CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Buffet Diary...ตอน....ศึกชิงตับห่านและปูอลาสก้า--บุฟเฟต์มื้อเย็น..ห้องมาริออตคาเฟ่.. โรงแรม JW สุขุมวิท ....(12 กย 48)

    ระยะหลังมานี้ มาริออตคาเฟ่ แห่ง JW สุขุมวิท กลายสภาพเป็นบุฟเฟต์มหาชนไม่แพ้แลนด์มาร์คไปแล้ว
    ผู้คนแน่นขนัดยัดแย่ง   หากไม่จองล่วงหน้านานวัน
    ยากจะได้กิน
    นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดี

    มีสิ่งใดเล่า ที่ดึงดูดทัพนักบุฟเฟต์มาเพียงนี้  
    ไฉนมาริออตคาเฟ่ เปลี่ยนสภาพจากที่สงบไปเป็นสมรภูมิเลือดไปได้

    อู๋ปังจู้ เข้าใจว่า มีสาเหตุอย่างน้อยสองประการ

    ประการแรก  บัตรอันทรงคุณค่า

    โดยปกติแล้วโรงแรม หากจะทำโปรโมชั่นกับบัตรเครดิตให้ลดราคากินบุฟเฟต์ ก็จะทำเพียงประมาณ 10-20% เป็นอย่างมาก เพราะว่า 50% นั้นจะเก็บไว้ให้สำหรับบัตรสมาชิกโรงแรมซึ่งก็ขายกันหลายพันต่อปี  

    แต่กาลเวลาผันผ่าน ทุกสิ่งก็ผันแปรไป  
    ทอดตาในวงการบุฟเฟต์ตอนนี้ อย่างน้อย พบเห็นสองที่ คือเน็กซ์ทู ที่แชงกรีลา ในวันจันทร์ถึงพุธ โปรโมชั่นกับบัตรยี่ห้อหนึ่ง ลดถึง 50%  ( แต่กระนั้น ยังคงเกรงใจเก็บเย็นวันศุกร์เสาร์ ซึ่งเป็นซีฟูดไนท์ ไว้ให้กับบัตรเมมเบอร์เท่านั้น )


    JW ทำการใหญ่กว่า  โปรโมชั่นกับบัตรยี่ห้อหนึ่ง ลด 50% โดยไม่จำกัดว่าวันไหน มื้อไหน  (เจ้าของบัตรกินฟรี  อย่างเช่น ถ้ามากัน 4 คน คนที่จ่ายด้วยบัตรนั้นก็ฟรี แต่ที่เหลือจ่ายเต็ม)


    นอกจากนี้ การขายบัตรเมมเบอร์ของ JW เอง ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง (พอๆกันเชอราตันละแวกเดียวกัน ซึ่งก็กลายเป็นมหาชนเช่นกัน)



    ประการที่สอง  
    JW  คล้ายดั่งบรรลุสัจธรรม เข้าใจว่า
    สิ่งมีคุณค่า ที่ผู้คนต่างแลกด้วยชีวิต ช่วงชิงมา คือสิ่งใด
     
    .....นักบุฟเฟต์เช่นกัน   มีบางสิ่ง ที่หากปล่อยลงในไลน์แล้ว ย่อมเป็นเป้าหมายเข่นฆ่ากวาดล้างให้สิ้นซาก
    ไม่ว่า นักบุฟเฟต์จากค่ายสำนักไหน อยู่แสนไกลเพียงใด หากได้ข่าวมีสิ่งเหล่านี้
    ... ล้วนมุ่งมาช่วงชิง

    ...  สิ่งเหล่านั้น JW  นำมาลงอย่างน้อย สอง ประการ

    ....หนึ่งคือ ตับห่านอ้วน หรือ ฟัวกราส์ / ฟอ กราส์ (FOIE GRAS) หรือจะอ่านอะไรก็ช่างเหอะ  เจ้าตับห่านนี้ แลนด์มาร์คในมื้อซันเดย์บรันช์ ก็งัดขึ้นมาต่อสู้เช่นกัน แต่ยังไม่อาจต้านทานกระบวนท่าของ JW ที่นำอาวุธนี้ออกสมรภูมิในทุกมื้อเย็น ไม่ต้องรอวันอาทิตย์เพียงวันเดียว


    ....สองคือ ปูอลาสก้า  ปูอลาสก้ายังคงเป็นอาวุธลับของ JW ที่โรงเตี๊ยมสามแห่งใหญ่ในถนนเดียวกันยังไม่อาจต้านทาน


    นอกจากสองอย่างนี้ ยังมีสิ่งอื่น เช่น ยำสาหร่ายใส่ถาดใหญ่ให้กวาดต้อนกันได้โดยไม่ต้องแบ่งใส่ถ้วยไหว้เจ้า  หรือมุมอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งทาโกะ ปลาไหลย่าง ครบถ้วน

    ...แต่บรรดาของเหล่านี้ หากนำมาวางเทียบเปรียบกับสองสิ่งดังว่าแล้ว  ไฉนจะเทียบเท่าได้


    ***


    เมื่อวานเราสบโอกาสมีสหายผู้ใช้บัตรเครดิตดังกล่าวส่งเทียบด่วนมาในวานนี้ จึงรีบรุดทิ้งสิ่งที่ยังคั่งค้าง ไปบุกชิงตับห่านตามกระแส
    ...สี่คน กับบัตรเครดิตสองใบ ใช้วิธีแยกเป็นสองโต๊ะ (ต้องบัตรเครดิตหนึ่งใบต่อโต๊ะ)   เกือบทุกโต๊ะล้วนมีชาวยุทธ์จับจองทั้งนั้น หากมิได้จองมาก่อน แม้แต่ที่ยืนกินก็จะไม่มี

    ****


    เราพุ่งปราดไปยังซุ้มซีฟูด
    เพื่อช่วงชิงหนึ่งในสองสิ่งวิเศษมาทันที  

    การพุ่งไปครั้งนี้ได้ข้าม กุ้งแม่น้ำเย็น กุ้งตัวเล็กเย็น ที่บรรจงแกะเปลือกไว้  กระทั่งกั้งเย็น ก็ข้ามไปเสียสิ้น

    ....จริงทีเดียว....ของเหล่านี้แม้ทรงคุณค่า แต่เป็นเพราะของวิเศษสองสิ่งไม่ใช่หรือที่กระชากใจคนมากมายมา ณ ที่นี้

    คนเรามักทอดทิ้งสิ่งมีคุณค่าไป
    เพียงเพราะว่ามีอีกสิ่งที่คุณค่าสูงกว่า
    ธรรมชาติผู้คนไฉนก็เป็นเช่นนี้


    ...ปูอลาสก้านั้น
    ใช้วิธีเสริฟเดิมเช่นที่เคยพบในหลายเดือนก่อน  
    คือแบ่งใส่ถ้วยแบบเครื่องเซ่นไหว้เจ้า ตั้งเรียงไว้ตรงมุมซีฟูดด้านขวาของห้อง
    ... หนึ่งถ้วย หนึ่งปูชิ้นใหญ่
    ...หนึ่งถ้วย สองขาปูชิ้นย่อมลง
    ... วางเรียงรายสลับกัน  
    มีสาหร่ายญี่ปุ่นสีเขียวโปะเสริมบารมีในถ้วยศักดิ์สิทธิ์นั้น


    ถ้วยเหล่านี้ ถูกบริกรนำขึ้นแท่นเซ่นสังเวย
    ประมาณครั้งละ 10-15 ถ้วย
     บรรดาเทพบุฟเฟต์ เข้ามารับเครื่องเซ่นรวดเร็วมาก
    ชั่วมิทันได้จุดธูป
     10-15 ถ้วยก็หายไปไร้รอย


    เรากวาดต้อนเครื่องเซ่นได้เพียง 2 ถ้วยในยกแรก
    ด้วยว่ากว่าจะกระเถิบตัวฝ่าฝูงชนหน้าซุ้มเข้าไปนั้น
    มันก็เหลือเพียง 2 ถ้วยนั่นเอง  
     2 ถ้วย ย่อมดีกว่าศูนย์ถ้วย ในยกแรกนี้


    ฝูงชนหน้าซุ้มซีฟูด เปรียบไปคล้ายท้ายแถวรถที่ติดยาวเหยียดตรงแยกอโศกที่เข้ามายิ่งนัก
    ... ผิดกันประการหนึ่ง  
    ที่นี่ ไม่มีไฟเขียวไฟแดง
    หรือเจ้าหน้าที่ใดมาสกัดจัดระเบียบทั้งสิ้น
     ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ  
    ....ธรรมชาติที่บางครั้งโหดร้ายยิ่งนัก


    หลังจากกลับมาตั้งหลัก เราพบว่า บริกรนำถาดเครื่องเซ่นอีกชุดมาแล้ว จึงรีบขยับร่างเบียดผู้คนตามไปอีกครั้ง


    ชาวยุทธ์เริ่มฟาดฟันกันหนักหน่วง หลังจากพบว่า มีถ้วยเปล่าพร้อมสาหร่ายกลิ้งอยู่ตรงไลน์ซีฟูด  
    โอว บางท่านคงใช้วิชาหยิบปูจากถ้วยใส่จานตนเองให้ได้หลายชิ้นแล้วทิ้งซากถ้วยไว้คาไลน์

    ผู้หนึ่งใช้วิชาดัชนียื่นสองนิ้วแทรกฝูงชนมาฉกถ้วยไปได้แม่นยำมาก เราเหลือบตาดูตาม พบว่าสองนิ้วประคองถ้วยสามารถแทรกกลับไปในรอยเดิมที่ฝ่าเข้ามาได้โดยไม่หก
    แม้สักชิ้น


    ตัวเราเกือบเข้าไปประชิดไลน์เครื่องเซ่นแล้ว
    ทันใดนั้นมีอีกหลายมือเอื้อมคว้าเข้ามา
    ..  ว่ากันว่า ชาวยุทธ์มากมายชำนาญวิชาลอกเลียนแบบยิ่ง..
    หากมีผู้ใดใช้วิชาฝ่ามือยาว อีกหลายคนย่อมใช้ตาม
    ...เราตัดสินใจถอยหนึ่งก้าวรักษาชีพ หยิบคีมคีบกุ้งเย็นแทงข้ามเข้าไปบ้าง ฉกคีบขอบถ้วยมาได้ถ้วยหนึ่งแล้วถอนกำลังออกไปทันที


    ตัดสินใจย้ายสมรภูมิไปบุกฐานตับห่านก่อน

    หากมองไกลออกมาเหมือนมุมมองของนก จะพบว่า ผู้คนที่เบียดกันทั่วไลน์ จะกระจุกตัวหนาแน่นที่สุดตรงซีฟูดและหน้าป้อมตับห่านนั่นเอง

    ผู้ใดจะสังเกตเห็นไลน์สลัดบ้าง
    ไลน์สลัดของที่นี่ก็มิใช่ขี้ริ้ว มีผักน่ารักอย่างร็อคเก็ต กรีนโอค เรดโอค ครบถ้วน  ทั้งน้ำสลัด honey mustard seed เล่า ก็แปลกลิ้นไม่น้อย

    ซุ้มอาหารหลักก็ไม่ใช่ซุ้มร้าง
    นั่นคงไม่ใช่เพราะ ผัดซีฟูดรวมมิตร lamb chop , ไก่ซอสมะนาว , serloin steak , และอาหารไทยแปลกๆอย่าง แซลมอนแกงเขียวหวาน  จะดึงดูดนักบุฟเฟต์ไปได้
    ...   แต่เราว่าเป็นเพียงเพราะ หน้าป้อมตับห่าน กับหน้าฐานปูอลาสก้า มันแน่นจนไม่อาจขยับตัวได้แล้ว
    นักบุฟเฟต์จำต้องถอยออกมาหาสิ่งอื่นกินประทังหิวไปพลาง หาไม่แล้วคงต้องสิ้นชีวิตไปก่อนถึงของวิเศษเป้าหมาย



    ****

    ฟัวกราส์ทรงค่า

    ****

    ปราการด่านนี้แน่นหนามาก
    ชาวยุทธ์ไม่อาจเจาะเข้าไปได้โดยง่าย

    เคาท์เตอร์มีอาหารเรียงรายไว้สี่ทิศ ตรงกลางมีบริกรหลายคนอาวุธครบมือ ทั้งตะหลิว มีด หลายไซส์

    ....บริกรด้านฐานทิศตะวันออก เฝ้าระวัง meat carving ซึ่งวานนี้เป็นปลากระพงแดงย่างเกลือ  lamb rack  

    บริกรด้านฐานทิศเหนือ เฝ้าระวังมุมญี่ปุ่น ซึ่งมีทาโกะ ซูชิ แซลมอนดิบ ทูน่าดิบ และยำ สลัดแบบญี่ปุ่นอีกหลายชนิด  

    บริกรฐานทิศใต้และตะวันตก รับศึกหนักที่สุด โดยด้านหน้าซึ่งเราสมมุติเป็นทิศใต้นี้ ต้องเฝ้าคุมซุ้มพาสต้า พร้อมทั้งเตากริลล์ตับห่าน

         ระบบการแจกจ่ายตับห่านของห้องมาริออตคาเฟ่
    เป็นแบบ กึ่งทำให้ กึ่งหยิบเอง

    ตับห่านสดถูกวางโชว์ไว้ในถาดขาวใหญ่มีพลาสติกห่อดูสะอาดตา  บริกรจะนำตับห่านไปกริลล์บนกะทะและชิ้นที่สำเร็จแล้วจะถูกนำมาวางทางหน้าเคาท์เตอร์ทิศตะวันตก   ซึ่งจะมีจานพร้อมผักสลัดจัดประดับไว้  
    และนำตับสองชิ้น วางลงในจานนั้น

    มีซอสราดสองชนิด คือซอสอย่างเกรวี่ซอส แล้วอีกชนิดคล้ายซีอิ้ว เป็นซอสเปรี้ยว

    ตับห่านสำเร็จเหล่านั้นจะเป็นของผู้ใด ช่วงชิงมาได้อย่างไร ?
    ยากจะตอบ
    ...เพราะเป็นได้หลายกรณี แล้วแต่สถานการณ์
    ...  อาจมีเจ้าของจับจองไว้ก่อน
    หรืออาจหยิบไปเองได้เลย  ขึ้นอยู่กับบริกรที่เฝ้าคุมนั้น


    เราเห็นตับห่านสำเร็จวางไว้ประมาณ 7 จาน ในขณะที่บริกรกำลังกริลล์ตับใหม่อีกกะทะ  แต่กะประมาณจากจำนวนคนที่ดาอยู่หน้าเคาท์เตอร์คาดว่าคงไปไม่ถึงแน่แท้  และจริงดังคาด 7 จานหมดสิ้นไปรวดเร็ว  ....

    สถานการณ์ไม่ต่างจากรถจอดรอไฟแดงคันที่ 20 มองเห็น 5 คันแรกเท่านั้นที่หลุดรอดออกไปได้ในจังหวะไฟเขียวอันแสนสั้นย่านสุขุมวิทยามหกโมงเย็น

    ....   แม้ผู้ที่แย่งชิงได้แล้ว  ก็ยากนักที่จะกลับตัวออกมาได้ ....สีหน้ายินดียิ่งของนักบุฟเฟต์ที่ชิงของวิเศษมาได้ดูเครียดลงยามที่กระเถิบเบียดตัวออกมาจากสมรภูมิ ...
    บางคนชูสองจานไว้ระดับอก บางคนชูสูงกว่านั้น  เพื่อให้ของวิเศษหลุดรอดกลับไปถึงโต๊ะจงได้


    บางคนคิดเพียงการช่วงชิง
    หลงลืมคิดถึงผลหลังจากช่วงชิงได้มา
    ....การรักษาสิ่งที่ชิงมาได้ คล้ายยากกว่าการช่วงชิงมากนัก


    เราพยายามจะสั่งตับห่านแบบสุกมากไว้สักสองชิ้น แต่สถานการณ์ไม่อำนวยแน่แท้  จำต้องกินตามมีตามเกิด หยิบจานไหนได้ต้องเอาจานนั้นทันที ก่อนไม่มีจังหวะต่อไป ....

    เวลาราวยี่สิบนาที กับปูสามสี่ถ้วย และตับห่านสองจานสี่ชิ้น ผ่านไปอย่างยากลำบากนัก


    เรากลับมาทิ้งตัวที่โต๊ะอย่างเหนื่อยยาก
    มองตับห่านไหม้นอกเละในอย่างเข้าใจชีวิตในอีกมุมหนึ่ง
    สภาพสังขารอู๋ปังจู้คงอ่อนล้าเกินกว่าการแย่งชิงแล้ว
    คงเพราะเหตุนี้เองที่ระยะหลังเราวนเวียนอยู่ในบุฟเฟต์เดิมๆสองสามแห่ง ที่แม้จะไม่ดีมากและไม่คุ้มไปบ้าง
    เพียงเพราะไม่อยากจะแก่งแย่งสุดชีวิตอีกต่อไป  
     การแข่งขันต่อสู้ สำหรับหลายคนแม้หอมหวาน แต่สำหรับอีกบางคน เป็นน่าเหนื่อยหน่ายเหลือเกิน


    เราค่อยๆเล็มๆลิ้มรสตับห่านซึ่งจะมาจากเยรูซาเล็ม หรือจากฝรั่งเศสก็ไม่ทราบได้  ครั้นจะถามสถาพการณ์วันนี้ก็ไม่เอื้ออำนวยให้ถามเด็ดขาด


    ปูอลาสก้าสมกับมาจากแดนหนาว
    ในถาดหลังๆที่ยกมาเติมนั้น ถึงกับมีเกล็ดหิมะเย็นเยือกอยู่ในเนื้อ
    เกร็ดน้ำแข็งที่ผสานแทรกในเนื้อปูช่วยบรรเทาความเค็มของปูที่นี่ไปได้บ้าง ... ความรู้สึกคล้ายนักบุฟเฟต์ผู้คุ้ยปูชิ้นสุดท้ายได้จากสุดลึกของช่องฟรีซแล้วกัดกินด้วยความหิวโหย


    ***********

    ปล 1
    ช่วงนี้ไม่ค่อยได้โพสต์ และก็คงเว้นระยะความสม่ำเสมอในการโพสต์ไปอีกพักหนึ่ง จนกว่าจะสบโอกาสมาเล่นกระทู้ตามปกติต่อไป  

    ปล 2
    โปรโมชั่น ที่ JW ตอนนี้ลดกับบัตร AMEX สำหรับผู้ถือบัตรฟรี  ( เช่น  ถ้ามาสี่คน มีบัตรหนึ่งคน ก็จ่ายสาม
    /  ถ้ามาสี่คน มีบัตรสองคน ต้องแยกเป็นสองโต๊ะ เพราะให้ใช้บัตรหนึ่งใบต่อโต๊ะ
    / แน่นอน เราเดาได้ว่า เดี๋ยวต้องมีผู้ถามว่า
    ถ้าผู้ถือบัตรมาคนเดียวจะฟรีไปเลยหรือไม่
     รร ตอบแล้วว่าต้องมาอย่างต่ำสองคน )

    ตับห่านและปูอลาสก้า ยังคงนำมาเซ่นสรวงต่อเทพบุฟเฟต์ทั้งหลายต่อไป ในทุกมื้อเย็น ราคาปกติต่อหัว 950++ (บวกแล้ว รวมน้ำขวดเปล่าแล้ว จะตกประมาณคนละ 1271 นี่คือราคาปกติ)
    ในขณะที่โปรโมชั่นดังกล่าวมีต่อไปถึงสิ้นตุลานี้

    แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 48 13:37:02

    แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 48 13:30:52

    จากคุณ : อู๋ปังจู้ - [ 13 ก.ย. 48 13:29:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป