ความคิดเห็นที่ 1 ต่อมาจะเห็นวัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันได้ออกผนวชและประทับที่วัดบวรแห่งนี้ เลยไปอีกหน่อยก็จะพบกับ “บรมบรรพต” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ภูเขาทอง” ซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสีทองขนาดย่อมลูกเดียวของกรุงเทพ ที่มีความสวยงามตรงสีทองเหลือง อร่ามงามจับจิตจับใจ หากเบนสายตามาทางขวามือจะมองเห็น “ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์” โดยลานพลับพลาแห่งนี้นอกจากจะเป็นที่ต้อนรับบุคคลสำคัญที่มาเยือนประเทศไทยแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ “พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว” ซึ่งบริเวณลานพลับพลาแห่งนี้ได้รับการออกแบบภูมิทัศน์ที่สวยงาม เพื่อให้สอดรับกับฉากหลังที่เป็น “โลหะปราสาท”ที่มีความงดงามไม่แพ้กัน ข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศมาถึง ถ.ราชดำเนินนอก ถนนที่มีแนวต้นมะขามเรียงรายอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นสถานที่สำคัญๆทางราชการหลายแห่ง ที่ยังคงความสวยงามของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ พระบรมรูปทรงม้า ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยอีกแห่งหนึ่ง โดยพระบรมรูปพระองค์นี้ เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ตลอดจนพ่อค้า ประชาชน ได้ร่วมใจกันสมทบทุนสร้างถวายพระเกียรติแก่พระองค์ มองไปที่ฉากหลังของพระบรมรูปทรงม้า จะเห็น “พระที่นั่งอนันตสมาคม” เป็นอาคารหินอ่อน 2 ชั้น มีผังเป็นรูปไม้กางเขนแบบลาติน ตกแต่งลวดลายหินอ่อนเป็นรูปคน และลายพันธุ์พฤษาตามแบบอย่างศิลปะเรอเนสซองส์ ถัดมาซ้ายมือคือสำนักพระราชวัง หรือที่เรียกกันติดปากว่า “วังเสือป่า” และวัดเบญจมบพิตร บ้านนรสิงห์ และสนามมวยราชดำเนิน ผ่านสะพานผ่านฟ้าลีลาศอีกครั้ง จะเห็นป้อมมหากาฬ เข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวซ้ายไปถ.ดินสอ ซึ่งในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านของคนที่ทำดินสอพองขาย เลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะเห็น “ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร”ตั้งเด่นเป็นสง่า “เสาชิงช้า”ดูสวยงามและคงมนต์ขลังของพิธีกรรมสมัยก่อน “วัดสุทัศน์”วัดประจำรัชกาลที่ 8 นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายที่หลายแห่งที่จะได้ยลจากการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถสองชั้นปรับอากาศที่มีชื่อว่า “วัดโพธิ์”และ “วัดแจ้ง” แต่ตอนนี้เราลองไปเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นการล่องเรือชมความงามสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากันบ้างดีกว่า แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลักของเมืองไทย ที่เปรียบเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตมากมายและได้หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นับตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ หรือแม้กระทั่งเมื่อร่างกายดับสูญ ไม่เพียงเท่านั้น สถาปัตย์กรรมสองฝั่งแม่น้ำก็สวยงาม กลมกลืนกันทั้งความทันสมัย ในขณะเดียวกันก็ยังเหลือกลิ่นอายของอดีตไว้ไม่น้อย ขณะที่เรือแล่นขึ้นไปยังสะพานกรุงธน ผ่านสถานที่สำคัญของฝั่งพระนครซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของวังเก่ามากมาย อาทิ วังมะลิวัลย์ บ้านเจ้าพระยา สวนสันติชัยปราการ ถ้าตาดีอาจมองเห็นต้นลำพูต้นสุดท้ายก็เป็นได้ ล่องเรือลอดผ่านสะพานพระราม 8 ความโดดเด่น สวยงาม ที่เกิดขึ้นซึ่งเกิดจากการผสมผสานด้วยศิลปะแบบไทย ๆ จากแนวคิดในการสร้างเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ เฉลิมพระเกียรติในหลวงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทางกทม. จึงได้อัญเชิญ “พระราชลัญจกร”ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำ พระองค์มาเป็นต้นแบบในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม จากคุณ : น้องเลฯ - [ 13 พ.ค. 47 15:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผ่าน “วังบางขุนพรหม” ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำการของธนาคารแห่งประเทศไทย “ท่าวาสุกรี” ซึ่งเป็นที่เก็บเรือราชพิธีบางส่วน “วัดคอนเซ็ปชัญ”ซึ่งสมัยก่อนเป็นชุมชนของชาวโปรตุเกสที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มาถึงสะพานกรุงธนหรือซังฮี้ แล้ววกเรือกลับเพื่อมุ่งหน้าไปยังสะพานตากสิน เรือล่องเลียบฝั่งธนบุรี โดยผ่านย่านบางพลัดมาถึง “โรงสุราบางยี่ขัน” ที่ปัจจุบันนี้รกร้างว่างเปล่ามานานแล้ว ถัดไปอีกนิดจะเป็น “บ้านบางยี่ขัน” ซึ่งเป็นบ้านเก่าแก่ของตระกูลเอนกวนิช มาถึงปากคลองบางกอกน้อยซึ่งในอดีตเคยเป็นสายน้ำเดิมของแม่น้ำเจ้าพระยา “สถานีรถไฟบางกอกน้อย”อีกฉากหนึ่งที่มีความสำคัญในนวนิยายเรื่อง “คู่กรรม” สิ่งที่โดดเด่นและเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯในสมัยก่อน คงจะหนีไม่พ้น “พระปรางค์วัดอรุณ”ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นสถาปัตย์กรรมที่มีความวิจิตร และงดงามไม่แพ้ที่ไหนในโลก แต่เมื่อเบนหัวเรือกลับมาทางฝั่งพระนคร จะได้พบกับทัศนียภาพของความทันสมัย อาคารพาณิชย์สูงระฟ้า เป็นย่านการค้าที่รวมโรงแรมชื่อดังไว้มากมาย ก่อให้เกิดภาพแปลกตาด้วยแสงไฟระยับหลากสีสัน เพลินตาเพลินใจไปอีกแบบ บางคนอาจจะมองว่าแค่การขึ้นรถ-ลงเรือ ชมความงามของทิวทัศน์กรุงเทพฯยามค่ำคืน ในขณะที่บางคนอาจเห็นจนชินตา เพียงเท่านี้นะเหรอที่จะเรียกว่าเป็นการพักผ่อนได้ แต่จะมีซักกี่ครั้งที่การเดินทางท่องเที่ยว ได้ให้อะไรกับเรานอกเหนือจากความสุขใจ แต่ยังได้ตระหนักถึงสิ่งที่เรียกว่า “ประวัติศาสตร์” และสำนึกในบุญคุณของ “บรรพบุรุษ” จากคุณ : น้องเลฯ - [ 13 พ.ค. 47 15:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่างนี้เราเรียกว่า "น้องเลฯทัวร์" เยี่ยมมากสมเป็นน้องของพี่มายจริงๆ วันหน้าต้องเชิญไปเป็นมัคคุเทศน์ของ "เก้าสิบเก้าสมาล์ยทัวร์" ซะแล้ว สนใจมะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 47 16:19:00 จากคุณ : 99smiles - [ 13 พ.ค. 47 16:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบรูปที่ 1 เป็นพิเศษ เพราะใกล้ร้านมนต์นมสด มีความทรงจำที่ดีมากๆเลยกับลานศาลาว่าการกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะที่มีของกินสาระพัดจากร้านมนต์ประกอบอยู่ด้วย โอย!!! คิดแล้วหิววววว จากคุณ : TTB* - [ 13 พ.ค. 47 16:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แถวนั้นกลางวันก็น่าไปกิน..กลางคืนก็น่าไปเดินเนอะ น้องเลฯ จากคุณ : น้ำเขียวโซดาหวานซ่า..ชื่นใจ - [ 13 พ.ค. 47 21:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จริง ๆ ขอบหมด อะน้องเล แต่ ประทับใจวัดอรุณมาก ได้ไปงานเมื่อปีก่อน ที่เขาจัดประจำปี ได้ดูโขนชักรอก แล้ว ก็เดินดู อะไร เพลิน ๆ อีกเยอะ เลยขอโหวตอันนี้แล้วกัน จากคุณ : jojo02 - [ 14 พ.ค. 47 08:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เลือกเสาชิงช้าา เรยย อิอิ เอ..มีัทัวร์ แบบนี้ด้วยหรอครับ น่าไปลองจัง ฟรีด้วยยย จากคุณ : พริ้วไหวเหมือนสายลม - [ 14 พ.ค. 47 10:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอ้... แมวน้ำที่รัก กำลังต้องการข้อมูลอยู่พอดีเลยอ่ะ.. มาถูกจังหวะเลยจ้า ^^ จากคุณ : ^SoFaNaNon^ - [ 15 พ.ค. 47 03:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบ ชอบ ชอบ อยากไปค่ะ จากคุณ : ป๋อมแป๋มป่วยทุกวันจันทร์ - [ 15 พ.ค. 47 19:01:08 ]