ความคิดเห็นที่ 1 มาลองคิดดูว่า ถ้าจะแบ่งประเภทของบุฟเฟ่ต์ นี่ จะแบ่งยังไงกันดีละนะ  เอ  เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน  แบ่งแบบง่าย ๆ  ตามสติปัญญาอันไม่ค่อยจะมีของฉันแล้วกัน  อิอิ ว่ากันว่าต้นกำเนิดของบุฟเฟ่ต์นี่มาจากแถวสวีเดนหรือยังไงนี่ละ  ที่เรียกกันว่า สโมตราส์บอร์ก หรือยังไง ภาษาสวีดิชนี่ ฉันสารภาพ ไม่ประสีประสาเลย  อิอิ  เป็นการเอาหารสารพัดสารเพที่มี มาวางเรียงไว้ให้คนกืนเลือกกินกันตามใจชอบ  มีตั้งกะพวกอาหารแบบเสิร์ฟเย็น อย่างปลาดอง ปลารมควัน  เนื้อรมควัน  ผักหญ้าอะไรพวกนี้   แล้วต่อมาก็ได้มีวิวัฒนาการมาเป็นการเลี้ยงแบบ บุฟเฟ่ต์  ต่อมา  ผิดถูกยังไง ก็ว่ากันไป  เล่าไปเท่าที่รู้มา  นะจ๊ะ  อิอิ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:21:24 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:20:36 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 08:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ้าว โม้เพลินลืมดูขนาดไปหน่อย แก้ตัวหน่อยแล้วกัน  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอาละ  ถึงไหนกันแล้ว  เล่าที่มาแล้วสินะ  ทีนี้ก็มาดูเรื่องการจัดกลุ่มหรือ แยกประเภทกัน หน่อยดีมะ   แรกเริ่มเดิมที่ ที่รู้จักบุฟเฟ่ต์ที่เมืองไทยนี่  ส่วนใหญ่จะเป็นงานเลี้ยงประมาณว่า งานแต่งงาน ซึ่งในสมัยแรก ๆ  นี่ คนที่เคยมีประสบการณ์คงนึกภาพได้  ว่า วุ่นวายน่าดู เพราะยังไม่คุ้นเคย  เริ่มตั้งกะการเข้าคิว  การตักอาหารเอง  อะไรพวกนี้ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:18:54 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หลาย ๆ  คนอาจมีประสบการณ์ไม่ดี เกี่ยวกับการเลี้ยงแบบนี้  จนถึงขั้นสาปส่งว่า ถ้าใครเลี้ยงแบบนี้จะไม่ไปกินแล้ว  เพราะ เหมือนกับการแย่งกันกิน  อิอิ  ฉันเองก็เป็นคนนึงที่สาปส่งงานเลี้ยงแบบนี้  เหมือนกัน  แล้วต่อมา ก็เริ่มได้รู้จักกับการขายอาหารแบบ บุฟเฟ่ต์ ของห้องอาหารในโรงแรมที่ประมาณว่า ติดดาวมาหลายดวงหน่อย  ก็เริ่มเอ  ไม่เลวนี่นา  การกินแบบนี้  มีความหลากหลายให้เลือกได้ตามใจที่เราอยากกิน  อันไหนชอบอยากซ้ำก็ได้ดังใจนึก แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:22:35 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แรกสุดเลย เท่าที่ระลึกได้  ก็เป็นบุฟเฟ่ต์ประมาณว่า อาหารนานาชาติ  ส่วนใหญ่ก็จะมีอาหารฝรั่งแบบพื้นฐาน  อย่างสลัด  หมูอบ  ไก่อบ    ผสมผสานไปกับ อาหารเอเชีย อย่างอาหารไทย  ที่จะมีพวกแกงเผ็ด   น้ำพริก  แล้วก็ อาจมีอาหารจีนอีกหน่อย  อย่างขาหมู  ผัดผักแบบจีน  อะไรพวกนี้  แรก ๆ  ที่รู้จักยังไม่ค่อยได้มีอาหารหรู ๆ  อะไรมากนักหรอกนะจ๊ะ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วต่อมา ตอนได้เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศสมัยแรก  ๆ    เข้าพักตามโรงแรม  ก็ได้เจอบุฟเฟ่ต์ อีกแบบ  ก็ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าไง  อิอิ  จำได้ว่าเจอครั้งแรกน่าจะเป็นที่โรงแรมแถวชายทะเลชะอำ หรือยังไงนี่ละ  ลักษณะก็จะเป็นอาหารเช้าแบบรวมญาติ  มีตั้งกะ  ขนมปัง ไข่ดาว  เบค่อน  ไส้กรอก  แล้ว ก็มีข้าวต้มด้วย  อิอิ  เจอ เข้าแรก ๆ   ก็งง ๆ  เหมือนกันนะ  ต้องค่อย ๆ  เรียบเรียงความคิดตัวเองก่อน แล้วค่อยลงมือกิน  อิอิ  กินแล้วก็ติดใจว่า ดีจัง  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อมา ก็ เจอ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าแบบนี้ ที่มีความหลากหลายเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ  จนเริ่มชิน  แล้วก็มีโอกาสไปลองบุฟเฟ่ต์ ตามห้องอาหารโรงแรมต่าง ๆ  ในกรุงเทพฯ  มากขึ้นเรื่อย ๆ  ก็ มีดีมั่งไม่ดีมั่งคละเคล้ากันไป  ตอนนี้ละ  เริ่มมีบุฟเฟ่ต์ แบบใหม่ ๆ  ขึ้นมา จริง ๆ  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ  เพียงแต่ว่า เขาจำกัดประเภทของอาหารที่จะมีเสิรฟให้ชัดเจนลงไปว่า ร้านเขาเป็นอาหารไทย ก็ จะมีแต่อาหารไทย  เท่าที่จำได้  น่าจะเป็นจิตรโภชนานี่ละ  ที่เจอเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารไทยเจ้าแรก ๆ  เลย จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นมะ  ว่าตอนนี้ เรา ก็มีบุฟเฟ่ต์ 2 แบบแล้วนะ ก็แบบ นานาชาติหรือแบบรวมญาติ นั่นไง ส่วนอีกแบบ ก็ แบบว่าบุฟเฟ่ต์แบบปัจเจก  อิอิ  ก็แบบว่า ฉันเป็นฉันเอง    ไทย ก็ ไทย  อะไรแบบนี้ นะ   แล้ว เอ ต่อไป จะมีบุฟเฟ่ต์แบบไหนอีกละนี่ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 14:29:45 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีจ๊ะมี  จำไม่ได้ว่า ซิซเล่อร์ นี่เข้ามาเมืองไทยตอนปีไหนแล้วละ  นี่ก็ถือได้ว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ อีกแบบนะ  แต่ถ้าว่าตามหลักการ ก็ไม่ใหม่หรอก  เพราะคอนเซป แบบว่าบุฟเฟ่ต์สลัดบาร์ ที่มีสลัดผัก ซุป เส้น กับของหวานนะ  จริง ๆ  แล้วไม่ใหม่หรอก  พวกร้านอิตาเลียนเองเขาก็มีมาก่อนแล้ว  นานด้วย  จำได้ว่า ไปทานร้านปัน ปัน  สมัยยังอยู่ริมถนนสุขุมวิท  พอสุดสัปดาห์ เขาก็จะมี บุฟเฟ่ต์ พวก ผักย่างแบบอิตาเลียนเสิรฟ ด้วย  แต่ เขาจะจำกัดให้ตักได้ครั้งเดียวหรือยังไงนี่ละ  เพราะ อาหารพวกนี้  แต่ละคนอาจชอบไม่เหมือนกัน  เวลาไปกินกันหลายๆ  คน ถ้าจะสั่งเป็นเรื่องเป็นราวก็จะเยอะเกินไป หรือ แพงเกิน เลยมีบริการแบบนี้  เห็นว่าที่อิตาลีเอง จริง ๆ  ก็มีแบบนี้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 14:31:38 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:25:28 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นมะ ว่า บรรดาร้านบุฟเฟ่ต์ ที่กำลังฮิต ติดตลาดนี่อะ  จริง ๆ  ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก  แค่ ลอกแนวความคิดดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว มาปรับให้เข้ากับ ความนิยมในอาหารแต่ละประเภทในแต่ละช่วงเวลา เท่านั้นเอง  หลาย ๆ  คน อาจเข้าใจว่า บุฟเฟ่ต์ร้านดังที่นิยมกันมากนี่  ละ คือ ตำราต้นแบบของ บุฟเฟ่ต์  มักจะมีคำถามว่า  มีไอ้โน่นไอ้นี่  เสิรฟแบบที่ร้านนี้มั้ย    โอ้  ก่อนเดินเข้าไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ไหน  เราน่าจะทำความเข้าใจก่อนสักนิดว่า เรากำลังจะเข้าไปกินบุฟเฟ่ต์แบบไหนกัน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 14:32:37 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วิวัฒนาการของบุฟเฟ่ต์  แบบเดินไปตักเอง เลือกเองจาก หม้อชามรามไหที่เขาจัดวางไว้ ก็ เริ่มมีการพัฒนาไปอีกแบบ  ประมาณว่า เหมือนการยกระดับว่า  เราไม่ได้เสิรฟอาหารแบบ ทำทีละหม้อใหญ่เท่าบ้าน  นินทากันว่าเหมือนอาหารหมูนั่นละ   ก็เลยมีการแปลงคำใหม่  มาเป็นว่า  All you can eat  ไง จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คอนเซป แบบ All you can eat นี่ จริง ๆ จะว่าไปก็ดีนะ  เพราะ ร้านเองก็ไม่ต้องเสียเปล่ากับการใช้ว้ตถุดิบปรุงอาหารที่อาจไม่มีคนกิน  เหลือทิ้งไว้เบะเบน  เป็นแบบว่า ปรุงเท่าที่ลูกค้ามีความต้องการที่แท้จริง  แต่ยังคงแนวคิดที่ว่า กินไปเถอะ ถ้าคุณชอบ กินจนคุณพอใจนั่นละ  แต่  ในเรื่องเดียวกันนี้ ก็ มีอีกปัญหานึงที่ตามมา  ก็ คือ การกั๊กอาหารของร้านเอง  หรือ ปัญหาที่ว่า การทำแบบ A Lacarte นี่ มันไม่ลงตัวกับ การเสิรฟแบบว่า บุฟเฟ่ต์จำแลงนี่เอง จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จริง ๆ  จะว่าไปนะ  ก็มีคนนินทากันว่า คนกินบุฟเฟ่ต์นี่นะ  ไม่ค่อยฉลาดนัก  เพราะเคยมีเชฟฝรั่งเขียนหนังสือประมาณว่า เบื้องหลังจากก้นครัว  บอกว่า การทำบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ หรือมื้อเช้า นี่นะ  คือกระบวนการกำจัดวัตถุดิบที่ค้างเก็บจนเกินอายุที่เหมาะสมแล้ว  เหมือนกับว่าเอาซากมาแปลงเป็นเงิน  นี่ไง  อิอิ   แต่ ฉันเอง ก็ ไม่ได้เชื่อไปหมด หรอกเชื่อแบบว่า เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง  เวลาไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ไหน ก็ เลือกกิน หน่อยนึง  พวกสลัดคลุกสำเร็จ อะไรพวกนี้  สารภาพว่า ไม่ค่อยนิยมตักมากิน  เพราะ เกรงเหมือนกัน  นะ  อิอิ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 14:35:04 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วิถีแห่งการกินบุฟเฟ่ต์ นี่  ไป ๆ  มา ๆ  กลายเป็นกระแสที่มาแรงเอาเรื่องเลยนะ  หลาย ๆ   คนที่ไม่ค่อยนิยมเพราะมองว่า อะไรกัน จ่ายเงินไปกินแล้วต้องบริการตัวเอง เดินไปตักอาหารเอง  อะไรเองแบบนี้  กลายเป็นว่า  เอ ไม่เลว หลาย ๆ คน ที่มีความสามารถในการกินแบบเน้นปริมาณ ก็เริ่มมีความสุข ว่า โอ้  สวรรค์ของฉันนี่เอง    ทีนี้ละ บรรดาร้านเสิรฟอาหารบุฟเฟ่ต์ ก็ได้ทีเหมือนกัน  เริ่มตั้งเงื่อนไขแทรกซ้อนเข้ามาในการ  เริ่มตั้งกะ กำหนดเวลาในการกิน   โปรโมชั่นพิเศษที่ตามมากับราคาที่แพงขึ้น  ลดคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาทำอาหาร  โอ้  สวรรค์เริ่มล่มแล้วเหรอนี่ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:27:57 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องการจัดโปรนี่ละ  ที่ทำให้  มีบุฟเฟ่ต์อีกประเภทขึ้นมา  ขอเรียกว่า บุฟเฟ่ต์กลายพันธุ์ ก็แล้วกัน  อิอิ  เอ่ยชื่อหน่อย ร้านโออิชิ  ที่แสนโปรดปรานของหลายๆ  คนนี่เอง  จำได้ว่า แรกสุดที่เปิดร้านที่ซอยทองหล่อ  ลือลั่น มากว่า  คออาหารญี่ปุ่น ทั้งหลายจงไปกินเสียไม่อย่างนั้น ถือได้ว่าไม่ใช่ของแท้  555 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:28:48 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โถ  นินทาเขาไป  ตัวฉันเอง ก็ไปด้วยเหมือนกัน  แต่สารภาพจ๊ะ  ว่า ไม่ประทับใจเลย  ทั้งนี้ เนื่องจากนิสัยส่วนตัวฉันเอง  มองว่าเรื่องการกิน นี่ ไม่ใช่แค่รสชาติอาหารอย่างเดียวนะ  ต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง   ถ้าให้กินก๊วยเตี๋ยวริมถนน ชามละไม่กี่บาท   อันนี้ บรรยากาศยังไง ก็รับได้  นั่งหลังชนกัน  คนขายทำไปด่าไป  รับได้อันนี้ รับได้       แต่ ถ้าไปกิน มื้อนึงตั้งหลายบาท  แล้วเจ้าของร้านงกขนาดว่า ตั้งเก้าอี้แขกให้หลังชนกัน เวลาจะลุกที ต้องเหลียวหลังแลหน้าให้ดี  อันนี้ไม่ไหว จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หรือ ว่า ตอนแรก ก็ใช้ของดี สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่นิยมว่า ใจถึงกล้าใช้ของดี  ทำให้คนกินรู้สึกว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป  แล้ว ก็ ค่อย ๆ  แอบลดคุณภาพลง  จนหลาย ๆ ที  กลายเป็นว่า  การไปกิน นี่เหมือนไปรอรับส่วนบุญที่เขาจะแจกจ่ายมาให้  อย่างนี้ต้องขอบอกว่า  ไม่ไป  เชอะ ไปทำไม จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลัง ๆ  นี่ ก็มีบุฟเฟ่ต์  มาแบบผสมผสานกันมาก ๆ ขึ้นไป  คนกินก็เยอะไปหมด  ต้องให้ความเป็นธรรมหน่อยนึงด้วยว่า  บางทีแขกที่ไปกินนี่ ก็ไม่ค่อยมีอารยธรรมเหมือนกัน   นินทาที่ตัวเองเคยเจอหน่อยนึงแล้วกัน    โดยเฉพาะพวกที่ชอบพาเด็กเล็กไปกิน ด้วยนี่ละ เห็นชัดเลย  อย่างแรกเลยนะ  ฉันว่าคนไทยไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง สิทธิของคนอื่นนะ  คิดว่า ฉันไปจ่ายเงิน ก็ทำอะไรก็ได้  พาเด็กไปแล้ว ก็มีการขนอัฎบริขารทั้งหลายทั้งปวง  ถึงขนาดว่า เอารถเด็กเล่นแบบว่าใช้แบตเตอรี่ ขับได้ ไปขับเล่นในห้องอาหารกันเลย ก็มี    โอ้  คิดดูแล้วกัน  คนเรา  คิดได้ไง แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:31:42 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 09:48:38 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อีกสักเรื่อง กันนะ  อันนี้หนักหน่อย  ใครอ่านตอนกินข้าวกินปลา ก็ ข้ามตอนนี้ไปก่อนแล้วกัน  เจอครอบครัวนึง พาลูกไปกินด้วย  แรก ๆ  ก็ไม่มีอะไร  กินไปก็วิ่งไป  เราก็ภาวนาไป (ภาวนาว่าอะไร ไม่บอก  อิอิ)  ทีนี้พอกินมากไป พร้อมกับวิ่งมากไป  เด็กก็  อ๊อก  (อาเจียร นะ  นึกภาพเองแล้วกัน)  เฮ่อ  บริกรต้องมาให้บริการเช็ดเก้าอี้  เปลี่ยนผ้า อุปกรณ์  เสร็จแล้ว คุณพ่อคุณแม่ที่แสนดี ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร  เปลี่ยนเสื้อผ้า เหมือนว่าเตรียมมาอย่างดี  แล้ว ก็ ให้คุณลูกไปตักอาหารมากินต่อไป  โอ้  ฝันร้ายจริง ๆ  เลิกภาวนาแล้ว จ่ายกะตังค์แล้วไปดีกว่า  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นมะ จะว่าไป เรื่องการกิน บฟ. นี่ ก็สนุกสนานดีเหมือนกัน  เอาละนะ  นักเรียน มาสรุปกันดู แล้วกัน  ว่า เราจะแบ่งบุฟเฟ่ต์เป็นกี่ประเภทกันดี  อิอิ 1. แบบนานาชาติ   2. แบบปัจเจกชาติ 3. แบบกลายพันธุ์   หลัง ๆ  เห็นว่ามีอีกหลายที่ ปรับปรุงลูกล่อลูกชนไปจน เริ่มงง  แต่จัดเข้ากลุ่มแล้ว ก็คงไม่พ้นแบบนี้นี่เอง แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:32:47 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอาละจ๊ะ  จบ บทเรียนแล้ว  คราวนี้รูปที่เอามาประกอบนี่ ก็ เป็นบุฟเฟ่ต์ แบบปัจเจกชาติ ที่นึง  จริง ๆ  ก็คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่เว้นไปนานไม่ได้ไป  ไปคราวนี้มา  เจอว่าราคาขึ้นไปพอควร  แต่ขึ้นแบบมีลูกเล่นหน่อย   คือ ราคาห้าร้อยกว่า จะได้ซุปแค่ กระดูหมูตุ๋นยาจีน หรือยังไง   ถ้าอยากได้ซุปดีหน่อย อย่างซุปหามฉลู  หรือ ซุปน้ำลายปักษา  ก็ ต้องจ่าย 700++  อะจ๊ะ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หลัง ๆ นี่  ฉันหาบุฟเฟ่ต์แบบสบาย ๆ  กินไม่ค่อยได้เลยจ๊ะ  ไปไหน ก็ เจอแต่คนแน่น ขนิดประมาณว่า แทบจะแย่งกันกิน  ที่นี่ก็เหมือนกัน  ถ้าไม่ได้จองไปก่อน อาจไม่มีที่นั่งกิน แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:33:38 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จานไฮไลท์ นี่เขาปรับปรุงวิธีการเสิรฟ เป็นแบบว่า  เขาจะจัดสรรให้ตามโต๊ะเลยอะจ๊ะ  เพื่อจะได้ทั่วถึงกัน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 14:40:52 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:34:03 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จริง ๆ  ก็ไม่เลวเลยนะ  ทำให้ไม่ต้องมานั่งเล็งว่า ตอนไหนเป็ดจะบินมา  อิอิ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:34:27 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เท่าที่ดู  เพราะ ตัวฉันเอง ที่ไปกินนี่ รับเจ้านี่มาจานเดียว ก็ เลิกแล้ว  แต่เห็นโต๊ะอื่น เขาก๊มีซ้ำให้ ถ้าไปบอกเชฟเขาไว้นะ  รสชาติ ก็ โอเค  นะ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:34:55 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ที่บอกว่าที่ นี่เป็นแบบปัจเจกชาติกลายพันธุ์  เพราะ อย่างรูปที่ฉันลงไว้จะเห็นว่า มีไลน์ให้ตัก อยู่พอสมควร  แล้วก็ยังมีเมนูให้เลือกสั่งได้  ตามใจ  ตั้งกะของนึ่ง  เท่าที่จำได้มี ประมาณ สิบกว่ายี่สิบรายการ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:35:32 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รสชาติ จะว่าไป ฉันว่าด้อยลงกว่า สมัยแรก ๆ  นะ  แต่ก็พอไหวนะ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แต่เจ้าเซี่ยวหลงเปานี่ อร่อย  เสิรฟมาร้อนได้ที่จริง ๆ ควันโฉ่มาเชียว  แถมน้ำซุปข้างในยังไม่รั่วซึมไปหมด จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 09:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้องเก๋านี่ รู้สึกแป้งจะแข็งไปนิดนึง  หรือว่า ทิ้งไว้นานก็ไม่รู้  ฉันเป็นประเภทขี้เกียจ สั่งเขาไปเลยรอบนึง หลายๆ  อย่าง  ขี้เกียจสั่งแล้วต้องรอจนเบื่อ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:36:13 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขนมจีบปูนี่  แทบจะมีแต่วิญญานปู จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สาหร่ายนี่ ก็ พอไหวนะ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อันนี้ขนมจีบหอยเชลล์  เห็นหอยมะจ๊ะ  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ฮะเก๋าสามสี่  สีเทคนิคคัลเล่อร์ จริง ๆ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ฝั๋นโกแต้จิ๋ว นี่ สารภาพว่า ไม่อร่อยเลย  เฮ่อ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลูกชิ้นกุ้งโสภณ ก็ พอใช้ได้   เออ แต่วันที่ไปนี่ดี  อย่างนึง  คนที่ไปกินนี่ไม่เจอที่ทำให้บรรยากาศเสีย  มีความสุขกับการกินดี จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้เผลอสั่งไป ข้าวเหนียวห่อใบบัว หาไส้แทบไม่เจอ  ชิม ๆ  ดู  พอเป็นบุญกริยาก็พอ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แล้ว ก็มีเมนูพวกของทอด  จำได้ว่า มีอีกสักเกือบสิบอย่างเหมือนกัน  เริ่มจากเผือกทอดจ๊ะ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ฟองเต้าหู้ทอดนี่  ชัดเจนเลยว่า เดี๋ยวนี้ไม่อร่อยเลย จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กรรเชียงปูชุบแป้งทอด  ก็  หาปูแทบไม่เจอ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขนมผักกาด  คิดถึงฝีมือแม่คุณวี  (อ้อ คุณวี ถ้าเข้ามาอ่าน  ส่งหลังไมค์ให้ไม่ได้ นะจ๊ะ ) จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แต่ ไอติมชาเขียว อร่อยดี จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อีกอันเป็นไอติมข้าวโพด  พอไหวนะ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 48 11:37:42 จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กินผลไม้ก้นหน่อยแล้วกัน  นะจ๊ะ  จะได้ช่วยย่อย จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 บอกลา ด้วยลูกโป่งนี่แล้ว กัน  ไว้ว่าง ๆ จะมานินทาเรื่อง บุฟเฟ่ต์ต่อ  อิอิ  สวัสดีครับ  อิอิ จาก จิงโจ้เจ้าเก่า  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 10:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แหงะ ที่ไหนหรอคะเนี่ย ราคาเปงไงบ้าง วันนี้จะไปเลย อิอิ . . จากคุณ : yEnZ - [ 29 ส.ค. 48 11:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จดเลคเชอร์เสร็จก็หิวพอดีเลยค่ะ จากคุณ : ลงชื่อ....ขิ่ม - [ 29 ส.ค. 48 13:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เดี๋ยวนี้อะไรก็เป็น บฟ ได้นะค้า..ไอติม ช็อคกาแลต เค้ก ฯลฯ ก็ บฟ ได้หมด โครงการ บฟ รอบเมรุของใครบางคนเป็นไงมั่งแล้วน้อ.. จากคุณ : น้ำเขียวโซดาหวานซ่า..ชื่นใจ - [ 29 ส.ค. 48 13:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หนุกดีค่ะเอาอีก เอาอีก อิ อิ ทำไมบอกว่าอาหารไม่ค่อยอร่อยล่ะ คนดูอึดอัดแย่ (ได้แต่นั่งกลืนน้ำลายอ่ะ) ดูแต่ภาพสวยทุกอย่างเลย หรือว่าสวยแต่รูปกินไม่อร่อยอิ อิ จากคุณ : แก้ว (geao) - [ 29 ส.ค. 48 16:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ของดูเหมือนสวยๆนี่ .. เชื่อใจไม่ได้ใช่มั้ยคะ จากคุณ : สัมปันนี - [ 29 ส.ค. 48 19:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โห จดหมายมาแต่หัววัน แถมมีสาระอีกด้วย รูปสวยค่ะ อร่อยไม่อร่อยมณีไม่สน ฮิฮิ เพราะถึงไงก็ไปกินไม่ได้อยู่แล้ว จากคุณ : ~มณีลัลลา~ - [ 29 ส.ค. 48 19:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาตอบคำถามหน่อยนึงนะครับ   ที่เอารูปมาลงคราวนี้ เป็นห้องอาหารจีน เซี่ยงไฮ้ 38  อยู่ที่โรงแรมโซฟิเทล สีลมครับ  ราคา ถ้ารับเป็นซุปหูฉลาม ก็ 700++  ถ้าไม่ก็ ประมาณ ห้าร้อยกว่า อะครับ จากคุณ : jojo02 - [ 29 ส.ค. 48 21:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 งื๊อออออออออ หิว จากคุณ : jengly - [ 29 ส.ค. 48 21:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คราวหน้าจะพาไปกินที่ไหนอีกค่ะ รอค่ะ อิ อิ จากคุณ : แก้ว (geao) - [ 29 ส.ค. 48 22:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แหม...ตั้งใจว่าจะหลังไมค์ถามพี่อีก(แล้ว) ถึงห้องนี้อยู่พอดี ขอทึกทักเองว่า คิดปุ๊ป พี่ก็ไปทานมาให้อิ่มปั๊ป ดีจังเดี๋ยวไปเรียกน้าพุ้ยมาดูว่านำลายไหลไหม หุ หุ หุ คิดถึงพี่jojoหน่อย  อร่อยกันบาน อย่ารำคาญนะพี่นะ จากคุณ : เจ๊แหนมกะน้าพุ้ย - [ 30 ส.ค. 48 01:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ จากคุณ : maebeaja - [ 30 ส.ค. 48 08:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โห.. เฮียโจ้ กระทู้นี้คำอธิบายยาวววววว ผิดกับที่เคยเห็น ติดตาม.. รูปก็สวยอ่านเพลินดี อ่ะ ชอบๆ จากคุณ : นาย เหลือง - [ 30 ส.ค. 48 17:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โอยยย..น่าหม่ำทั้งนั้นเลยค่ะ จากคุณ : ป้าออน - [ 30 ส.ค. 48 19:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาจดๆค่ะ เอาไว้ อีกไม่นานคงได้ งัดเอามาใช้สักที ^^ จากคุณ : Syrup On Ice - [ 31 ส.ค. 48 21:21:26 ]