาราเมลลาเต้เย็น เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:43:57

ความคิดเห็นที่ 50 .ใจเขาใจเราค่ะ ทำแบบที่ คห.49 บอกไว้ก็ดีนะคะ ได้กำไรเพิ่มด้วย จากคุณ : คูซึล เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 03:17:46

ความคิดเห็นที่ 51 มันขึ้นกับรูปแบบร้านน่ะ  ร้านผมมีปลัีก มีไวร์เลสให้ใช้ฟรี แต่ร้านผมเป็นร้านอาหาร โต๊ะเก้าอี้จะไม่ได้นั่งสบายโคดๆเหมือนร้านกาแฟ น๊าน นานทีเจอลูกค้านั่งทำงานนานๆ จะคิดเพิ่มจะไม่คิดเพิ่ม มันต้องดูการคำนวนต้นทุนไว้ก่อน อย่างร้านผม + ไว้ในค่าอาหารหมดล่ะ จะยาวก็ตามสบาย  แต่อย่างจขกท ดูแล้วขายไม่แพงอยู่แล้วก็คงเครียด อย่างที่มีคนบอกว่าบางร้านคิดค่าแอร์ด้วยซ้ำ หัวล่ะ  5-10 บาทก็ว่ากันไป จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 06:59:45

ความคิดเห็นที่ 52 ^ ^ ^ เห็นด้วยกับ คห.51ครับ รวมไปกับค่าอาหารเลย เพราะร้านเดี๋ยวนี้ ผมว่าเค้ารวมนะ ที่ค่าอาหารแพงๆอ่ะ ผมก็ส่วนใหญ่ ก็เอาไอแพด ไปเล่นเกม เวลาไปทานข้าว หรือเข้าร้านพวกนี้ เพราะบางทีไปกับแม่ครับ แม่ผมชอบ นั่งแช่ ทานกาแฟ ข้าว ผมก็ข้าวจาน+ไอแพด นั่งเล่นไป แต่ไอแพดผม ช๊าตแบตมาเต็มนะ ไม่อยากรบกวนเค้าอ่ะ ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าก็รวมค่าเสียหาย ไปในราคาอาหารอยู่แล้ว ปอลอ....แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยเอาสายชาร์ตไป แม่ผมก็ดุ "ไปช๊าตของเค้าได้ไง" ผมบอก "เค้าบวกค่าชาร์ต ไปในตัวแล้ว คุณนายแม่" แม่ผมบอก "อ้าวหรอ !?!?" แล้ว พนง. ที่ร้าน ก็หันมายิ้ม แต่ลุกค้าบางคน ก็จัดเต็มซะ ไอแพด โน๊ตบุค ชาร์ตมัน 2 อย่างเลย บางที ก็น่าจะเกรงใจเค้าบ้างนะ เพราะแค่โน๊ตบุค ตัวเดียวก็ เกินทนแล้วครับ จากคุณ : Lusif (Lusif) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 07:54:30

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ ตอนนี้คิดว่าคงแก้ปัญหาโดยการติดป้ายคิดค่าบริการค่าชาร์จไฟค่ะ 30 นาทีแรกไม่คิดเงิน หลังจากนั้นคิดชั่วโมงละ 10 บาท ขอธิบายลักษณะร้าน และเหตุผลที่มาโพสนะคะ ร้านของ จขกท เพิ่งเปิดที่ใต้คอนโดนี้ค่ะ ก่อนจากนี้เปิดอีกที่ ร้านเก่าเปิดแอร์เป็นเวลา จ่ายค่าไฟตรงกับไฟฟ้าไม่มีชาร์จ มีลูกค้ามาใช้ wifi และมีลูกค้ามาชาร์จโน้ตบุคไม่น้อยค่ะ ค่าไฟตกเดือนละ 10000++ ค่ะ นี่คือเปิดแอร์เป็นช่วงเวลานะคะ เปิด 11 โมง ถึง บ่ายครึ่งหรือหมดลูกค้ารอบเที่ยงและเปิดอีกทีประมาณ 5 โมงเย็นถึงสี่ทุ่มค่ะ นี่คือเหตุผลที่ทำให้กังวลใจเรื่องค่าไฟค่ะ ร้านของ จขกท อยู่ใต้คอนโดลูกค้าส่วนใหญ่ 90% คือผู้พักอาศัยในนี้ (เรามีบริการส่งฟรีตามห้องพัก)และเป็นพนักงานออฟิศใกล้ๆคอนโด ช่วงเวลาที่จะขายดีหน่อยคือช่วงค่ำ หลังเลิกงาน ลักษณะร้านตามรูปที่โพสนะคะ ร้านโปร่งเปิดหน้าต่างได้รอบ ลมใต้ตึกพัดผ่านตลอด ไม่เปิดพัดลมเลยก็ไม่ร้อนค่ะ แดดจะส่องเข้าร้านช่วงเช้าเท่านั้น ซึ่งช่วงนี้ไม่ค่อยมีลูกค้า นี่คือเหตุผลที่ไม่เปิดแอร์ค่ะ จะพูดว่าไรดี คืออย่างที่แจ้งนะคะว่า จขกท ไม่ทราบอัตราค่าไฟว่าชาร์จโน้ตบุคเนี่ยมันแพงหรือไม่ เพียงแต่มีประสบการณ์ไม่ดีกับค่าไฟจากร้านเก่าค่ะ และมองพฤติกรรมของคุณลูกค้าต้นเรื่องที่ทำให้ตัดสินใจมาโพสในนี้ว่าไม่เหมาะสม และไม่มีมารยาทอย่างแรงคือ ถอดปลั๊กพัดลมของร้านออก แล้วเสียบไฟตัวเองโดยไม่บอกกล่าว คำว่ารณรงค์อาจจะใช้ไม่ได้กับกรณีนี้ ขออภัยที่ใช้คำนี้ค่ะทางร้านก็ผิดที่ไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบ ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : จขกท (lovelymilk) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 09:19:29

ความคิดเห็นที่ 54 อันนี้เท่าที่เคยเห็นมาตามสถานที่ที่ไม่อยากให้คนใช้ไฟของสถานที่นะคะ อย่างแรกที่เห็นคือ เปลี่ยนเต้าเสียบไฟเป็นแบบแปลกๆ ค่ะ (ดูภาพประกอบได้จากกระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/04/E7801363/E7801363.html ) แต่กรณีนี้คงต้องเสียเงินเป็นค่าเปลี่ยนหัวปลั๊กหน่อย อีกวิธีที่เห็นคือ เขาใช้วิธียกปลั๊กให้สูงเหนือหัวไว้ค่ะ อย่างทำที่เสียบข้างพัดลมแบบติดผนังเลยอะไรแบบนี้ ถ้าต้องเสียบปลั๊กแล้วตัวหม้อแปลงลอยกลางอากาศ ส่วนหนึ่งก็ทำให้ไม่อยากเสียบไปแล้วกว่าครึ่งล่ะค่ะ ถ้าทางจขกท.ไม่อยากยุ่งยากจัดการอย่างที่ว่า การติดป้ายว่าจะเก็บเงินต่อชม. เป็นความคิดที่น่าจะดีที่สุดค่ะ แก้ไขลิงค์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 10:05:38 จากคุณ : naj-chan เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 10:05:14

ความคิดเห็นที่ 55 -.-? เปิดแอร์ค่าไฟเดือนล่ะ 10000 *0* แอร์กี่ตัวอ่ะครับ ร้านผมแอร์ 2 ตัว 24000 กะ 18000 btu เปิดแอร์ช่วงเวลาเหมือนกันวันล่ะ 5-6 ชม. ตู้แช่ฟรีซ 1 ตู้ ตู้เย็นใหญ่ แบบ 2 ประตู 1 ตัว ตู้เล็กราวๆ 6 คิว 1 ตัว ไมโครเวฟ 2 ตัว เตาอบ 2000 Watt อีก 1 ตัว ปั้ม น้ำ 2 ตัว หมดค่าไฟ เดือนล่ะ 4500-6500 บาทขึ้นกับฤดูกาล จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 11:52:45

ความคิดเห็นที่ 56 ผมเคยแนะนำลูกค้าไป 1 รายเรื่องนี้นะครับ ลองเอาไปใช้ดูก็ได้นะครับ "อัตราค่าบริการชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ 1.Laptop 30 บาท/ชั่วโมง 2.Smartphone 40 บาท/ชั่วโมง (ขั้นต่ำ 15 นาที) หากลูกค้าสั่้งอาหารและเครื่องดื่มมูลค่ารวมเกินกว่า 100 บาท ค่าบริการชาร์จแบตเตอรี่มีอัตราดังนี้ a).Laptop 10 บาท/ชั่วโมง b).Smartphone 15 บาท/ชั่วโมง (ไม่มีขั้นต่ำ) หมายเหตุ : แต่ถ้าท่านใช้บริการเกินกว่า 1.30 ชั่วโมง เพื่อให้ทางร้านมีโต๊ะสำหรับบริการลูกค้าท่านอื่นได้ใช้บริการอย่างทั่วถึง ทางร้านขอเก็บค่าบริการท่านเพิ่ม 100 บาท/15 นาที ในส่วนที่เกินจาก 1.30 ชั่วโมง และหากท่านชาร์จไฟฟ้าไปด้วย ทางร้านขอเก็บค่าบริการเพิ่ม นาทีละ 15 บาท และหากท่านใช้บริการเกินกว่า 2 ชั่งโมง (โดยท่านสั่งอาหารและเครื่องดื่ม) ทางร้านขอเก็บค่าบริการเหมาจ่าย 3.ท่านละ 399 บาท/ท่าน --------------------------------------- ดูซับซ้อนไหมครับ เงื่อนไขนี้จะไม่กระทบต่อลูกค้าทีมากินกันจริงๆ ขนาดบุปเฟต์เขายังมีเวลาให้  1.30 ชั่วโมงแถมคนกินยังออกก่อนเวลาด้วยซ้ำ ส่วนคนที่มานั่งแช่ 1.30 ชั่วโมงมันก็นานเกินพอนะครับ เกินจากนี้เป็นการเบียดเบียนทั้งร้าน และ ลูกค้าท่านอื่นมาใช้บริการ บางคนออกจากบ้านเดินทางมาเพื่อมาใช้บริการแล้วเจอพวกแช่ นี่เสียทั้งเวลา ทั้งอารมณ์ แถมร้านก็ยังอยู่ไม่ได้ด้วย กรณีนั่งเกิน 2 ชั่วโมง สิ่งที่ลูกค้่าจะเสียคือ ต่านั่ง 100 บาท/ 15 นาที จากส่วนเกิน 1.30 ชม (ส่วนนี้ฟรี) ซึ่เท่ากับว่าคุณจะได้เงินจากลูกค้านั่งแช่อีก 200 บาท ซึ่งสามารถชดเชยการสูญเสียรายได้ไปพอสมควร (เป็นค่าเฉลี่ยของการสั่งซื้อเครื่องดื่มเช่นกาแฟ + ขนม หรือ ข้าวจานเดี่ยว + น้ำ ของร้าน Chain ทั้งหลาย ถ้าเขายังนั่งแช่อีกเกิน 2 ชั่วโมงเก็บไปอีก 399 บาท เป็นอัตราเหมาจ่าย ถึงจุดนี้ไม่มีใครอยากจะนั่ง chill แล้วเพราะเงินจำนวนนี่ เป็นค่าเฉลี่ยของเงินที่ได้ในวันหยุดของเด็กฐานะปานกลาง ตั้งแต่อายุ 14 - 22 ปี หมายควมว่าถ้าเด็กพวกนี้ยังนั่งแช่ เงินเสาร์อาทิตย์ หรือ เงินใช้เที่ยวจะหายไปหมด ถ้สนั่งรวม 2.01 ชั่วโมง คุณจะได้เงิน 599 บาทซึ่งจะชดเชยรายได้ที่ลูกค้าหายไปประมาณ 4.5 ชั่วโมงได้ ---------------------------------------------------------------- หลังจากออกนโยบายนี้ไป ร้านกาแฟ ลูกค้าผมคนนั่งเยอะขึ้น เพราะมีที่นั่งเหลือสำหรับทุกคน และลูกค้ายังต่อยอดทำห้องเล็กๆมีโซฟา โต๊ะ โคมไฟ กระจกบานใหญ่ วิวดีๆ เป็นห้องส่วนตัว ให้เช่าพื้นที่เป็นเรื่องเป็นราว 3 ชั่วโมง 300 ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม + อาหาร ปรากฎว่า คนที่เคยนั่งแช่ ชอบกันใหญ่ เพราะส่วนตัว ถึงขนาดต้องจองกันเลย win-win จากคุณ : moojiw เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 12:16:45

ความคิดเห็นที่ 57 ผมไม่กล้าเลยอ่ะ จะชาจโทรศัพท์ยังต้องเดินไปฝากชาจที่เคาเตอร์ ....หน้าบาง อิอิ จากคุณ : นายชอล เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 13:13:58

ความคิดเห็นที่ 58 จขกท นะคะ มาเพิ่มเติมรูปร้านปัจจุบันค่ะ จากคุณ : จขกท (lovelymilk) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 13:43:39

ความคิดเห็นที่ 59 ตอบคุณปลาทองนะคะ แอร์ 1 ตัวค่ะ น่าจะประมาณ 9000 btu ตู้เย็น 1 เครื่อง ไมโครเวฟ 1 เตาอบ 1 เครื่องดูดควัน 1 (แทบจะไม่ค่อยได้ใช้) ทีวี 1 พัดลม 3 เครื่องบดและทำกาแฟ 1 ชุด ในร้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าประมาณนี้ค่ะ แต่แอร์ไม่ค่อยเย็นมาก เปิดแอร์แล้วต้องเปิดพัดลมช่วยอีก 3 ตัว ถึงจะเริ่มรู้สึกว่าเปิดแอร์ นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ย้ายร้านมาอยู่ที่ใหม่ค่ะ (นอกจากค่าเช่าที่ค่อนข้างแพง และค่าจ้างเด็ก 2 คน) แนบรูปร้านเก่ามาให้ดูค่ะ ห้องไม่กว้างมาก เลยทำให้ค่อนข้างกังวลใจเกี่ยวกับค่าไฟ เพราะไม่ทราบอัตราค่าไฟจิง ๆ ว่าเอาโน้ตบุคมาเสียบในร้านนี่มันกินไฟแค่ไหน ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์กันนะคะ จากคุณ : จขกท (lovelymilk) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 13:59:37

ความคิดเห็นที่ 60 อยากจะบอกว่าแอร์เก่ารุ่นนี้ค่าไฟแพงมากค่ะ จากประสบการ์ณส่วนตัวของที่บ้านกับที่ทำงานเก่า ถ้าเปิดร้านอยู่ระยะยาวเปลี่ยนเป็นแอร์ใหม่ประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็ดีนะคะ ค่าไฟอาจจะถูกลงเกือบครึ่งเชียว อ้าวขอโทษด้วยค่ะนึกว่ารูปบนเป็นร้านปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 14:17:26 จากคุณ : ภาพกว้าง : ยามเช้า เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 14:16:01

ความคิดเห็นที่ 61 อืม น่าเห็นใจท่าน จขกท. และท่านผู้เปิดร้านอื่นๆ ที่คิดว่าคงเจอปัญหาเดียวกัน ผมว่าหากเอาอุปกรณ์ไฟฟ้ามา CHARGE ไฟที่ร้านขณะมาทานอาหารไม่กี่สิบบาทนี่ก็เกินไปจริงๆแหละ ผมก็ว่าท่านควรเขียนป้ายติดทุกโต๊ะให้ชัดเจน ไปเลยว่าห้าม CHARGE อุปกรณ์ไฟฟ้าของตัวเอง (เนื่องจากค่าใช้จ่าย คือค่าไฟ จะเพิ่มขึ้นก็ว่าไป) 1. หากใคร CHARGE ก็ขออนุญาตเก็บเงิน ในอัตราเท่ากับร้านเกมคือไปเลย คือ 30 บาท/ชั่วโมง หรือ 2 นาที/ 1 บาท เอาเครื่องจับเวลาไปตั้งไว้เลย 2. ดัดแปลงปลั๊กไฟในร้านเป็นแบบ 3 รูให้หมด จากคุณ : HANDFOOTMOUTH เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 14:44:49

ความคิดเห็นที่ 62 จขกท.อาจมีปัญหากับแอร์นะคะ ภาพแรกนั่นร้านตอนนี้ใช่ไหมคะ ขนาดห้องไม่น่าจะใช้แอร์ 9000 BTU ได้เลย  น่าจะต้องใช้เกิน 10000 BTU   ลองดูขนาดแอร์ที่ใช้ตอนนี้  แล้ววัดขนาดห้อง ไปถามที่ขายแอร์ให้เขาเช็คให้เราว่าเราควรใช้แอร์ขนาดไหนจะดีกว่าค่ะ เพราะว่าแอร์เล็กไม่ใช่จะประหยัด แต่ว่ามันจะยิ่งกินไฟ เพราะมันทำความเย็นไม่ได้ตามที่เราต้องการ มันจะไม่หยุดพัก หรือพักน้อย เปลืองไฟกว่าเดิมค่ะ แนะนำให้ใช้รุ่นใหญ่กว่านี้พอมันเย็นมันก็หยุดให้เรา เราเคยใช้แอร์ 18000 BTU แล้วห้องไม่เย็น ก็เปลี่ยนใหม่เป็น 28000 BTU ห้องเย็นกว่าเดิม ค่าไฟเท่าเดิม เราเปิดแอร์วันละ 12 ชม. ค่ะ ส่วนเรื่องที่ซื้อแอร์ เราซื้อในเน็ท พวกร้านขายส่ง ราคาถูกกว่าซื้อในห้างมากๆค่ะ .....คิดไปคิดมา จขกท.น่าจะอยากประหยัดค่าไฟมากกว่า แต่ก็ลองรับวิธีนี้ไว้พิจารณานะคะ เผื่อจขกท.เปิดแอร์น้อยชม.กว่าเราแล้วจะลดต้นทุนได้ จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:26:44

ความคิดเห็นที่ 63 ร้านเพื่อนเป็นร้านกาแฟ+ค็อกเทลค่ะ แต่งสวยมากมีโซฟานั่งเดี่ยว โซฟายาว มีปลั้กให้ลูกค้านั่งเล่นชาจไฟได้ มีไวไฟให้เล่น เราไปร้านเพื่อนตอนสามทุ่ม  เราไปกลุ่มใหญ่ เจอเค้านั่งอยู่ เรากลัวเสียงดังรบกวน เพื่อนบอกไม่เป็นไรมาทุกวัน ลูกค้าคนนี้ เพื่อนบอกว่าทุกวันจะนั่งตั้งแต่ สามโมง สั่งกาแฟแก้วเดียว จะจองโซฟายาว นั่งๆนอนๆ เ่ล่นเฟสบุ๊ค คุยโทสับ เพื่อนก็น้ำท่วมปากทำอะไรไม่ได้ลูกค้า เราถาม เค้ากินกาแฟ+วิปแก้วละ 35 บาทเองค่ะ บางทีเพื่อนไปเสนอเค้กหรือข้าวก็ไม่เอา มีบางวันสั่งโค้กเพิ่มอีกกระป๋อง ร้านเพื่อนเพิ่งเปิดคนยังน้อย น่าสงสารมาก 555 ร้านเพื่อนมีร้านอาหารด้วย แต่ไม่เห็นเค้าสั่งอะไรมากิน เรากินกันโต๊ะใหญ่มาก พอถึงเวลาจะปิดเค้าก็ไป ประมาณตี 1 บางทีร้านให้ชาจตไฟได้เล่นได้ก็มี แต่น่าจะพอประมาณนะคะ ไม่ใช่ว่ามานั่งเหมือนบ้านตัวเองขนาดนี้ เราเห็นแล้วยังขำเลย นั่งมันทั้งวัน นอนอีกตั้งหาก เห้ออออออออออ จากคุณ : blooperz เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:29:24

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นคนนึงที่เอา notebook ไปชาร์จ แต่เฉพาะร้านที่อนุญาต และเตรียมเต้าเสียบไว้ให้ นั่นก็คือ True Coffee มี่จามจุรีสแควร์ แต่ร้านอื่นไม่เคยค่ะ เรามองว่า จขกท.ควรติดป้ายไว้เลยอย่างที่หลายๆท่านบอก เพราะลูกค้าบางคนอาจมีความจำเป็นต้องใช้ไฟในตอนนั้น เค้าจะได้สบายใจด้วยว่าไม่ได้มาใช้ไฟเค้าฟรีๆ จากคุณ : เกี๊ยวซ่ากะชาเขียว เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:52:11

ความคิดเห็นที่ 65 งงครับ อุปกรณ์ไฟฟ้าน้อยมากแต่ทำไมค่าไฟ 10000 นึง -*- แอร์ 9000 BTU ค่าไฟเต็มทีเลยนะครับ 1.5 หน่วยต่อ ชม. อัตราตามจริง ก็ราวๆหน่วยล่ะ 4 บาท ก็คือ ชม. ล่ะ 6 บาท เปิด 24 ชั่วโมงมันไปเลย 144 บาท เปิดทุกวันก็ 4320 บาทครับ ถ้าร้านเก่าเปิด 24 ชั่วโมงผมว่าค่าไฟสมเหตุสมผลนะ ไม่งั้นผมว่าระบบไฟฟ้าต้องมีปัญหาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ แต่ช่างมันเหอะนะเพราะมันก็ร้านเก่า มันแล้วไปแล้ว ร้านใหม่ดูจากรูปแล้วค่อนข้าง budget คือขายไม่แพง ดังนั้นถ้าจะชาร์จก็เก็บมันเลยก็ดีครับ 555+ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:05:01

ความคิดเห็นที่ 66 เราเคยเห็นบางร้านเค้าติดป้ายไว้เลยนะว่าห้ามนำมาชาร์ตในร้าน จากคุณ : muayhongkong เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:53:57

ความคิดเห็นที่ 67 คิดเหมือนคห.62 ค่ะ ขนาดของห้องไม่น่าใช้แอร์ขนาด 9000 BTU ได้เลย ห้องขนาดประมาณนี้ที่บ้านเราใช้ 28000 BTU ที่บ้านมีอุปกรณ์มากกว่าร้านของจขกท.ประมาณเท่าตัว เปิดแอร์สลับกัน (ระหว่าง 18000BTU และ 28000BTU วันละประมาณ 18ชม. ค่าไฟประมาณ 4000 บาทค่ะ การเลือกขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เหมาะสมทำให้ประหยัดไฟและได้ประสิทธิภาพการทำงาน(ของเครื่องใช้ไฟฟ้า)เต็มที่ค่ะ จากคุณ : FloraLilly เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:25:59

ความคิดเห็นที่ 68 ห้องใหญ่จังแอร์แค่ 9000BTUจะพอเหรอคะ มันจะยิ่งทำให้กินไฟมากขึ้นแล้วก็ไม่เย็นด้วยมั้ง? ห้องเราเล็กมากแค่3.5x3ม.ติดแอร์ 12500BTUเย็นกำลังดี ค่าไฟ:เดือนก็ประมาณไม่เกิน 1,500 เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆก็ทีวี,ตู้เย็น,ไมโครเวฟ,เครื่องซักผ้าทั่วๆไป แอร์เครื่องเดียวค่ะ ร้านของจขกท.ค่าไฟแพงมากเลยแต่ถ้าคุณพยายามจะประหยัดค่าไฟโดยไม่เปิดแอร์ร้านคุณไม่ร้อนเหรอคะ? เพราะจากลักษณะภายนอกลูกค้าก็ต้องเดาว่าเป็นร้านติดแอร์น่ะค่ะ(เราก็คิดนะ)แต่พอเข้าไปแล้วไม่ได้เปิดแอร์เพราะประหยัดนี่มันจะเสียความรู้สึกไปรึเปล่าคะ ส่วนเรื่องลูกค้านำโน๊ตบุ๊กมาชาร์จแบตในร้านหรือมาใช้ไฟของทางร้าน จขกท.ก็ควรติดป้ายประกาศบอกเหมือนหลายๆคห.แนะนำก็น่าจะดีขึ้นนะคะ ขอให้ทำมาค้าขึ้นขายดิบขายดีนะคะ^^ จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 21:14:35

ความคิดเห็นที่ 69 จากที่เล่า ผมว่า ค่าไฟเท่านี้ เปิดแอร์วันละ 8 ชม. 1.โดนโกงมิเตอร์ 2.แอร์รุ่นโบราณมาก และ btu น้อยกว่าที่ควร 3.เป็นไปได้ว่าจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆที่กินไฟผิดปกติ/ไฟรั่ว ดูพวกที่กินไฟมากๆ เช่น ตู้แช่ ตู้เย็น อื่นๆ 4.เป็นไปได้ว่ามีใครมาทำอะไรมิดีมิร้ายร้านตอนกลางคืน เช่น แอบมาเปิดแอร์นอน ตอนกลางคืน ปล. ค่าไฟ ไม่ควรเกิน 5000 จากคุณ : น้องส้มเด็กดี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 21:18:17

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านจบก็นึกเลยครับว่า ควรติดป้ายบอก คิดว่าลูกค้าคงเข้าใจครับ แต่เขียนแบบสุภาพๆนะ จากคุณ : thaita เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 21:28:51

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณค่ะทุกท่าน รูปแรกเป็นร้านใหม่ค่ะ ไม่เปิดแอร์ไม่ร้อนค่ะเพราะเปิดกระจกได้รอบ และลมใต้คอนโดพัดเยุนดีค่ะ อาจจะเพราะช่วงนี้ฝนตกด้วยมั้งคะ แอร์ในร้านใหมัมี 2 ตัวค่ะ คิดเอาไว้ว่าหน้าร้อนคงเปิดให้ลูกค้าค่ะ ส่วนรูปล่างคือร้านเก่าค่ะ ร้านเก่าจะร้อนแดดส่องทั้งวันค่ะ จากคุณ : จขกท (lovelymilk) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 21:53:36

ความคิดเห็นที่ 72 ค่าไฟสูงไปนะครับ น่าจะมีอุปกรณ์ที่กินไฟเยอะเกินไป ส่วนเรื่องการชาร์จ อย่างผมจะถามร้านก่อนเลยว่าชาร์จได้หรือเปล่า ถ้าจะต้องชาร์จแล้วได้ก็ใช้บริการ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่บริการ อย่างของคุณที่ดูแล้วค่าอาหารไม่ได้บวกอะไรมาก น่าจะเก็บค่าชาร์จ 20-30 บาทต่อ 3 ชั่วโมงครับ น่าจะกำลังเหมาะนะครับ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:15:26

ความคิดเห็นที่ 73 ผมว่ามันเป็นเรื่องของการ Service สมัยนี้ร้านกาแฟหรือเค้กก็จะมีบริการแบบนี้เพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า เพราะบางครั้งที่เขามาร้านเรา Target จะแตกต่างกันไป บางคนมาทานกาแฟ บางคนมาทานเค้ก หรือบางคนขอมาแวะเพื่อมาเข้า Internet ดังนั้นหากปรับก็ระวังจะเสียลูกค้าไป สมัยนี้อาหารอย่างเดียวขายไม่ได้ เพราะ Internet กลายเป็นปัจจัยที่5ไปแล้ว (IT) หากคิดว่าขาดทุนหรือไม่คุ้มก็ปรับราคาครับ จะดูดีกว่ามากๆ และแจ้งเหตุผลให้เข้าใจพร้อมทั้ง service ตามราคา มันจะดีกว่า...คุณห้ามลูกค้าไม่ให้ใช้ปลั๊กไฟนะครับ จากคุณ : kmitl_Pu เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:26:49

ความคิดเห็นที่ 74 ติดป้ายบอกที่ร้านไว้ดีกว่าค่ะ ลูกค้าบางท่านอาจไม่ทันคิด หรือไม่ทราบ เพราะว่าเวลาไปบางร้าน เกือบทุกโต๊ะมีปลั๊กไว้ให้ลูกค้าเสียบไฟใช้ได้เลย ลููกค้าบางคนเค้าก็คงนึกว่าเหมือนกันทุกร้าน คิดค่าไฟเพิ่มก็ได้ค่ะ ถ้าลูกค้าอยากต่อปลั๊กใช้นานๆ ข้าวปั้ันก็ไม่้เคยเอาโน็ตบุคไปนั่งทำงานร้านอาหาร หรือร้านกาแฟนานๆเลยเพราะไม่มีสมาธิ และไม่สบายเท่าที่บ้าน.. จากคุณ : ข้าวปั้นช็อคโกแลต เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:38:04

ความคิดเห็นที่ 75 คิดเงินตามที่ จขกท. เขียนไว้ดีแล้วค่ะ ^_^ สู้ๆนะคะ อย่าไปห้ามเลยค่ะ อ้อ อีกอย่างก็คือหากไม่อยากคิดเงินเลยก็ + เข้าไปในค่าอาหารค่ะ จากคุณ : ozora เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:39:10

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านหลาย คคห. แล้วเอ่อ... บางท่านที่เปิดร้านเหมือนกันแต่ค่าไฟถูกกว่า ท่านจ่ายค่าไฟกับใครครับ??? ถ้าจ่ายกับไฟฟ้าโดยตรงมันต้องถูกกว่าอยู่แล้วครับ แต่ จขกท. จ่ายกับคอนโดนี่ครับ เห็นบอกว่า 6 บาท ซึ่งถ้าจ่ายตรงกับไฟฟ้ามันไม่ถึงอยู่แล้ว อย่างบ้านส่วนตัวหรือคอนโด กับ อพาร์ทเม้นต์ มันก็ยังต่างกันเลยนะครับ จากคุณ : เด็กมิวเซี่ยม เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 01:07:16

ความคิดเห็นที่ 77 เพื่อนเคยเจอแบบนี้ค่ะ แต่ร้านเขาเป็นร้านขนมเล็กๆในตจว. มาถึงไม่อะไรค่ะ เสียบชาร์จแบตมือถือ เสียบโน้ตบุ๊ค ขอรหัสwifi(จริงๆใช้เองในครัวเรือน แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยให้ใช้ค่ะ) พอเพื่อนไปแจ้งว่าทางร้านไม่ได้ให้บริการชาร์จไฟ ซึ่งก็บอกดีๆค่ะเพราะคนที่บอกคือสามีเพื่อนเราเองซึ่งใจเย็นมาก สุภาพมาก แต่ลูกค้าไม่พอใจก็บอกกลับมาว่า บริการแย่มาก ที่เชียงใหม่เขามีกันทุกร้าน แล้วก็จากไป แต่ที่เชียงใหม่ ร้านก็จะติดป้ายบอกราคาไว้ แต่เราก็ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องราคาเพราะตอนไปก็ไม่ได้ดูราคาไม่นิยมเล่นของพวกนี้นอกสถานที่ค่ะ ไม่ใช่อะไร กลัววางลืม นอกประเด็นไปไกล ขอเสนอว่าคิดเพิ่มดีกว่าค่ะ เพราะสมัยนี้มันเทคโนโลยีรอบตัวเลย บางคนแบตมือถือหมดแบบฉุกเฉินก็มีเนอะ แต่คิดต่างหากดีกว่าไหมค่ะ ถ้าบวกในราคาอาหารคนที่ไม่ได้มาใช้ปลั๊กที่ร้านก็โดนไปด้วย(ร้อนตัวนิดหน่อย) แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 01:13:24 จากคุณ : seafaring (seafaring) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 01:10:16

ความคิดเห็นที่ 78 76 ครับ ลองอ่าน 53 กับ 59 ดูนะครับ   จขกท ก็บอกนะครับว่าร้านเดิม ค่าไฟเดือนล่ะ 10000 จ่ายตรงกับการไฟฟ้า แกเลย เป็นห่วงเวลาคนมาชาร์จไฟ เพราะแกไม่มีความรู้เรื่องการกินไฟของแต่ล่ะอุปกรณ์ ผมดูจากรายการอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าร้านแก น้อยกว่าผมเกินครึ่งน่ะครับ ผมจ่ายตรงการไฟฟ้า เดือนนึง 4-6000 เองน่ะครับ มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยน่ะครับ ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าแค่นั้นค่าไฟ 10000 บาทต่อเดือน ยกเว้นว่าแกจะเปิด 24 ชม. หรือมีอะไรผิดปกติกับระบบไฟฟ้าของร้านแก จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:11:00

ความคิดเห็นที่ 79 ^ จขกท.ร้านอยู่ใต้คอนโด จ่ายให้คอนโด ราคาค่าไฟหน่วยละ 6 บาทค่ะ จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:39:07

ความคิดเห็นที่ 80 ^ ^ อ่าน 53 ใหม่นะครับ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:32:42

ความคิดเห็นที่ 81 เจ้าของกระทู้มี 2 ร้านนะครับ ร้านเก่าเป็นร้านสไตล์ตึกแถว ดูจากรุปน่ะครับ จ่ายค่าไฟเดือนล่ะ 10000 บาท จ่ายตรงกับการไฟฟ้า ส่วนร้านใหม่ ไม่มีรายละเอียด รู้แต่ว่าอยู่ใต้คอนโด ตามรูป  จ่ายค่าไฟให้คอนโด หน่วยล่ะ 6 บาท จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:35:12

ความคิดเห็นที่ 82 อ๋อ พูดถึงร้านเก่า อ่านแล้วงง - -" ขอบคุณที่บอกค่ะ จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:13:28

ความคิดเห็นที่ 83 ขอแชร์ประสบการณ์บ้างนะคะ พอดีเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆเหมือนกันค่ะ แรกๆที่เปิดก็โดนลูกค้ามานั่งนอนในร้านเหมือนกันค่ะ ยิ่งเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์คนจะเต็มร้านตั้งแต่เช้าจดเย็นเลย ลูกค้ามาช่วงบ่าย ช่วงเย็นจะไม่มีโต๊ะนั่งเลยค่ะ เพราะทุกโต๊ะนั่งเล่นโน๊ตบุคตั้งแต่เช้ากันหมด พอร้านปิดก็กลับกัน และเชื่อไหมคะ รายได้วันเสาร์อาทิตย์ที่คนเต็มร้าน ได้น้อยกว่ารายได้ของวันธรรมดาที่คนเข้าๆออกๆคะ  วิธีการแก้ไขของทางร้านคือ ย้ายปลั๊กค่ะ ตะก่อนมีทุกโต๊ะ เดี๋ยวนี้ย้ายให้ปลั๊กที่อยู่ในมุมที่ไม่สะดวกสบายสักเท่าไหร่ หรือเลือกให้อยู่ที่โต๊ะที่คนไม่ค่อยชอบนั่ง เช่น หน้าเคาร์เตอร์ หรือ โต๊ะที่เป็นโซฟาเตี้ยๆ ที่นั่งแล้วเมื่อยๆ พิมไม่ค่อยสะดวกอะไรอย่างนี้นะคะ และพอถ้าลูกค้าถามว่าเสียบปลั๊กได้ไหม เราก็ต้องตอบด้วยความยินดี ว่าได้ แต่แค่เฉพาะโต๊ะนี้เท่านั้นนะคะ (ถ้าไม่ว่างก็อด) ส่วนผลลัพธ์ก็ได้ผลพอควรนะคะ เพราะถ้าไม่สะดวกสบายมากเกินไป พอลูกค้าหมดความจำเป็นแล้วเค้าก็จะเลิกพยายามเองค่ะ แต่กระนั้นเอง ก็จะมีลูกค้าบางคน ขนอุปกรณ์ทุกอย่างมาชาร์ตพร้อมกัน เช่น กล้อง มือถือ ไอแพด โน้ตบุค  โดยมีปลั๊กรางมาเองด้วย โยงสายกันเองเลย โดยก็กินกาแฟแก้วเดียว   อันนี้ก็ไม่รู้จะว่าไง ... ถ้าเค้าพยายามมากขนาดนั้น ก็ทำใจค่ะ และอีกเคส ลูกค้ามาเป็นกลุ่ม 10 คน เป็นทีมเซลล์อะไรสักอย่าง มาประชุมกัน ทุกคนมีโน๊ตบุค อันนี้ก็เอาปลั๊กรางมาพ่วงระโยงระยางกันเอง เข้ามาก็สั่งข้าว 1 จาน กาแฟ2 แก้ว แต่นั่ง 4 โต๊ะ นั่งสักชั่วโมงเราเลยเดินไปถามว่า "รับอะไรเพิ่มไหมคะ" สิ่งที่เค้าตอบกลับมาคือ " อ้อ ไม่หรอกครับ ... พวกผมเพิ่งทานข้าวมาอิ่มแล้ว" แล้วก็ไม่สั่งอะไรจริงๆ นั่งไปเกือบ 4 ชม. ได้ วันนั้นเค้า 10 คน เสียไป 160 บาท ได้ประชุมแอร์เย็นๆ ห้องน้ำสะอาดๆ  ฟังเพลง ดูทีวี ชาร์ตไฟโน้ตบุค 10ตัว  และ ใช้ wifi ฟรี... สบายใจจัง อ่อ... แล้วเคยมีอีกเคสนึง มีลูกค้าจอดรถแล้ววิ่งลงมาจากรถ แล้วตรงไปที่ปลั๊กแล้วเสียบที่ชาร์ตมือถือ แล้วก็โทรศัพท์ทันที เราก็งงว่าอะไรกัน อยู่ๆก็วิ่งเข้ามา แต่ก็โอเคไม่เป็นไร น่าจะมีความจำเป็นด่วนอะไร เราก็เลยไม่ไปยุ่งกับเค้า แต่ก็แอบมองตลอดว่าจะสั่งอะไรหรือเปล่า ปรากฎว่าคุยโทรศัพท์ไปประมาณชั่วโมงนึง แล้วเธอก็เดินออกไปเฉยเลย... สาบานได้ว่าเธอไม่ได้พูดอะไรสักคำ?!?!!!?!?!  เรื่องเหล่านี้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ถ้าไม่เจอเองก็คงจะไม่ทราบ ว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้มารวมๆกัน หรือ ถ้ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองที่สามตามมา ... เรื่องเหล่านี้มันก่อความรำคาญใจไม่มากก็น้อย โดยส่วนตัวเรานั้น เรื่องค่าใช้จ่ายนั้นมันคงไม่เท่าไหร่ สำหรับธุรกิจประเภทนี้ แต่สิ่งที่ห่วงมากกว่าคือสังคมไทยที่มีคนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นมากขึ้นทุกวัน บางทีมันก็ท้อใจ.. จากคุณ : cbc-team (cbc-team) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 16:24:08