ความคิดเห็นที่ 1 http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/07/D12348182/D12348182.html สูตรแม่ผมทำบ่อยๆเวลาลูกๆมาเยี่ยมครับ ขอให้อร่อยนะครับ จากคุณ : eddie14 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 13:48:59

ความคิดเห็นที่ 2 ที่บ้านใช้ถั่วเหลืองผ่าซีกของ " ไร่ทิพย์ " กับถั่วลิสงเล็กน้อย (หรือข้าวเหนียวก็ได้ จะทำให้น้ำเต้าหู้มัน โดยไม่ต้องใส่นมทุกชนิด) ... ถ้าจะทำเช้า แช่ถั่วทั้งสองไว้ทั้งคืน ถ้าจะทำตอนเย็น แช่เช้า ... ก่อนทำรินน้ำที่แช่ออกให้หมด แล้วเติมน้ำสะอาดให้ท่วมถั่ว แล้วคนให้ถั่วทั้งสองชนิดเคล้ากัน ... ใช้แก้วหรือกระบวยตักถั่วให้มีน้ำติดด้วย ใส่โถปั่น จนหมด ... แล้วจึงใส่ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ  เมื่อกรองหมดแล้ว กากที่เหลือเอาน้ำใส่อีกรอบให้ท่วมกาก แล้วกรองเอาแต่น้ำอีกรอบ .... นำน้ำที่กรองแล้ว มาตั้งไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ คนบ่อย ๆ  อย่าให้ก้นหม้อไหม้ เพราะถ้าไหม้จะมีกลิ่นไหม้ไม่อร่อย และอย่าให้เดือดปุด ๆ    ต้มประมาณ 30 นาทีแล้วลองชิมดูว่า " เหม็นเขียวหรือไม่ " ถ้ายังเหม็นเขียวอยู่ให้ต้มต่อ แล้วอย่าลืมคนหล่ะ ! .... จนไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายขาว (ผมว่าน้ำตาลทรายแดง รสชาติออกเปรี้ยว ไม่ชอบ ) ที่ละน้อย แล้วคน ชิมดูอย่าให้หวานมาก ( ถ้าใครกินหวานมากค่อยมาเติมน้ำตาลเพิ่มลงในถ้วยหรือชามของใครของมันในภายหลัง ) ... ถ้าทานไม่หมด ปล่อยให้เย็น แล้วกรอกใส่ขวดแช่ตู้เย็นทานได้อีก 3 วัน สบาย ๆ ... ขอให้ทานกันให้อร่อยครับ ! ...    ส่วนกากถั่วที่เหลือนำมากวน ... โดยใช้กะทิมะพร้าวมาเคี่ยวในกระทะ โดยใช้ไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ เคี่ยวจนร้อน ใส่น้ำตาลทรายขาวเล็กน้อย  เกลือนิ้ดหนึ่ง คนให้ละลาย ลองชิมดูว่า แล้วลองตักนิ้ดหนึ่งชิมดูว่าหวานพอไหม ถ้าพอแล้ว นำกากถั่วลงกวน ค่อย ๆ กวนไปเรื่อย ๆ จนเกือบแห้ง ตักขึ้นปล่อยให้เย็น ถ้ามีแม่พิมพ์จะเป็นรูปอะไรก็ได้นำมากด ถ้าไม่มีก็แล้วแต่จะปั้น จะบี้ จะขยี้ จะขยำ แล้วทานก็ได้ ... จากคุณ : parevath เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 16:44:33

ความคิดเห็นที่ 3 สูตรแม่เรานะคะ แช่ถั่วเหลืองข้ามคืน เลาะเปลือกออก เอาไปปั่่น ก็เติมน้ำปั่นตามปกติ แต่ก่อนกรองให้เติมน้ำเดือดๆลงไปสักหนึ่งกาเพื่อลวกถั่วที่ปั่นแล้วแล้วค่อยมากรองแยกน้ำ ดังนั้นอย่าใส่น้ำตอนปั่นเยอะมากเพราะเดี๋ยวจะจืดไป แม่บอกถ้าลวกก่อนกรองแล้วกลิ่นเหม็นเขียวจะน้อยลง และกรองง่ายกว่าที่ใช้น้ำเย็น หม้อที่ต้มถ้าเป็นร้านขายจะวางบนแผ่นเหล็กเพื่อรักษาความร้อนและทำให้ความร้อนสม่ำเสมอ จะทำให้ไม่ไหม้ติดก้นและอุ่นตลอดเวลาได้แบบไม่เปลืองแก๊สมากนัก แต่ถ้าต้มบนเตาแก๊สแบบเราๆก็ต้องหมั่นคนเพราะติดก้นหม้อง่ายมาก ตั้งไฟตอนแรกต้มให้เดือดพล่านแล้วลดมาใช้ไฟอ่อนๆ ตอนเดือดระวังล้นหม้อ ต้มจนหอมไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว นั่นหมายถึงน้ำเต้าหู้สุกดีแล้วค่อยเติมน้ำตาล ที่บ้านใช้น้ำตาลทรายแดงหรือไม่ก็น้ำตาลกรวดค่ะ เสร็จแล้วทิ้งให้เย็นตักใส่ถุงหรือใส่ขวดเก็บในตู้เย็นทานได้สองสามวัน ถ้ายังไม่หมดก็เอาที่เหลือมาอุ่นให้เดือด เก็บต่อได้อีกหน่อย แต่ไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนเพราะสามวันก็หมดแล้วทุกที 55 จากคุณ : เด็กหญิงในห้องสี่เหลี่ยม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 18:46:12

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านใช้เครื่องทำน้ำเต้าหู้อะค่ะ  เลยค่อนข้างสะดวก  น้ำเต้าหู้ที่ได้จะใสๆนะคะ ไม่ข้นเหมือนร้าน  แต่บ้านเราต้มเสร็จแล้วกินเลย ไม่ใส่น้ำตาล  ก็จืดๆมันๆค่ะ   ตอนนี้กินน้ำเต้าหู้ที่ซื้อไม่ได้เลย เราว่ามันข้นและหวานเกินไป จากคุณ : ใบพายสีส้ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:54:32

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปันความรู้ ครับ คุณ eddie14  เห็นขั้นตอนอย่างละเอียดทีเดียวเชียว คุณ parevath ชอบตรงเมนูกากถั่วเหลืองนี่แหละ ...น่าสนใจเหมือนกัน จากคุณ : ม่านหมอกเหมันต์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:42:20