ความคิดเห็นที่ 1 ขอรวดถามอีกอย่างได้มั๊ยคะ ว่า ถ้าจะอบเค้กอบคุกกี้ด้วย ฝาอบเนี่ย ต้องเอาใส่อะไรเหรอคะ แบบว่ามือใหม่มากๆๆๆ รบกวนผู้รู้ตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : บ. - [ 9 พ.ย. 47 14:25:04 A:203.113.50.142 X:203.150.217.114 TicketID:006008 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เบกกิ้งโซดากับผงฟูทำหน้าที่เหมือนกันค่ะ คือใส่เพื่อช่วยให้ขนมฟูขึ้น แต่แตกต่างกันตรงที่ถ้าเราทำขนมโดยมีส่วนผสมที่ทำมาจากธรรมชาติ เช่น ลูกเกด, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ ต้องใส่เบกกิ้งโซดาลงไปด้วยค่ะ แต่อย่าใส่เยอะนะคะ เพราะเบกกิ้งโซดาจะทำให้ขนมมีกลิ่นเบกกิ้งโซดาน่ะค่ะ (อันนี้คุณครูบอกมาค่ะ แต่ไม่ทราบว่ากลิ่นยังไง) ส่วนเนยขาว เป็นไขมันที่ทำมาจากพืช ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ใช้แทนมาร์การีนได้ค่ะ แต่ขนมที่ทำออกมาจะไม่หอมกลิ่นเนยนะคะ ใช้ทาถาดขนมจะช่วยให้ขนมไม่ติดพิมพ์ หรือใช้ทำครีมแต่งหน้าเค้กค่ะ ทราบเท่าเนี้ยค่ะ รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมนะคะ จากคุณ : หนึ่งมิตรชิดใกล้ - [ 9 พ.ย. 47 14:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผงฟูคือ baking powder เป็น baking soda (Sodium bicabonate) + แป้ง เนยขาว เป็นไขมันที่ได้จากพืช จะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้องใช้ทำขนมแทนเนยได้แต่จะไม่หอมกลิ่นเนย และการละลายในปากไม่ดี แต่ราคาถูกกว่า ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะจ้ะ จากคุณ : เออจิง - [ 9 พ.ย. 47 14:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Baking Soda ต่างจาก Baking Powder อย่างไร (อันนี้แปลและเรียบเรียงจาก http://chemistry.about.com/cs/foodchemistry/f/blbaking.htm) Baking Soda คือ sodium bicarbonate เมื่อมันทำปฏิกิริยากับน้ำและกรดที่ผสมในส่วนผสมอื่น จะทำให้เกิดฟองก๊าซขึ้น และช่วยดันให้แป้งขนมปังฟูขึ้น อาหารต้องมีกรดผสมอยู่ด้วย จึงจะใช้ Baking Soda ได้ Baking Powder คือ sodium bicarbonate กรด (cream of tartar) และแป้ง Baking Powder มีสองแบบคือแบบ Single-acting powder และ Double-acting powder ทั้งสองแบบนี้ไม่ต้องอาศัยกรดจากส่วนผสมอื่นที่จะทำให้เกิด gas เพราะมีกรดอยู่ในส่วนผสมของมันอยู่แล้ว ต้องการน้ำเท่านั้น แบบ Single Acting Powder จะเหมือนกับ Baking Soda คือเมื่อผสมแล้วต้องอบทันที ไม่งั๊น gas จะหายไปจาก dough ขนม แต่ Double-acting powder จะให้ฟองก๊าซเพียงเล็กน้อยในตอนแรก และเมื่อนำขนมเข้าเตาอบ เกิดความร้อน ก๊าซส่วนใหญ่ก็จะถูกปล่อยออกมา ทำให้ขนมฟู แบบหลังทำให้เรามีเวลามากขึ้นก่อนที่เราจะเอาขนมเข้าเตาอบ เนยขาว คือไขมันพืช ที่ถูกทำให้อิ่มตัวมากขึ้น โดยการเติม ไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุลของมัน ผลก็คือน้ำมันพืชกลายเป็นไขมัน (เป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้องแทนที่จะเป็นของเหลว) เนยขาวต่างจากเนยและมาการีน (จริง ๆ ต้องอ่านว่ามาจารีน) ตรงที่เนยขาวมีไขมัน 99% ขณะที่เนยและมาจารีนมีไขมันเพียงประมาณ 80% และเนยขาวจะเริ่มไหม้ที่อุณหภูมิสูงกว่าเนยและมาจารีนค่ะ เนยขาว ภาษาอังกฤษเรียกว่า Shortening เพราะมันทำให้เนื้อของผลิตภัณฑ์เบเกอร์รี่นิ่มขึ้น (Shorten) ซึ่งเป็นผลเหมือนกับการเติมไขมันนมค่ะ แต่จะไม่มีกลิ่น Creamy หรือ Buttery จากคุณ : n0nglek - [ 9 พ.ย. 47 19:15:17 ]