ความคิดเห็นที่ 1 ร้าน Let Them Eat Cake ไม่มีเว็บไซท์ แต่มีแฟนเพจในเฟซบุ๊คชื่อ letthemeatcakebkk พิกัดของร้าน Let Them Eat Cake อยู่ในซอยสุขุมวิท 20 ครับ ถ้ามา BTS ก็ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วแต่มอไซค์รับจ้างเข้ามาในซอยประมาณ 300 เมตร ด้านขวามือจะมี community mall ชื่อ Mille Malle อยู่ ร้านอยู่ชั้น G ครับ จุดสังเกตชัดๆ ก็ร้าน wine connection ที่อยู่หัวมุมตึกครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:46:50

ความคิดเห็นที่ 2 รู้สึกว่าห้าง Mille Malle จะยังเปิดไม่ครบครับ เห็นชั้นบนๆยังว่างอยู่เลย อันนี้รายชื่อร้านในห้าง ก็มี wine connection กับราเม็งยามาโกยะมาเปิดแล้ว จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:47:57

ความคิดเห็นที่ 3 เดินเข้ามาตรง MaxValu ก็จะเจอร้าน Let Them Eat Cake ครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:48:53

ความคิดเห็นที่ 4 เปิดประตูเข้าร้านมา ก็จะเจอตู้เค้กอยู่ มีเค้กประมาณเกือบยี่สิบอย่างตามนี้ครับ มีทั้งที่เป็นคอลเลกชั่นแรกตั้งแต่เปิดร้าน และคอลเลกชั่นใหม่ที่จะลองชิมกันวันนี้ครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:50:03

ความคิดเห็นที่ 5 มองไปทางขวา..... ขนมที่เป็น signature ของร้านคือ St. Honore (แซงก์ออนอเร่) ซึ่งเป็นขนมคลาสสิกของฝรั่งเศสที่ผมไม่เคยเห็นร้านไหนในเมืองไทยทำขายเลยครับ อันที่เห็นสีชมพูๆ มีกลีบกุหลาบเป็นรสกุหลาบราสเบอรี่ ส่วนตัวผมคิดว่าร้านนี้ทำได้ดี พอกับของ Laduree ที่ฝรั่งเศสเลยครับ (แต่ของ Laduree จะต่างกับร้านนี้ ตรงที่ LTEC เคลือบคาราเมลกรุบกรอบ แต่ของ Laduree เคลือบ fondant ครับ) จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:53:25

ความคิดเห็นที่ 6 มองไปทางซ้าย ... โซนนี้จะเป็นพวกช๊อคโกแลตเป็นหลักครับ ที่เห็นส้มๆนั่นเป็นทาร์ตชาไทย ของโปรดผมอีกชิ้นนึงของร้านนี้ อิอิ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:54:53

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วก็ถึงคิวเป้าหมายของวันนี้ครับ ขนมคอลเลกชั่นใหม่ทั้งห้าชิ้น อยู่ตรงกลางตู้เค้ก สังเกตได้จากตราครั่งสีแดงที่ประทับอยู่บนป้ายชื่อเค้กครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:55:56

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเลือกนั่งข้างนอกจะได้นั่งชิวๆคุยกับเพื่อนเสียงดังได้ด้วย อันนี้เป็นเมนูเครื่องดื่มครับ ร้านนี้ใช้ชาของ TWG มีให้เลือกเป็นสิบเบลนด์ครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:57:38

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนอันนี้เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เน้นพวกไวน์เป็นหลักครับ ร้านนี้เค้ามีจับ wine pairing กับขนมด้วย แต่ผมไม่ถนัดสายนี้ ขอผ่านค้าบบบ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:58:24

ความคิดเห็นที่ 10 มาแล้วครับ ... ขนมห้าชิ้นที่จะลองชิมกันวันนี้... จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:59:30

ความคิดเห็นที่ 11 นี่แหน่ะ ... ถ่ายมุมบนด้วย จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:00:31

ความคิดเห็นที่ 12 เริ่มจากชิ้นแรกคือ Heritage (อ่านแบบฝรั่งเศสว่า เอริทาจ) ฐานของขนมเป็นซาเบล้ เบรตอง (Sable Breton) ซึ่งเป็นคุ้กกี้เนยสูตรของแคว้นเบรอตาญ ซึ่งรสชาติจะ rich กว่า sable หรือคุ้กกี้ฝรั่งเศสทั่วไปเพราะใส่เนยจำนวนมาก ถัดขึ้นมาเป็นมูสน้ำตาลมะพร้าว ข้างในมีเนื้อแห้วชิ้นเล็กๆ เคี้ยวแล้วกรุบๆดี ราดด้วยเกลซน้ำตาลมะพร้าวแล้วท๊อปด้วยวิปครีม ส่วนที่แปะอยู่รอบๆมูส น่าจะเป็น feuilletage ครับ และตกแต่งด้วยวุ้นแห้วอีกที โดยรวมแล้วผมชอบชิ้นนี้มาก เพราะเป็นรสชาติที่ให้ความหวานมันมากเป็นพิเศษ ใครที่ชอบกินติดหวานน่าจะชอบชิ้นนี้ กินแล้วรู้สึกเหมือนกินคาราเมล แต่แอบมีความเป็นไทยซ่อนอยู่ ทั้งการใช้น้ำตาลมะพร้าว และใช้เนื้อแห้วเพิ่ม texture ให้มีมิติมากขึ้น จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:06:29

ความคิดเห็นที่ 13 อันนี้หั่นให้ดูข้างในครับ ว่าในมูสน้ำตาลมะพร้าวจะมีเนื้อแห้วชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วย เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่น่าสนใจดีครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:07:48

ความคิดเห็นที่ 14 ชิ้นที่สองชื่อ Poire William Dome (ปัวร์ วิลเลี่ยมโดม) หน้าตาชิ้นนี้ดูขาวสะอาดเรียบง่ายมาก เห็นตอนแรกนึกว่าร้านนี้ทำซาลาเปาขายด้วย ^^ แต่สิ่งที่ขัดแย้งกับหน้าตาของขนมคือ รสชาติที่ซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูกครับ เริ่มจากฐานขนม เป็น Almond Dacquoise (เมอแรงก์ผสมแอลมอนด์บด) ส่วนหลักๆของขนมเป็นมูสที่ทำจากเหล้าบรั่นดีผลไม้ชื่อ Poire William คำว่า Poire เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าลูกแพร์ครับ และไส้ด้านในเป็นครีมเกาลัด ราดด้วยเกลซรสลูกแพร์ สัมผัมของขนมชิ้นนี้จะหยุ่นๆ เพราะเป็นเนื้อมูสเป็นหลัก รสชาติจะออกละมุนๆ ไม่หวานแหลม แต่ขนมชิ้นนี้มีเหล้าเป็นส่วนประกอบด้วย บางคนอาจจะไม่ชอบนะครับ เพื่อนผมที่ไปกินด้วยก็ไม่ค่อยโดนเท่าไร... จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:15:05

ความคิดเห็นที่ 15 ด้านในเป็นแบบนี้ครับ ... สำหรับผม ชิ้นนี้ถือว่าอร่อยดีครับ อาจจะเพราะคุ้นเคยกับรสชาติของลูกแพร์และเกาลัดตั้งแต่ตอนอยู่ฝรั่งเศสแล้ว จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:16:42

ความคิดเห็นที่ 16 ชิ้นที่สาม Mango Bellini (แมงโก้ เบลลินี่) ชิ้นนี้ใครชอบมะม่วงต้องกรี๊ดครับ ฐานเป็น Almond Dacquoise เหมือนชิ้นเมื่อกี้ (ผมคิดว่าความกรุบกรอบของ dacquoise มันเข้ากันกับความนุ่มของเนื้อมูสดีนะครับ) เนื้อมูสเป็นมูสมะม่วง แต่ชิมแล้ว รสชาติและกลิ่นมันฟ้องว่าไม่น่าจะเป็นมะม่วงไทยครับ มันเหมือนมะม่วง Alphonso ของอินเดีย เพราะกลิ่นค่อนข้างฉุน และหวานแหลมครับ ไส้ด้านในเป็นเยลลี่รสพีช แล้วราสด้วยเกลซรสพีชอีกที ใครชอบอะไรที่เป็นผลไม้ ชิ้นนี้น่าจะทำให้คุณฟินได้ครับ เนื้อมูสก็ละมุนมาก ชอบครับชอบ... (ขนมมาวางบนโต๊ะปั๊บ เพื่อนเอามีดหั่นครึ่งชิ้นนี้ก่อนเลย ห้ามไม่ทัน แหะๆ) จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:21:30

ความคิดเห็นที่ 17 แอบเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอีกแล้ว คือการเชื่อมขนมให้ยึดเกาะกับฐานวางขนม ร้านนี้ใช้น้ำเชื่อมราสเบอรี่ ซึ่งหลายร้านบางทีจะใช้พวกช๊อคโกแลต หรือ corn syrup ซึ่งควรจะเลือกใช้ให้เหมาะกับขนมแต่ละชิ้น เพราะมันอาจจะไปรบกวนรสชาติหลักได้ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:24:27

ความคิดเห็นที่ 18 ชิ้นที่สี่ Thai Lime Tarte ทาร์ตมะนาวไทย จริงๆร้านนี้มีทาร์ตมะนาวขายตั้งแต่ซีซั่นแรกแล้ว แต่ซีซั่นใหม่ก็ทำแบบใหม่ออกมาอีก คราวนี้ใช้มะนาวไทยทำครีมแทน แต่ครีมมะนาวเวอร์ชั่นนี้ จะแอบมีรสชาติของขิงอยู่ครับ เพราะรสมะนาวไทยจะหวานแหลมกว่าเลมอนเหลือง และตัดรสชาติด้วยวิปครีมมะพร้าว มาช่วยเบรคความเปรี้ยวของมะนาวอีกแรง รสชาติของเวอร์ชั่นนี้จะดูมีมิติมากกว่ารุ่นแรก โดยส่วนตัวผมจะไม่ชอบทานรสเปรี้ยวเท่าไร เลยกินแค่สองคำแล้วให้เพื่อนจัดการที่เหลือ อิอิ ^^ อ้อ ผมว่าร้านนี้ทำเปลือกทาร์ตอร่อยดีครับ กรอบและบางกำลังดี ไม่ร่วนแตกเป็นผงๆ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:29:06

ความคิดเห็นที่ 19 และชิ้นสุดท้าย คือ Tuileries (ทุยเลอรีส์) มองแว้บแรก ผมนึกว่ามันคือขนมมงบลังก์ แต่พอได้กินจริงๆก็พบว่าไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ส่วนฐานเป็นเปลือกทาร์ตแอลมอนด์ แล้วก็มีครีมแอลมอนด์อบอยู่ด้านใน แล้วท๊อปด้วยครีมเกาลัด ที่บีบเป็นเส้นๆเหมือนขนมมงบลังก์ และชั้นบนสุดเป็นวิปครีมชาไทย ส่วนตัวผมคิดว่าชิ้นนี้เป็นชิ้นที่รสชาติซับซ้อนที่สุดในบรรดาห้าชิ้นที่กินวันนี้ครับ เวลากินขนม ผมจะตัดแบ่งขนมให้มีทุกส่วนของขนมแล้วใส่เข้าปากเคี้ยวพร้อมกัน มันจะได้ combination รสชาติที่ซับซ้อนดีครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:33:42

ความคิดเห็นที่ 20 ด้านในเป็นแบบนี้ครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:34:14

ความคิดเห็นที่ 21 เรียบร้อยครับ ...กับการรีวิวแบบละเอียดยิบ ค่าเสียหายก็ประมาณนี้ครับ โดยส่วนตัว ผมคิดว่าร้านนี้ราคาเค้กถึงจะสูงกว่าร้านอื่นๆหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มราคามากครับ เพราะเทคนิคการทำขนมแต่ละชิ้น มันซับซ้อนมาก ผ่านการคิดมามากพอสมควร สมกับที่เป็นขนมสไตล์ฝรั่งเศสหรือ patisserie ที่เชฟเก่งๆจะต้องคำนวณทั้งรสชาติ และรสสัมผัสให้พอดีในการกินขนมหนึ่งชิ้น ซึ่งร้านคอนเสปต์แบบนี้ในเมืองไทยยังหาไม่ค่อยมีครับ จุดเด่นของขนมร้านนี้สำหรับผม อยู่ที่รสสัมผัสครับ เพราะชิ้นนึงจะได้รสสัมผัสหลายแบบมาก จะไม่เหมือนเค้กทั่วไปที่สัมผัสเดียวกันทั้งชิ้น ส่วนเรื่องรสชาติ อันนี้ลิ้นใครลิ้นมันจริงๆครับ เพราะไปกับเพื่อน ก็ชอบกันคนละชิ้นครับ จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:38:38

ความคิดเห็นที่ 22 ก่อนกลับ ถามน้องพนักงานว่าไม่มีมาการงขายเหรอ เพราะเป็นถึงร้านขนมฝรั่งเศส น่าจะมีขายด้วย ... น้องพนักงานบอกว่ากำลังเตรียมทำกัน น่าจะเริ่มวางขายเดือนธันวา ... ไว้เดี๋ยวมีขายแล้วจะมาลองกินดูหน่อย ว่าจะสู้เทพมาการงอย่าง Pierre Herme หรือ Laduree ได้รึเปล่า ปิดท้ายด้วยบรรยากาศร้าน ถ่ายจากลานจอดรถฝั่งตรงข้าม (อีกสาเหตุที่ชอบร้านนี้ คือที่จอดรถเพียบ จอดฟรีอีกตะหาก อิอิ) จากคุณ : Le Vivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:43:04

ความคิดเห็นที่ 23 ร้านโปรด :) Collection นี้เพิ่งเคยทานแค่สองอันคือ Mango Bellini กับ Thai Lime Tart ส่วนตัวชอบ Lemon Tart มากกว่าครับ ส่วนแมงโก้ชอบครับบบ รอมาการงเช่นกันนนน จากคุณ : facthanhu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 02:14:35

ความคิดเห็นที่ 24 ต้องหาเวลาไปลองบ้างแล้วค่ะ อยากทานทุยเลอรีส์จัง~ จากคุณ : =^AngEliNg^= เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 02:31:15

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นกระทู้ที่ประเทืองท้องและสมองมาก จากคุณ : กล้วยไส้ข้าวเหนียว เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 04:11:41

ความคิดเห็นที่ 26 อยากเข้าในเมืองไปลองบ้างจัง จากคุณ : Jinnie_In_A__BoTTle เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 04:32:21

ความคิดเห็นที่ 27 น่าทานมาก ๆ ครับ จากคุณ : กระบี่นกฮูก (feranec) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 09:57:19

ความคิดเห็นที่ 28 สีสันสุดๆเลย บางชิ้นซับซ้อนซ่อนรสซะจริง จากคุณ : Suisen เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 10:01:06

ความคิดเห็นที่ 29 ราคาแพงกว่าขนมแถวบ้านอีก ทั้ง ๆ หน้าตาไม่ต่างอะไรกันเลย จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:17:50

ความคิดเห็นที่ 30 เดี๋ยวไปลองมั่ง   ขอบคุณสำหรับรูปค่ะ     ท่าทาง จขกท  จะเป็นนักชิมขนมตัวยงเลยนะคะ จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:17:23

ความคิดเห็นที่ 31 กรี๊ดดดดดดด  น่าเกลียดน่ากลัวที่สุด จากคุณ : fly-girl เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:27:15

ความคิดเห็นที่ 32    เห็นราคาแล้ว  ขนมไทยไทย เช่น ตะโก้แห้ว หม้อแกงถั่ว ฯลฯ ชิ้นละสิบบาท ก็อร่อยสุดยอดได้เหมือนกันนะเออ จากคุณ : NCIS เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:41:10

ความคิดเห็นที่ 33 น่าทานมากค่ะต้องไปลองซะแล้วววว ^^ จากคุณ : จูบไม่หอม เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:50:33

ความคิดเห็นที่ 34 รีวิวได้ละเอียดมากครับ รูปก็สวย ขนมก็น่าทานตามมาตรฐาน จากคุณ : emptyarea เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 20:30:43

ความคิดเห็นที่ 35 น่าทานจังเลยคะ มีแต่เค้กสวยๆ น่าลองอ่ะ จากคุณ : armkaa เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 20:54:39

ความคิดเห็นที่ 36 ขนมสีสวยมากๆ  >.< จากคุณ : fm@co เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 21:27:32

ความคิดเห็นที่ 37 ฝรังเศสกระจายมากกระทู้นี้ ตั้งแต่ชื่อ จขกท แล้ว 555 ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ ชอบๆ จากคุณ : cha_pec เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 12:25:03

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ  จะไปทานแมงโก้ เบลินี่^^ จากคุณ : อาโฮเฮะ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 13:39:44

ความคิดเห็นที่ 39 yummm จากคุณ : Idiot Linguist เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 14:57:45

ความคิดเห็นที่ 40 น่าทานมากครับ มีเกร็ดเล็กๆให้ได้ประโยชน์ด้วย ขอบคุณครับสำหรับรีวิว จากคุณ : Nemo&Nano เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:39:05