CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    จดหมายจากสุขสวัสดิ์…....ตอน ……. ฉันชอบ.. เรือนมยุรา

    สวัสดีทุกท่าน

    วันนี้ฉันขอเลียนแบบเขียนเป็นจดหมายกะเค้ามั่ง อิอิ
    ฉันก็ไปปาร์ตี้เรือนมยุรากับเขาด้วยล่ะ
    ภาพสวยๆ คำคมๆ ก็ดูจากทู้คุณโจโจ้กันไปเรียบร้อย
    ตานี้ฉันก็ขอเพ้อเจ้อตามประสาซะหน่อยนึง

    (ที่จริงฉันจะโพสต์ตั้งกะวาน พอดีฉันเวียนเข้าออก รพ เรื่องญาติฉัน
    แต่ยังไม่วายไปทำข่าวกอซซิบที่เชอราตอนเที่ยงมา
    ทุลักทุเลเชียวแหละ เอาไว้โพสต์ถัดจากเรือนมยุราละกันนะ  ข่าวใหญ่ ขอบอก )

    ไม่เกริ่นละ แปะเลย

    ***********


    คนบ้านนอกชายขอบ กทม อย่างฉัน ชีวิตวันๆ ก็วนเวียนอยู่แถวฝั่งธน
    จะข้ามมาพระนครกับเขาบ้าง อย่างมากก็แถวสาทร สุขุมวิท และลาดพร้าวต้นๆ แค่นั้น
    ถนนเพชรบุรี น่ะเหรอ
    อย่างมากฉันก็เคยไปถึงประตูน้ำ มักกะสัน มันก็สุดขอบโลกของฉันแล้ว
    วันเสาร์ที่ผ่านมา มีเพื่อนใจดี พาฉันออกนอกโลก
    มาหมู่บ้านดัง แถวถนนพัฒนาการ
    เพราะเขามีปาร์ตี้กัน  
    มื้อไหนน่ะเหรอ ฉันก็ตอบไม่ถูกหรอก
    เป็นแบบออลเดย์ ออลไนท์ มั้ง
     

    เรือนมยุรา กระแทกใจฉันตั้งแต่เดินเข้าไปแล้ว
    ฉันไม่ได้เห็นบ้านหลังๆ ตั้งโดดเดี่ยว แบบเรือนทั่วไป
    แต่เป็นเรือนเล็กเรือนน้อย กระจายตัวอยู่ในหมู่สวนและมวลพฤกษา  
    เรือนแตกตัวเป็นห้องเล็กห้องน้อย
    ลดเลี้ยวเคี้ยวคด น่าค้นหา
    หากมาเล่นซ่อนแอบโป้งแปะกันในเรือนนี้
    คงเล่นกันได้ทั้งวันไม่รู้เบื่อ

    ฉันคงต้องสารภาพว่า
    ฉันชอบการกระจายตัวของหมู่เรือน
    กับ การออกแบบให้สวนล้อมเรือนได้อย่างแยบยล
    ดังที่ฉันจะเขียนจดหมายเล่าข้างท้ายนี้  เป็นที่สุด



    เรือนมยุราต้องมีห้องครัว
    เจ้าเรือน ผู้แสนจะสุนทรีย์ และมีอารมณ์กวีอย่างเปี่ยมล้น
    คิดค้นคำขวัญสั่งทำป้ายแขวนไว้หน้าเรือนครัวว่า

    “ ครัว คือ หัวใจของบ้าน.”  

    ฉันใคร่ครวญดู อืมม เป็นสัจธรรมจริงแท้
    บ้านจะสวยเพียงใด  หากผู้เหย้าและแขกส่งเสียงครวญครางออกจากท้อง
    ร้องประสาน โครกๆครากๆ  เป็นดนตรีประกอบปาร์ตี้
    หิวโหยอยู่ตลอดเวลา คงไม่น่าอภิรมย์แน่ๆ




    ครัวของเรือนมยุรา มียิบย่อย ใหญ่น้อย กระจายไปทั่ว
    เท่าที่ฉันเห็นมีอยู่สองจุดหลักๆ  
    โรงครัวใหญ่เป็นเรือนแยกไปหนึ่งหลังต่างหากจากเรือนใหญ่

    จะต้มผัดแกงทอดจริงๆจังๆอะไรก็ทำกันในนี้
    ออกจากเรือนครัวมา ตรงไปก็จะเป็นเรือนรับรองแล้วล่ะ
    เรือนรับรองที่สร้างขึ้นใหม่ เปิดประตูเข้าไป
    จะพบเครื่องไม้ทำเหมือนโต๊ะบูชา มีแคร่ไม้อันสวยพร้อมดอกไม้
    มีฮาโลเจนแบบราวสามหัว ส่องเน้นเฉพาะจุดด้วย
    แต่เจ้าเรือนเขาคงไม่ได้ตั้งไว้บูชาหรือตั้งตามฮวงจุ้ยรับทางเข้าอะไรหรอกมั๊ง เขาตั้งให้สวยๆซะมากกว่า



    ประตูเรือนใหญ่เป็นไม้บ้านใหญ่เก๋ไก๋
    ปกติฉันไม่ค่อยจะได้เปิดประตูเก๋ๆแบบนี้กะเขาเท่าไร
    เพราะเคยคุ้นอยู่แต่ลูกบิดกลมๆแบบฟลอร์ๆ
    ก็เลย งงๆ กับวิธีการเปิดประตูอยู่พอควร
    งกๆเงิ่นๆจะเปิดประตู

    แต่เปิดไม่ออก  
    เห็นมีกุญแจดอกหนึ่งเสียบไว้จึงพยายามหมุนซ้ายหมุนขวา
    กลายเป็นล็อคมันแน่นขึ้น
    ฉันขังตัวเองอยู่หน้าบ้านยังพอว่า
    แต่ไปเกะกะให้แขกเหรื่อท่านอื่นต้องล่าช้าไปด้วยอีกตามเคย
    ทางด้านในเห็นเสียงก่อกๆแก่กๆ คล้ายขโมยมางัดเรือน
    เลยมาช่วยฉันเปิดเข้าไปจนได้



    ห้องโถงในเรือนรับรองนี้กว้างขวางยิ่ง
    พื้นเรือนเป็นพื้นไม้เรียบลื่นน่านั่งน่านอนเกลือกกลิ้งยิ่งนัก
    เครื่องเรือนส่วนใหญ่เป็นเครื่องไม้ ที่เจ้าเรือนไปเลือกซื้อเลือกสั่งจากเมืองเหนือโดยเฉพาะ

    ฉันออกจะมีอคติกับเครื่องเรือนไม้ พอๆกับ กุ้ง
    คือหลงปลื้มกับมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
    แต่ฉันต้องเก็บอาการไว้ไม่ทำน้ำลายหกรดเครื่องเรือนสวยๆของเจ้าเรือนเขา


    เจ้าชิ้นที่เด่นสะดุดตาฉันมากที่สุด  
    เป็นตู้ลิ้นชักไม้แบบร้านยาจีนโบราณนั่นแหละ
    ......หลังตู้ยังมีประดิษฐานไว้ด้วยรูปเคารพทางศาสนาของเจ้าเรือน
    รูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาทางตะวันตก
    ถูกบรรจงจัดสร้างในกรอบไม้ฝังมุขแบบตะวันออก
    อีสท์มามีทเวสท์อย่างกลมกลืนตามไอเดียเจ้าเรือนจริงๆ


    ที่ฉันว่ามาเรื่องเครื่องเรือนไม้ต่างๆ
    ไม่ใช่ว่า เรือนใหม่หลังนี้จะดูมืดทึมโบราณนะ
    เจ้าเรือนเขาผสานเครื่องไม้เข้ากับความเป็นคอนเทมโพรารี่ ได้แจ่มเชียวหล่ะ
    ที่เขาว่า  เรือนเหมือนกระจกสะท้อนเจ้าเรือน
    คงมีส่วนอยู่ทีเดียว
    เจ้าเรือนท่านนับว่าปรุงความเก๋า (แต่ไม่เก่าแก่)
    ผสมความทันสมัย
    ในตัวของท่านออกมาเป็นเรือนที่เห็นนี้เลย


    ***********


    โถงใหญ่ในเรือนรับรองนี้
    ผสานหลายหน้าที่เข้าไว้ ได้อย่างอัศจรรย์
    มีมุมโซฟารับแขก ซึ่งสามารถปรับประยุกต์ไปนั่งกินเล่นนอนเล่นได้
    มีมุมโต๊ะยาวกินอาหารได้แบบจริงๆจังๆ  
    มีแชนเดอร์เลียช่อใหญ่ที่ห้อยอยู่เหนือโต๊ะอาหารยาวนี้ด้วย

    เจ้าเรือนเขาไม่เอาแชนเดอร์เลียทั่วๆไปมาแขวนหรอกนะ
    แต่เลือกสรรแบบแกนเป็นโลหะรมดำเท่ๆ
    ความขรึมขลังมันช่างเข้ากับเครื่องเรือนไม้
    และยังเข้าชุดกับโต๊ะอาหารไม้ตัวยาวอย่างพอดีทีเดียว


    ทางมุมขวาใกล้ทางเข้า ฉันเห็นตู้ไม้ใบใหญ่
    คล้ายตู้บิลท์อินติดผนัง แต่มันทำอะไรได้มากหลาย
    หน้าที่หลักของมัน เป็นคล้ายครัวย่อมๆ อันหนึ่ง
    มีมุมอ่างไว้ล้างถ้วยชาม มีตู้เย็นใบใหญ่แนบชิด
    ในตู้โชว์เผยให้เห็นพวกอุปกรณ์ชงชา กาแฟ ทั้งหลาย

    ก็เจ้าเรือนเขาชมชอบการรับทานชายามบ่ายแต่ไหนแต่ไร
    ครั้นจะต้มชากาแฟ ส่งมาจากเรือนครัว ก็ดูจะไกลโดยใช่ที่

    หนำซ้ำ การมีมุมครัวในเรือนใหญ่นี้
    ยังทำให้สามารถดึงเอาอุปกรณ์ครัวหลายชิ้น
    ที่ออกจะน่าเสียดาย หากซุกมันไว้อย่างดีในตู้ทึบในครัว
    มาแสดงตัวทักทายให้แขกได้ชื่นชมกันอีกด้วย

    เช่น ที่กรองชา ถ้ำชา กาชา นานาที่มา
    ฉันเห็นแล้วแล้วอดมิได้ สั่นหน้าหงึกๆเห็นพ้องอยู่ในใจ (เก็บอาการ)
    กับไอเดียเจ้าเรือนอีกแล้ว
    เจ้า อินฟิวเซ่อร์ ที่ฉันมองจนเซ่อๆ ตอนเขาคุยกัน
    โพสต์รูปกันในทู้นานมาแล้วนั้น
    ฉันได้เห็นตัวจริงหลายอันก็วันนี้เอง


    เรือนรับรองใหญ่นี้
    ไม่ว่ามองออกไปจากโต๊ะอาหารยาว หรือมุมโซฟา
    ก็ทอดตาออกไปเห็นสวนที่ล้อมเรือนอย่างแน่นหนาอยู่ทุกด้าน

    ต่อ ใน คห 1

    แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 48 09:14:43

    จากคุณ : อู๋ปังจู้ - [ 21 ก.พ. 48 09:11:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป