ตัดตอน สูตรของอาจารย์ พลศรี คชาชีวะ มาฝากครับ
สูตรสลัดน้ำใส หรือสลัดฝรั่งเศส
ส่วนผสม
น้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ 1/2 ถ้วย (หรือจะใช้น้ำส้มสายชูหมักก็ได้)
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
มัสตาร์ดผง 1/2 ช้อนชา
น้ำมันสลัด (น้ำมันมะกอก) 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ ใส่หม้อตั้งไฟคนให้ละลาย รอจนเย็น จึงใส่น้ำมันสลัดคนเร็วๆ ใส่พริกไทยป่น และมัสตาร์ด
แต่บางรายก็เอาส่วนผสมทุกอย่างใส่ในขวดแก้ว แล้วเขย่าๆ จนเข้ากันก็ใช้ได้
สลัดน้ำใสนี้ให้พลังงาน 95 แคลอรี ต่อ 1 ช้อนโต๊ะ
ควรจะมีความรู้ด้วยว่า น้ำมันสลัดนั้นจะใช้น้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย หรือน้ำมันดอกทานตะวัน แบบในบ้านเราทำขายก็ได้ แต่พวกฝรั่งเขาออกจะเชื่อถือ น้ำมันมะกอกเอามากๆ เขาบอกว่า น้ำมันมะกอกชนิดที่เรียกว่า extra virgin oil มีความหอมตามธรรมชาติ ไม่เหม็นหืนง่าย แต่ราคาออกจะสูงสักหน่อย ถ้าคิดจะขายอาหารชั้นดี ได้ราคาแพงๆ ก็น่าจะคิดเรื่องนี้
สลัดน้ำใสที่แนะให้คุณทำนี้ คุณจะเพิ่มมัสตาร์ด หรือเพิ่มพริกไทยดำป่น หรือจะเติม ออริกาโน กระเทียมเข้าไปก็จะขายเป็นอิตาเลี่ยน เดรสซิ่ง ไป แต่น้ำสลัดฝรั่งเศสแท้ๆ เขาไม่ใส่น้ำตาลครับ เอาเปรี้ยวเข้าว่า แต่อาจจะไม่ถูกใจคนไทย ผมว่าแล้วแต่คุณจะตัดสินใจ จะเพิ่มอะไรที่ว่าให้ถูกใจคนกินยังไง ก็ทำได้ แต่ข้อสำคัญต้องได้คลุกเคล้ากับผักสดๆ เขียวๆ กรอบๆ จะเข้ากันดี หรือจะกินร่วมกับสลัดเนื้อทอด หมูทอด ไก่อบ ก็ฮ้อแร่ด ทั้งนั้น
ทีนี้ ต่อมาก็สลัดน้ำข้น หรือ Mayonnaise ตามประวัติเขาเล่าว่า เจ้าน้ำสลัดที่ว่านี้เกิดขึ้นในงานฉลองชัยชนะของฝรั่งเศส นำโดย the Duc de Richelieu เอาชนะอังกฤษได้ที่เมืองท่า Port Mahon ในปี 1756 ในงานฉลองคราวนี้ จึงต้องมีอาหารอะไรพิเศษๆ กันสักหน่อย เชฟส่วนตัวของท่านจึงคิดค้นขึ้น โดยใช้น้ำมันมะกอกมาตีกับไข่แดงแทนครีม ซึ่งหาไม่ได้มาเป็นน้ำสลัด แล้วให้ชื่อน้ำสลัดนี้ เป็นการเยาะเย้ยอังกฤษว่า Mahonnaise แต่ต่อมา ตัว h ก็กลายมาเป็นตัว y ด้วยเหตุผลเพราะแสลงใจ หรือถนัดปาก ก็ไม่ทราบได้
น้ำสลัดน้ำข้นนี้ 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานถึง 130 แคลอรี แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันมะกอก และน้ำตาลทราย ไข่แดง ว่าใช้เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ผมสังเกตพบว่าน้ำสลัดน้ำข้นของฝรั่งเขาไม่ค่อยหวานครับ มีแต่พี่ไทยนี่แหละชอบแบบหวานๆ บางรายถึงกับใช้นมข้นเพิ่มเข้าให้
สลัดน้ำข้น หรือมายองเนส
ส่วนผสม
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
มัสตาร์ดผง 1 ช้อนชา
ไข่แดงไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมันสลัด 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. ผสมน้ำมะนาว เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทย มัสตาร์ด ให้เข้ากัน
2. ตีไข่แดงให้ขึ้นฟู ค่อยๆ ใส่น้ำมันสลัดทีละน้อย สลับกับน้ำมะนาวที่ผสมไว้ทำสลับจนหมด จะได้สลัดน้ำข้นที่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน สามารถทำแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 1 อาทิตย์ บางคนก็กลัวไข้หวัดนกในไข่หรือเหม็นคาวไข่ดิบ จะนำไปตุ๋นไฟอ่อนๆ คอยคนอย่าให้ไข่สุกเป็นเม็ด ก็ได้เหมือนกัน แต่รสชาติจะผิดไปจากเดิม คือมีรสฝาดๆ แฝงอยู่ครับ
น้ำสลัดต่อไปที่คุณควรจะทำให้เป็น เดี๋ยวจะเสียเหลี่ยมลูกกำนันหมด ก็คือ น้ำสลัดพันเกาะ หรือ Thousand island dressing ฟังดูตามชื่อ เราพานให้นึกถึงเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรเยอะแยะ ตั้งพันเกาะเรียงรายกันไป แต่ความจริงตามประวัติด้านอาหารเล่าว่า น้ำสลัดชนิดนี้เกิดขึ้นที่รีสอร์ตเล็กๆ ในเมือง Clayton เหนือกรุงนิวยอร์กขึ้นไป มีหมู่บ้านชาวประมงติดกับทะเลสาบออนตาริโอ มีผัวและเมียคู่หนึ่ง ผัวชื่อ George Lalonde.Jr. ส่วนเมียชื่อ Sophia เป็นคนพานักท่องเที่ยวล่องน้ำ ชมเกาะแก่งต่างๆ ที่คุยกว่าเยอะแยะจนนับไม่ถ้วน เลยเหมาเอาว่า พันเกาะ หลังพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันมาจนลิ้นห้อยแล้ว ยายเมียที่ชื่อโซเฟีย จึงคิดทำสลัดแปลกๆ ให้ลูกค้ากิน เกิดมีลูกค้าคนหนึ่งเป็นนักแสดงมีชื่อดังมากสมัยนั้น ราวศตวรรษที่ 20 ชื่อ May Irvin ได้มาชิมลิ้มรสสลัดนี้เข้า ถึงกับติดใจ เลยตั้งชื่อให้ว่า Thousand island dressing ตามสถานที่ท่องเที่ยว ต่อมาชาวโลกก็เริ่มรู้จักน้ำสลัดชนิดนี้ว่า กินกับอาหารทะเลพวกกุ้ง หอย ปู ปลา ได้เด็ดนัก เลยจำกันมา ทำต่อๆ มาจนแพร่หลาย
น้ำสลัดพันเกาะ
ส่วนผสม
ไข่ต้มสับ 2 ฟอง
ซอสวูสเตอร์เชียร์ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
กานพลูบด 1/4 ช้อนชา
มายองเนส 2 ถ้วย
แตงกวาดองสับ 1/4 ถ้วย
มะกอกดองสีดำสับ 1/4 ถ้วย
พริกหวานหั่นสี่เหลี่ยม 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่าง ตีให้เข้ากัน เก็บเข้าตู้เย็น เสิร์ฟกับผักสดหรืออาหารทะเลก็เส้นกันดีครับ
ความจริง สูตรน้ำสลัดพันเกาะนี้มีกันหลายตำรับมากมายจริงๆ สมชื่อพันเกาะ แต่ตำรับที่ผมแนะนำให้คุณทำนี้นัยว่าเป็นของแท้จากต้นกำเนิดครับ
ส่วนสลัดพันเกาะในไทย ก็มีอีกแบบหนึ่ง ตามลิ้นของพี่ไทย คือใช้มายองเนส 1 ถ้วย ผสมกับหอมหัวใหญ่สับ 3 ช้อนโต๊ะ ไข่แดงต้มสับ 2 ฟอง แตงกวาดองสับ 2 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ ตีให้เข้ากันก็อร่อยดีเหมือนกันครับ เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ ตามแบบไทยๆ แต่งชุดสากล
ถ้าไม่บอกน้ำสลัดอีกอย่าง เดี๋ยวจะว่าบอกไม่ครบครับ น้ำสลัดที่ว่านี้ชื่อเสียงโด่งดังมาก เรียกว่า " ซีซ่าร์สลัด" (Caesar salad) ใครกินก็นึกถึงจอมทัพซีซ่าร์แห่งกรุงโรม แต่ผิดถนัด ความจริงคนที่คิดน้ำสลัดชนิดนี้ขึ้นมา เป็นเจ้าของร้านอาหารอิตาเลี่ยนเล็กๆ ที่ Tijuana เม็กซิโก ในปี ค.ศ.1920 แกชื่อ Caesar Cardini แกได้คิดสลัดตำรับพิเศษ มีส่วนผสมของผักสลัด ปลาแอนโชวี่ หรือปลาร้าฝรั่งตัวเล็กๆ ไข่แดง น้ำมะนาว ขนมปังทอดสี่เหลี่ยมกลิ่นกระเทียม ฯลฯ จนคนกินติดอกติดใจ เลยเรียกชื่อสลัดชนิดนี้ตามชื่อแกครับ
ซีซ่าร์สลัด
ส่วนผสม
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
มายองเนส 3/4 ถ้วย
แอนโชวี่ 5 ตัว
เนยแข็งพาร์มีซาน ขูด 6 ช้อนโต๊ะ
ซอสวูสเตอร์เชียร์ 1 ช้อนชา
มัสตาร์ดผง 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทยดำบด 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืชหรือมะกอก 1/4 ถ้วย
ขนมปังหั่นสี่เหลี่ยม 4 ถ้วย
ผักกาดแก้วตามถนัด
วิธีทำ
1. ผสมกระเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ มายองเนส ปลาแอนโชวี่ 2 ตัว เนยแข็งพาร์มีซาน ขูด 2 ช้อนโต๊ะ วู้สเตอร์ซอส มัสตาร์ด น้ำมะนาว เกลือ พริกไทย เข้าด้วยกัน แช่เย็นไว้ก่อนเสิร์ฟ
2. เจียวกระเทียมที่เหลือกับน้ำมันจนหอม ตักกระเทียมออก แล้วเอาขนมปังลงทอดให้กรอบ เป็นขนมปังกลิ่นกระเทียม
3. ฉีกผักกาดแก้วเป็นชิ้นใหญ่ๆ ใส่ชาม ใส่น้ำสลัดแช่เย็นเคล้าให้ทั่ว ตักใส่ชามโรยเนยแข็งที่เหลือ ขนมปังทอด และปลาแอนโชวี่
4. ถ้าเป็นซีซ่าร์สลัดแบบเบาๆ เขาใช้ไข่แดงตีให้ขึ้น แล้วใส่เครื่อง ไม่ใส่มายองเนส แต่เพิ่มน้ำมะนาว และน้ำมันสลัด หรือบางสูตรที่เบาจริงๆ ไม่ใส่ไข่แดงด้วยซ้ำไปครับ
************************
คงพอจะได้ สาระ บ้างนะครับ..
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 48 12:32:50
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 48 12:32:38
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 48 11:39:03